Share

บทที่ 5 ปรับความเข้าใจ

Penulis: sanvittayam
last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-13 15:49:05

บทที่ 5 ปรับความเข้าใจ

หลังจากกินอาหารเข้าไป สะใภ้บ้านโม่ทั้งสองคนก็หันมามองน้องสะใภ้ตัวเองด้วยความแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าน้องสะใภ้สามจะมีความสามารถในการทำอาหารด้วย อีกทั้งรสชาติของอาหารก็อร่อยอย่างที่ไม่เคยได้กินมาก่อน

“น้องสะใภ้สามทำให้พวกเราแปลกใจมาก ไม่คิดว่าจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้นะเนี่ย ต่อไปพี่คงต้องมาฝึกด้วยแล้ว”

สะใภ้ใหญ่ทั้งเอ่ยปากชมและยิ้มให้น้องสะใภ้อย่างอบอุ่น แววตาที่เธอเห็นจากน้องสะใภ้ในวันนี้นั้น ไม่ได้เกรี้ยวกราดหรือโมโหเหมือนแต่ก่อน เลยกล้าที่จะพูดเล่นด้วย

“ได้เลยค่ะพี่สะใภ้ วันนี้ฉันตั้งใจจะทำกับข้าวให้พี่กวนหยางกิน เพราะตั้งแต่แต่งงานกันมา ก็มีแต่เขาที่ดูแลฉันมาตลอด ฉันเลยอยากทำอาหารตอบแทนเขาสักหน่อย” หญิงสาวตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม เพราะนี่คือสิ่งที่เธอคิดจริง ๆ

‘ในเมื่อมาอยู่ในร่างนี้แล้ว ก็ย่อมต้องทำตัวเป็นภรรยาที่ดี และเป็นลูกที่ดี รวมถึงการเป็นลูกสะใภ้ที่ดีด้วย’

คิดได้อย่างนั้นหลินซินเยว่จึงตัดสินใจเอ่ยขอโทษแม่สามีรวมถึงพี่สะใภ้ทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“แม่คะ ที่ผ่านมาลูกสะใภ้คนนี้ทำตัวไม่ดีมาตลอด สร้างเรื่องสร้างราวมาให้แม่สามีปวดหัวแทบทุกวัน รวมถึงพี่สะใภ้ทั้งสองคนด้วย ฉันใช้งานพวกพี่หนักหนาเลยทีเดียว ที่แล้วมาฉันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขมันได้ จึงได้แต่ขอโทษจากใจจริง

แต่ฉันสัญญาว่านับจากนี้ไป ฉันจะปรับปรุงและเปลี่ยนตัวเองใหม่ให้ดีขึ้น ฉันหวังว่าแม่และพี่สะใภ้ทั้งสองคน จะให้โอกาสผู้หญิงคนนี้ และอ้าแขนรับฉันเป็นคนในครอบครัวอีกครั้ง”

พูดจบก็ค้อมหัวให้ทั้งสามคนอย่างนอบน้อม เพื่อเป็นการขอโทษกับการกระทำที่แล้วมา เธอไม่รู้หรอกว่าร่างเดิมทำอะไรไว้บ้าง เพราะความทรงจำแม้จะมามากมาย แต่เรื่องราวบางอย่างก็มาไม่หมด เลยคิดว่าหลังจากนี้ คงต้องพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ทำอะไรผิดพลาด

ฟางเหนียงไม่คิดว่าลูกสะใภ้คนนี้ จะกล้าขอโทษกับเรื่องราวที่ผ่านมาจึงอดสงสัยในใจไม่ได้

‘สงสัยการที่เธอล้มหัวฟาดฟื้นจนสลบไปแล้วค่อยฟื้น คงจะทำให้นิสัยเปลี่ยนไปสินะ นี่มันดีจริง ๆ เลย’

“อย่าคิดอะไรมากเลย ที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันแล้วไปเถอะ หลังจากนี้ก็ปรับปรุงตัวเองใหม่ ฉันซึ่งเป็นแม่สามีก็อยากได้ลูกสะใภ้ที่ดูแลลูกชาย ไม่ใช่ให้ลูกชายมาดูแลเธอเหมือนก่อนหน้านี้”

