Share

๓ เป็นได้เพียเงา

Penulis: วอลจู
last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-30 16:07:45

ในนิยายกล่าวถึงฉากนี้ไว้ พระชายาหลี่อ๋องทุ่มเทแรงกายและแรงใจทุกหยาดเหงื่อ ตระเตรียมงานเลี้ยงฉลองวันครบรอบให้บุตรชายมาเป็นเวลาหลายวัน ทุกอย่างถูกวางแผนอย่างละเอียดราวเพราะเป็นวันสำคัญ แต่ก่อนวันงานเพียงหนึ่งวัน…ทุกอย่างกลับต้องเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

เพราะบุตรชายกับสตรีอีกคนของสามีก็ครบร้อยวันพอดีจึงเรียกร้องให้มีการจัดงานฉลองร้อยวันให้ด้วย

แม้แม่สามีจะไม่แสดงท่าทีขัดค้าน ทว่าพระชายาหลี่อ๋องกลับรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงและคำพูดที่แฝงความหมาย ซึ่งแม้จะกล่าวว่านับเป็นเรื่องน่ายินดีที่จวนหลี่อ๋องจะชื่นมื่น แต่แท้จริงแล้วนั่นไม่ต่างจากการเหยียบย่ำหน้าและศักดิ์ศรีของนางเบาๆ

เดิมทีตั้งแต่คลอดบุตรชาย สุขภาพของพระชายาหลี่อ๋องก็ไม่ค่อยแข็งแรง มักจะล้มป่วยบ่อยและเจ็บออดๆ แอดๆ อยู่เสมอ วันนี้เช่นกัน เมื่อยามสายผ่านไปไม่นาน ร่างกายที่อ่อนแรงของนางก็ทนไม่ไหวจนเกิดเป็นลมกลางจวน

และในช่วงเวลานั้น บุตรชายของนางไร้ผู้ใดปกป้องพลันถูกวางยาพิษจนสิ้นชีพ…เพียงเสี้ยวลมหายใจ

ทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแทบไม่มีผูใดทันตั้งตัว

เมื่อพระชายาหลี่อ๋องฟื้นขึ้นมาจากอาการเป็นลม สิ่งแรกที่เห็นทำให้หัวใจของนางแทบหยุดเต้น

เมื่อร่างของบุตรชายแน่นิ่งอยู่บนเตียง สวมใส่ชุดขาวเหมือนชุดสำหรับคนตาย ตัวเย็นเฉียบ ไม่มีแต่ลมหายใจ…ความเงียบสงัดในห้องยิ่งตอกย้ำความสูญเสียที่เกินจะรับไหว

น้ำตาของนางไหลอาบแก้ม ไม่อาจกักเก็บความเจ็บปวดและความชอกช้ำ ร่างกายอ่อนแรงของพระชายาหลี่อ๋องสั่นระริกด้วยความเศร้าโศก หัวใจเหมือนถูกบีบรัดจนแน่นคล้ายจะหยุดเต้น ราวกับทุกสิ่งที่ฝันไว้ล้วนพังทลายไปในพริบตา

หนิงอี้ถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามตั้งสติ ไม่ให้ความหวาดหวั่นพัดพาใจไปสู่ฉากในนิยายที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงๆ

ทว่าแม้ว่าจะพยายามสงบใจตัวเอง แต่ความรู้สึกเคียดแค้นและเจ็บปวดกลับพุ่งทะลักเข้ามาอย่างไม่อาจห้ามได้ ราวกับว่าจิตวิญญาณของเจ้าของร่างยังล่องลอยมาดึงนางกลับไปสัมผัสกับความทุกข์นั้นอีกครั้ง

หัวใจของนางเต้นแรงกระห่ำ ปวดร้าวและสับสนที่ซ้อนทับ กับความเจ็บปวดและความโกรธสับสนกันไปหมด ทำให้หนิงอี้รู้สึกเหมือนกำลังถูกฉุดรั้งระหว่างสองโลก

สายตาของนางเริ่มพร่ามัวอีกครั้ง มองเห็นใบหน้าของบุรุษตรงหน้าเลือนลอย ร่างเริ่มโอนเอนคล้ายจะเป็นลมไปอีกหน

“ตามหมอเร็วเข้า!”

