แชร์

มีชีวิตอีกครั้ง

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-16 02:40:49

“จื้อเออร์ ตื่นเถิดลูก ลูกนอนนานเกินไปแล้ว แม่จะขาดใจแล้วลูก ฮืออ”

ใคร ใครเป็นแม่ ใครเป็นลูกใคร ลู่จื้องงไปหมด ถ้าหากตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาลแล้วแม่มาจากไหน เธอเป็นเด็กกำพร้า แม่บุญธรรมเสียไปตั้งนานแล้ว แล้วนี่แม่ไหน

เธอไม่ได้อยู่ในบ้านเด็กกำพร้า ทั้งยังไม่ใช่บ้านที่อยู่กับพ่อบุญธรรมอีกด้วย ลู่จื้อสับสนจนหัวแทบจะระเบิด ร่างกายก็ปวดร้าวจนอยากจะกรีดร้องออกมา เธออยากตะโกนถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่

“ท่านแม่ ท่านกินข้าวเสียหน่อย หากท่านเป็นอันใดน้องเล็กจะต้องเสียใจเป็นแน่”

เสียงของเด็กหนุ่มที่ พูดขึ้นมา ยิ่งทำให้ลู่จื้อมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก

น้องเล็กใคร ฉันเหรอ ฉันมีพี่ชายด้วยเหรอ นี่มันเรื่องบ้าอะไร ใครแอบอ้างเป็นญาติฉัน แล้วพูดจาแปลกๆ ทำไม หรือมีกองถ่ายที่โรงพยาบาล

ลู่จื้อพยายามลืมตา แต่มันลืมไม่ขึ้น เธออยากจะส่งสัญญาณให้พวกเขารู้ว่าเธอรับรู้แล้วยังไม่ตาย แต่เธอทำอะไรไม่ได้เลย

ระหว่างนั้นความทรงจำของทรงเดิมก็ทะลักเข้ามาในสมองจนเธอแทบจะอยากหมดสติไปอีกรอบ เพราะมันปวดหัวแทบจะระเบิดออกมา เมื่อสงบสติแล้วประมวลผลจึงรู้ว่าทำไมร่างเดิมถึงได้อาการหนักจนวิญญาณหลุดออกไปแล้วเป็นเธอที่เข้ามาแทน

จางลู่จื้อวัยสิบสี่หนาว อยู่ในหมู่บ้านหนานชุน เมืองเฉียงไห่ ห่างจากเมืองหลวงนับพันลี้ (1ลี้=500เมตร) อยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้น

ครอบครัวจาง

1. จางเปียว ท่านปู่

2. ถังเซิน ท่านย่า

3. จางเสียน บุตรชายคนโต

4. เกาหง สะใภ้ใหญ่

5. จางหมิน บุตรชายคนรอง

6. จินหรู สะใภ้รอง

7. จางซู บุตรสาวคนเล็ก

8. จางหวง บุตรชายจางเสียน อายุ 17 ปี

9. จางเยว่ บุตรีจางเสียน อายุ 14 ปี

10. จางเจียง บุตรชายจางเสียน อายุ 10 ปี

11. จางลู่เพ่ย บุตรชายจางหมิน อายุ 16 ปี

12. จางลู่จื้อ บุตรีจางหมิน 14 ปี

ครอบครัวของนางนั้นเพิ่งแยกบ้านออกมา เพราะตัวลู่จื้อคนเดิมเจ็บป่วยบ่อย เมื่อก่อนพ่อของนางยังขึ้นเขาล่าสัตว์หาเงินเข้าบ้านใหญ่ได้ทำให้ป้าสะใภ้ใหญ่ยังไม่แสดงอิทธิฤทธิ์มากนัก

แต่ตอนนี้พ่อของนางช่วยเหลือนายพรานที่เข้าไปล่าสัตว์ด้วยกันจนขาเกือบจะพิการทำให้ไม่สามารถขึ้นเขาล่าสัตว์หรือทำนาได้อีก จึงทำให้ป้าสะใภ้ใหญ่ไม่พอใจที่ต้องเลี้ยงดูทั้งครอบครัว เลยหาเรื่องอยู่ทุกวัน

