“หยุดก่อน”
คำสั่งนั้นทำให้มือเล็กๆ ชะงัก และยืนตัวเกร็งรอการตำหนิหรือลงโทษจากเขา เพราะคิดว่ารังสิมันต์คงไม่พอใจกับการนวดของเธอ
“มานั่งนี่”
เขาออกคำสั่งพลางตบมือลงบนที่ว่างข้างตัว จันทริกาเดินไปนั่งตัวลีบลงบนโซฟาข้างๆ เขา แล้วหันไปมองเพื่อรอว่าเขาจะลงโทษยังไง ทว่ารังสิมันต์กลับทำในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง นั่นคือการโน้มตัวไปวางแก้ววิสกี้ที่โต๊ะหน้าโซฟา แล้วเอนตัวนอนหนุนตักเธออย่างรวดเร็ว
“คุณตะวัน!” จันทริกาอุทานออกมา แก้มนวลมีจุดสีแดงซ่านแต่งแต้มทันทีกับสิ่งที่เธอไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำ ก็เมื่อคืนเขาเพิ่งจะมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน พอมาวันนี้กลับมาทำกิริยาคล้ายสนิทชิดเชื้อกับเธอแบบชู้สาว ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย
“เสียงดังทำไม หนวกหู ฉันก็แค่อยากนอนให้เธอนวดสบายๆ”
“แต่แบบนี้จันทร์นวดไหล่ให้คุณไม่ได้นะคะ”
“นวดไหล่ไม่ได้ ก็นวดแขนนวดมือไปสิ ตอนนี้ฉันเมื่อยไปทั้งตัวแล้ว”
จันทริกาหน้าแดงก่ำกว่าเดิม ขณะก้มลงมองเขาพร้อมกับใช้มือเล็กๆ บีบนวดลงไปตามต้นแขน และสลับมานวดอีกข้างโดยไม่ยอมขยับลงไปนวดมือให้ตามที่คนออกคำสั่งบอก
“ทำไมไม่นวดมือ”
“จันทร์เอื้อมไม่ถึงค่ะ”
“ถ้างั้นฉันช่วย เธอจะได้ไม่ต้องเอื้อม”
ว่าแล้วรังสิมันต์ก็ยกแขนตัวเองพับขึ้น มือของเขาตอนนี้จึงลอยอยู่ใกล้ๆ กับหน้าอกของจันทริกา หญิงสาวรีบคว้ามือเขาไว้เพราะเกรงว่ารังสิมันต์จะทำอะไรรุ่มร่ามมากกว่านั้น
สัมผัสจากมือเล็กที่สัมผัสลงบนมือใหญ่ทำให้คนที่กำลังจะหลับตาพริ้มลงเพราะความสบายรู้สึกว่าหัวใจตัวเองแกว่งไหวเบาๆ มือที่บอบบางและน่าจะเคยนุ่มกว่านี้ มาบัดนี้เริ่มหยาบกระด้าง ซึ่งคงเป็นเพราะเธอทำงานหนักนั่นเอง ตาคมหลุบมองทั่วมือบางและแขนเล็กๆ นั้นอย่างไม่รู้ตัว แล้วก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นรอยพุพองสีน้ำตาลเป็นจุดเล็กๆ หลายจุดบนแขนของเธอ
“นั่นแขนไปโดนอะไรมา”
“โดนน้ำมันกระเด็นใส่เมื่อเช้าค่ะ”
“เธอนี่นะ” เขาเอ่ยคล้ายตำหนิ ก่อนจะลุกขึ้นจากการนอนหนุนตักของจันทริกาแล้วลุกไปจากห้องนั่งเล่น ทำเอาหญิงสาวมองตามอย่างงุนงงกับท่าทีของเขา
ไม่นานร่างสูงก็เดินกลับมาพร้อมกับหลอดยาในมือ เขาทรุดตัวนั่งลงข้างๆ จัดการบีบยาลงบนปลายนิ้วตัวเอง แล้วจับมือข้างที่ถูกน้ำมันกระเด็นใส่มา ก่อนจะจัดการทายาให้อย่างเบามือ โดยมีสายตาคู่สวยจ้องมองอย่างคิดไม่ถึง
“คราวหลังทำอะไรก็ระวังด้วย หรือว่าที่ลงทุนทำให้ตัวเองเจ็บแบบนี้ เพราะต้องการเรียกร้องความสนใจ” เขาพูดขึ้นหลังจากทายาให้เธอเสร็จแล้ว แต่คงยังจับมือเรียวบางนั้นไว้ไม่ยอมปล่อย