นี่คือความคิดของฟางเหนียง นางต้องการลูกสะใภ้ที่ดูงานบ้านงานเรือนได้ อีกทั้งขอให้รักและดูแลลูกชายของเธอให้ดีก็พอ

ต่อให้จะมีนิสัยร้ายกาจอย่างไร แต่หากทำตามอย่างที่นางต้องการได้ ทางบ้านโม่ก็สามารถเปิดแขนอ้ารับอีกฝ่ายได้เหมือนเดิม

“ฉันเองก็เหมือนกัน ที่แล้วมาก็ผ่านมันไปเถอะ ขอเพียงแค่เธอปรับปรุงตัวใหม่และเป็นคนที่ดีก็พอแล้ว”

เฉินซูอิ๋งเองก็พูดอย่างคนที่ไม่ได้คิดมากกับเรื่องที่ผ่านมา เพราะอย่างไรแล้วทุกคนก็ไม่สามารถไปแก้ไขอดีตได้ ทางที่ดีคือทำวันข้างหน้าให้ดีก็พอแล้ว

“พี่เห็นด้วยกับแม่และพี่สะใภ้ใหญ่นะ เธอก็อย่าคิดอะไรมากเลยสะใภ้สาม เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็อย่าไปสนใจเลย ต่อจากนี้ก็ปรับปรุงตัวเองใหม่เถอะนะ”

คราวนี้เป็นห่ายเยี่ยนที่พูดมาบ้าง เรื่องที่ผ่านมาแล้วเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมากหรอก ขอแค่ต่อจากนี้หลินซินเยว่ไม่กลับไปทำตัวเหมือนเดิมก็พอแล้ว

หลินซินเยว่ได้ฟังทั้งสามคนพูดมาแบบนั้นก็รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก ไม่คิดว่าครอบครัวของสามีจะให้อภัยกับเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีตอย่างง่ายดายแบบนี้ นั่นเพราะเธอรู้ดีว่าการกระทำของร่างเดิมนั้นมันร้ายแรงจนเกินให้อภัย

หญิงสาวรู้สึกซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหล จึงต้องยกขึ้นมือปาดน้ำตาออก ก่อนจะพูดเสียงปนสะอื้นว่า “ขอบคุณทุกคนมากนะคะ ที่ให้อภัยฉัน ฉันสัญญาว่าต่อไปนี้จะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ฉันจะไม่กลับไปทำผิดเหมือนเดิมอีกแล้ว”

“เอาเถอะ เรื่องที่มันผ่านมาแล้วก็ให้มันแล้วไป พวกเราก็อย่ามาพื้นฝอยหาตะเข็บเลย ในเมื่อไม่เป็นอะไรแล้ว ฉันก็ขอตัวกลับบ้านก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะให้สะใภ้ใหญ่และสะใภ้รองอยู่ช่วยงานบ้านเธอนะ ร่างกายยังไม่ปกติ อย่าเพิ่งหักโหมตัวเองก็แล้วกัน”

ฟางเหนียงที่พอเห็นว่าลูกสะใภ้สามไม่เป็นอะไรแล้ว จึงตัดสินใจที่จะกลับบ้าน แล้วปล่อยให้สะใภ้ทั้งสามคนอยู่ด้วยกัน เผื่อจะสานสัมพันธ์กันให้ดีกว่านี้

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ ให้พี่สะใภ้ใหญ่กับพี่สะใภ้รองกลับบ้านไปเถอะค่ะ เรื่องทำความสะอาดบ้านฉันก็ทำเสร็จหมดแล้ว เหลือแค่นำผ้าไปซักในวันพรุ่งนี้เท่านั้น แค่นี้ฉันทำได้ค่ะ ที่ผ่านมาก็รบกวนมากพอแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะทำงานทุกอย่างในบ้านเอง ฉันจะตัวเป็นภรรยาที่ดีพร้อมให้ได้ค่ะ”

หลินซินเยว่รีบพูดและโบกมือปฏิเสธความช่วยเหลือที่แม่สามีมอบให้ ตอนนี้เธอไม่ใช่คนเก่าอีกแล้ว เรื่องทำความสะอาดบ้านและทำงานบ้านอื่น ๆ รวมถึงการซักผ้านั้น ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงสักเท่าไร จึงไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากพี่สะใภ้ทั้งสองคนอีก

