Share

ตอนที่30 สถานที่หลบภัย

last update Last Updated: 2025-12-14 17:17:06

ซิ่วอิงชะงักไม่คาดคิดว่า เรื่องสำคัญมากแบบนี้ เขาจะมาถามความคิดเห็นของนาง ซิ่วอิงหันไปมองเฉินซีฮัน ซึ่งเขาก็มองนางอยู่ก่อนแล้ว ด้วยสายตาอ่อนโยน

  “พูดไปตามที่เจ้าคิดเถิด” เขายกมือขึ้นลูบหัวนาง อย่างให้กำลังใจ

  “ตามความคิดเห็นของข้า ยามนี้ทุกคนควรซ่อนตัวก่อนเจ้าค่ะ”

  “ซ่อนที่ใด จวนเจ้ารึ?” ชายชราถามขึ้น ทำเอาซิ่วอิงได้ยินถึงกับหลุดหัวเราะออกมา ชายชราก็หัวเราะออกมาบ้าง เขาพูดผิดตรงไหนกัน แล้วจะให้ไปซ่อนที่ใด

  “องครักษ์ผู้นี้ไว้ใจได้เพียงใดเจ้าคะ?” องครักษ์ที่จู่ ๆ ถูกดึงเข้าบทสนทนา เขาทำหน้าเหลอหลาอย่างโง่งม เขาไว้ไจได้หรือไม่ นางถามอะไรเช่นนั้น เขานะตายแทนพวกเขาได้เลยนะ

  “เขาไว้ใจได้แน่นอน เขาเป็นเด็กกำพร้าเสด็จพ่อเลี้ยงเขามา พร้อมกับข้าตั้งแต่เด็ก ๆ” เฉินซีฮันกล่าวอธิบายให้นางรับรู้

  “เจ้ายังไม่ได้ตอบข้าเลย ว่าให้ไปหลบซ่อนที่ใด” ชายชราเอ่ยถามอีกครั้ง

  “ข้าก็ยังไม่เคยลองเลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าขอลองดูก่อนนะเจ้าคะ” ซิ่วอิงหยิบกล่องออกมาจากกระเป๋าผ้าที่นางทำขึ้น 

  “มาอยู่ในนี่ไงเจ้าคะ” ซิ่วอิงยกกล่องไม้ให้ชายชราดู เขาถึงกับพูดไม่ออก นี่นางกำลังล้อเล่นอยู่ใช่หรือไม่? ซิ่วอิงมองทุกคน ที่มองนางอย่างงุนงง นางจึงวางกล่องโบราณลงกับพื้น แล้วเปิดฝากล่องออก ยามนี้ในกล่องว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดอยู่ในนั้น

  “พี่ซีฮันลุกขึ้นเจ้าค่ะ” ซิ่วอิงดึงมือเขาให้ลุกขึ้น ก่อนจะพูดกับกล่องโบราณในใจ “ข้าจะลองส่งเขาเข้าไป” พอนางพูดจบกล่องโบราณจากที่เล็ก ๆ ก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนเท่าขนาดกับโลงศพ

  “พี่ซีฮันก้าวขาลงไปเจ้าค่ะ” เขาทำตามอย่างว่าง่าย พอเขาเข้าไปทั้งตัว ตัวเขากลับหดเล็กลง อยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยม

  “พี่เจียวหมิงลองดูเจ้าค่ะ”

  “ได้” เฉินเจียวหมิงก้าวลงไปอย่างไม่รีรอ

  “พี่จางหย่ง ท่านปู่ ลองดูเจ้าค่ะ พวกเจ้าด้วย ท่านองครักษ์ด้วยเจ้าค่ะ ลงไปให้หมด” ใจของซิ่วอิงเต้นระริกด้วยความตื่นเต้นและดีใจ ที่นางสามารถหาที่หลบภัยให้ทุกคนได้ พอทุกคนเขาไปจนหมด นางก็ตามลงไปบ้าง ก่อนที่นางขอจากกล่องโบราณอีกครั้ง

  “ขอเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีบ้านให้พักอาศัย มีน้ำให้ดื่ม มีครัวให้ทำอาหาร” พอนางกล่าวจบ จากห้องสี่เหลี่ยมก็กลายเป็น พื้นที่ที่เต็มไปด้วยพืชผัก ต้นไม้ แม่น้ำลำธาร มีบ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่ รายล้อมไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ ทุกคนมองอย่างตกตะลึง ไม่อยากเชื่อว่ามันคือความจริง

