หลังจากหลินเสี่ยวเหยาออกจากบ้านลุงเหวินมา หญิงสาวรีบเดินทางกลับบ้านเพราะกลัวน้องชายจะหิ้วท้องรอ เธอก้าวเท้าผ่านแปลงนาด้วยความเร่งรีบ มุ่งหน้ากลับบ้านที่อยู่ติดกับเชิงเขาที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ท่ามกลางดวงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นกลุ่มชายหนุ่มสามคนที่ยืนดักรอเธออยู่
"นังตัวดี!" จ้าวหยวนตงตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "ฉันจะแก้แค้นที่แกทำปากฉันแตก! ตอนนี้พวกชาวบ้านต่างก็กลับบ้านไปกันหมดแล้ว ไม่มีใครช่วยเหลือแกได้ ถ้าแกไม่อยากเจ็บตัว ก็นำข้าวของมาให้พวกฉันซะ!" ชายหนุ่มข่มขู่หลินเสี่ยวเหยาทันที
หลินเสี่ยวเหยา กัดฟันกรอด ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอไม่คิดจะให้ใครมารังแกเธอได้ง่ายๆ หรอก
"ไอ้จ้าวหยวนตง แกอย่ามาหาเรื่อง ฉันไม่มีของอะไรจะให้แก" หลินเสี่ยวเหยา ตะโกนโต้กลับไป ด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว
"นังนี่มันปากดีจริงๆ พวกเราจัดการสั่งสอนนังผู้หญิงคนนี้กันหน่อย!" จ้าวหยวนตง เรียกเพื่อนสนิททั้งสอง ตรงรี่เข้าหาหลินเสี่ยวเหยา
"เฮอะ..ในเมื่อฉันไม่ได้ไปหาเรื่องพวกแก แต่พวกแกกับเสือกหาเรื่องเอง แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนละ ถ้าพวกแกแน่จริง ก็เข้ามา" หญิงสาวตะโกนตอบกลับมา
จ้าวหยวนตงยิ้มเยาะ เขาคิดว่าหลินเสี่ยวเหยาเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คงไม่กล้าต่อสู้กับเขา เขาจึงสั่งให้สหายทั้งสองคนของเขาเข้าจู่โจมทันที
ชายหนุ่มทั้งสามรีบวิ่งเข้าหาหลินเสี่ยวเหยา แต่ก่อนที่พวกมันจะเข้าถึงตัวเธอ หญิงสาวได้นำข้าวของที่เธอถือมานำเข้าไปเก็บไว้ในมิติ แสงสว่างจ้าก็วาบขึ้นในมือของเธอ ทันใดนั้น ของในมือของคนร่างบางก็หายไปทันที เหลือเพียงความว่างเปล่า
"เตรียมตัวตายได้เลย!" จ้าวหยวนตงตะโกนเสียงดัง มือของเขาชี้ไปที่ หญิงสาวร่างเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ตรงข้าม ดวงตาของเธอฉายแววเด็ดเดี่ยว ไร้ความหวาดกลัว
หลินเสี่ยวเหยารีบเคลื่อนไหว ร่างกายของเธอพุ่งเข้าหาจ้าวหยวนตงราวสายฟ้าแลบ หมัดของเธอเปี่ยมไปด้วยพลัง ฟาดเข้าที่ใบหน้าของจ้าวหยวนตงอย่างเต็มแรง จ้าวหยวนตงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มกลิ้งลงไปบนพื้น
กัวเฉิงหลงและหลินฟูหยงเห็นดังนั้น พวกเขาต่างก็ตกตะลึง พวกมันไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้จะมีฝีมือการต่อสู้ที่เก่งกาจขนาดนี้
