공유

ภรรยาเจอคนเป็นลม

last update 최신 업데이트: 2025-04-04 21:04:47

บทที่สาม

ภรรยาเจอคนเป็นลม

ซูเมิ่งคาดว่าวันนี้น่าจะได้กลับจวนของตนเองเร็วกว่าปกติ เพราะวันนี้ผู้คนดูบางตากว่าทุกที

สงสัยอากาศร้อนอบอ้าวไม่มีลมพัดผ่านสักเท่าไหร่ ร้อนแบบมิใช่เพราะดวงอาทิตย์อย่างเดียว แต่คงเป็นเพราะความชื้นในอากาศเยอะจนเหงื่อบนร่างกายคนไม่ระเหย จึงสร้างความอึดอัดยิ่งนัก

เหมือนอากาศที่มักพบก่อนฝนจะตก

ผู้คนจึงพากันกลับบ้านหากเป็นไปได้กระมัง

ซุเมิ่งเองก็มิอยากเปียกฝนเดี๋ยวเป็นไข้หวัดแล้วจะสร้างความยุ่งยากในอนาคต

ดังนั้นฝีเท้าสองข้างจึงตัดสินใจเบนออกจากเส้นทางหลักของตลาดเลี่ยงไปใช้อีกเส้นทางที่สามารถใช้เดินไปยังจวนตระกูลหยางได้เหมือนกันแต่ใกล้กว่า

หากแต่ใครจะไปคิดว่าการเดินเลี่ยงมาใช้ถนนเส้นที่มิค่อยเป็นที่นิยมสัญจรของชาวบ้านที่นี่จะทำให้นางได้มาเจอกับบุรุษร่างอ้วนตัวใหญ่มองไกลๆ เหมือนบุรุษผู้นั้นนอนไร้สติอยู่บนพื้น ทว่านางเดินเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าบุรุษปริศนาผู้นั้นยังมิได้สลบ

เพียงแต่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นคนเดียว

ซูเมิ่งเดินเข้าไปช่วยเหลือทันทีเมื่อเห็นคนกำลังต้องการความช่วยเหลือในที่เปลี่ยวไร้ผู้คนเช่นนี้

“ท่านตาเจ้าคะ เป็นอันใดมากหรือไม่เจ้าคะ”

“ชะ....ช่วย ด้วย ช่วยข้าด้วย”

“ท่านค่อยๆ หายใจ”

สงสัยจะเป็นลมแดด....

แต่แปลก ไยจึงปล่อยคนแก่อายุมากเช่นนี้มาเดินในที่เปลี่ยวเช่นนี้คนเดียว

ดูจากอาภรณ์ที่อีกฝ่ายสวมใส่ก็ดูมิใช่ชาวบ้านยาจกทั่วไป

ซูเมิ่งกวาดสายตามองรอบตัวเพราะต้องการหาคนช่วยเหลือเพิ่มอีกหนึ่งอัตรา

มิใช่ว่านางรังเกียจชายหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้นดินสกปรกหรอกนะ ทว่าปัญหาติดอยู่ที่.....

ซูเมิ่งคาดการน้ำหนักตัวของอีกฝ่ายด้วยสายตาก่อนจะก้มลงมองขนาดร่างกายของตัวเอง

บุรุษที่กำลังไร้สติทั้งอ้วนท้วนสมบูรณ์ยิ่งนัก ขนาดตัวหรือก็มีขนาดใหญ่กว่านางถึงสองส่วน

ซอยแห่งนี้แม้มิถือว่าห่างไกลจากโรงหมอก็จริง ทว่าซูเมิ่งตัวเล็กเกินไปที่จะแบกชายชราตัวใหญ่ผู้นี้

แต่....

