แชร์

บทที่ ๒/๑ สตรีต่ำช้า

ผู้เขียน: Siya Rck
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-22 16:54:55

วันนี้รถม้าของขุนนางในเมืองหลวงทุกคันล้วนมุ่งหน้าไปยังจวนของมหาเสนาบดีหานจง เพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบวันเกิดในวัยห้าสิบปีของขุนนางใหญ่ โคมแดงประดับไว้ทั่วจวน ยิ่งเสริมความเป็นมงคล มองไปที่ใดก็เห็นแต่ความมั่งคั่งและสง่างามของจวนหลังใหญ่แห่งนี้

วันนี้หานลั่วอิงสวมใส่ชุดที่สั่งทำล่วงหน้าจากร้านผ้าสกุลเหลา ซึ่งตัดเย็บจากผ้าไหมหางโจวสีชมพูอ่อน ปักลวดลายดอกโบตั๋นดูงดงามเกินคำบรรยาย ผ้าคาดเอวปักลายเถาวัลย์อย่างประณีต เครื่องแต่งกายผนวกรวมกับใบหน้างามโดดเด่นแล้ว ก็ส่งเสริมกันเป้นอย่างดี จนสามารถพูดได้ว่าหานลั่วอิงนับเป็นโฉมสะคราญนางหนึ่งได้ไม่แพ้ใคร

ไฉ่หงบรรจงเสียบปิ่นปักผมที่ด้ามทำมาจากทองคำแท้ ตรงปลายประดับด้วยไข่มุกตงจูเม็ดใหญ่และมีสายสร้อยสีทองห้าเส้นห้อยระย้าลงมา เครื่องประดับชิ้นนี้ หานลั่วอิงต้องใช้เงินถึงสามร้อยตำลึงในการสั่งทำกับร้านหย่งชิน เพราะธรรมดาแล้วไข่มุกตงจูนั้นก็หายากมาก แต่ไข่มุกที่มีขนาดใหญ่เท่าหัวแม่มือกลับหายากยิ่งกว่า ราคาสามร้อยลำตึงจึงควรคู่กับปิ่นทองล้ำค่าชิ้นนี้แล้ว

ไฉ่หงมองคุณหนูของตนที่กำลังพิศดูโฉมตนเองในคันฉ่องทองเหลือง แล้วเอ่ยขึ้นว่า “คุณหนูวันนี้ท่านงามมากที่สุดเลยเจ้าค่ะ หากท่านแม่ทัพถานได้มาเห็นท่านในวันนี้ บ่าวเชื่อว่าแม่ทัพถานจะต้องหันกลับมามองคุณหนูซ้ำอีกแน่นอน”

กิริยาโดยปกติของหานลั่วอิงต่อคนทั่วไป นางจะเป็นคนก้าวร้าวและเอาแต่ใจเป็นอย่างยิ่ง แต่หากนางได้รักใครแล้ว ก็จะดีกับคนผู้นั้นเป็นพิเศษ ไฉ่หงก็เป็นหนึ่งในนั้น บรรดาบ่าวไพร่ในจวนสกุลหาน ไฉ่หงได้สวมใส่เสื้อผ้าชั้นดีจากร้านสกุลเหลา มีเครื่องประดับสวยงามอีกหลายชิ้นที่เจ้านายซื้อให้ อาหารการกินก็ไม่ต้องไปกินรวมกับบ่าวไพร่คนอื่น มีสำรับแยกให้ต่างหาก ทั้งมีห้องนอนส่วนตัวด้วย เมื่อหานลั่วอิงดีกับนางเช่นนี้ ไฉ่หงจึงจงรักภักดีจนหมดหัวใจ

ดีมากเสียจนมีคนค่อนขอดว่าหานลั่วอิงเลี้ยงดูสาวใช้อย่างคุณหนูตระกูลใหญ่ผู้หนึ่งเสียเลยด้วยซ้ำ

“อืม...ข้าก็อยากให้พี่อวินซีได้เห็นข้าในชุดนี้เร็วๆ เหมือนกัน” เมื่อมองสำรวจความเรียบร้อยของตนเองในกระจกจนพอใจแล้ว หานลั่วอิงก็เห็นพ้องกับไฉ่หง นางพร้อมจะไปปรากฏตัวแล้ว หานลั่วอิงเดินออกมาจากเรือนหยกขาว ขณะเดินผ่านสวนหย่อมด้านนอก ก็บังเอิญมาพบกับศัตรูหัวใจเข้าอย่างจัง!

