Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70 / บทที่ 10 ตบตีพวกเพื่อนนางเอก

Share

บทที่ 10 ตบตีพวกเพื่อนนางเอก

Author: BBNanz
last update Last Updated: 2024-12-20 15:19:50

เมื่อคนเป็นพี่สาวเดินมาที่ลานหน้าบ้าน เธอเห็นหลินเสี่ยวหมิงน้องชายของเธอกำลังนั่งรอทานข้าวอย่างใจจดใจจ่อ บนโต๊ะไม้เก่า ๆ มีแกงผักป่าร้อน ๆ กับข้าวสวยวางอยู่ เมื่อเธอเดินมาหาน้องชาย หลินเสี่ยวหมิงยิ้มร่าด้วยความดีใจ

"พี่เสี่ยวเหยา แกงที่พี่ทำมันหอมมากเลยครับ จนน้ำลายผมไหลยืด" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยขึ้น

"มันหอมเพราะพี่สาวใส่เครื่องปรุงตามสูตรที่พี่สาวคิดค้นขึ้น มันทำให้น้ำแกงอร่อยขึ้น ถ้าน้องเล็กชอบพี่สาวจะทำให้ทานทุกวัน" หลินเสี่ยวเหยาตักแกงใส่ถ้วย ส่งให้น้องชาย

หลินเสี่ยวหมิงตักแกงเข้าปาก เคี้ยวช้า ๆ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเด็กน้อย

"อร่อยมากเลยพี่สาว ฝีมือพี่นี่ไม่แพ้แม่เลยนะ" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยชมไม่หยุด

‘หึ..ถ้าไม่มีเครื่องปรุงสำเร็จรูปกับข้าว ฉันก็คงทำคงไม่อร่อยเท่านี้หรอก’ หลินเสี่ยวเหยารู้สึกโชคดีที่ในห้างสรรพสินค้าของเธอมีเครื่องปรุงสำเร็จรูปครบครันทำให้การใช้ชีวิตในยุคนี้ ไม่ได้แย่อย่างที่เธอคิด

หลังจากทานข้าวเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาก็ทำการเก็บกวาดโต๊ะอาหาร ก่อนจะหันมาบอกกับน้องชาย

"เสี่ยวหมิง วันนี้น้องเหนื่อยมาทั้งวัน เดี๋ยวน้องไปพักผ่อนได้แล้ว"

"ครับพี่สาว เดี๋ยวผมไปก่อนนะครับ" เด็กชายพูดขึ้นก่อนจะวิ่งเข้าห้องไป

หลินเสี่ยวเหยามองดูน้องชายที่รีบวิ่งด้วยความเอ็นดู ก่อนที่เธอจะนำถ้วยชามไปล้างก่อนจะเดินเข้ากลับเข้าบ้าน

แต่ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้เธอต้องหยุดชะงักเธอเห็นชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า  กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ผ้าห่มเลื่อนลงมาจนเกือบถึงเอว เผยให้เห็นแผ่นอกกว้างที่ขาวเนียน ไร้รอยตำหนิ กล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแกร่งเป็นลอนสวยงาม และรอยแผลเป็นที่พันด้วยผ้าพันแผลสีขาวสะอาด

หลินเสี่ยวเหยาเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก หัวใจของเธอเต้นรัวราวกับกลองศึก ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย

'นี่คุณตัวร้าย...คุณจะอ่อยฉันหรือไง เดี๋ยวใจก็ได้แตกหรอก' เสียงเล็กๆ ในหัวของเธอแอบบ่น

เมื่อได้สติหลินเสี่ยวเหยาก็ขยุ้มหัวอย่างเขินอาย กับความคิดพิเรนทร์ของเธอ จะว่าไปแล้วคุณตัวร้าย นี่หล่อเหลาเกินกว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้ แม้จะบาดเจ็บ แต่เสน่ห์ของชายหนุ่มยังคงไม่แผ่ว ทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นตึกตัก

