Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาพลิกชะตา / ตอนที่3 ลองทำอาหาร

Share

ตอนที่3 ลองทำอาหาร

last update Last Updated: 2025-08-29 15:41:02

หลังจากล้างเนื้อล้างตัวเสร็จเรียบร้อย ซูหนี่ว์และซูเจียวก็พากันมาที่ห้องครัว บรรดาบ่าวรับใช้ถึงกับมองด้วยความแปลกใจที่นายสาวมาเยือนถึงห้องครัว ลู่กังหัวหน้าพ่อครัวจึงต้องเอ่ยถามออกไป

“คุณหนูรองต้องการสิ่งใดหรือขอรับ?”

“บุตรสาวข้าอยากลองทำอาหาร ท่านหัวหน้าพ่อครัวรบกวนช่วยเตรียมสิ่งของที่นางที่นางอยากได้ด้วย”

“เอ่อ…ขอรับ” ลู่กังเอ่ยตอบแต่แอบชำเลืองมองซูหนี่ว์ที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะทำอาหารได้ แต่ก็ช่างเถอะในเมื่อผู้เป็นนายอยากลองเขาผู้เป็นบ่าวก็ไม่กล้าขัด 

บ่าวในห้องครัวยืนรวมตัวกัน เพื่อรอคำสั่งว่าจะให้ทำอะไรบ้าง เห็นคุณหนูซูหนี่ห์งดงามราวตุ๊กตา ไม่อยากเชื่อว่านางจะอยากมาลองทำอาหาร สงสัยคงนึกสนุกตามวัยของนาง คุณหนูส่วนใหญ่ไม่ชอบการเข้าครัว เพราะการทำอาหารทำให้ มีกลิ่นติดตามเนื้อตามตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณหนูทั่วไปไม่ปรารถนา

ซูหนี่ว์เดินสำรวจห้องครัวด้วยความพอใจ สมกับเป็นห้องครัวของคหบดีอันดับ1มีทุกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์และผักต่างๆ แม้แต่เครื่องเทศและเครื่องปรุง แต่นางลืมไปว่ายุคนี้เป็นยุคจีนโบราณ เครื่องปรุงรสยังไม่ได้ทันสมัยมากนัก ถ้าหากว่านางมีมิติกลับไปที่ห้องครัวของนางได้คงดีไม่น้อย จะได้นำผงปรุงรส นำ้มันหอย ซีอิ๊ว มาใช้แต่ก็นั่นแหละมันจะเป็นไปได้ยังไง ซูหนี่ว์ปัดความคิดออกไป และเดินไปเลือกปลาที่อยู่ในถัง ก่อนที่บ่าวคนหนึ่งจะรีบถลามาจับปลาเสียเอง

“คุณหนู!!!จะใช้ปลาหรือเจ้าค่ะ? ท่านจะใช้กี่ตัว? เอ่อ…คุณหนูบอกข้ามาเลยเจ้าค่ะว่าจะให้ทำเช่นไร คือปลามันคาวมาก ให้ข้าเป็นคนทำเถอะเจ้าค่ะ” บ่าวที่มีหน้าที่ทำอาหารในห้องครัว คิดว่าคงไม่เหมาะที่ให้คุณหนูเป็นคนลงมือทำปลาเอง

“ได้เจ้าเลือกปลามา6ตัว นำไปล้างขอดเกล็ด ผ่าท้องล้างให้สะอาด แล้วเอามาให้ข้า”

“เจ้าค่ะ”

ซูหนี่ว์หันไปสั่งบ่าวคนอื่นให้หั่นผัก เตรียมสิ่งของที่นางอยากได้อย่างคล่องแคล่ว ซูเจียวที่ยืนมองดูอยู่ก็ได้แต่ประหลาดใจกับท่าท่างของบุตรสาว ซูหนี่ว์ที่หันมาเห็นมารดาทำหน้าสงสัย ก็รีบเดินมาเกาะแขนแล้วกระซิบเบาๆ

