จ้าวหยวนตงยื่นมือไปคว้าตะกร้าหวายจากหลินเสี่ยวเหยาที่มีผ้าขาวปกคลุมเอาไว้
"สหายหลิน จะรีบไปไหน พวกเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ" จ้าวหยวนตงยิ้มเจ้าเล่ห์
หลินเสี่ยวเหยารู้สึกโกรธแค้น เธอพยายามเดินหนี แต่ชายหนุ่มจับตะกร้าเธอไว้แน่น
"ปล่อยตะกร้าฉันเดี๋ยวนี้! ของพวกนี้ไม่ใช่ของพวกแก!" หลินเสี่ยวเหยาตะโกนกลับมา
"ของฝากพวกนี้เอามาให้สหายเหว่ยเฉียงใช่มั้ยล่ะ? เดี๋ยวพวกเราเอาไปให้เขาเอง สหายหลินไม่ต้องเป็นห่วง" กัวเฉิงหลง ชายหนุ่มอีกคนในกลุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่จริงใจ
หลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น ตอนนี้พวกชาวบ้านเลิกงานเริ่มทยอยออกมาประปราย หญิงสาวไม่กล้าใช้ความรุนแรง ในขณะที่เธอกำลังจะยื้อตะกร้า จ้าวหยวนตงทำท่าจะโน้มตัวลงมาดูของในตะกร้าว่ามีอะไรบ้าง
ทันใดนั้นเธอแกล้งก็ใช้ศอกฟาดเข้าที่ปากของจ้าวหยวนตงอย่างแรงจนชายหนุ่มเซไปข้างหลัง เลือดไหลซิบจากมุมปาก
"โอ๊ย!" จ้าวหยวนตงร้องโอดโอย ก่อนจะปล่อยตะกร้าหวายออกจากมือ ชายหนุ่มไม่พอใจกล่าวว่าหญิงสาวตรงหน้าทันที
"แกนังตัวดี! แกกล้ามาทำร้ายฉันเหรอ?!"จ้าวหยวนตงตะโกนขึ้น
ผู้คนรอบข้างเริ่มหยุดชะงัก มองมาที่หลินเสี่ยวเหยาและจ้าวหยวนตงด้วยความตกใจ เสียงโหวกเหวกโวยวายเริ่มดังขึ้น
"ฉันไม่ได้ทำอะไรคุณ คุณเป็นคนจับตะกร้าฉันไว้ฉันก็แค่หมุนตัวไปดูเท่านั้นเอง" หลินเสี่ยวเหยาแกล้งพูดเสียงสั้น พยายามทำตัวน่าสงสาร
"แกโกหก! แกคิดว่าฉันจะไม่รู้เหรอว่าแกแกล้งทำร้ายฉัน!" จ้าวหยวนตงตะโกนเสียงดัง ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ
หลินเสี่ยวเหยาแกล้งทำตัวสั่นเทา ใบหน้าซีดเซียว
"ฉันไม่ได้โกหก ถ้าสหายไม่จับตะกร้าฉันไว้ก็คงไม่โดนข้อศอกของฉันตอนที่ฉันหมุนตัวมา" หลินเสี่ยวเหยากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
จ้าวหยวนตงจ้องมองหลินเสี่ยวเหยาด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว เขาไม่เชื่อคำพูดของเธอทำท่าจะเข้ามาทำร้ายหญิงสาว
หลินฟูหยง ชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อนของพระเอก พยายามห้ามปรามสหายอย่างหยวนตงที่กำลังโมโหจัด
"สหายหยวนตงใจเย็นๆ ก่อน สหายหลินคงไม่ได้ตั้งใจ" หลินฟูหยงเอ่ยขึ้น เพราะตอนนี้พวกชาวบ้านต่างก็เริ่มทยอยออกแปลงนากันมาเยอะแล้ว
"แต่...แต่..." หยวนตงพยายามกลืนความโกรธเพราะเขาก็ไม่อยากให้พวกชาวบ้านมองเขาไม่ดีเหมือนกัน เขาเอาชายเสื้อมากดปิดบาดแผลไว้ ก่อนจะเดินมาหากัวเฉิงหลง เขาพยักหน้าให้กัวเฉิงหลง ให้ทำตามแผนขั้นต่อไปทันที