หลินเสี่ยวเหยาอดหน้าแดงไม่ได้ ‘ทำไม ตัวร้ายเรื่องนี้หล่อยิ่งกว่าพระเอกซะอีก’

เมื่อเธอนึกถึงหลี่เหว่ยเฉียง อารมณ์เขินอายเมื่อครู่ก็พลันเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงแห่งความแค้นทันที

'หวังว่าชาตินี้พวกแกจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับฉันอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ยอมอยู่เฉย ๆ ให้พวกแกทั้งคู่รังแกฉันได้เด็ดขาด!' หลินเสี่ยวเหยารำพึง

ความโกรธแค้นจากชาติก่อนลุกโชนขึ้นในใจของหญิงสาว เธอรู้สึกเหมือนถูกไฟเผาไหม้ ร่างกายสั่นเทาไปด้วยความโกรธ ภาพความทรงจำอันเลวร้ายจากอดีตหลั่งไหลกลับมา

เจิ้งห้าว ชายหนุ่มที่เธอเคยรักหักหลังเธออย่างไม่ไยดี เขาหันไปคบหากับหลินเสี่ยวถง น้องสาวต่างแม่ของเธอ พวกเขาร่วมมือกันหลอกลวงเธอ สุดท้ายพวกเขาก็ช่วยกันผลักเธอจากรถบรรทุกให้ลงไปตาย ทิ้งไว้ให้ถูกฝูงซอมบี้รุมทำร้าย

หลินเสี่ยวเหยาบีบมือแน่น ความแค้นนั้นฝังรากลึกในใจเธอ เธอจะไม่มีวันให้อภัยพวกมัน

ในขณะที่หลินเสี่ยวเหยาจมอยู่กับความคิด จู่ๆ เสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นข้างหูเธอ

"คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?" หยางเฟิงเอ่ยถาม ดวงตาสีดำขลับของเขาจ้องมองเธอด้วยความเป็นห่วง

หลินเสี่ยวเหยาสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เธอรีบเก็บอารมณ์และตอบกลับไปว่า "พอดีฉันจะเข้ามานอนค่ะ และฉันกำลังจะคิดอยู่ว่าจะไปนอนที่ไหนดี" หลินเสี่ยวเหยาโกหกคุณตัวร้ายออกไป

"ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่รบกวนคุณ" ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ

"คุณไม่ต้องขอโทษฉันหรอกค่ะ เดี๋ยวฉันจะนอนพื้นข้างๆ คุณเอง" เธอเอ่ยขึ้น เบาๆ

หยางเฟิง มองดูหญิงสาวที่นอนอยู่บนพื้นดินด้วยความสงสาร "สหายหลิน... คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอกนะ เดี๋ยวผมลงไปนอนพื้นเอง"

"ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้คุณได้รับบาดเจ็บ คุณก็อย่าขยับเขยื้อนมากเดี๋ยวบาดแผลจะฉีกขาด" เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

"แต่ว่า..."

"สหายหยางเฟิง" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยขึ้น ตัดบทคนร่างสูง "ฉันรู้ว่าคุณกังวลอะไร แต่ฉันสบายดีจริงๆ ค่ะ คุณก็อย่าคิดมากเลย รีบนอนเถอะค่ะ พรุ่งนี้ฉันต้องไปหาหญ้าแห้วหมูเพื่อไปเก็บแต้มแต่เช้า"

"ขอบคุณนะครับ" เขาเอ่ยขึ้น "ผมจะไม่ลืมความดีของคุณเลย"