จันทริกาไม่พูดจาตอบโต้ แค่มองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนน้อยใจและทำท่าจะชักมือกลับ ทว่ารังสิมันต์ไม่ยอมปล่อยให้เธอทำเช่นนั้นได้ง่ายๆ
“ล้อเล่นน่า แค่นี้ทำงอนไปได้ เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์โกรธ ไม่มีสิทธิ์งอน และไม่มีสิทธิ์คิดอะไรกับฉัน”
“จันทร์ไม่ได้งอนค่ะ” เสียงหวานปนเศร้าเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากเงียบและใช้สายตาแทนคำพูดอยู่นาน
“แน่ใจ?” รังสิมันต์เลิกคิ้วขึ้นพลางจ้องมองตาคู่สวยอย่างจับพิรุธ ซึ่งเขาก็เห็นแต่ความเรียบเฉยในแววตานั้นจริงๆ ทำให้ออกจะหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกที่จันทริกาทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“ค่ะ”
“งั้นก็หึง”
“ไม่จริงค่ะ จันทร์ไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนั้นค่ะ” เพราะเมื่อครู่นี้เขาเพิ่งจะย้ำว่าเธอไม่มีสิทธิ์โกรธ ไม่มีสิทธิ์งอน และไม่มีสิทธิ์คิดอะไรกับเขา
“งั้นก็ดี แล้วที่ฉันอุตส่าห์ทายาให้เธอนี่ เธอจะตอบแทนฉันยังไง”
“ขอบคุณค่ะ” เสียงหวานเอ่ยนุ่มๆ อยากจะยกมือขึ้นไหว้ด้วยแต่เขาไม่ยอมปล่อยมือเธอเสียที
“ฉันไม่ต้องการคำขอบคุณ แต่ฉันต้องการแบบนี้”
แบบนี้ของรังสิมันต์ก็คือยกมือเรียวบางข้างที่เขาจับอยู่ขึ้นมาที่จมูกโด่งแล้วประทับจูบลงหนักๆ จากนั้นลำแขนแข็งแรงข้างที่ว่างก็ตวัดกอดเอวเล็ก รั้งให้เธอขยับเข้ามาชิดยิ่งกว่าเดิม ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะโน้มลงไปหาริมฝีปากสีหวานที่เขารู้ดีว่านุ่มแค่ไหน
“อย่าค่ะ...” จันทริการีบเอ่ยห้ามเมื่อรู้ว่ารังสิมันต์ต้องการอะไร
“เธอก็รู้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์ห้ามฉันจันทริกา” เขากระซิบเสียงพร่าชิดริมฝีปาก จากนั้นก็ประกบปากตัวเองลงบนเรียวปากของหญิงสาว แล้วเริ่มบดจูบอย่างเรียกร้องและเร่าร้อนทันที
จันทริกาแทบจะรับความเร่าร้อนนั้นไม่ไหว เขาระดมจูบเหมือนร้างราจากเรื่องพวกนี้ไปนาน ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเขาเพิ่งจูบและทำอะไรกับผู้หญิงอื่นมาหยกๆ
ความคิดนั้นทำให้จันทริกาสะบัดหน้าออก รังสิมันต์ที่กำลังเพลิดเพลินกับการจูบไม่ทันได้ระวังอะไร ปากนุ่มจึงเป็นอิสระอย่างง่ายดาย
“จันทริกา”
เขาเรียกชื่อเธอเสียงกระด้างขึ้นอย่างคนถูกขัดใจ ตาจ้องมาดุๆ ส่วนมือตอนนี้ขยับมาจับปลายคางของเธอไม่ให้หันหน้าหนีไปไหนอีก
“พอแล้วค่ะ”
“ยังไม่พอ นี่มันแค่เริ่มต้น”
“แต่จันทร์ไม่ต้องการ”
