مشاركة

อาจารย์ข้าคือซุนหงอคง

مؤلف: l3oonm@
last update آخر تحديث: 2025-06-18 05:24:44

เมื่ออ่านตำราจบแล้วทำให้รู้ว่าไม่ใช่ว่าในแคว้นฉี จะไม่มีผู้ฝึกปราณ แต่คนที่ฝึกนั้นมีน้อยมาก แล้วยังไม่มีผู้ที่เป็นผู้ฝึกตนเพื่อก้าวข้ามสู่ขั้นเป็นเซียน หากนางทำให้ครอบครัวของนางทุกคนเป็นผู้ฝึกตนได้ต่อไปครอบครัวของนางก็ไม่ต้องเกรงกลัวอำนาจของผู้ใดอีก

ลู่จื้อจึงลองเปิดจุดตันเถียนตามตำรา นางนั่งกำหนดจิตไปที่จุดตันเถียน (อยู่ด้านล่างสะดือลงไปสามนิ้วเรียกตันเถียนล่าง) เมื่อเข้าสู่สมาธิลู่จื้อค้นพบจุดแสงใจกลางตันเถียนก้อนเท่าเมล็ดถั่ว หากใช้ความรู้สึกจับจะเห็นว่าจะมีแสงหลากหลายสีกระจายโดยรอบๆ อีกมาก นางจึงค่อยๆ ดึงแสงเหล่านั้นเข้ามารวมในจุดตันเถียนให้เป็นหนึ่งเดียว

จากนั้นนางโคจรเส้นลมปราณเพื่อดึงแสงสีต่างๆ จากจุดตันเถียนระหว่างคิ้ว (เรียกจุดตันเถียนบน) และตรงกลางหัวใจ (เรียกจุดตันเถียนกลาง)

ลู่จื้อทำตามวิธีที่ตำราได้บอกไว้ นางนั่งรวบรวมแสงจนเก็บทั้งหมดเข้าจุดตันเถียนได้แล้ว นางจึงออกจากสมาธิก็พบว่าเวลาผ่านมาไม่น้อยแล้ว

และคิดว่าด้านนอกคงจะเช้าแล้ว ครอบครัวของนางคงจะเป็นห่วงที่นางหายไปที่ใดก็ไม่รู้ ตอนนี้ตัวของนางส่งกลิ่นเหม็นแถมยังมีคราบสีดำเลอะเสื้อผ้าเต็มไปหมด ชุดนี้ของนางคงจะนำมาใส่อีกไม่ได้แล้ว

เมื่อออกมาจากกระท่อม นางกำลังจะไปอาบน้ำ ลู่จื้อจึงพบว่าด้านนอกมีสิ่งที่เพิ่มขึ้น ด้านหลังปรากฏภูเขาทอดยาวหลายลูก ลำธารที่ไหลมาจากภูเขาไหลลงสู่บึงดอกบัว นางจึงเดินลงไปอาบน้ำเพราะตอนนี้เหม็นตัวเองแทบจะทนไม่ไหวแล้ว

“เอ๊ะ”

ยามที่แช่น้ำอยู่นั้น ของเหลวสีดำก็ไหลออกมาจากตัวของนางมากมายจนน่าตกใจ

ด้วยกลัวว่าครอบครัวจะเป็นห่วง นางจึงเลิกสนใจสิ่งประหลาดทั้งหมด ก่อนจะรีบออกไปด้านนอก

แล้วนางก็ต้องแปลกใจยิ่งกว่าเดิม เมื่อออกมาอยู่ภายในห้องเวลาด้านนอกเพิ่งจะผ่านไปเพียงไม่ถึงหนึ่งก้านธูป (ประมาณ30นาที)

“เหลือจะเชื่อ” นางพึมพำออกมา ก่อนจะล้มตัวลงนอนทันที

เช้าวันใหม่ ลู่จื้อเดินออกมาเตรียมตัวล้างหน้าล้างหน้า

"เจ้า เจ้าเป็นใคร เข้ามาในบ้านข้าได้อย่างไร" ลู่จื้อขมวดคิ้วไม่เข้าใจในสิ่งที่ลู่เพ่ยพูด

