ไทเกอร์เอ่ยออกมาก่อนจะยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์ แต่ทว่าหญิงสาวกลับไม่เล่นด้วยแถมยังเอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไร จากตอนแรกที่กำลังติดตลกก็กลายเป็นหน้าซีดทันที หรือว่าเพนตี้กำลังโกรธเขาอยู่หรือเปล่า ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังอึกจากนั้นก็เอ่ยถามออกไปเสียงสั่น
"เอ่อ... เพนไม่โกรธเกอร์ใช่ไหม"
เขาเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพนตี้จ้องมองใบหน้าของเขาด้วยแววตานิ่งสงบ ไม่ได้แสดงความรู้สึกใด ๆ อย่างน้อยตบตีหรือด่าทำยังไงก็ได้ เขายังรู้สึกดีกว่านี้อีก เพราะการกระทำเมื่อคืนคือการพรากพรหมจรรย์ไปจากผู้หญิงคนหนึ่งเลยนะ การนิ่งแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
"ช่างมันเถอะนายก็ลืม ๆ ไปซะ"
เธอเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะเอาผ้าห่มคลุมตัวจากนั้นก็ลุกขึ้นออกจากเตียงไปเก็บเสื้อผ้าที่ร่วงหล่นลงพื้น จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำทันที
"เพนตี้ไม่เอาแบบนี้สิ เกอร์จะรับผิดชอบทุกอย่างไม่ต้องห่วงนะ"
เขาลุกขึ้นตามไปยังประตูห้องน้ำ ซึ่งประโยคคำพูดของเขาทำให้หญิงสาวถึงกับชะงักไป เหลือบสายตามองเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
"จะรับผิดชอบทำไมในเมื่อฉันเป็นคนยอมนายเอง อีกอย่างเราสองคนไม่ได้รักกัน"
"แต่ว่าเกอร์รักเพนนะ อีกอย่างเพนเป็นเมียของเกอร์แล้ว เพราะฉะนั้นเกอร์ไม่ยอมปล่อยเพนไปง่าย ๆ แน่"
เขายื่นคำขาดว่าไม่มีทางปล่อยเธอให้ออกไปจากชีวิตแน่ คิดจะฟันแล้วทิ้งอย่างนั้นเหรอมันไม่ง่ายหรอก หึหึ
"แต่ฉันไม่ได้รักนาย"
"ไม่เป็นไรนี่เดี๋ยวเกอร์จีบเพนเอง จะทำทุกอย่างให้เพนรักเกอร์ให้ได้เลย เพราะฉะนั้นหลังจากนี้เตรียมรับมือไว้ได้เลย"
หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็กุมขมับก่อนจะถอนหายใจออกมา ดื้อด้านชะมัดเลยให้ตายสิ
"ตามใจก็แล้วกัน ฉันไม่เคยห้ามอะไรนายได้อยู่แล้วนี่... จะอาบน้ำแต่งตัวแล้ว"
"จ้ะเมียจ๋า"
"เมียบ้านนายสิ! เหอะ"
และหลังจากวันนั้นเขาก็ตามหญิงสาวต้อย ๆ ไม่ว่าเธอจะไปไหนเขาก็ตามไปเฝ้า ผู้ชายหน้าไหนเข้ามาใกล้เขาก็จะออกตัวว่าเป็นผัว จะให้ทำยังไงได้ละก็เขารักของเขานี่นา หวงมากเลยด้วย เพราะฉะนั้นใครหน้าไหนเข้ามาใกล้เขาจะจัดการให้หมด
"ไอ้ไทเกอร์มึงตามเขาต้อย ๆ แบบนี้มันน่าสมเพชที่สุดเลยนะ คนอย่างมึงเคยมีแต่ผู้หญิงตามตูดไหงกลายเป็นตามเขาต้อย ๆ ซะอย่างนั้น"
เขาเลือกสายตาหันไปมองคอปเตอร์ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ มันจะพูดให้ได้อะไรขึ้นมาเนี่ย ก็รู้แหละว่ามันคือความจริง แต่ยิ่งพูดมันทำให้เขาดูไร้ค่าไปใหญ่ หงุดหงิดวะ!