หานหนิงอันที่กำลังจะไปร่วมงานเลี้ยงของบิดา เมื่อเห็นพี่สาวก็ชะงักฝีเท้าทันที ใบหน้าของหานหนิงอันนั้นงดงามน่ารัก แต่ถ้าเทียบกันแล้ว ความงามกลับห่างชั้นจากหานลั่วอิงอยู่มาก เมื่อได้เห็นชุดผ้าไหมชั้นดีและปิ่นไข่มุกตงจูบนศีรษะของพี่สาว หานหนิงอันก็กำผ้าเช็ดหน้าในมือไว้แน่น แววตาเผยความริษยาออกมาอย่างไม่อาจกลั้น

แม้ว่าจะเป็นบุตรสาวของท่านพ่อเหมือนกัน แต่เหตุใดหานลั่วอิงจึงได้สิ่งที่ต้องการทุกอย่าง ไม่ว่าพี่สาวเอ่ยปากขออะไร ท่านพ่อก็จะรับปากในทันที ดูได้จากเรือนที่พัก เรือนหยกขาวเสมือนตำหนักขององค์หญิงเลยด้วยซ้ำ ผิดกับเรือนพักของนางและท่านแม่ที่ตกแต่งด้วยเครื่องเรือนที่แสนเรียบง่าย เสื้อผ้าแม้จะตัดจากร้านผ้าสกุลเหลาเหมือนกัน แต่ด้วยเงินที่ท่านพ่อให้สองแม่ลูกใช้นั้น ก็จำกัดเหลือเกิน นางจึงไม่มีโอกาสได้ตัดชุดผ้าไหมหางโจวเลยสักชุดเดียว!

แล้วเครื่องประดับสวยงามนั่นอีกเล่า...ชาตินี้คนอย่างหานหนิงอันคงไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ!

เดิมทีหานลั่วอิงอยากจะเดินไปถึงงานเลี้ยงก่อนน้องสาว แต่พอเห็นท่าทีอีกฝ่ายและคิดดูดี ๆ อีกที นางก็ควรช้าหน่อยเพื่อปล่อยให้หานหนิงอันได้เห็นชุดผ้าไหมหางโจวและปิ่นไข่มุกตงจูจะดีกว่า หานลั่วอิงจึงแกล้งชะลอฝีเท้าลงอย่างจงใจ

เมื่อหานหนิงอันเดินมาใกล้พี่สาว แววตาก็มองหานลั่วอิงตั้งแต่หัวจรดเท้า ในใจพลันคิดว่า ‘ดูเอาเถิด! ขนาดรองเท้าปักลายดอกไม้ยังเป็นผ้าไหมอย่างดี คงเป็นรองเท้าคู่ใหม่อีกกระมัง!’

แต่ปากกลับเอ่ยตรงกันข้าม “พี่ใหญ่ วันนี้ท่านงดงามเหลือเกินนะเจ้าคะ”

หานลั่วอิงพยักหน้ารับเบา ๆ หางตาชำเลืองมองน้องสาวที่แต่งกายงดงาม แต่ดูแล้วทุกอย่างบนร่างของหานหนิงอันนั้น ดูด้อยกว่านางไปเสียทุกอย่าง ริมฝีปากปรากฏรอยยิ้มหยันออกมา

“เจ้าก็งามเช่นกัน เสียแต่ว่า...”

