“ต้องการ! ต้องการอะไรงั้นเหรอ”
“.....” “ว่าไง” ณภัทรถามย้ำ “ฉันต้องการคุณ” หลังจากเอ่ยคำน่าอายออกไป เปลือกตาของเธอก็ปิดลง หึ! สุ้มเสียงดูแคลนเปล่งผ่านลำคอชายหนุ่ม อยากเกิดมาเป็นลูกสาวของคนที่ทำลายครอบครัวเขาทำไมกัน! “คุณได้สมใจอยากแน่!” พันธนาการที่ตรึงถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แควก! เสียงฉีกขาดของเสื้อผ้าทำให้เปลือกตาปิดอยู่เบิกโพลง แขนเล็กยกขึ้นโอบกอดเรือนร่างเพื่อปกปิดเนื้อเนียนเอาไว้ “เปล่าประโยชน์น่า เอามือออก” เสียงแข็งออกคำสั่ง เขาชักหัวเสียกับการเล่นตัวไม่เลิกของเธอแล้ว ณภัทรคว้าข้อมือเล็กแยกออก เผยผิวเนียนละเอียดขาวผุดผ่องของเนินเนื้อนูนโผล่พ้นออกมาจากบราเนื้อดี ณภัทรกลืนน้ำลายอย่างหื่นกระหายเมื่อความสวยงามโชว์หราแก่สายตา ยามหน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงอยู่ตรงหน้า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอดูดีกว่าผู้หญิงที่เขาเคยผ่านมา ริมฝีปากหยักหนาฝังจูบบนลำคอระหง “อ๊ะ” ความเจ็บแปลบแล่นขึ้น เมื่อถูกขบเม้มอย่างแรง ชายหนุ่มรุกรานเรือนร่างอ่อนนุ่มอย่างไม่ปรานี ลมหายใจร้อนผะผ่าวเป่ารดผิวเป็นดังเชื้อเพลิงชั้นดี ปลุกไฟปรารถนาให้ลุกโชนขึ้น หญิงสาวดิ้นพล่านสะโพกบางส่ายเร่าตามแรงอารมณ์ สติของเธอกำลังพร่าเลือนไปกับสัมผัสอันเร่าร้อน... จนกระทั่งทั้งสองเหลือเพียงร่างอันเปล่าเปลือย กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนที่นอนหนากว้าง ณภัทรยอมรับว่าความนุ่มนิ่มรวมไปถึงกลิ่นหอมเย้ายวนบนเรือนร่างบอบบางชวนหลงใหล สองขาเรียวถูกจับแยกออกจากกันจนกว้าง พอที่เขาจะแทรกตัวเข้าไปได้ สายตาหื่นกระหายราวกับซาตานร้ายมองกลีบดอกไม้สีสดกำลังเบ่งบานอยู่ตรงหน้า ความสวยล่อตานี้ไม่อาจทนความปวดหนึบตรงจุดกึ่งกลางลำตัวของตนเองได้ ณภัทรจ่อแท่งร้อนเข้าปากทางสีสด กดหัวฉ่ำน้ำไปในโพรงร้อนอย่างแรง “อึก ฮือออ” เจ็บ! เจ็บเหลือเกิน หยาดน้ำตารินไหลเป็นสาย แพรวพรรณไม่อาจทนกักเก็บความปวดร้าวเอาไว้ได้เมื่อสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่แทรกตัวเข้ามาในร่างกาย ความรู้สึกราวกับถูกของมีคมกรีดบนผิวทั้งเจ็บและแสบ “แน่นฉิบ! ซี้ดดด” ไม่เพียงแค่แพรวพรรณเท่านั้นที่ทรมาน ณภัทรเองก็รู้สึกเจ็บไม่น้อยไปกว่ากัน แท่งร้อนถูกช่องคับแคบตอดรัดจนปวดหนึบไปทั้งลำ ไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะเป็นคนช่วงชิงเอาความ ‘บริสุทธิ์’ มาจากลูกสาวของศัตรู ชายหนุ่มเลื่อนสายตามองใบหน้าแดงก่ำบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เขาแสยะยิ้มเย้ยหยันอย่างชอบใจ “เจ็บ พอแล้ว” สติของแพรวพรรณหลุดจนไม่รู้วิธีจะห้ามปรามคนใจร้าย นอกเสียจากร้องขอเท่านั้น “คับเป็นบ้า” เขาไม่ใส่ใจยังกดสะโพกสอบอีกครั้ง หลังจากเข้าได้เพียงครึ่ง “อ๊ะ เจ็บ” “อ๊า ซี้ดดด” สำหรับณภัทรรู้สึกดีจนพ่นลมหายใจด้วยความเสียวซ่าน เอวสอบเริ่มกระแทกแท่งร้อนใส่ช่องทางคับแคบ ไม่สนใจว่าคนใต้อาณัติจะมีอารมณ์ร่วมด้วยหรือไม่ ขอเพียงได้ย้ำยีเอาความบริสุทธิ์มาจากหญิงสาวให้มันแหลกลาญคามือก็พอ แพรวพรรณร่ำไห้อย่างหนัก สิ่งที่รักได้เสียให้ซาตานร้ายคนนี้ แล้วยังเกลียดตัวเองรู้สึกดีเมื่อเขามอบความเป็นชายให้ “ดีเหลือเกิน” “อืมมม” เสียงครางผะผ่าวเปล่งออกมา เมื่อไฟราคะลุกโชน ความเจ็บปวดได้คลายลงแล้วความเสียวซ่านก็เข้ามาแทนที่ แพรวพรรณผวาโอบกอดคนอยู่เหนือเรือนร่าง “จะเสร็จแล้วสินะ รัดซะแน่นขนาดนี้” มือใหญ่ยึดเอวคอดไว้มั่น ณภัทรก้มมองดูรอยเชื่อมต่อระหว่างทั้งสอง น้ำฉ่ำแฉะชโลมทั่วดุ้นใหญ่และโพรงร้อนสร้างความกระสันของเขาให้เพิ่มขึ้น “อะ อื้ม” แพรวพรรณซุกใบหน้าเข้าหาไหล่กว้าง ส่ายสะโพกเร่าบดเบียดเข้าหาผิวร้อน เมื่อความสุขสมทะยานมาถึงปากทางรัก “ซี้ดดดด ข้างในตอดเก่งจังนะ ผมเสียวไปทั้งลำแล้วรู้ไหม” “ฉัน อ่า ปวดฉี่” สองแก้มเห่อแดงจนร้อน เพราะเอ่ยคำน่าอายออกมา “คุณไม่ได้จะฉี่แต่คุณกำลังจะเสร็จ” เสียงแหบพร่าบอกกับคนใต้อาณัติ จากนั้นรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้น ณภัทรหยุดรัวสะโพกสอบเพราะเสียงครางกระเส่าของแพรวพรรณยาวต่อเนื่อง ดวงตาหวานทอประกายความต้องการอย่างร้อนแรง แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายจงใจแกล้ง ทว่าแรงปรารถนาในรสกามารมณ์มาไกลเกินกว่าจะให้จบเพียงแค่นี้ “ได้โปรด! อย่าหยุด” เสียงแหบแห้งร้องขอเรื่องน่าอายอีกครั้ง “ร่าน! จนต้องขอเองเลยใช่ไหม” เอวสอบส่งแท่งร้อนเข้าใส่ช่องคับแคบอย่างหนักหน่วง “อ๊ะ อื้อ⁓” แพรวพรรณจุกทั่วทั้งท้องน้อยกับแรงที่ส่งเข้ามา ไฟสวาทเผาผลาญทั้งคู่จนมอดไหม้ไปพร้อม ๆ กัน กระทั่งมาถึงโค้งสุดท้ายแพรวพรรณกระตุกเกร็งครางเสียงหวาน ดวงตาปิดสนิท โอบกอดณภัทรอย่างแนบแน่น เมื่อได้ปลดปล่อยสมปรารถนา เช่นเดียวกับณภัทรฉีดน้ำขาวขุ่นหลั่งไหลออกมาจำนวนมาก ชายหนุ่มทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงจนแพรวพรรณหายใจลำบาก แต่เวลานี้เธอไร้เรี่ยวแรงจะผลักดันเขาออกจึงปล่อยให้เขานอนอยู่ในท่านั้น จนเกือบรุ่งสาง แพรวพรรณผุดลุกขึ้นจากเตียง พาร่างกายอันบอบช้ำถูกใช้งานมาอย่างหนักตลอดคืน พอเท้าแตะถึงพื้นความเจ็บแปลบตรงกึ่งกลางลำตัวก็ตีขึ้น