ตอนที่ 4 ผู้ตรวจการคนใหม่
ฟิ้ว ๆ ลมเย็นพัดผ่านร่างบาง นางเดินมาที่ริมสายธารเพื่อตักน้ำให้วัวครั้นนั้นแสงบนท้องฟ้าเหลืองอร่าม เฉินไป๋อิงวางกระถังน้ำลงไว้ที่พื้นสายตาเงยมองไปบนท้องฟ้าหลับตาสุดลมหายใจรับอากาศบริสุทธิ์เต็มปอดอย่างชื่นใจ
“ท่านแม่ขอรับ ท่านแม่” เสียงเล็ก ๆ ของเด็กชายดังขึ้นนางก้มหน้าลงลืมตาจ้องมองไปที่เด็กชายที่เดินตามหลังนางมาติด ๆ
“เฉิงหงมีอันใด”
“ดูสิขอรับ แมลงปอบินเต็มท้องฟ้าเลย ข้าชอบขอรับงดงามและอิสระ”
“นั่นสินะ งดงามจริง ๆ ยามนี้เจ้าเองก็งดงามและอิสระเหมือนแมลงพวกนั้น จริงสิตั้งแต่ข้าเลี้ยงเจ้ามา ข้าไม่เคยถามเจ้าเลย เฉิงหงของข้าเติบโตอยากเป็นอะไรหรือ? อยากเป็นบัณฑิตหรือไม่? เจ้าอยากเติบโตเป็นขุนนางหรือรับราชการมั้ย”
“ไม่ขอรับ ข้าต้องการอยู่กับท่านแม่เลี้ยงไก่เลี้ยงวัว ปลูกผักเพียงเท่านี้ข้าก็มีความสุขแล้วขอรับมิต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม” เฉิงหงยิ้มระเรื่อให้มารดาพร้อมเดินนำหน้ากลับเรือนเมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนต่ำลง
1 เดือนต่อมา
เฉิงไป๋อิงเริ่มหาตลาดลงขายผักให้มากกว่าเดิม เพราะตอนนี้ผักที่นางปลูกโตพร้อมที่จะเก็บขาย เถ้าแก่ร้านหมั่นโถวจึงบอกให้นางนำผักไปนั่งขายในตลาด ไม่แน่อาจจะขายได้ดี นางจึงเก็บผักที่โตเต็มวัย ผักของนางงดงามได้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ที่นางเลี้ยงเอาไว้ เฉิงหงดีใจรีบเดินตามหลังท่านแม่ไปที่ตลาดมองหาที่ว่างและตั้งผักขาย
เสียงจอแจของชาวบ้านดังขึ้นพากันมองมาที่นาง แรก ๆ ชาวบ้านไม่แม้จะกล้าเดินเข้ามาซื้อเพราะกลัวนางจะแย่งสามี คำยุยงคำด่าทอของท่านป้าที่เอาเรื่องของนางไปซุบซิบนินทาทำให้ทุกคนไม่อยากจะสุงสิงกับนาง ทว่าผักของนางทั้งอวบทั้งใหญ่น่ากิน อีกทั้งนางยังเขียนราคาติดไว้อย่างชัดเจน ราคาไม่แพงแถมยังสดใหม่มีหรือที่ชาวบ้านไม่แห่กันมารุมซื้อ
“แม่นางข้าอยากได้ผักบุ้งนั่น ราคาเท่าไหร่”
“พี่ชายข้าขายไม่แพงเจ้าค่ะ ผักบุ้งราคากำละ 1 อีแปะ ผักอื่น ๆ ก็ราคาเท่ากันเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นข้าเอาผักที่วางอยู่ข้าง ๆ นั่นอีกกำ” เฉิงหงรีบเดินไปหยิบให้แก่ชายที่เข้ามาซื้อเป็นผู้แรก
