การเดินทางผ่านป่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ อลิซ ในร่างของ เลดี้เซเรน่า เธอไม่เคยต้องเดินเท้าไกลขนาดนี้มาก่อน เสื้อผ้าที่ดูเรียบง่ายก็ยังคงเป็นผ้าเนื้อดีเกินกว่าจะกลมกลืนกับชาวบ้านธรรมดา แถมรองเท้าหนังนุ่มๆ ที่เธอสวมใส่ก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการเดินป่าที่ขรุขระ รอยขีดข่วนและคราบสกปรกเริ่มปรากฏบนชุดที่ครั้งหนึ่งเคยหรูหรา
เมื่อตะวันคล้อยต่ำลง อลิซก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าและหิวโหย เธอพบลำธารเล็กๆ แห่งหนึ่ง จึงตัดสินใจหยุดพักดื่มน้ำและเช็กสัมภาระ
“เฮ้อ… ชีวิตคุณหนูมันก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้ามาอยู่ในร่างตัวร้ายที่โดนไล่ฆ่าแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ” เธอพึมพำกับตัวเอง
คืนแรกในป่าผ่านไปอย่างยากลำบาก อลิซไม่เคยนอนบนพื้นแข็งๆ แบบนี้มาก่อน เสียงสัตว์กลางคืนทำให้เธอสะดุ้งตื่นอยู่หลายครั้ง แม้จะหลับๆ ตื่นๆ แต่ความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตรอดก็ทำให้เธอแข็งใจก้าวเดินต่อไป
เช้าวันรุ่งขึ้น อลิซเดินเลียบป่าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมจากเบื้องหน้า เธอเร่งฝีเท้า และในที่สุดก็มองเห็นกำแพงเมืองที่สร้างจากหินสูงใหญ่เบื้องหน้า นี่คือ เมืองพอร์ตเวลล์ เมืองชายแดนเล็กๆ ที่เธอตั้งใจจะมาพักพิง
อลิซพยายามเดินปะปนไปกับกลุ่มชาวบ้านที่กำลังเดินทางเข้าเมือง เธอใช้ผ้าคลุมศีรษะและใบหน้าให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็น และพยายามทำตัวให้ดูเหมือนชาวบ้านธรรมดาที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่แล้ว ขณะที่เธอกำลังเดินผ่านตลาดที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งวิ่งเข้าชนเธออย่างจัง จนถุงผ้าใส่เงินของเธอหล่นลงพื้น และชายคนนั้นก็ฉกฉวยมันไปอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย! หยุดนะ!” อลิซร้องลั่นด้วยความตกใจและโมโห แต่ชายคนนั้นก็วิ่งหายไปในฝูงชนอย่างรวดเร็ว เธอพยายามจะวิ่งตาม แต่ด้วยความอ่อนล้าจากการเดินทางและชุดที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้เธอเสียหลักจะล้ม
ก่อนที่เธอจะล้มลงไปกองกับพื้น มือแข็งแรงมือหนึ่งก็เข้ามาประคองเธอไว้ ชายหนุ่มผู้นั้นมีผมสีดำขลับ ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าคมคาย และรอยยิ้มกรุ่มกริ่มประดับอยู่บนใบหน้า เขาดูมีอายุราว 20 ต้นๆ และสวมชุดผ้าลินินสีเข้มที่ดูทะมัดทะแมง
“คุณหนูไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถาม
อลิซพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความอับอาย แต่สายตาของเธอก็ยังคงมองหาชายที่ขโมยเงินของเธอ
“ขโมย มันหนีไปแล้ว…” เธอพึมพำอย่างหมดหวัง เธอเหลือเงินไม่มากนัก และที่สำคัญ เธอไม่รู้จักใครในเมืองนี้เลย
ชายหนุ่มที่ช่วยเธอเห็นสีหน้าสิ้นหวังของเธอ เขามองตามทิศทางที่ชายขโมยวิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วก็หันกลับมาส่งยิ้มให้เธออีกครั้ง
“ไม่ต้องกังวลครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “เดี๋ยวผมจัดการเอง”
ก่อนที่อลิซจะได้เอ่ยปากอะไร ชายหนุ่มคนนั้นก็พุ่งตัวหายเข้าไปในฝูงชนอย่างรวดเร็ว อลิซยืนมองอย่างงุนงง ไม่ถึงห้านาทีต่อมา เขาก็กลับมาพร้อมกับถุงผ้าของเธอ!
“คุณ…” อลิซมองเขาอย่างตกตะลึง “คุณไปเอาคืนมาได้ยังไง?”