“ท่านแม่ช่วงที่ข้าป่วยนอนไม่ได้สติ ข้าได้ไปยังอีกโลกหนึ่งและได้เรียนรู้อะไรมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือการทำอาหาร เดี๋ยวข้าจะเล่ารายละเอียดให้ท่านฟังอีกทีนะเจ้าค่ะ” ซูเจียวพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันไปช่วยบ่าวอีกคนแกะกระเทียม โดยไม่ได้ถามสิ่งใดกลับไป เพราะตั้งแต่นางหายป่วยก็เปลี่ยนไปมาก และตัวนางเองก็ทำใจยอมรับมาได้ซักระยะแล้ว

ซูหนี่ว์เห็นมารดาไม่ถามอะไรอีกก็ ถอนหายใจอย่างโล่งอก นางโชคดีจริงๆ ที่มีมารดาที่รักและพร้อมเข้าใจนางเช่นนี้ อย่างไรนางจะหาทางเล่าให้มารดาฟังอีกที แม้บางเรื่องบางครั้งอาจจะดูเชื่อยากก็ตาม

ซูหนี่ว์เลือกทำปลาผัดคึ่นช่ายและปลาราดพริก ต้มกระดูกหมูใส่กาดดอง และผัดผัก ทุกอย่างถูกบ่าวในห้องครัวจัดเตรียมมาให้ซูหนี่ว์เตรียมปรุง นางทำเผื่อบ่าวรับใช้ในจวนให้ได้ชิมด้วย เพราะนางเชื่อว่าฝีมือการทำอาหารของนางไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน ซูหนี่ว์เตรียมตั้งกระทะเทนำ้มันลงไป แล้วหันมาบั้งปลาสามตัว แล้วโรยเกลือนิดหน่อย อีกสามตัวนางแลเอาแต่เนื้อจะทำปลาผัดคึ่นช่าย ด้วยความเคยชินที่จะหมักเนื้อปลาก่อนทอด จึงหันไปหยิบผงปรุงรสมาใส่ลงไป แต่เดี๋ยวก่อน!!ผงปรุงรสมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? เกิดอะไรขึ้น!!! ซูหนี่ห์หันไปมองรอบๆ ก็ไม่เห็นมีใครสนใจ จึงเริ่มทำอาหารต่ออย่างงงๆ กับเหตุการณ์นี้ แต่ก็ยังมีเรื่องให้แปลกใจเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อนางคิดว่าอยากได้ซีอิ้วหรือนำ้มันหอย ทุกอย่างก็มาวางอยู่ในถ้วยเรียบร้อย นี่มันเป็นเพราะกำไลที่นางสวมอยู่หรือไม่นะ แต่ก็สุดยอดไปเลยต่อไปจะได้ไม่ต้องกังกล เรื่องการทำอาหารในยุคนี้แล้ว

ไม่นานกลิ่นหอมของอาหารก็ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ บ่าวในห้องครัวพากันได้กลิ่นอาหารก็พากัน นำ้ลายไหลท้องร้องกันเป็นแถว ไม่อยากเชื่อว่าคุณหนูในห้องหอและหน้าตางดงาม จะทำอาหารได้คล่องแคล่วว่องไว แถมอาหารยังออกมาน่ากิน จนพวกเขาต้องแอบกลืนน้ำลายไปตามๆ กัน

หลังจากอาหารเสร็จซูหนี่ห์ก็หันไป จะบอกกับบ่าวในครัวว่า เครื่องปรุงรสเหล่านี้ห้ามเอาไปไหน แต่พอหันไปดูเครื่องปรุงเหล่านั้นก็หายไปแล้ว นี่มันอะไรกันเนี่ยะ!!แปลกประหลาดมากเกินไปแล้ว ซูหนี่ว์เลิกใส่ใจขนาดทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้ ก็ยังเกิดขึ้นมาแล้ว นับประสาอะไรกับเครื่องปรุงทะลุมิติจะเกิดขึ้นไม่ได้

