ไทร์และวินนี่เฟรดต่างงุนงง คนรุ่นเก่าวัดสถานะของรถด้วยขนาดงั้นเหรอ? เฮเลนดูไม่แฮปปี้อย่างเห็นได้ชัด ไทร์ฉันบอกให้นายซื้อรถคันใหญ่ แล้วทำไมได้คันนี้แทน?พลัมเป่าเปลือกเมล็ดแตงโมลงบนพื้นก่อนที่จะสังเกตเห็นว่าโลโก้เบนซ์มีความคล้ายคลึงกับมิตซูบิชิ เธอขึ้นเสียงและเริ่มเยาะเย้ยอีกครั้ง “เฮเลน ลูกเขยของเธอใช้ได้จริง ๆ ดูโลโก้นั่นสิ รถของเรามีโลโก้ที่คล้ายกัน พวกมันทั้งสองมีสามง่าม แต่ดูของฉันสิ มันหนาเหมือนใบไผ่ ส่วนของเธอเป็นเหมือนเข็ม”ขณะนั้น ไทร์และวินนี่เฟรดที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกได้ถึงเส้นเลือดที่กำลังแข็งในตัวของพวกเขาเฮเลนกลับกระทืบเท้าด้วยความโกรธ “นายมันไร้ค่า แค่ทำให้มันถูกต้องมันยากหนักเหรอ? มันน่าขายขี้หน้าไหม! เฮเลนจากไปด้วยความโกรธ ขณะที่วินนี่เฟรดและไทร์วิ่งไล่ตามเธออย่างรวดเร็วพร้อมกับสีหน้าที่ยังงุนงงที่บ้าน เฮเลนโกรธอยู่นาน วินนี่เฟรดต้องการจะอธิบายให้เธอฟังแต่ถูกไทร์ห้ามไว้ ผ่านไปครู่หนึ่ง ความโกรธของเฮเลนสงบลง จากนั้นเธอเดินไปหาไทร์ “นี่ไทร์ ที่ฉันตะหวาดนายไปก่อนหน้านี้ นายอย่าเก็บมาใส่ใจเลย”ไทร์รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดว่าแม่ยายของเขาจะขอโทษเขาด้วยความเต็ม
ในสายตาของวินนี่เฟรด โจเซฟ ซี เป็นผู้อาวุโสที่มีความสามารถและกล้าหาญอยู่เสมอ นอกจากนี้ ในช่วงหกปีที่ผ่านมา ที่ตระกูลซีทั้งหมดไม่ว่าจะใกล้หรือไกลดูหมิ่นเธอ มีเพียงโจเซฟเท่านั้นที่มีคุณค่าต่อวินนี่เฟรด และให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเธออย่างมาก ดังนั้น โจเซฟจึงเป็นผู้อาวุโสที่วินนี่เฟรดนับถืออย่างมาก ตอนนี้โรงงานของโจเซฟใกล้จะล้มละลาย วินนี่เฟรดจึงไม่สามารถยืนดูอยู่เฉยๆ ได้“คุณปู่สี่ ฉันแน่ใจว่าคุณมาหาฉันเพราะคุณได้ยินมาว่าฉันรับผิดชอบการทำงานร่วมกันกับสมิธกรุ๊ป ใช่ไหม” "ใช่" โจเซฟพยักหน้า “วินนี่เฟรด ถ้าไม่ใช่เพราะว่าปู่ไม่มีที่อื่นให้หันไปหา ปู่ก็คงไม่กล้าที่จะมาหาเธอ โครงการที่เธอทำอยู่ตอนนี้ควรจะเกินสิบล้านทุกเดือนตามคำสั่งซื้อ เธอช่วยให้พื้นที่ส่วนเล็ก ๆ แก่โรงงานของฉันทำได้ไหม”วินนี่เฟรดเงียบไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าคุณปู่สี่ของเธอดูซีดเซียวแค่ไหน เธอจึงปวดใจ “คุณปู่สี่ ฉันไม่มีปัญหากับมันจริง ๆ แต่เรื่องนี้ยังต้องได้รับการอนุมัติจากคุณปู่ ทำไมคุณไม่ไปกับฉันเพื่อพบคุณปู่และคุยกับเขาเรื่องนี้ล่ะ เมื่อสองสามปีก่อน เมื่อครอบครัวของเรามีปัญหา ทั้งหมดต้องขอบคุณความเอื้ออาทรของคุณปู่