"สหายเหว่ยเฉียง ฉันอิจฉานายซะจริงๆ สหายหลินคงจะหิ้วของมาฝากนายเยอะแยะเลย" เสียงของกัวเฉิงหลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงล้อเลียนหลี่เหว่ยเฉียงที่กำลังยืนมองหลินเสี่ยวเหยาอยู่นิ่งๆ
หลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น อารมณ์ของเธอเริ่มขุ่นมัว "ของฝากพวกนี้ฉันเอามาฝากลุงเหวินค่ะ ฉันไม่ได้เอามาให้พวกคุณซะหน่อย พวกคุณถอยออกไป ฉันจะรีบไป" เธอพยายามสะกดอารมณ์โกรธพยายามสร้างภาพหญิงสาวที่อ่อนแอ
กัวเฉิงหลงหัวเราะเยาะ "ของฝากอะไรกัน น่าสนใจดีนะ ให้ฉันดูหน่อยซิ" เขาเอื้อมมือไปคว้าตะกร้าของหลินเสี่ยวเหยา แต่เธอดึงตะกร้ากลับอย่างรวดเร็ว
"อย่ามายุ่งกับของของฉัน!" คนร่างบางตวาดใส่พวกกลุ่มพวกเพื่อนพระเอก
‘คนพวกนี้ยังไม่รู้จักเข็ดหลาบใช่ไหม เดี๋ยวรอดูคืนนี้ก็แล้วกัน ฉันจะเอาคืนพวกแกอย่างสาสม’ หลินเสี่ยวเหยาคิดแผนร้ายอยู่ในใจ
ในขณะที่บรรยากาศเริ่มแย่ลง หลี่เหว่ยเฉียง เริ่มสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้น
"สหายหลิน เธออย่าโกรธพวกเพื่อนๆ ของฉันเลย พวกเขาก็แค่อยากแซวเธอเล่นเท่านั้น" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พยายามลดความตึงเครียดลง
หลินเสี่ยวเหยาหันขวับไปมองคุณพระเอก "เฮอะ...แซวเล่นแบบไหนกัน! ถึงทำท่าเอาของของฉันไป!"
หลี่เหว่ยเฉียงกระอักกระอ่วน ชายหนุ่มไม่รู้จะพูดอะไรเขาเลยตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุย
"สหายหลิน! เธอหายไปไหนมาครับ เธอไม่สบายหรือเปล่า" หลี่เหว่ยเฉียงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
หลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นความรังเกียจที่ผุดขึ้นมาในใจ ถ้าเป็นเจ้าของร่างเดิม เธอคงจะใจอ่อนระทวยให้กับหนุ่มหล่อคนนี้แล้ว แต่เธอที่ผ่านวันโลกาวินาศมา ได้เจอคนเห็นแก่ตัวมาทุกรูปแบบ แค่นี้ทำไมเธอก็ดูออกว่า คุณพระเอกพูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงใจ แต่เธอไม่อยากพูดจาร้ายกาจออกไปเพราะตอนนี้มีพวกชาวบ้างมายืนมุงรอดูเรื่องสนุกอยู่ ทำให้หญิงสาวไม่สะดวกใจในการด่าพวกคนตอแหลเหล่านี้
‘ฮึ ...พระเอกนางเอกเรื่องนี้ช่างเหมาะสมกันอย่างกับผีเน่ากับโลงผุ‘ เธอได้แต่ต่อว่าพวกเขาอยู่ในใจก่อนจะตอบคุณพระเอกออกไป
"ตอนนี้ฉันแค่ยุ่งๆ ไม่มีเวลามานั่งทำเรื่องไร้สาระ" เธอตอบสั้นๆ น้ำเสียงของเธอปราศจากอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น สร้างความผิดหวังให้พวกที่มามุงดู
หลี่เหว่ยเฉียงคิ้วขมวด "คุณยุ่งเรื่องอะไรกันครับ?"