ลุงใหญ่ที่เชื่อเมียทุกอย่างจึงคุยกับท่านปู่ท่านย่าให้บ้านรองแยกออกมา ท่านปู่ท่านย่าไม่ยินยอม สะใภ้ใหญ่เลยขู่จะขอแยกบ้านเอง แล้วจะมีบ้านไหนยอมให้ลูกชายคนโตแยกออกมา ท่านปู่ท่านย่าจึงจำใจต้องให้บ้านรองแยกออกมาแทน

เงินนั้นทั้งบ้านหลังจากรักษาขาพ่อของนางแล้วก็เหลือเพียงสามสิบตำลึงเงิน บ้านรองได้รับมาสิบตำลึง ที่นาทำกินมีสิบไร่ แบ่งให้บ้านรอง สี่ไร่ ก็ถือว่ายุติธรรม

ท่านย่ายังให้บ้านเดิมที่เป็นของพ่อแม่ตนกับบ้านรองอีกหลังแต่อยู่ค่อนข้างห่างไกลจากบ้านอื่น (พ่อแม่ของท่านย่ามีท่านย่าเป็นลูกคนเดียว บ้านหลังนั้นคือสินเดิมของท่านย่า) 

บ้านมีเนื้อที่ห้าหมู่ ที่ป้าสะใภ้ยอมยกให้เพราะที่มันติดภูเขา เพาะปลูกก็ไม่ได้ นางจึงยอมแบบง่ายๆ

บ้านสามห้องนอน หนึ่งห้องโถง ห้องน้ำอยู่ด้านนอกบ้าน ตัวบ้านทรุดโทรมเป็นอย่างมากหากพายุเข้าคงหอบบ้านไปได้ทั้งหลังแน่ สหายของบิดายังมีน้ำใจช่วยซ่อมรั้วซ่อมหลังคาให้พออยู่ได้ไปก่อน

ตัวลู่จื้อคนก่อนที่ต้องนอนซม เพราะวันนั้นนางไปซักผ้าที่ริมแม่น้ำ พบเจอกับจางเยว่ลูกของลุงใหญ่ จางเยว่ที่หน้าตาและนิสัยถอดแบบแม่เหมือนถ่ายเอกสารออกมาเลย ก็เข้ามารังแกลู่จื้อ

ลู่จื้อที่อ่อนแอ หวาดกลัวเป็นทุนเดิมก็พยายามหลีกเลี่ยงในขณะที่ลุกหนีนั้น จางเยว่ก็เข้ามาผลักจนนางตกลงไปในแม่น้ำ ลู่เพ่ยพี่ชายลู่จื้อที่มาตามน้องสาว กลับบ้านก็เห็นจึงช่วยไว้ได้ทัน

ถึงจะช่วยขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วแต่ด้วยร่างกายที่อ่อนแอ และอากาศที่หนาวเหน็บ นางจับไข้ถึงสามวัน แม้จะตามหมอมารักษา แต่หมอเท้าเปล่าในหมู่บ้านก็หมดปัญญาจะช่วยเหลือ ได้แค่เพียงให้กินยาต้มลดไข้เท่านั้น

ส่วนจางเยว่ก็หาได้สำนึกไม่ อาจจะหวาดกลัวช่วงแรก บ้านรองที่กำลังยื้อชีวิตลู่จื้อยังไม่มีเวลาไปสอบถาม จางเยว่จึงหมดความระแวง และมีเพียงตัวนาง ลู่เพ่ย ลู่จื้อเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้

ลู่จื้อที่มาอยู่ในร่างนี้เมื่อประมวลเรื่องราวจนเข้าใจแล้ว ก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้ ส่วนจางเยว่นางจะเอาคืนให้ร่างนี้อย่างสาสมแน่นอน

หลังจากที่ลู่จื้อมาอยู่ที่โลกใหม่ได้สองวัน ร่างกายนางก็ตอบสนองได้แล้ว แต่ยังไม่มีแรงที่จะลุกไปวิ่งทำอะไรเท่านั้น

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่มารดาและพี่ชายต่างเปลี่ยนกันเข้ามาดูแลนาง ในทุกวันมารดาจะป้อนน้ำแกงให้จึงทำให้ร่างกายนี้ไม่ได้ย่ำแย่นัก ลู่จื้อลืมตาบอกเพดานห้องที่ทั้งดำและเหมือนจะพังลงมา ด้วยความหดหู่