แต่พวกเพื่อนพระเอกก็ไม่ได้จะคิดยอมแพ้ พวกมันกรูเข้าหาหลินเสี่ยวเหยาพร้อมกัน
คนร่างบางไม่หวั่นเกรงคนพวกนี้ พวกมันช้ายิ่งกว่าพวกซอมบี้กลายพันธุ์ที่เธอเคยฆ่ามาเมื่อชาติที่แล้วเสียอีก หญิงสาวต่อสู้กับพวกเพื่อนพระเอกอย่างว่องไว หมัด เตะ ศอก เข่า ของเธอทำงานประสานกันอย่างลงตัว หญิงสาวเน้นโจมตีที่ใบหน้าและลำตัว จ้าวหยวนตง กัวเฉิงหลง หลินฟูหยง ต่างก็ถูกเธอโจมตีจนร้องโหยหวน
ภายในไม่กี่นาทีทั้งสามคนต่างก็พ่ายแพ้ นอนนิ่งอยู่บนพื้น หายใจรวยริน ในหน้าเขียวช้ำ บวมปูด เหมือนโดนผึ้งต่อย
หลินเสี่ยวเหยา ยืนมองพวกเพื่อนพระเอกด้วยความเย็นชา
"พวกแกคิดว่าฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่อ่อนแอที่พวกแกจะจัดการได้ง่ายเหรอ?" เธอถามด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย "พวกแกไม่มีวันรู้หรอกว่าฉันผ่านอะไรมาบ้าง พวกแกไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหน"
ชายหนุ่มทั้งสามตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว พวกเขาไม่เคยเห็นด้านมืดของหลินเสี่ยวเหยามาก่อน จิตสังหารที่เธอได้แผ่ออกมาทำให้เธอดูอันตรายเป็นอย่างมาก
"อย่า...อย่าทำร้ายพวกเรา!" จ้าวหยวนตงร้องขอ เสียงของเขาสั่นเครือด้วยความหวาดกลัวก่อนจะทำท่าวิ่งหนีแต่ด้วยอาการบาดเจ็บของเขาทำให้เขาหนีไปได้ไม่ไกล
"พวกแกสมควรได้รับบทลงโทษ" หลินเสี่ยวเหยากล่าวอย่างเด็ดขาด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ เธอดึงมีดสั้นออกมาจากมิติพร้อมกับเดินเข้าหาจ้าวหยวนตง
"นี่..แกจะทำอะไร อย่าเข้ามานะ?" จ้าวหยวนตงถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่า
"ฉันก็จะสอนบทเรียนให้กับพวกแกไง!" หลินเสี่ยวเหยาลดมีดสั้นลงจ่อลำคอของจ้าวหยวนตง ดวงตาสีน้ำตาลของเธอฉายแววเย็นชา ไร้ซึ่งความปรานี
"อย่า! ฉันขอโทษ! ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว!" จ้าวหยวนตงร้องขอด้วยความหวาดกลัว เขาทรุดตัวลงกับพื้น เข่าอ่อนยวบด้วยความหวาดกลัวจนฉี่แตกเปื้อนรดขากางเกง ย้ำเตือนถึงความอับอายขายขี้หน้า
หลินเสี่ยวเหยามองจ้าวหยวนตงด้วยสายตาเย็นชา เธอไม่มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจพวกเพื่อนพระเอกที่ชั่วร้ายผู้นี้เลย หญิงสาวลดมีดสั้นลง มองดูชายหนุ่มทั้งสามด้วยความรังเกียจ
"พวกแกโชคดีที่วันนี้ฉันไม่อยากฆ่าใคร" เธอกล่าว "แต่ถ้าพวกแกกล้าบอกใครเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ฉันจะไปตามฆ่าพวกแกให้ตายถึงที่" หญิงสาวเริ่มข่มขู่พวกเพื่อนพระเอก
ชายหนุ่มทั้งสามต่างก้มหน้าก้มตา พยักหน้ารับอย่างสั่นเทา
