Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน / ตอนที่ 14 เนรมิตเรือนไม้ทำเลทอง (2)

Share

ตอนที่ 14 เนรมิตเรือนไม้ทำเลทอง (2)

last update Last Updated: 2025-12-13 02:24:56

ตอนที่

14

เนรมิตเรือนไม้ทำเลทอง (2)

      หลินหว่านเอ๋อร์สวมชุดเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน นางจูงมืออาเป่าสะพายถุงผ้าขนาดใหญ่ เดินเข้าไปในตลาดด้วยความมั่นใจเพื่อเฟ้นหาวัตถุดิบพิเศษสำหรับเมนูเปิดร้าน ก่อนออกมา นางได้ขอให้จงซิ่น ซึ่งมาดูผลงานของคนงาน ช่วยดูแลอาเหมยเป็นการชั่วคราว

       “อาเป่า” นางกระซิบ

       “วันนี้เราต้องหาพริกไทยดำเม็ดเล็กและสมุนไพรใบหยกมาให้ได้นะเพื่อทำน้ำซุปของเรา”

       “ได้ขอรับท่านแม่ ข้าจะถามทุกร้านที่คิดว่ามีเลยขอรับ”

       “เยี่ยมมากเลยลูก ช่างเป็นลูกชายที่ช่วยแม่ได้เก่งที่สุดเลยลูก”

       “ข้าอยากทำอาหารเก่งเหมือนท่านแม่ขอรับ” อาเป่ากล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย

       “เจ้าต้องทำอาหารเก่งเหมือนแม่แน่ๆ เดี๋ยวแม่สอนให้ลูกทุกอย่างเลย” อาเป่ายิ้มให้กับแม่แล้วก็เดินนำหน้ามารดาเพื่อตามหาเครื่องเทศที่มารดาต้องการ

       เมื่อเดินไปถึงแผงขายเครื่องเทศที่ใหญ่ที่สุด หลินหว่านเอ๋อร์กำลังจะเอ่ยปากสั่งซื้อ ทันใดนั้นเสียงตะโกนกึกก้องก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

       “พ่อค้า เครื่องเทศชั้นดีทั้งหมดที่เจ้ามี ข้าเหมาหมด”

       นายจ้างจู เจ้าของร้านบะหมี่ชื่อดังในย่านนั้น ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับคนงานสองสามคน ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มเยาะอย่างเปิดเผยเมื่อเห็นหลินหว่านเอ๋อร์

       “โฮ่!!! ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้เจอนังเพศยาที่หนีหนี้มาเปิดร้านในเมืองใหญ่เช่นนี้” นายจ้างจูหัวเราะเสียงดัง    

       นายจ้างจูยื่นหน้าเข้ามาใกล้หลินหว่านเอ๋อร์ “มีคนเล่าให้ข้าฟังหมดแล้ว เรื่องความชั่วร้ายที่เจ้าทำ เจ้าเป็นหนี้เยอะแยะมากมายแล้วยังกล้าหนีมาเปิดร้านบะหมี่เพื่อแข่งขันกับร้านของข้าอีก คิดจะเอาความสามารถทำอาหารชั้นต่ำของเจ้ามาเทียบกับข้าอย่างนั้นหรือ”

       หลินหว่านเอ๋อร์ยืนนิ่งราวกับภูผา นางไม่ได้ตอบโต้คำเยาะหยัน แต่แววตาของนางเย็นชาดุจน้ำแข็ง

       “นี่อย่ามาหาว่าท่านแม่ของข้าอย่างนี้” อาเป่าที่ได้ยินนายจ้างจูต่อว่ามารดาของเขา

       “เจ้าหนูนี่มันเรื่องของผู้ใหญ่เด็กอย่างเจ้าอย่าแส่วุ่นวายกับผู้ใหญ่” นายจ้างจูตวาดกลับอย่างน่ารำคาญ

       หลินหว่านเอ๋อร์รีบดึงอาเป่าเข้ามากอดเพื่อปลอบโยนลูกชายที่กำลังโกรธแค้นแทนตน นางจ้องมองนายจ้างจูด้วยความแววตาเย็นๆ ที่น่ากลัว

       “ท่านพ่อค้า” นายจ้างจูหันไปหาเข้าของแผง

       “เมื่อครู่นางผู้นี้ต้องการซื้ออะไร ไม่ต้องขายให้มัน ข้าจะจ่ายเป็นสามเท่าของราคาตลาด”

