หน้าหลัก / ระบบ / ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐินียุค 80 / ตอนที่ 5 ทำของว่างให้ทุกคนชิม

แชร์

ตอนที่ 5 ทำของว่างให้ทุกคนชิม

ผู้เขียน: ลัยลา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-22 11:14:01

มู่เฉินขับรถพาสองสาวเดินทางไปเซินเจิ้น มีชิงเหยียนนั่งด้านหน้าข้างคนขับคู่กันไปกับเขา ส่วนเมิ่งเหยานั่งด้านหลัง โดยก่อนหน้านี้มู่เฉินให้ทั้งสองสาวไปนั่งด้านหลังด้วยกันทั้งคู่ ตัวเองทำหน้าที่เป็นคนขับ แต่ชิงเหยียนไม่ยอมรีบเสนอตัวมานั่งด้านหน้าบอกว่าอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ชวนมู่เฉินพูดคุยจะได้ไม่ง่วง

เมิ่งเหยาไม่ได้แสดงท่าทีเสนอตัวหรือคัดค้านอะไร มู่เฉินเองก็ตอบรับความหวังดีของชิงเหยียนให้เธอมานั่งหน้ารถด้วยกัน ผ่านไปได้ครึ่งทางถึงจุดแวะพัก มู่เฉินก็ให้เวลาเด็กสาวไปยืดเส้นยืดสายทำธุระส่วนตัว เช่นเดียวกันกับเขาที่เข้าห้องน้ำเสร็จก็ไปซื้อน้ำและขนมมาให้ทั้งคู่

“นี่ขนมเปี๊ยะไส้เนื้อของที่นี่อร่อยมากเลยนะเอาไปชิมสิ” มู่เฉินกล่าวพร้อมยื่นขนมไปให้ชิงเหยียนที่ยืนอยู่ข้างตัวรถด้วยกันกับเมิ่งเหยา

“ขอบคุณมากค่ะพี่มู่เฉิน พี่ใจดีมากเลย” ชิงเหยียนเอ่ยขอบคุณพร้อมรับขนมไปด้วยรอยยิ้มจนแก้มแทบปริ ส่วนเมิ่งเหยาไม่ได้ใส่ใจอะไรเดินกลับไปขึ้นรถประจำที่นั่งของตนเองทางด้านหลังเงียบๆ มู่เฉินตั้งใจจะบอกให้ชิงเหยียนแบ่งขนมกับเมิ่งเหยาด้วย แต่เขาเห็นท่าทีเฉยเมยเช่นนั้นของเธอจึงไม่ได้เอ่ยปากอะไรออกไป

“เมิ่งเหยาขนมเปี๊ยะไส้เนื้อที่พี่มู่เฉินซื้อให้ฉัน เอ่อ..ซื้อมาให้ อร่อยมากเลยล่ะ อยากลองชิมดูสักหน่อยไหม” ชิงเหยียนทำเป็นใจดีหันไปชวนเมิ่งเหยา

“ไม่ล่ะ เธอกินตามสบายเถอะ ฉันง่วงนอนขอหลับก่อนล่ะ” เมิ่งเหยาเอ่ยจบก็หลับตาลงไปทั้งอย่างงั้น

“เมิ่งเหยานี่แย่จริง..นั่งรถมาด้วยกันแท้ๆ ไม่คิดจะช่วยชวนพี่มู่เฉินคุยบ้างเลย ดูสินอนหลับสบายไปแล้ว ทำอย่างกับว่าพี่มู่เฉินเป็นคนขับรถงั้นแหละ” ชิงเหยียนไม่วายหาเรื่องว่ากล่าวเมิ่งเหยาอีก เมิ่งเหยาเพียงแค่หลับตาลงไม่ได้นอนหลับจริงๆได้แต่กร่นด่าอยู่ในใจ

‘เชอะ..นังชาเขียว ขนมในมิติพิเศษของฉันอร่อยกว่านั้นเยอะ แล้วตัวเองอาสาชวนอีตาหน้านิ่งนั่นพูดคุยเองนี่ จะมาลากฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทำไมกัน อีตาคุณหมอนั่นก็ไม่ได้อยากพูดคุยอะไรกับฉันสักหน่อย’ เมิ่งเหยาคิดก่อนจะหลับต่อไม่สนใจอะไรอีก