“แต่ว่า...อะไรหรือเจ้าคะ”

หานหนิงอันเค้นเสียงถามออกมาจนได้ นางมองแววตาของพี่สาวที่ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด แล้วก็รู้ว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีเจตนาดีต่อนางเช่นกัน กระนั้นหานหนิงอันก็ยังอยากรู้ว่าพี่สาวร่วมบิดาของนางจะพูดอะไร

หานลั่วอิงสำรวจน้องสาวด้วยแววตาที่ไม่ต่างออกไปจากที่อีกฝ่ายใช้มองนางเมื่อครู่ “ดูด้อยไปสักหน่อย แต่จะโทษอะไรได้ ในเมื่อเจ้าไม่ใช่ข้า”

ไฉ่หงลอบยิ้ม แม้คุณหนูของนางจะไม่เชี่ยวชาญเรื่องการแต่งบทกวี แต่วาจานั้นหากต้องการเชือดเฉือนคน ก็ทำได้เฉียบคมยิ่ง

ส่วนสาวใช้ของหานหนิงอันอย่างซินอี๋เมื่อเจ้านายถูกหยามหน้าก็อดเคืองแทนนายไม่ได้ จึงกระซิบบางอย่างที่ข้างหูเจ้านายเบา ๆ หลังจากนั้นหานหนิงอันก็มีสีหน้าดีขึ้นมาก

“ถึงข้าจะไม่มีทุกอย่างเหมือนพี่ใหญ่ ต้องด้อยกว่าโดยไม่มีเงื่อนไข แต่ว่าข้าก็ได้บางสิ่งที่มีค่ามากที่สุด ซึ่งพี่ใหญ่คงไม่อาจไขว่คว้ามาเป็นของตนเองได้ แม้ว่าจะมีทรัพย์สินมากเพียงใดก็ตาม”

หานหนิงอันยกมือที่ถือผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา แสร้งปิดหน้าแสดงท่าทีเอียงอาย ก่อนจะกล่าววาจาเชือดเฉือนใจที่นางเลือกมาใช้เพื่อทำร้ายจิตใจพี่สาว “ของมีค่าชิ้นนั้นคือ...พี่อวิ๋นซีอย่างไรเล่าเจ้าคะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมารักษาเพื่อหย่าขาด   บทที่ ๑๐/๒ ระแวงแคลงใจ

    ​หานหนิงอันรู้สึกผิดหูกับคำเรียกขานของถานอวิ๋นซีที่เรียกพี่สาวว่า‘ลั่วอิง’ จึงหันไปมองซินจี๋ สองนายบ่าวรู้ใจกันดี แสดงละครปกปิดความผิดของตนออกมาอีกครั้ง​ซินจี๋ชี้แจงความเท็จอย่างคล่องแคล่ว “เป็นซินจี๋ที่ไม่รู้ความ วันก่อนบ่าวมีโอกาสผ่านหอชมจันทร์อีกครั้ง ก็ไปถามเรื่องนี้เพื่อความแน่ใจ ปรากฏว่าคุณหนูใหญ่ไม่ได้ไปที่หอชมจันทร์นานมากแล้ว หญิงผู้นั้นเพียงหน้าตาคล้ายคุณหนูใหญ่ ท่านหลงจู๊บอกเช่นนั้นเจ้าค่ะ”​ถานอวิ๋นซีพยักหน้ารับทราบ แม้ในใจจะรู้สึกแปลกอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่อยากคาดคั้นพวกนางสองคนอีกต่อไป นั่งค

  • ทะลุมิติมารักษาเพื่อหย่าขาด   บทที่ ๑๐/๑ ระแวงแคลงใจ

    หลังจากเหตุการณ์มีปากเสียงกันวันนั้น หานลั่วอิงก็ไม่โผล่หน้ามาให้เขาเห็นอีกเลยอาหารและยาก็ล้วนเป็นบ่าวที่ยกเข้ามา คนสั่งไม่ยอมออกหน้า เรียกได้ว่านางทำตัวห่างเหินกับเขาอย่างเปิดเผยโดยแท้​ก่อนหน้านี้หานลั่วอิงเข้าครัวบ่อยครั้ง ถานอวิ๋นซีไม่ใช่ไม่รู้ถึงความจริงในข้อที่ว่าหากหานลั่วอิงรู้ว่าเขาชอบกินอะไร นางก็จะเข้าครัวไปปรุงอาหารด้วยตนเอง จนตอนนี้เขาติดรสมือของนางไปเสียแล้ว​ยามนี้เขาไม่เห็นนางมาสองวันแล้ว แต่ก็ปากหนักไม่ยอมเอ่ยปากถามกับบ่าวรับใช้ ฝืนทนกินกับข้าวที่ไม่คุ้นลิ้นต่อไป ตอนนั้นเองที่ถานอวิ๋