น้ำเสียงแฝงด้วยอำนาจของฮูหยินผู้เฒ่าตวาดลั่นจวนด้วยความตกใจปนตื่นตระหนก นางยกชายกระโปรงเร่งรีบเดินเข้ามาหาลูกสะใภ้โดยไม่สนใจร่างกายที่เจ็บปวดไปหมดทุกส่วน ชั่วขณะนั้นทุกความทรมานพลันหลงลืมไป

ในขณะนั้น ฮูหยินผู้เฒ่ารีบกรูเข้ามาโดยไม่รอช้า มือทั้งสองยื่นออกมาพยุงร่างของลูกสะใฃ้ที่โอนเอนไปมา กลัวว่าหากปล่อยให้ยืนต่อไป ร่างอ่อนแรงของนางจะล้มลงโดยไม่ทันตั้งตัว

“เหยาเออร์…แม่ว่าพักผ่อนหน่อยดีหรือไม่” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยด้วยความเป็นห่วง ทั้งสีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความกังวล

หนิงอี้พยายามตั้งสติ ปล่อยให้ร่างกายถูกพยุงไว้ มือที่เย็นเฉียบของนางยังคงยื่นไปสัมผัสร่างเด็กชาย หัวใจกลับเต้นรัวไม่หยุด รู้สึกทั้งโศกเศร้า ทั้งโกรธและความสับสนปะปนกัน

ดวงตาคู่งามก้มมองเด็กน้อยที่ยืนขมวดคิ้วมุ่นมองนางด้วยความตกใจและเป็นห่วง

หนิงอี้ฝืนเอาไว้ ไม่ยอมให้ตัวเองเป็นลมเด็ดขาด

เช่นนั้น หากตื่นขึ้นมา เด็กน้อยผู้นั้นจะถูกสตรีชั่ววางยาพิษหรือไม่!

“อาหรง…อย่าห่างจากแม่” น้ำเสียงนางแข็งกร้าว แฝงออกถ้อยคำคำสั่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น มองไปยังบุรุษตรงหน้า…ผู้เป็นสามีแต่กลับยืนนิ่งราวกับรูปปั้นหินแกะสลักทั้งที่ภรรยากำลังจะล้มขมำ!

เกรงว่า เขาคงอยากให้นางเป็นลมล้มลงไปศีรษะกระแทกพื้นตายไปเสีย เพื่อจะได้รีบยกย่องสตรีอีกคนขึ้นโดยไม่ต้องเกรงใจฐานะของนางกระมัง!

นางฝืนยกยิ้มเยาะ สูดลมหายใจลึก ดวงตาคู่งามแข็งกร้าว แม้จะมองเห็นอีกฝ่ายพร่ามัวไม่ชัดเจน นางกัดฟันกรอด พูดออกมาอย่างอดกลั้น “บุตรชายข้าย่อมมีชีวิตยืนยาวถึงร้อยปี! หากผู้ใดกล้าขัดขวาง…ข้าก็ย่อมกำจัดให้สิ้น ต่อให้มือต้องแปดเปื้อน แต่เพื่อให้อาหรงมีชีวิตที่ยืนยาวและมีฐานะสูงส่งแม้แต่ชีวิตข้าก็ไม่เสียดาย!”

สายตาของหลี่เฉิงหยวนยังคงแข็งกร้าวและเย็นชาเหมือนน้ำแข็งที่สงบนิ่งอยู่กลางหิมะ ทว่าพอสิ้นคำพูดของอีกฝ่าย…ดวงตาของเขากลับสั่นไหวเพียงเล็กน้อย รู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นความเด็ดเดี่ยวที่เจือออกมาจากแววตาของสตรีตรงหน้า

หลี่เฉิงหยวนแค่นเสียงฮึดฮัดในลำคอ มุมปากหนาเหยียดยกยิ้มเยาะเจือความดูแคลน

“สมกับเป็นมารดาที่ดีทุ่มเทชีวิตเพื่อบุตรชาย!” น้ำเสียงทุ้มต่ำราบเรียบ แต่แฝงความเย็นยะเยือก

เขาเหลือบมองไปยังบุตรชายที่ยืนแนบชิดติดอยู่ข้างนาง ดวงตาสีดำขลับจับจ้องอยู่นานราวกับสังเกต “หึ!...เช่นนั้น จะโตได้อย่างไร” น้ำเสียงทุ้ม เต็มไปด้วยความท้าทายเจือความเยาะเย้ย

หลี่เฉิงหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มุมปากหนาเหยียดยกยิ้มอย่างเย็นชา “หากเจ้าตาย…เขาจะไม่ตายตามไปหรือ”

หนิงอี้ชะงัก ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง เหมือนถูกตบหน้าด้วยคำพูดของสามี

“หลี่เฉิงหยวน!” ฮูหยินผู้เฒ่าตวาดขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตกใจและไม่พอใจ “อย่าได้เอ่ยถ้อยคำต่ำทรามเช่นนั้น! อาหรงคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า!”

