/ รักโบราณ / ทะลุมิติคราวนี้นางร้ายขอทำสวน / บทที่ 3 คนนี้สามีข้าเหรอ ตอนต้น

공유

บทที่ 3 คนนี้สามีข้าเหรอ ตอนต้น

last update 최신 업데이트: 2025-08-02 01:07:27

บทที่ 3 คนนี้สามีข้าเหรอ ตอนต้น

ภายในรถม้าของเสวี่ยหนิง สาวใช้สองซูมองหน้ากันไปมา ทั้งคู่ข้องใจว่านายหญิงของตนไปหัดพูดภาษาของชาวโพ้นทะเลมาจากที่ไหน ต่างสื่อสารผ่านทางสายตาว่า

‘เจ้าถามสิ เจ้ารู้จักพูดมากกว่า’ ซูลี่พยักเพยิดให้ซูฮวาถาม

‘เจ้านั่นแหละถาม เจ้าอายุมากกว่าข้า’ ซูฮวาส่ายหัวน้อยๆกลับมา พร้อมบุ้ยใบ้ไปทางนายหญิง

ทั้งสองเกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมาตกลงกันไม่ได้เสียที จนท้ายที่สุดผู้เป็นนายอ่านสายตาและท่าทางของสาวใช้ออก เลยช่วยไขข้อข้องใจด้วยคำตอบที่ทำให้ทั้งสองซูถึงกับนิ่งอึ้ง

“ข้าไปหัดมาจากในฝันตอนที่สลบไป จบนะ ห้ามสงสัยต่อ ตรรกะเรื่องเหนือธรรมชาติข้าไม่เชี่ยวชาญ อธิบายให้พวกเจ้าฟังไม่ได้” ขืนบอกความจริงว่าพูดได้มาตั้งแต่ชาติที่แล้ว มีหวังสองสาวได้แตกตื่นเป็นแน่

“…” สาวใช้สองซู เอ่อ

ช่วงสายวันถัดมา รถม้าของเสวี่ยหนิงก็มาจอดหน้าร้านขายตำราร้านใหญ่ของเมืองหลวง

วันนี้หญิงสาวแต่งกายทะมัดทะแมงคล้ายบุรุษ จึงก้าวลงจากรถม้าก่อน โดยไม่ต้องรอให้สาวใช้ช่วยประคองเหมือนทุกครั้ง ร่างบางเอามือไพล่หลังเดินตรงเข้าร้านอย่างอารมณ์ดี ครั้นหลงจู๊เห็นหน้านางพลันหน้าเผือดสี แอบอุทานในใจด้วยความกังวล

‘ไอหยา วันนี้มันวันอะไรกันเนี่ย ทั้งคุณหนูซ่ง เหรินซื่อจื่อ เหรินฮูหยินน้อย ต่างก็มาที่ร้านในเวลาไล่เลี่ยกันแบบนี้ จะเกิดเรื่องเหมือนทุกครั้งอีกหรือเปล่าเนี่ย’

“หลงจู๊ ข้าอยากมาสั่งทำพู่กันชนิดพิเศษ ไม่ทราบว่าต้องคุยกับใครหรือเจ้าคะ” เสวี่ยหนิงเอ่ยถามหลงจู๊อย่างสุภาพ ทำคนฟังเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เชียนเสวี่ยหนิงเคยพูดจาสุภาพอ่อนหวานกับลูกจ้างทั่วไปเป็นด้วยหรือ พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรืออย่างไร

“เหรินฮูหยินน้อย เชิญทางนี้ขอรับ” หลงจู๊ผายมือเชิญหญิงสาวไปยังโต๊ะด้านใน ก่อนเรียกผู้รับผิดชอบเรื่องการสั่งสินค้ามาเจรจากับนาง

ใช้เวลาราวสองเค่อเสวี่ยหนิงก็สั่งทำพู่กันในแบบที่นางต้องการเสร็จ ระหว่างที่กำลังจะเดินออกจากร้าน หญิงสาวเหลือบไปเห็นภาพวาดอักษร ฝีพู่กันงดงามพลิ้วไหวทว่าทรงพลังแขวนแสดงอยู่ จึงหยุดมองด้วยความสนใจ