หลินเสี่ยวเหยายิ้มตอบ "ไม่เป็นไรค่ะพวกเราเราเป็นสหายกันนี่คะ" หญิงสาวกล่าว

"งั้นผมขอตัวนอนก่อนนะครับ" หยางเฟิงเอ่ยขึ้น

"ค่ะ ฝันดีนะคะ" หลินเสี่ยวเหยาตอบกลับก่อนจะดับไฟตะเกียงและเข้านอนทันที

เช้าวันรุ่งขึ้น หลินเสี่ยวเหยาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตีห้า ท้องฟ้ายังมืดมิด เธอลุกขึ้นจากเตียง ยืดเส้นยืดสาย ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปดูวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านที่ตอนนี้ผู้คนยังคงนอนหลับใหลกันอยู่

วันนี้เธอไม่มีเวลาทำกับข้าว เพราะเธอต้องขึ้นเขาไปหาหญ้าแห้วหมูจึงนำของจากในมิติมาอุ่นไว้ให้น้องชายเธอกิน

หลินเสี่ยวเหยาหยิบข้าวต้มร้อนๆ กับไข่ดาวสองฟอง วางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะเดินไปที่ห้องนอนของน้องชาย "น้องเล็กพี่ทำกับข้าวไว้ในห้องครัวนะ ถ้าตื่นนอนแล้ว มาทานอาหารเช้านะ"

หลินเสี่ยวหมิง ลืมตาตื่นขึ้นมา ก่อนจะกล่าวกับพี่สาว "ได้ครับ แล้วพี่สาวจะให้ผมไปเป็นเพื่อนไหม"

"เดี๋ยวพี่ไปเองสะดวกกว่าพี่จะรีบไปรีบมา" หลินเสี่ยวเหยากล่าวกับเด็กชาย

หลังจากเธอทานอาหารเช้าที่เรียบง่ายเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาก็สะพายตะกร้าไม้ไผ่เก่าๆ มุ่งหน้าสู่ป่าทึบ เบื้องหน้าเธอคือทิวเขาสูงใหญ่ปกคลุมไปด้วยหมอกควัน อากาศยามเช้าเย็นสบาย ร่างบางเดินด้วยความคุ้นเคย เท้าของเธอ เหยียบย่ำไปบนพื้นดินที่ชื้นแฉะ

ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง หญิงสาวก็มาถึงจุดหมายปลายทาง ที่นี่เธอพบหญ้าแห้วหมูอันเขียวชอุ่ม หลินเสี่ยวเหยาเปิดมิติ นำเครื่องตัดหญ้าขนาดเล็กที่ใช้แบตเตอรี่ ออกมาวางบนพื้นดิน เพียงแค่แตะปุ่มเครื่องตัดหญ้าก็เริ่มทำงาน หญ้าแห้วหมูที่ปกคลุมทุ่งหญ้าถูกไถจนหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ หลินเสี่ยวเหยาก็เก็บเครื่องตัดหญ้ากลับเข้าไปในมิติ เธอเอื้อมมือไปกอบหญ้าแห้วหมูที่กองสูงนำเข้ามาในมิติทั้งหมด ร่างบางอมยิ้มอย่างพึงพอใจ ที่จะได้ไม่ต้องมาตัดหญ้าบ่อยๆ ในมิติของเธอ เวลาจะหยุดนิ่ง ทำให้คงสภาพความสดใหม่ของวัตถุดิบทุกอย่างไว้ได้ หลินเสี่ยวเหยาแยกหญ้าแห้วหมูบางส่วนใส่ตะกร้าหวาย ก่อนจะแบกตะกร้าที่หนักอึ้ง เดินกลับหมู่บ้านด้วยท่าทางที่คล่องแคล่ว ระหว่างทางเธอได้เจอต้นไม้ที่น่าสนใจ  แต่ด้วยความรีบเร่ง  หญิงสาวเลยกะว่าจะมาเก็บทีหลัง

เมื่อมาถึงหมู่บ้าน หลินเสี่ยวเหยาก็ตรงไปยังโรงเลี้ยงหมู ก่อนจะเดินไปหาลุงหวังคนจดแต้ม หญิงสาวได้รับแต้มการทำงานมา 3 แต้ม เธอรู้สึกดีใจ อย่างน้อยก็ไม่มีใครคิดว่าเธอเป็นแม่สาวจอมเกียจคร้าน