ตัวเล็กแล้วอย่างไรจะให้วิ่งไปตามคนมาเกรงว่าจะไม่ทันการเสียก่อน เกิดวิ่งกลับมาแล้วชายชราผู้นี้หยุดหายใจขึ้นมา ชาตินี้ทั้งชาตินางมิต้องรู้สึกผิดไปตลอดหรอกหรือ

“เฮ้อ ข้าจะพยายามแบกท่านไปยังโรงหมอที่ใกล้ที่สุดนะเจ้าคะตาเฒ่า”

“ชายชราเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะท่านหมอ”

ซูเมิ่งเอ่ยถามขณะเดียวกันก็เหลือบตามองผู้ช่วยของท่านหมอในโรงรักษขนาดเล็กแห่งนี้กำลังจ่อสมุนไพรตัวหนึ่งที่มีกลิ่นแรงไปที่รูจมูกของชายชราอ้วนท้วนที่นางเกือบโดนทับแบนหลายรอบขณะแบกอีกฝ่ายมาที่นี่

“ร่างกายมิใช่คนแข็งแรง ชายชราผู้นี้มีโรคร้ายแทรกซ้อนมากมาย ทว่าอาการในเวลานี้มิเป็นอันใดมาก ที่เป็นลมคงเป็นเพราะนอนตากแดดร้อนเป็นเวลานาน ดูจากที่สะโพกมีรอยช้ำเล็กน้อยคงเป็นเพราะล้ม แต่มิได้ล้มอย่างแรง โชคดียิ่งมิใช่นั้นกระดูกคงหักเป็นแน่”

“โชคดียิ่งที่ข้าเดินผ่านไปแถวนั้น มิรู้ว่าลูกหลานของชายผู้นี้หายไปไหนหมดจึงทิ้งให้คนแก่ไปเดินโดดเดี่ยวคนเดียวเช่นนั้น”

“แม่หนู่เล่าเป็นอันใดบ้างหรือไม่ เหงื่อออกเต็มไปหมดหน้าตาซีดเซียวมิได้รู้สึกวิงเวียนใช่หรือไม่”

“ข้ามิเป็นอันใดหรอกเจ้าค่ะ ข้าเพียงใช้แรงมากไปเสียหน่อย พักสักหน่อยคงหายดี”

ดีที่ช่วงนี้นางออกกำลังกายโดยการเดินสำรวจเมืองหลวงแห่งนี้มาหลายวันไม่เช่นนั้นหากนางประพฤติตัวเหมือนสตรีในเมืองหลวงผู้อื่นมิแคล้วคงเป็นลมตามชายชราที่นางหวังช่วยเหลือไปแล้วกระมัง

“น้ำ” เสียงแหบแห้งดังออกมาจากด้านหลังพวกนางที่กำลังสนทนากันอยู่

เป็นเสียงแผ่วเบาดังออกมาจากปากของคนป่วยนั่นเอง

“นี่น้ำขอรับ ค่อยๆ ดื่มขอรับ” ผู้ช่วยของท่านหมออยู่ใกล้ที่สุดจึงเป็นคนคอยยกน้ำให้คนป่วยดื่ม

พอหายกระหายน้ำดวงตาสีดำสนิทจึงกวาดมองรอบห้องที่ตนเองนอนพักอยู่

ภาพความทรงจำล่าสุดเขากำลังนอนตากแดด จะลุกก็ไร้เรี่ยวแรงแบกน้ำหนักตัวเองให้ลุกขึ้นยืน แถมยังรู้สึกว่าวันนี้ดวงอาทิตย์ส่องแสงจ้ากว่าปกติจนทำให้ดวงตาของตนเองพร่ามัวไปหมด

ดีที่มีแม่หนูคนหนึ่งเดินมาเจอ

ดวงตาอ่อนโยนสีดำสนิทมาหยุดอยู่ที่ร่างสตรีหนึ่งเดียวในห้องแห่งนี้ที่แม้ใบหน้าครึ่งล่างนางถูกปิดด้วยผ้าโปร่งแสงแต่ก็มิสามารถปกปิดความงดงามสมบูรณ์แบบของเครื่องหน้านั้นได้เลยสักนิด

“ขอบน้ำใจแม่หนูที่ช่วยเหลือตาแก่แถมยังอ้วนเช่นข้า....ลำบากเจ้าแล้ว”

“แล้วลูกหลานท่านไปไหนกันหมดหรือเจ้าคะ ไยจึงปล่อยให้ท่านมาอยู่ที่นะ...นั่น”

“ท่านตา!”

