หน้าหลัก / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด / บทที่ 5 ท่านแม่จะได้อุ้มหลานเร็ว ๆ นี้

แชร์

บทที่ 5 ท่านแม่จะได้อุ้มหลานเร็ว ๆ นี้

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-11 09:59:33

บทที่ 5 ท่านแม่จะได้อุ้มหลานเร็ว ๆ นี้

ภายในห้องโถงมีสตรีสองนางกำลังพูดคุยหารือกัน สตรีที่มีอายุนั่งอยู่ด้านขวาคือ ‘ฟางเหนียง’ มารดาของท่านแม่ทัพเทียนหลันเซ่อ กำลังใช้มือลูบหลังสตรีที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมืออย่างอ่อนโยน นางกำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กเช็ดน้ำตาที่กำลังรินไหลออกมา ใบหน้าของนางสง่างามไร้ที่ติแถมนางยังเป็นบุตรสาวของท่านใต้เท้าหลิวผู้ที่มีอำนาจนางคือ ‘หลิวอี้เฟ่ย’ สตรีที่มีใจให้แก่ท่านแม่ทัพเทียนหลันเซ่อ

“หลิวอี้เฟ่ยเจ้าหยุดร้องไห้คร่ำครวญเถิดนะ ตอนนี้เทียนหลันเซ่อบุตรชายของข้าได้แต่งฮูหยินเข้ามาแล้ว เราต้องช่วยกันคิดจะทำอย่างไรต่อไปจะดีกว่ามาคร่ำครวญเช่นนี้ "

“ท่านป้าข้าเจ็บตรงนี้เหลือเกินเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าข้าจะได้เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพเสียอีก เหตุไฉนท่านแม่ทัพถึงไปคว้าสตรีที่ต่ำต้อยเช่นนั้นมาเป็นฮูหยิน ข้าไม่ดีตรงไหนหรือเจ้าคะ” เสียงเล็กแหลมสะอึกสะอื้นไห้ เอ่ยออกมาอย่างเจ็บช้ำน้ำใจนางรักเทียนหลันเซ่อจากใจจริงแม้ว่าเขาเคยมีภรรยาหรือมีลูกติดนางเองไม่ได้สน คอยมาหามาดูแลมารดาของท่านแม่ทัพอยู่บ่อยครั้ง จนเอาชนะใจของฟางเหนียงได้

“ไม่เลยเจ้าดีทุกอย่าง เหมาะสมกับเทียนหลันเซ่อทุกประการ แต่ที่เขาแต่งงานในครั้งนี้นั้นเพราะเหตุจำเป็น เอาเช่นนี้แล้วกันอย่างไรข้าเองก็มิได้ชอบฮูหยินของเขา ระหว่างที่นางอยู่ที่นี่ข้าจะบีบบังคับให้นางทนไม่ได้และจากที่นี่ไปเองหลังจากนั้นข้าจะให้เทียนหลันเซ่อไปสู่ขอเจ้าดีหรือไม่? ตอนนี้เจ้าหยุดร้องก่อนเถอะนะ”

“จริงนะเจ้าคะ”

“จริงนะสิเพราะเจ้าเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นฮูหยินของเทียนหลันเซ่อ” ฟางเหนี่ยงเอ่ยปลอบจนสตรีตรงหน้าหยุดร้องไห้ เช็ดหยาดน้ำตาสักพักนางได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังย่างเท้าเข้ามา ทั้งสองจ้องมองพบเห็นว่าตอนนี้เทียนหลันเซ่อกำลังเดินเข้ามา หลิวอี้เฟ่ยใบหน้าระรื่นขึ้นเมื่อเห็บบุรุษที่นางเฝ้าถวินหา นางรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้คารวะเขาทันที

“คารวะท่านแม่ทัพ” นางเงยหน้าขึ้นมองพร้อมยิ้มโปรยเสน่ห์ใบหน้าแดงก่ำอย่างเขินอาย

“คุณหนูหลิวอี้เฟ่ยเองหรอกหรือแขกของท่านแม่ ข้าคิดว่าผู้ใด”