แต่ความสุขของเธอก็เป็นอันต้องจบลง เมื่อเธอเดินออกมาจากโรงเลี้ยงหมู เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับเฉียวเย่ รั่วฉี และเจียหยิง เด็กสาววัยเดียวกับเธอที่เป็นเพื่อนสาวของยัยนางเอกดอกบัวขาวที่แสนจะตอแหล เรื่องที่พวกหล่อนมาหาเรื่องเธอ คงจะได้รับการกรอกหูมาจากยัยนางเอกที่ชอบแอ๊บทำตัวเป็นคนดีละสิ หลินเสี่ยวเหยาสังเกตเห็นมีชาวบ้านอยู่แถวโรงเลี้ยงหมูประปราย เธอครุ่นคิดถึงแผนเอาคืนพวกเพื่อนนางเอกทันที

ทันใดนั้น เสียงแหลมสูงของเฉียวเย่ ก็ดังขึ้นเมื่อได้เห็นเธอ "หลินเสี่ยวเหยา! แกยังมีหน้ามาโผล่หน้าโผล่ตาอยู่ที่นี้อีกเหรอ! เป็นเพราะแกชื่อเสียงของพวกฉันถึงได้เสียหาย พวกเราจัดการมัน!"เฉียวเย่กล่าวด้วยความแค้นใจ

หลินเสี่ยวเหยามองเฉียวเย่ รั่วฉี และเจียหยิงด้วยสายตาเยือกเย็น แม้ร่างกายของเธอจะผอมบาง แต่แววตาของเธอกลับแฝงไว้ด้วยพลังอำนาจ ในชาติก่อนเธอฝึกฝนการต่อสู้ทั้งมือเปล่าและดาบ ในการต่อสู้กับซอมบี้ฝีมือของเธอไม่ธรรมดา แต่เธอก็ต้องเก็บงำความสามารถไว้ รอจังหวะตอบโต้ที่เหมาะสม

เฉียวเย่และเจียหยิง พุ่งเข้าหาหลินเสี่ยวเหยาด้วยความรวดเร็วหวังจะเข้ามาทำร้ายตบตี แต่หลินเสี่ยวเหยาไม่หวั่นเกรง เธอหลบหลีกการโจมตีของพวกเพื่อนนางเอกอย่างว่องไว และรอจังหวะสวนกลับ

ในชั่วพริบตา หลินเสี่ยวเหยาก็ใช้ทักษะการต่อสู้ที่เฉียบคม โจมตีเฉียวเย่และเจียหยิงอย่างแม่นยำ แต่การโจมตีของเธอแยบยลจนไม่มีใครสังเกตเห็น แต่ละหมัดแต่ละท่าที่เธอส่งออก ล้วนสร้างความเจ็บปวดอย่างสาหัสให้กับทั้งสองคน

"โอ๊ย! หยุดนะ! นังหลินเสี่ยวเหยา แกกล้าทำร้ายพวกเราเหรอ!" เจียหยิงและเฉียวเย่ร้องโหยหวน

หลินเสี่ยวเหยาแกล้งทำตื่นกลัว "ฉันไม่ได้ทำอะไรพวกเธอเลยนะ พวกเธอต่างหากที่รุมทำร้ายฉัน ฉันก็แค่พยายามจะหนีเอาชีวิตรอดเท่านั้น พวกคุณทั้งสองหกล้มกันไปเอง มันไม่ใช่ความผิดของฉันซะหน่อย"

เสียงร้องโหยหวนของเฉียวเย่และเจียหยิง ดึงดูดความสนใจของชาวบ้านในละแวกนั้น ทุกคนต่างรีบวิ่งมาดูด้วยความตกใจ