สามคนภายในห้องพักผู้ป่วยขนาดเล็กหันไปมองต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียง

บุรุษรูปงามหน้าตาทั้งหล่อและสวยหวานมิแพ้สาวงามใด บนตัวสวมใส่อาภรณ์สีคราม มองแต่เพียงแวบเดียวก็สามารถระบุได้เลยว่าเป็นผ้าไหมเนื้อดีที่หากเป็นคนไม่มีเงินทองเหลือกินเหลือใช้ไม่มีทางซื้อมาใส่อย่างแน่นอน

“หนีออกจากบ้านเช่นนี้ พวกข้าเป็นห่วงยิ่งนัก ไยท่านจึงเป็นคนเช่นนี้กันตาเฒ่า”

มิใช่แค่เพียงหนึ่งคน ที่ด้านหลังของชายหนุ่มมีทั้งสตรีและบุรุษแต่งตัวเนื้อผ้าหรูหราเดินเข้ามาจนห้องคับแคบอยู่แล้วยิ่งดูแน่นเล็กลงขนัดตา

ไม่นานห้องทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงบ่นคนแก่ที่บัดนี้อยู่ในคราบผู้ป่วยดังระงมทั่วห้อง

ซูเมิ่ง ท่านหมอ และผู้ช่วยหันมามองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย

.........................................................................................................................................

ใครน้าาาาาา คุณคนนี้เป็นบุคคลสำคัญจุดเปลี่ยนน้องเลย

ฝากคอมเมนต์และกดใจให้กันด้วยน้า

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่ถูกทิ้ง   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายและวันนั้นทั้งวันหยางเหวินโดนพ่อตาของตนเองลากไปไหนมาไหนด้วย เรียกได้ว่าตัวติดกันจนซูเมิ่งนึกสงสัยว่าหรือสามีของนางจะเป็นลูกชายที่หายสาบสูญไปอีกคนหนึ่งของบิดาตนเองซูเมิ่งทั้งวันไม่ไปนั่งพูดคุยกับญาติพี่น้องร่วมสายเลือดในจวนก็เข้าไปนั่งเล่นกับน้องชายสุดแสนน่ารักที่มีอายุเพียงสิบเอ็ดหนาวเท่านั้นจวบจนตอนค่ำยามซวี [1] นั่นแหละนางจึงมีโอกาสขอตัวกลับเรือนของตนเองที่ครอบครัวนางเตรียมเอาไว้ให้เรือนหลังนี้ใหญ่ไม่แพ้หลังไหนๆ ในจวน การตกแต่งแม้จะเรียบง่ายแต่ของใช้ทุกชิ้นล้วนเป็นของใหม่ยังมิเคยได้ใช้ เป็นวัสถดุเนื้อดีทั้งนั้นเรือนส่วนตัวสภาพดีขนาดนี้นี่เป็นครั้งแรกของนางเลยกระมังที่ได้รับการดูแลเช่นนี้“ยิ้มขนาดนั้น เจ้าชอบเรือนหลังนี้มากเลยหรือ”เสียงของหยางเหวินบุรุษที่วันนี้หายหน้าหายตาไปจากซูเมิ่งทั้งวัน พร้อมกับอ้อมกอดจากคนตัวโตสวมโอบนางจากข้างหลัง“เจ้าค่ะข้าชอบที่นี่ แต่มิใช่แค่เรือนหลังนี้ แต่เป็นทุกคนที่นี่ด้วย พวกเขาต้อนรับข้าอย่างดียิ่ง”“เช่นนั้นหากเรากลับแคว้นไปข้าให้คนสร้างจวนของพวกเราสองคนแยกออกมาดีหรือไม่ ข้าได้รับพระราชทานที่ดินทำเลดีมิหยอก ข้ายกให้เจ้า จะให้สร้างจวนห