“บอกแล้วไงว่าเธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร ไม่ว่าเธอต้องการหรือไม่ต้องการก็ต้องตามใจฉัน เธอก็เล่นตัวแบบนี้ทุกครั้งนั่นละ แต่พอเวลาฉันทำจริงๆ ก็เห็นครางกระเส่าตลอด”
“คุณตะวัน!” จันทริกาเผลอเรียกชื่อเขาเสียงดังอย่างอับอาย
“ทำไม พูดความจริงแล้วรับไม่ได้หรือไง”
“ปล่อยจันทร์ค่ะ”
ร่างบางสะบัดตัวแรงเมื่อถูกพูดจาหยาบหยามใส่บ่อยๆ เช่นนั้น หากแต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกอ้อมแขนแข็งแรงกอดแน่นหนากว่าเดิม จนสุดท้ายเธอก็เป็นฝ่ายหยุดดิ้นไปเอง
บทที่ 41รถที่สมรรถสูงสมราคาแล่นฉิวเข้ามาในที่จอดประจำโดยใช้เวลาไม่นานนัก รังสิมันต์ก้าวลงจากรถแล้วสั่งให้จันทริกาเดินไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่ห้องล็อกเกอร์ ส่วนตัวเองตรงขึ้นไปยังห้องทำงานเพราะเมื่อวานนี้ทราบแล้วว่าห้องล็อกเกอร์อยู่ตรงไหน จันทริกาจึงไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่นั่นโดยไม่ต้องมีใครพาไป หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเธอได้รับมอบหมายให้ทำความสะอาดห้องน้ำที่ชั้นสามและชั้นสี่เช่นเดิม หญิงสาวพยายามมองหาคนในบ้านที่รังสิมันต์ให้มาทำงานที่นี่ ทว่าก็ไม่ได้พบใคร เพราะทุกคนอยู่ในแผนกอาหารสดกันหมด เธอจึงได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่มีโอกาสได้พูดคุยทักทายกับใครเลย ร่างเล็กบางที่กำลังหิ้วถังน้ำและไม้ถูพื้นเข้าไปห้องน้ำ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของรังสิมันต์อยู่แทบจะทุกย่างก้าว เพียงแต่วันนี้เขายืนมองอยู่ไกลๆ ไม่ได้เข้ามาคุมแจอยู่ข้างในเหมือนเมื่อวาน หลังจากที่เข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำชั้นสามเสร็จ จันทริกาถืออุปกรณ์ทั้งหมดออกมาด้านนอก เตรียมจะไปทำความสะอาดที่ห้องน้ำชั้นสี่ต่อ แต่เธอต้องหันหลังกลับไปมอง เมื่อมีใครบางคนเรียกชื่อเธออย่างคุ้นเคย
บทที่ 40เวลาเกือบสี่ทุ่ม กว่าที่รังสิมันต์กับปรัชญ์จะแยกย้ายกันกลับบ้าน แม้ปากบอกว่าจะไปดื่มเหล้าด้วยกัน แต่ต่างคนต่างก็ไม่ได้ดื่มหนักอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นคุยกันสัพเพเหระซะมากกว่า หรือถ้าให้พูดตรงๆ เรื่องดื่มเหล้ามันก็เป็นแค่ข้ออ้างสำหรับการออกไปเที่ยวเตร่ตามประสาผู้ชายโสดเท่านั้นออดี้สีเหลืองแล่นมาจอดที่หน้าบ้านอย่างคล่องตัว คนขับจัดการดับเครื่องดึงกุญแจออกแล้วเดินตรงเข้าไปในบ้านเลย โดยไม่ได้สนใจจะขับรถราคาแรงนั้นไปจอดในโรงรถแต่อย่างใด ด้านนอกไฟยังคงสว่างไสว ทว่าภายในบ้านไฟกลับถูกปิดเกือบทุกดวง ยกเว้นตรงบริเวณทางขึ้นบันไดชั้นสองเท่านั้นที่เปิดอยู่ร่างสูงก้าวขาไปยังบันไดเพื่อขึ้นห้อง ทว่าอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน หันหลังกลับแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนชั้นล่างแทนเขาหยิบกุญแจสำรองที่แอบเก็บไว้ติดตัวตลอดเวลาออกมา กำลังจะไขเข้าไปอย่างถือวิสาสะ แต่ก็ชะงักมือเอาไว้เมื่อได้ยินเสียงหวานแว่วดังออกมานอกห้องเบาๆ“นอนลงๆ เป็นเด็กว่าง่าย นอนได้แล้วเมสซี่ วันนี้จันทร์ง่วงมาก แล้วก็ไม่มีอะไรจะคุยให้เมสซี่ฟังด้วย ฝันดีนะ”แม้เสียงนั้นจะเล็ดลอดออกนอกห้องมาแค่แผ่วเบา แต่ด้วยบรรยากาศที่เงียบเชียบของบ้าน ร
บทที่ 39สินชัยเดินนำไปทางห้องล็อกเกอร์ของแม่บ้าน บอกหัวหน้าแม่บ้านให้หาชุดให้จันทริกาเปลี่ยน จากนั้นหญิงสาวก็ถืออุปกรณ์ทำความสะอาดเดินตามหัวหน้าแม่บ้านไปยังห้องน้ำที่อยู่ชั้นสาม “เดี๋ยวทำที่นี่เสร็จ ขึ้นไปทำที่ชั้นสี่ต่อเลยนะ” หัวหน้าแม่บ้านออกคำสั่งกับจันทริกาอีกคน “ค่ะ” “งั้นก็ลงมือได้เลย เดี๋ยวป้าจะไปตรวจความเรียบร้อยที่ชั้นอื่นก่อน เสร็จแล้วจะขึ้นมาตรวจดูที่ชั้นสามอีกรอบ” หัวหน้าแม่บ้านบอกเสร็จก็ออกไปจากห้องน้ำชั้นนั้น เพื่อไปตรวจความเรียบร้อยของชั้นอื่นๆ ตามหน้าที่ตัวเอง ประตูห้องน้ำที่ถูกแขวนป้ายด้านนอกว่ากำลังทำควาสะอาดถูกผลักเข้ามาอีกรอบ ทำให้จันทริกาซึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาขัดล้างทำความสะอาดห้องน้ำอยู่หันขวับไปมอง แล้วก็เห็นว่าคนที่เข้ามานั้นก็คือรังสิมันต์นั่นเอง “คุณตะวัน…” “ฉันแค่เข้ามาดูเธอว่าทำความสะอาดได้เรียบร้อยดีหรือเปล่า” ได้ยินคำตอบแบบนั้นจันทริกาก็หันไปตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดต่อ โดยไม่ได้พูดจาใดๆ กับเขาอีก เสร็จจากห้องนั้นก็ต่อห้องนี้ จนกระทั่งครบทุกห้
บทที่ 38“หมดฤทธิ์แล้วเหรอ ถ้าหมดฤทธิ์แล้ว ฉันจะได้ทำต่อ” “กรุณาเถอะนะคะ จันทร์ไม่ต้องการแบบนี้” “แล้วต้องการแบบไหน หรือว่าชอบแบบซาดิสม์ ฉันก็จัดให้ได้นะ อ้อ...บางทีเด็กจิตๆ อย่างเธออาจจะชอบแบบที่ว่าก็ได้ ทำไมฉันถึงโง่นักนะ” รังสิมันต์หัวเราะเสียงหื่นในลำคอ ก่อนจะละมือข้างหนึ่งมาคลายเนกไทน์ของตัวเองออก จากนั้นก็กระชากมันมา แล้วรวบแขนทั้งสองข้างของจันทริกามามัดข้อมือด้วยเนกไทน์เส้นนั้น หญิงสาวได้แต่เบิกตากว้างไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำอะไรรุนแรงอย่างที่เขาว่าจริงๆ “คุณตะวันคะได้โปรด...” เธอขอร้องเขาเสียงสั่น “ได้สิ แบบนี้ฉันก็สุดโปรดเหมือนกัน” เรียวปากหยักคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ตาสาดประกายบางอย่างที่ทำเอาร่างบางสะท้าน และหลังจากนั้นจันทริกาก็ถูกผลักให้นอนหงายหลังลงไปบนโซฟา ก่อนที่รังสิมันต์จะจับสองมือที่ถูกมัดด้วยเนกไทน์ขึ้นวางไว้เหนือศีรษะของเธอ ร่างบางนอนตัวเกร็งขณะที่เขาเริ่มลงมือถลกชายเสื้อของเธอขึ้นไปกองไว้เหนือเนินอก ตามด้วยเสื้อชั้นในลูกไม้สีหวาน เปิดเปลือยส่วนสำคัญช่วงบนให้เป