  “เจ้าต้องเป็นเทพมาเกิดแน่ ๆ” ชายชราเฉินเจ๋อหยวนเอ่ยขึ้นอย่างปลื้มปริ่ม

  “ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงเจ้าค่ะ” นางหัวเราะออกมา

  “ซิ่วอิงแล้วอย่างนี้ ยังจะไปช่วยสตรีเหล่านั้นอยู่หรือไม่?” ลี่อินรีบถามซิ่วอิงอย่างเป็นกังวล 

  “ก็ต้องช่วยแต่ว่า ให้คนอื่นไปแทน พี่ซีฮันให้องครักษ์สามคนนั้นไปกับตงฮวนและหานเกอ ได้หรือไม่เจ้าค่ะ?”

  “ได้สิ”

  “ตงฮวน หานเกอพวกเจ้าเอานี่ไป นี่เป็นยาสลบ หาวิธีทำให้พวกเขาสลบ แล้วปล่อยสตรีเหล่านั้น นำเงินไปด้วย ให้พวกนางไว้ติดตัว”

  “ได้”

  “ท่านปู่เป็นเช่นไร ฐานทัพของข้า” นางหันมาถามชายชรา เขายิ้มตอบมาอย่างพอใจ

  “ถูกใจข้ามาก จนข้าอยากย้ายเข้ามาอยู่ในนี้เสียเลย”

  “ก็ได้นะเจ้าคะ หากว่าท่านปู่พอใจจะอยู่ แต่ว่าพื้นจำกัดและไม่มีใคร ท่านจะเหงาเอาได้เจ้าค่ะ”

  “ได้เหรอ? เขาเอ่ยขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เขาเบื่อความวุ่นวาย อย่างอยู่อย่างสงบ 

  “แต่ว่าตอนนี้ เราต้องออกไปกันก่อนเจ้าค่ะ เราต้องออกไปวางแผนรับมือ ตอนนี้ท่านปู่และทุกคน เป็นเหมือนครอบครัวของพวกข้าแล้ว เพราะฉะนั้นข้าไม่มีทางไม่ช่วยเหลือเจ้าค่ะ”

  “ถ้าเช่นนั้นเราออกไปไปกันเถอะ” เมื่อนางยืนยันเช่นนั้น เขาก็สบายใจ ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งพวกเขามา

  เมื่อพวกเขาออกมากันจนหมด กล่องไม้ก็หดตัวเล็กลงเท่าเดิม คราวนี้ทุกคนมองซิ่วอิงราวกับเทพเซียน นางจะเก่งเกินไปแล้ว โชคดีที่นางเป็นคนจิตใจดี 

  “เรากลับไปกินอาหารกันต่อเถิดเจ้าค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” ซิ่วอิงเอ่ยอย่างอารมณ์ดี คว้ามือเฉินซีฮัน เดินลงไปยังชั้นล่าง เมื่อมาถึงทุกคนก็กินกันอิ่มแล้ว เป็นลู่ไฉ่นำส่วนของพวกเขากลับไปอุ่น แล้วยกมาให้อีกครั้ง

  พวกเขามองอาหารตรงหน้า อย่างเหม่อลอยแม้จะรู้สึกหิว แต่เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น พาลทำให้พวกเขากินอาหารไม่ลง ซิ่วอิงเห็นเช่นนั้น ก็รีบเอ่ยขึ้น

  “ไม่ว่าจะมีปัญหาเข้ามามากมายเพียงใด หากเราเข้มแข็งและไม่หวาดหวั่น ทุกปัญหาก็ไม่อาจทำอะไรเราได้เจ้าค่ะ กินให้อิ่มนอนให้หลับ แล้วเราจะมองเห็นปัญหาว่ามันเล็กนิดเดียว” ซิ่วอิงเอ่ยขึ้นอย่างให้กำลังใจ

  “ใช่แล้วเจ้าค่ะ หากว่าพวกท่านไม่กิน พวกข้าจะมีกำลังใจช่วยเหลือได้อย่างไร เมื่อหลายเดือนก่อน พวกข้าก็เหมือนพวกท่าน แต่โชดดียังมีสหาย อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เป็นกำลังใจให้กัน ข้าจึงผ่านมาได้ และในทุก ๆ วัน ซิ่งอิงสอนข้าให้เข้มแข็ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราก็ยังมีกันและกันเจ้าค่ะ”

