Share

แพ้บุหรี่

last update Last Updated: 2025-08-26 16:16:14

ละสายตาจากแล็ปท็อปที่กำลังเคลียร์คิวของลูกค้าวันนี้ บางส่วนขอเลื่อนคิวออกไปเพราะไม่สะดวกมาวันนี้ ด้วยเหตุผลเรื่องฝนฟ้า ไม่สะดวกต่อการเดินทาง บางคนไม่ได้อยู่จังหวัดนี้ แต่เลือกที่จะมัดจำจองคิวกับทางร้านเพราะความชอบส่วนตัว และการเลื่อนคิวเป็นไปได้ยากมาก เพราะหากเลื่อนมันก็มักจะไปชนกับคิวของลูกค้าท่านอื่น หากยืนยันที่จะเลื่อนคิวให้ได้ก็จะต้องทนรอนานหน่อย แต่หากไม่เลื่อนก็คงต้องยกเลิกไปเลย ซึ่งนั่นเป็นการตัดสินใจของลูกค้า และดูท่าแล้ววันนี้ฝนคงตกทั้งวัน

“เฮีย…” หุบปากเข้าหากัน เมื่อมือใหญ่ของศิราชยกขึ้นห้ามไม่ให้พูด ไม่นานลูกค้าที่เพิ่งสักเสร็จก็เดินออกมาจากห้อง หันไปออกใบเสร็จชำระเงินส่วนที่เหลือ แนะนำวิธีการดูแล หยิบร่มมาถือไว้ เดินไปส่งลูกค้าขึ้นรถ

“ขอบคุณที่ไว้ใจร้านของเราครับ” ยิ้มส่งให้ลูกค้า มองตามรถที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป ใช่ว่าที่ร้านคนเยอะตามกระแส เขามั่นใจว่าบริการดีด้วย คำพูด การแนะนำ ฝีมือ คุ้มค่ากับราคาแสนแพงที่แรกมากับคำว่าคุณภาพแน่นอน

หยิบกล่องข้าววางลงบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา มีแจกันวางอยู่ตรงกลาง มองใบหน้าอ่อนใสของเฟรญ่าที่นอนหลับคอพับคอเอียงอยู่บนโซฟา

ทำไมเธอถึงชอบทำให้เขาเป็นห่วง

รู้ว่าฝนตกแต่ดั้นด้นที่จะตากฝนมาส่งข้าวส่งน้ำที่ร้าน ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องรีบขนาดนั้น จะให้เด็กในร้านช่วยถือของมาก็ได้ และพกร่มมาหนึ่งอัน แต่เฟรญ่ากลับแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว ตากฝนมาจนตัวเปียก หากจะพูดว่าวันนี้ลูกค้าเยอะไม่มีคนว่าง ก็เป็นไปไม่ได้ วันนี้ฝนตกแม้จะมีลูกค้า ทว่าน้อยกว่าทุกวันมาก

เปิดกล่องข้าวออก ตักข้าวเข้าปากได้คำเดียว เธอก็ขยับตัว ดวงตากลมกะพริบ ดันตัวลุกขึ้นนั่ง พอเห็นว่าเขานั่งอยู่ก็ขยับตัวเข้ามานั่งใกล้เขา

“สักเสร็จแล้วเหรอคะ”

ชอบถามคำถามอะไรโง่ๆ อีกแล้ว

“อืม” เขาตอบ ใช้ช้อนคันเดียวกับที่ตักเข้าปากเมื่อครู่ ตักข้าวชิดริมฝีปากของเธอบ้าง เฟรญ่าอ้าปากรับ เคี้ยวข้าวในปากเงียบๆ เพราะเธอยังไม่ได้กินข้าว ยื่นใบหน้าเข้าไปดูนาฬิกาบนข้อมือของศิราช พบว่าเกือบบ่ายโมงแล้ว

“ทำไมศิราชไม่ปลุกเฟรญ่าล่ะคะ”

“ไม่ปลุกเธอก็ตื่นเองได้ไม่ใช่เหรอ” หันมาสบตากับเธอเชื่องช้า มองเจ้าตัวที่ทำแก้มป่องใส่เขา “เรื่องที่ฉันพูด ว่าอย่าให้ฉันเห็นเธอเปียกฝนแล้วมานั่งนิ่งในห้องแอร์เย็นๆ แบบนี้อีกฉันไม่ได้พูดเล่น”

“เฟรญ่าไม่ได้ตั้งใจตัวเปียก..”