"สหายหลิน พวกเราสัญญาว่าจะไม่บอกใครเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้" หลินฟูหยง รีบเอ่ยขึ้น เสียงของเขาสั่นเครือด้วยความหวาดกลัว
หลินเสี่ยวเหยาจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาที่ที่ว่างเปล่า
"พวกแกรีบไสหัวไปให้พ้นๆ หน้าฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าพวกแกตรงนี้ซะ" คนร่างบางตะโกนเสียงดัง ไล่ชายหนุ่มทั้งสามให้หนีไป
จ้าวหยวนตง กัวเฉิงหลง และหลินฟูหยง รีบลุกขึ้นและวิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัว
หญิงสาวจ้องมองตามพวกเขาไปจนลับตา ใบหน้าของเธอไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ
ในตอนแรกหลินเสี่ยวเหยาตั้งใจวางยาท้องเสียลงในตุ่มน้ำในบ้านของพวกยุวชนปัญญา หวังจะสอนบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ ให้พวกมันได้รู้สึกสำนึก แต่คนพวกนี้กลับมาหาแส่เรื่องเธอ หญิงสาวเลยจัดหนักให้พวกมันหลาบจำ
"หวังว่าพวกแกทั้งหมดจะจำให้ขึ้นใจละ ว่าอย่ามาแส่หาเรื่องฉันอีก" เธอพูดพึมพำเสียงเบา ก่อนจะเก็บมีดสั้นเข้าไปในมิติ และนำไก่ทั้งสองตัวที่ลุงเหวินให้ออกมานอกมิติ ก่อนมุ่งหน้าเดินกลับบ้าน
เมื่อหลินเสี่ยวเหยาเดินกลับมาถึงบ้านพระอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้าแล้ว เธอเห็นหลินเสี่ยวหมิงที่นั่งรออยู่ที่ลานหน้าบ้านรีบวิ่งมาหาเธอด้วยความเป็นห่วง
"ทำไมพี่สาวกลับมาซะค่ำเลย?" เด็กน้อยเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"พี่สาวขอโทษนะน้องเล็ก พอดีพี่สาวติดธุระ" หลินเสี่ยวเหยายิ้มให้กับน้องชาย พยายามกลบความรู้สึกผิดที่ทำให้น้องชายต้องหิ้วท้องรอ
"น้องเล็กมาดูนี้" หลินเสี่ยวเหยาอมยิ้ม เธอควักไก่ สองตัวออกมาจากตะกร้า
"ไก่!" หลินเสี่ยวหมิงดีใจจนตาโต เขาเอื้อมมือไปลูบขนไก่เบาๆ "พี่ไปเอาไก่มาจากไหน?"
"ลุงเหวินให้มา" หลินเสี่ยวเหยาอธิบาย "ลุงเหวินบอกว่าไก่พวกนี้ให้ไข่เยอะมาก พี่เลยเอามาเลี้ยงไว้กินไข่"
หลินเสี่ยวหมิงตื่นเต้นกับไก่ตัวใหม่มาก เขาตั้งชื่อไก่ให้ทั้งสองตัวว่า "เสี่ยวหง" และ "เสี่ยวจง"
หลินเสี่ยวเหยาพาไก่สองตัวไปไว้ที่คอกไก่หลังบ้าน จากนั้นเธอก็หยิบอาหารไก่สำเร็จรูปออกมาจากในห้างสรรพสินค้า
ร่างบางเทอาหารไก่ใส่ถาด เธอสังเกตเห็นว่า"เสี่ยวหง" และ "เสี่ยวจง" จิกกินอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อย
"น้องเล็กหิวข้าวหรือยัง?" หลินเสี่ยวเหยาเบือนหน้าไปถามน้องชาย
"ผมหิวครับ" หลินเสี่ยวหมิงตอบกลับมา "พี่สาวมีอะไรให้กินบ้างครับ?"