เมื่อทุกคนมาพร้อมกันที่โต้ะอาหาร ก็ต้องตกใจกับอาหารที่อยู่ตรงหน้า กลิ่นของอาหารและสีสันที่น่ากิน 

“หลานรักอาหารพวกนี้เจ้าทำเองทั้งหมดเลยรึ? ไป่เฉิงหันมาถามซูหนี่ว์ เพราะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

“เจ้าค่ะ” ซูหนี่ห์ตอบและยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

“โอ..หลานยาย หน้าตาเจ้างดงามแล้วยังเป็นแม่บ้านแม่เรือนอีกด้วย เจียวเอ่อร์เจ้าเลี้ยงลูกได้ดีเสียจริง” ฮูหยินไป๋รู้สึกปลาบปลื้มใจยิ่งนักที่เห็นซูเจียวบุตรสาว ที่แม้จะเลี้ยงบุตรมาเพียงลำพังแต่ก็ทำได้ดี ซูหนี่ว์เติบโตมางดงามและมีความสามารถเช่นนี้ น่าชื่นชมจริงๆ

“ท่านพ่อท่านแม่ท่านก็อย่าเพิ่งชมเลยเจ้าค่ะ รสชาติจะได้เรื่องหรือเปล่าข้าเองก็ยังไม่รู้เลย” พอซูหนี่ว์

ได้ยินมารดาเอ่ยเช่นนั้นก็ยืดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่รู้ คอยดูเถอะได้ชิมแล้วจะติดใจ

“น้องหญิง!มาถึงแล้วรึ? เสียงบุรุษที่อยู่ในเครื่องแบบ ของทางราชการเอ่ยถาม พร้อมเดินเข้ามาร่วมวงที่โต้ะอาหาร

“โอ้โฮ!!อาหารน่ากินทั้งนั้นเลย” ซูอันคุณชายใหญ่ที่ชอบการกินเป็นที่สุดตาลุกวาว

“คารวะพี่ใหญ่/คารวะท่านลุง”

ซูอันหันกลับมามองน้องสาวที่ไม่เจอกันหลายปี นางยังคงเป็นสตรีที่สวยสดงดงาม แม้วันเวลาผ่านไปหลายปี ข้างกายนางมีดรุณีแรกแย้ม งดงามไม่ต่างกันเพียงแต่เยาว์วัยกว่า นี่คงเป็นหลานสาวของเขาเป็นแน่

“เป็นไงหนี่ว์เอ่อรชอบเมืองหลวงหรือไม่?

“ชอบเจ้าค่ะ” ซูหนี่ว์ยกยิ้ม แอบสังเกตซูอันผู้เป็นลุงที่ปากสนทนา แต่สายตากลับเหลือบมองแต่อาหารบนโต้ะ ท่าทางท่านลุงคงจะเป็นคนชอบกินคนหนึ่ง

“อาหารมื้อนี้น่ากินทั้งนั้นเลย ข้าหิวมากเลยขอเริ่มก่อนได้หรือไม่?” ซูอันหันไปขอความคิดเห็น แต่ก็ไม่ได้รอคำตอบรีบนั่งลงแล้วรีบจัดการคีบอาหารที่อยู่ตรงหน้า มาใส่ถ้วยข้าวแล้วคีบใส่ปากทันที ก่อนที่จะหยุดชะงักนิ่งไป

“ฮะ…อาหารนี่ผู้ใดเป็นคนทำ เหตุใดรสชาติแย่ขนาดนี้!! ซูหนี่ว์ที่ได้ยินก็รู้สึกไม่มั่นใจในฝีมือการทำอาหารขึ้นมา

“ท่านลุงข้าเป็นคนทำเองเจ้าค่ะ” พอได้ยินว่าหลานสาวเป็นคนทำ ซูอันก็หน้าซีดเผือดก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที

“อะไรนะเจ้าเป็นคนทำหรือ?