“เหตุใดถึงเอ่ยกับหลิวอี้เฟ่ยเหินห่างเช่นนั้นเล่า มิใช่เจ้ารู้ว่านางมาจึงมาหาข้าแต่เช้าหรอกหรือ”

“ท่านแม่ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหลิวอี้เฟ่ยมาที่นี่ แต่ที่ข้ามาหาท่านแม่เพราะจะพาฮูหยินมายกน้ำชาให้ท่านแม่ขอรับ” เมื่อได้ยินว่าเขาพาฮูหยินมารอยยิ้มของหลิวอี้เฟ่ยก็จางหายทันที ส่วนหลี่มี่ที่ยืนอยู่ด้านหลังยังไม่เข้ามาด้านในเมื่อได้ยินชื่อนางร้ายนางเองก็อยากเห็นเช่นกันว่าสตรีนางนี้จะงดงามเพียงใด รีบเดินเข้ามาคารวะท่านแม่ของเขา

“ข้าน้อยเยิ่นเม่ยเม่ยคารวะท่านแม่” ฟางเหนียงชักสีหน้าเย็นชาต่างจากที่อยู่กับหลิวอี้เฟ่ยอย่างเห็นได้ชัด

“น้ำชามาแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้ที่ท่านแม่ทัพให้ไปนำน้ำชาได้เดินเข้ามาทันเวาลาพอดี หลี่มี่อ่านหนังสือมามากพร้อมกับดูซีรี่ส์ฉากนี้จึงเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับนาง ทั้งเทียนหลันเซ่อกับหลี่มี่ได้ยกน้ำชาให้ฟางเหนียงแม้เขาจะไม่ชอบเยิ่นเม่ยเม่ยแต่เวลาที่อยู่ต่อหน้าบุตรชายของตัวเองต้องเสแสร้งแกล้งทำดี เพราะไม่อยากให้บุตรชายต้องคิดมาก

ไม่นานก็ยกน้ำชาเสร็จ หลี่มี่รู้สึกได้ว่าถูกสายตาของหลิวอี้เฟ่ยจ้องมองอยู่ตลอด เมื่อนางยกน้ำชาเสร็จฟางเหนียงให้ทั้งสองมานั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน

“เจ้าทั้งสองมานั่งร่วมโต๊ะดื่มน้ำชาแล้วค่อยไป ข้าจะให้สาวใช้ไปนำของมามอบให้เยิ่นเม่ยเม่ยเพื่อเป็นการต้อนรับนาง” ฟางเหนียงผายมือให้ทั้งสองมานั่งที่เก้าอี้ก่อนจะหันไปมองหน้าสาวใช้ให้ไปนำกล่องสมบัติของนางมาให้

“ขอรับท่านแม่ รีบลุกมานั่งนี่สิ” เทียนหลันเซ่อประคองตัวหลี่มี่ให้ลุกขึ้นเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตามที่ท่านแม่บอก

“เจ้าค่ะ” หลี่มี่ลุกขึ้นจะมานั่งเก้าอี้ตัวข้าง ๆ หันไปมองหลิวอี้เฟ่ยที่ยืนอยู่จึงเอ่ยชวนให้นางมานั่งด้วยกัน

“เอ่อ…เชิญมานั่งด้วยกันสิเจ้าคะ”

“จริงสิหลิวอี้เฟ่ยเจ้านั่งเก้าอี้ตัวที่ใกล้ท่านแม่ทัพสิ ส่วนเจ้ามานั่งใกล้ ๆ ข้า ข้าจะมอบของให้” ฟางเหนียงเอ่ยพลางชี้นิ้วให้หลี่มี่มานั่งใกล้ ๆ ตน นางจึงทำตาม สักพักสาวใช้ได้ยกกล่องไม้สี่เหลี่ยมแกะสลักอย่างสวยงามแค่มองดูผ่านสายตาครั้งเดียวก็รู้ว่ากล่องนั้นน่าจะเป็นกล่องเก็บของมีค่าของฟางเหนียง นางเปิดกล่องออกมาล้วงเอากำไลสีเขียวมรกตมอบให้แก่หลี่มี่ เพื่อเป็นของจวัญตอนรับลูกสะใภ้

