공유

ภรรยาอยากออกนอกจวน (2)

last update 최신 업데이트: 2025-04-07 17:35:20

“ท่านเหวินหยางต้องการไปเที่ยวที่ใดเจ้าคะ ให้คนคุมม้าไปส่งท่านก่อนดีหรือไม่ ธุระของข้ามิรีบร้อนอันใด”

ซูเมิ่งไหวตัวทันแล้ว ตอนแรกนางมิอยากคิดเข้าข้างตนเองว่าพ่อสามีตัวดีคนนี้ของนางกำลังตามติดนาง มิใช่เรื่องบังเอิญตั้งแต่เขามักไปนั่งอ่านหนังสือที่เดียวกับนางทุกที่แล้ว

หยางเหวินกำลังจับตามองดูนาง

เขาต้องคิดว่านางเป็นสายลับจากตระกูลบ้านเกิดเป็นแน่

ฉะนั้นหนนี้นางจึงถามให้เขาตอบก่อนจะได้มิต้องมาโมเมว่าจะไปที่เดียวกับนางอีก

“ข้าก็มิรีบ ไปส่งเจ้าทำธุระก่อนเถิด สถานที่ของข้าอยู่ไกล เกรงใจคนคุมบ้างจะให้เขาเทียวไปเทียวมาก็ใช่เรื่อง”

“อะ เอ่อ แต่ว่า....”

คำอ้างของนางติดไว้ในลำคอเมื่อเห็นสายตาเย็นชาของอีกฝ่ายเหลือบมองมา

เกรงว่าพูดไปจะมิต่างจากคุยกับกำแพงไร้ชีวิตน่ะสิ

ดังนั้นซูเมิ่งจึงเปิดม่านออกไปด้านหน้าเพื่อบอกจุดหมายปลายทางของตนเองอย่างยอมจำนน

“ไปหอรวมการค้าลู่เหลียน”

ใช้เวลาไม่นานนางก็เดินนำบุรุษสองคน หนึ่งเจ้านายหนึ่งลูกน้องที่ล้วนเป็นชาติชาติทหารด้วยกันทั้งสองคนเวลาเดินเข้ามาในหอการค้าเช่นนี้จึงดูโดดเด่นมิน้อย

ใบหน้าหล่อเหลาแบบดุดัน เรือนกายสูงใหญ่แข็งแกร่ง เดินอกผายไหล่ผึงดูองอาจและมากอำนาจ ความเย็นชาของชายหนุ่มทำให้บรรยากาศรอบกายเต็มไปด้วยแรงกดดันไม่น่าเข้าใกล้ เดินเข้ามาในสถานที่คนพลุกพล่านเช่นนี้ยิ่งทำให้คนที่อยู่ใกล้เผลอถอยหลังหรือไม่ก็แหวกข้างให้ชายหนุ่มได้เดินอย่างสะดวก

เกินไปหรือไม่บุรุษผู้นี้ เขาทำราวกับที่นี่เป็นกองทัพของเขามิใช่สถานที่ค้าขายรื่นเริง

“ท่านเดินให้มันดีกว่านี้หน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ”

“การเดินของข้ามันทำไมรึ”

“.....” จะบอกว่าว่าลดความกร่างของตนเองลงเกรงว่านางจะโดนหลังมือปลิวไปติดกำแพงเสียก่อน “ลดความโดดเด่นลงหน่อยก็ดีนะเจ้าคะ ดูพวกเขาสิ....”