พอได้ยินที่หลินซินเยว่พูดมาอย่างนั้น ทั้งสามคนก็ผุดรอยยิ้มอย่างพึงพอใจออกมา คราวนี้พวกเธอเริ่มจะเชื่อแล้วว่าสะใภ้สามคงเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วจริงๆ

“เอาเถอะ อย่างไรก็แล้วแต่เธอก็แล้วกัน ถ้าอย่างนั้นพวกฉันกลับก่อนล่ะ” ฟางเหนียงพูดอย่างไม่คิดอะไรมาก จากนั้นก็เดินออกจากบ้านลูกชายทันที โดยมีสะใภ้ทั้งสองคนเดินตามไปด้วย

หญิงสาวมองตามแผ่นหลังทั้งสามคนออกไป พร้อมกับผุดรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย แล้วนึกขอบคุณที่บ้านสามีให้อภัยเธอ

กลับมาที่บ้านหลิน

เมื่อจางฮุ่ยอีกลับมาถึงบ้าน ก็พบกับลูกชายและสามีที่กำลังจะเดินออกจากบ้านพอดี เลยเรียกดักทั้งสองคนไว้

“ทั้งสองกลับไปเปลี่ยนชุดเหมือนเดิมเถอะ ซินเยว่น่ะหมอให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ทั้งสองคนไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้วล่ะ” เธอบอกรายละเอียดเพื่อไม่ให้ทั้งสองคนเป็นห่วงหลินซินเยว่

“น้องไม่เป็นอะไรแล้วเหรอแม่ ทำไมหมอถึงให้กลับเร็วขนาดนั้นล่ะ”

หลินอี้เฉินถามด้วยความเป็นห่วง ตอนที่เห็นน้องสาวล้มหัวฟาดพื้นแล้วสลบไป เขาก็รู้สึกใจไม่ดีแล้ว เพราะกลัวว่าจะมีเลือดคั่งในสมอง จึงไม่คิดว่าน้องสาวจะได้กลับบ้านเร็วขนาดนี้

“นั่นสิ ฉันได้ยินชาวบ้านเขาพูดกันว่าลูกของเราหัวฟาดพื้นจนสลบไม่ใช่เหรอ แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ”

หลินไป๋หานถามเพื่อความแน่ใจ เขายังคงมีความเป็นห่วงลูกสาวอยู่มาก และมีความเห็นไม่ต่างกับลูกชาย ที่คิดว่าหลินซินเยว่ปลอดภัยแล้วจริงหรือ

นางมองค้อนทั้งสามีและลูกชายเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับไป “ทั้งสองคนนี้ก็พูดแปลก หากซินเยว่ไม่สบายดีแล้วหมอจะให้กลับบ้านได้ยังไง แล้วฉันจะมายืนอยู่ตรงนี้เหรอ”

“ไม่น่าเชื่อ” หลินอี้เฉินพูดออกมาคล้ายกับไม่อยากจะเชื่อ

“ถ้าทั้งสองคนไม่เชื่อ ก็ไปดูที่บ้านของโม่กวนหยางก็แล้วกัน จะได้เห็นกับตาว่าซินเยว่กลับมาถึงบ้านแล้ว”

จางฮุ่ยอีพูดออกไปพร้อมกับส่ายศีรษะให้กับทั้งสอง พูดจบก็เดินเข้าบ้านไปทันที โดยปล่อยให้สามีและลูกชายยืนสับสนกันเองอยู่ตรงนั้น

หลังจากที่ออกมาจากบ้านลูกชายแล้ว ฟางเหนียงก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก แม้จะมีความแปลกใจอยู่บ้าง แต่นางหวังว่าลูกสะใภ้คนที่สามจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีได้อย่างที่พูดจริงๆ

“พวกเธอคิดว่าควรจะเชื่อคำพูดของสะใภ้สามได้ไหม” ฟางเหนียงหันไปถามสะใภ้ทั้งสองที่เดินมาด้วยกัน

