หน้าหลัก / รักโบราณ / ทวงแค้นข้ามกาลเวลา / ตอนที่ 5 ข้าไม่ต้องการใช้ดาบของผู้อื่น

แชร์

ตอนที่ 5 ข้าไม่ต้องการใช้ดาบของผู้อื่น

ผู้เขียน: ชาไทยเย็น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-27 08:26:16

 

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน”

“เหตุใดเจ้าถึงเย็นชาเช่นนี้ แม้ว่าเจ้าจะชำนาญทั้งหมดนั่นและยังมีวิชาแพทย์ติดตัวแต่ก็น่าจะทำตัวเป็นมิตรมากกว่านี้หน่อยก็ได้กระมัง ข้าก็มิใช่ศัตรูของเจ้าเสียเมื่อไหร่กันจริงหรือไม่”

เขามองไปที่มือของนางที่ถือเพียงกิ่งไม้ที่เอาไว้ใช้แทนดาบเท่านั้น เขามองไปยังใบหน้าที่หันหลบเขาไปอีกทางหนึ่งเพราะคำพูดนั้น

 ไป๋ซูเม่ยในยามนี้ไม่อาจไว้ใจผู้ใดได้เพราะในชาติที่แล้วของนางตอนที่ยังเป็นอิ่นหลงนางถูกคนที่นางรักจนแทบจะถวายชีวิตให้เขาได้...ทรยศนางอย่างเลือดเย็น

“รับนี่ไปสิ”

“ท่านหมายความว่าอย่างไร”

นางมองไปยังมือที่ยื่นดาบมาให้ตรงหน้า ดาบที่มีตราสัญลักษณ์ของเขาและสกุลเว่ยอยู่

“ดาบของข้า มอบให้เจ้า”

“ข้าไม่ต้องการใช้ดาบของผู้อื่น”

“เจ้าเข้าใจข้าผิด ข้ามอบให้เจ้าเพียงเพื่อฝึกในเวลานี้เท่านั้น แต่ข้าจะสั่งทำดาบให้เจ้าใหม่แต่ในเมื่อตอนนี้เจ้าใช้เจ้านั่น…แทนการใช้ดาบเจ้าไม่มีทางรู้ได้เลยว่าวิชาที่แท้จริงจะต้องกำหนดปราณและใช้แรงเท่าใด เจ้าลองดูก่อนก็ได้”

สายตาที่แน่วนิ่งของเขาทำให้ไป๋ซูเม่ยรู้สึกว่าเขาแตกต่างกับเสวียนอวี่ เขาดูไม่มีพิษไม่มีภัยแต่เพราะนางก็คิดเช่นนี้กับองค์ชายเสวียนอวี่นางจึงถูกเขาทรยศเพียงเพราะคิดว่านางจะไปทำร้ายว่าที่คู่หมั้นของเขาเท่านั้น

“ข้าไม่ชอบใช้ดาบของผู้อื่น”

“เฮ้อ…แต่หากว่าเจ้าพบศัตรูเข้าจริง ๆ หรืออยากจะฆ่าคน เพียงแค่กิ่งไม้นั่น…ใช้แทนดาบไม่ได้หรอกนะหากว่าเจ้าอยากจะสำเร็จเร็วขึ้น เจ้าต้องใช้มัน”

เขาพูดทำให้นางคิดได้ จริงด้วย หากว่านางอยากจะแก้แค้นและลงโทษผู้ที่เคยฆ่านาง สิ่งที่นางต้องมีตอนนี้คืออาวุธที่แข็งแกร่งและตัวเองที่เข้มแข็งมากกว่านี้ นางมองดาบในมือของซื่อจื่อที่ยื่นมาให้นางด้วยไมตรี เขาน่าจะมีอายุมากกว่าไป๋ซูเม่ยราว ๆ สี่ถึงห้าปีได้

“เช่นนั้นข้าก็ขอรบกวนแล้ว”

“ข้า…เจ้าจะว่าอะไรหรือไม่หากว่าข้าจะขอนั่งชมเงียบ ๆ จะไม่รบกวนเจ้า”