เรื่องของโจเซฟ ซี เป็นเพียงฉากเล็ก ๆ ที่สักพักก็ถูกลืม โรงงานของโจเซฟจะล้มละลายหรือไม่นั้นไม่มีใครสนใจ แม้ว่าวินนี่เฟรดต้องการช่วยเหลือโจเซฟจริง ๆ แต่เธอยังคงมองไม่เห็นหนทางที่จะช่วยเหลือเขา ซีกรุ๊ปไร้ความเห็นอกเห็นใจ ชีวิตการทำงานยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน วินนี่เฟรดทำงานหนักกว่าที่ผ่านมา โครงการชุดแรกได้ส่งมอบให้กับสมิธกรุ๊ป เป็นที่เรียบร้อย และสมิธกรุ๊ปก็รองรับเครื่องหมายการค้าอย่างถูกต้อง เพื่อการส่งออกสู่ตลาดเพื่อจำหน่ายผลการตอบรับนั้นยอดเยี่ยม ไม่ว่าคุณภาพหรือสไตล์จะเป็นอย่างไร ทุกอย่างได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดังคำกล่าวที่ว่า ก้าวแรกมักจะยากที่สุดเสมอ ด้วยการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม ต่อจากนี้ไปทุกอย่างจะเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้โครงการของวินนี่เฟรด ที่ดำเนินไปอย่างราบรื่น ไทร์ได้จัดโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารพิเศษในช่วงสุดสัปดาห์ แด่วันที่หน้าจดจำในตอนบ่ายของวันนั้น ครอบครัวที่มีสมาชิกทั้งห้าคนกำลังเพลิดเพลินกับอาหารกลางวัน บางทีอาจเป็นเพราะอารมณ์ดีของเธอ เฮเลนไม่ได้ดูถูกไทร์แล้ว แต่กลับชมเชยอาหารของเขาแทน พ่อตาของเขาถึงกับเปิดขวดไว
วินนี่เฟรดไม่มีโอกาสมากพอที่จะอธิบายความจริงจากการใส่ร้ายของอีธาน ชายคนนี้ใช้การลาออกเป็นข้ออ้างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อให้เปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบโครงการและไล่วินนี่เฟรดออกจากบริษัท ด้วยวิธีนี้ ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับวินนี่เฟรด เรื่องการจงใจนำเข้าผ้าคุณภาพต่ำเพื่อผลกำไรด้วยหลักฐานที่หนาแน่น มันคงยากสำหรับเธอที่จะอธิบายตัวเอง "ถูกต้อง คนแบบนี้ควรถูกไล่ออกจากบริษัท” “และข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นและคำตำหนิจากสมิธกรุ๊ป วินนี่เฟรดจะต้องเป็นคนรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” “ต่อให้พวกเขาต้องการส่งเธอเข้าคุกก็ตาม!” เจ้าหน้าที่บริหารของซีกรุ๊ปแสดงความคิดเห็น ไม่มีใครเข้าข้างวินนี่เฟรดและมีข้อข้องใจสำหรับปัญหานี้เลย วินนี่เฟรดรู้สึกหลงทาง คนพวกนี้เป็นใคร? คนพวกนี้จำนวนมากเป็นญาติสนิทของเธอ แต่ทำไมพวกเขาแต่ละคนต้องการให้เธอจบสิ้นมากขนาดนี้? “คุณปู่...” “อย่ามาเรียกฉันว่าปู่!” จอร์จขึ้นเสียง “โครงการนี้ไอริสจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราว วินนี่เฟรดกลับไปและไตร่ตรองเรื่องนี้ซะ หากสมิธกรุ๊ปต้องการฟ้องเธอขึ้นมาจริง ๆ และส่งเธอเข้าคุก เธอต้องโทษตัวเธอเอง ฉันไล่เธอออก!” การประชุมจบลง จอร์จเดินผ่านวินนี่เ