 ลี่อินเอ่ยเสริมขึ้นมา ตั้งแต่นางอยู่ใกล้ซิ่วอิง นางก็ได้เรียนรู้และซึมซับ คำสอนและแนวทางการคิด ในการดำรงชีวิตไปทีละนิด จนตอนนี้นางมีความมั่นใจ และไม่หวาดกลัวสิ่งใด เพราะนางเชื่อว่า ทุกช่วงเวลาจะมีสหายยืนอยู่เคียงข้างเสมอ

  “ถึงจะมีเรื่องให้คิดมากมาย แต่พวกท่านไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว พวกข้าพร้อมจะเผชิญปัญหาไปพร้อมกับพวกท่าน เพราะฉะนั้นอาหารเป็นสิ่งสำคัญมากเจ้าค่ะ โยนปัญหาทิ้งไปก่อน พออิ่มแล้วเราค่อยว่าช่วยกันคิด ปัญหาหากมีเพื่อนร่วมทาง ข้าว่ามันก็ไม่เลวร้ายจนเกินไปเจ้าค่ะ” เจียวจูเอ่ยขึ้นมาบ้างเช่นกัน 

  พวกเขาปรายตามอง ดรุณีน้อยแม้จะเยาว์วัย แต่ความคิดความอ่านไม่เด็กเลยสักนิด พวกเขาไม่แปลกใจเลย ที่พวกเขายืนหยัดอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง เพราะพวกเขาเป็นกำลังใจให้กันและกัน แล้วพวกเขาที่เป็นผู้ใหญ่ จะมาทำให้เด็ก ๆ เป็นกังวลได้อย่างไร

  “ลงมือกันเถิด” เฉินเจ๋อหยวนเอ่ยขึ้น ทุกคนขึ้นจึงเริ่มลงมือกินอาหาร กันอย่างเอร็ดอร่อยอีกครั้ง

  “ท่านลุงลู่ไฉ่ให้คนไปส่งอาหาร ที่จวนข้าหรือยังเจ้าคะ?”

  “เรียบร้อยแล้วขอรับ”

  “ขอบคุณเจ้าค่ะ”

  หลังจากกินอาหารกันเสร็จ พวกเขาก็กลับขึ้นมาที่ห้องทำงานกันอีกครั้ง เพื่อพูดคุยวางแผนว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ตงฮวนจึงเอ่ยถามซิ่วอิงขึ้นมา

  “ซิ่วอิงเหตุใดถึงไม่จัดการพวกเขาที่นี่เลย?”

  “ที่จริงก็ทำได้ แต่เราไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร จับสตรีเหล่านี้ไปให้ใคร หากเปิดศึกที่นี่ คนอยู่เบื้องหลังต้องเพ่งเล็งมาที่เรา ข้ายังไม่อยากเปิดศึกเร็วเกินไป เพราะเรายังไม่พร้อม พวกเรายังแกร่งไม่พอ นำ้น้อยย่อมแพ้ไฟ” ตงฮวนเป็นเด็กฉลาด พอนางอธิบายก็เข้าใจได้ในทันที นางพูดถูกต้องทุกอย่าง 

  “แล้วเช่นนี้พี่ซีฮันยังต้องไปเมืองหลวงหรือไม่ขอรับ” ตงฮวนหันไปถามเฉินซีฮัน เพราะสถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว

  “คงไม่ต้องไปแล้ว” เขาตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะเป็นห่วงฮ่องเต้ผู้เป็นบิดา และทุกคนที่กำลังหลบหนี ไม่รู้ว่าจะรอดพ้น สายตาคนของเฉินอ๋องไปได้หรือไม่ ซิ่วอิงดึงมือเขามาบีบเบา ๆ

  “ทุกคนต้องปลอดภัยเจ้าค่ะ” เขามองนางอย่างอ่อนโยน ซิ่วอิงจ้องมองเขานิ่ง ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยขึ้นมา