"ท่านพี่ ท่านจำน้องสาวของตนเองไม่ได้หรือ หรือว่าท่านไม่สบาย" ลู่จื้อมองลู่เพ่ยอย่างมองคนเสียสติ ที่เขาจำนางไม่ได้

"จื้อเออร์ เจ้าไปทำอันใดมา ทำไมเจ้าถึงเป็นเช่นนี้" ลู่จื้อจับไปที่หน้าของตน แล้วคิดว่าหรือตนล้างคราบดำออกไม่หมด นางจึงเดินไปที่โอ่งน้ำข้างห้องครัวเพื่อส่องดูสภาพตนเอง

“เฮ้ยยย” นางร้องออกมาด้วยความตกใจ

เมื่อใบหน้าของนาง พร้อมทั้งผิวพรรณเปลี่ยนไปมากนัก ราวกับว่าเป็นคนละคนไปเลย นางไม่คิดว่าร่างนี้จะงดงามมากเช่นนี้

ใบหน้าตอนนี้นั้นไม่มีเค้าโครงเดิมเหลืออยู่เลย กลายเป็นดรุณีน้อยนางหนึ่งที่งดงามเป็นอย่างมาก ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งดั่งวงเดือน ดวงตาเรียวยาวหางตาตวัดโค้งขึ้น อิ่มฝีปากอวบอิ่มดั่งผลอิงเถา (เชอร์รี่) รวมๆ แล้วเรียกได้ว่านางกลายเป็นสาวงามล่มเมืองไปแล้ว

ลู่เพ่ยที่ได้สติหลังจากมองน้องสาวอย่างโง่งมก็วิ่งไปตามมารดาที่ดูแลบิดาอยู่ นางจินหรูเมื่อเห็นลู่จื้อยังตกใจ จากนั้นก็คว้ามือบุตรสาวรีบเข้าไปให้ห้องของจางหมิน

ตอนนี้ทั้งสามคน มองหน้าลู่จื้ออย่างมีคำถาม จนลู่จื้อต้องรีบเล่าเรื่องราวในมิติจิตให้ฟัง แต่ตอนนี้ทั้งหมดไม่มีเวลาคิดอะไรแล้ว ต้องรีบทำอาหารเพราะใกล้ถึงเวลาที่นัดหมอฉีเอาไว้

“จื้อเออร์ เจ้าไปหาผ้ามาปิดหน้าไว้ก่อนเถิด” จางหมินจึงให้บุตรสาวใส่ผ้าปิดบังใบหน้าไว้ก่อน จะได้ไม่เป็นที่ผิดสังเกต

“เจ้าค่ะ” ก่อนจะเดินออกไปจากห้องของบิดาลู่จื้อถูกลู่เพ่ยดึงแขนเอาไว้

“น้องพี่ เจ้าสอนข้าเปิดจุดตันเถียนบ้างได้หรือไม่” ลู่เพ่ยก็กระซิบกระซาบกับน้องสาวขอให้ช่วยตนเปิดจุดตันเถียนบ้าง

ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะดูดีขึ้น แต่หากเปิดจุดตันเถียนได้เขาก็สามารถฝึกกำลังภายในได้ ในห้องตำราภายในมิติจิตอาจจะมีตำราให้เขาได้ฝึกวรยุทธ์ก็เป็นได้

“ได้เจ้าค่ะ” ลู่เพ่ยยิ้มกว้างออกมาเมื่อลู่จื้อนางรับปาก ก่อนจะปล่อยให้นางเดินไปหาผ้ามาปิดบังใบหน้าไว้

หมอฉีมาตรงเวลาที่ได้นัดหมายกันไว้ เมื่อตรวจบาดแผลของจางหมินจึงพบว่ายังสามารถรักษาได้ แต่หมอฉีไม่รับปากว่าจะเดินได้เป็นปกติเหมือนเดิมหรือไม่

ทั้งสามได้ยินก็ดีใจ ถึงจะเดินไม่เหมือนเดิมอย่างน้อยบิดาของตนก็สามารถลุกขึ้นมาใช้ชีวิตได้เหมือนคนอื่น หมอฉีเขียนเทียบยา และบอกวิธีดูแลแล้วจริงกลับออกไป ค่าตรวจท่านหมอฉีไม่คิดเพราะอยากผูกสัมพันธ์กับครอบครัวจาง ผู้ที่หาโสมมาได้มากถึงสามหัวในคราวเดียว