บทที่ 37“หยุดก่อน”คำสั่งนั้นทำให้มือเล็กๆ ชะงัก และยืนตัวเกร็งรอการตำหนิหรือลงโทษจากเขา เพราะคิดว่ารังสิมันต์คงไม่พอใจกับการนวดของเธอ“มานั่งนี่”เขาออกคำสั่งพลางตบมือลงบนที่ว่างข้างตัว จันทริกาเดินไปนั่งตัวลีบลงบนโซฟาข้างๆ เขา แล้วหันไปมองเพื่อรอว่าเขาจะลงโทษยังไง ทว่ารังสิมันต์กลับทำในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง นั่นคือการโน้มตัวไปวางแก้ววิสกี้ที่โต๊ะหน้าโซฟา แล้วเอนตัวนอนหนุนตักเธออย่างรวดเร็ว “คุณตะวัน!” จันทริกาอุทานออกมา แก้มนวลมีจุดสีแดงซ่านแต่งแต้มทันทีกับสิ่งที่เธอไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำ ก็เมื่อคืนเขาเพิ่งจะมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน พอมาวันนี้กลับมาทำกิริยาคล้ายสนิทชิดเชื้อกับเธอแบบชู้สาว ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย “เสียงดังทำไม หนวกหู ฉันก็แค่อยากนอนให้เธอนวดสบายๆ” “แต่แบบนี้จันทร์นวดไหล่ให้คุณไม่ได้นะคะ” “นวดไหล่ไม่ได้ ก็นวดแขนนวดมือไปสิ ตอนนี้ฉันเมื่อยไปทั้งตัวแล้ว” จันทริกาหน้าแดงก่ำกว่าเดิม ขณะก้มลงมองเขาพร้อมกับใช้มือเล็กๆ บีบนวดลงไปตามต้นแขน และสลับมานวดอีกข้างโดยไม่ยอมขยับลงไปนวดมือให้ตามที่คน
บทที่ 36ร่างสูงก้าวลงจากรถ เดินเข้าบ้านแล้วกวาดสายตามองหาร่างบางที่ปกติเวลานี้จะอยู่ในห้องครัว หรือไม่ก็กำลังตั้งโต๊ะอาหารรอเขาอยู่เมื่อไม่เห็นคนที่ตัวเองมองหา รังสิมันต์ก็ตรงไปยังห้องนอนของเธอ เพราะคิดว่าจันทริกาอาจจะอยู่ที่นั่นกับเมสซี่ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ไม่พบทั้งคนทั้งแมวตัวโปรดของเขา ชายหนุ่มจึงบ่นพึมพำออกมาอย่างออกจะหงุดหงิด พร้อมกับที่หัวใจเริ่มร้อนรนขึ้น“ไปไหนของเขานะ...”เมื่อหาในบ้านไม่เจอ ลำขาแข็งแรงก็ก้าวยาวๆ ออกไปหารอบๆ บ้าน ก่อนจะระบายลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างโล่งอกทันทีที่เห็นว่าคนที่ตัวเองตามหากำลังก้มขัดพื้นอย่างขะมักเขม้นอยู่ที่ศาลาสระบัว โดยมีเมสซี่นั่งเป็นกำลังใจอยู่บนม้าหินอ่อนด้านบน“ค่ำมืดป่านนี้แล้วทำไมยังไม่เข้าบ้าน”เสียงดุๆ ที่ดังขึ้นทำให้จันทริกาสะดุ้งเล็กน้อย เธอหยุดชะงักมือที่กำลังจับแปรงขัดพื้น แล้วเงยหน้าขึ้นก่อนจะตอบคำถามของเขา“จันทร์ขัดพื้นศาลายังไม่เสร็จน่ะค่ะ”“แล้วไม่เห็นหรือไงว่าฉันกลับมาแล้ว ทำไมไม่ไปตั้งโต๊ะอาหารรอ”“ขอโทษค่ะ จันทร์จะไปเดี๋ยวนี้”“ที่มาขัดเอาค่ำๆ มืดๆ แบบนี้เพราะตอนกลางวันมัวแต่อู้งานล่ะสิ ถึงได้ทำไม่เสร็จ”“เปล่านะคะ” จั