“ตามใจท่าน ข้ามิได้เป็นเจ้าของที่นี่ ท่านอยากทำสิ่งใดก็ทำเถอะ”

“ตรงดีเหลือเกิน ตรงจนใจเจ็บ”

เขาเลือกจะนั่งที่โขดหินใกล้ ๆ เพื่อเห็นท่วงท่าและวรยุทธ์ของนางเมื่อนางเริ่มใช้ดาบของเขาที่มีน้ำหนักมากกว่าไม้ ไป๋ซูเม่ยเข้าใจที่เขาพูดกับนางในตอนนี้เอง เมื่อนางเปลี่ยนมาใช้ดาบแล้ว น้ำหนักมือและแรงที่ต้องใช้แตกต่างกันมากจริง ๆ

“นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้…”

“นั่นเพราะเจ้า…ฝึกกับกิ่งไม้จนชิน เจ้าลองกำหนดปราณใหม่แล้วค่อย ๆ ขยับมือ และคิดว่าดาบในมือของเจ้าเป็นนกที่มีอิสระและจะไม่ทำร้ายเจ้าของ เพียงแค่เจ้าเป็นเจ้านายของมันและให้มันทำตามคำสั่งของเจ้า อย่าลืมว่าต้องสั่งมันให้ได้ ดาบก็เหมือนคน คนก็ไม่ต่างจากดาบ ลองดูใหม่”

“ดาบไม่ต่างกับคน คนไม่ต่างกับดาบ”

“ใช่แล้ว หากเจ้าใช้เป็นดาบจะเชื่อฟังเจ้าและกำจัดศัตรูแทนเจ้าได้ลองดูใหม่อีกที เจ้าตั้งสมาธิก่อนและเพ่งลมปราณผสานกับดาบในมือ ผ่อนลมหายใจและเป็นหนึ่งเดียวกับดาบ เอาใหม่อีกครั้ง”

นึกไม่ถึงว่าเพียงแค่นางจิตสงบนิ่งและทำตามที่เขาพูด นางกลับออกท่วงท่าและใช้วิชาดาบที่เคยฝึกมาได้ยอดเยี่ยมมากกว่าเดิม ที่สำคัญคือนางรู้สึกว่าตัวเบาและพลังที่ส่งออกไปรุนแรงมากกว่าตอนใช้ไม้เสียด้วยซ้ำ

“ยอดเยี่ยมมาก เจ้าเข้าใจได้รวดเร็วมาก ๆ”

“ขอบคุณซื่อจื่อ ข้าเข้าใจแล้วขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือเจ้าค่ะ”

นางยิ้มด้วยความดีใจและหันมาขอบคุณเขาอย่างจริงใจ รอยยิ้มนั้นทำให้หัวใจเขากระตุกเล็กน้อยและรู้สึกราวกับภาพรอบ ๆ นั้นหยุดนิ่งไปพักหนึ่ง

“อ้อ…เจ้าก็ต้อง…หมั่นฝึกฝน เอาล่ะดาบนี่ข้าให้เจ้ายืมก่อนหากว่าเจ้าอยากฝึกเพิ่ม”

“ขอบคุณคุณชายแต่ตอนนี้ดึกแล้วข้าคิดว่าเราควรจะกลับลงไปได้แล้ว”

“อ้อ…งั้นหรือ เช่นนั้นก็…ไปกันเถอะ”

สองคืนหลังจากนั้นเขาก็ไปเป็นเพื่อนนางเพื่อฝึกฝนและเริ่มสอนนางบางกระบวนท่าที่เขาร่ำเรียนมาจากสำนักอื่นแลกเปลี่ยนกับนางด้วยเช่นกัน

 แม้ว่าในเวลาปกตินางจะไม่ค่อยพูด แต่หากว่าเป็นตอนนี้ที่นางฝึกวรยุทธ์ นางมักจะมีคำถามมากมายเพื่อให้เขาพูดและนางเองก็จะตั้งใจฟัง

“เช่นนี้นี่เอง หยินและหยางสัมพันธ์กันพลังของดาบที่ส่งออกไปกับปราณจะยิ่งเพิ่มพูนความรุนแรง”