“นี่ข้าให้เจ้า”

“ขอบน้ำใจท่านแม่มากเจ้าค่ะ” หลี่มี่รับกำไลจากมือของฟางเหนียงมาถือไว้ แม่ทัพมองดูอย่างมีความสุขที่ท่านแม่ของเขาเอ็นดูนางส่วนหลิวอี้เฟ่ยที่มองอยู่ก็ต้องรู้สึกอิจฉาหากรองแม่ทัพมิได้รับดาบแทนท่านแม่ทัพปานนี้คนที่จะได้รับของนั้นต้องเป็นนนาง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งฮูหยินหรือทุกอย่างที่เกี่ยวกับท่านแม่ทัพล้วนต้องเป็นของนางทุกอย่าง หัวใจของหลิวอี้เฟ่ยร้อนรุ่มด้วยไฟริษยา

“จริงสิว่าแต่แม่นางหลิวอี้เฟ่ยมาหาท่านแม่แต่เช้าเช่นนี้มีเรื่องด่วนอันใดหรือไม่? ” เทียนหลันเซ่อหันไปถามสตรีที่นั่งอย่ข้าง ๆ

“ไม่ได้มีเรื่องด่วนอันใดเจ้าคะ ท่านแม่ทัพก็รู้ว่าข้ามาหาท่านป้าอยู่บ่อย ๆ ”

“นั่นสิ เพราะมีหลิวอี้เฟ่ยมาคอยดูแลข้ากับอ้ายเยว่ทำให้เราทั้งสองไม่เหงาเวลาที่เจ้าไม่อยู่ นับว่าหลิวอี้เฟ่ยมีบุญคุณกับแม่ยิ่งนัก” ฟางเหนียงรีบเยินเยอความดีความชอบให้นางอย่างออกหน้าออกตา

“โธ่ ท่านป้าเรื่องแค่นี้หาใช่บุญคุณไม่ข้าล้วนทำด้วยใจนะเจ้าคะ” หลี่มี่ที่นั่งฟังอยู่ก็ต้องแสยะยิ้มมุมปาก

‘ช่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขรุ่ย เสนอตัวให้ท่านแม่ทัพอย่างเห็นได้ชัด แต่ฉันจะไม่ยอมหรอกนะเพราะในนิยายเยิ่นเม่ยเม่ยคิดว่าหลิวอี้เฟ่ยดีกับตนแต่ที่ไหนได้ นางแค่แสร้งทำเป็นดีด้วยแต่โยนความผิดทุกอย่างให้ เฮอะ! คอยดูเถอะฉันจะไม่ยอมให้ทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนในเนื้อเรื่องหรอก’ หลี่มี่คิดในใจก่อนจะฉีกยิ้มคว้ามือไปจับมือของหลิวอี้เฟ่ยจนนางสะดุ้งตกใจ

“ช่างมีบุญคุญยิ่งนัก ช่างเป็นสตรีที่งดงามทั้งใบหน้าและจิตใจต้องขอบคุณแม่นางหลิวอี้เฟ่ยที่ดูแลแม่สามีกับบุตรชายแสนน่ารัก แต่ต่อจากนี้แม่นางคงไม่ต้องลำบากแล้ว เพราะข้าเป็นฮูหยินเป็นภรรยาของท่านแม่ทัพเป็นสะใภ้ เป็นท่านแม่ของคุณชายอ้ายเยว่ต่อจากนี้ทุกอย่างในจวนนี้ข้าจะดูเองมิให้คุณหนูหลิวอี้เฟ่ยต้องมาลำบากอีกแล้ว” ใบหน้าของฟางเหนียงกับหลิวอี้เฟ่ยพลันเปลี่ยนสี ไม่คิดว่าเยิ่นเม่ยเม่ยจะเอ่ยออกมาเช่นนี้ แต่นางก็ยังคงยิ้มรับพร้อมลูบมือของหลี่มี่คืน