นางชี้ไปที่ชาวบ้านที่มาใช้บริการโดยรอบที่กำลังเหลือบมองมาทางพวกนางทีหันกลับไปกระซิบกระซาบกระดี๊กระด๊ากันเองที

“หึ ข้ามิสนใจพวกนางหรอก เจ้าอย่าได้ดื่มน้ำส้มเปรี้ยวให้มากนักเลย ข้าหาใช่บุรุษมากรัก” มุมปากของบุรุษเจ้าแห่งสงครามผู้เย็นชายกขึ้นอย่างพึงพอใจ แม้ว่ามันจะช่วยส่งเสริมให้ใบหน้าของหยางเหวินงดงามขึ้นยิ่งกว่าเดิมทว่าคนโดนเข้าใจผิดอย่างซูเมิ่งรู้สึกกลืนไม่เข้าคายมิออก วิญญาณหลุดลอยออกจากร่างไปชั่วครู่

เหมือนเขาคิดว่านางหึงหวงเขาอย่างนั้นแหละ

“มิใช่ ท่านเข้าใจข้าผิด”

“ฮูหยินขอรับ นายท่านเดินนำไปไกลแล้วขอรับ”

เป็นลูกน้องคนสนิทของหยางเหวินที่ช่วยเรียกสติของนางจึงทำให้สองขาสั้นก้าวถี่รีบตามไปแก้ความให้กระจ่างเสียก่อน

“อ้าว แม่นางซูเมิ่ง วันนี้มิได้มาผู้เดียวเสียด้วย เชิญนั่ง ๆ ก่อนขอรับ”

เดินเข้ามาในร้านรักสุขภาพหลันฮวาลูกน้องรับแขกของร้านผู้ทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าตั้งแต่หน้าประตูร้านก็เดินเข้ามาหานาง โชคดีที่ไหวพริบของอีกฝ่ายดียิ่งนักสมกับที่ซูเมิ่งไว้ใจ พอชายหนุ่มเหลือบสายตามองไปยังเบื้องหลังเห็นบุรุษใบหน้าเย็นชามิสนใจใครผู้โด่งดังไม่มีใครไม่รู้จักท่านแม่ทัพหยางเหวินจึงเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อนางทันที

ลูกน้องในร้านนางล้วนเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเถ้าแก่ร้านด้วยกันทุกคนและรับรู้ว่านางยังไม่พร้อมเปิดเผยตนเองสู่สาธารณะชนภายนอก พอเห็นนางเดินเข้ามาพร้อมคนอื่นด้วยท่าทีเกร็งแข็งทื่อมิเหมือนทุกทีเช่นนี้จึงพากันไหลตามน้ำ ไม่กล้าทักทายนางกันเลยสักคน

ซูเมิ่งจึงฉีกยิ้มห่างเหินตอบกลับไป

สงสัยต้องให้เบี้ยเพิ่มเสียแล้วเจ้าลูกน้องพวกนี้

ซูเมิ่งนึกอารมณ์ดีอยู่ในใจ นางรู้สึกดีมิหยอกที่ฝึกลูกน้องตนเองมาดีเช่นนี้

“มาซื้อสินค้าใดรึ มิรีบไปเดินดูหรือ ข้าจะนั่งรอที่ตรงนี้ก็แล้วกัน”

“เจ้าค่ะ”

อย่างน้อยซูเมิ่งก็สามารถเข้ามาดูร้านได้ และนางวางแผนไว้ว่าจะพูดคุยกับหลิ่งซานหลงจู๊ของนางสักหน่อยเผื่อร้านเกิดปัญหาใดขึ้น

โชคดีหน่อยอาจได้นำบัญชีของร้านกลับไปตรวจดูที่บ้านด้วยเลย

“ท่านหลิ่งซานเล่า ข้ามีเรื่องสินค้าที่เคยคุยค้างอยากคุยกับเขา”

“ได้ขอรับ เดี๋ยวข้าน้อยจะไปตามท่านหลงจู๊มาให้เชิญแม่นางรอในห้องรับรองทางนี้”

“ขอบใจเจ้าค่ะ”

ฟู่ว ในที่สุดซูเมิ่งก็สามารถหลบสายตาเหยี่ยวของสามีจอมจับผิดของนางได้สักที

ไม่นานคนที่นางต้องการสนทนาด้วยก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง

“เถ้าแก่เนี๊ย ข้าก็เป็นกังวลเกรงว่าท่านจะเป็นอันใดไปเสียแล้ว หายหน้าหายตาไปหลายวัน”

“เหอะ ทำเป็นห่วงไยข้าหลิ่งซาน ข้ารู้หรอกว่าเจ้าดีใจมากกว่าที่สุดท้ายเจ้าจะได้ฮุบกิจการของข้าไป เหอะๆ”

“ว้า โดนรู้ทันเสียแล้ว”

เป็นเรื่องปกติที่นางและลูกน้องภายในร้านหยอกเย้ากันราวกับมิใช่เจ้านายและลูกน้อง เพราะคนเก่าคนแก่หลายคนในร้านแห่งนี้นางล้วนเห็นพวกเขาเป็นสหายและพี่น้องผู้หนึ่งของนาง อดทนและสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตั้งแต่ร้านนางยังมิเป็นที่รู้จัก ค่าจ้างของแต่ละคนน้อยนิดยิ่งกว่าไปเป็นกรรมกรแบกหามข้าวสารข้างนอกด้วยกระมัง

“เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ข้าจะมาแจ้งว่าช่วงนี้ข้าอาจมิค่อยเข้ามาดูงานที่ร้าน หรือหากมาก็อาจมาในรูปแบบของลูกค้าขาประจำผู้หนึ่งอย่างเช่นวันนี้”

“เป็นเพราะเขาหรือ ท่านผู้นั้นคือสามีผู้หายสาบสูญของท่านมิใช่หรือเถ้าแก่เนี้ย”

สามีผู้หายสาบสูญ....ช่างเป็นคำเรียกของลูกน้องในร้านนางที่ดูตลกยิ่งนัก

ทว่าหากเป็นเมื่อสามปีท่านผู้นั้นก็อาจเป็นคำเรียกที่ดูสมเหตุสมผลยิ่งนัก

แต่ในเวลานี้ ซูเมิ่งแอบตั้งฉายาใหม่ให้หยางเหวินไว้ในใจ....สามีผู้คุมขังนักโทษผู้เคร่งครัด นักโทษอย่างนางแทบมิสามารถกระดิกตัวไปที่ไหนได้เลยด้วยซ้ำ

เฮ้อ

“ใช่ เอาไว้ข้าจะคิดหาวิธีติดต่อกับพวกเจ้าใหม่ ช่วงนี้ข้ามิสามารถแอบออกมาจากจวนได้อย่างง่ายดายเช่นเดิมแล้ว”

“เพราะเหตุอันใดจึงเป็นเช่นนั้น ข้ายังจำหัวข้อข่าวอันแสนโด่งดังเมื่อสามปีที่แล้วได้อยู่เลย สามีทิ้งภรรยาตั้งแต่คืนเข้าหอไปทำสงคราม ไฉนครานี้เขาจึงหวงตัวภรรยาผู้ถูกทอดทิ้งมิให้ออกจากจวนได้เล่า แถมยังตามติดท่านมาถึงที่นี่....มิแน่ว่าหัวข้อข่าวพรุ่งนี้คงเป็นเรื่องท่านแม่ทัพตามมาเฝ้าภรรยาตนเองกระมัง ฮ่าฮ่า”

“ตลกมากหรือไม่หลิ่งซาน....หวงหรือมิไว้ใจในตัวข้ากันแน่ ที่ผ่านมาข้าหาได้ติดต่อกับตระกูลเดิมของตนเองอย่างเด็ดขาดพวกเขายังมิไว้วางใจข้าสักที เฮ้อ ช่างเถิดข้ามิคิดสนใจพวกเขาแล้ว สนใจแต่ตนเองดีที่สุด มิปวดหัว มีแต่หนทางสู่ความร่ำรวย”