ผนังห้องนอนมีรอยซ่อม เครื่องเรือน อ่อ เรียกเครื่องเรือนได้ไหม เพราะมีเพียงเตียงไม้ไผ่ที่นางนอนอยู่ เก้าอี้ที่เอ่อ... มีสามขา ใช่มันมีสามขา และมีหีบเก่าๆ ถ้าให้นางเดาในนั้นต้องเอาไว้เก็บเสื้อผ้า ไม่น่าจะมีของมีค่าไปมากกว่านี้แล้ว

นางต้องทำให้ตัวเองลุกขึ้นแข็งแรงโดยเร็ว จะอยู่แบบนี้ไม่ได้แล้ว ถ้าวันดีคืนดีนอนอยู่แล้วหลังคาพังลงมา ครั้งนี้ได้ไปนรกสมใจแน่

“น้องเล็ก เจ้าฟื้นแล้ว” พี่ใหญ่ที่เงียบขรึมตามความทรงจำของร่างเดิม ตอนนี้เสียงสั่นน้ำตาคลอมองมาที่น้องสาวที่นอนอย่างเลื่อนลอยบนเตียง

นางเข้าใจได้นะพี่ชายเพิ่งจะอายุเท่าไรเอง กลับต้องมาแบกรับทุกอย่าง ไหนจะดูแลท่านพ่อ แล้วมาคอยดูว่านางจะฟื้นยัง ต้องหาบน้ำ หาฟืน ขึ้นเขาหาของป่า สมุนไพร ไปขาย

“ทะ ท่านพี่ ขะ ข้า หิวน้ำ” กว่าจะพูดได้ เสียงก็เบาจนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง

ลู่เพ่ยรีบออกไปเอาน้ำมาให้น้องสาว นางชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อเห็นแก้วน้ำ (ได้ต้มน้ำไหม แล้วแก้วจะบาดปากหรือเปล่า เอาวะค่อยๆ ปรับไป) นางดื่มน้ำไปถึงสามแก้ว ลู่เพ่ยก็เอาข้าวต้มมาป้อนน้อง ยังดีที่ไม่ใช่น้ำข้าวเพียงอย่างเดียว

“น้องเล็กเจ้ากินยาแล้วนอนพัก เจ้าจะได้หายเร็วๆ” ลู่เพ่ยส่งยาให้ลู่จื้อพร้อมสายตาคาดหวังให้น้องกินลงไปเร็วๆ (ที่เขาว่ายาจีนมันขม มันขม ขมจริงๆ) กว่าจะหมดลู่จื้อแทบกัดลิ้นตาย

ยังดีที่ลู่เพ่ยยื่นน้ำมาป้อนให้นางจึงพอจะลดความขมของยาลงไปได้บ้าง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   เข้าเมืองขายสมุนไพร

    “จื้อเออร์ เจ้าพูดว่าอย่างไรก่อนที่โสมจะหายไป” จางหมินถามบุตรี“ข้ากำลังเก็บโสมใส่ตะกร้าแล้วพูดว่า ข้านำไปเก็บก่อนนะเจ้าคะ”ลู่จื้อกำลังแสดงท่าทางตอนเก็บโสมให้ทุกคนดู โดยใช้แก้วน้ำที่วางบนโต๊ะของท่านพ่อถือไว้ด้วยแก้วน้ำในมือก็หายไปพอนางพูดว่าเก็บตอนนี้เป็นนางเองที่กระโดดตัวลอย ลู่เพ่ยก็หงายหลังล้มจากเก้าอี้ นางจินหรูก็กระโดดไปจับตัวจางหมินไว้ พอสงบสติอารมณ์กันได้แล้วจึงได้รู้ว่า ลูกสาวของตนมีบางสิ่งผิดปกติ“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร” จินหรูพึมพำกับตัวเอง สติของนางล่องลอยไม่อยู่กับตัวแล้ว“จื้อเออร์ แขนของเจ้าไปโดนอะไรมา” จางหมินเห็นข้อมือลู่จื้อมีรอยเลือดที่แห้งแล้วอยู่“เอ่อ... ข้าโดนกิ่งไม้เกี่ยวตอนเข้าไปเก็บไก่ป่าเจ้าค่ะ” ลู่จื้อเพิ่งจะสังเกตเห็นข้อมือของตนมีรอยบาด ทั้งยังมีเลือดที่แห้งกรังแล้วอยู่ด้วย“เอ๊ะ” ตอนนี้นางรู้แล้วว่าของหายไปได้อย่างไรที่ข้อมือปรากฏกำไลวงที่พ่อบ้านให้นางก่อนจะไปอยู่หมู่บ้านชนบท แต่ทำไมไม่มีใครเห็น หรือนางจะเห็นเพียงแค่คนเดียวลู่จื้อลองกำหนดจิต แล้วคิดว่าให้โสมออกมา บนโต๊ะตรงหน้าก็ปรากฏตะกร้าโสมขึ้น“ปะ เป็น ไป ได้ อย่าง ไร” ลู่เพ่ย พูดตะกุกตะกักออกมา“ข้