เพี้ยะ!...อีธานตบหน้าเฮเลนอย่างหนัก ทันใดนั้น ลายนิ้วมือห้านิ้วสีแดงเลือด ก็ปรากฏขึ้นที่แก้มของเธอเฮเลนตกตะลึง เธอไม่เคยคิดว่าอีธานจะโจมตีผู้หญิงอย่างเธอ “ไอ้สัตว์ร้าย นายรู้สึกผิดแล้วใช่ไหม? ฉันจะเอาคืนอย่างสาสม!” เมื่อพูดจบ เฮเลนก็รีบวิ่งเข้าหาอีธาน ราวกับว่าเธอบ้าคลั่งไปแล้วอย่างไรก็ตาม อีธานส่งยิ้มแปลก ๆให้เธอและก้าวถอยหลัง ข้างหลังเขา ทันใดนั้นชายร่างใหญ่สองคนก็ปรากฏตัวขึ้นผัวะ... ชายที่แข็งแกร่งคนหนึ่งเตะเข้าที่ท้องของเฮเลน เธอล้มลงด้วยอาการปวดเกร็งทันทีชายคนนั้นชี้มาที่เธอและด่าว่า “เธอมันอวดดี ไสหัวไปซะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าเธอ!”เฮเลนเริ่มรู้สึกกลัว ชายสองคนนี้ดูเหมือนพวกอันธพาล ซึ่งจริง ๆ แล้วพวกเขาก็เป็นอันธพาลอย่างที่คิด หลังจากที่อีธานรับสินบนของไอริสและใส่ร้ายวินนี่เฟรด เขารู้อยู่แล้วว่าจะมีคนมาที่บ้านของเขาเพื่อสร้างปัญหา ดังนั้นเขาจึงใช้เงินไปจ้างบอดี้การ์ดสองคนนี้ แน่นอน พวกเขาได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาทำงานคุ้มเงินอีธานจุดบุหรี่ที่อยู่ในมือและจ้องเฮเลนอย่างโอหังพร้อมยิ้ม “เธอคิดว่าเธอเป็นใตน ถึงมาที่นี่และประณามฉัน? ก็ได้ฉันจะบอกให้ว่า ฉันเป็นคนใส่ร้ายวินนี่เฟรด แ
ทั้งห้องประชุมเงียบลงในทันใด ทุกคนมองไปที่ประตู เพราะไทร์ที่เป็นดั่งจอมมาร อีธานจึงไม่กล้าเล่นตุกติกใด ๆ อีธานเดินไปหาจอร์จและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังทันที“ท่านประธาน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับมิสวินนี่เฟรด ไอริสเป็นคนบังคับให้ฉันทำแบบนี้ เธอต้องการใส่ร้ายมิสวินนี่เฟรด ฉันขอโทษที่ทำให้คุณผิดหวัง”ผู้สูงศักดิ์ทุกคนตกตะลึง แม้แต่จอร์จเองก็ยังมึนงง ถ้าสิ่งที่อีธานพูดเป็นความจริง ไอริสก็เป็นคนที่ชั่วร้ายมาก เธอจะไม่หยุดตราบใดที่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย แม้ว่าจะต้องสร้างความเสียหายให้กับบริษัทก็ตาม“อีธาน ลินช์ คุณได้ประโยชน์จากวินนี่เฟรดมากขนาดไหนถึงได้ใส่ร้ายฉันแบบนี้?” ไอริสเริ่มตื่นตระหนกแต่เธอก็ยังคงแก้ตัว “คุณปู่อย่าไปเชื่อเขา วินนี่เฟรดต้องซื้อเขาไปแล้วแน่ ๆ วินนี่เฟรดเป็นคนรับผิดชอบโครงการนี้ มันเกี่ยวอะไรกับฉัน อีธาน ฉันไม่เคยคิดว่าคุณจะเป็นคนเลวที่ดูดเลือดพวกเราเพื่อให้อาหารคนอื่น!”กลุ่มเจ้าหน้าที่ของซีกรุ๊ปเริ่มลังเลใจ ทั้งสองฝ่ายยืนยันคำกล่าวอ้างของตน แต่ไม่มีหลักฐานใด ๆ พวกเขาไม่สามารถรู้ได้ว่าใครถูกและใครผิด!วินนี่เฟรดรีบพูดขึ้นว่า“คุณปู่ ฉันไม่ได้ติดสินบนลุงลินซ์ สิ่งท