พอคิดเรื่องธุรกิจที่กำลังร่ำรวยของตนเองซูเมิ่งรู้สึกมีความสุขและมีความหวังยิ่งนักจึงทำให้สีหน้าของนางดูสดชื่นแจ่มใสเจิดจ้ามิต่างจากดวงอาทิตย์เวลากลางวัน

และเป็นเวลาเดียวกับที่เสียงเลื่อนบานประตูทางเข้าของห้องรับรองแขกส่วนตัวถูกเปิดขึ้นจากฝีมือของคนด้านนอก เรียกความสนใจของนางและหลิ่งซานที่กำลังสนทนากันโดยทันที

ซูเมิ่งเบิกตาโตยามเห็นสีหน้าถมึงทึงของผู้มาใหม่

ใครให้หยางเหวินเดินเข้ามาที่ห้องนี้กัน

ดีนะที่เมื่อครู่พวกนางมิได้สนทนาการงานสำคัญอันใด

หลังจากซูเมิ่งตั้งสติได้นางจึงผุดลุกตัวขึ้นจากที่นั่ง โบกสะบัดพัดในมืออย่างพยายามให้เป็นธรรมชาติที่สุด

“ท่านหยางเหวินมาได้อย่างไร ข้า ข้าคุยกับท่านหลงจู๊เสร็จพอดีเลยเจ้าค่ะ”

ซูเมิ่งจะรู้ไหมหนออาการร้อนตัวราวกับนางเพิ่งทำเรื่องอันใดลับๆ ล่อภายในห้องปิดเช่นนี้จะยิ่งทำให้ผู้มาใหม่อย่างหยางเหวินรู้สึกมีคนมาจุดเพลิงไฟติดอยู่ในอกตน

เขามิคิดว่าจะเห็นภรรยาของตนเองนั่งคุยในห้องกันสองต่อสองกับบุรุษอื่นที่มิใช่แม้กระทั่งคนในครอบครัวของตนเองเช่นนี้

ใบหน้างอง้ำ ดวงตาที่ดุดันอยู่แล้วเข้มขึ้นอย่างน่ากลัวทำให้ซูเมิ่งที่ไม่รู้เลยว่าสามีในนามผู้นี้ นางคิดว่ามิได้สนใจไยดีตนเองสักเท่าไหร่เวลานี้กำลังเดือดดาลอย่างยิ่ง

ในความคิดของหลิ่นซานที่กำลังถูกจ้องเขม็งมานั้นอยากวิ่งหนีไปให้ไกลสุดหล้าฟ้าเขียว การเข่นฆ่ากันด้วยสายตาเช่นนั้นคงจะมีแต่บุรุษผู้เป็นแม่ทัพผู้นี้เท่านั้นทำได้กระมัง

ชายหนุ่มผู้กำลังโดนเข้าใจผิดอยากถามเจ้านายของตนเองยิ่งนักว่าไหนท่านเคยเอ่ยว่านางและสามีมิได้มีความรักเฉกเช่นสามีภรรยาทั่วไป แล้วไยเวลานี้เขาจึงโดนหมายหัวเช่นนี้เล่า

“นี่หรือธุระของเจ้า”

“เจ้าค่ะ ข้าสั่งสินค้าตามสรรพคุณที่ข้าต้องการไปเสร็จเรียบร้อย เสร็จสิ้นพอดีกับท่านหยางเหวินมาเลยเจ้าค่ะ”

คงจะมีก็แต่ซูเมิ่งที่มิได้รู้ตัวเลยว่านางเพิ่งก่อเรื่องทำให้สามีของนางทุ่มไหน้ำส้มแตกไปหมาดๆ ดวงตาใสแจ๋วราวกับในใจกำลังอารมณ์ดียิ่งจ้องมองรอคำตอบจากสามีตนเอง

เส้นเลือดตรงขมับหยางเหวินเต้นตุบๆ พยายามจะมิคิดมากเพราะคิดว่าจะมีภรรยาสวมหมวกเขียวให้สามีคนใดจะมีท่าทีสบายอกสบายใจเช่นนี้ได้อีก

