Share

บทที่ 10 ความเชื่อใจ (2)

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-20 14:37:54

“คุณแม่” / “หญิงใจร้าย”

“เป็นเด็กเป็นเล็กใช้เตาไฟโดยไม่มีผู้ใหญ่อันตรายแค่ไหนไม่รู้หรือไง”

“พวกเราเป็นผู้ชายเจ็ดขวบแล้ว ขึ้นชั้นประถมแล้วด้วย ไม่ใช่เด็กแล้ว”

หลี่จื่อชิงร้องโวยวายโต้แย้ง พ่อเคยบอกว่าพวกเขาเป็นผู้ชาย ตอนนี้เจ็ดขวบแล้วอีกทั้งยังขึ้นชั้นประถมแล้วไม่นับว่าเป็นเด็กอีกต่อไป ต้องรู้จักพึ่งพาช่วยเหลือตนเอง หญิงใจร้ายตรงหน้าไม่รู้เรื่องของผู้ชายละสิ ถึงได้ยังคิดว่าพวกเขาเป็นเด็กแบบพวกผู้หญิง

ซ่งเจียซินถอนหายใจยาวมองดูความดื้อดึงของเด็กชายตรงหน้าอย่างระอาใจ ทว่าพริบตาก็เปลี่ยนเป็นขุ่นเคืองจ้องมองใบหน้าแต่ละคนด้วยสายตาไม่พอใจ

“จื่อชิง แค่พูดไม่ระวัง ถ้าคุณไม่พอใจที่พวกเราใช้เตาไฟอย่างนั้นพวกเราก็จะไม่ใช้”

หลี่จื่อหมิงเห็นสายตาขุ่นเคืองของหญิงสาวตรงหน้าก็คิดว่าเธอคงไม่พอใจที่หลี่จื่อชิงโต้แย้งเมื่อครู่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้น้องถูกทำโทษขังในห้อง หรือให้อดอาหารเหมือนในอดีต หลี่จื่อหมิงจึงหลบเลี่ยงด้วยการคิดจะพาน้อง ๆ กลับขึ้นห้อง

คิดแล้วก็โมโหตนเอง เพราะหลายวันมานี้เสวี่ยชิงหยวนใจดีกับพวกเขามากไป ดังนั้นหลี่จื่อหมิงจึงชะล่าใจไม่ได้เตรียมอาหารแห้งซ่อนไว้ในห้องเช่นเมื่อก่อน วันนี้จึงจำใจต้องถอยหนึ่งก้าวเพื่อปกป้องท้องของทุกคน

ทนหิวหนึ่งมื้อก็ดีกว่าต้องทนหิวไปอีกหลายวัน

“หน้าพวกนาย ฝีมือใคร”

เพราะความหิวทำให้เด็กชายทั้งสามลืมไปเสียสนิทว่าพวกตนหลบหน้าเสวี่ยชิงหยวนเพราะไม่ต้องการให้เธอเห็นรอยฟกช้ำบนใบหน้า ตอนนี้คิดจะหลบเลี่ยงก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว

ซ่งเจียซินไม่รอคำตอบจากพวกเขาเดินตรงเข้ามาจับตัวของเด็กชายแต่ละคนเปิดเสื้อสำรวจร่างกาย เมื่อเห็นว่าเนื้อตัวของพวกเขามีรอยฟกช้ำทั้งเก่าและใหม่ก็ขบกรามแน่น

ซ่งเจียซินหลับตาขมวดคิ้วแน่น พยายามเค้นหาความทรงจำของเสวี่ยชิงหยวนว่าในอดีตเคยทำร้ายเด็กชายทั้งสามหรือไม่

“แม่ครับ พวกเราขอโทษ”

หลี่จื่อรั่วเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้ามารดาเลี้ยงที่ตอนนี้สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง

ซ่งเจียซินค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเมื่อพบว่าในความทรงจำนี้แม้ว่าเสวี่ยชิงหยวนจะเป็นสตรีร้ายกาจ แต่เธอก็ไม่เคยลงมือทุบตีเด็กชายทั้งสาม เวลาไม่พอใจก็จะใช้วิธีกักขังเอาไว้ในห้อง หรือให้อดอาหาร ดังนั้นรอยฟกช้ำบนตัวของพวกเขาแน่นอนว่าต้องมาจากผู้อื่น

“แม่จะไม่โกรธถ้าจื่อรั่วบอกแม่มาว่าใครเป็นคนทำร้ายลูก ๆ”

เมื่อถูกถามถึงคนที่ลงมือทำร้ายตนเองและพี่ชายฝาแฝดทั้งสอง หลี่จื่อรั่วก็เม้มริมฝีปากแน่น หลี่จื่อหมิงเอื้อมมือมาดึงน้องชายให้ถอยห่างจากมารดาเลี้ยงแล้วพูดเสียงเยือกเย็นราบเรียบ

“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”

กล่าวจบก็จับมือน้องชายทั้งสองเดินกลับขึ้นห้อง หากแต่

ซ่งเจียซินก็เดินมาขวางทางเอาไว้ด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“ใครบอกว่าไม่ใช่เรื่องของฉัน พวกนายเป็นลูกของฉัน”

“แค่ลูกเลี้ยง”

หลี่จื่อชิงพูดแทรกขึ้นมา พลางเบนสายตาหลบไม่สบตา

“จะลูกจริงหรือลูกเลี้ยงพวกนายก็คือลูกของฉัน ถ้าวันนี้พวกนายไม่บอกความจริงกับฉัน พรุ่งนี้ฉันก็จะไปถามที่โรงเรียน”

“คุณจะอยากรู้ไปทำไม ไม่ต้องห่วงถ้าคุณพ่อถามพวกเราจะบอกว่าไม่เกี่ยวกับคุณ”

ซ่งเจียซินได้ยินหลี่จื่อหมิงตอบกลับด้วยท่าทางเย็นชาก็สูดลมหายใจเข้าข่มกลั้นอารมณ์

“จื่อหมิง วันก่อนนายไม่ใช่บอกว่าจะเชื่อฟังฉันหรือไง”

“ไม่ได้บอกว่ากี่วัน”

เป็นอีกครั้งที่ซ่งเจียซินต้องใช้ลมหายใจควบคุมอารมณ์ตนเอง หลี่จื่อหมิงอายุเจ็ดขวบก็รู้จักใช่เล่ห์เหลี่ยมแล้วหรือ

“ได้! อย่างนั้นพรุ่งนี้ก็ไปโรงเรียนพร้อมกัน”

“พวกเราไปมีเรื่องมา อยากลงโทษก็ลงโทษไม่ต้องทำเรื่องให้วุ่นวาย”

เป็นหลี่จื่อชิงที่พูดออกมาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ซ่งเจียซินยังเห็นว่าเขาแอบยกมือปาดน้ำตาบนใบหน้า ราวกับอัดอั้นตันใจในบางสิ่ง

“แม่ครับ พวกเราไม่ได้เริ่มก่อน เป็นพวกติงฝูไห่ที่มารีดไถเงินพวกเรา แล้วยังว่าพวกเราจนจื่อชิงทนไม่ไหวแล้วก็...”

“จื่อรั่วไม่ต้องพูดแล้ว เป็นผมเองที่หาเรื่อง คุณจะตีหรือจะลงโทษอะไรก็มาลงที่ผม คนอื่นไม่เกี่ยว”

“ห้ามตีพวกเขา! หรือถ้าจะตีก็ตีผม”

ซ่งเจียซินมองดูสามพี่น้องตรงหน้าแล้วถอนหายใจยาว ไม่รู้ว่าเธอควรดีใจในความรักใคร่ปรองดองของพวกเขา หรือโมโหที่พวกเขาร่วมมือกันปกปิดเรื่องราวกันแน่

“อย่างนั้นให้พวกนายเลือก อยากให้ฉันรู้ความจริงจากปากพวกนาย หรือคำโกหกจากปากคนอื่น”