ผ่านไปราวแปดชั่วโมง พวกเขาก็เดินทางมาถึงบ้านสกุลซุนที่เซินเจิ้นซึ่งเป็นเวลาเย็นแล้ว เมื่อมาถึงมู่เฉินก็พาเมิ่งเหยาและชิงเหยียนเข้าไปพบทุกคนในครอบครัว ซึ่งนายท่านและคุณนายซุนพ่อแม่ของเขานั่งรอพูดคุยกันอยู่ที่ห้องรับแขกอยู่ก่อนแล้ว ส่วนน้องชายซุนลี่จิ่นนั้นยังไม่กลับจากที่ทำงาน

“สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้าซุน” เมิ่งเหยาและชิงเหยียนกล่าวทักทายสองผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม

“นี่เหยาเอ๋อ กับเหยียนเอ๋อสินะ โตกันหมดแล้วหน้าตาสะสวยจริงๆ” คุณนายซุนเอ่ยทักทายสองสาวซึ่งยิ้มรับกลับไป

“คุณลุงคุณป้าคะ พ่อกับแม่หนูให้นำชาดีจากไร่ชาลู่ซางเฉินมาฝากค่ะ” บุตรสาวลูกจ้างไร่ชาอย่างชิงเหยียนกล่าว จากนั้นก็นำชาจากไร่ของครอบครัวสกุลลู่ไปมอบให้กับสองผู้อาวุโส ส่วนบุตรสาวเจ้าของไร่ชานิ่งไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นบ้าง

“หนูรู้อยู่แล้วว่าชิงเหยียนต้องมีน้ำใจนำชาจากไร่สกุลลู่มาให้คุณลุงคุณป้าแน่ ดังนั้นหนูจึงเปลี่ยนของฝากเป็นพืชผักผลไม้สดๆจากสวนหลังบ้านที่หนูกับพ่อแม่ช่วยกันปลูกขึ้นมาเองนะคะ แล้วขอทำของว่างให้คุณลุงคุณป้าได้ทานกันเพื่อเป็นสิ่งตอบแทนเล็กๆน้อยๆ ที่เมตตาให้หนูมาพึ่งพาอาศัยบ้านสกุลซุนด้วยค่ะ” เมิ่งเหยากล่าว พร้อมนำพืชผักผลไม้ที่เตรียมมาด้วย ยื่นให้กับแม่บ้านหลี่ หลี่ถิงหยวน แม่บ้านซึ่งทำงานประจำอยู่ที่บ้านสกุลซุน

“เมิ่งเหยา เธอทำอาหารเป็นด้วยงั้นเหรอ” ชิงเหยียนเอ่ยออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะเธอไม่เคยเห็นเมิ่งเหยาทำอาหาร ไม่เคยกินหรือรู้มาก่อนว่าเมิ่งเหยาทำอาหารได้ เพราะปกติเธอเห็นเพียงพ่อแม่ของเมิ่งเหยาเป็นคนเข้าครัวทำอาหาร เอาอกเอาใจดูแลเมิ่งเหยาราวกับไข่ในหิน ไม่ค่อยให้หยิบจับทำอะไรมากนัก

ซึ่งนั่นเป็นเพียงภาพภายนอกที่ชิงเหยียนเห็นรวมทั้งต้องการให้คนอื่นเข้าใจในแบบเดียวกันกับเธอ จึงเที่ยวสร้างข่าวลือไปทั่วหมู่บ้านฉางจงไห่ก่อนหน้านี้ว่าเมิ่งเหยาเกียจคร้านไม่เอาการเอางาน ไม่ช่วยเหลือทางบ้านทำอะไรเลย ซึ่งเมิ่งเหยาเจ้าของร่างเดิมคนก่อนหน้านี้ไม่ได้ใส่ใจจะโต้เถียงหรือแก้ข้อกล่าวหาใดๆ รวมไปถึงไม่สนใจเรื่องอื่นๆอีกมากมายที่มีชิงเหยียนอยู่เบื้องหลังคอยปล่อยข่าวลือเสียหายเกี่ยวกับตัวเธอด้วย

“แน่นอนสิ ปกติฉันอยู่บ้านก็เข้าครัวทำอาหารให้พ่อกับแม่ทานบ่อยๆอยู่แล้ว”