หากหมอฉีได้รู้ว่าลู่จื้อนางยังมีอีกหลายหัวไม่รู้ว่าจะตกใจมากเพียงใด

ลู่จื้อก็ตระหนักในเรื่องนี้ดี นางจึงแจ้งกับหมอฉีว่าจะนำโสมแดงที่นางกำลังทำนั้นไปขายให้ร้านยาฮุ่ยชิวเพียงแห่งเดียวเท่านั้น หมอฉีจึงดีใจอย่างมากที่ตนเลือกไม่รับค่าตรวจครั้งนี้

“เจ้ารู้วิธีทำเช่นนั้นรึ” น้อยคนนักที่จะทำออกมาได้ ต่อให้ทำออกมาก็ยังไม่อาจจะบอกได้ว่าสามารถใช้ได้จริงหรือไม่

แต่เด็กสาวตรงหน้าที่ยังไม่พ้นวัยปักปิ่นกับพูดเรื่องนี้ออกมาได้อย่างกับมั่นใจเสียเต็มสิบส่วน

“เจ้าค่ะ ข้าเคยเห็นอาจารย์ทำมาก่อน” ลู่จื้อโกหกออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย

“เช่นนั้นรึ อาจารย์ของเจ้าคือใครกันเล่า” หมอฉียังสงสัยไม่หาย

“อาจารย์ข้าซุนหงอคงเจ้าค่ะ เป็นผู้ฝึกตน มิได้อยู่เป็นหลักแหล่ง ก่อนจะออกเดินทางได้ทิ้งตำราไว้ให้ข้าเล่มหนึ่ง ข้าจะลองทำออกมาแล้วจะนำไปให้ท่านตรวจดูว่าใช้ได้หรือไม่” ลู่จื้อคิดชื่อไม่ออกแล้ว นางจึงกล่าวอ้างถึงซุนหงอคงตัวละครที่นางชื่นชอบ

“อืม...เจ้าวาสนาดีไม่น้อย ได้พบผู้ฝึกตน” หมอฉีมองนางอย่างชื่นชม ก่อนจะเอ่ยพูดอีกสองสามประโยคแล้วขอตัวกลับไป

“จื้อเออร์ อาจารย์เจ้าเหตุใดถึงชื่อประหลาดนัก” จางหมินมองบุตรสาวอย่างหยอกล้อ เมื่อนางเอ่ยเล่าเป็นตุเป็นตะเรื่องอาจารย์ของนาง

“อาจารย์ของข้าเก่งมากเลยนะท่านพ่อ เป็นถึงเทพวานรเลย” ลู่จื้อยิ้มจนตาหยี ก่อนจะขอตัวไปหาตำราให้ลู่เพ่ย

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   ตอนพิเศษ3

    เมื่อทั้งสองพนันกันว่าหวังเหอรุ่ยจะตามมาหรือไม่ ลู่จื้อนางบอกว่าจะต้องตามมาในวันต่อไปเลย ส่วนโจวหรงเฉิงไม่คิดว่าจะตามมาด้วยคิดว่าคงกลัวคำขู่จองเขาอยู่บ้าง“เหอะ เจ้ามาจ่ายให้ข้าด้วย” โจวหรงเฉิงหันไปถลึงตามองหวังเหอรุ่ยที่รีบตามมาเร็วเกินไปจนเขาต้องเสียเงินให้เมียรักถึงหนึ่งพันตำลึงทอง“ดะ ได้ขอรับ ว่าแต่อาเยว่เล่านางอยู่ที่ใด”“หึ ข้าให้โอกาสเจ้าครั้งสุดท้าย หากอาเยว่เลิกสนใจในตัวเจ้า เจ้าต้องห้ามยุ่งกับนางอีก แล้วถ้าเจ้าทำให้อาเยว่นางเสียใจอีกครั้ง...” โจวหรงเฉิงมิได้บอกว่าจะจัดการหวังเหอรุ่ยเช่นไร แต่เขาปล่อยพลังปราณใส่ตัวของหวังเหอรุ่ยแม้จะอยู่ในขั้นจักรพรรดิ หวังเหอรุ่ยยังเจ็บจนต้องกลืนเลือดที่เกือบจะกระอักออกมาคืนกลับลงไป โจวหรงเฉิงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ ก่อนตัวของหวังเหอรุ่ยจะเข้าไปอยู่ภายในมิติ“ท่านเก่งมากท่านพี่ คืนนี้ข้าจะมอบรางวัลให้ท่านดีหรือไม่” ลู่จื้อช้อนสายตามองเขาอย่างยั่วยวน“ตอนนี้เลยมิได้รึ” โจวหรงเฉิงอุ้มเมียรักกลับขึ้นห้องพักทันทีโดยไม่สนใจสายตาตกตะลึงของตนในโรงเตี๊ยมที่มองพวกเขาอย่างตกตะลึง ชาวบ้านเพียงแค่ได้ยินเรื่องผู้ฝึกตน แต่ไม่เคยพบเห็นกับตาเช่นนี้“เย่เยว่”