ชายหนุ่มส่งถุงผ้าคืนให้เธอพร้อมกับยิ้มกว้าง “พอดีผมรู้จักเส้นทางลัดในตลาดนี้นิดหน่อยน่ะครับ” เขาเหลือบมองชุดที่เปื้อนฝุ่นของเธอ “ดูท่าคุณหนูจะเพิ่งเดินทางมาไกลใช่ไหมครับ? ถ้าไม่รังเกียจ ให้ผมแนะนำที่พักดีๆ ในเมืองนี้ไหมครับ”
อลิซมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพิจารณา เธอจำเขาได้! นี่คือ คล้าว พ่อค้าหนุ่มพเนจรผู้ลึกลับ ตัวละครประกอบที่ปรากฏตัวในนิยายเพียงไม่กี่ฉาก แต่เขาก็เป็นคนดีและมีเส้นสายพอสมควร
“ขอบคุณมากนะคะ… คุณคือ?” อลิซแกล้งถาม
“คล้าวครับ” ชายหนุ่มแนะนำตัว “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณหนู… ไม่ทราบว่าคุณหนูมีชื่อว่าอะไร?”
อลิซลังเลเล็กน้อย เธอจะบอกชื่อเลดี้เซเรน่าออกไปเลยดีไหม หรือจะสร้างชื่อใหม่ให้ตัวเองดี? แต่จากท่าทางของคล้าว เขาดูเหมือนจะไม่รู้จักเลดี้เซเรน่ามากนัก และเขาดูเหมือนคนธรรมดาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับราชวงศ์หรือกลุ่มอำนาจในเมืองหลวง
“ฉันชื่อเซเรน่าค่ะ” เธอตัดสินใจตอบไปตรงๆ แต่เลือกที่จะไม่บอกชื่อสกุล “ฉันเพิ่งเดินทางมาที่นี่ และกำลังหาที่พักอยู่พอดี”
คล้าวพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็ตามผมมาได้เลยครับ ที่โรงเตี๊ยม ‘ม้าคะนอง’ มีห้องพักที่สะอาดและปลอดภัย ราคาไม่แพงด้วย”
อลิซตัดสินใจตามคล้าวไป เธอรู้ว่าเธอต้องเริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ที่นี่ และคล้าวผู้รู้จักเมืองนี้เป็นอย่างดี อาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เธอเอาตัวรอดในโลกใบนี้ได้
ในขณะที่เดินตามหลังคล้าวไปตามตรอกซอกซอย อลิซก็เริ่มวางแผนในใจ เธอมีความรู้มากมายจากโลกเดิมที่สามารถนำมาใช้สร้างเนื้อสร้างตัวในโลกนี้ได้ และคล้าว… เขาคือพันธมิตรคนแรกที่เธอจะได้สร้างขึ้นมาในชีวิตใหม่นี้
หลายเดือนผ่านไปนับตั้งแต่การปราบปรามดยุกเรย์มอนด์ เมืองพอร์ตเวลล์ได้พลิกฟื้นและเติบโตอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับจากทั่วอาณาจักร กำแพงหินที่แข็งแกร่งถูกสร้างขึ้นใหม่ โครงสร้างพื้นฐานทันสมัยขึ้น ระบบการศึกษาขยายตัว และร้านยาแสงจันทร์ของอลิซก็กลายเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งรวมผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพสูงอลิซในชุดเสื้อผ้าที่ดูเรียบง่ายแต่ทว่าสง่างาม ยืนอยู่บนระเบียงบ้าน มองดูชาวเมืองที่เดินไปมาอย่างมีความสุข ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มพึงพอใจ เธอกับคล้าวได้สร้างเมืองในฝันของพวกเขาขึ้นมาจริงๆ"อากาศดีจริงๆ นะคะคุณคล้าว" อลิซเอ่ยขณะที่คล้าวเข้ามาสวมกอดเธอจากด้านหลังคล้าวพยักหน้า เขามองออกไปยังเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา "ผมไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะได้ลงหลักปักฐานที่ไหนแบบนี้ครับคุณเซเรน่า แต่การได้อยู่กับคุณ... ที่นี่ก็เหมือนบ้าน"ชีวิตประจำวันของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุขเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะอลิซที่มักจะใช้เวลาในห้องทดลองเพื่อคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ หรือปรับปรุงสูตรยา ส่วนคล้าวก็จะดูแลเรื่องการค้า การรักษาความปลอดภัย และคอยเป็นกำลังใจให้อลิซอยู่เสมอเจ้าชายคาเ