"นี่มันอะไรกัน? ทำไมพวกแกถึงรังแกเสี่ยวเหยาอีกแล้ว!" คุณอาหลิวที่ยืนดูเหตุการณ์ตั้งแต่แรกตะโกนถาม

"พวกเราไม่ได้รังแกเธอ! เธอเองต่างหากที่เป็นคนเริ่มก่อน!" เจียหยิงโกหกออกไป

"เธอไม่ต้องมาพูดมาก ฉันเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่พวกเธอเข้ามารุมโจมตีนังหนูเสี่ยวเหยาแล้ว"คุณอาหลิวดุพวกหล่อน

ในขณะเดียวกันรั่วฉีที่ยืนอยู่ถึงกับหน้าเสียเมื่อเห็นพวกเพื่อนๆ ลงไปนอนกับพื้น "แก..นังหลินเสี่ยวเหยา แกทำร้ายพวกเพื่อนๆ  ฉันจะเอาคืนให้พวกหล่อน"เสียงรั่วฉีดังขึ้นมาจากด้านหลังเธอ

หลินเสี่ยวเหยาไม่รอช้า เมื่อเห็นรั่วฉีวิ่งมาจิกหัวเธอ เธอแกล้งพลิกตัวหนีก่อนจะโจมตีด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ โดยไม่มีใครสังเกตเห็น การโจมตีของเธอดูภายนอกจะดูไม่ออกเพราะไม่มีร่องรอยใดๆ เหลืออยู่ แต่จะรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง

"โอ๊ย! ช่วยด้วย แขนจะหักแล้ว ฉันถูกนังหลินเสี่ยวเหยาแกทำร้าย!" รั่วฉีร้องโหยหวน

หลินเสี่ยวเหยาแกล้งหวาดกลัว "นี่พวกหล่อนอย่าใส่ใส่ร้ายฉันนะ ฉันก็อยู่ของฉันดีๆ แต่เป็นหล่อนเองต่างหากที่วิ่งมาจะทำร้าย ฉันก็แค่ทำการหลบหนีการโจมตีของเธอไปอย่างฉิวเฉียดเท่านั้น  เธอหกล้มลงไปเอง ใคร ๆ ก็เห็น "หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยขึ้น

เหล่าชาวบ้านก็ต่างงุนงง เพราะพวกเขาไม่เห็นว่าหลินเสี่ยวเหยาไปทำร้ายรั่วฉีตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกเขาเห็นแต่เพียงเธอหลบการโจมตีของรั่วฉีเท่านั้น

"นี้พวกเธออย่างมากล่าวร้ายหนูเสี่ยวเหยา เป็นพวกเธอต่างหากที่มารุมทำร้ายหล่อน" ป้าสะใภ้สามหลี่ตะโกนออกมา

"ไม่จริง! พวกเราไม่ได้ทำร้ายเธอ แต่เป็นนังหลินเสี่ยวเหยาต่างหากที่ทำร้ายพวกเรา ไม่เชื่อทุกคนดูนี้ ตรงแขนฉันช้ำไปหมดแล้ว" รั่วฉีกล่าวพร้อมกลับเปิดแขนเสื้อขึ้นมาแต่ปรากฏว่าไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายใดๆ ทั้งสิ้น รั่วฉีถึงหน้าเสีย ทั้งที่เธอเจ็บคนแทบจะขาดใจตาย แต่ทำไมถึงไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย

ด้วยความอับอาย พวกแก๊งเพื่อนนางเอกทั้งสามคนจึงรีบวิ่งหนีไปอย่างสะบักสะบอม

หลินเสี่ยวเหยาลุกขึ้นยืน ปัดเศษฝุ่นออกจากเสื้อผ้า

"ขอบคุณ คุณป้า คุณลุง คุณอา ทุกคนนะคะ ที่ช่วยเหลือฉัน" เธอพูดกับชาวบ้านด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน

"ไม่เป็นไรลูก ป้าดีใจที่หนูปลอดภัย" ป้าสะใภ้สามหลี่เอ่ยขึ้น

หลินเสี่ยวเหยาโบกมือลาชาวบ้าน ก่อนที่เธอจะรีบเดินกลับไปบ้าน ตอนนี้ตะวันสายโด่งแล้ว ป่านนี้คุณตัวร้ายน่าจะหิวแล้วละ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 71 บทส่งท้าย ค่ำคืนของสองเรา

    หนึ่งอาทิตย์ต่อมา รถไฟขบวนพิเศษจากเมืองหลวงก็แล่นเข้าสู่สถานีรถไฟเมืองจินหลง หยางกั๋วเฉิงและหลิวซิวหยวน พ่อแม่ของหยางเฟิง ย่างก้าวลงจากรถไฟด้วยสีหน้าที่เปี่ยมสุข ท่ามกลางเสียงต้อนรับของลูกชายและลูกสะใภ้ที่มารอรับอย่างพร้อมหน้า"คุณพ่อ คุณแม่" หยางเฟิงโผเข้ากอดพ่อแม่ด้วยความคิดถึง น้ำตาคลอหน่วย "ผมคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน""ลูกชายแม่" หลิวซิวหยวนลูบหลังลูกชายเบาๆ ปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "แม่ก็คิดถึงลูกเหมือนกัน"หยางกั๋วเฉิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "เจ้าสามแกโตเป็นหนุ่มแล้วนะ แถมยังจะแต่งงานมีครอบครัวอีกต่างหาก""แล้วนี่หลินเสี่ยวเหยา คู่หมั้นของลูก ใช่ไหม?" หลิวซิวหยวนเอ่ยถามพลางมองไปยังหญิงสาวหน้าหวานที่ยืนข้างๆ ลูกชายด้วยสายตาเอ็นดู"สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ หนูชื่อหลินเสี่ยวเหยาค่ะ" หลินเสี่ยวเหยาโค้งคำนับอย่างนอบน้อม"หนูเสี่ยวเหยา ไม่ต้องมากพิธีหรอก" หยางกั๋วเฉิงยิ้มให้หลินเสี่ยวเหยาอย่างเป็นมิตร "พ่อได้ยินเรื่องของลูกจากเจ้าสามมาเยอะพอสมควร พอได้มาเห็นตัวจริงแล้วน่ารักกว่าที่คิดไว้มาก""จริงสิ พี่ชายคนโตของพ่อกับลูกสะใภ้ก็มาด้วยนะ"

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 70 ขอแต่งงาน

    เสียงไซเรนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณโรงแรมหลงหยวนชุน เซียวจิ้งหนานและเจียงเหม่ยหลิงถูกใส่กุญแจมือถูกลากตัวไปขึ้นรถทหาร หยางเฟิงหัวหน้าหน่วยที่ 13 ปาดเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผาก เขาหันไปสั่งการเจียงเฉินเพื่อนสนิทของเขา"เจียงเฉิน นายรีบพาหลินฮวาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!" หยางเฟิงสั่งการด้วยน้ำเสียงเข้มเจียงเฉินพยักหน้ารับคำสั่งอย่างรวดเร็ว เขารับร่างบอบบางของหลินฮวาที่หมดสติไปจากหัวหน้าหน่วยอย่างระมัดระวัง ใบหน้าซีดเผือดของหลินฮวามีรอยไหม้จากน้ำกรดปรากฏให้เห็นเป็นบาดแผลที่น่ากลัว ใบหน้าของเธอเสียหายไปทั้งใบหน้า เจียงเฉินกัดฟันแน่น เขาอุ้มหลินฮวาขึ้นรถ รีบบึ่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันทีเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์และพยาบาลต่างก็กรูเข้ามาช่วยเหลือหลินฮวาอย่างเร่งด่วน พวกเขาเข็นเตียงของหลินฮวาเข้าห้องฉุกเฉินทันที เจียงเฉินมองตามร่างของหญิงสาวที่หายลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน"คุณหมอครับ อาการของเธอจะเป็นยังไงบ้างครับ" เจียงเฉินถามคุณหมอเมื่อเห็นทีมแพทย์ออกจากห้องฉุกเฉินมา"อาการของเธอค่อนข้างสาหัส ของเหลวที่เธอได้รับเข้าไปนั้นเป็นกรดที่มีฤทธิ์รุนแรงมาก ตอนนี้เ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 69 จับกุมตัวสองผัวเมีย

    หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดจากหลี่เหว่ยแล้ว หลินเสี่ยวเหยาก็รีบแจ้งหยางเฟิงถึงแผนที่จะไปช่วยลูกชายของหลี่เหว่ยที่บ้านพักตากอากาศชานเมืองจินหลงทันทีหยางเฟิงแสดงสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด "เหยาเหยา เธอแน่ใจนะว่าจะไปเอง? ไม่ให้พี่ไปด้วย"หลินเสี่ยวเหยาส่ายหน้า "ไม่เป็นไรหรอกพี่เฟิง พี่ไปจัดการเรื่องจับกุมเซียวจิ้งหนานเถอะ เรื่องหลี่เหว่ยตงฉันจัดการเองได้" เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น"แต่ว่า..." หยางเฟิงยังคงลังเล"ไม่มีแต่ค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้ พี่ไม่ต้องห่วง" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมส่งยิ้มหวานละมุนให้คู่หมั้นหนุ่มหยางเฟิงถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย "ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเหยาเหยาก็ระวังตัวด้วยนะ มีอะไรโทรมาที่ค่ายทหารติดต่อพี่ได้ตลอด"หลินเสี่ยวเหยาพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "ค่ะ...พี่เฟิง งั้นเดี๋ยวฉันขอยืมรถพี่เฟิงหน่อยนะคะ""เหยาเหยาขับรถเป็นด้วยหรือครับ" หยางเฟิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นหลินเสี่ยวเหยาขับรถมาก่อน"ฉันขับรถเป็นค่ะ" หลินเสี่ยวเหยากล่าวอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 68 ใบหน้าเสียโฉม

    แสงอาทิตย์สีทองค่อยๆ ลับหายไปหลังแนวขุนเขา ทิ้งไว้เพียงสีส้มจางๆ ระบายขอบฟ้า แต่แสงนั้นไม่อาจบรรเทาความร้อนรุ่มในใจของเจียงเหม่ยหลิงได้เลยแม้แต่น้อย รถยนต์คันใหญ่เคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองจินหลงในยามพลบค่ำ เธอหันไปสั่งคนสนิทเสียงเข้ม"ไปสืบเรื่องหลินฮวาที่ร้านจินหยวนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้"รถยนต์ยังคงแล่นไปตามถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและรถลาก เจียงเหม่ยหลิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ที่คุ้นเคยกลับดูหม่นหมองลงในสายตา"นายหญิงครับ" เสียงของลูกน้องคนสนิทดังขึ้น ทำให้เจียงเหม่ยหลิงละสายตาจากภาพด้านนอก"ว่าอย่างไร" เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงแววเคร่งขรึม"คุณเซียวได้ไถ่ตัวหลินฮวาจากร้านจินหยวนจริงครับ จากการสืบปากคำเจ้าของร้านทำให้ทราบว่าตอนนี้เธอพักอยู่ที่โรงแรมหลงหยวนชุน" ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยรายงานเจียงเหม่ยหลิงกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ความโกรธเกรี้ยวประดุจเปลวไฟลุกโชนขึ้นในอก เธอหวนนึกถึงคำพูดของบรรดาอนุภรรยาของเซียวจิ้งหนานที่คอยพูดจาดูถูกเหยียดหยาม ชอบโอ้อวดเรื่องสามีให้เธอฟัง แม้จะโกรธเพียงใด แต่เจียงเหม่ยหลิงก็รู้ดีว่าเธอต้องอดทน เธอรู้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 67 หายนะที่กำลังจะมาเยือน