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   ตอนพิเศษ2

    นางอุตส่าห์ได้ปิ่นที่หวังเหอรุ่ยทำขึ้นด้วยตนเองมาจากมารดาที่เอ่ยขอมาตั้งนาน ทั้งยังปักมาเพื่อให้เขาได้เห็น แต่ไม่คิดว่าจะมาเห็นภาพบาดตาเข้า“อาเยว่เจ้าเอาของมาให้ข้ารึ วางไว้เถิด ประเดี๋ยวจะให้บ่าวยกไปเก็บ” เขาไม่ได้มองใบหน้าที่ตกตะลึงของนางเลย“หลานสาวท่านพี่เคยเอ่ยเล่าใช่หรือไม่เจ้าคะ” สตรีใบหน้างามไม่น้อยหันมาส่งยิ้มหวานให้ฟานเยว่“ใช่ อาเยว่ นี่แม่นางฝูหลิน...”“ท่านจะแต่งนางเป็นภรรยาใช่หรือไม่เจ้าคะ” ฟานเยว่เอ่ยถามหวังเหอรุ่ยเสียงแข็ง“...” เขามิได้เอ่ยตอบนาง“ใช่แล้ว ต่อไปเจ้าก็ต้องเรียกข้าว่าท่านป้าสะใภ้” ฝูหลินยังคงยิ้มแย้มอย่างใจดีให้ฟานเยว่“เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าไม่รบกวนเวลาสำราญของท่านแล้ว ท่านลุง” ฟานเยว่ยิ้มอย่างเจ็บปวดให้เขา ก่อนจะหันหลังกลับออกจากจวนตระกูลหวังไป โดยไม่หันมามองหวังเหอรุ่ยอีกเลย“ท่านต้องทำเช่นนี้ด้วยรึใต้เท้าหวัง บุรุษทั่วเมืองหลวงล้วนแต่อยากจะพิชิตนางให้ได้ มีเพียงท่านที่นางปักใจ แต่กลับใจร้ายกับนางเช่นนี้” ฝูหลินเอ่ยตำหนิเขาออกมานางเป็นหญิงขับร้องในหอนางโลม มิใช่หญิงคณิกา รู้จักกับหวังเหอรุ่ยมาหลายปีแล้ว ที่นางไม่ยอมขายคืนแรกให้ผู้ใดก็รอเพียงแค่เขาเท่าน