หลังจากการต่อสู้สิ้นสุดลง แสงแดดยามเช้าก็สาดส่องลงมายังพอร์ตเวลล์อีกครั้ง ความเสียหายจากการรบปรากฏให้เห็น แต่ท่ามกลางซากปรักหักพัง ผู้คนกลับเต็มไปด้วยความหวังและขวัญกำลังใจที่เปี่ยมล้นดยุกเรย์มอนด์และบรรดาผู้สมรู้ร่วมคิดถูกนำตัวกลับไปยังเมืองหลวงเพื่อไต่สวนอย่างเป็นทางการ เจ้าชายคาเลบทรงจัดการเรื่องนี้อย่างโปร่งใส และใช้หลักฐานที่อลิซและคล้าวมอบให้เพื่อเปิดโปงเครือข่ายอำนาจมืดที่ฝังรากลึกมานานในที่สุด ดยุกเรย์มอนด์ก็ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหากบฏและสมคบคิดกระทำการอันเป็นภัยต่อราชบัลลังก์ เขาและผู้สมรู้ร่วมคิดได้รับโทษตามกฎหมายอย่างสาสม ทรัพย์สินและอำนาจที่ตระกูลเรย์มอนด์ยึดครองมาอย่างไม่ชอบธรรมถูกริบคืน และนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูอาณาจักรและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในเมืองพอร์ตเวลล์ การฟื้นฟูเริ่มขึ้นทันที ชาวเมืองร่วมแรงร่วมใจกันซ่อมแซมความเสียหาย อลิซใช้ความรู้ด้านวิศวกรรมและการจัดการของเธอ เพื่อวางแผนสร้างกำแพงและโครงสร้างป้องกันเมืองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมีคล้าวเป็นกำลังหลักในการดูแลการก่อสร้างและฝึกฝนทหารพิทักษ์เมืองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเจ้าชายคาเลบและเจ้าหญิงเอ
การมาถึงของเจ้าชายคาเลบพร้อมกององครักษ์หลวง เปรียบได้กับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมากลางสมรภูมิที่มืดมิดในพอร์ตเวลล์ แรงฮึดของชาวเมืองกลับคืนมา คล้าวและเจ้าชายคาเลบร่วมกันต่อสู้อย่างดุดัน พลังเวทมนตร์ธาตุพฤกษาของคล้าวกับทักษะดาบที่เหนือชั้นของเจ้าชายคาเลบ ผนึกกำลังกันจนยากที่ทหารของดยุกเรย์มอนด์จะต้านทานได้ดยุกเรย์มอนด์ซึ่งเฝ้าดูการรบอยู่จากแนวหลังถึงกับกุมขมับ เขาไม่คาดคิดว่าเจ้าชายคาเลบจะมาปรากฏตัวที่นี่ และที่สำคัญคือพระองค์ยังนำทัพมาด้วยพระองค์เอง บัดนี้แผนการของเขาที่ต้องการยึดพอร์ตเวลล์อย่างลับๆ ได้ถูกเปิดเผยต่อหน้าธารกำนัล และกำลังจะพลิกกลับมาเป็นภัยต่อตัวเขาเอง"ถอยทัพ! ถอยทัพเดี๋ยวนี้!" ดยุกเรย์มอนด์ตะโกนสั่งนายพลด้วยความตื่นตระหนก แต่ก็ดูเหมือนจะสายเกินไป ทหารของเขากำลังถูกตีโอบ และการมาถึงของเจ้าหญิงเอลิเซียพร้อมขบวนเสบียงและยาบำรุง ทำให้ขวัญกำลังใจของทหารพอร์ตเวลล์พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอลิซในฐานะผู้บัญชาการเบื้องหลัง สั่งการให้ทหารพอร์ตเวลล์ที่เหลือปิดล้อมกองทัพที่กำลังถอยร่น ประสานงานกับเจ้าชายคาเลบเพื่อปิดทางหนีทั้งหมด การต่อสู้ดำเนินไปอีกพักใหญ่ ก่อนที่ฝ่ายกองทัพของ ด
เช้าตรู่วันนั้น แสงอาทิตย์ยังไม่ทันทอประกายเต็มที่ เสียงแตรศึกก็ดังก้องไปทั่วป่ารอบเมืองพอร์ตเวลล์ กองทหารของดยุกเรย์มอนด์นับพันนาย ที่นำโดยนายพลผู้มากประสบการณ์ พร้อมด้วยเครื่องยิงก้อนหินขนาดใหญ่และธนูเพลิง เคลื่อนทัพเข้าประชิดกำแพงไม้ชั่วคราวของพอร์ตเวลล์อย่างพร้อมเพรียงในเมือง อลิซและคล้าวยืนอยู่บนหอสังเกตการณ์ที่สูงที่สุด มองดูภาพกองทัพที่กำลังรุกคืบด้วยสายตาที่มุ่งมั่น ชาวเมืองทุกคนที่สามารถจับอาวุธได้ หรือช่วยเหลือได้ กำลังประจำตำแหน่งที่ถูกจัดเตรียมไว้ พวกเขามีจำนวนน้อยกว่ามาก