“รู้ แต่ให้ระวังหน่อย รู้ว่าตัวเองไม่สบายง่ายแค่ไหนก็ให้ระวัง” เฟรญ่าป่วยบ่อย จุดเริ่มต้นที่ได้ไปพักที่บ้านเขาก็เพราะเหตุผลนี้

ยกมือขึ้นปิดปากปิดจมูก จามออกมาติดต่อกัน ดันตัวลุกขึ้น ขยับออกไปยืนให้ห่างจากโซฟา หันหลังให้ศิราชที่นั่งอยู่

“มึงไปสูบบุหรี่มา?” เลิกคิ้วมองไอชิที่เดินเข้ามาในร้าน หยิบกล่องข้าวเดินมานั่งบนโซฟา ทำหน้างงใส่กับคำถามที่อยู่ๆ ก็ถูกยิงใส่ ก่อนจะพยักหน้ารับ

“กฎของที่นี่ว่าไง” กดเสียงต่ำถาม หยิบทิชชูเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กซึ่งยืนหันหลังน้ำมูกน้ำตาไหล จามไม่หยุดอยู่ไม่ไกล

“เฮียน้องเฟรญ่าแพ้กลิ่นบุหรี่เหรอ” กฎของที่นี่คือห้ามสูบบุหรี่ แต่เขาไปสูบนอกร้าน และไกลออกไป สูบเสร็จถึงได้เดินกลับเข้ามา ทว่ากลิ่นยังคงติดตัว พอใคร่ครวญถึงคำถามที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ กับอาการของน้องเฟรญ่า เขาถึงได้ผงะออกมา คิดได้ว่าที่อยู่ๆ เฮียใหญ่ก็เลิกสูบบุหรี่ และตั้งกฎนี้ขึ้นมาทันทีที่น้องเฟรญ่าย้ายมาอยู่ด้วย เป็นเพราะอะไร

“เออ! ถอยออกไปก่อน” ดันตัวลุกขึ้น หยิบกล่องข้าวออกไปนอกร้าน หยิบร่มมาถือไว้ เดินไปที่คาเฟ่ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร วันนี้คงได้กินข้าวที่นี่ก่อน

พลิกตัวเฟรญ่าให้หันมาหาเขา แกะมือเธอที่ใช้ปิดปากปิดจมูกอยู่ออกอย่างนุ่มนวล ใช้ทิชชูเช็ดจมูก สลับกับใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้เธอ เฟรญ่าแพ้กลิ่นบุหรี่ ร่างกายเธอก็เป็นเสียอย่างนี้จะไม่ให้เขาออกกฎขึ้นมาได้อย่างไง คนในค่ายมวยเป็นผู้ชายทั้งหมด ในร้านสักก็ผู้ชายทั้งนั้น และเรื่องบุหรี่กับผู้ชายที่ไม่ได้รักสุขภาพของตัวเองก็เป็นของคู่กัน จะสูบกันที ก็ต้องไปแอบสูบ

“ไปล้างหน้าเถอะ” เช็ดน้ำมูกออกให้เธอ เฟรญ่าพยักหน้ารับเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เขาจึงเดินนำทิชชูไปทิ้ง ไม่นานคนตัวเล็กก็เดินกลับเข้ามาหาเขา เบียดชิดร่างกายของตัวเองกับร่างกายของเขา สอดแขนกอดเอวสอบ เกยคางลงบนอกเงยหน้ามองคางบึกบึนของเขา

“เฟรญ่าแพ้บุหรี่..”