“จิ๊ๆๆ ฝีพู่กันสุดยอดเลยอ่ะ แบบนี้เรียกปรมาจารย์ได้เลยน่ะเนี่ย หลงจู๊ ไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของภาพวาดอักษรนี้หรือเจ้าคะ แล้วราคาเท่าไหร่หรือ”

“ต้องขอโทษฮูหยินน้อยด้วยขอรับ ข้าน้อยมิอาจบอกชื่อเจ้าของภาพนี้ได้ เพราะเจ้าตัวขอให้ปิดบังชื่อแซ่ไว้เป็นความลับ ส่วนเรื่องราคานั้นขายอยู่ที่สองร้อยตำลึงขอรับ” หลงจู๊ตอบกลับมาตามความจริง

คนฟังหน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะตกใจในราคาภาพ แต่ด้วยความชอบในงานศิลปะแขนงนี้เป็นการส่วนตัว หญิงสาวจึงเริ่มต่อรองราคา

“มันแพงขนาดนี้เลยหรือเจ้าคะ สองร้อยตำลึงเชียวหรือ ลดเหลือสักห้าสิบตำลึงได้ไหมเจ้าคะ” เสวี่ยหนิงจ้องตาหลงจู๊อย่างมาดหมายในขณะเอ่ยปากต่อรองราคา ช่วยลดให้นางสักร้อยห้าสิบตำลึงเถอะ สองร้อยมันแพงไป

“ไอหยา! ราคานี้ไม่ได้จริงๆขอรับ” หลงจู๊สะดุ้งกับราคาที่ได้ยินรีบตอบกลับมาอย่างไว

ระหว่างที่เสวี่ยหนิงกำลังต่อราคาภาพวาดอักษรอย่างเมามันอยู่นั้น เผอิญว่าเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เหรินหมิง เดินลงมาจากชั้นสองพร้อมซ่งเจียวเจียวพอดี สายตาพลันเหลือบมาเห็นซูลี่และซูฮวายืนอยู่ด้านหลังเสวี่ยหนิง ที่กำลังเจรจากับหลงจู๊ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ชายหนุ่มรีบก้าวลงบันไดมา เพราะเข้าใจว่าอีกฝ่ายคงกำลังข่มขู่หลงจู๊ เพื่อให้บอกว่าเขาหรือซ่งเจียวเจียวมาที่นี่หรือเปล่าเหมือนดั่งเช่นที่ผ่านมา นางคงต้องการมาหาเรื่องซ่งเจียวเจียว และกล่าวหาว่าแอบเป็นชู้กับเขาเหมือนทุกครั้งไป คิดได้ดังนั้นเหรินหมิงจึงตรงเข้าไปหาภรรยาด้วยสีหน้าเย็นชา

“เชียนเสวี่ยหนิง! เจ้ามาทำอะไรที่นี่” เหรินหมิงเอ่ยถามเสียงลอดไรฟัน แววตาที่มองนางบ่งชัดว่าไม่พอใจ

เสวี่ยหนิงคิ้วกระตุก ที่จู่ๆ ก็ถูกขัดจังหวะการต่อราคาภาพวาด นางหันขวับมาหาเจ้าของเสียง ครั้นได้เห็นว่าเป็นบุรุษหน้าตาดีแต่งตัวดีคนหนึ่ง หากแต่น้ำเสียงและสายตาที่ใช้มองนางกลับไม่เป็นมิตรเลยสักนิด หรือจะเป็นโจทก์เก่าของร่างนี้อีกคน

“ขอโทษทีเถอะต้าเกอ* คนมาร้านขายตำราและเครื่องเขียน ย่อมต้องมาซื้อตำราหรือของที่มีขายอยู่ในร้านสิเจ้าคะ จะให้มาซื้อขนมจีบซาลาเปาที่นี่หรือ ถามอะไรแปลกๆ แล้วนี่ท่านเป็นใครหรือเจ้าคะ ถึงได้เดินมาหาข้าถึงที่ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับข้าหรือเปล่าเจ้าคะ” เอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าเสร็จ ก็หันไปหาสาวใช้ที่กำลังดึงหลังเสื้อนางยิกๆ