  “ท่านมีทหารอยู่ในมือกี่คนเจ้าคะ? เอ่อข้าหมายถึงคนที่จงรักภักดีต่อตระกูลเฉิน เราต้องเตรียมคนของเราเอาไว้ ยังไม่ต้องเผชิญหน้ากันตอนนี้ แต่เราต้องเตรียมฝึกคนของเราเอาไว้ ข้าเชื่อว่าคนที่มีจิตใจไม่บริสุทธิ์ ที่หวังเพียงอำนาจในการครอบครองบัลลังก์ ราษฎรต้องเดือดร้อนและทุกข์ยากอย่างมากแน่ และคนที่สนับสนุนเขาให้ยึดบัลลังก์ก็คงมีนิสัยไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมคนของเราให้พร้อมและแข็งแกร่ง รอวันที่จะทวงบัลลังก์คืนเจ้าค่ะ พวกข้าทั้งห้าคนก็ไม่ต่างจากพวกท่าน เพียงรอเวลาที่เหมาะสมที่จะเอาคืนเช่นกันเจ้าค่ะ”

  เฉินเจ๋อหยวนฟังที่นางพูดกับเฉินซีฮัน ก็ครุ่นคิดและไตร่ตรอง นางพูดได้มีเหตุผล และเขามั่นใจว่า สิ่งที่นางพูดออกมานั้น ล้วนมาจากใจที่บริสุทธิ์ของนาง และเพื่อปกป้องคนบริสุทธิ์ พวกเขาและเเคว้นเป่ยเซี่ยะโชคดี ที่อย่างน้อยสวรรค์ ก็ยังได้ส่งพวกเขาทั้งห้าคน ให้มาปกป้องผู้คนจากภัยร้ายจากเหล่าคนชั่ว ต่อจากนี้ไปไม่รู้ว่า ความเป็นอยู่ของราษฎรจะเป็นเช่นไร พวกเขาต้องเชื่อฟังนาง

  “ทหารที่จงรักภักดี ยามนี้แตกกระจายกันออกไป เพื่อหนีเอาตัวรอดขอรับ เพราะทหารของแม่ทัพสวี่มีมากกว่าหลายเท่า ฝ่าบาทจึงบอกไม่ให้ปะทะ ให้หลบหนีเอาตัวรอดขอรับ” องครักษ์เปลี่ยนการใช้คำพูด เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้

  “ท่านชื่อว่าอะไรเจ้าคะ?”

  “เจียวหั่วขอรับ”

  “ท่านคอยประสานงาน ติดต่อรวบรวมคน ให้มาอยู่ที่จวนของข้า”

  “ขอรับ”

  “ท่านปู่ ข้าคงต้องเร่งสร้างเรือนพัก และทางที่ดีควรมีห้องใต้ดินไว้หลบภัย ข้าคิดว่าควรทำให้ใหญ่พอที่ทุกคน จะมาอยู่รวมกันได้ แต่ว่าช่วงนี้ท่านปู่และพวกท่าน อย่าเพิ่งออกไปไหนดีกว่าเจ้าค่ะ ทางที่ดีเข้าไปอยู่ในกล่องโบราณ เพื่อความปลอดภัย ส่วนทางนี้เดี๋ยวข้ากับพวกเขา จะจัดการเองเจ้าค่ะ” 

  “ขอบใจเจ้ามากซิ่วอิง พวกเจ้าด้วย” เฉินเจ๋อหยวนกล่าวขึ้น น้ำใจของเด็กน้อยห้าคนนี้ พวกเขาไม่มีทางลืมได้อย่างแน่นอน ราชวงศ์เฉินเป็นหนี้บุญคุณพวกเขาแล้ว หากทุกอย่างคลี่คลาย เขาคิดว่านางสมควรเป็นคนปกครองแคว้นเสียเอง เขาเชื่อว่าหากเป็นเช่นนั้น ราษฎรชาวเป่ยเซี่ยะ ต้องมีความสุขมากอย่างแน่นอน

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนายหญิงน้อย   ตอนที่54 ระดับพลังปราณชั้นเซียน