“ฮูหยินที่ข้าทำมิใช่ความลำบากอันใด ข้าล้วนเต็มใจข้าเห็นท่านป้าเป็นดั่งท่านแม่ของข้า เห็นคุณชายอ้ายเยว่เป็นดั่งบุตรชายหากท่านมิให้ข้ามาคงยากเพราะข้าต่างผูกพันธ์”

‘อะไรกัน! นี่ฉันพูดไปขนาดนี้แล้วยังดึงดัน เหอะสมกับเป็นนางร้ายจริง '

“นั่นสิ แม้ว่าแม่นางหลิวอี้เฟ่ยจะเป็นผู้อื่นแต่ข้าเองก็มองนางเป็นบุตรสาวของข้า เจ้าไม่ต้องกังวลเทียนหลันเซ่อหากเจ้าหมดธุระก็จงพาฮูหยินเจ้ากลับไปเถอะ ข้ามีเรื่องจะต้องพูดคุยกับหลิวอี้เฟ่ยต่อ” เทียนหลันเซ่อที่นั่งมองเหตุการณ์เขากอดอกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองการแสดงของหลี่มี่อย่างขบขัน

“ขอรับท่านแม่ ข้าว่าจะขอกลับหลังจากที่ยกน้ำชาเสร็จแต่เห็นว่าฮูหยินพูดคุยเข้ากันได้ดีกับหลิวอี้เฟ่ยข้าจึงยังไม่เอ่ยขอออกไป เช่นนั้นข้าขอตัวฮูหยินกลับห้องพักก่อนนะขอรับ” ฟางเหนียงโบกมือไล่บุตรชายออกไปอย่างเหนื่อยหัวใจ

“รีบ ๆ ไปเถิด”

“ท่านแม่ข้าขอตัวไปพักก่อนนะเจ้าคะ เพราะเมื่อคืนนี้ท่านแม่ทัพไม่ให้ข้าพักเลย ร่างกายกำยำเรี่ยวแรงก็มากมายสมกับเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ ต่อจากนี้ท่านแม่จะไม่ต้องเหงาอีกเป็นแน่เจ้าค่ะ ข้าคิดว่าไม่นานท่านแม่อาจจะได้อุ้มหลานคนที่สองแน่ ๆ ข้าขอลานะเจ้าคะท่านแม่ คุณหนูหลิวอี้เฟ่ย” ก่อนลาหลี่มี่ก็มิลืมที่จะเอ่ยคำพูดที่ทำให้หลิวอี้เฟ่ยดวงตาร้อนพราว ส่วนเทียนหลันเซ่อกลับถูกใจยิ่งนัก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   ตอนพิเศษ บทที่ 4 เขาคือคนที่ฉันคิดถึงมาตลอด

    บทที่ 4 เขาคือคนที่ฉันคิดถึงมาตลอดไม่นานนักเซ่อเหลียนได้กลับมาพร้อมยาที่เขาตั้งใจไปซื้อมาให้เธอเขาเดินเข้ามาในห้องของหลี่มี่ได้ยินเสียงน้ำที่หยดลงพื้น เขาจึงเดินไปที่ห้องครัวของเธอเปิดตู้เย็นเพื่อดูของจะทำอาหารให้เธอได้กินเช้านี่แต่กลับไม่เห็นอาหารที่มีประโยชน์เลยมีเพียงอาหารสำเร็จรูปเท่านั้น"เธอใช้ชีวิตอย่างไรเนี้ยะ! ทำไมไม่มีอะไรกินเลย” เขาบ่นพึมพำอยู่หน้าตู้ก่อนจะคว้าอาหารสำเร็จรูปมาต้มให้เธอได้กินก่อนจะกินยาหลี่มี่อาบน้ำเสร็จเธอเดินออกมาจากห้องน้ำผมยังไม่แห้งดีกลิ่นสบู่อ่อน ๆ ออกมาจากเธอทำให้เขาหันไปมองเพราะตอนนี้เธอมายืนดูเขาอยู่“ทำอะไรเหรอ”“หาอะไรทำให้คุณกินนะสิ ทำไมไม่มีอะไรเลยนอกจากอาหารสำเร็จรูปแบบนี้”“เฮ้อ! นายไม่ต้องสนใจการอยู่การกินของฉันหรอกนะ มานี่ฉันมีเรื่องจะพูดกับนายมากมายเรื่องกินเอาไว้ก่อน” เธอดึงมือของเขาออกจากห้องครัวไปนั่งที่โซฟาเพื่อตกลงเรื่องที่เกิดขึ้น“เรื่องที่จะพูดคงไม่คิดผลักไสไล่ส่งผมหรอกนะ รู้มั้ยว่าคุณคือคนที่พรากความบริสุทธิ์ของผมไป” เซ่อเหลียนกลัวว่าเธอจะไม่ให้เขาได้เจอเธออีกเลยเอ่ยออกมาแบบนี้“เฮ้อ! ฉันไม่เข้าใจนายเลย เอาอย่างนี้หากเรื่องที่เก