“อะไร ซูฮวา ดึงเสื้อข้าทำไม มีอะไรก็พูดมา”

“นายหญิงเจ้าคะ ท่านผู้นี้คือ เหรินซื่อจื่อ สามีท่านเจ้าค่ะ” ซูฮวากระซิบบอกนายหญิงของตนด้วยท่าทางลำบากใจ

“ห๊า! คนนี้สามีข้าเหรอ? เจ้าแน่ใจนะซูฮวาว่าไม่ได้จำผิด”

เพราะตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาในร่างนี้ เสวี่ยหนิงก็ไม่เคยพบหน้าเหรินหมิงเลยสักครั้ง กอปรกับการที่ไม่มีความทรงจำของเชียนเสวี่ยหนิงหลงเหลือสักนิด ทำให้นางไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นอย่างไร ทางด้านตัวนางเองก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับแผนการชีวิตหลังหย่าขาด ตั้งใจเอาไว้ว่าพรุ่งนี้จะชวนสาวใช้ออกไปส่องดูหน้าอีกฝ่ายอยู่เหมือนกัน แต่ที่ไหนได้…

พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา ตายยากจริงๆ

เหรินหมิงที่โดนเสวี่ยหนิง ยอกย้อนกลับมาอย่างไม่ทันตั้งตัว พลันชะงักค้าง ทว่าก่อนที่จะได้อ้าปากต่อว่าอีกฝ่าย ร่างของหญิงสาวหน้าตางดงามอ่อนหวานน่าทะนุถนอมในชุดสีขาว ได้ก้าวมายืนอยู่ด้านหลังเขาของเสียก่อน

*******************

*ต้าเกอ : พี่ชาย

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ทะลุมิติคราวนี้นางร้ายขอทำสวน   ตอนพิเศษ ตัวป่วนแห่งตำหนักหรงจวิน ตอนปลาย

    ตอนพิเศษ ตัวป่วนแห่งตำหนักหรงจวิน ตอนปลาย ส่วนทางด้ายเว่ยเฉินฮ่าว “ท่านยายขอรับ แส้หนังที่ท่านยายมอบให้ พี่หลางจื่อแอบเอาไปแทะเล่นจนขาดแล้วขอรับ ฮ่าวเอ๋อร์ไม่กล้าบอกท่านแม่ กลัวพี่หลางจื่ออดกินหูหมู” “…” เย่หลิน โถ พ่อทูนหัวของยาย “รอยายกลับถึงจวนแล้วจะส่งแส้อันใหม่มาให้นะเด็กดี” จากนั้นสามคนยายหลาน ก็จับจูงกันไปยังลานฝึกยุทธ์ด้านหลัง เพื่อฝึกการปามีดบินและซัดเข็มเงิน เว่ยลี่หยางทำได้เพียงยืนหน้ากระตุก แต่มิอาจกล่าวคำใด ให้เป็นการกระทบกระเทือนจิตใจแม่ยายที่แสนดีของตน ขอเพียงนางไม่พาลูกๆคนใดคนหนึ่งของเขา ไปตำหนักจันทราอันเร้นลับเป็นใช้ได้ จะสอนปามีดบิน ซัดเข็มเงิน ใช้แส้ หรือแม้แต่วิชาตัวเบาอันล้ำเลิศ เขาย่อมไม่ขัดขวาง ช่วงบ่ายวันหนึ่งในฤดูคิมหันต์ที่อากาศร้อนอบอ้าวอย่างถึงที่สุด เสวี่ยหนิงเดินตามหาบุตรทั้งสามของตนไปทั่วตำหนัก แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ ผู้เป็นมารดาเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี กลัวว่าจะมีคนคิดร้ายมาลักตัวลูกๆของนางไป ผ่านไปครู่หนึ่งหลิวอินก็มารายงานด้วยสีหน้าพิลึกพิลั่น “เรียนพระชายา กระหม่อมหาตัวทายาทของจวนอ๋องพบแล้วพะย่ะค่ะ” “เด็กๆอยู่ที่ไหน ท่านพี่รีบบอกพระชายามาเร็ว อย