“ขอบคุณท่านอาที่อุดหนุนข้า ทั้งหมด 2 อีแปะขอรับ” เขารับผักพร้อมยื่นเงินให้แก่เฉิงหงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่สายตาจ้องมองดูผักในมือ ก่อนจะเดินจากไป ลูกค้าคนแรกเดินผ่านไปที่ใดมีแต่ผู้คนเอ่ยถามและพากันมาอุดหนุนทำให้ผักที่เฉินไป๋อิงเก็บมาหมดในไม่ช้า
“ท่านแม่ ผักของเราขายดีจริง ๆ รุ่งเช้าข้าจะรีบเข้าสวนผักเก็บผักให้ได้มากกว่าเดิมนะขอรับเราจะได้ร่ำรวย ๆ”
เด็กชายดวงตาเป็นประกายดีใจที่ขายของในวันแรกหมดตั้งแต่ยังไม่ค่ำ เฉินไป๋อิงเก็บกระบุงเพื่อเดินทางกลับยิ้มระเรื่อตอบกลับบุตรชาย
“นั่นสินะ วันนี้เฉิงหงช่วยแม่เต็มกำลังอยากได้อันใดหรือไม่ แม่จะซื้อให้เจ้าเอง”
“สิ่งที่ข้าอยากได้ไม่ใช่สิ่งของขอรับ ข้าอยากให้ท่านแม่พักผ่อนเร็ว ๆ หลายวันมานี้ข้าเห็นท่านแม่เหน็ดเหนื่อย”
“โธ่ ๆ เฉิงหงเจ้านี่ชางเป็นเด็กฉลาดจริง ๆ เอาเช่นนี้ถึงบ้านเมื่อไหร่แม่มีสิ่งของเป็นสิ่งตอบแทนในการช่วยเหลืองาน” ไป๋เฉิงอิงก้มลงกระวิบข้างหูยิ่งทำให้เด็กชายดวงตากลมโตมากกว่าเดิม
ทั้งสองแม่ลูกเดินทางกลับเรือนระหว่างทางได้ยินเสียงเอะอะโวยวายตะโกนเสียงดังรวมทั้งมีรถม้ากำลังเคลื่อนขบวนมาที่ท้องถนน ชาวบ้านพากันมุงดูด้วยความตื่นเต้น และพูดคุยกันว่าขบวนรถม้านี่คือขบวนรถม้าของท่านผู้ตรวจการประจำหมู่บ้านนี้
“เจ้ารู้หรือไม่? ผู้ตรวจการที่ย้ายเข้ามาใหม่เป็นบุตรของขุนนางร่ำรวยแถมยังเป็นบุรุษรูปงาม หากข้ายังเป็นสตรีแรกแย้ม ข้าจะเข้าหาไม่แน่ข้าอาจจะได้เป็นฮูหยินของท่านผู้ตรวจการก็เป็นได้”
“เจ้านะหรือ? ฮึ ฮึ เจ้าเป็นได้แค่สาวใช้ในจวนผู้ตรวจการเท่านั้นแหละน่า หากเป็นบุตรชายของขุนนางอย่างเจ้าว่าคงไม่เปรยสายตามองชาวบ้านอย่างเราหรอก เลิกฝันกลางวันเสียที” บทสนธนาของสตรีรุ่นใหญ่พูดคุยหัวเราะคิกคักถึงผู้ตรวจการ สตรีวัยออกเรือนต่างพากันออกจากเรือนมายืนมองดูความสง่างามของผู้ตรวจการร่วมทั้งลี่หลินลูกพี่ลูกน้องของเฉินไป๋อิง นางยืมอยู่แถวหน้าถือพัด พัดไปมาสายตาจ้องมองไปในรถม้าที่กำลังเคลื่อนผ่านอย่างช้า ๆ หน้าต่างรถม้าเปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าคมคาย ไม่ว่าจะมองไปทางใดช่างไร้ที่ติเสมือนเทพจุติลงมาบนโลก ใจของลี่หลินเต้นแรงระรัว ดวงตาเป็นประกายแวววาวยืนตะลึงอยู่กับที่