“ใช่แล้ว แต่ดาบก็ต้องเหมาะกับเจ้าของด้วยเช่นกัน นี่ซูเม่ยเจ้าอยากร่ำเรียนวรยุทธ์เพื่อจะปกป้องตัวเองหรืออยากจะแก้แค้นล่ะ”

“ข้า….ท่านถามทำไม”

“ก็แค่ถามดู เจ้าบอกเองว่าหลังจากนี้ข้าลงเขาไปเราก็เป็นคนแปลกหน้าแต่ข้าคิดว่ามันไม่ควรเป็นเช่นนั้น ว่าแต่เจ้าเถอะ เจ้าจะทำสิ่งใดต่อไปจะกลับสกุลไป๋หรือไม่”

“ไม่ ข้าจะเดินทางไปเมืองหลวง”

“ไปเมืองหลวงงั้นหรือ เจ้าจะไปที่นั่นทำไม”

“ข้า….ไปหาคนรู้จัก”

“น่าจะไม่ใช่รู้จักกันด้วยดีสินะ สีหน้าเจ้าราวกับอยากจะฆ่าคน”

“ท่าน…เหตุใดจึงได้…”

“เจ้าอาจจะไม่รู้แต่เจ้ามักจะไม่ค่อยพูดมากแต่ทุกอย่างมันส่งผ่านออกมาทางแววตาเจ้าจนข้าเคยชินน่ะ สีหน้าเช่นนี้มิใช่แววตาที่อยากไปหามิตร แต่จะไปเพื่อฆ่าศัตรูต่างหาก ข้าเดาถูกใช่หรือไม่”

“คุณชาย บางครั้งข้าก็รู้สึกว่าท่านสมกับเป็นซื่อจื่อของหยางโจวยิ่งนัก แต่บางครั้ง….”

“บางครั้งทำไมหรือ….”

“บางครั้งข้าก็คิดว่าท่าน เหมือนกับพวกแม่ค้าที่กินแตงและนั่งนินทาชาวบ้านไปวัน ๆ น่ะสิ”

“นี่เจ้า…หน็อย เจ้ากล้าล้อข้างั้นหรือไป๋ซูเม่ย!!”

“ฮ่า ๆ ข้าเปล่านะเจ้าคะคุณชาย”

“เอาล่ะ ไหน ๆ เจ้าก็ยืมดาบข้าใช้มาหลายคืนแล้ว ขอทดสอบวิชาเจ้าสักหน่อยสิ”

“ให้ข้า…”

“ใช่ ข้าจะใช้ดาบไม้ของเจ้าสู้กับเจ้า หากแพ้…ข้าจะให้เจ้าขอข้าได้หนึ่งอย่าง แต่หากว่าข้าชนะ…ข้าจะขอเจ้าหนึ่งอย่าง”

“คำไหนคำนั้น”

“ได้ ไป๋ซูเม่ย คำไหนคำนั้น เข้ามาเลย”

ท่ามกลางแสงจันทร์เต็มดวงในคืนวันเพ็ญ พวกเขาประลองยุทธ์กันบนลานที่เริ่มโล่งเตียนเพราะนางใช้เวลาฝึกที่นี่มาเกือบสองเดือนก่อนที่เขาจะบาดเจ็บและมาพักที่นี่ และอีกหนึ่งเดือนที่เว่ยเฟิงหรงอยู่กับนางที่นี่ ความสนิทสนมของพวกเขาจึงเริ่มก่อตัวขึ้นทีละนิด

“ยอดเยี่ยมมาก เจ้ารวดเร็วจนจะตามข้าทันแล้ว…แต่ว่า ยังไม่มากพอนะไป๋ซูเม่ย”

“คุณชายเว่ยท่านอย่ามัวแต่พูดมาก ข้าจะโจมตีท่านอีกครั้งแล้วนะ”

“เจ้าคิดว่าข้ากลัวงั้นหรือ มาเลย”

เว่ยเฟิงหรงนั้นมีวรยุทธ์สูงกว่านางมาก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยอมผ่อนให้นางเพื่อที่นางจะได้ค่อย ๆ ฝึกฝนและเรียนรู้จากการเคลื่อนไหวของเขา