"กูไม่รู้ รู้แค่ว่าคนนี้กูรักของกู แม่ของลูกโว้ย"
คอปเตอร์ได้ยินแบบนั้นก็เบ้ปากใส่ทันที เป็นเสืออยู่ดี ๆ กลายเป็นหมาซะงั้น
"ตามใจมึงแล้วกัน ก็ควรค่าแก่การรอคอยมั่ง เพราะยัยเพนตี้แม่งก็สามารถทำให้เสืออย่างมึงกลายเป็นหมาหงอยได้ กูว่าไม่ธรรมดาเหมือนกันว่ะ ฮ่า ๆ"
"มึงจะพูดทำเหี้ยอะไรวะ เดี๋ยวมึงได้เจอกูไอ้สัส อย่ามาล้อนะเว้ยไม่ชอบ"
เขาทำหน้าโมโหใส่เพื่อนด้วยความหงุดหงิดเป็นอย่างมาก บอกแล้วไงว่ามันคือความจริงแต่ไม่ต้องพูดก็ได้ไหมล่ะ
"แล้วเย็นนี้ยังไงเจอกันที่เดิมป่ะ"
ปอร์เช่เอ่ยถามขึ้นเพราะปกติช่วงเย็นพวกเขาก็จะนัดกันที่ผับที่เดิม เขายักไหล่เล็กน้อยยังไม่ชัวร์ว่าจะไปหรือเปล่า เพราะต้องดูผู้หญิงอีกคนก่อน
"ดูก่อนไม่รู้ว่าเพนตี้จะไปที่ไหนหรือเปล่า"
"ปกติกูก็ไม่เห็นเขาจะชวนมึงไปไหนด้วยนี่ หรือว่ากูตกข่าวอะไรไปวะ"
แบรี่ที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยออกมาด้วยใบหน้ากวนประสาท ไทเกอร์ลุกขึ้นเตรียมจะไปกระทืบเพื่อนรัก ซึ่งมันหัวเราะและกระโดดหนีทันที
"ไอ้สัสแบรี่วันนี้กูจะเอาเลือดหัวมึงออก เชี่ย!"
ทั้งสองคนวิ่งไล่จับกันจนเหนื่อยก่อนจะเดินมานั่งลงเพื่อพักยกก่อน ไทเกอร์หยิบนาฬิกาขึ้นมาดูตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 14:00 น แล้ว เขารีบหยิบกระเป๋าและเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เนื่องจากว่าตอนนี้เพนตี้เลิกเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ไอ้สัสเกอร์มึงจะไปไหน"
โดมิโนตะโกนไล่หลังเพื่อนด้วยความมึนงง จู่ ๆ ก็หยิบกระเป๋าและวิ่งออกไปเลยทันทีจนเพื่อนงงไปหมด
"หาเมียแป๊บนึง"
@คณะมนุษยศาสตร์
เขาเดินเข้าไปบริเวณหน้าตึกเหลือบสายตาหันไปมองตามทางก็เจอยัยแว่น จึงรีบเดินเข้าไปตรงนั้นทันทีเพราะทั้งสองคนตัวติดกันตลอดเวลาอยู่แล้ว และเมื่อเขาเดินเข้าไปเรื่อย ๆ ก็เห็นเพนตี้นั่งอยู่ตรงม้านั่ง แล้วก็มีผู้ชายอีกคนนั่งอยู่ใกล้ ไทเกอร์เห็นแบบนั้นก็เลือดขึ้นหน้าก่อนจะรีบขยับตัวลุกขึ้นเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาทันที
"ออกไปให้ห่างเพนตี้นะเว้ย"
เขาเดินเข้าไปผลักผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่เคียงข้างผู้หญิงของเขา จนหญิงสาวถึงจะทำหน้าเอือมระอาใส่
"มากไปแล้วนะไทเกอร์"
และเมื่อหญิงสาวพูดแบบนั้นเขาก็สะบัดหน้าใส่ทันทีด้วยความงอน คนมันรักคนมันหึงแต่กลับมาพูดแบบนี้มันน่าน้อยใจชะมัดเลย
"ใช่สิเกอร์ผิดเองแหละที่หวงเพนมากไป รักมากไป เกอร์ผิดเองแหละ"
เขาทำหน้าเศร้าเหลือบสายตามองไปยังหญิงสาวที่ตอนนี้จ้องมองมาทางชายหนุ่มด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่ได้มีความแคร์ใด ๆ แม้แต่นิดเดียว
"เราไม่ได้เป็นอะไรกันนะไทเกอร์ นายจะล้ำเส้นฉันมากเกินไปแล้ว"
"นอนด้วยกันเอากันแล้ว ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างนั้นเหรอ"
เขาพูดออกมาจนคนรอบข้างเริ่มหันมามองเราทั้งสองคน หญิงสาวทำหน้าตกใจเป็นอย่างมากก่อนจะรีบเก็บข้าวของแล้วลากไทเกอร์ออกไปจากตรงนั้นทันที พอลับสายตาผู้คนเพนตี้ก็ปล่อยมือของเขาก่อนจะจ้องมองใบหน้าด้วยความรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก
"เป็นบ้าอะไรเนี่ยพูดแบบนั้นทำไม นายไม่มีสิทธิ์จะมาพูดจาแบบนี้กับฉันนะ"
"ก็พูดความจริงนี่ แล้วเพนจะพูดก่อนทำไมว่าไม่ได้เป็นอะไรกับเกอร์ แล้วทำไมเกอร์ไม่มีสิทธิ์อะไร ทั้งที่เพนเป็นเมียของเกอร์"
หญิงสาวทำหน้าเซ็งอารมณ์อย่างถึงที่สุด เป็นผู้ชายที่ดื้อด้านและก็พูดไม่เข้าใจอะไรซะเลย
"นายพูดไม่เข้าใจหรือไง ฉันก็บอกอยู่ว่าให้นายมาจีบ ตอนนี้ฉันกับนายเราสองคนยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ฉันก็ยังไม่ได้คิดอะไรกับนาย แล้วฉันก็ไม่ได้รักนาย ไม่ต้องมาอ้างคำว่าผัวเมียอะไรทั้งนั้น เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม"
ตั้งแต่รู้จักกันมานี่คงเป็นประโยคที่ยาวที่สุดของเธอที่พูดออกมา ควรจะดีใจใช่ไหมที่ได้ยินเธอพูดยาวเหยียดขนาดนี้
"ไม่เข้าใจ แล้วก็ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น!"
"ไอ้บ้าไทเกอร์!"
"ทำไม!"