“ก็ใช่นะสิ หลานตาไม่ต้องไปสนใจลุงที่โง่เขลาของเจ้า อาหารที่เจ้าทำรสชาติต้องดีมากแน่ ทุกคนรีบลงมือกินก่อนที่จะโดนเจ้าตะกละนี่จัดการหมดซะก่อน” ไป๋ซูเฉิงแอบมองค้อนบุตรชาย นึกว่าเขาไม่รู้หรือไงว่า ที่พูดว่ารสชาติแย่นั้นเพราะอยากจะเก็บไว้กินคนเดียว

“หนี่ว์เอ่อรลุงขอโทษ ลุงผิดไปแล้ว ให้อภัยลุงเถอะนะ จริงๆ อาหารที่เจ้าทำรสชาติดีและอร่อยมาก ลุงก็เเค่พูดไปแบบนั้นเองเพราะไม่อยากให้ใครแย่ง”

“ซูอันนี่เจ้าจะเห็นแก่กินมากเกินไปแล้ว แถมพูดจาไม่รักษาน้ำใจหลาน น่าจะให้อดอาหารสักสามมื้อ” ฮูหยินไป๋ตวัดสายตาดุไปทางบุตรชายคนโต

“ท่านยายไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อร่อยก็ดีแล้วงั้นเรามาลงมือกันเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นเสียก่อน ท่านลุงกินเยอะๆ นะเจ้าค่ะ หากท่านชอบข้าจะทำให้กินทุกวันเลยเจ้าค่ะ”

ซูอันพอได้ยินว่าจะได้กินทุกวัน ก็ตาโตรีบจับมือซูอันอย่างตื่นเต้น” เจ้าพูดจริงรึหลานรัก”

“ฮึให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ เจ้าลูกเต่าจอมตะกละ” ไป๋ซูเฉิงที่ค่อนข้างสนิทกันกับบุตรชาย เอ่ยแขวะเข้าให้ ซูอันก็ส่งสายตาขัดเคืองไปให้บิดา ก่อนจะหันไปจัดการอาหารต่ออย่างรวดเร็ว จนไป๋ซูเฉิงส่ายหัวอย่างเอือมระอา พลอยทำให้ทุกคนหัวเราะกับกิริยาท่าทางของทั้งสองพ่อลูก

เย็นนั่นทุกคนเอร็ดอร่อยกับอาหารที่ไป๋ซูหนี่เป็นคนทำ โดยเฉพาะซูอันที่กินอย่างเอาเป็นเอาตาย จนซูหนี่รู้สึกเป็นห่วงว่าเขาจะไม่สบายท้องเพราะกินมากเกิน

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   ตอนที่45 คลอดลูก

    สองเดือนต่อมาอยู่ๆ ฮ่องเต้ก็เกิดอาการเวียนหัว คลื่นไส้อาเจียนอยากหนัก จนเขาลุกไม่ไหวที่ออกมาว่าราชกิจในท้องพระโรง หมอหลวงจึงรีบมาตรวจอาการก็ยังหาสาเหตุไม่พบ มีเพียงซูหนี่ว์ที่พอจะเดาได้ว่าเขาเป็นอะไร ก่อนนางจะให้หมอหลวงตรวจอีกคนเพื่อยืนยันความแน่ใจ หลังจากตรวจอาการของฮองเฮา หมอหลวงก็เผยยิ้มด้วยความยินดี“ยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ทรงตั้งครรภ์ได้ราวสองเดือนแล้ว”“ขอบคุณท่านหมอหลวง ที่จริงข้าก็พอจะรู้อยู่บ้างเพียงแต่อยากตรวจเพื่อความแน่ใจ สงสารแต่ฝ่าบาทที่ต้องมาแพ้ท้องแทนข้าเช่นนี้”“เดี๋ยวก็คงหายพ่ะย่ะค่ะ หากเรารู้สาเหตุก็ไม่ต้องกังวลเพียงแค่หาอะไรให้ฝ่าบาทเสวย บรรเทาอาการคลื่นไส้พ่ะย่ะค่ะ” ซูหนี่ว์พอจะรู้อาการพวกนี้อยู่บ้าง เพียงแต่นึกสงสารเขาเท่านั้นเองที่ต้องมาทรมานแทนนาง ซูหนี่ว์จึงเอ่ยเบาๆ กับลูกในท้องว่า “อย่าทรมารบิดาเจ้ามากนักสงสารเขาบ้างเถอะ” เหมือนเด็กในท้องนางจะรับรู้ได้ถึงสิ่งที่นางบอก อาการของฮ่องเต้จึงเริ่มทุเลาลงอย่างน่าเหลือเชื่อ โชคดีที่ช่วงนี้ราชกิจในท้องพระโรง ก็ไม่ต้องมีอะไรให้ต้องกังวล เหล่าขุนนางเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ต้องยอมทำตามเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ที่ฮองเฮาเสนอขึ้น ท