  • ทะลุมิติมารักษาเพื่อหย่าขาด   บทที่ ๙/๒ ถานฮูหยิน

    สีหน้าของผู้ฟังเหมือนจะสำนึกขึ้นได้ จึงหัวเราะแก้เก้อ​“ใช่! ใช่! ต้องเรียกว่าถานฮูหยิน เอาล่ะ หากข้าเจอต้นกระดิ่งสวรรค์ ก็จะนำมันมาเป็นของกำนัลให้กับถานฮูหยินอีกหลาย ๆ ต้น”​หานลั่วอิงยอบกายลงแสดงความขอบคุณอย่างอ่อนน้อม ทำให้สายตาของหวังเซียวจิ้นเหม่อลอยอีกครั้ง ​หลังจากกลุ่มสหายทั้งหมดลากลับไปแล้ว ถานอวิ๋นซีก็ให

  • ทะลุมิติมารักษาเพื่อหย่าขาด   บทที่ ๙/๑ ถานฮูหยิน

    หานลั่วอิงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ที่เรือนส่วนตัวของตนเอง ในแต่ละวันนอกจากอ่านตำราทางการแพทย์แล้ว นางก็ไปเล่นหมากรุกกับถานอวิ๋นซีเกือบทุกวัน แต่ก่อนเขามักจะหงุดหงิดที่ต้องแพ้นาง แต่ตอนนี้ดูเป็นคนอารมณ์เย็นขึ้นมาก​และทุกเดือนนางต้องปลอมตัวเป็นท่านหมอหลี่ เข้ามาที่จวนตระกูลถานเพื่อฝังเข็มและจ่ายยา จากที่ในตอนแรกหน้าตาของถานอวิ๋นซีดูไม่เชื่อถือสักเท่าไหร่

  • ทะลุมิติมารักษาเพื่อหย่าขาด   บทที่ ๘/๒ สายตาไม่พรากจาก

    ใบหน้าถานอวิ๋นซีตึงขึ้นมาทันที ขณะที่มองหานลั่วอิงเรียงตัวหมากบนกระดาน“เช่นนั้นสิ่งที่เจ้าคิดว่ามีประโยชน์คืออะไร ข้าอยากรู้นัก”​“การเอาเวลามาคิดช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลังประสบภัยแล้งทางตอนใต้น่ะสิ”​“เจ้าว่าอะไรนะ!” ถานอวิ๋นซีถามซ้ำอีกครั้งสุ้มเสียงแปลกใจอย่างชัดเจน ราวกับว่าคำพูดนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยินจากปากของหานลั่วอิง​“ตอนที่ข้าออกไปข้างนอก ได้ยินมาว่าพื้นที่ทางตอนใต้ของแคว้นนั้นเกิดเหตุภัยแล้ง แม้จะเกิดทุกปี แต่ปีนี้หนักที่สุด”​หา

  • ทะลุมิติมารักษาเพื่อหย่าขาด   บทที่ ๘/๑ สายตาไม่พรากจาก

    ทุกเช้าหานลั่วอิงจะเข้ามาดูแลถานอวิ๋นซีด้วยตนเอง ในเรื่องของของการทำความสะอาดร่างกายนางก็ปล่อยให้บ่าวชายจัดการไป ส่วนเรื่องอาหารและยารักษารวมถึงการนวดขานั้น นางยังคงทำให้เช่นเดิม​ในช่วงแรกนั้นถานอวิ๋นซีไม่ยอมแม้จะมองหน้านางสักนิด แต่หานลั่วอิงก็รู้เหตุผลของเขาดี นางจึงไม่ได้เซ้าซี้และทำเท่าที่ต้องทำ นอกเหนือกว่านั้นก็ไม่แสดงอาการอะไรใด

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status