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   ตอนพิเศษ บทที่ 3 ฉันจะรับผิดชอบเอง

    บทที่ 3 ฉันจะรับผิดชอบเองเมื่อพาเธอเข้านอนเขาได้จัดแจงนำกระเป๋าของเธอวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง สายตาของเขาจ้องมองรอบ ๆ ห้องของหลี่มี่เห็นรูปที่เธอสั่งวาดช่างเหมือนเขาเหลือเกิน ยิ่งทำให้เขาดีใจที่เธอไม่เคยลืมเขาแม้แต่น้อย“ดีใจจังเลยที่เธอไม่เคยลืมฉัน ...คงเสียใจมากสินะที่กลับมาทั้งอย่างนี้ เธอเป็นคนเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตของฉัน ขอบคุณนะหลี่มี่” เขาหันมามองเธอที่หลับอยู่บนเตียงอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ก่อนที่เขาจะกลับบ้านของตัวเองได้เข้าไปนั่งข้างเธอยื่นมือไปลูบหน้าของเธอย่างอ่อนโยน“ดูสิไม่ว่าตอนนั้นหรือตอนนี้เธอยังคงงดงามเช่นเดิม” เขาลูบหน้าของเธอก่อนจะลุกเพื่อกลับบ้านแต่แล้วหลี่มี่กลับจับมือของเขาเอาไว้แน่นละเมอออกมาเสียงแผ่วเบา“อย่าไปนะ อย่าจากฉันไป อึก อึก ฉันเหงาเหงามากเหลือเกิน” แม้ว่าเธอจะไม่ลืมตาแต่น้ำตาของเธอไหลรินออกมาอย่างช้า ๆ“เธอใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีใครมาตลอดอย่างนั้นเหรอ แล้วอย่างนี้ฉันจะหักห้ามใจตัวเองไม่ให้อยากโอบกอดเธอได้อย่างไร” เซ่อเหลียนใช้มืออีกข้างเช็ดหยาดน้ำตาให้หลี่มี่ส่วนมืออีกข้างของเขาตอนนี้ถูกเธอกอดเอาไว้แน่น เขาพยายามแกะมือของเธอออกอย่างแผ่วเบากลัวว่าเธอจะตื

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   ตอนพิเศษ บทที่ 2 เจอกันอีกครั้ง