“ทำไมฉันไม่เห็นรู้เลยล่ะ”

“เธออยู่บ้านหลังเดียวกันกับฉันงั้นเหรอ? ชิงเหยียน..ยังมีอีกหลายอย่างที่ฉันทำได้แต่ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ จนทำให้คนในหมู่บ้านเข้าใจผิดเพราะข่าวลือจากผู้ไม่หวังดีว่าฉันเกียจคร้าน ไม่ช่วยพ่อแม่ทำอะไรเลยนั่นไงล่ะ” เมิ่งเหยาถามย้อนกลับไป พร้อมเอ่ยตอกหน้าชิงเหยียน ทำเอาเธอถึงกับพูดไม่ออก ส่วนนายท่าน คุณนายซุนและมู่เฉินที่นั่งอยู่ด้วยกันก็อึ้งไปเล็กน้อย เนื่องจากพวกเขาเองก็เคยได้ยินข่าวลือเช่นนี้มานานแล้วเหมือนกัน

“เอาล่ะ ถ้างั้นเหยาเอ๋อ อยากทำของว่างอะไรก็จัดการได้ตามสบายเลยนะ คิดซะว่าบ้านนี้เป็นบ้านของตัวเองก็แล้วกัน” นายท่านซุนเอ่ยอย่างใจดี

“ขอบคุณค่ะคุณลุง” เมิ่งเหยาตอบกลับก่อนจะเข้าไปในครัวซึ่งแม่บ้านหลี่กำลังเตรียมมื้อเย็นอยู่ด้วย

“คุณหนูลู่ใช่ไหมคะ เชิญใช้ห้องครัวได้ตามสบายเลยค่ะ” แม่บ้านหลี่เอ่ยอย่างสุภาพเป็นกันเอง

“อย่าเรียกว่าคุณหนูเลยค่ะป้าหลี่ เรียกหนูว่าเมิ่งเหยาหรือเหยาเอ๋อเถอะค่ะ” เมิ่งเหยาเอ่ยอย่างสุภาพ แม่บ้านหลี่ยิ้มพอใจ จากนั้นเมิ่งเหยาก็ลงมือทำของว่างซึ่งเธอนำวัตถุดิบมาจากมิติพิเศษ

‘ซูเปอร์มาร์เก็ตของฉันมีวัตถุดิบทุกชนิด ตั้งแต่ระดับกลางไปถึงพรีเมียม อีกอย่างในโลกก่อนหน้านี้ฉันกับย่าเปิดร้านอาหารช่วยกันทำช่วยกันชิมมานานหลายปี ฝีมือการทำอาหารของฉันมันไม่ธรรมดาอยู่แล้ว คอยดูเถอะชิงเหยียนว่าฉันจะตอกหน้าเธอกลับไปยังไง’ เมิ่งเหยาคิดก่อนจะลงมือทำแพนเค้กทานกับเบคอนและน้ำเชื่อมไซรัป รวมทั้งมีผลซิ่งหรือแอปปริคอทเชื่อมเอาไว้ทานคู่กันกับแพนเค้กอีกอย่างหนึ่งด้วย

“โอ้โห นี่อะไรน่ะ ดูหน้าตาน่ากินดีนะจ้ะ” คุณนายซุนเอ่ยเมื่อเห็นเมิ่งเหยาจัดแพนเค้กคู่กับเบคอนทอดวางเอาไว้ด้านบนจานหนึ่ง ก่อนจะหันไปจัดอีกจานเป็นผลซิ่งเชื่อมกับแพนเค้ก 

“แพนเค้กค่ะ เป็นขนมของว่างหรืออาหารแบบตะวันตก หนูทำเป็นสองอย่าง มีเบคอนทอดราดตามด้วยน้ำเชื่อมกินกับแพนเค้ก ส่วนอีกจานเป็นแพนเค้กทานคู่กับผลซิ่งเชื่อม ส่วนนี่เป็นชาหมักที่หนูใช้ใบชาจากไร่มาลองทำให้ทุกคนได้ชิมดู รสออกเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อยสดชื่นทีเดียวค่ะ” เมิ่งเหยานำเสนอของว่างแบบตะวันตกและชาที่เธอหมักขึ้นมาด้วยตัวเองโดยใช้ใบชาจากไร่สกุลลู่ทำเป็นเครื่องดื่มสมัยใหม่เรียกว่าคอมบูชา(Kombucha)ดังเช่นในโลกก่อนหน้านี้ที่เธอกับย่าชอบดื่มมาให้ทุกคนได้ลิ้มลองกัน