ฮูหยินผู้เฒ่าหอบหายใจถี่ หน้าอกสั่นกระเพื่อมด้วยความโกรธแทนลูกสะใภ้

ทั้งที่วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของบุตรชายตนเอง แต่กลับให้สตรีอีกคนหน้าไม่อายมาปรากฏตัวเสนอหน้าอยู่ต่อหน้าผู้คน!

ไยนางจะมองไม่ออก สตรีผู้นั้นช่างเจ้าเล่ห์…เพียงมองแวบเดียวก็รู้ว่าคิดจะวางแผนชิงตำแหน่งของลูกสะใภ้และหลานชายของนางมาเป็นของตนเอง!

หลี่เฉิงหยวนหัวเราะเบาๆ ทั้งที่แววตาเย็นเฉียบ

“เลือดเนื้อเชื้อไขงั้นหรือ…” เขาก้าวเข้ามาใกล้ เต็มไปด้วยแรงกดดันที่มองไม่เห็นจนบรรยากาศหนักอึ้ง “ข้าเต็มใจงั้นหรือ…” หัวคิ้วเข้มเลิกขึ้นเชิงตั้งคำถาม สายตาคมกริบประสานสบตากับสตรีตรงหน้าอย่างจงใจ

เขาไม่เคยปรารถนาที่จะแต่งงานกับสตรีผู้นั้นด้วยซ้ำ หากมิใช่เพราะจำต้องทำตามคำสั่งของมารดา นางก็ไม่มีวันได้ก้าวเข้ามาเหยียบในจวนหลี่อ๋อง!

และยิ่งไปกว่านั้น เด็กที่นางให้กำเนิด

แม้จะมีสายเลือดของเขาอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็หาใช่สิ่งที่เขาปรารถนาไม่!

หนิงอี้หอบหายใจแรง ร่างที่อ่อนแรงเริ่มสั่นสะท้าน สายตาที่พร่ามัวก่อนหน้ากระจ่างแจ้งชัดขึ้นทันที เพราะคำพูดนั้นเฉือนลึกลงไปในหัวใจนาง เหมือนคมมีดกรีดซ้ำบาดแผลเดิม!

บุรุษผู้นี้ไม่สมควรเป็นบิดาใครจริงๆ !

นางกัดฟันแน่น สะกดกลั้นความเจ็บปวดที่แล่นพล่านอยู่ในอกไว้สุดกำลัง

ทว่าทันใดนั้น น้ำเสียงของสตรีอีกผู้หนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมา ทั้งอ่อนหวานและเต็มไปด้วยความเห็นใจ “หลี่อ๋อง…เพคะ ใจเย็นก่อนเถิด อย่างไรวันนี้ก็เป็นวันมงคลของซื่อจื่อน้อย หากกล่าวเช่นนี้ เกรงว่าซื่อจือจะได้ยินแล้วต้องเสียใจเป็นแน่เพคะ”

ไป๋เหม่ยฮวาเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างกายหลี่อ๋อง มือข้างหนึ่งของนางยังคงอุ้มบุตรชายที่หัวเราะร่าอย่างไร้เดียงสา โดยไม่รู้เลยว่าบรรยากาศในเรือนเต็มไปด้วยความตึงเครียดเพียงใด

รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนริมฝีปากของนางจงใจ ก่อนจะก้มหน้าลงเล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจว่า “ขออภัยพี่หญิงด้วยเพคะ ทั้งที่วันนี้เป็นวันมงคลของซื่อจื่อน้อยแท้ๆ แต่หม่อมฉันกลับคิดน้อยอย่างคนโง่เขลา เพราะอยากให้บุตรชายได้จัดงานครบรอบในวันเดียวกันเพื่อจะได้ร่วมรับสิริมงคลเท่านั้น หาได้คิดจะแย่งชิงสิ่งใดจากผู้ใดไม่เลยเพคะ”