และในที่สุดงานมงคลก็มาถึง เป็นงานแต่งงานระหว่างไทเกอร์และเพนตี้ ส่วนคู่ของหนูนิดและเพนเฮาส์จะแต่งงานทันทีหลังจากที่ฝ่ายหญิงเรียนจบ ครอบครัวสุขสันต์ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอีกในตอนนี้เจ้าบ่าวกำลังนั่งรอเจ้าสาวอยู่ในห้องที่ทางออแกไนซ์จัดไว้ให้ และฤกษ์มงคลเวลา 9:09 น. จะมีพิธีสวมแหวนแต่งงานระหว่างทั้งคู่ ซึ่งตอนนี้เจ้าสาวก็เดินเข้ามากับเพื่อนอีกคนซึ่งก็คือหม้อแกง"สวยมาก!""เจ้าสาวสวยมาก!"ทุกคนร้องว้าวออกมาด้วยความตื่นเต้น เจ้าสาวดูมีน้ำมีนวลสวยงามที่สุด ภายในงานนี้ไม่มีใครที่โดดเด่นไปกว่าเธออีกแล้ว ช่างกล้องรัวชัตเตอร์กันอย่างเพลิดเพลิน หม้อแกงพาเพื่อนสนิทไปนั่งตรงที่ทางออแกไนซ์จัดเตรียมไว้ ก่อนจะเดินออกมาหาชายคนรักที่ยืนอยู่ไม่ห่าง"เพนสวยจังเลยค่ะ"และเมื่อหญิงสาวมานั่งลงตรงหน้า ชายหนุ่มก็เอ่ยชมไม่หยุด ตัวเธอเองก็รู้สึกเขินไม่น้อย ตลอดทางที่เดินเข้ามามีแต่เสียงซุบซิบพูดคุยกันว่าเธอดูสวยเหมือนเจ้าหญิง"ไทเกอร์ก็หล่อเหมือนกันนะ""แน่นอนอยู่แล้ว นี่ใครไทเกอร์เลยนะ"ทั้งสองคนจ้องมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข บรรยากาศตลบอบอวนไปด้วยความอบอุ่น เจ้าบ่าวสวมแหวนเพชร 15 กะรัตให้คนรักบนน
เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที พยาบาลก็ถือชาร์จอะลูมิเนียมเดินเข้ามาหาคุณหมอพร้อมจะยื่นมาให้เขาตรงหน้า"ผลการตรวจออกมาเรียบร้อยแล้วค่ะ""เป็นยังไงบ้างครับหมอ"ไทเกอร์ลุ้นเป็นอย่างมาก เขากำมือคนรักของตัวเองไว้แน่น รอดูว่าผลการตรวจจะเป็นไปอย่างที่คาดหวังหรือเปล่า เอาจริงตื่นเต้นมากเลยนะ เขาอยากมีลูกกับเพนตี้ใจจะขาด ครอบครัวอบอุ่นสมบูรณ์ดีที่สุดในชีวิตเลย"ผลการตรวจออกมาแล้วนะครับ คุณเพนตี้กำลังตั้งครรภ์ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ"และเมื่อผลการตรวจออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ไทเกอร์และคุณแม่ก็ลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นก่อนจะสวมกอดกันด้วยความดีใจเป็นอย่างมาก ส่วนคนที่ท้องก็จ้องมองไปยังทั้งสองคนก่อนจะส่ายหน้ายิ้ม ๆ"เย้! เมียผมท้องแล้วครับแม่ เพนตี้ท้องแล้วโว้ยยยย"หญิงสาวหัวเราะขำ ๆ กับท่าทีของชายคนรัก เล่นใหญ่ทั้งแม่และลูกเลย สงสัยจะอยากมีหลานมากจริง ๆ"ถ้าอย่างนั้นเรารีบเดินทางไปที่เชียงรายเถอะ ไปสู่ขอหนูเพนตี้กัน ถ้าเกิดว่าทางนั้นรู้ว่ากำลังท้องต้องตื่นเต้นมากแน่เลย""รีบไปกันเถอะครับแม่ ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะครับเอาไว้เดี๋ยวผมจะพาภรรยามาฝากครรภ์ที่นี่""ยินดีมากเลยครับ เดี๋ยวหมอให้ยาบำรุงไปก่อน ถ้าพร้อม