"พวกเราสนิทสนมกันเหรอคะ คุณถึงมาถามเรื่องส่วนตัวของฉัน" หลินเสี่ยวเหยากล่าวต่อว่าคุณพระเอกทันที
“ผมก็แต่อยากรู้เรื่องคุณเท่านั้น” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงหวานหู
แต่หลินเสี่ยวเหยาได้ฟังแล้วกลับรู้สึกสยองแต่ก็ต้องจำใจกัดฟันตอบชายหนุ่มไป "ตอนนี้ฉันมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ฉันต้องทำงานเก็บแต้ม ตอนนี้ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ทำตัวไร้สาระเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พวกคุณเลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว อย่าหาว่าฉันไม่เตือนละ"
"สหายหลิน คุณพูดอะไรน่ะ?" ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ "หญิงสาวเหมือนไม่ใช่คนเดิมที่เขาได้เคยรู้จัก"
หลี่เหว่ยเฉียงจ้องมองดูหญิงสาวตรงหน้าที่ทำหน้าเฉยชาใส่เขา ชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ในเวลาไม่กี่วัน ทั้งที่เมื่อก่อนเธอจะชอบมาหาเขาบ่อยๆ จนเขาแทบจะรำคาญ
ในระหว่างที่พวกเขาคุยกันทันใดนั้น พวกเขาได้ยินเสียงตะโกนออกมาดึงดูดความสนใจของทุกคน เหวินหยาง หัวหน้าหน่วยผลิต ก็ปรากฏตัวขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
"เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมพวกนายถึงมารุมล้อมหนูเหยาเหยา แล้วนี่พวกนายรับผิดชอบแปลงนาที่ได้รับมอบหมายเสร็จเรียบร้อยหรือยัง?" หัวหน้าหน่วยผลิตเอ่ยถาม
พวกเพื่อนๆ ของพวกพระเอกต่างก็ตอบกันอย่างอึกอัก "พวกเราจัดการงานที่แปลงนาเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ"
เหวินหยางพูดสวนขึ้นมาทันที "แต่เมื่อกี้ที่ฉันไปตรวจดูแปลงนาของพวกนาย พวกนายยังทำงานกันไม่ค่อยเรียบร้อยเลย พวกนายปลูกต้นข้าวห่างกันเกินไปกลับไปซ่อมพวกแปลงนาของพวกนายให้เสร็จเรียบร้อย ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่แจกแต้มให้กับพวกนาย " หัวหน้าหน่วยผลิตข่มขู่พวกยุวชนปัญญา
กลุ่มพวกเพื่อนพระเอกต่างก็หวาดกลัวหัวหน้าฝ่ายผลิตมาก
"ครับหัวหน้าเหวิน เดี๋ยวพวกเราจะไปซ่อมแซมงานให้เสร็จเรียบร้อย "หลี่เหว่ยเฉียงกล่าวก่อนจะพาพวกเพื่อนๆ เดินจากไป
เหวินหยางมองดูพวกชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจ เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง "พวกเด็กสมัยนี้มันช่าง..." เขาพูดก่อนจะหันมาหาหลินเสี่ยวเหยา
"เหยาเหยาหลานเป็นอะไรหรือเปล่า ลุงเห็นคนพวกนั้นมารุมล้อมหลาน" เหวินหยางเอ่ยขึ้น
"หนูไม่เป็นไรค่ะ หนูเพียงแต่โดนคนพวกนั้นก่อกวนพยายามจะแย่งของตะกร้าของหนูเท่านั้น" หลินเสี่ยวเหยาตอบกลับผู้เป็นลุง
เหวินหยางถอนหายใจด้วยความโล่งอก"ดีแล้วที่หลานไม่เป็นอะไร"
"ลุงเหวินค่ะ กลับบ้านลุงกันเถอะค่ะ หนูมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย"
"ได้สิหลานเดี๋ยวลุงเก็บของก่อน เดี๋ยวกลับบ้านไปพร้อมกับลุง"
เมื่อเหวินหยางเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองคนก็เดินกลับด้วยกันทันที