“ข้าพบแล้วบุรุษที่จะมาเป็นสามีของข้า ช่างสง่างามเสียจริงแต่ทว่าใบหน้าเหมือนข้าคุ้นชินและเคยพบที่ใดสักแห่ง หรือว่าอาจจะเป็นบุรุษในฝันโชคชะตาให้เราได้มาพบพาน” ลี่หลินยิ้มระรื่นเดินออกจากกลุ่มกลับเรือน รุ่งสางนางจะเข้าไปทักทายทำความรู้จักกับผู้ตรวจการผู้นี้
ต่างจากเฉินไป๋อิงนางมิได้ใส่ใจแม้แต่น้อยว่าผู้ใดมา หรือผู้ใดจะไปในความคิดของนางยามนี้คือพาบุตรชายกลับเรือน เอาอาหารไปให้แม่ไก่ เอาหญ้าให้วัวได้กินค่อยกลับเข้าเรือนทำอาหารแสนอร่อยให้บุตรชายได้กิน โดยไม่ได้ใส่ใจเลยว่าผู้คนกำลังตื่นเต้นกับผู้ตรวจการใหม่เพียงใด
เรื่องการค้าขายผักของเฉินไป๋อิงดังขึ้นหูของเจี่ยนอันหนิง นางตาร้อนผ่าวไม่น่าเชื่อว่าเฉินไป๋อิงจะมีปัญญา นางจึงจะเดินทางไปเห็นด้วยตาตัวเองที่เรือนของเฉินไป๋อิง ระหว่างนั้นลี่หลินมาพอดี
“ท่านแม่จะรีบร้อนไปที่ใดหรือเจ้าคะ ข้ามีเรื่องน่ายินดีมาเล่าสู่ท่านแม่ฟังเจ้าค่ะ”
“เรื่องของเจ้าเอาไว้ก่อนยามนี้ข้าต้องไปให้เห็นด้วยตาตนเอง นังไป๋อิงมันหาปัญญาจากที่ใดมีผักไปขายที่ตลาด แถมยังขายในราคาถูกและผักสวยงาม ข้าไม่เชื่อหรอกว่าผักพวกนั้นนางจะปลูกเองหรือว่าตอนนี้พ่อค้าผักต่างหมู่บ้านมาหลงใหลผัวพันกับนาง ยกผักให้นางมาค้าขายกันนะ!! ง่ายไม่เปลี่ยนจริง ๆ นี่นะหรือบุตรของขุนนาง” เจี่ยนอันหยิงพูดไปโมโหไป เพราะความอิจฉาริษยาต้องการในสิ่งที่ตนเองไม่มีอยากได้ทุกอย่างที่ไม่ใช่ของตนเองเมื่อเห็นเฉินไป๋อิงได้ดีไปกว่าตนนางยิ่งไม่พอใจ
“ท่านแม่ข้าไปด้วยเจ้าค่ะ ตั้งแต่นางออกจากเรือนไปข้าไม่เคยเห็นนางเลย ป่านนี้บุตรของนางคงเติบโตมากแล้วสินะ คงผอมเนื้อหุ้มกระดูกสภาพมอมแมม” บุตรสาวนิสัยไม่ต่างจากมารดาเพราะนางอคติกับไป๋อิงเรื่องหนึ่ง หากครั้งนั้นไป๋อิงไม่โผล่ไปชีวิตของนางอาจจะดีกว่านี้เป็นฮูหยินของบุตรขุนนางไปตั้งนานแล้ว นางจึงกล่าวโทษว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความผิดและคิดว่าไป๋อิงเป็นสตรีร้ายกาจอิจฉาริษยาต้องการแย่งของที่นางอยากได้ ทำให้ลี่หลินเกลียดไป๋อิงเข้ากระดูกดำ
ตอนที่ 11 หวั่นไหว“ท่านอาข้าคิดว่าท่านจะไม่มาเสียแล้ว”“ข้าจะไม่มาได้อย่างไรในเมื่อเจ้าเอ่ยปวกชวนข้า ข้าต้องมาสิ” เขาตอบเด็กชายด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ“เชิญท่านอาเข้ามาในเรือนเถอะขอรับ ท่านเองก็เข้ามาด้วยนะขอรับ” เฉิงหงผายมือให้เชิญชวนหยวนเจี๋ยเข้าเรือนพร้อมกับห้าวอู่ที่เดินตามมาด้านหลังไป๋อิงหัวใจเต้นระรัว ทำไมนางต้องดีใจด้วยที่เขามานางไม่เข้าใจตัวเองสักนิด นางมองเขาที่เดินเข้ามาใบหน้าของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ผุดออกมาเต็มดวงหน้า นางจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ข้ากำลังจะเก็บอาหารแล้วเชียว ดีนะที่ท่านมาก่อนมิเช่นนั้นคงไม่มีอะไรให้กิน ว่าแต่ทำไมถึงนานมาเช่นนี้ไปทำอันใดมาหรือสภาพถึงได้เหมือนเหน็ดเหนื่อยหมดแรง”“แม่นางไป๋อิงนายท่านมีงานเข้าต้องไปตรวจสอบ เวลาเลื่อนผ่านไปเนินนานงานนี้ยากเหลือเกิน ท่านรู้หรือไม่ว่าเราพึ่งเสร็จงานก็รีบเดินทางมาที่นี่ทันที กลัวว่าท่านจะดับไฟเข้านอนไปแล้วเสียอีก” ห้าวอู่รีบพูดขึ้นทันทีกลัวว่าไป๋อิงจะไม่เชื่อคำพูดของนายท่านของตน ไป๋อิงแอบยิ้มเล็กน้อยดีใจที่อย่างน้อยเขายังตั้งใจมาหา“เช่นนั้นก็รีบมานั่งกินเถอะ ทั้งสองคงเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน” ไป๋อิงลดทิฐิตามคำพ
ตอนที่ 10 ปากไม่ตรงกับใจ“หนักแย่เลยใช่มั้ย ให้ข้าช่วยนะ”“ท่านอา เจอกันแต่เช้าเลยนะขอรับข้ากับท่านแม่กำลังไปขายผักที่ตลาด” เฉิงหงโบกมือให้ดีใจอย่างลืมตัว ทว่าไป๋อิงกลับบึ้งตึงมากกว่าเดิม เมื่อวานนางออกมาขายผักมีสตรีนางหนึ่งเข้ามาถามนางเพราะเห็นว่าเมื่อวันก่อนผู้ตรวจการนำของมากมายไปหานางที่เรือน จึงอยากรู้เรื่องความสัมพันธ์“ของแค่นี้ข้าไม่หนักเลยสักนิดข้าบอกท่านแล้วมิใช่หรือว่าอย่ามาวุ่นวายกับเราสองแม่ลูกอีก” หยวนเจี๋ยยื่นมือไปยกตะกร้าเพื่อช่วยนางถือแต่ทว่าไป๋อิงดึงกลับมาคืนไม่อย่างสุงสิงกับเขาให้เกิดปัญหา“ข้ามิได้วุ่นวายเพียงแค่ผู้ตรวจการผู้นี้มีน้ำใจอยากช่วยเหลือชาวบ้านมันแปลกด้วยหรือ เอามาเถอะให้ข้าช่วยเถอะนะ เฉิงหงอาได้ยินเจ้ากล่าวเมื่อคราวก่อนว่าท่านแม่ของเจ้าบ่นปวดหลังปวดเอว มีอาช่วยเช่นนี้เจ้าว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่”“ดีเลยขอรับ ท่านแม่ท่านอาช่วยเหลือนับว่าเป็นเรื่องที่ดีท่านแม่จะได้ไม่หนักเมื่อยามกลับยกตะกร้าเปล่าไปวันนี้ท่านจะได้ไม่ปวดหลังให้ท่านอาช่วยเหลือเถอะนะขอรับ” ไป๋อิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ยกตะกร้าผักให้หยวนเจี๋ยโดยปริยาย ก่อนจะบ่นพึมพำ“เข้าข้างกันเข้าไป ข้าเป็นมารดาของเจ