  • ทะลุมิติคราวนี้นางร้ายขอทำสวน   ตอนพิเศษ ตัวป่วนแห่งตำหนักหรงจวิน ตอนต้น

    ตอนพิเศษ ตัวป่วนแห่งตำหนักหรงจวิน ตอนต้น ณ ลานฝึกยุทธ์ท้ายตำหนักหรงจวิน เว่ยเทียนฉี มองพี่สาวฝาแฝดที่กำลังฟาดฟันดาบไม้กับหุ่นฟาง ส่งเสียงร้อง ย๊าก! ย๊าก! ย๊าก! ดังลั่น ช่างไม่มีความเป็นกุลสตรีเอาเสียเลย เป็นถึงจวิ้นจู่ผู้สูงศักดิ์แต่กลับประพฤติตัวราวม้าดีดกระโหลก หากท่านทวดไทเฮาทราบเรื่อง มีหวังเว่ยลี่จวินได้ถูกเรียกตัวเข้าวัง ไปอบรมกิริยามารยาทตามแบบฉบับเชื้อพระวงศ์เป็นรอบที่เท่าไหร่ก็มิอาจนับได้… เฮ้อ! ไฉนเขาถึงเกิดวันเดียวกันกับนางได้ล่ะเนี่ย ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ! หลังจากทอดถอนใจเรื่องของพี่สาวจบ ท่านอ๋องน้อยก็ดึงสายตากลับไปมองน้องชายผู้อ่อนหวานของตน ครั้นเห็นว่าเว่ยเฉินฮ่าวกำลังทำสิ่งใด ผู้เป็นพี่ชายมุมปากกระตุกไม่หยุด ท่านชายน้อยผู้งดงาม กำลังตั้งท่าขุดดินอยู่ข้างกำแพง โดยมีนางกำนัลทั้งสองเป็นผู้ช่วย ทั้งสามสุมหัวปรึกษากันว่า วันนี้จะต้องขุดช่องหมาลอดให้มีขนาดเท่ากับตัวเว่ยเฉินฮ่าว ห้ามเล็กหรือใหญ่ไปกว่านี้ เพราะเขากลัวว่าพี่หลางจื่อจะแอบมุดออกไปเที่ยว! “…” เว่ยเทียนฉี ให้ตายสิ! พี่ชายอย่างเขาเห็นแล้วอยากกุมขมับ เพียงแค่ได้ฟังเรื่องราวการพบรักของเสด็จพ่อและเสด็จ

  • ทะลุมิติคราวนี้นางร้ายขอทำสวน   ตอนพิเศษ เมื่อสวรรค์ให้โอกาส /4

    ตอนพิเศษ เมื่อสวรรค์ให้โอกาส /4 นักเลงทั้งสามเงียบงันไปชั่วครู่ หน้าตาเลิ่กลั่กพยายามหาข้อแก้ตัว “อ๋อ ขะ ข้า…ข้าจำผิดน่ะ มิใช่เมื่อวาน แต่เป็น…เมื่อวันก่อน! ใช่แล้วเมื่อวันก่อน!” คราวนี้สุ่ยเจียวเจียวยิ้มเย็น นิ้วเรียวพลิกบันทึกไปอีกหน้า “วันก่อนอย่างนั้นรึ? ขออภัยเถิด ที่ร้านทำ ไส้ลูกบัวขายไปสองร้อยชิ้น ไม่มีถั่วแดงเช่นกันเจ้าค่ะ” เสียงฮือฮาเริ่มดังมาจากกลุ่มชาวบ้านที่มามุงดู “โอ้โห…ว่าแล้วเชียว! ที่แท้มาก่อกวนนี่เอง” “หน็อยแน่ ปล่อยไก่กลางตลาดเลยนะนั่น” นักเลงทั้งสามคนหน้าแดงก่ำ พวกเขาไม่รู้นี่ว่าร้านเล่อสุ่ยขายเซาปิ่งในแต่วันมีไส้ต่างกันไป ถูกจ้างมาให้ก่อกวนก็ทำตามหน้าที่ ไม่คิดว่าจะพลาดท่าเผลอปล่อยไก่ออกมาเยี่ยงนี้ “ข้า เอ่อ ข้าอาจจะจำผิดร้านก็เป็นได้! ช่างเถิด! ไม่เอาเรื่องแล้ว!” ชาวบ้านบางคนเริ่มโห่ไล่หลัง นักเลงทั้งสามคนหน้าซีดเป็นไก่ต้ม วิ่งหนีหายไปในพริบตา ทิ้งไก่ตัวใหญ่หน้าแหกไว้หน้าร้านน้ำชาเล่อสุ่ย สุ่ยเจียวเจียวหันมายิ้มแย้มกับลูกค้าและคนที่มามุงดู…คิดว่าเล่นงานนางแบบนี้ แล้วจะลอยนวลไปง่ายๆ อย่างนั้นหรือ ในเมื่อมีคนกล้ามาหาเรื่องนางก่อนถึงที่ แล้วเรื่องอะไรที่นาง