“ฉันคิดว่าเชื่อได้นะคะแม่ ดูจากแววตาที่เห็นในวันนี้ เธอไม่ได้มีความร้ายกาจหรือประชดประชันเหมือนเมื่อก่อน แถมวันนี้ยังทำอาหารเองอีกด้วย”

สะใภ้ใหญ่ของบ้านพูดความคิดเห็นของตัวเองออกมา แม้จะไม่ได้เชื่อเต็มสิบส่วนก็ตาม แต่เธอก็มั่นใจว่าน้องสะใภ้สามมีความเปลี่ยนแปลงจริงๆ

“ฉันก็มีความเห็นเดียวกับพี่สะใภ้ใหญ่นะคะแม่ หากน้องสะใภ้สามเปลี่ยนตัวเองได้จริง ๆ ครอบครัวของเราก็คงจะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง แล้วแบบนี้แม่จะให้น้องสามกลับเข้ามาอยู่ในบ้านโม่ไหมคะ”

ห่ายเยี่ยนเองก็พูดขึ้นอย่างเห็นด้วยกับพี่สะใภ้ใหญ่ และที่ถามอย่างนี้ออกมาไม่ใช่รังเกียจน้องสะใภ้สาม หรือไม่อยากให้ครอบครัวบ้านสามกลับเข้ามาอยู่ในบ้านโม่ แต่ถามเพราะอยากรู้เท่านั้นเอง

“ต่อให้สะใภ้สามจะทำตัวดีขึ้น แต่ยังไงเจ้าสามก็แยกบ้านไปแล้ว คงไม่ได้กลับมารวมกับบ้านใหญ่โม่อีกล่ะ แต่ก็ช่างเถอะ หากทั้งสองคนนั้นอยากกลับมา ฉันก็ไม่ห้ามเหมือนกัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสบายใจของพวกเขาก็แล้วกัน ฉันก็ได้หวังว่าต่อไปนี้บ้านโม่ของเราจะรักและสามัคคีกัน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะแม้ว่าจะแยกบ้านออกไปแล้ว แต่พวกเราก็ไม่ได้ทำเรื่องตัดขาดกันสักหน่อย”

ฟางเหนียงตอบกลับไปตามที่นางต้องการ นางไม่สนใจหรอกว่าลูกชายกับลูกสะใภ้คนที่สามจะกลับมาอยู่ในบ้านใหญ่หรือเปล่า หากไม่กลับมาก็คงไม่เป็นอะไร เพราะทั้งสองคนแยกบ้านออกไปแล้ว แต่อาจจะมีการไปมาหาสู่กันมากกว่าเดิม

“ฉันก็หวังว่าอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ ขอให้ครอบครัวของเรากลับมาปรองดองและสงบสุขอีกครั้ง” เฉินซุงอิ๋งพูดอย่างเห็นด้วยกับแม่สามี จากนั้นทั้งสามคนก็ยิ้มให้กันอย่างสุขใจ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นสตรีร้ายกาจ 80s   บทส่งท้าย ความรักที่สมบูรณ์ของหลินซินเยว่