    ไม่ถึงสิบนาที ประตูห้องสอบสวนก็เปิดออกอีกครั้ง ร่างระหงของหลินเสี่ยวเหยาปรากฏขึ้น เธอเดินอย่างสง่าผ่าเผยออกมาจากห้อง ทิ้งให้หลี่เหว่ยจมอยู่กับความคิดอันสับสนวุ่นวายเพียงลำพังทันทีที่ก้าวพ้นประตู หลินเสี่ยวเหยาต้องเผชิญหน้ากับบุรุษสองนายที่ยืนรออยู่ หยางเฟิงในชุดทหารที่ดูสง่างามยืนรออยู่เคียงข้างพลตรีเฉินกั๋วชิง ผู้บังคับบัญชาของเขา ดวงตาคมกริบของหยางเฟิงจับจ้องมาที่หลินเสี่ยวเหยาอย่างร้อนรน ความอยากรู้ฉายชัดอยู่ในแววตา"เหยาเหยา เป็นยังไงบ้าง หลี่เหว่ยมันยอมปริปากหรือยัง?" เสียงทุ้มเข้มของพันตรีหนุ่มดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบของทางเดินหลินเสี่ยวเหยาหยุดยืนอยู่หน้าหยางเฟิงและพลตรีเฉินกั๋วชิง เธอสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบ "แน่นอนค่ะว่าหลี่เหว่ยสารภาพ" เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับกำลังพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศหยางเฟิงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ เขาและเหว่ยเจี้ยน ต่างก็เค้นสอบสวนหลี่เหว่ยมาตลอดทั้งอาทิตย์ ใช้ทั้งวิธีข่มขู่และทรมานสารพัด แต่หัวหน้ากลุ่มกบฏก็ยังคงปิดปากเงียบ ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวแต่หลินเสี่ยวเหยาที่เข้าไปในห้องสืบสวน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 66 เปิดปากหลี่เหว่ย

    ท้องฟ้าเหนือเมืองจินหลงยังคงมืดครึ้ม แม้แสงอาทิตย์แรกของวันใหม่จะเริ่มสาดส่อง ทว่าบรรยากาศในเซฟเฮาส์ลับกลับเย็นเยียบราวกับถูกปกคลุมด้วยเงามืดเซียวจิ้งหนานนั่งนิ่ง สายตาคมกริบจับจ้องไปยังลูกน้องที่ยืนตัวสั่นอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าที่ถึงจะมีอายุเยอะแต่ก็ยังคงความหล่อเหลา บัดนี้ใบหน้าเขากลับบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อทุกสิ่งที่เขาได้วางแผนไว้ล้มเหลวไม่เป็นท่า"นายท่านผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ ผมได้รับรายงานว่าค่ายของพวกกบฏที่เราสนับสนุนถูกทหารบุกโจมตีตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วครับ" เสียงของลูกน้องรายงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "อาวุธและคนของเราถูกจับยึดไปทั้งหมด...""ว่ายังไงนะ!" เสียงทุ้มต่ำของเซียวจิ้งหนานดังก้องไปทั่วห้องทำงานเมื่อได้ยินข่าวร้าย "ค่ายของเราถูกพวกทหารรัฐบาลบุกโจมตีงั้นเหรอ?"แก้วเหล้าคริสตัลที่บรรจุของเหลวสีอำพันล้ำค่าหลุดร่วงจากมือหนา กระทบกับพื้นหินอ่อนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ของเหลวสีทองอร่ามไหลนองไปทั่วพรมเปอร์เซียราคาแพง"ครับนายท่าน" ลูกน้องคนสนิทก้มหน้าลงต่ำด้วยความหวาดกลัว "พวกมันบุกเข้ามาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ทำให้คนของเราเสียชีวิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status