    กลิ่นเนื้อย่างส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปรอบบริเวณ ซิ่วอิงให้พวกเขาไปนับจำนวนคน รวมทั้งช่างก่อสร้างและช่างตัดต้นไม้ รวมแล้วเกือบสองร้อยชีวิต ทางโรงเตี๊ยมลู่เฉิงและลู่ไฉ่ดูแล นางจึงไม่ได้กังวลมากนัก “ซิ่วอิงเจ้าดูข้าลองเปลี่ยนใบหน้า ท่านพ่อท่านแม่ เป็นเช่นไรฝีมือข้า” ลี่อินพาอดีตฮ่องเต้ อดีตฮองเฮาและพระสนม อีกทั้งข้ารับใช้คนสนิท ออกมาจากมิติ นางทำการเปลี่ยนใบหน้า ให้พวกเขาทั้งหมด ซิ่วอิงยกยิ้มอย่างพอใจ “คนอื่น ๆ ก็เดี๋ยวค่อยให้พี่จือหยวนและพี่จือไฉ ยกอาหารเอาไปให้ก็แล้ว ออกมากันหมดผู้คนอาจจะสงสัยเอาได้” “เข้าใจแล้ว” ลี่อินตอบรับ ก่อนจะพาพวกเขาไปนั่ง แล้วหาไปยกน้ำชามาให้ “หลานสะใภ้คนงาม เจ้ากำลังทำอะไรหรือ?” ซิ่วอิงหันไปมองตามเสียงก็เห็นท่านปู่เดินยิ้มร่าเข้ามา อย่างอารมณ์ดี “อันนี้เรียกว่าขนมเค้กเจ้าค่ะ” “สีสันงดงามน่ากินจริง ๆ” ชายชรามองเค้กอย่างพอใจ “วันนี้ข้าทำหลายก้อนเลยเจ้าค่ะ ทุกคนจะได้กินกันอย่างทั่วถึงเจ้าค่ะ” “ดี ๆ ข้าไม่ได้กินอาหาร ฝีมือเจ้าทำมาหลายวัน ข้ารู้สึกว่าข้าผอมลงไปเยอะเลย” ทุกคนได้ยินเขาพูดก็หัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดูวันนี้อาหารที่นางทำ ถึงแม้จะมีคนเยอะ แต่คนช่ว

  • ทะลุมิติมาเป็นนายหญิงน้อย   ตอนที่53 ทำอาหารฉลองอายุครบ15ปี

    ซิ่วอิง ลี่อินและเจียวจู กลับมาที่จวนอีกครั้ง แล้วตรงไปยังโรงครัวเพื่อทำอาหาร อยู่ในมิติแปลกมากเลย ร่างกายเหมือนอิ่มทิพย์ ไม่รู้สึกหิวอะไรเลย อาจเพราะเป็นมิติเทพ ร่างกายจึงไม่ต้องการอาหาร แต่พอกลับออกมาเช่นนี้ นางก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที“ซิ่วอิงข้ารู้สึกหิวมากเลย”“ข้าก็เหมือนกัน”“งั้นวันนี้พวกเราจัดเต็มไปเลย ฉลองวันเกิดอายุครบ15ปี และฉลองที่พวกเราสำเร็จพลังปราณ ขั้นสูงสุด เพราะฉะนั้นข้าจะทำเนื้อย่าง และจะทำเค้กด้วย” ซิ่วอิงเอ่ยขึ้นอย่างร่าเริง พอพูดถึงเนื้อย่างตงฮวนและหานเกอก็รีบเข้ามาร่วมวง “สตรีคนงามข้าขอหมูสามชั้นได้หรือไม่?” ตงฮวนรีบหยอดคำหวานทันที“สตรีผู้งามล้ำเหนือผู้ใดในใต้หล้า ข้าขอกุ้งตัวโต ๆ และเนื้อย่างแบบไม่สุกมาก”“เชอะ! พวกเจ้าเป็นบุรุษที่อยู่เป็นจริง ๆ” เจียวจูส่ายหน้าอย่างรู้เท่าทันพวกเขา“ข้าไม่ได้บอกสตรีไร้ยางอายเช่นเจ้า ข้าบอกซิ่วอิงผู้เลอโลมต่างหากเล่า?” ตงฮวนตอบกลับไปอย่างยียวนกวนประสาท“นี่เจ้าเต่าโบราณล้านปี!”“หยุด! หยุดเถิดข้าขอร้อง ข้าเหนื่อยจะฟังแล้ว” ซิ่วอิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้าและเริ่มรำคาญ เฉินซีฮัน เฉินเจียวหมิงและเฉินจางหย่ง ก็ต่างพากันหัวเราะออ