เธอเม้มปากกลั้นเสียงสะอื้นไว้แล้วมองคนที่ยังนอนหลับสนิท สองขาประคองร่างกายแสนเจ็บปวดเดินไปหยิบเสื้อเขามาสวมใส่ “คนเลว!” คำบริภาษหลุดออกมาจากปากอวบอิ่ม แววตาชิงชังเหลียวกลับไปมอง ซาตานร้ายชั้น 25เขมจิรากำลังตระเตรียมข้าวของเพื่อจะลงไปช่วยงานเพื่อน ต้องละในส่วนนั้นแล้วหันมาหาธาดา เอาแต่คลอเคลียตนเองไม่ห่าง“คืนนี้ผมขอสั่งห้ามไม่ให้คุณดื่มเยอะ รู้หรือเปล่า”“คุณย้ำคำนี้กับฉันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วนะคะ อีกอย่างเผื่อคุณจะลืมไปว่าฉันมาทำงาน เรื่องแบบนั้นมันก็ต้องมีบ้าง” ทว่าพอพูดจบก็ต้องเอียงหน้าหลบริมฝีปากหยักหนาไปอีกทาง“ต่อปากต่อคำเก่งขึ้นนะเดี๋ยวนี้” เมื่อพลาดโอกาสจะลงโทษริมฝีปากหยักสวย เขาก็เปลี่ยนเป็นทำอย่างอื่น ไหล่บอบบางถูกชายหนุ่มหมุนให้กลับมาเผชิญหน้ากัน“ก็ได้ ๆ ฉันจะทำอย่างที่คุณบอก แต่ว่าตอนนี้ต้องลงไปแล้ว” เขมจิราดันตัวออกห่างจากอ้อมกอดของมาเฟียหนุ่ม“ผมไม่ทำอะไรหรอกน่า ก็แค่จะกอดเฉย ๆ” ธาดายิ้มอ่อนเมื่อเห็นอากัปกิริยาต่อต้านเล็กน้อยของหญิงสาวท้องทะเลยามค่ำคืน แม้จะไร้แสงดวงอาทิตย์ส่องสว่างเหมือนยามเช้า แต่ทว่าดวงไฟที่สาดส่องไปมาทั่วบริเวณ เมื่อสะท้อนกับผิวน้ำกลับสวยงามไม่ต่างไปจากกันดวงตากลมโตทอดมองออกไปไกลอย่างใช้ความคิด จากนั้นก็หมุนตัวกลับเข้ามาด้านในห้องของตนเจ้าของหุ่นสวยยืนหน้ากระจกบานใหญ่ หมุนซ้ายหันขวาตรวจดูความเรียบร้อยของชุดเดรสสีดำสนิทจากไหล่ขาวเ
ฝีเท้ากำลังก้าวไปด้านหน้าด้วยจังหวะมั่นคงหยุดลงที่หน้าประตูบานใหญ่ เตชินก็เคาะประตูห้องทำงานของผู้เป็นแม่“ผมเข้าไปนะครับ”“เข้ามา” เสียงอ่อนโยนจากอีกฟากฝั่งก็ดังขึ้นผู้เป็นลูกชายดันประตูเข้าไป ยิ้มหล่อเหลาส่งให้หญิงวัยกลางคนทันทีเมื่อเห็นดวงตาคู่สวยมองมา“มาหาแม่แต่เช้ามีอะไรเหรอเจ้าตัวแสบ” พิชญ์สินีถามลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แม้ใช้สรรพนามที่เรียกเขาอย่างนั้นก็ยังคงมองอย่างรักใคร่“ก็คิดถึงไงครับ” รอยยิ้มทรงเสน่ห์เปิดกว้างแล้วเดินเข้าไปใกล้บุคคลนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เตชินหอมแก้มนุ่มหลังจากพูดจบ“ก็ปากหวานแบบนี้ไงสาว ๆ ถึงได้ตามติดกันเป็นพรวน”“แต่ผมก็ไม่ได้สนใจใครนี่ครับ” ชายหนุ่มยิ้มทะเล้นตอบผู้เป็นแม่“จ้า...พ่อเนื้อหอม หญิงตามเป็นร้อยไม่เอาแต่เลือกจะตามคนที่ไม่สนใจเนี่ยนะ” พิชญ์สินีค่อนขอดลูกชายกับสิ่งที่เห็นอยู่เป็นประจำ“อย่างที่แม่รู้นั่นแหละครับ”“งานนี้แม่ขอเลยนะ เราต้องทำตัวเป็นกลางเข้าไว้ ไม่งั้นทางผู้ใหญ่จะว่าลูกได้”พิชญ์สินีแม้จะนั่งแท่นผู้บริหารและมีอำนาจสูงสุดเพียงใด ก็ไม่อยากให้เหล่าผู้ถือหุ้นคนอื่นมองลูกชายในทางไม่ดี เรื่องที่เขาตามติดนักธุรกิจสาวซึ่งเข้าร่วมแข่