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   ตอนพิเศษ1

    ลู่จื้อเดินทางมาถึงเมืองหลวง ครอบครัวของนางที่เขียนจดหมายส่งข่าวให้รู้ก่อนหน้า ก็พากันออกมารอต้อนรับอย่างคับคั่ง“นั่น หลานสาวข้าใช่หรือไม่” จินหรูชี้นิ้วที่สั่นเทาไปทางฟานเยว่ที่โบกมืออยู่บนหลังม้าตัวเดียวกับผู้เป็นบิดา"ท่านยาย ท่านตา ฟานเยว่เจ้าค่ะ” นางลงจากหลังม้าได้ก็วิ่งเข้าไปหาจางหมินและจินหรู“รู้จักตากับยายด้วยรึ” จางหมินมองหลานสาวอย่างเอ็นดู“เจ้าค่ะ ท่านแม่เล่าเรื่องท่านตาท่านยายให้ข้าฟังทุกวันเลย โอ๊ะ...ท่านพ่อก็เล่าเรื่องท่านปู่กับท่านย่าด้วยเจ้าค่ะ” ฟานเยว่กลัวเสนาบดีโจวและฮูหยินโจวจะเสียใจจึงได้เอ่ยขึ้นมา“ฉลาดนักหลานสาวข้า” เสนาบดีโจวหัวเราะอย่างชอบใจ“ท่านลุงเพ่ย ท่านลุงหยาง พวกท่านมีน้องให้ข้ารึยัง” ใบหน้าของทุกคนแข็งค้างไป เมื่อฟานเยว่หันไปเอ่ยถามลู่เพ่ยและหลินตงหยางที่ออกมารอรับอยู่ด้วย“ฮ่า ฮ่า อาเยว่ เจ้าช่างปากร้ายเหมือนบิดาไม่มีผิด” เซียวซีซวนที่อุ้มบุตรสาวตัวน้อยของเขามาด้วยก็หัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ“กลับจวนกันก่อนเถิดขอรับ” โจวหรงเฉิงอุ้มฟานเยว่กลับมา เขาปิดปากน้อยๆ ของบุตรสาวไว้ไม่ได้ส่วนลู่จื้อเส้นเลือดที่ข้างขมับของนางเต้นไม่หยุด เจ้าบุตรสาวตัวแสบไม่รู้

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   ฟานเยว่

    โจวหรงเฉิงที่เห็นเช่นนั้นจึงได้ช้อนตัวนางลงมาอยู่ในสระน้ำ ความเจ็บเมื่อครู่ค่อยๆ จางหายไป เขาจึงกดลำทวนเข้าไปจนสุดลำ“ดีแล้วหรือยัง”“อืม...”“ให้ข้าขยับเลยหรือไม่” เขากระซิบถามที่ข้างหู“หากไม่ขยับก็เอาออกไปซะ” ลู่จื้อกัดฟันแน่น นางเริ่มจะหงุดหงิดบุรุษหน้าหนาเสียแล้ว“หึหึ” โจวหรงเฉิงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ ก่อนจะเริ่มขยับเอวเข้าออกอย่างช้าๆ แล้วเร็วขึ้นจนน้ำในสระกระเพื่อมออกไปนอกสระ“อ๊ะ...อ๊า” ลู่จื้อกัดปากแน่น เมื่อเขาเริ่มขยับเอวหนาเข้าออกอย่างไม่คิดจะผ่อนเลย“จื้อเออร์ ข้ามีความสุขยิ่งนัก” โจวหรงเฉิงเชิดหน้าขึ้นอย่างเสียวซ่าน ก่อนที่น้ำรักจะพุ่งเข้าสู่ช่องทางรักของลู่จื้ออย่างเต็มเปี่ยมแสงหลากหลายสีภายในสระบัวพุ่งวนอยู่รอบตัวของทั้งคู่ยามที่ทั้งคู่เสร็จสมจากการร่วมรักลู่จื้อและโจวหรงเฉิงมองไปรอบๆ อย่างไม่เข้าใจ เพียงครู่เดียวร่างกายของทั้งสองก็ราวกับจะปริแตก เมื่อพลังปราณในร่างกายต่างวิ่งวนอย่างสับสน“อื้อ...” ลู่จื้อร้องออกมาเสียงเบา โจวหรงเฉิงเม้มปากแน่น กอดลู่จื้อที่ร่างยังผสานกันอยู่แน่นขึ้นความเจ็บปวดเกิดไม่นาน สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือดวงตาของทั้งสองเปล่งประกายไปด้วยสีทองอร