ความจริงจากปากพวกเขา หรือคำโกหกจากปากคนอื่น หมายความว่าเธอเชื่อพวกเขาอย่างนั้นหรือ หลี่จื่อหมิงจ้องมองดวงตากลมของมารดาเลี้ยงอย่างชั่งใจก่อนจะเป็นคนเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น

“ดี! อย่างนั้นพรุ่งนี้ก็ไปโรงเรียนพร้อมกัน”

“จะไปทำไมอีก ไหนคุณบอกว่าเชื่อพวกเราไง นี่คุณโกหกใช่ไหม จริง ๆ แล้วคุณไม่เคยเชื่อพวกเราเลย”

หลี่จื่อชิงได้ยินว่าหญิงใจร้ายตรงหน้าจะไปโรงเรียนก็โวยวายอีกระลอก ดวงตาเริ่มแดงก่ำอีกหน ซ่งเจียซินที่เห็นแล้วในใจก็อดจะรู้สึกเจ็บปวดไม่ได้ ความรู้สึกที่ไม่อาจพึ่งพาใครพวกเขาที่อายุแค่นี้จะรับไหวได้อย่างไรกัน

“พวกนายถูกคนอื่นรังแก ฉันจะไม่ไปเอาเรื่องได้อย่างไร”

ไปเอาเรื่อง นี่หมายความว่าเธอเชื่อคำพูดของพวกเขาอย่างนั้นเหรอ

“คุณ... เชื่อพวกเรา”

“พวกนายเป็นลูกของฉัน ฉันไม่เชื่อพวกนายแล้วจะให้ไปเชื่อคนอื่นหรือไง ไปนั่งที่โต๊ะฉันจะทำอาหารให้ คืนนี้ต้องกินให้อิ่มพรุ่งนี้จะได้มีแรงช่วยฉันหาเรื่องคน”

พูดจบหญิงสาวก็เดินเข้าไปในครัว หลี่จื่อหมิงมองตามแผ่นหลังบางที่ดูมั่นคงอย่างที่เขาไม่เคยเห็นแล้วพูดเสียงเบา

“หญิงอันธพาล”

ซ่งเจียซินที่ได้ยินคำชมของเด็กชายหน้านิ่งยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปเปิดเตาไฟทำอาหารง่าย ๆ ให้พวกเขากินก่อนจะแยกย้ายกันเข้าห้องนอน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทสุดท้าย แม่คนนี้ดีที่สุด (จบ)

    "ผมไม่ให้ไป!""คุณเฉิน นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวแบบนี้""สิทธิ์ในการเป็นสามีของคุณยังไงล่ะ"ได้ยินคำพูดที่เอาแต่ใจของชายหนุ่มตรงหน้าสิงฉู่หรันก็ได้แต่ขบกรามแน่น เดินเข้ามาประชิดตัวเขาแล้วพูดเสียงหนักแน่นลอดไรฟัน"อย่างนั้นฉันก็จะหย่า ต่อจากนี้ระหว่างคุณกับฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก"เฉิงเซียวขบกรามแน่น สิงฉู่หรันเธอกล้าดีอย่างไรมาพูดเรื่องหย่ากับเขาเช่นนี้ ไม่แม้แต่จะเอ่ยคำอธิบายอะไรคนโตก็ตวัดอุ้มหญิงสาวขึ้นแนบอก"ว้าย! ท่านประธานเฉิน คุณจะทำอะไร ปล่อยตัวฉู่หรันนะคะ""เธอเป็นภรรยาของผม ผมจะจับจะปล่อยคุณเกี่ยวอะไรด้วย""แต่ฉันเป็นผู้จัดการส้วนตัวของน้องฉู่หรันนะคะ""อย่างนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปก็ไม่ต้องเป็นอีก ผม! ไล่! คุณ! ออก!""คุณเฉิน คุณถือดีอะไรมาไล่คนของฉันออก""คนของเธออย่างนั้นหรอ ฉู่หรันชีวิตนี้คนที่สามารถใช้คำว่าคนของเธอมีแค่ฉัน เฉินเซียว! คนเดียวเท่านั้น"และนับจากเหตุการณ์นี้ดาราสาวดาวรุ่งสิงฉู่หรันก็หายไปจากวงการบันเทิง ผู้คนต่างเล่าลือกันว่าเป็นเพราะสามีของเธอหึงหวงภรรยาคนสวยมาก ถึงขั้นมอบหุ้นกิจการของตระกูลเฉินครึ่งหนึ่งให้เธอเป็นข้อแลกเปล