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่ถูกทิ้ง   ภรรยากับครอบครัวที่แท้จริง

    บทที่ยี่สิบภรรยากับครอบครัวที่แท้จริงณ แคว้นหูอี๋ฉีจวนตระกูลโจวจวนหลักตั้งอยู่ที่เมืองหลวง ตระกูลโจวเป็นตระกูลแม่ทัพตั้งแต่รุ่นทวดลงมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน หากเปรียบเทียบกับแคว้นเย่ ตระกูลโจวก็เปรียบได้ดั่งตระกูลหยางดีที่เวลานี้สองแคว้นสงบศึกเปลี่ยนมาสมานฉันท์กันหลายปีแล้ว มิเช่นนั้นสองทายาทตระกูลแม่ทัพคงเคยพบเจอกันบ้างในสงครามระหว่างแคว้นแม้ว่ารุ่นลูกอาจไม่เคยฟาดฟันกันแต่สำหรับรุ่นพ่อนั้นไม่แน่ มีความเป็นไปได้สูงว่าประมุขตระกูลหยางกับประมุขตระกูลโจวแห่งสองแคว้นจะเคยปะทะฟาดฟันวัดฝีมือกันมาก่อนเวลานี้ฝ่ายซูเมิ่งรวมฝ่ายของพี่ชายและคนของสามีนางแยกย้ายจากขบวนสินค้าของตระกูลลู่มาระยะหนึ่งแล้วเป็นเพราะไปคนละทาง ตระกูลลู่ต้องการไปเมืองชายแดนเพื่อส่งสินค้า แต่พวกนางต้องการไปเมืองหลวงดังนั้นเวลานี้ซูเมิ่งจึงกำลังนั่งรถม้าคันของโจวเฉิงเค่ออยู่นั่นเองเห็นพี่ชายบอกว่าอีกไม่เกินหนึ่งชั่วยามจะถึงจวนของเราพี่ชายใช้คำว่าของเราทำให้ซูเมิ่งรู้สึกซาบซึ้ง....ในที่สุดนางก็กำลังมีบ้านและครอบครัวเป็นของตนเองสักที“ถึงจวนตระกูลโจวแล้วขอรับคุณชาย”เนื่องจากในห้องโดยสารมีคนนั่งอยู่เพียงสองคนคือนางและพี่ชาย

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่ถูกทิ้ง   ภรรยากับคำสารภาพ

    บทที่สิบเก้าภรรยากับคำสารภาพ“คุณหนูเจ้าคะ ตอนนี้ขบวนของเราโชคดีได้หยุดพักที่สถานที่มิห่างไกลจากน้ำตกมากนัก คุณชายฝากถามว่าคุณหนูอยากชำระร่างกายหรือแช่น้ำหรือไม่เจ้าคะ เวลานี้ไม่มีคนใช้งานและเดี๋ยวให้คนไปกั้นเขตให้คุณหนูเจ้าค่ะ”“น้ำตกหรือ...อืม ก็ดีเหมือนกัน ข้าอยากแช่น้ำเย็นสักหน่อย มิได้อาบน้ำทุกวันดังเช่นปกติ รู้สึกเหนียวตัวยิ่งนัก”“เจ้าค่ะ เช่นนั้นเดี๋ยวบ่าวรีบไปเรียนคุณชายให้จัดกั้นพื้นที่ให้นะเจ้าคะ รอบ่าวสักครู่”“ได้ ขอบใจมากนะ”พอหลิ่นปินไปภายในกระโจมหลังน้อยก็เงียบลงทันตา ซูเมิ่งหันหลังกับไปเตรียมชุดและของใช้อาบน้ำที่จำเป็นด้วยตนเองที่ด้านหลัง เวลาผ่านไปไม่ถึงถ้วยน้ำชานางได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาในกระโจมนาง“กลับมาเร็วยิ่ง คุณชายว่าอย่างไรบะ บ้าง....อ้าว ท่านพี่! อุ้บ!”คนที่เดินเข้ามากลับไม่ใช่สาวใช้อย่างที่ซูเมิ่งคิด แต่เป็น หยางเหวิน บุรุษร่างสูงใหญ่ที่พอก้าวเท้าเข้ามาในกระโจมก็ดูคับแคบขึ้นมาทันตา ชายหนุ่มคงรู้ว่าซูเมิ่งไม่อยากเจอหน้าอีกฝ่ายจึงก้าวเข้ามาประชิดตัวนางและใช้มือหนาปิดปากมิให้ส่งเสียงดังโวยวาย“อื้อ อ่านเอ้าอาไอ้อ่างไอ อ่อยอ้า!”“หากข้าปล่อยแล้วเจ้าจะเร