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   ข้าขอเข้าหอก่อน

    หากจะถามว่าเรื่องของลู่เพ่ยและหลินตงหยางเกิดขึ้นเมื่อใด ก็คงตั้งแต่ที่เขาเดินทางมาที่เมืองหลวง ตอนที่หลินตงหยางมักจะเข้ามาอยู่ในมิติเพื่อเดินลมปราณ ลู่เพ่ยที่ได้เข้าไปช่วยดูแล ทำให้ทั้งสองรู้ใจตนเอง หลังจากนั้นก็ลอบนัดพบกันโดยที่ไม่มีผู้ใดรู้เห็นแม้แต่ลอบเข้ามาในจวนยามค่ำคืนหลินตงหยางก็ทำมาแล้ว และดูเหมือนว่าจะบ่อยครั้งกว่าที่โจวหรงเฉิงได้พบลู่จื้อในมิติเสียอีก“เชื่อข้าพี่เพ่ย ท่านต้องรักตนเอง อย่าสนใจสายตาของผู้ใด หากท่านเลือกแล้วว่าเป็นแม่ทัพหลิน ท่านเป็นถึงผู้ฝึกตนจะมีใครกล้าว่าท่านใด”“อืม...เข้าใจแล้ว” เขายิ้มกว้างออกมา เหมือนว่าเรื่องหนักอกได้ถูกยกออกไปแล้วหลินตงหยางเป็นคนที่ไม่สนสายตาของผู้ใดอยู่แล้ว เขาต้องการจะบอกเรื่องนี้กับสหายหลายครั้ง แต่ก็ถูกลู่เพ่ยขอร้องเอาไว้ตลอดเกี้ยวแปดคนหามเคลื่อนตัวไปที่จวนตระกูลโจวหลังใหม่ ด้านหน้าเกี้ยวมีเสี่ยวเฮยที่คืนร่างเดิม เดินนำหน้าอยู่อย่างน่าเกรงขามเมื่อเกี้ยวหยุดลง โจวหรงเฉิงก็เดินเข้ามาอุ้มตัวเจ้าสาวลงไม่ยอมให้นางได้เดิน ชาวเมืองได้แต่ชะเง้อคอมองด้วยอยากรู้ว่าสตรีที่อยู่ในอ้อมแขนของโจวหรงเฉิงงามมากเพียงใด เขาถึงไม่กล้าให้เท้าของนาง

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   งานมงคลของลู่จื้อ

    เสนาบดีโจวตัวเขามีสามภรรยา สี่อนุ เช่นบุรุษส่วนมากในเมืองหลวง ที่โจวหรงเฉิงเอ่ยถามก็เพียงสงสัยว่าเขาสามารถตัดใจจากเมียรักทั้งหมดได้รึ“เหอะ ข้าไม่เป็นแล้วก็ได้” เขาแค่นเสียงออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ภรรยาทุกคนของเขาล้วนแต่มีบุตร หากให้ทิ้งขว้างพวกนางก็ดูจะไร้คุณธรรมเกินไป“ท่านไม่ต้องห่วงว่าจะมีเมียเพิ่มไม่ได้นะเจ้าคะ ข้าจะมอบน้ำพุจิตวิญญาณไว้ให้ท่านสักสองโอ่ง” ลู่จื้อชูนิ้วขึ้นมาด้วยสองพ่อลูกหันมาถลึงตามองลู่จื้อกันใหญ่ พร้อมทั้งเสียงหัวเราะของฮูหยินโจวที่ลู่จื้อพูดได้ถูกใจนางเสียจริงทั้งหมดแยกย้ายกลับไปที่จวนเพื่อจัดการเก็บข้าวของที่นำมาด้วยไม่น้อยเลย ลู่จื้อบอกกล่าวบิดาเรื่องที่นางจะเดินทางเที่ยวไปทั่วแคว้นจางหมินจึงต้องหาซื้อที่ดินในเมืองหลวงเพื่อปลูกผัก โดยมีเซียวซีซวนให้การช่วยเหลือ มันคือผลประโยชน์ของเขาทั้งสิ้นลู่จื้อบอกเรื่องจะทิ้งน้ำพุจิตวิญญาณไว้ที่จวนให้มากเสียหน่อย เพื่อให้เขาผสมน้ำใช้รดผักที่ปลูก ส่วนผลไม้ ก็จะมีวางขายเพียงแค่ไม่กี่อย่างแทนแต่สิ่งที่ลู่จื้อนึกไม่ถึงคือ เสนาบดีโจวหลังจากที่กลับไปวันนั้น เขาก็เรียกภรรยาและบุตรทั้งหมดมาพบ ก่อนจะจัดการแบ่งทรัพย์สินที่มีให้ท

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status