       พ่อค้าเครื่องเทศรีบก้มตัวรับเงินจากนายจ้างจูแล้วส่ายหน้าใส่หลินหว่านเอ๋อร์ด้วยความเสียดาย “ขออภัยแม่นางหลิน เครื่องเทศที่ดีที่สุดถูกเหมาไปหมดแล้ว”

       นายจ้างจูหันกลับมาหาหลินหว่านเอ๋อร์อีกครั้ง เขาเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงดูถูก

       “แม้จะมีร้านสวยงามอลังการเพียงใด แต่หากไม่มีวัตถุดิบที่ดี อาหารของเจ้าก็เป็นเพียงของต่ำๆ เหมือนเจ้า อย่าคิดว่าจะขายได้ตลอด”

       หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเจ้าค่ะ แต่การเหมาเครื่องเทศแล้วจ่ายมากถึงเพียงนั้นต่อให้ขายอาหารได้แต่ก็คงได้กำไรเพียงน้อยนิดเพราะความโง่เขลาของท่าน” นางพูดแล้วก็เดินจากไปอย่างไม่ยี่หระ ทำให้นายจ้างจูรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าด้วยความเย็นชาของนาง อาเป่ารีบเดินตามแม่ไปอย่างเงียบๆ

       นางเดินลึกเข้าไปในโซนแผงขายของเก่าและแผงสมุนไพรที่ไม่เป็นที่นิยมจนมาหยุดอยู่ที่แผงหนึ่งที่ดูรกรุงรังและมีกลิ่นฉุนรุนแรงกว่าแผงอื่นๆ

       แผงนั้นมีพ่อค้าสมุนไพรจาง นั่งอยู่ พ่อค้าสูงวัยคนนี้มีใบหน้าถมึงทึงและดูเหมือนไม่ต้อนรับใครเลยแม้แต่น้อย

       “ท่านพ่อค้า” หลินหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างสุภาพ

       “ข้าต้องการซื้อรากพืชสามสีและเมล็ดผักชีป่าที่ถูกตากแห้งแล้วท่านมีหรือไม่”

       พ่อค้าสมุนไพรจางเงยหน้าขึ้นมามองนางอย่างแปลกใจ วัตถุดิบที่นางเอ่ยถึงเป็นของที่พ่อครัวทั่วไปไม่ใช้ เพราะมันต้องอาศัยการแปรรูปที่สูงจึงจะดึงรสชาติออกมาได้

       “มี” พ่อค้าจางตอบเสียงห้วน “แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าต้องใช้อย่างไร พวกมันมีกลิ่นแรงและต้องใช้ความร้อนที่พอดีเพื่อเปลี่ยนรสชาติ”

       “ข้ารู้ว่าต้องใช้อย่างไรเจ้าค่ะ” หลินหว่านเอ๋อร์ตอบอย่างมั่นใจ แล้วชี้ไปที่วัตถุดิบอีกอย่างหนึ่งที่พ่อค้าจางซ่อนอยู่ใต้แผง

       “และข้ายังสนใจเปลือกส้มตากแห้งด้วยเจ้าค่ะ”

       พ่อค้าจางมองนางอย่างประหลาดใจเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะหัวเราะหึๆ ในลำคอ

       “เอาไป” พ่อค้าสมุนไพรจางโยนวัตถุดิบทั้งหมดให้นาง

       “ข้าขายให้เจ้าราคานี้ เพราะเจ้าเป็นคนแรกที่มองเห็นคุณค่าของพวกนี้ ราคาน่ะถูกกว่าที่นายจ้างจูจ่ายเพื่อซื้อเครื่องปรุงเมื่อครู่”

       หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มอย่างพอใจ อาเป่ารีบรับของมาบันทึกบัญชีอย่างรวดเร็ว

       หลินหว่านเอ๋อร์โค้งคำนับพ่อค้าสมุนไพรจาง “ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ เตรียมวัตถุดิบหายากไว้ให้ข้าด้วยนะเจ้าคะ”