“อืมน่ากินทีเดียว งั้นลุงขอลงมือชิมก่อนล่ะ” นายท่านซุนเอ่ยด้วยความสนใจก่อนจะลงมือชิมของว่างฝีมือเมิ่งเหยาซึ่งเธอแบ่งให้แม่บ้านหลี่ทานด้วยและเธอก็ชอบมาก

“อร่อย รสชาติดีมาก ด้านบนนี่ทำจากเนื้อหมูสินะ” นายท่านซุนเอ่ยถาม สงสัยในรูปร่างหน้าตาของเบคอนทอด อาหารที่เขาไม่คุ้นเคยหรือได้ชิมที่ไหนมาก่อน

“ใช่ค่ะ..นี่เรียกว่าเบคอน คล้ายกับหมูหมักเกลือตากลมของบ้านเรา แต่นี่หนูทำในรูปแบบของทางตะวันตกพร้อมอบรมควันด้วยไม้แอปเปิล ออกมามีรสและกลิ่นหอมละมุนกว่าที่เราทานกันทั่วไป ถ้าคุณลุงชอบเอาไว้หนูจะทำเพิ่มเก็บเอาไว้ให้ทานกันที่บ้านนะคะ” เมิ่งเหยากล่าวพร้อมนำเสนอ

‘เธอทำเบคอนเป็นก็จริง แต่วัตถุดิบที่นำมาใช้นี้เธอเอามาจากมิติพิเศษซึ่งมีไม่จำกัดอยู่แล้ว แป้งแพนเค้กรวมทั้งผลซิ่งเชื่อมและน้ำเชื่อมไซรัปก็เหมือนกัน ล้วนเป็นวัตถุดิบชั้นดีจากซูเปอร์มาร์เก็ตในห้วงมิติพิเศษทั้งนั้น หากสกุลซุนต้องการเธอนำออกมาให้ได้ตลอด’ เมิ่งเหยาคิด เธอช่างโชคดีนักที่มีมิติพิเศษจากแหวนของคุณย่าติดตัวมาด้วย

“น่าทึ่งจริงๆ อายุยังน้อยแต่ดูเหมือนว่าเธอจะทำอะไรได้หลายอย่างเลยนะ” คุณนายซุนเอ่ยชม มู่เฉินเองก็อดทึ่งไม่ได้เช่นกัน คิดไม่ถึงว่าเมิ่งเหยาจะมีความสามารถและฝีมือในการทำอาหารด้วย ส่วนชิงเหยียนกำหมัดแน่นไม่พอใจที่เมิ่งเหยาดึงความสนใจและได้รับคำชื่นชมมากมายจากครอบครัวสกุลซุนตั้งแต่วันแรกที่มาถึง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐินียุค 80   ตอนที่ 8 บาร์บีคิวมื้อพิเศษ