“เช่นนั้นกลับบ้านกันสักที....อ้อ” ก่อนที่มือหนาจะอ้อมหลังเอวเพื่อโอบเอวคอดกิ่วสตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของตนให้เข้าแนบชิดกับตนเองนั้น ดวงตาคู่ดำสนิทมิลืมตวัดมายังบุรุษผู้เป็นหลงจู๊ของร้านเล็กๆ แห่งนี้ “ข้าหวังว่าท่านหลงจู๊จะมีทำให้สินค้าที่ภรรยาของข้าสั่งไปผิดหวังนะ”

“ขะ ขอรับ”

ปัง!

ในที่สุดสองสามีภรรยาที่มิเป็นไปตามข่าวลือก็เดินออกจากห้องไปเสียที

สองขาของคนโดนหมายหัวโดยบุรุษที่ได้ชื่อว่าฆ่าฟันคนได้อย่างง่ายอ่อนแรงลงทรุดตัวนั่งคุกเข่ากับพื้นทันทีที่บานประตูห้องปิดลง

“เถ้าแก่เนี้ยสร้างเรื่องให้ข้าน้อยตาดำๆ แล้ว....ต้องมีสิ่งใดผิดพลาดเป็นแน่”

เขามิเชื่อว่าบุรุษเมื่อสักครู่จะคือคนเดียวกับสามีผู้ทอดทิ้งภรรยาไปเมื่อสามปีก่อน

............................................................................

ฝากคอมเมนต์และกดใจให้กันด้วยน้า

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่ถูกทิ้ง   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายและวันนั้นทั้งวันหยางเหวินโดนพ่อตาของตนเองลากไปไหนมาไหนด้วย เรียกได้ว่าตัวติดกันจนซูเมิ่งนึกสงสัยว่าหรือสามีของนางจะเป็นลูกชายที่หายสาบสูญไปอีกคนหนึ่งของบิดาตนเองซูเมิ่งทั้งวันไม่ไปนั่งพูดคุยกับญาติพี่น้องร่วมสายเลือดในจวนก็เข้าไปนั่งเล่นกับน้องชายสุดแสนน่ารักที่มีอายุเพียงสิบเอ็ดหนาวเท่านั้นจวบจนตอนค่ำยามซวี [1] นั่นแหละนางจึงมีโอกาสขอตัวกลับเรือนของตนเองที่ครอบครัวนางเตรียมเอาไว้ให้เรือนหลังนี้ใหญ่ไม่แพ้หลังไหนๆ ในจวน การตกแต่งแม้จะเรียบง่ายแต่ของใช้ทุกชิ้นล้วนเป็นของใหม่ยังมิเคยได้ใช้ เป็นวัสถดุเนื้อดีทั้งนั้นเรือนส่วนตัวสภาพดีขนาดนี้นี่เป็นครั้งแรกของนางเลยกระมังที่ได้รับการดูแลเช่นนี้“ยิ้มขนาดนั้น เจ้าชอบเรือนหลังนี้มากเลยหรือ”เสียงของหยางเหวินบุรุษที่วันนี้หายหน้าหายตาไปจากซูเมิ่งทั้งวัน พร้อมกับอ้อมกอดจากคนตัวโตสวมโอบนางจากข้างหลัง“เจ้าค่ะข้าชอบที่นี่ แต่มิใช่แค่เรือนหลังนี้ แต่เป็นทุกคนที่นี่ด้วย พวกเขาต้อนรับข้าอย่างดียิ่ง”“เช่นนั้นหากเรากลับแคว้นไปข้าให้คนสร้างจวนของพวกเราสองคนแยกออกมาดีหรือไม่ ข้าได้รับพระราชทานที่ดินทำเลดีมิหยอก ข้ายกให้เจ้า จะให้สร้างจวนห

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่ถูกทิ้ง   ภรรยากับครอบครัวที่แท้จริง