       นางเดินออกจากตลาดด้วยวัตถุดิบที่เยี่ยมยอดในราคาที่ถูกกว่าที่ตั้งงบไว้มาก ปล่อยให้นายจ้างจูยืนหัวเสียอยู่กับถุงเครื่องเทศราคาแพง แต่ไร้ซึ่งความหมาย เพราะสิ่งที่หลินหว่านเอ๋อร์ซื้อไปคือ ความลับแห่งรสชาติ ที่เงินซื้อไม่ได้

      

     

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน   ตอนที่ 14 เนรมิตเรือนไม้ทำเลทอง (2)

    ตอนที่14เนรมิตเรือนไม้ทำเลทอง (2) หลินหว่านเอ๋อร์สวมชุดเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน นางจูงมืออาเป่าสะพายถุงผ้าขนาดใหญ่ เดินเข้าไปในตลาดด้วยความมั่นใจเพื่อเฟ้นหาวัตถุดิบพิเศษสำหรับเมนูเปิดร้าน ก่อนออกมา นางได้ขอให้จงซิ่น ซึ่งมาดูผลงานของคนงาน ช่วยดูแลอาเหมยเป็นการชั่วคราว “อาเป่า” นางกระซิบ “วันนี้เราต้องหาพริกไทยดำเม็ดเล็กและสมุนไพรใบหยกมาให้ได้นะเพื่อทำน้ำซุปของเรา” “ได้ขอรับท่านแม่ ข้าจะถามทุกร้านที่คิดว่ามีเลยขอรับ” “เยี่ยมมากเลยลูก ช่างเป็นลูกชายที่ช่วยแม่ได้เก่งที่สุดเลยลูก” “ข้าอยากทำอาหารเก่งเหมือนท่านแม่ขอรับ” อาเป่ากล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย “เจ้าต้องทำอาหารเก่งเหมือนแม่แน่ๆ เดี๋ยวแม่สอนให้ลูกทุกอย่างเลย” อาเป่ายิ้มให้กับแม่แล้วก็เดินนำหน้ามารดาเพื่อตามหาเครื่องเทศที่มารดาต้องการ เมื่อเดินไปถึงแผงขายเครื่องเทศที่ใหญ่ที่สุด หลินหว่านเอ๋อร์กำลังจะเอ่ยปากสั่งซื้อ ทันใดนั้นเสียงตะโกนกึกก้องก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “พ่อค้า เครื่องเทศชั้นดีทั้งหมดที่เจ้ามี ข้าเหมาหมด” นายจ้างจู เจ้าของร้านบะหมี่ชื่อดังในย่านนั้น ปรากฏตัวขึ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน   ตอนที่ 14 เนรมิตเรือนไม้ทำเลทอง

    ตอนที่14เนรมิตเรือนไม้ทำเลทอง หลินหว่านเอ๋อร์ในเรือนไม้ที่แม้จะดูใหญ่โตแต่ก็ยังว่างเปล่า นางใช้กระดานไม้ที่หามาได้วางบนโต๊ะกลาง แล้วใช้ถ่านวาดผังโครงสร้างภายในร้านด้วยสีหน้าจริงจัง “เอาล่ะลูกรัก” นางกล่าวกับอาเป่าและอาเหมยที่นั่งมองแม่อย่างสงสัย “ร้านของเราจะต้องไม่เหมือนร้านอื่นๆ ในเมืองนี้” นางลากเส้นแบ่งพื้นที่ในครัวอย่างชัดเจน “ตรงนี้จะเป็นส่วนเตรียมวัตถุดิบต้องสะอาดและมีแสงสว่างเพียงพอ ส่วนตรงนี้จะเป็นส่วนทำอาหารซึ่งต้องอยู่ใกล้กับช่องระบายอากาศและเตา” หลินหว่านเอ๋อร์อธิบายการออกแบบเตาใหม่ที่นางวางแผนไว้ “ท่านแม่จะก่อเตาแบบพิเศษ ที่ใช้ฟืนน้อยลงแต่เก็บความร้อนได้ดี ทำน้ำซุปและน้ำแกงของเรามีรสชาติคงที่ตลอดทั้งวัน” นางยังจะสั่งให้ช่างทำชั้นวางเครื่องปรุงให้แยกจากกันอย่างเป็นระเบียบตามประเภท โดยเน้นเรื่องความสะอาดและถูกสุขลักษณะเป็นหลัก อาเป่าในฐานะผู้จัดการการเงินตัวน้อย นั่งถือสมุดบันทึกและพู่กันด้วยท่าทางเคร่งขรึม เมื่อเห็นแม่วาดผังและสั่งการให้ซื้อวัตถุดิบราคาแพง เขาก็รีบท้วงขึ้นทันที “ท่านแม่ขอรับ” อาเป่าชี้ไปที่รายการซื้อไม้ชั้น