    เมิ่งเหยาเอ่ยทักทายพร้อมถามสองพี่น้องมู่เฉินกับลี่จิ่นที่ตั้งท่าจะออกไปตามหาเธอด้วยความเป็นห่วง“เหยาเอ๋อกลับมาก็ดีแล้ว ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลยล่ะนั่น” คุณนายซุนเอ่ยทักทายด้วยท่าทีปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ ส่วนมู่เฉินกับลี่จิ่นก็ทำท่าเนียนๆไปกับแม่ของพวกเขาเช่นกัน“มีวัตถุดิบเป็นพวกเนื้อสัตว์ เครื่องปรุง เครื่องเทศที่จะนำมาทำรายการอาหารมื้อพิเศษให้ทุกคนได้ทานกันน่ะค่ะ”“รายการอาหารพิเศษงั้นเหรอ อะไรน่ะ” ลี่จิ่นเดินเข้ามาหาเมิ่งเหยา พร้อมเอ่ยถามด้วยความสนใจทันที ส่วนมู่เฉินเดินกลับไปนั่งไม่ห่างออกไปจากพ่อแม่เขาเท่าไหร่นัก“บาร์บีคิวค่ะ เป็นเนื้อกับผักหรือผลไม้ นำไปเสียบไม้แล้วทาด้วยซอสชนิดพิเศษก่อนนำไปย่างจนสุก รอชิมนะคะ” เมิ่งเหยาอธิบายคร่าวๆ พร้อมตั้งท่าจะเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารจานเด็ด“อะไรนะ บะ..คิวอะไรน่ะ” ลี่จิ่นเอ่ยถามงงๆ“บาร์บีคิวค่ะ เป็นเนื้อกับผักหรือผลไม้เสียบไม้แล้วทาด้วยซอสชนิดพิเศษก่อนนำไปย่างจนสุก รอชิมนะคะ” เมิ่งเหยากล่าว พร้อมตั้งท่าจะเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารจานเด็ด“เดี๋ยว มานั่งนี่ก่อน ป้าหลี่ช่วยเอาของเข้าไปเก็บทีครับ” มู่เฉินกล่าวกับเมิ่งเหยาเ

  • ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐินียุค 80   ตอนที่ 7 พบเจอเพื่อนวัยเด็ก

    ชิงเหยียนมาอยู่ที่บ้านสกุลซุนได้ราวหนึ่งสัปดาห์แล้ว เธอออกตระเวนสำรวจพื้นที่ ซึ่งตั้งใจจะนำข้าวของรวมทั้งอาหารจากมิติพิเศษมาขาย และในระหว่างที่เธอกำลังสำรวจอยู่นั้นก็ได้พบกับสหายเก่าเข้าโดยบังเอิญ“เหยียนเอ๋อ นั่นเธอใช่ไหม” หญิงสาวรูปร่างหน้าตาดี เดินเข้ามาทักทายเมิ่งเหยาขณะสำรวจที่ทางทำมาหากินอยู่ในย่านตลาดกลางเมือง“ลี่เอ๋อ เธอนั่นเอง ดีใจจังที่ได้เจอเธอที่นี่” เมิ่งเหยาทำท่านึกอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะจำได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นเพื่อนในหมู่บ้านที่เรียนและเล่นด้วยกันมากับเมิ่งเหยาตั้งแต่ยังเด็ก นามว่าฉินเหม่ยลี่ซึ่งครอบครัวย้ายจากเมืองหวงซานมาเซินเจิ้นเพื่อทำธุรกิจเช่นเดียวกันกับสกุลซุนหลังจบจากชั้นมัธยมต้นเมิ่งเหยาจึงไม่ได้เจอเพื่อนคนนี้อีก ทั้งที่ความจริงแล้วสนิทสนมกันไม่น้อยเลย“ใช่ฉันเอง เหยาเหยา..เธอมาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ” เหม่ยลี่ถามด้วยความตื่นเต้นยินดีที่ได้พบเจอเพื่อนรักอีกครั้ง ทั้งยังเอ่ยเรียกเมิ่งเหยาอย่างสนิทสนมคุ้นเคยด้วย“ฉันมาเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยที่นี่น่ะ แล้วเธอล่ะเป็นยังไงบ้าง สบายดีนะ” เมิ่งเหยาตอบพร้อมถามกลับไป“ฉันสบายดี ฉันเองก็กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยอยู่เหมือนกั

  • ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐินียุค 80   ตอนที่ 6 แสดงฝีมือในการทำอาหาร