ตอนที่ 9 อาหารเย็นแสนอร่อย“อย่ามาล้อเล่นกับข้าเถอะเจ้าค่ะ มาทางไหนจงกลับไปทางนั้น อย่าให้ข้าต้องขับไล่อย่างไร้มารยาท” ไป๋อิงไม่ยอมใจอ่อน ใบหน้าเริ่มบึ้งตึง ห้าวอู่กับเฉิงหงเห็นท่าไม่ดียืมมองทั้งสองอยู่ห่าง ๆ จนเฉิงหงรีบเข้ามาจับมือมารดาของตน“ท่านแม่ ท่านสอนข้าเสมอให้ข้ามีมารยาทยามนี้ท่านผู้ตรวจการมีน้ำใจนำของมากมายมาให้เพราะเอ็นดูข้า ครานี้ท่านแม่ใจเย็นก่อนนะขอรับ ท่านผู้ตรวจการเสมือนผู้มาเยือนเราเป็นเจ้าของเรือนต้องต้อนรับเป็นอย่างดี ท่านอาหยวนเจี๋ยตอนนี้ดวงอาทิตย์ตกดินแล้ว อยู่กินข้าวเย็นกับพวกเราก่อนนะขอรับท่านแม่ของข้าทำอาหารอร่อยมาก ๆ ครั้งนี้ข้าช่วยพูดให้ท่านแม่ใจอ่อน คราหน้าท่านอาผู้ตรวจการต้องทำตามที่ท่านแม่ต้องการนะขอรับ” เฉิงหงช่างเจรจาทำให้ไป๋อิงสงบสติอารมณ์ แม้นางไม่ชอบขี้หน้าแต่การขับไล่ก็ไม่เป็นเรื่องดีเช่นอย่างที่เฉิงหงกล่าว นางจะทำตนไม่มีมารยาทต่อหน้าบุตรชายไม่ได้“เอาเช่นเฉิงหงกล่าวก็แล้วกัน แต่ทว่าคราวหน้าหากไม่มีธุระอันใดท่านอย่ามาที่นี่ตามอำเภอใจนะเจ้าคะ ข้าไม่เคยคิดจะเปิดใจให้ผู้ใดลำพังอยู่กับเฉิงหงชีวิตของข้าก็ถูกชาวบ้านดูแคลนมามากพอแล้ว หากท่านเห็นใจโปรดอย่ามา
ตอนที่ 8 หลงรักท่านเข้าแล้ว“แม่นางวางใจเถอะต่อจากนี้ข้าจะไม่ให้ทั้งสองมารบกวนท่านอีก วันนี้ข้ามีเรื่องรบกวนท่านเพียงเท่านี้ เฉิงหงอากลับจวนก่อนไว้วันหน้าจะมาหาอีกครั้งพร้อมขนมติดไม้ติดมือ หวังว่าเจ้าจะต้อนรับอานะ”“ได้เลยขอรับ ขอบคุณท่านอาหยวนเจี๋ยที่เข้าใจข้ากับท่านแม่และมอบความยุติธรรมให้เราสองแม่ลูก หากมีท่านอารับตำแหน่งอยู่ที่นี่นาน ๆ ข้าคงอุ่นใจไม่น้อย” เด็กชายยิ้มระเรื่อกล่าวลาทั้งสองคน หยวนเจี๋ยไม่ได้รีบร้อนเข้าหาไป๋อิงทันที เขาอยากตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อนว่าเรื่องราวของนางเป็นมาเช่นไร ระหว่างทางกลับจวนเขาเงียบขรึมครุ่นคิดเงียบ ๆ ทำให้ห้าวอู่สงสัยเพราะท่าทีที่ไม่เคยเห็นมาก่อน“คุณชายข้าขอถามได้หรือไม่ขอรับ เหตุใดท่านถึงเชื่อคำพูดของเด็กชายนั่น และไม่เอาความแม่นางไป๋อิง ไหนท่านบอกว่าจะหาความเป็นธรรมให้แม่นางลี่หลิน”“ห้าวอู่ข้าพบแล้วเรื่องที่ค้างคาใจของข้ามาเนินนาน ข้าใช้เวลามา 9 ปีเพื่อตามหานาง ยามนี้ข้าพบนางแล้ว เฉินไป๋อิงสตรีที่ข้าเคยล่วงเกินนางเมื่อคราที่ข้าออกเยือนเรือนใต้เท้าสหายสนิทของท่านพ่อ เมื่อ 9 ปีก่อน ใช่นางจริง ๆ ในที่สุดสวรรค์ก็สงสารข้าและเข้าข้างข้าทำให้ข้ามาพบน