หลังจากคุยเรื่องงานกันอย่างลงตัวแล้ว ทิวก็ได้แยกตัวกลับไปยังห้องของตนเอง “ข้อมูลที่เหลือทั้งหมดอยู่ในนี้แล้วค่ะ” กานแก้วส่งข้อมูลให้กับเจ้านายหนุ่ม จากนั้นก็ถอยออกไปยืนไกลจากโต๊ะทำงานอีกหลายก้าว“ขอบคุณ ยังมีอะไรที่ขาดอยู่ไหม”“ไม่มีแล้วค่ะ กานตรวจทานอย่างละเอียดแล้ว แต่ว่า...ขอกานถามอะไรอย่างได้ไหมคะ”ณภัทรยกคิ้วเข้มขึ้นสูงเห็นว่าเลขาสาวมีความสนใจอย่างอื่นมากกว่าเรื่องงาน“ว่ามาสิ”“คือว่า...กานก็ไม่ได้อะไรนะคะ แค่สงสัยว่าคุณภัทรจะทำอย่างนี้จริงนะเหรอคะ” เธอมองไปที่เอกสารในมือของณภัทร“มันเป็นงาน ถ้าไม่ทำแล้วบริษัทเราจะอยู่ยังไง”คำตอบของณภัทรทำให้กานแก้วได้แค่ยิ้ม ในเมื่อเขายืนยันมาอย่างนี้สิ่งที่ต้องทำก็มีแต่เดินหน้าอย่างเต็มที่แค่นั้น“งั้น...ก็สู้ ๆ นะคะ”ท่าสองมือยกขึ้นทำให้ณภัทรถึงกับหลุดยิ้มขำออกมา“ไปทำแบบนี้ให้เพื่อนผมดูคนเดียวเถอะคุณกาน”ยิ้มสดใสหุบลงในทันที เมื่อความหวังดีของตนเองถูกโยนให้เอาไปใช้กับอีกคนเสียได้“คนอุตส่าห์เป็นห่วง” หญิงสาวพึมพำจากนั้นก็เดินออกมาจากห้องทำงานของเจ้านายคล้อยหลังเลขาสาวไปยิ้มที่อยู่บนใบหน้าก็ค่อย ๆ คลายลงทีละนิดจนเหลือเพียงสีหน้าราบเรียบภา
บริษัทพีเจ“คุณดางานที่แพรวให้ทำไปถึงไหนแล้วคะ” เจ้านายสาวละจากงานแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเลขา“ดาจองที่พักแล้วก็เตรียมข้อมูลภายในงาน ไว้หมดแล้วค่ะคุณแพรว” ลดาส่งแฟ้มที่ถูกกล่าวถึงให้เจ้านายสาวแพรวพรรณรับจากมือเลขาเปิดอ่าน รายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือแม้แต่ความชื่นชอบของผู้จัดงาน ลดาก็เรียบเรียงมาได้เป็นอย่างดีส่วนไหนต้องเน้นเป็นพิเศษก็ไฮไลท์สีเข้มเอาไว้เพื่อให้จดจำได้ง่ายช่างเป็นคนละเอียดรอบคอบสมกับผู้เป็นอาเลือกมาให้เธอเห็นอย่างนี้พลอยนึกถึงผู้ล่วงลับไปแล้วหากไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้น หล่อนก็คงได้ช่วยพ่อแล้วนำพาพีเจดำเนินไปในทิศทางเจริญก้าวหน้าแน่ ครั้นความคิดเหล่านั้นแทรกซ้อนเข้ามาในหัว ผู้บริหารสาวจึงรีบตั้งสติปิดแฟ้มเอาไว้หันมาสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง“ขอบคุณนะคะคุณดา เหนื่อยหน่อยนะช่วงนี้”“คุณแพรวเองก็เหนื่อยเหมือนกัน พักผ่อนเยอะ ๆ พวกเราต้องการคุณมากเลยนะคะ”“ขอบคุณที่เชื่อใจแพรวค่ะ ถ้าไม่ได้คุณดาให้คำแนะนำ แพรวก็ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนเหมือนกัน”“เราจะสู้ไปด้วยกันค่ะ” ความยินดีฉายขึ้นเต็มดวงหน้า สองมือชูขึ้นเป็นสัญลักษณ์ให้ฝั่งผู้เป็นเจ้านายได้เห็นว่ายังมีอี