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   หายไปไหนแล้ว

    สองพี่น้องกินข้าวแล้วพักผ่อนกันก่อน ลู่จื้อ บอกพี่ชายว่าวันนี้ยามเว่ย (13.00-14.59น.) นางจะชวนพี่ชายขึ้นเขาเผื่อมีโชคจะได้มีเงินพาท่านพ่อไปหาหมอเสียที หากช้าเกินไปขาข้างที่บาดเจ็บนางกลัวจะพิการเสียก่อนลู่จื้อนึกถึงนิยายที่นางเคยอ่าน หากขึ้นเขาต้องได้ของดีติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน ลู่เพ่ยกับลู่จื้อสะพายตะกร้าพร้อมมีดพร้าขึ้นหลังออกจากบ้านไปแม้ในใจลู่เพ่ยยังไม่อยากให้น้องสาวทำงานหนักเช่นนี้ แต่เมื่อนึกถึงขาของผู้เป็นบิดา ตัวเขาก็เห็นด้วยกับนางทันทีตีนเขาไม่มีของให้เก็บได้เลย เพราะชาวบ้านส่วนมากก็ขึ้นเขามาเก็บของป่ากัน ลู่จื้อเลยชวนพี่ชายเดินเข้าไปในป่าชั้นกลาง ป่าชั้นกลางนั้นไม่ค่อยมีชาวบ้านเข้ามากันสักเท่าใดนัก เพราะมีหมูป่าหลงเข้ามาหากินอยู่ประจำหากมิใช่พรานป่าก็ไม่มีผู้ใดที่คิดจะเข้า หากถูกมันทำร้ายเข้า มีหวังคงได้ตายมากกว่าจะมีชีวิตรอดแต่ไม่ใช่ลู่จื้อ นางอยากจะเจอหมูป่าสักตัว แต่ตลอดทางเดินมีเพียงเห็ด กับผักป่าเท่านั้น เมื่อเดินไปอีกนิด พุ่มไม้ข้างทางก็สั่นไหว ลู่จื้อเลยหยิบมีดพร้าแล้วขว้างออกไป ลู่เพ่ยที่กำลังเก็บเห็ดเพลินๆ รีบวิ่งมาหาน้องสาว“ท่านพี่ ดูนี่สิ “ลู่จื้อยกไ