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่ถูกทิ้ง   ภรรยามิยอมอีกต่อไปแล้ว (2)

    “นั่นเจ้าใช่หรือไม่ซูเมิ่ง เป็นเจ้า!” เสียงของหยางเหวิน บุรุษที่นางเคยรู้สึกปลอดภัยยามได้ยินเสียง ทว่าบัดนี้มิใช่อีกต่อไปแล้ว....“ข้าเอง พวกท่านกำลังทำสิ่งใด อย่าทำร้ายพวกเขานะ”ซูเมิ่งโดนจับได้นางจึงวิ่งออกไปขวางมิให้คนของหวางเหวินทำร้ายหรือมาต่อสู้กับคนของลู่เจ๋อทีแรกบุรุษทั้งสามเมื่อเห็นใบหน้าของสตรีที่ตามหามาหลายวันก็พากันดีใจ รอยยิ้มปรากฏบนหน้าไปตามๆ กัน ทว่าพอเห็นนางวิ่งเข้ามาไม่เกรงกลัวอันตรายหรือลูกหลงท่ามกลางการต่อสู้ก็ตกใจ หัวใจหล่นไปที่ตาตุ่มกันหมด“พวกเจ้าหยุดลงมือ!”คนของฝ่ายหยางเหวินหยุดต้อนผู้คุ้มของขบวนสินค้าทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งของเจ้านาย ซึ่งตอนแรกพวกเขาก็เพียงได้รับคำสั่งให้ต้อนพวกนี้ให้จนมุมยอมศิโรราบเท่านั้นก็ตามซูเมิ่งบัดนี้ยืนอยู่กลางทางระหว่างขบวนสินค้าตระกูลลู่กับฝ่ายของพี่ชายและสามีนาง“น้องน้อยเจ้าอย่าเพิ่งวิ่งไปทั่วสิ มันอันตราย” เสียงของโจวเฉิงเค่อเต็มไปด้วยความวิตกกังวล นางมองเห็นบนใบหน้าของชายหนุ่มนั้นมีเหงื่อ แววตาดูตื่นตระหนกเกรงว่านางจะได้รับอันตรายจริงอย่างที่พี่ชายเอ่ย“แม่นางซูทางนั้นอันตรายเข้ามาหลบพักในรถม้าก่อนเถิด”ลู่เจ๋อและผู้คุ้มกันของเข

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่ถูกทิ้ง   ภรรยามิยอมอีกต่อไปแล้ว(1)