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทสุดท้าย แม่คนนี้ดีที่สุด (3) 

    หลังจากที่หลี่จื่อหมิงหายดีแล้ว ทุกอย่างก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ เว้นเพียงเรื่องของซ่งเจียซินและหลี่โจวอี้ ที่ทุกคืนจะต้องวุ่นวายจนกลับเช้า เขาจึงยอมปล่อยให้เธอได้นอนพัก"เด็กๆ อยากได้น้องสาวมาก ช่วงนี้แม้ผมจะเหนื่อยกับคนไข้ไปหน่อยแต่ก็ยินดีทำเพื่อพวกเขา"ซ่งเจียซินถอนหายใจอย่างระอา เธอใช้ชีวิตมาสองชาติสองภพเพิ่งเคยเจอคนที่หลงและมั่นใจในตัวเองถึงเพียงนี้ "คุณเสวี่ยครับ ทางร้านเหม่ยลี่ส่งชุดมาให้แล้วครับ"ตงซานรายงานพร้อมกับส่งกล่องกระดาษห้า ใบให้กับหญิงสาวผู้เป็นนาย ซ่งเจียซินพยักหน้ารับ อาทิตย์ก่อนหลังจากที่ได้รับบัตรเชิญเข้าร่วมงานหมั้นของอันลู่ซือและประธานฮั่ว ซ่งเจียซินก็สั่งตัดชุดให้กับตัวเองและพ่อลูกบ้านหลี่ทั้งสี่คน"คุณเสวี่ย คุณจะพานายพลหลี่ แล้วก็เด็กๆ ไปร่วมงานด้วยจริงๆ หรือครับ"ถึงแม้ว่าหลี่โจวอี้จะเป็นนายพลที่ผู้คนนับหน้าถือตา แต่งานสังคมแบบนี้มีแต่นักธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ หลี่โจวอี้เป็นทหารเข้าไปร่วมงานอาจจะรู้สึกอึดอัดไม่สะดวกในการวางตัว"พวกเขาเป็นคนของฉัน หากเกิดอะไรขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง"เมื่อเจ้านายสาวกล่าวออกมาเช่นนี้ ตงซานก็ไม่คิดเซ้าซี้ให้มากความ หมุนตัวเดินออกไปทำหน

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทสุดท้าย แม่คนนี้ดีที่สุด (2)