  • ทะลุมิติคราวนี้นางร้ายขอทำสวน   ตอนพิเศษ เมื่อสวรรค์ให้โอกาส /3

    ตอนพิเศษ เมื่อสวรรค์ให้โอกาส /3 ซ่งจงเจิ้งใบหน้าดำคล้ำ เขวี้ยงจอกชาลงบนพื้น ทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยโทสะสูงเสียดฟ้า เขาชี้มือสั่นเทามาที่บุตรี บริภาษนางเสียงดังว่าไร้หัวคิดและไร้ประโยชน์เหมือนมารดาไม่มีผิด ซ่งเจียวเจียวที่ยังคุกเข่าอยู่บนพื้นกัดริมฝีปากด้านในจนเลือดซิบ นางตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า ต้องออกไปจวนสกุลซ่งให้ได้ ชีวิตใหม่ที่สวรรค์มอบให้ครั้งนี้ นางจะไม่มีวันทำมันพังอีกเป็นอันขาด “ขอใต้เท้าซ่งโปรดเมตตาข้าด้วยเจ้าค่ะ” ซ่งเจียวเจียวโขกศีรษะอ้อนวอนบิดา “ขอใต้เท้าโปรดเมตตาคุณหนูเถิดเจ้าค่ะ” เสี่ยวหมี่รีบคุกเข่าอ้อนวอนอีกแรง เรื่องนี้รู้ไปถึงหูของเนี่ยซื่อ นางรีบมาช่วยเกลี้ยกล่อมสามี ให้ตัดชื่อซ่งเจียวเจียวออกจากตระกูลอย่างไม่รีรอ “ท่านพี่เจ้าคะ ในเมื่อคุณหนูใหญ่หาได้เคารพเชื่อฟังท่านดั่งในคำสอนคุณธรรมสตรี ยังไม่รวมเรื่องที่นางทั้งหัวรั้น อละมักก่อเรื่องให้ท่านปวดหัวอยู่เป็นประจำ สกุลซ่งต้องเสียชื่อเสียงเพราะนางก็ตั้งหลายหนแล้วนะเจ้าคะ เนื้อร้ายหากปล่อยไว้ในอนาคตก็ยิ่งจะลุกลาม มิสู้ตัดทิ้งเสียแต่เนิ่นๆ จะเป็นการดีกว่า!” หากซ่งเจียวเจียวถูกตัดชื่อออกไปจริง ต่อไปซินเอ๋อร์ของนางก็