อีกสองวันเขาจะลงจากเขาแล้วเพราะตามกำหนดการที่วางไว้ เขาเองก็ต้องไปแล้วเช่นกันแม้ว่าจะอยากอยู่ที่นี่นานกว่านี้อีกหน่อยก็ตาม

“คุณชายเว่ย ล่วงเกินท่านแล้ว”

ดาบของเขาถูกพาดมาแต่เว่ยเฟิงหรงถอยจนพ้นและตีลังกากลับเพื่อหนีนางได้อีกครั้งและใช้ไม้ในมือพาดมาที่ไหล่ด้านหลังของไป๋ซูเม่ย นางต้องยอมรับว่าแพ้ความเร็วของเขาแล้วจริง ๆ 

“ดูเหมือนว่าข้าจะชนะเจ้าแล้วนะซูเม่ย”

นางยิ้มและหันไปคำนับเขาอีกครั้งและยอมรับแต่โดยดี

“ข้าแพ้แล้วคุณชายเว่ย ขอบคุณที่ออมมือ”

“ดังนั้น..ข้าทำตามข้อตกลงได้แล้วใช่หรือไม่”

“ใช่ ว่าแต่ท่านจะขอสิ่งใดเจ้าคะ”

“เจ้าหลับตาก่อนสิ”

“เหตุใดต้อง….”

“ชู่วว….คนแพ้ไม่มีสิทธิ์ถามนะ”

นางหลับตาลงตามข้อตกลง แม้จะไม่เข้าใจว่าเขาจะทำสิ่งใดก็ตาม ไม่นานนางก็รู้สึกถึงบางอย่างที่มาสัมผัสที่แก้มของนางตามด้วยเสียงกระซิบที่แผ่วเบาของผู้ที่กำลังสูดลมหายใจจากแก้มของนางเข้าไปจนสุด

“ข้าเพียงแค่…ขอค่าสอนเพลงดาบเท่านั้นเอง”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนพิเศษ 5 เขาลั่วซาง (อีกครั้ง)

    “อ๊าา!! อ๊าา….ท่านพี่ ข้าบอกท่านไปแล้วว่าอย่าหักโหมอย่างไรเจ้าคะ อ๊ะ!!”“อีกรอบเดียวนะซูเม่ย อีกครั้งเดียวจะให้เจ้าพักแล้ว อาา…เม่ยเอ๋อร์!!!”ร่างหนาค่อย ๆ หย่อนกายลงข้าง ๆ พระชายาที่นอนหันหลังและหอบอยู่ข้าง ๆ เขา เมื่อบทรักครั้งสุดท้ายจบลงเว่ยเฟิงหรงหันมากอดนางที่นอนหันหลังให้เรือนผมนางยุ่งเหยิงเพราะเขา หลังที่เคยเนียนงดงามบัดนี้เต็มไปด้วยรอยจ้ำสีแดงเกือบทุกแห่งที่เขาจะฝากรอยเอาไว้ “เจ้าอยากอาบน้ำหรือไม่”“ข้า….ลุกไม่ไหว”“ข้าเองก็ลุกไม่ไหวแล้วเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นก็นอนพักผ่อนก่อนเถิดเอาไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยไปอาบด้วยกันแล้วค่อยขึ้นไปที่เขาลั่วซาง”“เฟิงหรง”“หืม”“ท่านคิดว่าข้าเอาแต่ใจตัวเองหรือไม่เจ้าคะที่…ขอให้ท่าน….”เขาหันมาดึงนางเข้ามากอดกับแผงอกกว้าง เขาดึงผ้าห่มมาห่มให้เขาและนางก่อนจะพูดกับนาง“เจ้าน่ะหรือจะเอาแต่ใจตัวเอง ข้าไม่เคยเห็นว่าเจ้าจะทำสิ่งใดที่ทำให้ข้าลำบากใจเลยสักครั้ง หากไม่นับเรื่องที่เจ้าแอบไปทำเรื่องที่เสี่ยงอันตรายในเมืองหลวงนั่น”“ข้า….จะไม่ทำ….”เขาใช้นิ้วปิดปากนางเอาไว้เพื่อมิให้นางพูดออกมา“ไม่ต้องพูดและไม่ต้องสัญญาอะไรอีกแล้ว แม้ว่าเจ้าจะไปอีกข้าก็จะติดตาม