หลี่เฉิงหยวนปรายตามองสตรีข้างกาย ดวงตาแข็งกร้าวเมื่อครู่กลับอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นเรียบแฝงด้วยความเอ็นดู “เหม่ยฮวา เจ้าไม่ได้ผิดอันใด อย่าได้คิดมากไปเลย”

เขาเอื้อมมือไปจัดผ้าคลุมไหล่ให้นางอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเหลือบมองสตรีอีกคนที่ยืนแข็งทื่ออยู่เบื้องหน้า แววตาที่มองนางนั้นเยียบเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในฤดูเหมันต์

มุมปากหนากระตุกเหยียดยิ้มเยาะ สายตาเต็มไปด้วยความดูแคลน “มีเพียงแค่คนใจคับแคบเท่านั้น…ที่คิดว่าความสุขของผู้อื่นคือการแย่งชิงจากตน”

เขาเอ่ยเสียงเรียบ ทว่าทุกถ้อยคำกลับเฉือนลงกลางหัวใจของนางราวมีดคมกริบ

ฮูหยินผู้เฒ่าถึงกับหน้าเปลี่ยนสี รีบหันไปมองหลานชายที่ยืนตัวสั่นเทิ้มด้วยความเสียใจข้างมารดา ก่อนจะตวัดสายตากลับมาจ้องเขม็งลูกชายตรงหน้า กัดฟันกรอดอย่างอดกลั้น

“พอเถิด! หุบปากเจ้าซะ หลี่เฉิงหยวน…”

จากนั้นนางจะหันไปสั่งสาวใช้ให้รีบอุ้มบุตรชายออกไป

“พาซื่อจื่อไปพักผ่อนเถิด เกรงว่าคงเหนื่อยล้ามากแล้ว”

แววตาของหนิงอี้สั่นไหวรุนแรง เส้นเลือดบนขมับเต้นตุบๆ ภายในใจเดือดพล่านราวกับน้ำร้อนในหม้อ ใบหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยัน จ้องสบตาบุรุษตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะปรายตามองสตรีที่ยืนอยู่ข้างกาย

“คำพูดมากมาย…สุดท้ายก็เพียงอยากแทนที่ข้า”

“ถงซิ่นเหยา!” หลี่เฉิงหยวนตวาดลั่น ดวงตาคมกริบเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว มือทั้งสองข้างกำแน่นจนข้อขาวขึ้นชัด

“หึ! มีแต่คนโง่เท่านั้น ที่ไร้หัวคิด ไม่เข้าใจผู้อื่น!”

“หลี่อ๋อง…ใจเย็นก่อนเถอะเพคะ” ไป๋เหม่ยฮวารีบแทรกขึ้น มือขาวบางยื่นไปแตะข้างกายสามี ราวกับเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แม้ยามนี้ในใจนางจะสะใจไม่น้อย ทว่ายังมีแผนการใหญ่รออยู่เบื้องหน้า

น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้น พลางปรายตามองสาวใช้คนสนิทที่เดินเข้ามาพร้อมน้ำชาจอกหนึ่ง

“เช่นนี้ น้ำชาจอกนี้…ข้าและบุตรชายยกคารวะเพื่อขอโทษต่อจื่อซื่อได้หรือไม่เพคะ”

หนิงอี้มองจอกน้ำชาตรงหน้า กลิ่นหอมกรุ่นคลุ้งในอากาศ แต่กลับเต็มไปด้วยยาพิษ หัวใจของนางสั่นสะท้าน ริมฝีปากบางเม้มแน่น เส้นเลือดบนขมับเต้นตุบๆ ความรู้สึกมากมายพลั่งพลูขึ้นมาคับในอก ดวงตาคู่งามสั่นไหว ราวกับเห็นชีวิตบุตรชายอยู่ในมือของสตรีผู้นั้น

น้ำชาจอกนี้…ใช่หรือไม่ที่พรากชีวิตลูกชายของนางไป?

เพล้ง!