    ชิงเหยียนไม่พอใจที่เมิ่งเหยาดึงความสนใจในครอบครัวสกุลซุนไปหมด ทั้งยังคิดไม่ถึงด้วยว่าเมิ่งเหยาจะมีฝีมือในการทำอาหารได้หลากหลายอย่างเช่นนี้“เมิ่งเหยา เธอนี่เก่งนะ แต่อยู่ที่บ้านไม่เห็นเธอจะหยิบจับทำอะไรเลย ถ้าลุงกับป้าลู่พ่อแม่ของเธอรู้เข้าคงเสียใจแย่ที่ลูกสาวมาลงมือทำอาหารให้คนอื่นกิน แต่ตัวเองกลับไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน” ชิงเหยียนมิวายหาเรื่องใส่ความเมิ่งเหยาอีกครั้ง“ชิงเหยียน ฉันเคยถามเธอแล้วนะว่าเธออยู่บ้านหลังเดียวกันกับฉันเมื่อไหร่กัน ถึงได้รู้เห็นว่าฉันทำอะไรหรือไม่ทำอะไรบ้าง อีกอย่างพ่อแม่ฉันเคยชิมอาหารฝีมือฉันตั้งหลายครั้งหลายหนแล้ว พ่อแม่เธอเองก็น่าจะรู้ดีนะ เพราะฉันไปส่งอาหารมื้อกลางวันให้พ่อกับแม่ที่ไร่ชาออกจะบ่อยไป อ้อ..ฉันลืมไป เธอที่ชอบพูดบอกกับคนอื่นว่าไปช่วยเหลือพ่อแม่ทำงานในไร่ชาเพื่อแบ่งเบาภาระให้พวกท่าน แต่ฉันไปกี่ครั้งกี่หนกลับไม่เคยพบเจอเธอเลยสักครั้ง เธอจึงไม่รู้นะสิว่าฉันทำอาหารส่งข้าวส่งน้ำให้พ่อแม่อยู่บ่อยๆ ลองกลับไปถามพ่อแม่เธอดูก็ได้ พวกท่านยังเคยชมเลยว่าอาหารฝีมือฉันอร่อย” เมิ่งเหยาเอ่ยตอกหน้าชิงเหยียนกลับไป‘ชิงเหยียนชอบพูดอวดอ้างตัวกับคนนู้นคนนี้ว่าเธอช่

  • ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐินียุค 80   ตอนที่ 5 ทำของว่างให้ทุกคนชิม

    มู่เฉินขับรถพาสองสาวเดินทางไปเซินเจิ้น มีชิงเหยียนนั่งด้านหน้าข้างคนขับคู่กันไปกับเขา ส่วนเมิ่งเหยานั่งด้านหลัง โดยก่อนหน้านี้มู่เฉินให้ทั้งสองสาวไปนั่งด้านหลังด้วยกันทั้งคู่ ตัวเองทำหน้าที่เป็นคนขับ แต่ชิงเหยียนไม่ยอมรีบเสนอตัวมานั่งด้านหน้าบอกว่าอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ชวนมู่เฉินพูดคุยจะได้ไม่ง่วงเมิ่งเหยาไม่ได้แสดงท่าทีเสนอตัวหรือคัดค้านอะไร มู่เฉินเองก็ตอบรับความหวังดีของชิงเหยียนให้เธอมานั่งหน้ารถด้วยกัน ผ่านไปได้ครึ่งทางถึงจุดแวะพัก มู่เฉินก็ให้เวลาเด็กสาวไปยืดเส้นยืดสายทำธุระส่วนตัว เช่นเดียวกันกับเขาที่เข้าห้องน้ำเสร็จก็ไปซื้อน้ำและขนมมาให้ทั้งคู่“นี่ขนมเปี๊ยะไส้เนื้อของที่นี่อร่อยมากเลยนะเอาไปชิมสิ” มู่เฉินกล่าวพร้อมยื่นขนมไปให้ชิงเหยียนที่ยืนอยู่ข้างตัวรถด้วยกันกับเมิ่งเหยา“ขอบคุณมากค่ะพี่มู่เฉิน พี่ใจดีมากเลย” ชิงเหยียนเอ่ยขอบคุณพร้อมรับขนมไปด้วยรอยยิ้มจนแก้มแทบปริ ส่วนเมิ่งเหยาไม่ได้ใส่ใจอะไรเดินกลับไปขึ้นรถประจำที่นั่งของตนเองทางด้านหลังเงียบๆ มู่เฉินตั้งใจจะบอกให้ชิงเหยียนแบ่งขนมกับเมิ่งเหยาด้วย แต่เขาเห็นท่าทีเฉยเมยเช่นนั้นของเธอจึงไม่ได้เอ่ยปากอะไรออกไป“เมิ่งเหยาขน

  • ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐินียุค 80   ตอนที่ 4 บรรพบุรุษชาเขียว