ทั้งห้องประชุมเงียบสงัด มันเงียบจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหมุดหล่น!ทันใดนั้นโทรศัพท์ของไทร์ก็ดังขึ้น หลังจากที่เขารับสายและนำขึ้นมาแนบหู แล้วเขาก็ยื่นโทรศัพท์ให้วินนี่เฟรดในวินาทีต่อมา วินนี่เฟรดงุนงง“สายจากท่านประธานของสมิธ” ไทร์พูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านประธานของสมิธ?” หัวใจทุกคนหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มไทร์ตั้งใจเปิดลำโพงไว้ในขณะที่วินนี่เฟรดนำโทรศัพท์มาแนบหูเธอและพูดด้วยน้ำเสียงประหม่า “สวัสดีค่ะ ท่านประธานสมิธ!”“มิสซี เราได้ยินเรื่องที่คุณออกจากซีกรุ๊ปแล้ว หลังจากการพิจารณาของเรา เราได้ข้อสรุปว่า ซีกรุ๊ปได้สร้างปัญหาที่ร้ายแรงด้านความประพฤติ ดังนั้นเราจะหยุดการติดต่อทางธุรกิจทั้งหมดกับซีกรุ๊ปทันที! ในขณะเดียวกัน เราชื่นชมในบุคลิกของคุณมาก มิสซี เราได้ยินมาว่าคุณจะเริ่มต้นบริษัทของคุณเองในเร็ว ๆ นี้ สมิธกรุ๊ปของเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมงานกับคุณต่อไปมิสซี! เราได้ร่างสัญญาแล้ว ดังนั้นคุณสามารถเข้ามาลงชื่อได้เลย!”วินนี่เฟรดมองหน้าไทร์ เธอสับสน และจิตใจของเธอก็เริ่มสบประหม่า นี่มันเกิดอะไรขึ้น? สมิธกรุ๊ปรู้ได้ยังไงว่าครอบครัวของฉันถูกไล่ออกจากซีกรุ๊ป แซคเคอรี่ สมิธ เป็นศาส
ยี่สิบล้าน! สำหรับตระกูลซีที่มีเพียงทรัพย์สินไม่ถึงร้อยล้าน ยี่สิบล้านจึงนับเป็นเงินก้อนใหญ่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรวบรวมเงินยี่สิบล้านในเวลาอันสั้นเช่นนี้ในขณะนั้น จอร์จดูเหมือนจะอยู่ได้อีกไม่นาน เมื่อไม่กี่วันก่อนซีกรุ๊ปนั้นมีชีวิตชีวามาก แต่ตอนนี้พวกเขาดิ่งลงสู่พื้นดินในระยะเวลาอันสั้นลิเลียนกล่าว “ทำไมเราไม่พาวินนี่เฟรดกลับมาล่ะ? ถ้าเธอกลับมา ความร่วมมือของเรากับสมิธกรุ๊ปก็จะกลับมาเช่นกัน!”“ไม่!” ไอริสที่เงียบอยู่นาน จู่ ๆ ก็ระเบิดเสียงออกมาทันที “ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะนังวินนี่เฟรดตัวร้ายนั่น เธอแค่อยากเห็นตระกูลซีของเราถูกทำลาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะไม่มีมาทางขอให้นังตัวร้ายนั่นกลับมาที่นี่ได้!”ตระกูลซีทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบงัน ถ้าเป็นเมื่อก่อน พวกเขาคงจะร่วมมือกับไอริสด่าวินนี่เฟรดอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่มีใครพูดต่อจากเธอ พวกเขาไม่ใช่คนงี่เง่า หลายคนคาดเดาบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ได้ อย่างไรก็ตาม ตระกูลซีถูกต้อนให้จนมุมแล้ว และคนที่สามารถจะช่วยพวกเขาให้ลุกขึ้นจากเถ้าถ่านนี้ได้ก็คือวินนี่เฟรดหรือไม่ก็ไอริสดังนั้น พวกเขาเหล่านี้จึงไม่กล้าล่วงเกินทั้งสองคน