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   เอาปลาไปขาย

    หลงจู๊ให้เสี่ยวเอ้อนำไปชั่งปลาหนักทั้งหมดยี่สิบสองชั่ง ได้เงินสี่ร้อยสี่สิบอิแปะ หลงจู๊หานให้มาสี่ร้อยห้าสิบอิแปะ แล้วยังย้ำว่าหากมีอีกให้ทั้งสองนำมาขายได้ตลอดอย่าดูถูกเงิน 450 อิแปะเชียว ค่าแรงในเมืองวันละ 30อิแปะ ข้าวสารชั้นเลวจินละ 25 อิแปะ (1จิน=500กรัม) ข้าวสารชั้นดีจินละ 40 อิแปะ น้ำตาลสารจินละ 40 อิแปะ เกลือจินละ 50 อิแปะ แป้งสาลีจินละ 20 อิแปะสองพี่น้องรับเงินมาก็รีบไปซื้อข้าวสาร แป้ง ทันที เพราะกลัวจะกลับถึงบ้านมืด ลู่จื้อซื้อข้าวชั้นเลวสามจิน ชั้นดีสองจิน น้ำตาล เกลือ อย่างละจิน แป้งสาลีห้าจิน จ่ายไปทั้งสิ้นสามร้อยสี่สิบห้าอิแปะ ลู่เพ่ยถึงกับปาดเหงื่อ น้องสาวใช้เงินเก่งจริงๆลู่จื้อเหลือเงินหนึ่งร้อยห้าอิแปะ จึงซื้อเนื้อหมูกลับบ้าน“เถ้าแก่ เนื้อหมูขายอย่างไรเจ้าคะ”“เนื้อหมูจินละยี่สิบอิแปะ มันหมูจินละสิบห้าอิแปะ เจ้าอยากได้แบบใดเล่า”“ข้าขอเนื้อหมูสองจิน มันหมูสามจิน กระดูกขายเท่าใดเจ้าคะ”“กระดูกสองท่อนนี้ ข้าไม่คิดเจ้าซื้อเยอะค่ายกให้แล้วกัน” กระดูกหมูส่วนมากเถ้าแก่จะเก็บไว้ให้สุนัข หากมีคนขอซื้อก็จะขายถูกๆ เพียงห้าอิแปะเท่านั้นหากลู่จื้อนางรู้ว่านางได้แย่งกระดูกสุนัข

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   เจ้าจับปลาได้อย่างไร

    ลู่เพ่ยห่มผ้าให้ลู่จื้อเสร็จแล้วจึงออกไปช่วยมารดาทำงานต่อ ผ้าห่มก็เอาเศษผ้ามาเย็บต่อกัน มันหนากว่าเสื้อผ้าที่ใส่อยู่นิดหน่อย นิดหน่อยที่หน่อยจริงๆจะด้วยฤทธิ์ยาหรือร่างกายที่อ่อนแอแบบลูกคุณก็ไม่รู้ ทำให้ลู่จื้อหลับไปทันที นางตื่นอีกครั้งก็ยามเว่ย (13.00-14.59น.) แล้วถือว่าเป็นข่าวดีของบ้านรองที่ลู่จื้อฟื้นแล้ว ลู่จื้อที่ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเรี่ยวแรงกลับมาห้าส่วนจึงลุกขึ้นเดินสำรวจบ้านตนเองถึงบ้านจะโทรมแทบจะพังแต่สะอาด รอบบ้านก็ไม่มีหญ้ารก มีแปลงผัก เรียกว่าผักมั้งเพราะมันแคระแกร็นเกินกว่าจะมองได้ออกว่าผักที่ปลูกไว้เรียกว่าอะไรด้านหลังบ้านมีแม่น้ำกว้างสองจั้งได้ (1จั้ง=3.33เมตร) หากเดินเลียบแม่น้ำไปประมาณสองลี้ ก็ถึงภูเขาที่ชาวบ้านหาของป่า ล่าสัตว์กันอย่างน้อยก็ได้ใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างที่เคยฝัน แต่ก่อนที่จะมีชีวิตแบบนั้นมันต้องมีเงินค่ะ ไหนจะซื้อที่ สร้างบ้าน ทำไร่ ทำสวน ค่าเมล็ดผัก พันธุ์ต้นไม้ ทุกอย่างมันต้องใช้เงินลู่จื้อถึงกับกุมขมับ จะหาเงินจากไหน ชีวิตก่อนเงินเต็มบัญชี อยากได้สิ่งใดเพียงแค่โทรสั่งพ่อบ้านทุกอย่างก็เรียบร้อย แต่ตอนนี้ทุนไม่มี ร่างกายก็เหมือนจะละสังขารทุกเมื่อ ใ