แต่ดวงตาของทุกคนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องบ้านของตัวเอง"คุณคล้าวคะ... เราจะรับมือไหวไหม" อลิซกระซิบถามคล้าวโอบไหล่อลิซแน่น "เราต้องไหวครับคุณเซเรน่า เราได้เตรียมการทุกอย่างเท่าที่เราทำได้แล้ว"แผนการป้องกันของอลิซและคล้าวอาศัยภูมิประเทศเป็นหลัก พวกเขาใช้ป่าทึบและลำธารรอบเมืองให้เป็นประโยชน์ มีการวางกับดักง่ายๆ ซ่อนอยู่ตามเส้นทางที่คาดว่าศัตรูจะเดินทัพเข้ามา และเตรียมพลธนูที่แม้จะมีจำนวนน้อย แต่ก็ได้รับการฝึกฝนให้ยิงจากตำแหน่งที่ได้เปรียบเสียงโห่ร้องของทหารฝ่ายดยุกเรย์มอนด์ดังสนั่น เมื่อพวกเขาเร
หลังจากการค้นพบอันน่าตกใจเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่าง ดยุกเรย์มอนด์และเครือข่ายของซิลเวสเตอร์ในอดีต อลิซและคล้าวรู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถรับมือกับภัยคุกคามนี้เพียงลำพังได้ การต่อสู้ครั้งนี้ใหญ่เกินกว่าแค่การปกป้องพอร์ตเวลล์ แต่มันคือการชำระล้างความมืดมิดที่ฝังรากลึกในอาณาจักร"เราต้องไปหาเจ้าชายคาเลบค่ะคุณคล้าว" อลิซกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว "หลักฐานทั้งหมดนี้จะต้องถึงมือพระองค์ให้ได้"แต่การเข้าถึงเจ้าชายคาเลบในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในตอนนี้ดยุกเรย์มอนด์เพิ่มการควบคุมเมืองหลวงอย่างเข้มงวด คล้าวใช้ความสามารถพิเศษของเขาในการติดต่อกับมาร์คัสพ่อค้าคนสนิทที่ยังคงอยู่ในเมืองหลวง มาร์คัสเป็นคนเดียวที่พวกเขาสามารถไว้ใจให้เป็นผู้ส่งสารได้"มาร์คัส ผมต้องการให้คุณนำจดหมายฉบับนี้ไปมอบให้เจ้าชายคาเลบด้วยตัวคุณเอง" คล้าวเอ่ยผ่านเครื่องมือสื่อสารลับที่อลิซได้ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อการติดต่อระยะไกลระหว่างพอร์ตเวลล์กับเมืองหลวง "มันคือหลักฐานที่จะเปิดโปงดยุกเรย์มอนด์ทั้งหมด"มาร์คัสรับคำสั่งด้วยความมุ่งมั่น "วางใจได้เลยครับ ผมจะนำมันไปถึงมือพระองค์ให้ได้ ไม่ว่าจะต้องเสี่ยงแค่ไหนก็ตาม"ในระหว่างที่รอข่าวจา
ความมืดมิดปกคลุมเมืองพอร์ตเวลล์อีกครั้ง ไม่ใช่แค่เพียงความมืดของค่ำคืน แต่เป็นเงาของความกังวลที่คืบคลานเข้าสู่จิตใจของผู้คน อลิซและคล้าวสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังที่เริ่มกัดกินเมืองที่พวกเขาสร้างขึ้นมา"เราต้องหาทางพลิกสถานการณ์ให้ได้ค่ะคุณคล้าว" อลิซกล่าว ขณะที่เธอกำลังตรวจสอบสต็อกวัตถุดิบที่ร่อยหรอลงทุกวัน "ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เราจะผลิตสินค้าออกมาไม่ได้ และชาวบ้านก็จะไม่มีงานทำ"คล้าวพยักหน้า สีหน้าของเขาเคร่งเครียด "ผมพยายามหาเส้นทางขนส่งใหม่ๆ แล้วครับคุณเซเรน่า แต่คนของดยุกเรย์มอนด์คุมเข้มทุกทางจริงๆ"ในขณะที่ทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากับทางตัน คล้าวก็คิดถึงบางสิ่งบางอย่างที่เขาเคยได้ยินมานานแล้ว มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลเรย์มอนด์ที่มีประวัติยาวนานและบางครั้งก็มืดดำกว่าที่คนทั่วไปรู้"คุณเซเรน่าครับ ผมคิดว่าเราต้องสืบให้ลึกกว่านี้" คล้าวเอ่ยขึ้น "ดยุกเรย์มอนด์ไม่ได้เป็นแค่ขุนนางหัวเก่าที่ยึดติดกับอำนาจ เขาอาจจะมีอะไรที่ซ่อนเร้นอยู่มากกว่านั้น"คล้าวตัดสินใจเดินทางไปยังหอจดหมายเหตุลับแห่งหนึ่งที่เขารู้จักในเมืองหลวง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมบันทึกเก่าแก่และประวัติศาสตร์ที่ถูกซ่อนไ