    เมิ่งเหยาที่เห็นมู่เฉินรีบเดินออกมาปกป้องชิงเหยียน ซึ่งเสแสร้งแกล้งทำเป็นผู้หญิงอ่อนแอถูกเธอรังแก หลี่ตามองดูเขานิดหนึ่งพร้อมอดคิดดูถูกไม่ได้‘ที่แท้ก็คนโง่อีกคนที่หลงเชื่อการแสดงเสแสร้งแกล้งทำของชิงเหยียนได้อย่างง่ายดาย’ เมิ่งเหยาคิดพร้อมถอนหายใจแรงไปทีหนึ่ง“คุณหมอซุน หากฉันบอกว่าฉันไม่สนใจเลยสักนิดว่าสกุลซุนจะรับใครเข้าไปอยู่ในบ้าน หรือคุณกับเสิ่นชิงเหยียนจะมีอะไรกัน มันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเลยแม้นแต่น้อย คุณก็คงจะไม่เชื่ออยู่ดีสินะคะ ดังนั้นแล้วคุณจะคิดยังไงก็ตามสบายเถอะ ฉันขอตัวก่อนล่ะ” เมิ่งเหยาเอ่ยอย่างไม่คิดจะใส่ใจกับชายหนุ่มหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าอีก ก่อนจะเดินจากไปยังไร่ชาเพื่อมองสำรวจสถานที่โดยรอบต่อทางด้านมู่เฉินที่ได้ยินและเห็นท่าทีเฉยชาไม่สนใจอะไรของเมิ่งเหยาก็ถึงกับตกตะลึงไปอีกรอบ เช่นเดียวกับชิงเหยียน เพราะหากเป็นก่อนหน้านี้เมิ่งเหยาคงร้องไห้ฟูมฟายจนใครๆมาเห็นและได้ยิน จากนั้นก็กล่าวโทษว่าเขากลั่นแกล้งเธอ ทำให้เขาโดนพ่อแม่ดุเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา“พี่มู่เฉิน อย่าไปถือสาเมิ่งเหยาเลยนะคะ เธอคงอารมณ์ไม่ดีเพราะรู้ว่าฉันจะเดินทางไปเซินเจิ้นด้วยนะค่ะ” ชิงเหยียนแสร้งทำ

  • ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐินียุค 80   ตอนที่ 3 ศัตรูในคราบมิตรสหาย

    หลังจากทุกคนออกไปแล้วเมิ่งเหยาก็ลุกขึ้นมานั่งและมองสำรวจรอบห้องตัวเองอีกครั้ง‘นี่มันยุค 80 จริงๆสินะ น่าสนใจจัง เอาเถอะ..ในเมื่อเธอทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้แล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใดก็ตาม ต่อ ไปนี้เธอจะใช้ชีวิตเป็นเมิ่งเหยาในโลกใบใหม่ให้ดีเลยล่ะ’ เมิ่งเหยาคิด เธอไม่มีอะไรผูกพันกับโลกก่อนหน้านี้แล้ว พ่อแม่ที่ให้กำเนิดก็ทอดทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่เธออายุยังน้อย ย่าของเธอ..ญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ซึ่งเธอให้ควาสำคัญก็จากไปนานแล้วเช่นกันตอนนี้เธอกลับโชคดีได้มีชีวิตในโลกใบใหม่ มีพ่อแม่ที่ดูท่าว่าจะรักและห่วงใยเธอมาก แม้นแม่ของเธอจะจู้จี้อยากให้เธอแต่งออกไปกับมู่เฉินซึ่งมีสถานะทางบ้าน อาชีพหน้าที่การงานดีพร้อมทุกอย่างก็ตาม แต่ทั้งหมดก็เป็นไปเพราะรักและใส่ใจเธอมากนั่นเองครอบครัวสกุลลู่เป็นครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อกับแม่เธอมีทรัพย์สินที่ดินทำกิน ทำการเกษตรสืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษ หลังจากรัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชนทำมาหากินในที่ดินของตนเองและเริ่มค้าขายเองได้ในช่วงปลายยุค 70 พ่อของเธอก็หันมาทำไร่ชา หาเลี้ยงครอบครัวกระจายรายได้ให้คนในหมู่บ้านฉางจงไห่มาโดยตลอด‘เมืองหวงซานเป็นเมืองที่สวยงาม

บทอื่นๆ

บางทีคุณอาจจะชอบ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status