นางยื่นมือปัด พลันจอกน้ำชากระเด็นตกพื้นแตกกระจาย เสียงกระทบพื้นดังก้องสะท้อนไปทั่วห้อง น้ำชาร้อนสาดกระเซ็น

“เก็บไว้กรอกปากเจ้าและบุตรชายของเจ้าเถอะ!”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เขารังเกียจ   ๔ รอยยิ้มเสแสร้ง

    บรรยากาศภายในจวนหลี่อ๋องอึมครึ้ม ราวกับมีเมฆพายุฝนหนาทึบตั้งเค้าอยู่เหนือหัว อากาศหนักอึ้งไปด้วยความตึงเครียดจนคล้ายถูกบีบรัดแน่นแทบหายใจไม่ออก ไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียงดังหรือแม้แต่หายใจแรงด้วยซ้ำทั้งที่วันนี้เป็นวันมงคลของจวนหลี่อ๋องควรเฉลิมฉลองให้แก่ซือจื่อน้อย แต่ทุกสิ่งกลับพังลงในพริบตา เมื่อพระชายาเอกปาจอกน้ำชาของพระชายารองลงพื้นโดยไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อยผู้ใดเล่าจะเคยเห็นพระชายาเอกผู้ที่สงบเสงี่ยมแสดงความโกรธเกรี้ยวออกมาถึงเพียงนี้ ทั้งยังกล้าเผชิญหน้าต่อหลี่อ๋องโดยไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อยเกรงว่าความอดทนที่สะสมมานานจะขาดสะบั้นลงเสียแล้ว คงยอมแตกหักดีกว่าถูกเหยียบย่ำอย่างไร้ค่ากระมังผู้คนทั้งในจวนอดรู้สึกเห็นใจพระชายาเอกไม่ได้…สตรีที่ถูกสามีเอ่ยปากรังเกียจต่อหน้าด้วยคำพูดหยามน้ำใจ ถูกปฏิบัติใส่อย่างเย็นชาราวกับคนแปลกหน้ามิใช่ภรรยาที่ร่วมกราบไหว้ฟ้าดินกันมาและทั้งที่อยากจะหย่าเกินทน หากแต่ต้องทนเพราะเกรงใจฮูหยินผู้เฒ่าเท่านั้นมิหนำซ้ำ เมื่อในคืนวันเข้าหอนั้น หลี่อ๋องกลับหนีออกจากเรือนทั้งที่เข้าไปได้เพียงชั่วอึดใจ ก่อนจะพบได้ว่าแอบไปหาสตรีอื่นและยิ่งไปกว่านั้น ยังมีถ้อยคำที่ออกจาก

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เขารังเกียจ   ๓ เป็นได้เพียเงา

    ในนิยายกล่าวถึงฉากนี้ไว้ พระชายาหลี่อ๋องทุ่มเทแรงกายและแรงใจทุกหยาดเหงื่อ ตระเตรียมงานเลี้ยงฉลองวันครบรอบให้บุตรชายมาเป็นเวลาหลายวัน ทุกอย่างถูกวางแผนอย่างละเอียดราวเพราะเป็นวันสำคัญ แต่ก่อนวันงานเพียงหนึ่งวัน…ทุกอย่างกลับต้องเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเพราะบุตรชายกับสตรีอีกคนของสามีก็ครบร้อยวันพอดีจึงเรียกร้องให้มีการจัดงานฉลองร้อยวันให้ด้วยแม้แม่สามีจะไม่แสดงท่าทีขัดค้าน ทว่าพระชายาหลี่อ๋องกลับรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงและคำพูดที่แฝงความหมาย ซึ่งแม้จะกล่าวว่านับเป็นเรื่องน่ายินดีที่จวนหลี่อ๋องจะชื่นมื่น แต่แท้จริงแล้วนั่นไม่ต่างจากการเหยียบย่ำหน้าและศักดิ์ศรีของนางเบาๆเดิมทีตั้งแต่คลอดบุตรชาย สุขภาพของพระชายาหลี่อ๋องก็ไม่ค่อยแข็งแรง มักจะล้มป่วยบ่อยและเจ็บออดๆ แอดๆ อยู่เสมอ วันนี้เช่นกัน เมื่อยามสายผ่านไปไม่นาน ร่างกายที่อ่อนแรงของนางก็ทนไม่ไหวจนเกิดเป็นลมกลางจวนและในช่วงเวลานั้น บุตรชายของนางไร้ผู้ใดปกป้องพลันถูกวางยาพิษจนสิ้นชีพ…เพียงเสี้ยวลมหายใจทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแทบไม่มีผูใดทันตั้งตัวเมื่อพระชายาหลี่อ๋องฟื้นขึ้นมาจากอาการเป็นลม สิ่งแรกที่เห็นทำให้หัวใจของนางแทบหยุดเต้น

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เขารังเกียจ   ๒ ฮูหยินที่เขาไม่รัก