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   ตอนที่44 ท้องพระโรง

    ข่าวจากทางราชสำนักออกติดประกาศ ฮ่องเต้สละราชบัลลังก์และแต่งตั้งเฉินตงหยางเป็นฮ่องเต้ ส่วนซูหนี่ว์ถูกแต่งตั้งเป็นฮองเฮา ทำเอาฮือฮากันทั้งเมืองหลวง ช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองมีเปลี่ยนแปลงมากมาย หลายคนคอยจับตาและฟังข่าวว่าจะเกิดเหตุอันใดต่อไป เช้าวันต่อมาการประชุมในท้องพระโรงก็เริ่มขึ้น เหล่าขุนนางทยอยกันเข้ามาในท้องพระโรงอย่างเป็นปกติเช่นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไปเมื่อขันทีประกาศการมาของฮ่องเต้และฮองเฮา “ฮ่องเต้เสด็จ ฮองเฮาเสด็จ”เหล่าขุนนางรีบคุกเข่าถวายพระพรกันอย่างพร้อมเพรียง แต่สีหน้าทุกคนก็บ่งบอกถึงความแปลกใจ ที่เห็นว่ามีฮองเฮามาร่วมด้วย“ถวายพระพรฝ่าบาท ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี”“ถวายพระพรฮองเฮา ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี”“ลุกขึ้นเถิด” ฮ่องเต้เอ่ยขึ้นอย่างผ่อนคลาย แต่ก็แอบสังเกตสีหน้าของเหล่าขุนนางเฒ่าว่าเป็นแบบใด ซูหนี่ว์ฮองเฮาแม้ใบหน้าจะดูเรียบนิ่ง แต่แอบสังเกตมองเหตุการณ์ทุกอย่างไม่ให้รอดพ้นสายตา ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์พวกนี้หากวันนี้กล้าหาเรื่องนางละก็ จะจัดให้ชุดใหญ่เลยทีเดียว“ทูลฝ่าบาท” ขุนนางกรมพิธีการหยุดชะงัก เมื่อฮ่องเต้ยกมือห้ามให้เขาหยุด“ก่อนที่ท่านจะพู