    บทที่ 2 เจอกันอีกครั้งหลังจากที่เขาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเขียนจึงได้รู้ว่าอีกไม่กี่วันจะมีการรับรางวัลมีรายชื่อของนักเขียนหลี่มี่ที่เขาต้องการพบ เซ่อเหลียนจึงตั้งใจจะไปพบเธอให้ได้ เขาเฝ้ารอการพบเจอจนกระทั่งได้เห็นเธอขึ้นไปบนเวทีรับรางวัล ใบหน้าของเธอช่างเหมือนเยิ่นเม่ยเม่ยอย่างไรอย่างนั้น ตอนที่เธอพูดถึงหนังสือเรื่องนี้ที่ทำให้เธอได้รับรางวัลในครั้งนี้ เขายิ่งมั่นใจว่าเธอคือคนที่เขาตามหา"นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉันรักมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครทุกเหตุการณ์ที่ฉันบรรจงแต่งออกมาแต่ละบทความฉันใช้ความรู้สึกของฉันเขียนไปด้วย เมื่อตัวละครมีความสุขฉันก็มีความสุขหากเมื่อไหร่ที่ตัวละครฉันเสียใจฉันเองก็เสียใจไม่น้อยร้องไห้จนไม่เป็นอันทำอะไร ฉันไม่คิดเลยว่านิยายของฉันเรื่องนี้จะเป็นที่ยอมรับของทุกคน ขอบคุณนะคะสำหรับรางวัลนี้และขอบคุณที่ให้โอกาสนักเขียนตัวน้อยได้มาโลดแล่นในวงการนี้ฉันขอสัญญาจะตั้งใจเขียนนิยายออกมาให้ดีที่สุด ขอบคุณค่ะ" รอยยิ้มแววตาที่เขาคุ้นเคยแม้กระทั่งน้ำเสียงของเธอเขาจดจำได้ทุกอย่าง น้ำตาแห่งความดีใจได้หลั่งไหลออกมา เขาที่นั่งอยู่ด้านหลังสุดรีบเช็ดน้ำตาหัวใจของเขาเต้นแรงตึกตั

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   ตอนพิเศษ บทที่ 1 ทะลุมิติ

    บทที่ 1 ทะลุมิติ"เฮือก!!! " ชายนอนอยู่บนเตียงลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงงวย มองซ้ายมองขวาต้องตกใจเข้าไปใหญ่ สถานที่ที่ไม่คุ้นเคยช่างแปลกตายิ่งนัก แม้แต่เตียงที่นอนอยู่ก็มิใช่เตียงที่เขานอนในทุกวัน"ที่นี่ที่ใดกัน!! หรือว่าข้าถูกศัตรูลักพาตัวมา ไม่ได้การแล้วข้าต้องรีบหาทางออกไปจากที่นี่ต้องหาผู้บงการในครั้งนี้เพื่อจัดการให้สิ้นซาก" เทียนหลันเซ่อลุกขึ้นจากเตียงมองพนังสีขาวเป็นห้องสี่เหลี่ยมเดินสำรวจก่อนจะเปิดประตูค่อย ๆ ย่องเพื่อหลบหนีเขาเดินออกมาต้องตกใจมากกว่าเดิม ด้านนอกมีสิ่งแปลกประหลาดมากกมาย เขามองซ้ายมองขวาไม่พบเจอผู้คนเขามองเห็นโต๊ะที่ไม่เคยเห็นจึงนั่งลงเพื่อครุ่นคิดแต่แล้วเขากลับนั่งทับรีโมททำให้ทวีต่อหน้าได้เปิดขึ้นเสียงดัง ทีวีได้ฉายข่าวเทียนหลันเซ่อไม่เคยเห็นเขาตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ"นั่นใครกัน!! ออกมามาเดี๋ยวนี้นะ เจ้าเป็นใคร" เขาชี้นิวไปด้านหน้าทีวีพลางกระโดดขึ้นโซฟา จู่ ๆ มีหญิงชราเดินเข้ามาในมือถือทัพทีใบหน้าคิ้วขมวด"อะไรของแกกันห่ะ!!! ตื่นมาโวยวายเช่นนี้ได้อย่างไร เวรกกรรมอะไรของฉันมีลูกโตขนาดนี้แล้วแต่ยังต้องคอยหาเลี้ยงอีก " เทียนหลันเซ่อคิ้วขมวดอย่างสงสัยสตรีด้าน