    บทส่งท้าย ความรักที่สมบูรณ์ของหลินซินเยว่ตอนที่ได้ยินว่าภรรยาตั้งท้อง โม่กวนหยางก็ตกใจและดีใจมากแล้ว แต่พอรู้ว่าเธอตั้งท้องแฝด เขากลับยิ่งทั้งดีใจและเริ่มเป็นกังวล เพราะกลัวจะดูแลเธอไม่ดี“ซินเยว่ได้ยินที่คุณหมอบอกแล้วใช่ไหม ต่อไปนี้ไม่ต้องทำงานอะไรอีกแล้วนะ เดี๋ยวพี่จะทำทุกอย่างแทนซินเยว่เอง เรากลับบ้านกันเถอะ ส่วนที่ร้านก็ให้โม่เจิ้งฉีกับน้องสะใภ้ดูแลไปก่อน” โม่กวนหยางพูดกับภรรยาอย่างอ่อนโยน“ก็ได้ค่ะ” หลินซินเยว่ตอบรับอย่างไม่มีข้อโต้แย้งเพราะเธอก็ยังรู้สึกอ่อนเพลียอยู่เมื่อเดินออกมาจากห้องตรวจ ก็พบเข้ากับพ่อแม่จากทั้งสองบ้านมารอถามข่าว เมื่อทุกคนได้รับรู้ข่าวดีก็ยิ้มกว้างอย่างดีใจ“ดีจริง ๆ ต่อไปเจ้าสามจะต้องดูแลสะใภ้สามให้ดี ๆ นะ งานขายของก็พักไว้ก่อน เดี๋ยวพ่อแม่จะมาช่วยดูแลร้านให้เอง แถมตอนนี้ยังมีโม่เจิ้งฉีกับเซี่ยเป้ยนีมาช่วยดูแลด้วย ซินเยว่ก็ไม่ต้องห่วงนะ” ฟางเหนียงพูดกับลูกชายของตนเองกับสะใภ้“นั่นสิ ซินเยว่ต้องพักผ่อนเยอะๆ นะลูก ท้องแรกแถมยังเป็นท้องแฝดด้วย ต้องระวังตัวให้มากๆ เดี๋ยวแม่จะอยู่ช่วยดูแลซินเยว่เองนะลูก เราจะต้องเริ่มบำรุงด้วยอาหารที่เพิ่มน้ำนมแล้วนะฟางเหนียง

  • ทะลุมิติมาเป็นสตรีร้ายกาจ 80s   บทที่ 59 งานแต่งของหลินอี้เฉิน

    บทที่ 59 งานแต่งของหลินอี้เฉินเมื่อวันที่บ้านหลินมาสู่ขอคุณหนูหวาง แม้ว่าทั้งสองคนจะฐานะต่างกัน แต่บ้านหลินทำเต็มที่ จนชาวบ้านที่รู้ข่าวตกตะลึงไม่น้อย แล้วยังมีของขวัญจากน้องสาวและน้องเขยคือตึกในแหล่งการค้าอีกด้วย“หลังจากนี้ฉันฝากหลิงหลิงไว้กับนายด้วยนะ ต่อจากนี้ฉันก็กล้าที่จะวางมือแล้ว” นายท่านหวางเอ่ยขึ้นมาอย่างอ่อนโยนเขาไม่ได้สนใจว่าสินสอดที่อีกฝ่ายให้มานั้นจะมากน้อยแค่ไหน เพราะเขาตั้งใจว่ายื่นคืนกลับให้ว่าที่ลูกเขยและลูกสาวไว้ทำทุน เพราะอย่างไรหลินอี้เฉินย่อมก็ต้องเข้ามาช่วยดูแลกิจการของครอบครัวหวางอยู่แล้ว“ครับนายท่าน ผมจะดูแลคุณหนูและกิจการของตระกูลหวางให้ดี” หลินอี้เฉินรับปากอย่างหนักแน่นจริงจัง“ยังจะมาเรียกนายท่าน เรียกคุณหนูอยู่อีก เราจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ นายก็ควรเรียกฉันว่าพ่อได้แล้ว ส่วนหลิงหลิงนายจะเรียกชื่อเธอหรือจะเรียกภรรยาก็ตามใจนาย” นายท่านหวางพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี“ครับคุณพ่อ ผมจะดูแลหลิงหลิงกับตระกูลหวางให้ดีครับ” หลินอี้เฉินตอบใหม่อีกครั้ง“และเราสองคนจะกลับไปดูแลพ่อกับแม่ที่บ้านหลินบ่อยๆ นะคะ” หวางหลิงหลิงเองก็หันไปพูดกับหลินไป๋หานและจางฮุ่ยอี อย่างนอ