เมื่อมาถึงบ้านลุงเหวิน หลินซิน ภรรยาของลุงเหวินผู้แสนจะใจดีก็ออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
"สามี..วันนี้คุณกลับมาพร้อมกับเหยาเหยาเหรอ รีบเข้ามาข้างในบ้านก่อน เดี๋ยวป้าจะรินน้ำชาให้"
"อึ่ม...พอดีเหยาเหยามีเรื่องจะคุยด้วยนะ"เหวินหยางกล่าวก่อนจะเดินเข้าบ้านไป
หลินเสี่ยวเหยารีบก้มหัวคำนับภรรยาของลุงเหวิน"สวัสดีค่ะป้าสะใภ้ หนูขอโทษที่มารบกวนนะคะ"
"ไม่เป็นไรจ้ะ มาถึงก็ดีแล้ว เข้ามาๆ" ป้าสะใภ้เอ่ยพลางเชิญหลินเสี่ยวเหยาเข้าไปในบ้าน
หลินเสี่ยวเหยานั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวเก่า มองไปรอบๆ บ้านที่ไม้ที่ดูสะอาดตา เธอได้กลิ่นดอกหอมของดอกไม้ลอยมาตามลม
"หลานนั่งรอป้าแป๊บนะ เดี๋ยวป้าจะไปชงน้ำชามาให้" ป้าสะใภ้เอ่ยก่อนจะไปตั้งเตาชงน้ำชาอุ่นๆ มาให้
หลินซิน วางแก้วน้ำชาลงตรงหน้าหลินเสี่ยวเหยาและสามีของเธอ "เดินมาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำชากันก่อนจะได้ชื่นใจ "
"ขอบคุณค่ะคุณป้า" หลินเสี่ยวเหยาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
หลินซิน สังเกตเห็นตะกร้าที่หลินเสี่ยวเหยาถือมา "เหยาเหยา เอาหนูเอาอะไรมาฝากป้าเหรอ? " เธอถามด้วยความสงสัย
หลินเสี่ยวเหยา ยื่นตะกร้าให้ป้าสะใภ้ "หนูมีหมูสามชั้นกับผักสดมาฝากค่ะ หนูรู้ว่าลุงกับป้าชอบทาน"
ป้าสะใภ้รีบเอื้อมมือไปรับตะกร้า "คราวหลังหลานไม่ต้องเอาอะไรมาฝากป้าหรอก ป้ามีของกินอยู่แล้ว" เธอกล่าวด้วยความเกรงใจ
"หนูอยากให้ลุงกับป้าได้ทานของอร่อยๆ ค่ะแล้วอีกอย่างหนูก็มีเรื่องรบกวนคุณป้าด้วย " เธอกล่าวกับคนเป็นป้า
หลินซิน แกะตะกร้าออกมาดู "โห หมูสามชั้นนี่มันช่างน่ากินเสียจริง ขอบคุณนะจ๊ะ " เธอพูดด้วยความดีใจก่อนจะเดินนำของไปไว้ในห้องครัวก่อนจะเอาตะกร้ามาคืน
เหวินหยางจ้องมองหลานสาวด้วยความสงสัย "หลานมีเรื่องอะไรก็บอกลุงมาได้ ไม่ต้องเกรงใจ?"
"คือว่า...หนูอยากจะขอความช่วยเหลือคุณลุงเรื่อง..." หลินเสี่ยวเหยาหยุดชะงัก ลังเลที่จะพูดต่อ
"เรื่องอะไรเหรอหลาน?" เหวินหยางเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"หนูอยากหาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ไข่ค่ะ แต่หนูไม่รู้จะไปหาซื้อที่ไหนดีคะ และก็ไม่รู้ว่าสายพันธุ์ไหนดี ไก่พันธุ์ไหนให้ไข่เยอะ" หลินเสี่ยวเหยาพูดด้วยน้ำเสียงกังวล
เหวินหยางยิ้มให้หลินเสี่ยวเหยาอย่างใจดี "เรื่องแค่นี้เอง ลุงมีไก่ไข่พันธุ์ดีอยู่หลายตัว หลานอยากได้ตัวผู้ตัวเมียกี่ตัวล่ะ"
หลินเสี่ยวเหยารู้สึกดีใจ เธอยิ้มกว้างให้ผู้เป็นลุง "ขอบคุณลุงค่ะ หนูอยากได้ไก่สัก 2 ตัวค่ะ"
ลุงเหวินลุกขึ้นเดินไปหลังบ้าน หลินเสี่ยวเหยาลุกตามไปด้วยความตื่นเต้น
คนเป็นลุงพาหลานสาวไปที่คอกไก่หลังบ้าน ในคอกมีไก่ไข่หลายตัว กำลังคุ้ยเขี่ยหาอาหารบนพื้นดิน
"หลานดูเอาเลยว่าชอบตัวไหน" เขากล่าวกับหลานสาว
หลินเสี่ยวเหยามองดูไก่แต่ละตัวด้วยความสนใจ เธอมองหาไก่ที่มีรูปร่างสมบูรณ์ ขนมันเงางาม และท่าทางแข็งแรง
ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเลือกไก่เพศผู้ตัวหนึ่งที่มีหางยาวสีแดงสด และไก่เพศเมียตัวหนึ่งที่มีขนสีน้ำตาลอ่อน