หลินเสี่ยวเหยาครุ่นคิดอยู่ในใจก่อนจะตอบ "เดี๋ยวพี่เอาของในมิติมาให้ทาน เดี๋ยวน้องเล็กไปล้างมือก่อนนะ"
เด็กน้อยพยักหน้ารับคำก่อนจะเดินไปล้างมือ เขานั่งลงที่โต๊ะอาหารที่ตั้งอยู่ที่ลานหน้าบ้าน สายตาของเขาคอยมองไปที่ประตูห้องครัว รอคอยพี่สาวด้วยความใจจดใจจ่อ
ไม่นานนัก หลินเสี่ยวเหยาก็กลับมาพร้อมกับถาดอาหาร บนถาดมีกับข้าวหลากหลายเมนู ทั้งผัดหมี่ เกี๊ยวน้ำ ไข่ผัดขิง หมูสามชั้นผัดซอสเปรี้ยวหวาน
"ว้าว! กับข้าวหน้าทานจัง!" หลินเสี่ยวหมิงร้องด้วยความดีใจ
"น้องเล็กทานไปก่อนได้เลย" หลินเสี่ยวเหยายิ้มให้น้องชาย "เดี๋ยวพี่สาวเอากับข้าวไปให้สหายหยางก่อน"
หลินเสี่ยวหมิงพยักหน้า ก่อนหยิบตะเกียบขึ้นมาตักอาหารเข้าปาก รสชาติของอาหารแสนอร่อย ช่างแตกต่างจากอาหารที่เขาเคยทานมาโดยสิ้นเชิง
หลินเสี่ยวเหยาก้าวเข้าไปในห้องนอน เธอพบกับคุณตัวร้ายนั่งพิงหัวเตียงอยู่ ใบหน้าของเขาซีดเซียว แต่แววตาของเขากลับเปล่งประกายความสดใส เมื่อเขาเห็นหลินเสี่ยวเหยา นายหนุ่มลุกขึ้นนั่ง
"สหายหลิน คุณกลับมาแล้วเหรอ" หยางเฟิงเอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม
"ค่ะ ฉันกลับมาแล้ว" หลินเสี่ยวเหยารีบวางถาดอาหารลงบนโต๊ะ "ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ ช่วงนี้งานยุ่งมาก เลยกลับบ้านดึก"
"ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ" หยางเฟิงพยักหน้า "แล้วสหายหลิน ทานข้าวหรือยังครับ"
"ยังค่ะ พอกลับมาถึงบ้านฉันก็รีบมาทำกับข้าวให้คุณก่อน"
"งั้นทานด้วยกันไหมครับ?" เขาเอ่ยชวน ก่อนจะยกมือขึ้นลูบไล้เส้นผมของเธออย่างแผ่วเบา
หลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปาก ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกจากอก
สัมผัสที่อ่อนโยนนั้นทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เธอเม้มริมฝีปาก ใบหน้าแดงระเรื่อราวกับลูกตำลึงสุก
"ค่ะ" เธอพยักหน้า เบาๆ อย่างไม่รู้ตัว
'นี่คุณตัวร้ายเขาอ่อยเธอหรือเปล่า?' เสียงเล็กๆ ในใจของเธอดังขึ้น เธอพยายามสลัดความคิดนั้นทิ้ง
"งั้นเดี๋ยวฉันไปยกกับข้าวเข้ามาในห้องก่อนนะคะ" เธอบอกกับชายหนุ่ม ก่อนเดินออกไปลานบ้าน
'บ้า... อย่าคิดมาก' เธอเตือนตัวเอง 'ในนิยายเขาไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย'
หยางเฟิงมองตามร่างเล็กๆ ของหญิงสาวด้วยดวงตานุ่มลึก ผู้หญิงคนนี้เปรียบเสมือนแสงสว่างสำหรับเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งเธอไปได้ ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ในใจ
ไม่นาน คนร่างบางก็กลับมาพร้อมกับถาดอาหารบนมือ เธอวางถาดลงบนโต๊ะ ยิ้มหวานให้กับคุณตัวร้าย ทั้งคู่ทานอาหารกันอย่างเงียบๆ
หลินเสี่ยวเหยาตักข้าวต้มปลาให้คนตัวสูง"คุณลองชิมข้าวต้มปลาที่ฉัน รสชาติเป็นอย่างไรบ้าง"
ชายหนุ่มรับช้อนมา ตักข้าวต้มเข้าปาก "อร่อยมากครับ สหายหลินทำอาหารเก่งจริงๆ"
"คุณก็ทานเยอะๆ นะคะ จะได้หายไวๆ" หลินเสี่ยวเหยาอมยิ้มแก้มตุ่ย
'หุหุ อาหารแช่แข็งในยุคปัจจุบันจงเจริญ ฉันโชคดีซะจริงๆ ที่มีสรรพสินค้าติดตัวมาด้วย'
ในขณะที่เธอกำลังจะทานข้าว พันตรีหนุ่มก็ตักข้าวใส่จานของเธออย่างทะมัดทะแมง
"ขอบคุณค่ะ"เสี่ยวเหยาเอ่ยขอบคุณอย่างสุภาพ แม้ในใจจะรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
หลินเสี่ยวเหยาไม่คาดคิดว่าคุณตัวร้ายจะเซอร์วิสเธอแบบนี้
"อืม..." หยางเฟิงขยับตัวเข้าใกล้ ก่อนหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบหมูสามชั้นผัดซอสเปรี้ยวหวานมาให้เธอ
"อ้าปากหน่อยครับ"
หลินเสี่ยวเหยาอ้าปากค้าง รู้สึกประหลาดใจกับท่าทางของคุณตัวร้าย ทำไมมันช่างแตกต่างจากในนิยายไปไกล ไหนละความโหดร้ายของพ่อหนุ่มแบดบอยนี่มันบทพระเอกชัดๆ
ชายหนุ่มยื่นหมูสามชั้นผัดซอสเปรี้ยวหวานไปในปากของเธออย่างเบามือ
"อร่อยไหมครับ?"