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนพิเศษ 4  หวนคืนสู่หยางโจว

    งานพระราชพิธีแต่งตั้งองค์รัชทายาทและงานอภิเษกสมรสผ่านไปได้สองวัน ไป๋ซูเม่ยและเว่ยเฟิงหรงก็ต้องกลับมาเตรียมของเพื่อเตรียมตัวเข้ารับพระราชพิธีสมรสพระราชทานทั้งคู่กราบทูลขอเพียงแค่พิธีรับราชโองการและงานเลี้ยงในวังเท่านั้นส่วนงานอภิเษกทั้งคู่ทูลขอฝ่าบาทกลับไปจัดที่หยางโจว“ซูเม่ย เมื่อใดเจ้าจะได้กลับมาที่เมืองหลวงอีกกันนะข้าหรือว่าให้ข้าไปเยี่ยมเจ้าที่หยางโจวดีล่ะ”“เฟยหย่าเจ้าอย่ามัวแต่นึกอยากเที่ยวสิ เจ้าเป็นพระชายาองค์รัชทายาทแล้วนะ ยังจะห่วงเที่ยวอีกงั้นหรือ”“เสด็จพี่เพคะ น้องซูเม่ยมาเมืองหลวงกว่าข้าจะรู้จักกับนางและได้สนิทกันก็แทบจะมิได้พานางไปเที่ยวที่ใดเลยเพราะมีแต่เรื่องเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวันจนถึงวันอภิเษกก็ต้องเตรียมการวุ่นวายเช่นนี้”“พี่หญิงเพคะ ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกเพคะหม่อมฉันกับซื่อจื่อจะแวะมาเยี่ยมพวกพระองค์อย่างแน่นอนเพคะ เสด็จพ่อเองก็ต้องเข้าวังหลวงอีกสี่เดือนข้างหน้าเพื่อมาเยี่ยมฝ่าบาทและร่วมงานพระราชพิธีคล้ายวันพระราชสมภพอยู่แล้ว เอาเป็นว่าเราจากกันไม่นานหรอกเพคะ”“เจ้าพูดจริง ๆ นะ น้องหญิงเจ้ากลับไปที่หยางโจวก็ดูแลตัวเองให้ดีนะ”“เพคะพี่หญิง ไม่สิพระชายาเองก็มีองค์

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนพิเศษ 3 รักเดียวของจวินหานลั่ว 3 (NC)

    “อ๊าา หานลั่ว!!”ลิ้นของเขาเริ่มคลี่ร่องกลีบชื้นฉ่ำตรงหน้าออก ร่างของเฟยหย่าเอนขึ้นตามสัมผัสลิ้นและนิ้วของเขา มือนางจับที่ผ้าห่มเอาไว้แน่นเมื่อถูกเขาล่วงล้ำเข้ามาทั้งลิ้นและนิ้วจนนางทนไม่ไหว“อ๊าาา หานลั่ว ไม่ไหวแล้ว ข้ารู้สึกแปลก ๆ มันจะ อ๊าา!!!!”ร่างน้อย ๆ นั้นเกร็งกระตุกจนเกิดเสียง จวินหานลั่วรวบขาของนางและยังใช้ลิ้นปรนเปรอนางไม่หยุด เมื่อเห็นว่านางพร้อมแล้วเขาจึงค่อย ๆ สอดใส่แท่งแกร่งของเขาที่ปวดตึงหนึบอยู่นานแล้วเข้าไป เขาอ่อนโยนจนนางรู้สึกถึงความห่วงใยที่เขามีให้นาง “หานลั่ว อ๊าา ช่างดียิ่งนัก รู้สึก อ๊าา ดียิ่งนัก อ๊าา…”“เฟยหย่า ข้าจะ…เร่งได้อีกนิดได้หรือไม่”“เร็วอีกหน่อยเจ้าค่ะ อ๊าา หานลั่วเร็วขึ้นอีก อื้อ…”เขาพยายามรักษาความเร็วเอาไว้เพราะเกรงว่านางจะเจ็บ ลิ้นหนาค่อย ๆ จูบไปที่ยอดปทุมสีสวยเพื่อให้นางคลายความเจ็บแต่ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้เจ็บมากเพราะเขาอ่อนโยนกับนางมากกว่าที่จะทำให้นางเจ็บได้“อาา เฟยหย่าเปลี่ยนท่านะ”“อื้อ อ๊าา!! หานลั่ว ท่านี้ลึกมากเพคะ เสียวมากจริง ๆ อ๊าา กระแทกเข้ามาอีก อ๊าาา”จวินหานลั่วรู้ว่าเขาจะทนได้อีกไม่นานแล้วเมื่อด้านในนางทั้งคับแน่นและบีบรัดเข