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   ตอนที่ 43 ย้ายเข้าวัง

    สามวันต่อมาการจัดทำโรงทานแจกอาหารก็มาถึง ซูหนี่ว์ให้องครักษ์ที่เป็นทหารยี่สิบคนช่วยทำ เพราะพวกเขาคล่องแคล่วและเรียนรู้ได้ไวมาก จึงคิดจะดึงพวกเขาไว้ที่จวนส่วนทหารอีกแปดสิบคนนางส่งไปอยู่ที่วังหลวง นางจะทำโรงทานสามวัน วันแรกนางตั้งใจจะทำโจ๊กทรงเครื่อง น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ซึ่งนางคิดว่าดูเรียบง่ายและสะดวก อีกทั้งนางยังใส่หมูสับและไข่ เครื่องปรุงนางก็ให้คนหั่นเตรียมไว้ หากมีใครอยากจะใส่ขิง ต้นหอมผักชีซอยและกระเทียมก็สามารถใส่ได้ ก่อนนางจะยกหม้อโจ๊กมาตั้ง นางก็ให้ถิงถิงและชิงอีตั้งโต้ะเหมือนทุกครั้งเพื่อบวงสรวงอาหาร แต่ครั้งนี้นางให้ซูเจียว เฉินอ๋อง ชุนไห่ ชุนเต๋อ และบ่าวในจวนมาจุดธูปไหว้ด้วยเช่นกัน นางไม่รู้ว่าดวงวิญญาญจะจากไปเมื่อใด แต่เพราะวันนี้เป็นประหารชีวิตของสองตระกูล นางคิดว่าดวงวิญญาณอาจจะสลายและจากไป ซูหนี่ว์มองเห็นท่านปู่ ท่านย่า ท่านพ่อ และบ่าว ยืนมองนางและทุกคนด้วยสายตาอิ่มเอิบอย่างมีความสุข“ท่านปู่ ท่านย่า ท่านพ่อ และดวงวิญญาณทุกดวงขอให้ไปสู่ภพที่ดีนะเจ้าคะ”“ซูหนี่ว์ขอบใจเจ้ามาก เจ้าเองก็ดูแลตัวเองให้ดี ปู่ได้เห็นเจ้าเติบโตมาดีเช่นนี้ถึงตายก็ไม่เสียดายแล้ว” จ้าวซีห่าวเอ่ยขึ

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   ตอนที่42 ทำลูก

    เช้าวันต่อมาทางราชสำนักจากวังหลวงได้ส่งทหารมาปิดประกาศความผิดของสองตระกูลหลี่และตระกูลเซี๊ยะโทษฐานเป็นกบฏ ยึดทรัพย์ตระกูลเซี๊ยะเข้าวังหลวง ส่วนทรัพย์สินของตระกูลหลี่ยึดทรัพย์เป็นกองกลาง ซึ่งชายาเฉินในฐานะทายาทที่เหลืออยู่ของสกุลจ้าว จะเป็นผู้ดูแลในส่วนนี้นางต้องการทำโรงทาน และบริจาคข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้กับผู้ยากไร้ เพื่อสร้างบุญกุศลให้กับวิญญาณที่จากไป ในท้องพระโรงฮ่องเต้ประกาศแต่งตั้งเฉินอ๋องขึ้นเป็นรัชทายาท ซึ่งก็ไม่มีผู้ใดคัดค้านแต่อย่างใด ที่จริงเฉินอ๋องไม่อยากรับตำแหน่งเพราะเขาอยากใช้ชีวิตอิสระนอกวังมากว่า แต่เพราะตำแหน่งรัชทายาทจะว่างไม่ได้ เขาจึงต้องรับตำแหน่งนี้ไปชั่วคราว หลังจากเสร็จกิจจากท้องพระโรง เฉินหลงฮ่องเต้และเฉินอ๋องก็มายังห้องทรงอักษร ที่มีไท่ซ่างหวงและซูหนี่ว์รออยู่ ซูหนี่ว์อยากวางรากฐานให้ราชวงศ์มีความมั่นคง นางไม่อยากแทรกแซงการเมืองการปกครอง แต่นางต้องอยู่ที่นี่ต่อไปและต้องมีลูก นางจะต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องแม้จะดูไม่ค่อยเหมาะสมก็ตาม“เอาละเรามาเริ่มกันเลย ลูกสะใภ้เจ้าก็อย่าเป็นกังวล เป็นเพราะข้าต้องการให้เจ้ามามีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็นว่าจะเอาอย่างไร

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   ตอนที่41กระชับความสัมพันธ์