    หนิงอี้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ภายในห้องเงียบสงบกว่าก่อนหน้านี้ ทว่าเสียงฝีเท้ายังคงวุ่นวายอยู่ด้านนอก กลางอกนางยังรู้สึกปวดร้าวเล็กน้อยจนต้องยกมือขึ้นมานวดเบาๆ ทว่ากลับชะงักเมื่อสัมผัสถึงความอบอุ่นจากอ้อมแขนน้อยของเด็กชายที่กอดเธอไว้ก่อนหน้านี้ดวงตาดำกลมโตของเด็กน้อยดูใสซื่อเล็กเกินกว่าที่จะเข้าใจโลกใบนี้ดี มือข้างหน้าโอบกอดมือของเธอแนบหน้าไว้ไม่ยอมปล่อยหน้าต่างถูกผ้าม่านผืนบางกั้น แสงแดดยามบ่ายคล้อยสาดลอดเข้ามาเป็นเส้นๆ ชายผ้าม่านกระพือตาทสายลม เงาของคนเดินผ่านทำให้หนิงอี้ลายตารู้สึกเวียนหัวอีกครั้ง ทั้งยังมีเสียงวุ่นวายด้านนอกที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะสงบ ยิ่งทำให้เส้นเลือดบนขมับเต้นตุบๆ ราวกับสะท้อนความตึงเครียดในอก“พระชายา! พระชายา ฟื้นแล้ว!” อาหยุนร้องตะโกนบอกด้านนอก ก่อนจะเร่งรีบเดินเข้ามาพร้อมกับอ่างน้ำและเช็ดหน้าด้วยมือที่สั่นพลางมองผู้เป็นนายหญิงด้วยสายตาห่วงใย“ท่านแม่ฟื้นแล้ว!” อาหรงเอียงคอจับจ้องหน้ามารดาด้วยดวงตากลมโตอยู่นานคาหนึ่งก่อนที่ริมฝีปากน้อยๆ จะขยับพูด“อาหรง…” หนิงอี้เรียกชื่อเสียงแผ่ว พลางจ้องมองใบหน้ากลมๆ ของเด็กชายข้างเตียง ก่อนที่จู่ๆ ริมฝีปากจะสั่นเครือ น้

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เขารังเกียจ   ๑ นิยายน้ำเน่า

    “เพราะสตรีผู้นั้น…! เป็นเพราะมันที่ทำให้อาหรงต้องตาย!” น้ำเสียงของพระชายาหลี่อ๋องดังก้องลั่นออกมา แววตาและนิ้วชี้ไปตรงหน้าราวกับต้องการจี้เข้าไปในเนื้อหัวใจของอีกฝ่าย ดวงตาแดงของนางกร่ำเต็มไปด้วยความโกรธและความแค้นที่แทบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“หากมันไม่ตายตามลงไปปรโลกเพื่อขอโทษอาหรง! ชาตินี้ก็อย่าหวังว่าบุตรชายของเจ้าจะได้มีลมหายใจ! ต่อให้เกิดมาอีก ข้าก็จะฆ่าทิ้ง!”พระชายาหลี่อ๋องยืนตรงหน้าประตูเรือนใหญ่ ในอ้อมแขนกอดทารกน้อยเพียงร้อยวันด้วยความรู้สึกผิดผสมแค้น ส่วนมืออีกข้างกำปิ่นแหลมแน่นจนลำแสงอ่อนจากโคมไฟสะท้อนประกายเย็นเฉียบจนบรรยากาศกัดดันยามนี้ความอดทนของนางถึงขีดสุดแล้ว…ที่ผ่านมา นางอดทนมาเยอะเกินกว่าจะนับได้หากแต่ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวนั้น ยังมีเสียงร้องเบาๆ จากเล็กน้อยจากทารกน้อยในอ้อมแขน ราวกับเตือนให้นางสงบนิ่งนางเคยเป็นมารดาและเคยสูญเสียลูกไปอย่างไม่วันหวนคืน“สตรีชั่ว! หากมิใช่เจ้าละเลยหน้าที่มารดาที่ดีไม่อาจเลี้ยงบุตรได้…หึ! ที่อาหรงต้องตายก็เพราะเจ้า! เจ้ายังกล้าโทษผู้อื่นไร้สติหรือ?! เช่นนั้นเจ้าก็…ตายตามอาหรงไปเฝ้าปกป้องเขาเสีย!”หลี่อ๋องจ้องสตรีตรงหน้าด้วยความโกรธท

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status