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 55 นักเขียนหน้าใหม่

    บทที่ 55 นักเขียนหน้าใหม่หลี่มี่ได้ถูกรับเชิญให้ไปรับรางวัลนักเขียนหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จในงานเลี้ยงฉลองนักเขียนดัง ๆ ระดับแถวหน้าของประเทศ เธอแต่งหน้าอยู่ที่กระจกแม้เวลาผ่านไปหนึ่งปีแต่เธอยังคงคิดถึงเทียนหลันเซ่อพระเอกนิยายตัวเองไม่จางหายเขาไม่เคยหายไปจากใจของเธอเลย แม้กระทั่งน้ำเสียงหรือใบหน้าเธอยังคงจำได้ดีแต่ทว่าตอนนี้เธอไม่ได้ร้องไห้เหมือนที่ผ่านมาเธอกลับยิ้มออกมาอย่างสุขใจ "เทียนหลันเซ่อปานนี้ท่านจะเป็นอย่างไรนะ รู้หรือไม่ว่าฉันคิดถึง วันนี้เป็นวันที่ฉันประสบความสำเร็จถ้ามีท่านอยู่เคียงข้างคงจะดี เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวสิยังไงทุกวันนี้ฉันก็มีเทียนหลันเซ่ออยู่ข้างกายอยู่แล้ว วันนี้เราไปรับรางวัลด้วยกันนะ" หลี่มี่หยิบหนังสือของตัวเองพร้อมถือออกจากห้องไปพร้อม ๆ กัน ฝั่งด้านเทียนหลันเซ่อหลังจากที่เขากลับมาจากทะเลวันนั้น เยิ่นเม่ยเม่ยดูอ่อนโยนมากกว่าเดิมวาจานิสัยไม่เหมือนเดิมแถมยังเหมือนสตรีที่สูงส่งแต่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่เหตุใดความรู้สึกของเขาเสมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างขาดหายไป วันนี้เขามายืนจ้องมองดวงจันทร์ที่ลอยอยู่บนฟากฟ้าลมเย็นกระทบกาย จู่ ๆ รอยยิ้มใบหน้าที่เขาคิดถึงก็ปรากฎข

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพลูกติด   บทที่ 54  ลาจากด้วยความรัก

    บทที่ 54 ลาจากด้วยความรักเทียนหลันเซ่อจ้องมองสตรีตรงหน้าอย่างสุขใจ ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งเขาย้อนเวลามาอีกครั้ง หากเป็นเช่นดั่งอดีตเขาก็คงไม่มีทางรู้ว่ามีสตรีที่เขารักและรักเขามาเพียงใด นางเข้ามาเติมเต็มทุกอย่างในชีวิตของเขาจริง ๆ หลี่มี่วางมือของเทียนหลันเซ่อพร้อมหันหลังไปมองพลุที่ยังคงถูกจุดอีกหลายดอกบนท้องฟ้า น้ำทะเลไหลมาสัมผัสที่เท้าจนหลี่มี่ต้องก้มมองดูแต่แล้วหัวใจของนางต้องหล่นวูบเมื่อบัดนี้ไม่ใช่แค่เท้าหรือขาของนางที่เลือนรางตอนนี้บนตัวของนางก็เริ่มเลือนรางขึ้นมาเรื่อย ๆ นางไม่เข้าใจทำไมคนอื่นไม่เห็นเหมือนนางหรือมีเพียงแค่นางผู้เดียวที่เห็นความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ นางไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นแค่คิดนางก็ใจหายรีบหันไปมองหน้าของเทียนหลันเซ่ออย่างลึกซึ้งอีกครั้ง "ท่านพี่เจ้าคะ วันนี้ข้าอยากให้ท่านสัมผัสตัวข้าช่วยมอบจูบที่ลึกซึ้งให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ""ได้สิทำไมข้าจะให้เจ้าไม่ได้แค่เพียงจูบ" พูดจบเทียนหลันเซ่อโอบกอดหลี่มี่ก้มลงประทับจูบที่นุ่มนวลหอมหวานแต่ทว่านางกลับรู้สึกเสียใจ เพราะหากเป็นอย่างที่นางคิดนี่จะเป็นจูบสุดท้ายที่นางจะได้รับจากเขา ทั้งสองจูบกันท่ามกลางแสงพลุที่ส่องประ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status