    บทที่ยี่สิบภรรยากับครอบครัวที่แท้จริงณ แคว้นหูอี๋ฉีจวนตระกูลโจวจวนหลักตั้งอยู่ที่เมืองหลวง ตระกูลโจวเป็นตระกูลแม่ทัพตั้งแต่รุ่นทวดลงมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน หากเปรียบเทียบกับแคว้นเย่ ตระกูลโจวก็เปรียบได้ดั่งตระกูลหยางดีที่เวลานี้สองแคว้นสงบศึกเปลี่ยนมาสมานฉันท์กันหลายปีแล้ว มิเช่นนั้นสองทายาทตระกูลแม่ทัพคงเคยพบเจอกันบ้างในสงครามระหว่างแคว้นแม้ว่ารุ่นลูกอาจไม่เคยฟาดฟันกันแต่สำหรับรุ่นพ่อนั้นไม่แน่ มีความเป็นไปได้สูงว่าประมุขตระกูลหยางกับประมุขตระกูลโจวแห่งสองแคว้นจะเคยปะทะฟาดฟันวัดฝีมือกันมาก่อนเวลานี้ฝ่ายซูเมิ่งรวมฝ่ายของพี่ชายและคนของสามีนางแยกย้ายจากขบวนสินค้าของตระกูลลู่มาระยะหนึ่งแล้วเป็นเพราะไปคนละทาง ตระกูลลู่ต้องการไปเมืองชายแดนเพื่อส่งสินค้า แต่พวกนางต้องการไปเมืองหลวงดังนั้นเวลานี้ซูเมิ่งจึงกำลังนั่งรถม้าคันของโจวเฉิงเค่ออยู่นั่นเองเห็นพี่ชายบอกว่าอีกไม่เกินหนึ่งชั่วยามจะถึงจวนของเราพี่ชายใช้คำว่าของเราทำให้ซูเมิ่งรู้สึกซาบซึ้ง....ในที่สุดนางก็กำลังมีบ้านและครอบครัวเป็นของตนเองสักที“ถึงจวนตระกูลโจวแล้วขอรับคุณชาย”เนื่องจากในห้องโดยสารมีคนนั่งอยู่เพียงสองคนคือนางและพี่ชาย

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่ถูกทิ้ง   ภรรยากับคำสารภาพ

    บทที่สิบเก้าภรรยากับคำสารภาพ“คุณหนูเจ้าคะ ตอนนี้ขบวนของเราโชคดีได้หยุดพักที่สถานที่มิห่างไกลจากน้ำตกมากนัก คุณชายฝากถามว่าคุณหนูอยากชำระร่างกายหรือแช่น้ำหรือไม่เจ้าคะ เวลานี้ไม่มีคนใช้งานและเดี๋ยวให้คนไปกั้นเขตให้คุณหนูเจ้าค่ะ”“น้ำตกหรือ...อืม ก็ดีเหมือนกัน ข้าอยากแช่น้ำเย็นสักหน่อย มิได้อาบน้ำทุกวันดังเช่นปกติ รู้สึกเหนียวตัวยิ่งนัก”“เจ้าค่ะ เช่นนั้นเดี๋ยวบ่าวรีบไปเรียนคุณชายให้จัดกั้นพื้นที่ให้นะเจ้าคะ รอบ่าวสักครู่”“ได้ ขอบใจมากนะ”พอหลิ่นปินไปภายในกระโจมหลังน้อยก็เงียบลงทันตา ซูเมิ่งหันหลังกับไปเตรียมชุดและของใช้อาบน้ำที่จำเป็นด้วยตนเองที่ด้านหลัง เวลาผ่านไปไม่ถึงถ้วยน้ำชานางได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาในกระโจมนาง“กลับมาเร็วยิ่ง คุณชายว่าอย่างไรบะ บ้าง....อ้าว ท่านพี่! อุ้บ!”คนที่เดินเข้ามากลับไม่ใช่สาวใช้อย่างที่ซูเมิ่งคิด แต่เป็น หยางเหวิน บุรุษร่างสูงใหญ่ที่พอก้าวเท้าเข้ามาในกระโจมก็ดูคับแคบขึ้นมาทันตา ชายหนุ่มคงรู้ว่าซูเมิ่งไม่อยากเจอหน้าอีกฝ่ายจึงก้าวเข้ามาประชิดตัวนางและใช้มือหนาปิดปากมิให้ส่งเสียงดังโวยวาย“อื้อ อ่านเอ้าอาไอ้อ่างไอ อ่อยอ้า!”“หากข้าปล่อยแล้วเจ้าจะเร