หลินเสี่ยวเหยางับปากทานข้าวอย่างไม่รู้ตัวนี่มันอะไรกัน หญิงสาวไม่คาดคิดว่าจะโดนคุณตัวร้ายป้อนข้าวให้ เธอเคี้ยวข้าวอย่างไม่รู้รสก่อนจะตอบเขาไป "อร่อยค่ะ"
ชายหนุ่มยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ
"สหายหลินน่ารักจังครับ"
"คุณ..." หลินเสี่ยวเหยารู้สึกเหมือนหัวใจของเธอจะหยุดเต้น 'โอ๊ยคุณตัวร้ายอย่าทำให้ฉันหวั่นไหวไปมากกว่านี้'
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา รถไฟขบวนพิเศษจากเมืองหลวงก็แล่นเข้าสู่สถานีรถไฟเมืองจินหลง หยางกั๋วเฉิงและหลิวซิวหยวน พ่อแม่ของหยางเฟิง ย่างก้าวลงจากรถไฟด้วยสีหน้าที่เปี่ยมสุข ท่ามกลางเสียงต้อนรับของลูกชายและลูกสะใภ้ที่มารอรับอย่างพร้อมหน้า"คุณพ่อ คุณแม่" หยางเฟิงโผเข้ากอดพ่อแม่ด้วยความคิดถึง น้ำตาคลอหน่วย "ผมคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน""ลูกชายแม่" หลิวซิวหยวนลูบหลังลูกชายเบาๆ ปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "แม่ก็คิดถึงลูกเหมือนกัน"หยางกั๋วเฉิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "เจ้าสามแกโตเป็นหนุ่มแล้วนะ แถมยังจะแต่งงานมีครอบครัวอีกต่างหาก""แล้วนี่หลินเสี่ยวเหยา คู่หมั้นของลูก ใช่ไหม?" หลิวซิวหยวนเอ่ยถามพลางมองไปยังหญิงสาวหน้าหวานที่ยืนข้างๆ ลูกชายด้วยสายตาเอ็นดู"สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ หนูชื่อหลินเสี่ยวเหยาค่ะ" หลินเสี่ยวเหยาโค้งคำนับอย่างนอบน้อม"หนูเสี่ยวเหยา ไม่ต้องมากพิธีหรอก" หยางกั๋วเฉิงยิ้มให้หลินเสี่ยวเหยาอย่างเป็นมิตร "พ่อได้ยินเรื่องของลูกจากเจ้าสามมาเยอะพอสมควร พอได้มาเห็นตัวจริงแล้วน่ารักกว่าที่คิดไว้มาก""จริงสิ พี่ชายคนโตของพ่อกับลูกสะใภ้ก็มาด้วยนะ"
เสียงไซเรนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณโรงแรมหลงหยวนชุน เซียวจิ้งหนานและเจียงเหม่ยหลิงถูกใส่กุญแจมือถูกลากตัวไปขึ้นรถทหาร หยางเฟิงหัวหน้าหน่วยที่ 13 ปาดเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผาก เขาหันไปสั่งการเจียงเฉินเพื่อนสนิทของเขา"เจียงเฉิน นายรีบพาหลินฮวาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!" หยางเฟิงสั่งการด้วยน้ำเสียงเข้มเจียงเฉินพยักหน้ารับคำสั่งอย่างรวดเร็ว เขารับร่างบอบบางของหลินฮวาที่หมดสติไปจากหัวหน้าหน่วยอย่างระมัดระวัง ใบหน้าซีดเผือดของหลินฮวามีรอยไหม้จากน้ำกรดปรากฏให้เห็นเป็นบาดแผลที่น่ากลัว ใบหน้าของเธอเสียหายไปทั้งใบหน้า เจียงเฉินกัดฟันแน่น เขาอุ้มหลินฮวาขึ้นรถ รีบบึ่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันทีเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์และพยาบาลต่างก็กรูเข้ามาช่วยเหลือหลินฮวาอย่างเร่งด่วน พวกเขาเข็นเตียงของหลินฮวาเข้าห้องฉุกเฉินทันที เจียงเฉินมองตามร่างของหญิงสาวที่หายลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน"คุณหมอครับ อาการของเธอจะเป็นยังไงบ้างครับ" เจียงเฉินถามคุณหมอเมื่อเห็นทีมแพทย์ออกจากห้องฉุกเฉินมา"อาการของเธอค่อนข้างสาหัส ของเหลวที่เธอได้รับเข้าไปนั้นเป็นกรดที่มีฤทธิ์รุนแรงมาก ตอนนี้เ
หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดจากหลี่เหว่ยแล้ว หลินเสี่ยวเหยาก็รีบแจ้งหยางเฟิงถึงแผนที่จะไปช่วยลูกชายของหลี่เหว่ยที่บ้านพักตากอากาศชานเมืองจินหลงทันทีหยางเฟิงแสดงสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด "เหยาเหยา เธอแน่ใจนะว่าจะไปเอง? ไม่ให้พี่ไปด้วย"หลินเสี่ยวเหยาส่ายหน้า "ไม่เป็นไรหรอกพี่เฟิง พี่ไปจัดการเรื่องจับกุมเซียวจิ้งหนานเถอะ เรื่องหลี่เหว่ยตงฉันจัดการเองได้" เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น"แต่ว่า..." หยางเฟิงยังคงลังเล"ไม่มีแต่ค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้ พี่ไม่ต้องห่วง" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมส่งยิ้มหวานละมุนให้คู่หมั้นหนุ่มหยางเฟิงถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย "ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเหยาเหยาก็ระวังตัวด้วยนะ มีอะไรโทรมาที่ค่ายทหารติดต่อพี่ได้ตลอด"หลินเสี่ยวเหยาพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "ค่ะ...พี่เฟิง งั้นเดี๋ยวฉันขอยืมรถพี่เฟิงหน่อยนะคะ""เหยาเหยาขับรถเป็นด้วยหรือครับ" หยางเฟิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นหลินเสี่ยวเหยาขับรถมาก่อน"ฉันขับรถเป็นค่ะ" หลินเสี่ยวเหยากล่าวอย่
แสงอาทิตย์สีทองค่อยๆ ลับหายไปหลังแนวขุนเขา ทิ้งไว้เพียงสีส้มจางๆ ระบายขอบฟ้า แต่แสงนั้นไม่อาจบรรเทาความร้อนรุ่มในใจของเจียงเหม่ยหลิงได้เลยแม้แต่น้อย รถยนต์คันใหญ่เคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองจินหลงในยามพลบค่ำ เธอหันไปสั่งคนสนิทเสียงเข้ม"ไปสืบเรื่องหลินฮวาที่ร้านจินหยวนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้"รถยนต์ยังคงแล่นไปตามถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและรถลาก เจียงเหม่ยหลิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ที่คุ้นเคยกลับดูหม่นหมองลงในสายตา"นายหญิงครับ" เสียงของลูกน้องคนสนิทดังขึ้น ทำให้เจียงเหม่ยหลิงละสายตาจากภาพด้านนอก"ว่าอย่างไร" เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงแววเคร่งขรึม"คุณเซียวได้ไถ่ตัวหลินฮวาจากร้านจินหยวนจริงครับ จากการสืบปากคำเจ้าของร้านทำให้ทราบว่าตอนนี้เธอพักอยู่ที่โรงแรมหลงหยวนชุน" ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยรายงานเจียงเหม่ยหลิงกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ความโกรธเกรี้ยวประดุจเปลวไฟลุกโชนขึ้นในอก เธอหวนนึกถึงคำพูดของบรรดาอนุภรรยาของเซียวจิ้งหนานที่คอยพูดจาดูถูกเหยียดหยาม ชอบโอ้อวดเรื่องสามีให้เธอฟัง แม้จะโกรธเพียงใด แต่เจียงเหม่ยหลิงก็รู้ดีว่าเธอต้องอดทน เธอรู้ว