    ทางด้านซ่งเจียซินหลังจากที่หลี่โจวอี้ลงไปส่งเฟิ่งเฉิงเยว่ เธอก็ตักข้าวต้มปลาใส่ชามส่งให้เด็กๆ อย่างใส่ใจ จนพวกเขาอดที่จะคิดถึงมารดาผู้ให้กำเนิดไม่ได้ เพราะตั้งแต่ที่พ่อออกจากประตูไป เธอไม่เพียงไม่ใส่ใจพวกเขา ทุกคำพูดหากไม่ตำหนิพ่อ ก็ด่าทอมารดาเลี้ยง ยุยงให้พวกเขาเกียจชังอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา และที่ร้ายแรงเกินกว่าจะยอมรับก็คือการกระทำที่มารดาผู้นั้นกระทำกับลุงเฟิ่งของพวกเขา"ฝีมือของพี่อิงอิงนับว่าไม่เลว แต่ก็ยังเทียบกับมือของแม่ไม่ได้"“จริงครับ แม่ครับพรุ่งนี้คุณหมอก็จะให้จื่อหมิงกลับบ้านได้แล้ว แม่ทำข้าวต้มปลาให้พวกเรากินได้ไหมครับ”“ถ้าลูกๆ อยากกิน แน่นอนว่าไม่มีปัญหา”ซ่งเจียซินเห็นเด็กๆ มีความสุขเช่นนี้ในใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่นไปด้วย เพียงแต่เมื่อมองไปยังหลี่จื่อหมิงที่นั่งอยู่บนเตียงโดยไม่ตักอาหารกินสักคำ อีกทั้งสีหน้าและแววตาของเขายังเต็มไปด้วยความกังวลบางอย่าง ก็คาดเดาไปว่าเด็กชายคงคิดถึงกวงเหยียนฟางให้เธอดีแค่ไหน ก็เป็นได้แค่มารดาเลี้ยง ไม่อาจเทียบเท่ากับมารดาที่แท้จริงในใจของเธอรู้สึกเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย เพียงแต่ซ่งเจียซินไม่ใช่คนไร้เหตุผล จิตใจคับแคบ จึงเข้าใจความรู้สึกของเด็กๆ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทสุดท้าย แม่คนนี้ดีที่สุด

    ซ่งเจียซินลุกจากเตียงด้วยความยากลำบากก่อนจะตวัดสายตามองไปทางชายหนุ่มที่ยังนอนอยู่บนเตียงด้วยความไม่พอใจ"คุณหลี่ ทำไมคุณยังไม่รีบลุกมาแต่งตัวอีกไม่ใช่คุณบอกว่าเด็กๆ กำลังรอกินข้าวต้มปลาของฉันอยู่หรือคะ""มีเฉิงเย่วดูแลพวกเขาอยู่ จะต้องกังวลไปทำไมกัน""คุณไม่กังวล แต่ฉันกังวลค่ะ ฉันจะไปดูลูกค่ะคุณอยากจะนอนพักต่อก็ตามสบายค่ะ"พูดจบซ่งเจียซินที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เดินเปิดประตูออกไป โดยไม่สนใจคนบนเตียงอีกหลี่โจวอี้เห็นหญิงสาวเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะชายตามองตนเองก็อ้าปากค้างรีบลุกจากเตียง สวมใส่เสื้อผ้าอย่างเร่งรีบ ก่อนจะวิ่งตามเธอลงมาด้านล่าง"ชิงหยวน คุณกำลังจะทิ้งผมอีกแล้ว"ซ่งเจียซินถอนหายใจพลางอย่างระอาใจกับความแง่งอนไร้เหตุผลของคนตรงหน้า ทว่าเวลานี้เด็กๆ กำลังรอเธออยู่ที่โรงพยาบาล ดังนั้นเธอจึงยอมถอยให้เขาหนึ่งก้าว "ฉันจะทิ้งคุณได้ยังไงกันคะ เรารีบไปกันเถอะค่ะ เด็กๆ รอพวกเรานานแล้ว"ซ่งเจียซินบอกพร้อมกับเดินเข้ามาจับแขนของคนตัวโต เมื่อเห็นว่าเสวี่ยชิงหยวนงอนง้อตนเองด้วยท่าทางน่ารัก ใบหน้าคมเข้มของหลี่โจวอี้ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง เปิดประตูรถเข้าไปประจำที่นั่งคนขับทำหน้าที่เป็นคนข

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 96 คุณคือคนสำคัญ (3)