  • ทะลุมิติมาเป็นนายหญิงน้อย   ตอนที่52 500ปีกับ5วัน

    พวกเขาเฝ้ามองแสงที่ครอบร่างของพวกเขาทุกวัน เวลาผ่านไปห้าวันแล้ว แต่ว่าพวกเขาก็ยังไม่ออกมา ยามนี้ทุกคนนั่งไม่ติด เพราะรู้สึกเป็นห่วงว่าเหตุใดพวกเขาถึงยังไม่ออกมา พวกเขาจะฝึกพลังนานเพียงใดกันนะ“ท่านปู่ข้าเป็นห่วงพวกเขามากเลยขอรับ” เฉินซีฮันเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นกังวล เมื่อก่อนเขาก็อยู่ได้โดยที่ไม่มีนาง แต่มายามนี้ ชีวิตกระวนกระวาย เหมือนขาดอะไรไป “นั่นสิห้าวันแล้วที่พวกเขาเข้าไปฝึก หากใช้เวลาเป็นเดือนจะทำอย่างไร?” เฉินเจียวหมิงเอ่ยอย่างวิตกกังวลไม่ต่างกัน “ข้าว่าไม่นานก็คงออกมาแล้วละ พวกเจ้าดูแสงพวกนั้นสิ ค่อย ๆ จางลงแล้ว” เฉินจางหย่งเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น พร้อมชี้ให้ทุกคนดู เมื่อทุกคนมองไปดู ก็เห็นว่าแสงเริ่มลดลงจริง ๆ พวกเขาต่างมายืนจ้องมองตาไม่กะพริบ ผ่านไปเพียงห้าวัน พวกเขารู้สึกว่ายาวนานเหมือนห้าปี ก่อนที่การรอคอยจะสิ้นสุดลง เมื่อแสงที่เปล่งประกายได้จางหายไป ก่อนพวกเขาทั้งห้าคนจะลุกขึ้น และก้าวเดินมาที่พวกเขานี่มันอะไรกัน! ผ่านไปเพียงห้าวัน พวกเขาเติบโตขึ้นถึงเพียงนี้ น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว ซิ่วอิง ลี่อิน เจียวจู สวยสดงดงามดั่งเซียนน้อยมาจุติยังโลกมนุษย์ ตงฮวนหล่อเหล่าสง่างาม ดั่

  • ทะลุมิติมาเป็นนายหญิงน้อย   ตอนที่51 มิติเทพ

    เด็กทั้งห้าคนกลับถึงจวน ด้วยความสบายใจเป็นอย่างยิ่ง ข้าวสารอาหารแห้ง ทางร้านจะมาส่งทีหลัง เพราะเถ้าแก่เจ้าของร้านยุ่งจนหัวหมุน พวกเขาทั้งห้าคนเห็นทุกคนเริ่ม ตุนเสบียงและอาหารเช่นนี้ ก็รู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยพวกเขา ก็ซื้อได้ในราคาปกติ หากรอไปซื้อในช่วงฤดูหนาว พ่อค้าคงขึ้นราคาเป็นแน่ “ป้าหวังที่จวนเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ” “ทุกอย่างเรียบร้อยดีเจ้าค่ะ” ซิ่วอิงยกยิ้มอย่างพอใจ “ช่วงนี้ข้าฝากท่านป้าและลุงฮุ่ยช่วยดูแลจวนด้วยเจ้าค่ะ พี่อู่ถง พี่อู่จิ้ง พี่อู่หย่ง ต่อไปท่านทั้งสามคนช่วยดูแลเรื่องทั่วไปในจวน หากต้องการซื้ออะไรเพิ่ม หากจำเป็นก็ซื้อได้เลยเจ้าค่ะ ข้าจะฝากเงินไว้กับป้าหวัง พี่ซูผิงว่าง ๆ ก็ช่วยสอนเด็กๆ หัดคัดอักษรทีเจ้าค่ะ กระดาษและหมึก มีพร้อมไม่ต้องกังวล ช่วงนี้พวกข้ามีเรื่องให้ทำมากมาย หากวันไหนข้าไม่ได้ทำอาหาร ป้าหวังพาทุกคนทำเลยนะเจ้าคะ ให้ทุกคนได้กินอย่าปล่อยให้หิว เพื่อรอพวกข้าเจ้าค่ะ” “ขอรับ/เจ้าค่ะ ซิ่วอิงสั่งงานทุกคน เพราะตอนนี้นางและสหายมีเรื่องให้ทำมากมาย จึงไม่สามารถทำได้เหมือนแต่ก่อน “ท่านลุงช่วงนี้ยังไม่เป็ดให้ย่าง ท่านสามคนไปขนฟืนที่ช่างตัดต้นไม้มาไว้ที่จวนเจ้า