  • ทะลุมิติมาเป็นสตรีร้ายกาจ 80s   บทที่ 58 ซื้อที่ดินสร้างกิจการของตัวเอง

    บทที่ 58 ซื้อที่ดินสร้างกิจการของตัวเอง“นายมาหาฉันทำไม” หญิงสาวถามหลวนหมิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา เพราะเธอพอจะสืบเรื่องนี้มาได้เหมือนกัน“ผมมีเรื่องมาสารภาพครับ” หลวนหมิงพูดออกมาด้วยท่าทางนอบน้อมจากนั้นชายหนุ่มจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่มีคำไหนตกหล่นเลยแม้แต่น้อย ครั้งนี้เขาก็ไม่รู้ว่าหน้าที่การงานจะยังอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า แต่ก็ตัดสินใจที่จะพูดออกมาทั้งหมดเพื่อรักษาชีวิต“ฉันดีใจนะหลวนหมิง ที่นายมาสารภาพด้วยตนเองแบบนี้ ครั้งนี้ฉันถือว่านายได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่นายทำตามคำขอของหญิงคนนั้น หน้าที่การงานรวมถึงชีวิตของนายก็จะไม่เหลือ เพราะฉันเองก็คงจะต้องตามล่านายเหมือนกัน นายรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้ตระกูลหลินกับตระกูลหวางมีความเกี่ยวดองกันแล้ว”หวางหลิงหลิงพูดขึ้นมาด้วยความรู้สึกยินดี ที่ลูกน้องของคุณพ่อคนนี้กล้ามาพูดตรงๆ และกล้ายอมรับความผิดทั้งหมดด้วยตัวเอง เธอจึงพร้อมที่จะให้อภัย และให้เขาทำหน้าที่เดิมต่อไป “ครับคุณหนู” หลวนหมิงตอบกลับมาเพียงเท่านี้ ก่อนจะก้มหน้ารู้สึกผิดอีกครั้ง“ถ้าอย่างนั้นนายก็ทำหน้าที่ของนายต่อไป และเมื่อไรที่นายพบผู้หญิงที่อยากจะ

  • ทะลุมิติมาเป็นสตรีร้ายกาจ 80s   บทที่ 57 จบสิ้นเรื่องวุ่นวาย

    บทที่ 57 จบสิ้นเรื่องวุ่นวายส่วนทางด้านหลินอี้เฉิน เขาได้พาหวางหลิงหลิงมาเดินเล่นในหมู่บ้านโดยมีสายตาของชาวบ้าน ต่างก็มองอย่างอยากรู้อยากเห็น“ทำไมคุณต้องเดินห่างฉันขนาดนี้ หรือว่าคุณมีคนรักอยู่ในหมู่บ้านนี้ เลยกลัวว่าเธอจะเห็นเราสองคนเดินด้วยกันเหรอ” หญิงสาวถามขึ้นมาคล้ายกับจะหยอกล้อ แต่ความจริงเธอต้องการคำตอบนี้อย่างมาก“ผมยังไม่มีคนรักครับ แต่ที่ผมต้องเดินเว้นระยะห่างกับคุณเพราะกลัวชาวบ้านจะเอาไปนินทา แล้วจะทำให้คุณเสียหาย”หลินอี้เฉินตอบกลับอย่างจริงจัง ขณะที่ตอบก็สบตาหญิงสาวอย่างไม่หลบเลี่ยง เพราะกลัวว่าเธอจะไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้บอกไป“เป็นไปได้เหรอที่คุณจะไม่มีคนรัก ดูจากอายุแล้วน่าจะเลยวัยที่จะต้องแต่งงานแล้วนะ” เธอแสร้งถามอย่างหยอกล้ออีกครั้ง ทั้งที่หัวใจนั้นพองโตไม่น้อยกับคำตอบที่ได้รับรู้“เมื่อก่อนบ้านผมจนน่ะ ไม่มีใครอยากให้ลูกสาวต้องมาลำบากหรอกครับ” คราวนี้เขาตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ๆ เพราะนึกถึงฐานะของตนเองกับหญิงสาวที่แตกต่างกันมาก“แต่ตอนนี้บ้านของคุณมีฐานะดีขึ้นแล้วนี่ จะกลัวการแต่งงานทำไม ถ้าอย่างนั้นคุณลองมาคบหากับฉันไหม แต่คุณจะรับความเสี่ยงได้หรือเปล่าล่ะ เพร

