Masukบทที่ 40 แก้ปัญหาขาดแคลนเสบียง (2)
เซียวป๋อเหวินไว้วางใจในความสามารถของฟางหนิงฮวาอย่างเต็มเปี่ยม เขาไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยในการมอบหมายหน้าที่สำคัญซึ่งก็คือการดูแลคลังเสบียงของค่ายทหารให้กับนาง หลังจากการประชุมสิ้นสุดลงเขาเรียกหัวหน้าคลังเสบียงพร้อมด้วยฟางหนิงฮวาไปยังโรงเก็บเสบียงเพื่อเริ่มต้นงานทันที
โรงเก็บเสบียงของกองทัพตั้งอยู่ติดกำแพงด้านในของค่าย เป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่หลังคามุงกระเบื้อง มีช่องระบายอากาศเพื่อไม่ให้อากาศภายในอับชื้น เมื่อฟางหนิงฮวาก้าวเข้ามา กลิ่นแกลบแห้ง ผ้าใบกันชื้น และกลิ่นข้าวสารที่เก็บไว้มานานลอยโชยออกมาตามอากาศ
นางเดินสำรวจรอบคลังด้วยสายตาเฉียบคม ตรงไปยังมุมหนึ่งที่ตั้งถังไม้ใบใหญ่เก็บข้าวสารไว้เต็ม ปิดด้วยฝาไม้สนอย่างหนาแน่น
"ให้ท่านนับดูว่าตอนนี้เรามีอะไรอยู่บ้าง แล้วจดลงเป็นรายการให้ข้าดูที" นางกล่าวกับหัวหน้าคลังเสียงราบเรียบแต่น่าเกรงขาม
หัวหน้าคลังเป็นชาย
บทที่ 49 ดวลสุรา เป็นเพราะว่าเห็นคุณชายผู้นี้พูดคุยกับฟางหนิงฮวาทำให้เซียวป๋อเหวินอดไม่ได้ที่จะหึงขึ้นมา เขาตัดสินใจนั่งร่วมโต๊ะกับเหยียนจื่อจิง ทั้งนี้ก็เพื่อจะเอาตัวเองขวางกั้นไม่ให้เหยียนจื่อจิงได้สนทนากับฟางหนิงฮวาได้สะดวก “ถ้าเช่นนั้นทั้งสองท่านรอสักครู่นะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าจะให้พ่อครัวจัดอาหารมาให้” ฟางหนิงฮวาพูด “อ้อ...ท่านแม่ทัพอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะได้ทำให้” “แล้วแต่เจ้าเถิด แต่ว่า...ข้าขอสุรามากหน่อย วันนี้รู้สึกอยากดื่มสุรา” เซียวป๋อเหวินพูด หลังจากที่ฟางหนิงฮวาหายเข้าไปในครัวแล้วบรรยากาศในร้านก็เปลี่ยนไป เซียวป๋อเหวินที่แย้มยิ้มเมื่อสักครู่บัดนี้เปลี่ยนเป็นสายตามาดร้ายจ้องไปที่เหยียนจื่อจิงอย่างไม่วางตา
บทที่ 48 ตุ๊กตาหมี เวลาผ่านไปความสัมพันธ์ของฟางหนิงฮวากับเซียวป๋อเหวินก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้นจนเหล่าทหารทั้งกองทัพต่างก็มองว่าทั้งสองเป็นคู่รักกันไปแล้ว ฟางหนิงฮวามักจะเอาอาหารไปให้เขาที่ค่าย ส่วนเขาก็มักจะทำอะไรให้นางประหลาดใจอยู่บ่อย ๆ วันนี้ที่ร้านยุ่งมากจนฟางหนิงฮวาไม่สามารถปลีกตัวออกจากร้านได้ เดิมทีนางคิดว่าจะทำไก่ผัดพริกเสฉวนไปให้เขากินที่ค่ายแต่ว่าทำเสร็จนานจนอาหารเย็นชืดก็ยังไม่ได้ไป กว่าลูกค้าจะออกจากร้านหมดก็ปาเข้าไปปลายยามเซินแล้ว ฟางหนิงฮวากลับมาที่จวน นางถือกล่องอาหารมาด้วยและก็พบเข้ากับเซียวป๋อเหวินที่กลับมาพอดี “ไก่ผัดพริกเสฉวนนี่เย็นชืดหมดแล้ว เดี๋ยวข้าจะเข้าครัวไปอุ่นให้ท่านใหม่นะ” “ไม่เป็นไรหรอก ให้สาว