ไม่ถึงสิบนาที ประตูห้องสอบสวนก็เปิดออกอีกครั้ง ร่างระหงของหลินเสี่ยวเหยาปรากฏขึ้น เธอเดินอย่างสง่าผ่าเผยออกมาจากห้อง ทิ้งให้หลี่เหว่ยจมอยู่กับความคิดอันสับสนวุ่นวายเพียงลำพังทันทีที่ก้าวพ้นประตู หลินเสี่ยวเหยาต้องเผชิญหน้ากับบุรุษสองนายที่ยืนรออยู่ หยางเฟิงในชุดทหารที่ดูสง่างามยืนรออยู่เคียงข้างพลตรีเฉินกั๋วชิง ผู้บังคับบัญชาของเขา ดวงตาคมกริบของหยางเฟิงจับจ้องมาที่หลินเสี่ยวเหยาอย่างร้อนรน ความอยากรู้ฉายชัดอยู่ในแววตา"เหยาเหยา เป็นยังไงบ้าง หลี่เหว่ยมันยอมปริปากหรือยัง?" เสียงทุ้มเข้มของพันตรีหนุ่มดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบของทางเดินหลินเสี่ยวเหยาหยุดยืนอยู่หน้าหยางเฟิงและพลตรีเฉินกั๋วชิง เธอสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบ "แน่นอนค่ะว่าหลี่เหว่ยสารภาพ" เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับกำลังพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศหยางเฟิงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ เขาและเหว่ยเจี้ยน ต่างก็เค้นสอบสวนหลี่เหว่ยมาตลอดทั้งอาทิตย์ ใช้ทั้งวิธีข่มขู่และทรมานสารพัด แต่หัวหน้ากลุ่มกบฏก็ยังคงปิดปากเงียบ ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวแต่หลินเสี่ยวเหยาที่เข้าไปในห้องสืบสวน
ท้องฟ้าเหนือเมืองจินหลงยังคงมืดครึ้ม แม้แสงอาทิตย์แรกของวันใหม่จะเริ่มสาดส่อง ทว่าบรรยากาศในเซฟเฮาส์ลับกลับเย็นเยียบราวกับถูกปกคลุมด้วยเงามืดเซียวจิ้งหนานนั่งนิ่ง สายตาคมกริบจับจ้องไปยังลูกน้องที่ยืนตัวสั่นอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าที่ถึงจะมีอายุเยอะแต่ก็ยังคงความหล่อเหลา บัดนี้ใบหน้าเขากลับบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อทุกสิ่งที่เขาได้วางแผนไว้ล้มเหลวไม่เป็นท่า"นายท่านผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ ผมได้รับรายงานว่าค่ายของพวกกบฏที่เราสนับสนุนถูกทหารบุกโจมตีตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วครับ" เสียงของลูกน้องรายงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "อาวุธและคนของเราถูกจับยึดไปทั้งหมด...""ว่ายังไงนะ!" เสียงทุ้มต่ำของเซียวจิ้งหนานดังก้องไปทั่วห้องทำงานเมื่อได้ยินข่าวร้าย "ค่ายของเราถูกพวกทหารรัฐบาลบุกโจมตีงั้นเหรอ?"แก้วเหล้าคริสตัลที่บรรจุของเหลวสีอำพันล้ำค่าหลุดร่วงจากมือหนา กระทบกับพื้นหินอ่อนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ของเหลวสีทองอร่ามไหลนองไปทั่วพรมเปอร์เซียราคาแพง"ครับนายท่าน" ลูกน้องคนสนิทก้มหน้าลงต่ำด้วยความหวาดกลัว "พวกมันบุกเข้ามาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ทำให้คนของเราเสียชีวิ