“ไอชิไม่รู้ว่าเธอแพ้”

“เฟรญ่าเบื่อที่ตัวเองแพ้อะไรพวกนี้จังเลยค่ะ”

“อย่าบ่น ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น” ดึงเธอให้นั่งบนโซฟาตัวเดิม กลิ่นเริ่มหายไปแล้ว เธอยังมีอาการคันจมูกอยู่ ใช้ช้อนตักข้าวป้อนเธอ สลับกับตักเข้าปากของตัวเอง

“อร่อยไหมคะ” มองข้าวคำสุดท้ายที่ถูกตักเข้าปากเขา เฟรญ่าเลื่อนมือไปหยิบกาแฟของศิราชขึ้นดูด

“ถามทำไม”

“เฟรญ่าแค่อยากฟังคอมเมนต์จากศิราชค่ะ”

“ฉันไม่เรื่องมากเรื่องกิน แต่เธอทำอร่อยกว่า” กะพริบตามองใบหน้าคม เขารู้ด้วยเหรอว่าข้าวในกล่องเธอไม่ได้เป็นคนทำ “เวลาเธอทำมันจะอร่อยกว่านี้ แต่กินได้” เธอนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาพูดแบบนี้แปลว่าศิราชจำรสชาติที่เธอทำได้

แม้เขาจะบอกว่าข้าวในกล่องที่เพิ่งกินไปไม่อร่อยเท่าที่เธอทำ แต่เธอกลับอมยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ไม่เอียงอายที่จะยิ้มส่งให้เขา

“ข้าวในกล่องมิลล์เป็นคนทำค่ะ”

เขาพยักหน้ารับ

‘ก็พอรู้’

หยิบน้ำเปล่าในขวดยกขึ้นดื่ม เฟรญ่ามองลูกกระเดือกของเขาที่ถูกขยับเพราะศิราชกำลังกลืนน้ำลงคอ ดูสิขนาดกินน้ำยังดูเท่มาก ผู้ชายคนนี้จะไม่ฮอตยังไงไหว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทวงรักเมีย   แต่งงาน (จบ)

    6 วันถัดมา..เช้าวันใหม่ศิราชวิ่งออกกำลังกายตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เขาวิ่งทว่าเฟรญ่าปั่นจักรยานตาม เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ตอนเช้า และเพื่อไปเที่ยวดูสวนทุเรียนของคุณพ่อด้วยคุณพ่อกับคุณแม่เข้าสวนตั้งแต่เช้าไปดูคนตัดทุเรียน เฟรญ่าจึงถือโอกาสออกกำลังกายขาด้วยการปั่นจักรยานเพื่อไปหาท่านขับมาถึงหน้าสวน ตั้งขายั้งกับพื้น เดินเข้าไปในสวนพร้อมกับศิราช เฟรญ่ามาอยู่ที่นี่เกือบอาทิตย์ เธอยังไม่ได้เข้าสวนทุเรียนสักครั้ง มัวแต่หากิจกรรมทำกับครอบครัว เป็นต้นว่าพาคุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันใกล้ๆ บ้าน ให้คุณพ่อได้ทำความคุ้นเคยกับว่าที่ลูกเขย“เดินดีๆ” มองเฟรญ่าที่เดินเซไปเซมาเพราะพื้นไม่เสมอเรียบเหมือนพื้นปูน “บอกว่าเป็นลูกชาวสวนใครจะเชื่อ” ส่ายหน้ามองเธอ“เฟรญ่าไม่ได้ใส่ผ้าใบมานี่คะ เลยเดินไม่คล่องตัว” ชายหนุ่มจับมือเธอ ตรงเข้าไปหาคุณพ่อ การปรากฏตัวพร้อมกันของทั้งคู่ เหมือนเป็นการประกาศว่าที่ลูกเขยของที่นี่ก็ไม่ปาน“น้องเฟรญ่าของพี่~” เสียงยานเรียกเฟรญ่าดังขึ้นบนต้นทุเรียน “จำพี่ได้ไหมจ๊ะ” บอกตรงจำไม่ได้ แต่เฟรญ่าก็เลือกที่จะอมยิ้มส่งให้ “จำไม่ได้แต่พี่จำน้องเฟรญ่าได้นะจ๊ะ คนสวยของพี่~”