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน   ตอนที่ 13 เรือนไม้ทำเลทอง

    ตอนที่13เรือนไม้ทำเลทอง รถม้าของพวกเขาแล่นเข้าสู่ตลาดใหญ่ในเมืองและสุดท้ายก็เลี้ยวเข้าสู่ซอยเล็กๆ ที่มีกลิ่นอับชื้นและดูเก่าแก่ เมื่อถึงจุดหนึ่ง จงซิ่นก็หยุดรถม้า แล้วชี้ไปยังห้องแถวไม้เก่าๆ ที่เอียงกระเท่เร่เล็กน้อย ซึ่งอยู่ติดกับกองลังไม้และกองขยะของร้ายขายเนื้อที่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา “ท่านจงซิ่น” หลินหว่านเอ๋อร์ถึงกับทำหน้าเหยเกด้วยความผิดหวัง “ท่านแน่ใจหรือเจ้าคะว่านี่คือ เรือนไม้ทำเลทอง ข้าว่ามันเป็น เรือนไม้ทำเลซ่อนมากกว่านะเจ้าคะ” จงซิ่นมองตามที่นางชี้ แล้วอดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กน้อยอย่างที่ไม่ได้ยิ้มมานาน “แม่นางหลินเข้าใจผิดแล้วขอรับ” เขาผายมือไปยังเรือนไม้อีกหลังที่อยู่ถัดจากห้องแถวโทรมๆ ไปเพียงหนึ่งคูหา “เรือนไม้ทำเลทองที่แท้จริงอยู่ที่นั่นขอรับ” หลินหว่านเอ๋อร์หันไปมองตามมือของจงซิ่น แล้วต้องอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เรือนไม้หลังนั้นใหญ่กว่าห้องแถวที่นางเห็นในตอนแรกถึงสามเท่า มันเป็นอาคารสองชั้นที่สร้างด้วยไม้ชั้นดี มีหน้าต่างบานใหญ่กรุกระจกใสสะอาด และมีป้ายไม้เนื้อดีแขวนอยู่ด้านหน้า “นี่คือทำเลทองท

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน   ตอนที่ 12 เป็นที่สนใจ  

    ตอนที่12เป็นที่สนใจ คุณชายเว่ยกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มที่ทำให้หลินหว่านเอ๋อร์ใจหายวาบ “แม่นางสามารถใช้หนี้ได้ในพริบตาเดียว และยังมีฝีมือการทำอาหารได้อร่อยล้ำลึกจนข้าเองก็อยากลิ้มรส...” เว่ยจื่อเหยียนเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับใช้สายตาที่ไม่บอกก็รู้ว่าเขากำลังหมายถึงทั้งอาหารที่ลิ้มรสและหมายถึงคนทำบะหมี่ไข่มังกร คำพูดของเขาทำให้หลินหว่านเอ๋อร์หน้าแดงเล็กน้อย แต่นางก็เก็บอาการไว้ทันที นางตระหนักได้ว่าตนเองถูกบุรุษสูงศักดิ์ถึงสองคนจับจ้อง นางหันกลับไปเผชิญหน้ากับจงซิ่นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความระแวง “ท่านจงซิ่น” หลินหว่านเอ๋อร์กดเสียงต่ำ “เจ้านายของท่านต้องการส่วนแบ่งอะไรจากข้ากันแน่” “ต้องการให้อาหารของเจ้าเป็นที่รู้จักอย่างไรเล่า” จงซิ่นตอบนางแล้วก็มองดูลูกๆ ของนางที่กำลังเกาะขาของนางอยู่ อีกคนก็มองหน้าจงซิ่นสลับกับเว่ยจื่อเหยียน “เอาล่ะข้าตกลงที่จะเปิดร้านของข้าที่เรือนไม้ทำเลทองของนายท่านของท่านแต่ข้ามีเงื่อนไข” “เงื่อนไขอะไรขอรับ” จงซิ่นที่กำลังรอคำตอบจากหลินหว่านเอ๋อร์ เว่ยจื่อเหยียนก็พูดแทรกขึ้นมา “ข้าต้องขอตัวก่อนแม่นางหลิน เมื่อไหร่ที่เ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน   ตอนที่ 11 เงินลงทุน