เตชินหันไปทางแพรวพรรณก่อน แล้วค่อยหันกลับมาตอบคำถามของเขมจิรา“ไม่มีอะไรหรอกครับ พอดีผมแค่จะพาพี่แพรวมาดื่มกันสนุก ๆ เฉย ๆ”ทว่าเจ้าของคำถามกลับไม่ค่อยอยากจะเชื่อคำพูดของชายหนุ่มสักเท่าไหร่ สถานบันเทิงมีมากมายทั่วกรุงเทพแล้วทำไมถึงต้องเลือกมาดื่มกันที่นี่!นัยน์ตาสวยหันไปทางเพื่อนรักยังทำเป็นไม่ยินดียินร้ายกับสายตาของเธอเลยสักนิด เห็นแล้วก็ได้แต่ถอดถอนหายใจออกมาแรง ๆรู้ทันแล้วยังไงก็ในเมื่อแพรวพรรณเป็นเพื่อนรักเธอนี่ชั้นห้าห้องทำงานเจ้าของสถานบันเทิง Tclubบรั่นดีราคาแพงไหลลงไปอยู่ในแก้วทรงอ้วนตรงหน้าเจ้าของห้องโทนสีขวัญบุหรี่เขากำลังส่งสายตาราบเรียบไปยังบุรุษฝั่งตรงข้าม“มึงจะปล่อยไว้แบบนี้อีกนานแค่ไหน”“อีกไม่นานหรอก” ณภัทรตอบคำถามของธาดาเสียงเข้ม“ลีลาอยู่นั่น เสียเธอไปจริง ๆ กูนี่แหละจะเป็นคนสมน้ำหน้าคนแรก”“ไม่มีวันนั้นแน่”“ให้มันจริงเถอะ”วาจาดุดันตอบกลับกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมลงให้กันก่อน ในขณะนั้นเสียงทุ้มจากบุคคลด้านนอกก็เอ่ยขออนุญาตขัดจังหวะพวกเขาธาดาก็หันเหความสนใจไปที่ประตูแทน ชาก้าวเข้ามายืนตรงหน้าโต๊ะกลมตัวใหญ่ ก้มหน้าลงเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวของอีกคนให้เจ้านายได้
สองชั่วโมงต่อมาลานกว้างภายในคลับดังเต็มไปด้วยนักท่องราตรี กำลังขยับร่างกายส่ายสะโพกไปพร้อมกับดนตรีแนว EDM อย่างเมามันทว่าหนึ่งในนั้นกลับเลือกนั่งดูเฉย ๆ นัยน์ตาสีอ่อนอันทรงเสน่ห์จับจ้องเพียงแค่หญิงเดียวกำลังโยกย้ายเรือนร่างด้วยท่าทางเย้ายวนอยู่กลางฟอร์ดวงตาพราวเสน่ห์หวานฉ่ำกลายเป็นอาวุธทำร้ายหัวใจชายหนุ่มรอบข้างได้เป็นอย่างดี เตชินยกแก้วสีอำพันในมือขึ้นดื่มโดยพิกัดของสายตา ไม่ได้ละไปจากเจ้าของหุ่นสวยเลยแม้แต่วินาทีเดียวรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของแพรวพรรณในเวลานี้ เขาอยากจะปกป้องไว้มากที่สุด แม้ในใจจะแอบหวงอยู่บ้างกับความฮอตเมื่อมีผู้ชายมากหน้าหลายตาวนเวียนเข้ามาหาเธอ แต่กิริยาเหล่านั้นเขาไม่คิดจะแสดงออกมาให้อีกคนรู้สึกอึดอัดอย่างแน่นอนเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังเดินกลับมา ยังส่งยิ้มหวานมาแต่ไกล หัวใจก็เต้นรัวราวกับกลองกำลังถูกตีอย่างบ้าระห่ำ เตชินวางแก้วในมือลงขยับนั่งในท่าเตรียมพร้อมกับการเป็นเบาะรองรับอีกคนด้วยความเคยชิน“เหนื่อยแล้วเหรอครับ”เมื่อมาถึงแพรวพรรณก็หย่อนตัวนั่งบนตักกว้าง เรียวแขนสวยวาดขึ้นคล้องคอเจ้าของนัยน์ตาสีอ่อนหวานซึ้งอย่างมีจริต“อืม เหนื่อยแล้ว” ริมฝีปากอวบอิ่มต