  • ทวงรักเมีย   ให้ผ่าน

    ดินเนอร์มื้อค่ำง่ายๆ เกิดขึ้นหน้าบ้าน ศิราชกับคุณพ่อไม่มีบรรยากาศอึมครึมต่อกัน แถมยังดูเข้ากันง่ายขึ้นเพราะกินเหล้าเหมือนกันชายหนุ่มตักหมูกระเทียมให้เธอเพราะเห็นว่าอยู่ไกลมือ การใส่ใจของศิราชอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ทั้งหมด แม้จะมีการดูแลคุณพ่อคุณแม่ของเฟรญ่าเพื่อเรียกคะแนนอยู่บ้าง แต่การดูแลลูกสาวของตนดูออกง่ายมาก ว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติเพราะทำแบบนี้ให้เฟรญ่าบ่อย“เฟรญ่าอยากกินกุ้งหรือเปล่าลูกรัก” คุณพ่อพูดและหันไปมองศิราช “ให้พ่อตักให้ไหม”“เฟรญ่าแพ้กุ้งครับ” ศิราชพูดดักเอาไว้“ฮึ” ยกแก้วเหล้าขึ้นกิน พูดไปงั้นแหละ อยากรู้ว่าเขยจะรู้หรือเปล่าว่าเฟรญ่าแพ้ ดูจากการตอบสนองจากคำถามที่ถามเฟรญ่า สีหน้าก็ออกทันที“ถ้าเฟรญ่ามาอยู่ที่นี่ คงมีหนุ่มจีบตรึม เนื้อหอมมากรู้หรือเปล่า” คุณพ่อพูดกับใครไม่มีใครรู้ เสมือนพูดขึ้นมาลอยๆ“แต่เฟรญ่าชอบศิราชค่ะ” พูดกับคุณพ่อยิ้มๆ ได้รับเสียงหัวเราะจากคุณแม่เป็นการยกใหญ่“คุณก็อย่าแกล้งลูก” คุณแม่หันไปพูดกับคุณพ่อ“แล้วศิราชล่ะชอบลูกสาวพ่อหรือเปล่า ไม่สิรักหรือเปล่า ชอบมันพูดง่ายเกินไป มาเพื่อที่จะขอเฟรญ่าแต่งงานคงไม่ตอบว่าแค่ชอบหรอกใช่ไหม?”เฟรญ่าอมยิ้

  • ทวงรักเมีย   มีความสุข

    “คุณพ่อจะไปไหนคะ” เดินเข้ามาในบ้าน เห็นคุณพ่อสวมเสื้อแขนยาว เหมือนจะออกไปไหน แถมยังโยนเสื้อแขนยาวอีกตัวให้ศิราชอีกด้วย ชายหนุ่มเองก็รับเอาไว้ได้ทัน“จะเข้าสวน พ่อหนุ่มตามมา จะเป็นลูกเขยของชาวสวน ก็ต้องเก็บทุเรียนให้เป็น”“คุณพ่อ…” เรียกท่านเสียงอ่อน มองตามหลังท่านที่เดินผ่านเธอไป ศิราชเองก็สวมเสื้อและเดินตามท่านไปเช่นกันเฟรญ่ากังวล เพราะกลัวว่าคุณพ่อจะทดสอบอะไรแผลงๆ ถึงศิราชจะไม่ใช่คนที่ใช้ชีวิตฟู่ฟ่าหรูหรา แต่เขาก็ไม่เคยลำบาก แถมตอนนี้แดดยังร้อนจัดอีกด้วย ขนาดเธอเป็นลูกเจ้าของสวน เฟรญ่ายังไม่เคยเก็บทุกเรียนเองเลยมันต้องใช้ความชำนาญ ซึ่งมีคนงานคอยทำหน้าที่นี้อยู่แล้วคุณพ่อนะคุณพ่ออยากเดินตามทั้งสองคนไป แต่คุณแม่จับแขนเธอเอาไว้ พร้อมส่ายหน้า“เราซื้ออะไรมาเยอะแยะจ๊ะ พาแม่ไปดูหน่อยสิ เตรียมมื้อเย็นให้ทั้งสองคนนั้นด้วย กลับมาคงเหนื่อยและหิว” มองคุณแม่อ้อนๆ แต่ในเมื่อท่านยังคงส่ายหน้าเฟรญ่าจึงจำยอม เดินตามท่านไปในครัว“ตอนนี้ทำงานอะไร” เปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างคนขับ คุณพ่อของเฟรญ่าใช้รถกระบะขับเข้าไปในสวนที่อยู่ห่างออกไป“เปิดร้านสักครับ มีหุ้นธุรกิจกับเพื่อนอีกนิดหน่อย” ตอบท่านอย่างตรง