ในตอนนี้เพนเฮาส์ได้กลับมาจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดินทางไปเจอกับครอบครัวของหนูนิด และแอบบอกว่าเป็นเพื่อนรักของไทเกอร์ จึงทำให้ครอบครัวของหนูนิดไว้ใจ เพราะเป็นเพื่อนรักของหลานชาย แถมเขายังโทรมายืนยันว่าเพนเฮาส์เป็นคนดี เรื่องราวจึงจบลงอย่างง่ายดายส่วนไทเกอร์เขาเปลี่ยนวันหยุดมาให้ตรงกับวันหยุดของเพนตี้ และวันนี้เขาพาคนรักมากินบุฟเฟ่ต์ทะเลพรีเมี่ยมตามที่สัญญาเอาไว้ ว่าแต่บุฟเฟ่ต์บ้าอะไรก็ไม่รู้ราคาหัวละตั้ง 4,990 บาท กินแล้วมันลอยได้หรือยังไง"เมียจ๋ากินเยอะ ๆ เลยนะ"เขานั่งแกะกุ้งล็อบสเตอร์ให้กับเพนตี้ เอาอกเอาใจสารพัด และตอนนี้เธอกินไปแล้วสองตัว ขนาดตัวโคตรใหญ่ยังงงเลยว่ากินไปได้ยังไง"ทำไมเกอร์ไม่กินล่ะ""เห็นที่รักกินก็อิ่มแล้วช่วงนี้ดูอุดมสมบูรณ์นะเรา มีน้ำมีนวลขึ้นเยอะเลย"หญิงสาววางกุ้งล็อบสเตอร์ลงก่อนจะจ้องมองไปยังชายหนุ่มด้วยใบหน้าหงุดหงิด"เกอร์กำลังบอกว่าเพนอ้วนเหรอ"หญิงสาวเท้าสะเอวจ้องหน้าคนรักอย่างเอาเรื่อง กล้าดียังไงมาบอกว่าเธอดูอุดมสมบูรณ์ ทั้งที่ความหมายคือการบอกว่าเธออ้วน ไทเกอร์ได้ยินแบบนั้นก็รีบปฏิเสธพัลวัน"ไม่ใช่ หมายถึงว่าเมียจ๋าสวยขึ้นไงจ๊ะ อึ๋มขึ้นด้วย
ทางด้านของเพนเฮาส์เขาเพิ่งจะได้สติ ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า เมื่อเห็นใบหน้าของคนรักอยู่ตรงหน้าก็ตกใจรีบขยับตัวลุกขึ้นจนตัวเองเจ็บตัวรีบกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัว หนูนิดเห็นแบบนั้นก็ตกใจ รีบขยับตัวลุกขึ้นประคองชายหนุ่มเอาไว้ก่อนจะเอ็ดเขาเสียงไม่ดังมากนัก"อย่าเพิ่งลุกสิคะเดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก""หนูนิดให้อภัยพี่แล้วใช่ไหม แล้วตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน"เขากุมขมับตัวเองเอาไว้ หันไปมองโดยรอบด้วยความมึนงง ก่อนหน้านี้จำได้ว่าตัวเองอยู่ที่คอนโด ดื่มเหล้าเมาทั้งวันทั้งคืน ตอนนั้นกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ว่าหลังจากนั้นก็ภาพตัดไปเลย"อยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ พี่ไทเกอร์บอกว่าพี่เพนเฮาส์จะได้ผ่าตัด แต่ดูจากสภาพในตอนนี้... อย่าบอกนะคะว่าพี่ทั้งสองคนโกหกหนูนิด"ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่ากำลังโดนหลอกอยู่ เพราะสภาพของคุณที่จะเข้าห้องผ่าตัดไม่น่าจะเป็นแบบนี้ เธอเตรียมจะลุกขึ้นออกไปแต่ทว่าชายหนุ่มก็ดึงรั้งตัวเข้าหาก่อนจะโอบก่อนเอาไว้แน่น"อย่าทิ้งพี่ไปเลยนะ พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีหนูนิด""แล้วทำไมพี่ถึงทิ้งหนูนิดได้ละคะ"หญิงสาวเอ่ยถามกลับไปซึ่งทำเอาชายหนุ่มอึ้งไปไม่น้อยเหมือนกัน ตัวเองยังทิ้งไปโดยไม่สนใจไยดี ทีแบ