    “ผมไม่กวนคุณแล้ว แค่อยากให้พวกเราไปนอนพักกันสักหน่อยจะได้มีแรงดูแลเด็กๆ แต่ถ้าคุณต้องการผมก็ไม่ขัด”ซ่งเจียซินตวัดสายตามองคนตัวโตอีกครั้ง สองแก้มร้อนผ่าวคิดถึงเรื่องที่ร้านเสวี่ยก่อนหน้านี้ด้วยความรู้สึกอับอาย“โต๊ะทำงานของคุณแข็งมาก คุณปวดหลังไหม”เสียงทุ้มอ่อนโยนถามด้วยความห่วงใยหลังจากวางคนลงบนเตียงกว้าง ซ่งเจียซินเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนหน้านี้เขาลงมือแบบไม่มีออมแรง ตอนนี้มาถามไถ่ไม่รู้สึกว่าช้าไปหรืออย่างไร“ถ้าคุณไม่ปวดอย่างนั้นเรามา...”“คุณหลี่ หยุดนะ!เมื่อครู่คุณบอกว่าจะพักไม่ใช่หรือไง”หลี่โจวอี้มองท่าทางดึงผ้าห่มมาบังตัวของเสวี่ยชิงหยวนแล้วยิ้มกว้าง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เขารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นสีหน้าท่าทางเช่นนี้ของเสวี่ยชิงหยวน“โอ๊ย!คุณทำอะไรน่ะ ฉันเจ็บนะ”ร้องพลางยกมือขึ้นจับหน้าผากที่ถูกนิ้วยาวของเขาดีดใส่เมื่อครู่ ทว่ายังไม่ทันตำหนิอีกฝ่ายต่อ ริมฝีปากร้อนของเขาก็กดลงบนรอยแดงเล็กที่หน้าผากเนียน“แบบนี้หายหรือยัง”“คุณหลี่!”ซ่งเจียซินเบิกตากว้างรีบขยับตัวถอยห่างจากชายหนุ่ม แต่กลับถูกวงแขนแกร่งของเขาตวัดเอวเล็กมาแนบชิดแล้วดึงนอนตะแคงบนเตียงด้วยกัน“หยวนหย

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 95 คุณคือคนสำคัญ (2)

    "คุณหลี่... คุณจะทำอะไร นี่มันห้องทำงานของฉันนะคะ""ผมก็แค่จะพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายของผมให้คุณดูก็เท่านั้น""ไม่... อื้ม..."เสียงของซ่งเจียซินเงียบลงในทันที เมื่อริมฝีปากบางถูกนายพลหนุ่มจู่โจมยึดครองด้วยจุมพิตที่เร่าร้อนรุนแรง"คุณหลี่อย่าค่ะ... ที่นี่ไม่ได้... อ่ะ..."ทันทีที่ริมฝีปากบางได้รับอิสระซ่งเจียซินก็รีบเอ่ยปากร้องห้ามเขาอีกครั้ง พร้อมกับใช้สองมือออกแรงดันอกแกร่งเพื่อให้เขาถอยห่าง แต่กลับถูกเขาจับยึดเอาไว้ด้วยมือเดียว แล้วกดตัวเธอลงบนโต๊ะทำงาน"คุณหลี่ ปล่อยฉันนะ...""หยวนหยวนคุณไม่ต้องการผมจริงๆ เหรอ"หลี่โจวอี้กระซิบถามเสียงแหบพร่าพร้อมกับกดริมฝีปากไล้ไปตามลำคอระหง มืออีกข้างก็ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อด้านหน้าของเธอออก เผยเนินเนื้ออกอิ่มขาวเนียนตัดกับชุดชั้นในราคาแพงสีดำ ที่กำลังถูกเขาถอดออกไปให้พ้นทาง"อ่ะ... โจวอี้"ซ่งเจียซินร้องครวญเสียงกระเซ่า เมื่อยอดอกถูกริมฝีปากร้อนยึดครองดูดดึง จนเป็นรอยแดงก่ำ ความเร่าร้อน ปรารถนาในกายถูกปลุกเร้าให้ตื่นตัว จนเธอเผลอแอ่นอกอวบอิ่มเข้าหา ตอบรับสัมผัสเขาอย่างไม่รู้ตัว"อื้ม... หยวนหยวน"หลี่โจวอี้สัมผัสได้ถึงความพร้อมของเธอก็ขยับรุกเข้าห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status