  • ทวงรักเมีย   พ่อแม่เฟรญ่า

    สองอาทิตย์ต่อมา..เลื่อนกระเป๋าไปให้ศิราชยกขึ้นท้ายรถ เฟรญ่ายิ้มตั้งแต่ตื่นเช้า เธอทั้งตื่นเต้นมากและยินดีมาก เพราะวันนี้เป็นวันที่ศิราชจะเดินทางไปพบคุณพ่อกับคุณแม่ของเธอท่านเป็นคนต่างจังหวัด และศิราชต้องการขับรถไปเอง แม้จะเหนื่อยหน่อยแต่มันสะดวกต่อการเดินทาง จะแวะที่ไหนก็ได้ระหว่างทาง และเฟรญ่าชอบนั่งรถมากกว่านั่งเครื่องบิน“ไม่ต้องยก” หันมาพูดกับเธอ “พูดไม่ฟังเดี๋ยวโดน” เฟรญ่าย่นจมูกใส่เขา เธอแค่อยากช่วยเขายกกระเป๋าเอง อีกอย่างมันเป็นใบเล็ก“โดนอะไรคะ”“โดนจับจูบ ถ้าไม่อายเด็กในค่ายก็ลองยกอีกรอบ” เฟรญ่าหันไปมองเด็กในค่ายมวยที่มองตรงมายังเธอ ก่อนจะเบือนหน้าหนี“อายค่ะ ไม่ยกแล้ว” ก้าวขาถอยหลัง แต่เฟรญ่ากลับถูกดึงให้กลับเข้าไปชิดตัวเขา “อื้อออ” ชายหนุ่มจูบหนักๆ บนปากนุ่ม“ยิ้มตั้งแต่เช้า ตอนนี้ก็ยังไม่หยุดยิ้ม”“เหมือนคนบ้าไหมคะ” ยิ่งเขาพูดเธอก็ยิ่งยิ้มกว้างขึ้น“ไม่เหมือน” ส่ายหน้าตอบ “ไม่มีคนบ้าที่ไหนน่ารักเท่าเธอแล้วเฟรญ่า”“ฮืออออ” วางมือบนแผ่นอกกว้าง ก่อนจะกดหน้าลงเพื่อหลบซ่อนความเขินอายของตัวเองชายหนุ่มปล่อยตัวเธอ ยกกระเป๋าใบสุดท้ายขึ้นรถ ก่อนจะจูงมือเฟรญ่าไปขึ้นรถเพื่อออกเดินท