ทั้งสองคนเห็นประตูถูกเปิดออกและมีคุณหมอเดินออกมาพร้อมกับพยาบาล ก็รีบขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งเข้าไปหาทันที"หมอคะ พี่ชายหนูเป็นยังไงบ้างคะ"เธอเอ่ยถามคุณหมอเสียงสั่น ไทเกอร์กุมมือคนรักเอาไว้ หันมามองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาให้กำลังใจกันและกัน"ตอนนี้ไม่เป็นอะไรมากแล้วครับ คนไข้พักผ่อนน้อยร่างกายอ่อนแรงมาก จนหกล้มหัวหัวแตกตอนนี้หมอทำแผลให้เรียบร้อยแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง"เธอได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอที่ช่วยเหลือพี่ชายของเธอ"ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ"คุณหมอยิ้มให้กับทั้งสองคนก่อนจะเดินออกไปทันที เขาเหลือบสายตามองคนรักก่อนจะส่งยิ้มไปให้"ไม่ร้องแล้วนะ""อื้ม ขอบคุณนะคะที่ช่วยพาพี่เพนเฮาส์มาส่งโรงพยาบาล"เขาอมยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจากกุมมือพาเธอเดินออกไปจากหน้าห้องฉุกเฉิน เดี๋ยวอีกสักพักพยาบาลน่าจะพาเพนเฮาส์ขึ้นไปยังห้อง VIP"ก็พี่เขยนี่นาต้องช่วยอยู่แล้ว"หญิงสาวหันหลังกลับไปมองยังประตูห้องฉุกเฉิน ก่อนจะทำหน้าเศร้าหมองเพราะรู้สึกสงสารพี่ชาย"หนูนิดก็ใจแข็งจริง ๆ เลย ไม่รู้จะช่วยพี่เพนเฮาส์ยังไงแล้ว"ไทเกอร์กินมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะหยิบโทรศัพท์
ในเวลานี้เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อก็เลยคิดว่าออกไปหาหญิงสาวในตอนนี้เลยจะดีกว่า อยู่กับแม่เดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกันอีก เรื่องเก่าตั้งนานมาแล้วขุดมาพูดอยู่ได้ ทั้งแม่ทั้งเพื่อนเลย เฮ้อ"ถ้างั้นผมไปหาเพนนะครับ""เหมือนว่าหนูเพนตี้จะออกไปพื้นที่กับไกด์นะลูก"เขาที่กำลังจะเดินออกไปต้องหยุดชะงัก แล้วหันกลับมามองใบหน้าของคุณแม่ด้วยความสงสัย"ทำไมถึงให้เพนตี้ออกพื้นที่ครับ""ก็หนูเพนตี้ขอแม่ออกไปเองจะห้ามได้ยังไงล่ะ"คุณแม่พิงโซฟาก่อนจะหันมามองใบหน้าของลูกชายพร้อมกับยิ้มออกมา เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปตามตัวที่ไหนก็เลยคิดว่าการอยู่กับแม่น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด"งั้นผมรอตรงนี้ก็ได้""ตามสบายจ้ะ"สามชั่วโมงต่อมา...เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของคุณแม่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขยี้ตาของตัวเองก่อนจะลืมตาขึ้นมองว่าใครกำลังเข้ามา อากาศมันเย็นไปหน่อยก็เลยเผลอหลับไป และเมื่อเขาเห็นประตูถูกเปิดออกก็ยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของคนรักกำลังเดินเข้ามา"น้าลีเรียกหนูเหรอคะ""จ๊ะ มีคนมาหาน่ะ"เขาเห็นคนรักก็รีบขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งไปสวมกอดเธอทันทีด้วยความคิดถึง"ทำไมไม่รับโทรศัพท์เกอร์ ทักไลน์ไปก็ไม่ตอบ คอนโดก็