  • ทะลุมิติมาเป็นสตรีร้ายกาจ 80s   บทที่ 56 ไม่หาเรื่อง เรื่องก็มาหา

    บทที่ 56 ไม่หาเรื่อง เรื่องก็มาหา“พี่คิดว่าฉันโหดร้ายเกินไปหรือเปล่าคะ ที่ตัดสินใจทำตามแผนการนี้”“ไม่เลย ในเมื่อลูกสาวบ้านตู้คิดจะเล่นงานน้องก่อน อย่างไรเธอก็ควรจะได้บทเรียนในครั้งนี้”โม่กวนหยางรีบตอบกลับไปอย่างอ่อนโยนทันที เขาไม่ได้มองว่าภรรยาตนเองนั้นโหดร้าย และไม่ว่าเธอตัดสินใจจะทำอย่างไร เขาก็พร้อมจะสนับสนุนทุกอย่าง แม้ว่าสิ่งที่ภรรยาของเขาทำนั้น จะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงแค่ไหนก็ตาม “ขอบคุณมากนะคะที่เข้าใจฉัน” หลินซินเยว่พูดขอบคุณและยิ้มให้สามีอย่างอ่อนโยน“ถ้าอย่างนั้นเราทำตามแผนการที่วางไว้เลยนะคะ กลับไปฉันจะได้สั่งให้คนดำเนินการเลย ส่วนคุณ เมื่อถึงเวลานั้นก็แสร้งทำทีพาคนไปพบ เรื่องนี้ตู้หลินเซียนไม่อาจหนีชะตากรรม ที่เธอได้ทำไว้ในตอนแรกแน่” หวางหลิงหลิงพยักหน้าอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าหลินซินเยว่มีความเด็ดขาด ไม่ยอมให้คนที่ทำร้ายตนเองลอยนวล“ขอบคุณมากนะคะคุณหนูหวางที่ช่วยในเรื่องนี้ ฝากขอบคุณไปถึงนายท่านหวางด้วย จริงสิ รอสักครู่นะคะ” หลินซินเยว่ยิ้มและเอ่ยขอบคุณอย่างจริงใจ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ห้องตัวเอง แล้วหยิบเอารังนกออกมาชุดใหญ่“นี่ฉันฝากไปให้นายท่านหวางด้วยนะคะ ฉันไม่รู้ว่าจ

  • ทะลุมิติมาเป็นสตรีร้ายกาจ 80s   บทที่ 55 ต้องจัดการให้เด็ดขาด

    บทที่ 55 ต้องจัดการให้เด็ดขาด“ครับ แต่อย่างไรเรื่องนี้ผมจะต้องไปคุยกับซินเยว่และพี่กวนหยางดูก่อน แต่เชื่อว่าทั้งสองคนน่าจะเห็นด้วยกับความคิดนี้ และหากจะหาใครสักคนให้แต่งงานกับตู้หลินเซียน ก็น่าเป็นชายหนุ่มจากหมู่บ้านอื่น หรือไม่ก็คงจะเป็นพวกพรานป่า หรือไม่ต้องเป็นคนที่โหดสักหน่อย เพื่อที่จะจัดการให้เธออยู่ในโอวาทได้ ไม่อย่างนั้นแล้วก็คงจะเอาผู้หญิงคนนี้ไม่อยู่”หลินอี้เฉินพูดขึ้นมาตามความคิดของเขา โดยที่เขายังไม่มีใครอยู่ในใจ แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็คงจะต้องไปคุยกับน้องสาวและน้องเขยให้ชัดเจนเสียก่อนว่า จะจัดการลูกสาวบ้านตู้อย่างไร“แต่ฉันเห็นต่างเล็กน้อย เรื่องอื่นไม่มีปัญหา แต่ชายที่จะมาแต่งงานกับตู้หลินเซียนนั้น จะต้องเป็นคนที่ยากจนเพิ่มขึ้นมาด้วย ผู้หญิงคนนั้นจะได้เลิกเชิดหน้าชูคอสักที”หวางหลิงหลิงพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง ใครจะคิดว่าเธอนั้นจะโหดร้ายเกินไปก็ช่าง แต่เพราะผู้หญิงร้ายกาจแบบตู้หลินเซียน จะต้องจัดการขั้นเด็ดขาดแบบนี้เท่านั้นพอได้ยินอย่างนั้น หลินอี้เฉินก็หันไปมองหญิงสาวเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาอย่างพึงพอใจ เขาไม่มองเลยว่าเธอนั้นโหดร้ายกับผู้หญิงด้วยกัน เพราะคนอย่างตู้ห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status