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่ถูกทิ้ง   ภรรยามิยอมอีกต่อไปแล้ว (2)

    “นั่นเจ้าใช่หรือไม่ซูเมิ่ง เป็นเจ้า!” เสียงของหยางเหวิน บุรุษที่นางเคยรู้สึกปลอดภัยยามได้ยินเสียง ทว่าบัดนี้มิใช่อีกต่อไปแล้ว....“ข้าเอง พวกท่านกำลังทำสิ่งใด อย่าทำร้ายพวกเขานะ”ซูเมิ่งโดนจับได้นางจึงวิ่งออกไปขวางมิให้คนของหวางเหวินทำร้ายหรือมาต่อสู้กับคนของลู่เจ๋อทีแรกบุรุษทั้งสามเมื่อเห็นใบหน้าของสตรีที่ตามหามาหลายวันก็พากันดีใจ รอยยิ้มปรากฏบนหน้าไปตามๆ กัน ทว่าพอเห็นนางวิ่งเข้ามาไม่เกรงกลัวอันตรายหรือลูกหลงท่ามกลางการต่อสู้ก็ตกใจ หัวใจหล่นไปที่ตาตุ่มกันหมด“พวกเจ้าหยุดลงมือ!”คนของฝ่ายหยางเหวินหยุดต้อนผู้คุ้มของขบวนสินค้าทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งของเจ้านาย ซึ่งตอนแรกพวกเขาก็เพียงได้รับคำสั่งให้ต้อนพวกนี้ให้จนมุมยอมศิโรราบเท่านั้นก็ตามซูเมิ่งบัดนี้ยืนอยู่กลางทางระหว่างขบวนสินค้าตระกูลลู่กับฝ่ายของพี่ชายและสามีนาง“น้องน้อยเจ้าอย่าเพิ่งวิ่งไปทั่วสิ มันอันตราย” เสียงของโจวเฉิงเค่อเต็มไปด้วยความวิตกกังวล นางมองเห็นบนใบหน้าของชายหนุ่มนั้นมีเหงื่อ แววตาดูตื่นตระหนกเกรงว่านางจะได้รับอันตรายจริงอย่างที่พี่ชายเอ่ย“แม่นางซูทางนั้นอันตรายเข้ามาหลบพักในรถม้าก่อนเถิด”ลู่เจ๋อและผู้คุ้มกันของเข

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่ถูกทิ้ง   ภรรยามิยอมอีกต่อไปแล้ว(1)