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   มีชีวิตอีกครั้ง

    “จื้อเออร์ ตื่นเถิดลูก ลูกนอนนานเกินไปแล้ว แม่จะขาดใจแล้วลูก ฮืออ”ใคร ใครเป็นแม่ ใครเป็นลูกใคร ลู่จื้องงไปหมด ถ้าหากตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาลแล้วแม่มาจากไหน เธอเป็นเด็กกำพร้า แม่บุญธรรมเสียไปตั้งนานแล้ว แล้วนี่แม่ไหนเธอไม่ได้อยู่ในบ้านเด็กกำพร้า ทั้งยังไม่ใช่บ้านที่อยู่กับพ่อบุญธรรมอีกด้วย ลู่จื้อสับสนจนหัวแทบจะระเบิด ร่างกายก็ปวดร้าวจนอยากจะกรีดร้องออกมา เธออยากตะโกนถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่“ท่านแม่ ท่านกินข้าวเสียหน่อย หากท่านเป็นอันใดน้องเล็กจะต้องเสียใจเป็นแน่”เสียงของเด็กหนุ่มที่ พูดขึ้นมา ยิ่งทำให้ลู่จื้อมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกน้องเล็กใคร ฉันเหรอ ฉันมีพี่ชายด้วยเหรอ นี่มันเรื่องบ้าอะไร ใครแอบอ้างเป็นญาติฉัน แล้วพูดจาแปลกๆ ทำไม หรือมีกองถ่ายที่โรงพยาบาลลู่จื้อพยายามลืมตา แต่มันลืมไม่ขึ้น เธออยากจะส่งสัญญาณให้พวกเขารู้ว่าเธอรับรู้แล้วยังไม่ตาย แต่เธอทำอะไรไม่ได้เลยระหว่างนั้นความทรงจำของทรงเดิมก็ทะลักเข้ามาในสมองจนเธอแทบจะอยากหมดสติไปอีกรอบ เพราะมันปวดหัวแทบจะระเบิดออกมา เมื่อสงบสติแล้วประมวลผลจึงรู้ว่าทำไมร่างเดิมถึงได้อาการหนักจนวิญญาณหลุดออกไปแล้วเป็นเธอที่เข้ามาแทนจา

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   ถ้าต้องตาย ก็ตายให้หมด

    ลู่จื้อ อาศัยอยู่ในไต้หวัน เธอเป็นเจ้าของกาสิโนขนาดใหญ่ ที่ส่งต่อมาจากพ่อบุญธรรมที่รับเธอมาเลี้ยงจากบ้านเด็กกำพร้า แม้ไม่ได้ให้ความรักอย่างที่คนในครอบครัวมอบให้ แต่ความรู้ เงินทองพ่อบุญธรรมก็ให้เธออย่างเต็มเปี่ยมหลังจากที่พ่อบุญธรรมเธอโดนลอบสังหารกิจการทั้งหมดจึงตกเป็นของเธอ เธอมีลูกน้องนับพันคนที่ต้องดูแล เบื้องหลังของกาสิโนไม่ได้มีแต่สิ่งบันเทิงใจแบบฉากหน้าที่เห็น การแกร่งแย่งช่วงชิงทางธุรกิจทำให้เธอต้องระวังตัวอย่างมาก เธอใช้ชีวิตหวาดระแวงอย่างอยู่ทุกวันยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว บรรดาญาติพี่น้องของบิดาต่างก็หาโอกาสลอบสังหารเธออยู่ทุกวี่วัน แม้จะรอดพ้นมาได้ในทุกครั้งแต่โชคคงไม่ได้ดีเช่นนี้ทุกวันเธอตัดสินใจแบ่งมรดกทั้งหมดให้ญาติพี่น้องของพ่อบุญธรรม ถึงคนพวกนั้นจะถนัดใช้เงินมากกว่าบริหารเธอก็ไม่สนแล้ว เธออยากออกไปใช้ชีวิตที่เรียบง่าย แบบที่เธอฝัน ตลอดชีวิตของเธอโดนฝึกให้ดูแลกิจการ แม้กระทั่งฝึกให้ฆ่าคนก็ต้องทำพ่อบุญธรรมได้เขียนพินัยกรรมยกกิจการให้กับลู่จื้อและพี่น้องของตน แต่จะยกให้ก็ต่อเมื่อลู่ จื้อเลือกทางเดินชีวิตใหม่ที่จะไม่สานต่อกิจการแล้วลู่จื้อ เบื่อชีวิตที่ต้องคอยระวังหลังตลอดจึง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status