  • ทะลุมิติคราวนี้นางร้ายขอทำสวน   ตอนพิเศษ เมื่อสวรรค์ให้โอกาส /2

    ตัวนางเองมีฝีมือในเรื่องการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้า แม้แต่ฮูหยินรองที่ปกติไม่ถูกกันยังเอ่ยปากชมยามเห็นชุดที่นางใส่ เพราะคิดว่านางไปสั่งตัดมาจากข้างนอก สองวันต่อมาซ่งเจียวเจียวได้สั่งสารถีให้พานางไปยังเมืองเหอผิงซึ่งเดินทางด้วยรถม้าราวชั่วยามกว่าๆ นางต้องการมาดูสถานที่ ศึกษาข้อมูลและหลักเกณฑ์การเปิดร้านของเมืองเหอผิง หลังจากเสร็จธุระจึงไปหามื้อกลางวันกินยังร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกล เพียงแต่ขณะที่กำลังเจรจากับหลงจู๊ของร้านอาหารเพื่อถามหาห้องส่วนตัวอยู่นั้น ได้มีชายหนุ่มสามคนที่เดินผ่านหน้าร้านอาหารแห่งนี้สายตาพลันสะดุดเข้ากับความงามของซ่งเจียวเจียวเข้าพอดี คนที่ลักษณะดูแล้วน่าจะเป็นหัวหน้าเดินอาดๆตรงมาหานางด้วยท่าทางอวดดีกึ่งลวนลาม “คุณหนูท่านนี้ช่างงดงามดุจนางเซียนข้าไม่เคยเห็นท่านที่เมืองเหอผิงมาก่อน ในเมื่อมีวาสนาได้พบกันไม่ทราบว่าคุณหนูพอจะให้เกียรติข้าได้เลี้ยงอาหารท่านในวันนี้จะได้หรือไม่” พูดจบก็ยกมือขึ้นมาหมายจะสัมผัสมือของซ่งเจียวเจียวทว่าหญิงสาวขยับเท้าก้าวถอยหลังหนีได้ทัน หลงจู๊ผู้ดูแลร้านลอบกลอกตามองบน เมื่อเห็นหน้าเทพโรคระบาดแห่งเมืองเหอผิง ‘นางน่ะหน้าตางดงาม แต่เจ้านี่สิ

  • ทะลุมิติคราวนี้นางร้ายขอทำสวน   ตอนพิเศษ เมื่อสวรรค์ให้โอกาส /1

    ตอนพิเศษ เมื่อสวรรค์ให้โอกาส “ข้าจะฆ่าเจ้านังสารเลว” ตวนอ๋องคำรามลั่นก้องรถม้าที่กำลังดิ่งลงเหว แข่งกับเสียงหัวเราะบ้าคลั่งอย่างคนเสียสติของซ่งเจียวเจียว “ฮ่าๆๆๆลงนรกไปพร้อมกับข้าเสียเถิดเจ้าคนชั่วช้า!” ทุกอย่างรอบตัวหมุนคว้างก่อนจะเกิดแรงกระแทกหนักหน่วง ยามที่รถม้ากระทบหินก้อนใหญ่ก้นเหวตัวรถแตกเป็นเสี่ยงๆเสียงเนื้อไม้แตกหักกรีดผ่านอากาศ แรงเหวี่ยงกระชากให้ร่างกายของซ่งเจียวเจียวกระเด็นออกมาจากรถม้า ลอยไปกระแทกหินก้อนใหญ่อีกก้อนนางเจ็บปลาบไปทั่วทั้งร่างกระอักเลือดออกมามากมาย ก่อนที่แสงสุดท้ายในดวงตาจะดับลง ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเคืองแค้นริษยาเกลียดชังทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะของซ่งเจียวเจียว…บัดนี้ได้สิ้นสุด ซ่งเจียวเจียวเดินอย่างเหม่อลอยไร้จุดหมายรอบกายเต็มได้ด้วยม่านหมอกสีขาวและความเงียบงัน ใบหน้าของนางเฉยชาราวกับไร้ซึ่งอารมณ์ทว่าปากกลับพร่ำบ่นว่าสวรรค์ช่างอยุติธรรม นางเดินอยู่ในหมอกขาวนั้นนานเท่าไหร่มิอาจทราบได้ ทว่าจู่ๆก็เกิดแสงสว่างวาบขึ้นเบื้องหน้าพร้อมการปรากฏของชายชรา ทั้งเรือนผมหนวดเครารวมถึงชุดล้วนเป็นสีขาวบริสุทธิ์ดุจหิมะแรก เขาเอ่ยวาจากับซ่งเจียวเจียวด้วยน้ำเสีย

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status