    ตอนที่11เงินลงทุนหลินหว่านเอ๋อร์ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเบาสบายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน นางลุกขึ้นอย่างเงียบๆ และเดินไปยังที่ซ่อนเงินที่ขุดไว้ใต้พื้นดิน นางนำถุงผ้าออกมาอย่างระมัดระวัง เมื่อคลี่ดูเงินที่รวบรวมมาได้ นางก็นับจำนวนอย่างละเอียด“บะหมี่ที่ขายได้เมื่อวาน ค่าแรงที่จงซิ่นให้มันมากมายเหลือเกิน และดวงตาของหลินหว่านเอ๋อร์เบิกกว้างเมื่อเห็นก้อนเงินแท้ที่สลักอย่างสวยงาม วางอยู่ปะปนกับอีแปะ นางจำได้ว่าเงินก้อนนี้เป็นของลูกค้าที่ยกบะหมี่ชามสุดท้ายให้กับอาเหมย “ลูกค้าลึกลับผู้สั่งบะหมี่คนนั้น เขาเป็นใครกันแน่และเหตุใดจึงให้ก้อนใหญ่เกินความจำเป็นเช่นนี้ เขาต้องการอะไร” ความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเชฟสาวทะลุมิติมา แต่นางก็เก็บความสงสัยไว้ก่อนเพราะความจำเป็นในการเริ่มต้นชีวิตใหม่นั้นสำคัญกว่าความสงสัยในตอนนี้นางตัดสินใจซ่อนเงินก้อนนั้นไว้ในตัวเพื่อใช้เป็นทุนสำรองและเริ่มปลุกลูกๆ“อาเป่า อาเหมย” หลินหว่านเอ๋อร์เรียกลูกทั้งสองของนางที่ตอนนี้กำลังนอนงัวเงียไม่ยอมตื่นอาจจะเป็นเพราะเมื่อวานเด็กทั้งสองช่วยงานแม่อย่างหนักและเหนื่อยมากๆ นางยื่นแก้มไปแนบกับแก้มของบุตรชายและบุตรสาวเบ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน   ตอนที่ 10 ราตรีกาลอันตราย (2)  

    ตอนที่10ราตรีกาลอันตราย (2) นักเลงเสี่ยวซ่านกำลังก้มดูรองเท้าที่เปื้อนขี้หมาอย่างรังเกียจ ขณะที่ไอ้หู่กำลังจะเริ่มปฏิบัติการงัดประตู ฉัวะ!!! เงามืดที่ว่องไวดุจสายฟ้าก็พุ่งลงมา จงซิ่นเคลื่อนไหวราวกับนักล่าผู้สง่างาม คราวนี้เขาใช้เทคนิคที่เน้นความเฉียบขาดเพื่อปิดปากพวกมันทันที ตูม!!! จงซิ่นใช้สันมือที่แข็งแกร่ง กระแทกเข้ามาที่จุดรวมเส้นประสามบริเวณคอของนักเลงไอ้หู่ที่กำลังยื่นมือไปเกาคอตัวเองอย่างแม่นยำ ร่างของมันล้มพับลงไปกองกับพื้นโดยไม่มีแม้แต่เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด จงซิ่นหมุนตัวอย่างรวดเร็ว นักเลงเสี่ยวซ่านกำลังจะร้องโวยวายด้วยความตกใจ “แกเป็นใครวะ” ผัวะ!!! จงซิ่นใช้ฝ่ามือกระแทกที่กระพุ้งแก้มของมันอย่างรุนแรงแต่รวดเร็ว ทำให้เสี่ยวซ่านลิ้นพันกันและไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ จากนั้นจึงใช้เท้าเกี่ยวขาให้ล้มลง โดยจงใจให้เท้าเปื้อนขี้หมาเหยียบใบหน้าของไอ้หู่ที่สลบไปแล้ว ก่อนจะใช้ฝ่ามือกระแทกที่ท้ายทอย มันไม่ได้ตั้งตัว ก็แน่นิ่งไปในทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที จงซิ่นจัดการมัดร่างนักเลงทั้งสองไว้กับลำต้นหลิวอย่างร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status