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนพิเศษ 2 รักเดียวของจวินหานลั่ว 2

    สนามชู่จวี“อะไรกัน เล่นสกปรกงั้นหรือ แย่แล้ว องค์ชายสาม!!”“พี่หญิง ท่านจะไปที่ใดเจ้าคะ”เหยียนเฟยหย่าวิ่งไปยังห้องที่มีคนหามจวินหานลั่วเข้ามา นางวิ่งเข้ามาทันทีเมื่อเห็นเขาถูกหามออกมานอกสนาม“องค์ชายสาม!!”“เฟยหย่า!! เจ้ามา…ได้เช่นไรกัน”องค์ชายสั่งให้ทุกคนออกไปเมื่อเห็นว่าเฟยหย่าวิ่งพรวดพราดเข้ามา ประตูห้องพักปิดลงเมื่อนางหันมาจับมือเขาเอาไว้“องค์ชาย เหตุใดท่านจึงบาดเจ็บเช่นนี้ พวกนั้นเล่นนอกกติกา”“เฟยหย่า อย่าพึ่งพูดนี่เจ้ามาทำอะไรที่นี่”“หม่อมฉันเห็นพระองค์ถูกทำร้าย คนพวกนั้น…”“เฟยหย่า คนพวกนั้นมิใช่คนต่างแคว้นแต่เป็นนักฆ่าที่เสวียนอวี่ส่งเข้ามา”“อะไรนะ!! นี่เขา….ตั้งใจจะเล่นงานท่านงั้นหรือ”“เฟยหย่า!! เจ้าจะทำสิ่งใด อย่าพึ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น เว่ยเฟิงหรงกับพี่ใหญ่เจ้ารู้แล้วพวกเขาอยู่ในสนาม ทันทีที่ข้าถูกเล่นงานเว่ยเฟิงหรงก็ให้คนพาข้าออกมาเกรงว่าพวกมันจะทำร้ายข้า เจ้าอย่าได้ทำสิ่งใดพวกเขาจัดการกันเองได้ คนของพวกเราอยู่ในสนามแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มจัดการพวกที่เหลือแล้ว”“ก็ได้จวินหานลั่วครั้งนี้ข้าจะเชื่อท่าน”“เจ้าก้มลงมานี่หน่อยสิ”เหยียนเฟยหย่าก้มลงมา จวินหานลั่วจับนางลงมาและจู

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนพิเศษ 1 รักเดียวของจวินหานลั่ว 1