บทที่ 47 ร้านอาหารเสฉวนแห่งเมืองเสวี่ยคัง หนึ่งเดือนต่อมาร้านอาหารก็เปิด ฟางหนนิงฮวาเปิดร้านอาหารรูปแบบของเสฉวน เน้นอาหารรสชาติเผ็ดร้อนที่เซียวป๋อเหวินชอบ แถมยังมีหม้อไฟหม่าล่าซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่ของที่นี่อีกด้วย สร้างความฮือฮาในหมู่ชาวเมืองเสวี่ยคังเป็นอย่างอยิ่ง เมื่อได้ยินว่ามีร้านอาหารมาเปิดใหม่ผู้คนต่างก็อยากรู้อยากเห็น พากันแวะเวียนมาเดินผ่านหน้าร้านกันแต่ว่าก็ยังไม่มีใครกล้ามาลองกินดูสักคน จนเมื่อฟางหนิงฮวาเปิดหม้อน้ำแกงหม่าล่าออกก็ถึงกลับทำให้คนที่เดินไปมาอยู่หน้าร้านถึงกลับชงัก กลิ่นของน้ำแกงนั้นหอมเตะจมูกเป็นอย่างยิ่ง มีทั้งกลิ่นที่กลมกล่อมของมันวัวและกลิ่นเครื่องเทศที่หอมฟุ้ง ชาวเมืองที่อยู่แถวนั้นต่างก็กลืนน้ำลายกันเป็นแถว “นี่มันอาหารอะไรเนี่ย ข้าไม่เคยได้กลิ่นอะไรที่หอมเช่นนี้มาก่อนเลย” ชายวันกล
บทที่ 46 เริ่มต้นกิจการ “นี่...หัวหน้าองครักษ์กู้ ช่วงนี้ท่านแม่ทัพกำลังยุ่งอยู่หรือไม่” ฟางหนิงฮวาถาม นางมาดักรอหัวหน้าองครักษ์ที่ทางเดินไปห้องหนังสือของเซียวป๋อเหวิน “ช่วงนี้ท่านแม่ทัพค่อนข้างยุ่งน่ะ ต้องเตรียมเรื่องการฝึกทหาร ยิ่งตอนนี้มีการรับทหารใหม่เข้ามา งานก็เลยล้นมือ” หัวหน้าองครักษ์กู้ตอบ “เหตุใดเจ้าไม่ไปถามกับท่านแม่ทัพเอาเล่าหนิงฮวา” “ข้าไม่อยากรบกวนเขาน่ะ และข้าก็รู้ว่าท่านต้องตอบข้าทุกอย่างอยู่แล้ว” ฟางหนิงฮวายิ้มน้อย ๆ “เจ้านี่ฉลาดเอาเรื่อง ว่าแต่ถามหาท่านแม่ทัพมีธุระอันใดหรือ” หัวหน้าองครักษ์กู้ถาม “ข้าเพียงแต่อยากรู้ว่าช่วงที่ข้า
บทที่ 45 หุบเขาวัดเสวียนคงและสวนต้นกุ้ยฮวา หลังจากการศึกจบลง บ้านเมืองสงบเซียวป๋อเหวินได้มีเวลาของตัวเอง วันนี้เข้าจะพาฟางหนิงฮวาออกไปเที่ยวนอกเมืองสักหน่อย เขาเองก็ได้ยินชื่อเสียงเรื่องความงามของธรรมชาตินอกเมืองมานานแล้ว แต่ด้วยความที่ต้องยุ่งอยู่กับการศึกจึงไม่ได้มีเวลาออกไป วันนี้ว่างแล้วจึงเป็นเวลาที่เหมาสมพอดี เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสองสามครั้งตั้งแต่เช้าตรู่ ฟางหนิงฮวาที่เพิ่งตื่นขึ้นมาได้ไม่นานกำลังนั่งแต่งตัวจัดเครื่องประดับอยู่ที่หน้ากระจกทองเหลืองเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็รีบออกมาเปิดทันที เมื่อเห็นว่าเป็นเซียวป๋อเหวินก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะปกติแล้วเช้าตรู่เช่นนี้เขาจะอยู่ที่ห้องหนังสือมิใช่หรือ “ท่านแม่ทัพ มาหาข้าแต่เช้ามีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” หญิงสาวถาม&nb
บทที่ 44 นำชัยชนะกลับมา การศึกจบลงอย่างราบรื่น เซียวป๋อเหวินและเหล่าทหารต่างกลับเข้าเมือง เหล่าทหารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีที่สูญเสียไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ขวัญและกำลังใจของพวกเขาหายไปแต่อย่างใด พี่น้องทหารต่างพยุงคนที่ได้รับบาดเจ็บกลับมา บ้างก็ขนร่างไร้วิญญาณของเพื่อที่ตายในสนามรบกลับมาฝังอย่างสมเกียรติ ฟางหนิงฮวารอเซียวป๋อเหวินที่หน้าประตูเมืองอย่างใจจดใจจ่อ พอเห็นเห็นเขากลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีใจมาก ทำท่าจะกระโดดกอดเขาแต่ก็ต้องชะงักไว้เพราะอยู่ท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย “ท่านนำชัยชนะกลับมาจริงๆ ด้วย” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความดีใจเป็นที่สุด นางไม่ได้ดีใจที่เขากลับมาเท่านั้นแต่ยังดีใจที่บัดนี้เขาสามารถปกป้องแผ่นดินเอาไว้ได้ “เป็นเพราะเครื่องรางของเจ้าที่คุ