  • ทวงรักเมีย   ยอมแล้ว

    07.40 น.วางถ้วยข้าวต้มลงบนโต๊ะ มองคนตัวโตเดินลงบันไดตรงมาที่โต๊ะทานข้าว วันนี้เฟรญ่าทำข้าวต้มเองในครัว ไม่ได้ออกไปทำที่ร้านเฉกเช่นทุกวันชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะดึงเฟรญ่านั่งลงบนตัก เกยคางบนไหล่บอบบาง “วัดไข้ให้หน่อย” จับมือเล็กวางบนหน้าผากเขา “ยังมีไข้อยู่ไหม”เฟรญ่าอมยิ้ม หอมแก้มของชายหนุ่มเป็นการเอาใจคนป่วย “ตัวไม่ร้อนแล้วค่ะ” เมื่อคืนเธอคาดการณ์ว่าเขาอาจไข้สูง แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น หลังจากกินยา อาบน้ำ นอนพัก แปะแผ่นเจลลดไข้ ศิราชก็ไม่ไข้อีกเลย “ตัวเย็นมากเลย”“เพราะเพิ่งอาบน้ำมา” เฟรญ่าพยักหน้ารับ เพราะกลิ่นครีมอาบน้ำยังติดตัวเขาอยู่เลย “ป้อนหน่อย” มองข้าวต้มในถ้วย บอกเฟรญ่าชิดริมหูเฟรญ่าอมยิ้มน้อยๆ นานทีเธอจะเจอศิราชโหมดนี้ ใช้ช้อนตักข้าวต้มเป่าป้อนเขา ศิราชก็อ้าปากรับกินจนหมด วันนี้เขานอนตื่นสายกว่าทุกวัน อยากลุกไปออกกำลังกายตามความเคยชิน แต่ก็โดนเมียตัวน้อยห้ามเอาไว้ แถมยังขู่อีกด้วยว่า หากเขาดื้อ เธอจะขังเขาเอาไว้ในห้องตัวก็แค่นี้ยังมีหน้ามาขู่ ทว่าศิราชก็ยอมทำตาม“วันนี้หยุดทำงานสักวันดีไหมคะ”“เมื่อกี้ฉันมีไข้ไหม” เฟรญ่าส่ายหน้าตอบ “แสดงว่าหายแล้ว”“แต่อาจจะยังไม่

  • ทวงรักเมีย   ศิราชป่วย

    19.00 น.‘มึงอยากให้กูจัดการแบบไหน’ เสียงพูดธิเบศร์ดังผ่านมือถือเข้ามากระทบหูเขา ศิราชถอดถุงมือโยนใส่ถังขยะ เพราะพึ่งสักให้ลูกค้าเสร็จ ทว่ายังไม่เสร็จทั้งหมด ต้องมาทำต่ออีกในวันพรุ่งนี้“แล้วแต่ดุลพินิจ” ตอบเรียบๆ หันไปคว้าเสื้อแขนยาวมาพาดบ่า มองนาฬิกาบนข้อมือเพียงนิด “สองคนนั้นทำร้ายว่าที่น้องสะใภ้มึง”‘…’“น้องสะใภ้คนแรกของมึง”‘เออ’ ตอบรับอย่างหงุดหงิด รู้อยู่หรอกว่าเฟรญ่าเป็นว่าที่น้องสะใภ้ มีใครไม่รู้บ้าง ธิเบศร์เองก็เพิ่งรู้เรื่องว่าพ่อของเขาไปหาว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยตัวเอง ไปดูให้เห็นกับตา“จัดการให้เหมาะสมแล้วกัน”‘ไอ้เวร ทำไมมึงไม่จัดการเองวะ’“หรือมึงจะคอยตามเช็ดให้กู?” ศิราชจัดการเองได้ แต่เพราะเขาละเอียดไม่มากพอ เส้นสายไม่เยอะเท่าธิเบศร์ อารมณ์ร้อนดั่งไฟ เผลอพลั้งมือทำอะไรเกินกว่าเหตุคงไม่ใช่เรื่องดี “จะเอาอย่างนั้นก็ได้ กูไม่มีปัญหา”‘เฮ้อ เดี๋ยวกูจัดการเอง เก็บเงินเตรียมแต่งน้องสะใภ้กูแล้วกัน’“อย่าห่วง เฟรญ่าพร้อมเมื่อไหร่แต่งเมื่อนั้น”‘เออ กูรอดู’สายถูกตัดไป ชายหนุ่มเดินออกจากห้อง มองเฟรญ่าที่นั่งกินผัดไทยอยู่บนโซฟา ดวงตาคู่สวยมองซีรีเกาหลีบนหน้าจอไอแพด โดยมีไอชินั่งเล่น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status