    งานเลี้ยงประจำปี“เจ้าว่าอย่างไรนะ เสด็จพ่อจะประทานสมรสงั้นหรือ เช่นนั้นข้าไม่เข้าร่วมจะดีกว่าข้าไม่สนใจเรื่องงานเลี้ยงกับพวกขุนนางขี้ประจบเหล่านั้นหรอก”“องค์ชายสาม ครั้งนี้มีสตรีบุตรขุนนางหลายคนเข้าร่วม พระองค์ไม่สนใจจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ”“เฉินกงกง ท่านอยากให้ข้าแต่งงานมากขนาดนี้เชียวหรือ ท่านขี้เกียจดูแลข้าแล้วสินะ”“หามิได้ ๆ พ่ะย่ะค่ะเพียงแต่เรื่องการแต่งงานฝ่าบาทต้องเห็นชอบพระองค์เองก็มิควรเก็บตัวเช่นนี้”“ว่าแต่ครั้งนี้เสด็จพ่อจะประทานสมรสคู่ใดเป็นพิเศษเล่า”เฉินกงกงบอกกล่าวไป ทั้งเรื่องขององค์ชายที่จะแต่งบุตรสาวขุนนางและท่านหญิงเข้ามาในวังหลวง รวมถึงบรรดาองค์หญิงที่ต้องแต่งงานกับแม่ทัพและ….“อีกคู่น่าจะเป็นองค์ชายสี่กับคุณหนูรองสกุลเหยียนพ่ะย่ะค่ะ”ตำราพิชัยยุทธ์หล่นจากมือของ “จวินหานลั่ว” โดยไม่ได้ตั้งใจ เขาเหม่อลอยเมื่อได้ยินชื่อนั้นเข้าหูจนฉินกงกงตกใจ“องค์ชาย….องค์ชายสาม!!”“หา…เอ่อ อ้อ อะไรนะ สกุลเหยียนกับ…น้องสี่ พวกเขาไปรู้จักกันเมื่อใดงั้นหรือ”“เห็นว่าฮองเฮาเป็นผู้สู่ขอแทนองค์ชายสี่พ่ะย่ะค่ะ”“อะไรนะ…ฮองเฮางั้นหรือ ดูท่าแล้วไม่เกี่ยวกับความรู้สึกสินะ”หลังจากนั้นเขาเองก็

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา     ตอนที่  69  ฤดูแห่งรัก (ตอนจบ)

    เว่ยเฟิงหรงอุ้มไป๋ซูเม่ยลงจากรถม้า พักหลัง ๆ คนในจวนอ๋องที่เมืองหลวงมักจะชินตากับการที่เว่ยซื่อจื่ออุ้มนางลงมาเช่นนี้แล้ว แต่ละคนคิดไปเองว่าเพราะไป๋ซูเม่ยนั่งรถม้ามาแล้วหลับซื่อจื่อไม่อยากให้นางตื่นจึงอุ้มลงมา และบางคนก็คิดว่าไป๋ซูเม่ยเป็นสตรีที่อ่อนแอ เพียงแค่นั่งรถม้ากระเทือนก็จะเดินไม่ไหว แต่ไม่มีผู้ใดเลยที่ล่วงรู้ความจริงนอกจากอาหยงและต้าหมิน องครักษ์ของซื่อจื่อและสาวใช้ของนาง“เฟิงหรงท่านจะเกินไปแล้วนะเจ้าคะข้าเอวแทบหักทุกครั้งเลย จากนี้ไปข้าจะแยกรถม้ากับท่าน!!”“เม่ยเอ๋อร์เจ้าจะทำเช่นนี้หาได้ไม่ ผู้อื่นก็คุ้นชินกับการที่ข้าทำเช่นนี้แล้วเจ้าจะใส่ใจไปทำไมกัน เจ้าก็มิใช่ผู้ที่จะสนใจสายตาคนอื่นเสียเมื่อไหร่เล่า ไม่เอาน่าอย่าทำหน้างอเช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะพาไปกินเกี๊ยวน้ำร้านประจำของเจ้าดีหรือไม่”“ไม่ต้องเอาเกี๊ยวมาล่อข้าให้ตายใจ ก่อนจะไปกินเกี๊ยวท่านมิกินข้าก่อนจนหมดแรงสุดท้ายก็ต้องให้คนซื้อมาให้ข้าถึงเตียงหรอกหรือ ข้ารู้จักท่านดีเว่ยเฟิงหรง คนเจ้าเล่ห์”“เช่นนั้นไหน ๆ เจ้าก็รู้ทันข้าแล้ว…ก็อย่าเสียเวลาเลยนะไปอาบน้ำกันเถอะคนดี”“หยุด!! ข้าไม่อาบกับท่านแน่นอน เว่ยเฟิงหรง!! ไม่นะ ออก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status