"ลุงคะ หนูขอเลือกตัวนี้กับตัวนี้ค่ะ" หลินเสี่ยวเหยาร้องบอกคนเป็นลุง
เหวินหยางยิ้มและพยักหน้าให้หลานสาว"ได้เลย หลานตาดี เลือกไก่พันธุ์ดีทั้งคู่"
เหวินหยางจับไก่ทั้งสองตัวใส่ตะกร้าให้หลินเสี่ยวเหยา
"หลานเอาไปเลี้ยงดูให้ดีล่ะ ไก่พวกนี้ให้ไข่ดีมาก" ลุงเหวินกล่าวพร้อมยื่นไก่มาให้หลานสาว
"ขอบคุณมากค่ะคุณลุง เดี๋ยวหนูขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ"หลินเสี่ยวเหยากล่าว
"หลานจะไปแล้วเหรอ เดี๋ยวลุงไปส่ง"ลุงเหวินเอ่ยด้วยความเป็นห่วง
"ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูเดินกลับเองได้"หลินเสี่ยวเหยากล่าวด้วยความเกรงใจ
"งั้นหลานก็ระวังตัวด้วยนะ"เหวินหยางกล่าว
"ค่ะ ลุง"หลินเสี่ยวเหยากล่าวก่อนโบกมือลาลุงและคุณป้าเธอเดินกลับบ้านพร้อมกับตะกร้าไก่
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา รถไฟขบวนพิเศษจากเมืองหลวงก็แล่นเข้าสู่สถานีรถไฟเมืองจินหลง หยางกั๋วเฉิงและหลิวซิวหยวน พ่อแม่ของหยางเฟิง ย่างก้าวลงจากรถไฟด้วยสีหน้าที่เปี่ยมสุข ท่ามกลางเสียงต้อนรับของลูกชายและลูกสะใภ้ที่มารอรับอย่างพร้อมหน้า"คุณพ่อ คุณแม่" หยางเฟิงโผเข้ากอดพ่อแม่ด้วยความคิดถึง น้ำตาคลอหน่วย "ผมคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน""ลูกชายแม่" หลิวซิวหยวนลูบหลังลูกชายเบาๆ ปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "แม่ก็คิดถึงลูกเหมือนกัน"หยางกั๋วเฉิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "เจ้าสามแกโตเป็นหนุ่มแล้วนะ แถมยังจะแต่งงานมีครอบครัวอีกต่างหาก""แล้วนี่หลินเสี่ยวเหยา คู่หมั้นของลูก ใช่ไหม?" หลิวซิวหยวนเอ่ยถามพลางมองไปยังหญิงสาวหน้าหวานที่ยืนข้างๆ ลูกชายด้วยสายตาเอ็นดู"สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ หนูชื่อหลินเสี่ยวเหยาค่ะ" หลินเสี่ยวเหยาโค้งคำนับอย่างนอบน้อม"หนูเสี่ยวเหยา ไม่ต้องมากพิธีหรอก" หยางกั๋วเฉิงยิ้มให้หลินเสี่ยวเหยาอย่างเป็นมิตร "พ่อได้ยินเรื่องของลูกจากเจ้าสามมาเยอะพอสมควร พอได้มาเห็นตัวจริงแล้วน่ารักกว่าที่คิดไว้มาก""จริงสิ พี่ชายคนโตของพ่อกับลูกสะใภ้ก็มาด้วยนะ"
เสียงไซเรนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณโรงแรมหลงหยวนชุน เซียวจิ้งหนานและเจียงเหม่ยหลิงถูกใส่กุญแจมือถูกลากตัวไปขึ้นรถทหาร หยางเฟิงหัวหน้าหน่วยที่ 13 ปาดเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผาก เขาหันไปสั่งการเจียงเฉินเพื่อนสนิทของเขา"เจียงเฉิน นายรีบพาหลินฮวาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!" หยางเฟิงสั่งการด้วยน้ำเสียงเข้มเจียงเฉินพยักหน้ารับคำสั่งอย่างรวดเร็ว เขารับร่างบอบบางของหลินฮวาที่หมดสติไปจากหัวหน้าหน่วยอย่างระมัดระวัง ใบหน้าซีดเผือดของหลินฮวามีรอยไหม้จากน้ำกรดปรากฏให้เห็นเป็นบาดแผลที่น่ากลัว ใบหน้าของเธอเสียหายไปทั้งใบหน้า เจียงเฉินกัดฟันแน่น เขาอุ้มหลินฮวาขึ้นรถ รีบบึ่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันทีเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์และพยาบาลต่างก็กรูเข้ามาช่วยเหลือหลินฮวาอย่างเร่งด่วน พวกเขาเข็นเตียงของหลินฮวาเข้าห้องฉุกเฉินทันที เจียงเฉินมองตามร่างของหญิงสาวที่หายลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน"คุณหมอครับ อาการของเธอจะเป็นยังไงบ้างครับ" เจียงเฉินถามคุณหมอเมื่อเห็นทีมแพทย์ออกจากห้องฉุกเฉินมา"อาการของเธอค่อนข้างสาหัส ของเหลวที่เธอได้รับเข้าไปนั้นเป็นกรดที่มีฤทธิ์รุนแรงมาก ตอนนี้เ
หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดจากหลี่เหว่ยแล้ว หลินเสี่ยวเหยาก็รีบแจ้งหยางเฟิงถึงแผนที่จะไปช่วยลูกชายของหลี่เหว่ยที่บ้านพักตากอากาศชานเมืองจินหลงทันทีหยางเฟิงแสดงสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด "เหยาเหยา เธอแน่ใจนะว่าจะไปเอง? ไม่ให้พี่ไปด้วย"หลินเสี่ยวเหยาส่ายหน้า "ไม่เป็นไรหรอกพี่เฟิง พี่ไปจัดการเรื่องจับกุมเซียวจิ้งหนานเถอะ เรื่องหลี่เหว่ยตงฉันจัดการเองได้" เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น"แต่ว่า..." หยางเฟิงยังคงลังเล"ไม่มีแต่ค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้ พี่ไม่ต้องห่วง" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมส่งยิ้มหวานละมุนให้คู่หมั้นหนุ่มหยางเฟิงถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย "ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเหยาเหยาก็ระวังตัวด้วยนะ มีอะไรโทรมาที่ค่ายทหารติดต่อพี่ได้ตลอด"หลินเสี่ยวเหยาพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "ค่ะ...พี่เฟิง งั้นเดี๋ยวฉันขอยืมรถพี่เฟิงหน่อยนะคะ""เหยาเหยาขับรถเป็นด้วยหรือครับ" หยางเฟิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นหลินเสี่ยวเหยาขับรถมาก่อน"ฉันขับรถเป็นค่ะ" หลินเสี่ยวเหยากล่าวอย่
แสงอาทิตย์สีทองค่อยๆ ลับหายไปหลังแนวขุนเขา ทิ้งไว้เพียงสีส้มจางๆ ระบายขอบฟ้า แต่แสงนั้นไม่อาจบรรเทาความร้อนรุ่มในใจของเจียงเหม่ยหลิงได้เลยแม้แต่น้อย รถยนต์คันใหญ่เคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองจินหลงในยามพลบค่ำ เธอหันไปสั่งคนสนิทเสียงเข้ม"ไปสืบเรื่องหลินฮวาที่ร้านจินหยวนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้"รถยนต์ยังคงแล่นไปตามถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและรถลาก เจียงเหม่ยหลิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ที่คุ้นเคยกลับดูหม่นหมองลงในสายตา"นายหญิงครับ" เสียงของลูกน้องคนสนิทดังขึ้น ทำให้เจียงเหม่ยหลิงละสายตาจากภาพด้านนอก"ว่าอย่างไร" เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงแววเคร่งขรึม"คุณเซียวได้ไถ่ตัวหลินฮวาจากร้านจินหยวนจริงครับ จากการสืบปากคำเจ้าของร้านทำให้ทราบว่าตอนนี้เธอพักอยู่ที่โรงแรมหลงหยวนชุน" ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยรายงานเจียงเหม่ยหลิงกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ความโกรธเกรี้ยวประดุจเปลวไฟลุกโชนขึ้นในอก เธอหวนนึกถึงคำพูดของบรรดาอนุภรรยาของเซียวจิ้งหนานที่คอยพูดจาดูถูกเหยียดหยาม ชอบโอ้อวดเรื่องสามีให้เธอฟัง แม้จะโกรธเพียงใด แต่เจียงเหม่ยหลิงก็รู้ดีว่าเธอต้องอดทน เธอรู้ว