    บทที่สิบแปดภรรยามิยอมอีกต่อไปแล้ว“ทำไมเจ้ามิตามนางไปด้วย ปล่อยให้นางซึ่งเป็นสตรีปีนขึ้นรถม้าขบวนพวกพ่อค้าจิตใจเจ้าเล่ห์แสนกลไปได้เยี่ยงไร”“ขะ ข้าน้อยคิดไม่ทัน คุณหนูบอกมิให้ข้าตามไป บอกให้ข้ามาส่งข่าวท่านว่าให้ตามนางได้ที่ขบวนสินค้าตระกูลลู่ขอรับ”“เจ้าเป็นคนที่แคว้นนี้มิใช่รึ รู้จักหรือไม่ตระกูลพ่อค้าลู่”“รู้แล้วอย่างไร ข้าจำเป็นต้องบอกเจ้าด้วยรึ”“เหอะ”“เหอะ”โจวเฉิงเค่อและหยางเหวินทะเลาะกันอีกหนหากมีช่องว่างโอกาสให้แขวะใส่กันเวลานี้ขบวนรถม้าของทั้งโจวเฉิงเค่อและขบวนม้าของหยางเหวินเดินทางออกจากเมืองหลวงมาได้หลายชั่วยามแล้ว เดินทางติดต่อกันยาวนานระยะหนึ่งจนต้องหยุดพักให้ม้าพักกินอาหารกินน้ำก่อนส่วนคนที่เหลือก็มาดูแผนที่วางแผนหาทางตามหาขบวนขนสินค้าตระกูลลู่ตามเบาะแสที่ซูเมิ่งทิ้งไว้ให้“คนม้าของเรายังสืบมิได้ความอีกรึ ป่านนี้ยังมิมีใครมาถึงอีก” หยางเหวินเดินออกมาจากกระโจมอีกฝ่ายหลังจากรำคาญทั้งหน้าและน้ำเสียงจนทนไม่ไหวตัดสินใจเดินกับมาหาเบาะแสจากคนของตนดีกว่าพอยิ่งได้รู้ว่าซูเมิ่งไปกับตระกูลลู่ตระกูลที่เขาเคยให้คนไปสืบประวัติมาเพราะเขาเคยเห็นอีกฝ่ายทักทายเอ่ยสนทนาอย่างสนิทสนสน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่ถูกทิ้ง   ภรรยาห่างไกลออกไป(2)

    “คุณหนูเจ้าคะ มิทราบว่าคุณหนูคิดถึงสิ่งใดอยู่ มีเรื่องใดเป็นกังวลหรือไม่ ระ....หรือบ่าวรับใช้ไม่ดีพอเจ้าคะ”“หะ หา เรียกข้าหรือ”“บ่าวดูแลไม่ดีตรงไหนหรือไม่เจ้าคะ บอกให้บ่าวปรับปรุงแก้ไขได้หมดนะ ตะ แต่อย่าไล่บ่าวออกเลย”“ข้าจะไปไล่เจ้าได้ย่างไร ลุกขึ้นก่อน”ซูเมิ่งตื่นจากภวังค์ของตนเองมาก็เพราะตกใจที่อยู่ดีดีสาวใช้ที่ลู่เจ๋อส่งมาคอยช่วยอำนวยความสะดวกนางลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น บนดวงตากลมโตของนางมีน้ำตาเอ่อคลอราวกับกลัวว่าซูเมิ่งจะลงโทษเสียอย่างนั้น“ข้ามิได้ไม่พอใจเรื่องใด เพียงคิดถึงเรื่องอื่นไปเรื่อยเปื่อยก็เท่านั้น”“คิดถึงครอบครัวที่เมืองหลวงหรือเจ้าคะ”“อืม....” ซูเมิ่งหยุดคิดจากคำเรียกของอีกฝ่าย “มิรู้ว่าข้าสามารถเรียกพวกเขาว่าครอบครัวได้หรือไม่”เพราะคนที่เมื่อสักครู่ซูเมิ่งเผลอคิดถึงคือหยางเหวินน่ะสิ...มิใช่พี่ชายสายเลือดเดียวกันอย่างโจวเฉิงเค่อซูเมิ่งรู้สึกเหมือนนางทิ้งสิ่งสำคัญบางอย่างไป มันทำให้ในหัวใจนางรู้สึกเหมือนโดนคนขโมยเฉือนเนื้อบางส่วนทิ้งไประยะเวลาผ่านมาไม่กี่เดือนกับการอยู่ร่วมกันกับหยางเหวินในฐานะสามีภรรยามันช่างดูยาวนาน มีหลายครั้งที่นางเผลอผูกพันกับชายหนุ่ม

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status