    บทที่สิบแปดภรรยามิยอมอีกต่อไปแล้ว“ทำไมเจ้ามิตามนางไปด้วย ปล่อยให้นางซึ่งเป็นสตรีปีนขึ้นรถม้าขบวนพวกพ่อค้าจิตใจเจ้าเล่ห์แสนกลไปได้เยี่ยงไร”“ขะ ข้าน้อยคิดไม่ทัน คุณหนูบอกมิให้ข้าตามไป บอกให้ข้ามาส่งข่าวท่านว่าให้ตามนางได้ที่ขบวนสินค้าตระกูลลู่ขอรับ”“เจ้าเป็นคนที่แคว้นนี้มิใช่รึ รู้จักหรือไม่ตระกูลพ่อค้าลู่”“รู้แล้วอย่างไร ข้าจำเป็นต้องบอกเจ้าด้วยรึ”“เหอะ”“เหอะ”โจวเฉิงเค่อและหยางเหวินทะเลาะกันอีกหนหากมีช่องว่างโอกาสให้แขวะใส่กันเวลานี้ขบวนรถม้าของทั้งโจวเฉิงเค่อและขบวนม้าของหยางเหวินเดินทางออกจากเมืองหลวงมาได้หลายชั่วยามแล้ว เดินทางติดต่อกันยาวนานระยะหนึ่งจนต้องหยุดพักให้ม้าพักกินอาหารกินน้ำก่อนส่วนคนที่เหลือก็มาดูแผนที่วางแผนหาทางตามหาขบวนขนสินค้าตระกูลลู่ตามเบาะแสที่ซูเมิ่งทิ้งไว้ให้“คนม้าของเรายังสืบมิได้ความอีกรึ ป่านนี้ยังมิมีใครมาถึงอีก” หยางเหวินเดินออกมาจากกระโจมอีกฝ่ายหลังจากรำคาญทั้งหน้าและน้ำเสียงจนทนไม่ไหวตัดสินใจเดินกับมาหาเบาะแสจากคนของตนดีกว่าพอยิ่งได้รู้ว่าซูเมิ่งไปกับตระกูลลู่ตระกูลที่เขาเคยให้คนไปสืบประวัติมาเพราะเขาเคยเห็นอีกฝ่ายทักทายเอ่ยสนทนาอย่างสนิทสนสน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่ถูกทิ้ง   ภรรยาห่างไกลออกไป(2)

    “คุณหนูเจ้าคะ มิทราบว่าคุณหนูคิดถึงสิ่งใดอยู่ มีเรื่องใดเป็นกังวลหรือไม่ ระ....หรือบ่าวรับใช้ไม่ดีพอเจ้าคะ”“หะ หา เรียกข้าหรือ”“บ่าวดูแลไม่ดีตรงไหนหรือไม่เจ้าคะ บอกให้บ่าวปรับปรุงแก้ไขได้หมดนะ ตะ แต่อย่าไล่บ่าวออกเลย”“ข้าจะไปไล่เจ้าได้ย่างไร ลุกขึ้นก่อน”ซูเมิ่งตื่นจากภวังค์ของตนเองมาก็เพราะตกใจที่อยู่ดีดีสาวใช้ที่ลู่เจ๋อส่งมาคอยช่วยอำนวยความสะดวกนางลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น บนดวงตากลมโตของนางมีน้ำตาเอ่อคลอราวกับกลัวว่าซูเมิ่งจะลงโทษเสียอย่างนั้น“ข้ามิได้ไม่พอใจเรื่องใด เพียงคิดถึงเรื่องอื่นไปเรื่อยเปื่อยก็เท่านั้น”“คิดถึงครอบครัวที่เมืองหลวงหรือเจ้าคะ”“อืม....” ซูเมิ่งหยุดคิดจากคำเรียกของอีกฝ่าย “มิรู้ว่าข้าสามารถเรียกพวกเขาว่าครอบครัวได้หรือไม่”เพราะคนที่เมื่อสักครู่ซูเมิ่งเผลอคิดถึงคือหยางเหวินน่ะสิ...มิใช่พี่ชายสายเลือดเดียวกันอย่างโจวเฉิงเค่อซูเมิ่งรู้สึกเหมือนนางทิ้งสิ่งสำคัญบางอย่างไป มันทำให้ในหัวใจนางรู้สึกเหมือนโดนคนขโมยเฉือนเนื้อบางส่วนทิ้งไประยะเวลาผ่านมาไม่กี่เดือนกับการอยู่ร่วมกันกับหยางเหวินในฐานะสามีภรรยามันช่างดูยาวนาน มีหลายครั้งที่นางเผลอผูกพันกับชายหนุ่ม

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status