ไม่ถึงสิบนาที ประตูห้องสอบสวนก็เปิดออกอีกครั้ง ร่างระหงของหลินเสี่ยวเหยาปรากฏขึ้น เธอเดินอย่างสง่าผ่าเผยออกมาจากห้อง ทิ้งให้หลี่เหว่ยจมอยู่กับความคิดอันสับสนวุ่นวายเพียงลำพังทันทีที่ก้าวพ้นประตู หลินเสี่ยวเหยาต้องเผชิญหน้ากับบุรุษสองนายที่ยืนรออยู่ หยางเฟิงในชุดทหารที่ดูสง่างามยืนรออยู่เคียงข้างพลตรีเฉินกั๋วชิง ผู้บังคับบัญชาของเขา ดวงตาคมกริบของหยางเฟิงจับจ้องมาที่หลินเสี่ยวเหยาอย่างร้อนรน ความอยากรู้ฉายชัดอยู่ในแววตา"เหยาเหยา เป็นยังไงบ้าง หลี่เหว่ยมันยอมปริปากหรือยัง?" เสียงทุ้มเข้มของพันตรีหนุ่มดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบของทางเดินหลินเสี่ยวเหยาหยุดยืนอยู่หน้าหยางเฟิงและพลตรีเฉินกั๋วชิง เธอสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบ "แน่นอนค่ะว่าหลี่เหว่ยสารภาพ" เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับกำลังพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศหยางเฟิงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ เขาและเหว่ยเจี้ยน ต่างก็เค้นสอบสวนหลี่เหว่ยมาตลอดทั้งอาทิตย์ ใช้ทั้งวิธีข่มขู่และทรมานสารพัด แต่หัวหน้ากลุ่มกบฏก็ยังคงปิดปากเงียบ ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวแต่หลินเสี่ยวเหยาที่เข้าไปในห้องสืบสวน
ท้องฟ้าเหนือเมืองจินหลงยังคงมืดครึ้ม แม้แสงอาทิตย์แรกของวันใหม่จะเริ่มสาดส่อง ทว่าบรรยากาศในเซฟเฮาส์ลับกลับเย็นเยียบราวกับถูกปกคลุมด้วยเงามืดเซียวจิ้งหนานนั่งนิ่ง สายตาคมกริบจับจ้องไปยังลูกน้องที่ยืนตัวสั่นอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าที่ถึงจะมีอายุเยอะแต่ก็ยังคงความหล่อเหลา บัดนี้ใบหน้าเขากลับบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อทุกสิ่งที่เขาได้วางแผนไว้ล้มเหลวไม่เป็นท่า"นายท่านผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ ผมได้รับรายงานว่าค่ายของพวกกบฏที่เราสนับสนุนถูกทหารบุกโจมตีตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วครับ" เสียงของลูกน้องรายงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "อาวุธและคนของเราถูกจับยึดไปทั้งหมด...""ว่ายังไงนะ!" เสียงทุ้มต่ำของเซียวจิ้งหนานดังก้องไปทั่วห้องทำงานเมื่อได้ยินข่าวร้าย "ค่ายของเราถูกพวกทหารรัฐบาลบุกโจมตีงั้นเหรอ?"แก้วเหล้าคริสตัลที่บรรจุของเหลวสีอำพันล้ำค่าหลุดร่วงจากมือหนา กระทบกับพื้นหินอ่อนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ของเหลวสีทองอร่ามไหลนองไปทั่วพรมเปอร์เซียราคาแพง"ครับนายท่าน" ลูกน้องคนสนิทก้มหน้าลงต่ำด้วยความหวาดกลัว "พวกมันบุกเข้ามาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ทำให้คนของเราเสียชีวิ