    ฮ่องเต้สั่งให้ทหารจับกุมคนที่ส่วนเกี่ยวข้อง และเก็บกวาดทำความสะอาดรอบบริเวณ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยกับซูหนี่ว์“ในฐานะที่ข้าเป็นฮ่องเต้ ข้าต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ข้าเองก็มีส่วนผิด เพราะฉะนั้นข้าจะให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป” ซูหนี่ว์มองหน้าเขาก่อนจะเอ่ยขึ้น“ตระกูลหลี่สมควรถูกประหารเช่นเดียวกับตระกูลจ้าวเมื่อสิบห้าปีก่อน ติดป้ายประกาศความผิดของสกุลหลี่ว่าเคยใส่ร้ายสกุลจ้าวและโทษฐานเป็นกบฏ ยึดทรัพย์สินทั้งหมดมาให้หม่อมฉัน หม่อมฉันจะทำโรงทานแจกอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้กับผู้ยากไร้ ส่วนตระกูลเซี๊ยะ ตัดสินโทษประหารเช่นเดียวกัน ยึดทรัพย์สินทั้งหมดเข้ากองคลัง”“ได้ข้าจะจัดการตามนี้” ฮ่องเต้รับคำอย่างไร้ข้อโต้แย้ง ลูกสะใภ้เขาคนนี้ทั้งเก่งกาจและฉลาดเฉลียว เป็นบุญและวาสนาของชาวเป่ยเซียงจริงๆ“งานวันนี้ย้ายไปที่อุทยานเถิด หม่อมฉันให้ท่านตาและท่านแม่จัดเตรียมไว้รอแล้วเพคะ” ซูหนี่ว์เอ่ยยิ้มๆ “หะ…นี่เจ้า” ฮ่องเต้ถึงกับพูดไม่ออก นางวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างรอบคอบจริงๆ ลูกสะใภ้ผู้แสนดี“ขออภัยทุกท่านที่ต้องมาเจอเหตุการณ์อย่างในวันนี้ เพื่อเป็นการชดเชย หม่อมฉันได้จัดเตรียมอาหารและสุราที่อุทย

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   ตอนที่40 ต่อสู้

    การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นอย่างดุเดือดไม่มีใครยอมใคร ผ่านไปหลายกระบวนท่าเฉินอ๋องก็ยังไม่สามารถสยบฉีอ๋องลงได้ ฉีอ๋องดูแข็งแกร่งดั่งหินผา มีพละกำลังลมปราณอย่างล้นเหลือ วรยุทธก็เหนือชั้นกว่าเฉินอ๋องหลายเท่า แต่เฉินอ๋องก็สู้ยิบตาไม่ถอย จังหวะต่อมาฉีอ๋องหมุนตัวหลบ และสะบัดฝ่ามือกระแทกลงไปบนหน้าอกของเฉินอ๋องอย่างแรง แรงกระแทกทำให้เฉินอ๋องกระอักเลือดออกมาอย่างมากมาย เขาเซถอยหลังไปหลายก้าว เฉินอ๋องรู้สึกปวดร้าวไปทั่วหน้าอกกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ฉีอ๋องที่เห็นเป็นโอกาสก็ปล่อยพลังปราณใส่เขาทันที คราวนี้แรงกระแทกของพลังทำเอาร่างเฉินอ๋องกระเด็นลอยขึ้นไปบนอากาศ ทุกคนแทบลืมหายใจตกตะลึงมองภาพนั้นตาค้าง ซูหนี่ว์ที่เห็นเช่นนั้นหัวใจก็แทบหยุดเต้น ความโกรธแล่นเข้าสู่จิตใจจนยากจะระงับ รีบพุ่งทะยานไปรับร่างเฉินอ๋องก่อนที่จะร่วงกระแทกลงพื้น “ท่านอ๋อง!!!!” นางร้องออกไปอย่างสุดเสียง หัวใจบีบอัดอย่างรุนแรง ระหว่างที่นางพุ่งไปรับร่างของเขา แสงสีทองก็เปล่งประกายเจิดจ้าออกมาจากร่างของซูหนี่ว์ จากนั้นปีกสีทองคล้ายปีกนก ก็งอกออกมาจากกลางหลังของนาง ซูหนี่ว์รับร่างของเฉินอ๋องเอาไว้ได้ทัน ก่อนจะอุ้มร่างของเขาบินกลับมาตร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status