  • ทะลุมิติมาเป็นนายหญิงน้อย   ตอนที่50 แจ้งทุกคนให้รู้

    ไม่นานข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองเหยียนฟางว่า หมู่บ้านเหยียนฟางมีผีร้าย ข่าวลือเรื่องนี้ทำเอาผู้คนขนลุกขนชันด้วยความหวาดกลัว เพราะไม่ใช่เพียงทหารคนเดียวที่พบ แต่เป็นทหารหลายสิบคน รวมทั้งท่านเจ้าเมืองและนายอำเภอ ซิ่วอิงและสหาย ที่ออกมาสั่งของที่ตลาด พอได้ยินข่าวนี้ ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา ด้วยความสะใจ สมน้ำหน้า! “ฮ่า ๆ ข้าละสะใจจริง ๆ” หานเกอเอ่ยขึ้น “ใช่สมน้ำหน้า ไปรบกวนวิญญาณคนตาย ก็ต้องเจอดีแบบนี้” เจียวจูเสริมขึ้น “ซิ่วอิงวิญญาณพวกเขา ยังไม่ไปเกิดใหม่อีกเหรอ?” ลี่อินเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ข้าคิดว่าพวกเขา คงยังเป็นห่วงสมบัติอยู่ เลยยังไม่จากไปไหน” “ซิ่วอิงข้าคิดแผนออกมาได้แล้ว” ตงฮวนเอ่ยขึ้นด้วย ท่าทางเจ้าเล่ห์ “แผนอะไรรึ?” ซิ่วอิงหันมาถามอย่างสนใจ “ก็แผนไปสำรวจพื้นที่แถบนั้นนะสิ” “แต่ว่าตงฮวนเจ้าไม่กลัวผีรึ?” เจียวจูถามขึ้น “จะกลัวทำไมวิญญาณเหล่านั้น เป็นคนในครอบครัวของเราที่ถูกฆ่า ข้าดีใจเสียอีกหากว่าจะได้พบพวกเขาอีก” ซิ่วอิงฟังจากที่ตงฮวนพูดก็ครุ่นคิด แผนของเขาดีมากเลยทีเดียว ตงฮวนเป็นเด็กฉลาด เขาสามารถฟังและวิเคราะห์ ได้อย่างดีเยี่ยม“แล้วจะไปสำรวจยังไง ไม่ใช่ว่าพวกเ

  • ทะลุมิติมาเป็นนายหญิงน้อย   ตอนที่49 ผีหลอก

    เช้าวันนี้มีประกาศจากทางการว่า มีแจ้งเบาะแสว่าพบเจออดีตฮ่องเต้ หลบหนีอยู่ที่หมู่บ้านไฉ่หลิน ทางการจึงจำเป็นต้อง ส่งคนไปตรวจสอบ อู่ถงรีบเข้ามารายงานอีกเช่นเคย เพราะเขามีหน้าไปจ่ายของที่ตลาด จึงพบเห็นทางการออกมาปิดประกาศข่าวสาร ให้ผู้คนได้รับรู้ “นายหญิงน้อย ดูเหมือนทางการจะออกมาติดประกาศแจ้งข่าวขอรับ” “แจ้งว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ?” “แจ้งว่าพบเจอ อดีตฮ่องเต้หลบหนีไปอยู่แถว ๆ หมู่บ้านไฉ่หลินขอรับ” ซิ่วอิงจากที่กำลังผัดผัก ก็ต้องหยุดชะงักลงทันที ทางการคงอ้างเหตุผลนี้ เพื่อเข้าไปตรวจค้นสมบัติ ที่หมู่บ้านไฉ่หลินเป็นแน่ หากเป็นเช่นนี้ ก็หมายความว่า ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ยังไม่รู้เรื่องนี้ และดูเหมือนท่านเจ้าเมือง จะทำการปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ “แล้วยังมีข่าวอย่างอื่นอีกหรือไม่เจ้าคะ?” “ไม่มีแล้วขอรับ” เขาตอบเสร็จก็เดินไปยกของลงจากรถวัวเทียมเกวียน ซิ่วอิงจึงหันมาหาสหาย ที่ช่วยงานกันอยู่ในครัว “ท่านเจ้าเมืองคงเริ่มให้ทหารไปสำรวจพื้นที่แล้ว ข้าลืมบอกพวกเจ้าไป ก่อนหน้านี้ข้าได้ฝันเห็น วิญญาณของทุกคนที่จากไป บิดาของข้ายังบอกอีกว่า พื้นที่แถบนั้นมีสมบัติซ่อนอยู่” “จริงเหรอซิ่วอิง” หานเกอถามขึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status