ตอนที่ 7 ในที่สุดข้าก็พบเจ้าหลงหยวนเจี๋ยเดินออกมาสอบถามชาวบ้านถึงสตรีที่มีนามว่าเฉินไป๋อิง จนได้รู้ที่อยู่ของนางทว่าทุกคนกลับดูไม่อยากจะเอ่ยถึงนางเท่าไหร่ บ้างก็ทำสีหน้าท่าทางเหมือนรังเกียจนางอีกด้วย เขาจึงสอบถามเพิ่มเติม เฉินไป๋อิงสตรีนางนี้ตั้งครรภ์ไร้สามี ถูกท่านป้าของนางขับไล่ออกจากเรือนกล่าวหาว่านางแอบคบชู้กับสามีของผู้อื่น เขาเดินทางไปที่เรือนของนางตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน อยากรู้อยากเห็นใบหน้าของสตรีนางนี้เต็มทนเมื่อมาถึงเรือนของนางเขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ เรือนไม้หลังน้อยตกแต่งเรือนแปลกประหลาดของใช้มากมายแทบไม่เคยเห็นและคุ้นตา บริเวณรอบเรือนมีทั้งแปลงผักและคอกสัตว์ ความคิดในใจเริ่มตีกันอย่างสับสน นางใช่สตรีชั่วช้าโหดร้ายอย่างชาวบ้านกล่าวจริง ๆ นะหรือครานั้นเองเขาเหลือบสายตาไปเห็นเด็กชายตัวน้อยใบหน้าอ้วนกลมคล้ายซาลาเปาผิวพรรณต่างจากบุตรของชาวบ้านทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เฉิงหงก็เหลือบมาเห็นผู้มาเยือนเช่นกันรีบออกมาต้อนรับเพราะยามนี้ท่านแม่ไม่ได้อยู่ในเรือนกำลังไปตักน้ำในที่ลำธารมาให้วัว"ท่านอา ท่านอามาหาผู้ใดหรือขอรับ หรือว่ามาหาท่านแม่ของข้าเพื่อซื้อผักท่านมาถูกที่แล้ว ทว่ายามนี้ท่าน
ตอน 6 ลี่หลินฟ้องท่านผู้ตรวจการหลงหยวนเจี๋ยเดินทางมาที่หมู่บ้านเสวียนหนี่ ในแคว้นหยางอัน มาพร้อมบ่าวรับใช้และขุนนาง เขาคือผู้ตรวจการคนใหม่ของที่นี่ เป็นบุตรชายของขุนนางชั้นสูงมีชีวิตที่สุขสบายไม่ต้องเดินทางมาห่างไกลจากเมืองหลวงรับราชการในวังหลวงยังได้ ทว่าการที่เขามาที่นี่เพราะมีเหตุผลบางอย่าง ที่ยังค้างคาใจของเขาไม่จางหายมานับ 9 ปี“ที่นี่อากาศดีจริง ๆ ขอรับคุณชาย ข้าคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ตามท่านมา" บ่าวรับใช้ที่คอยติดตามคุ้มกันคุณชายของตนตั้งแต่วัยเยาว์จนยามนี้เติบโตเป็นบุรุษรูปงามเต็มวัย“ห้าวอู่ข้าบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ว่าอย่าเรียกข้าเช่นนี้ ยามนี้ข้าคือผู้ตรวจการต้องเรียกข้าว่าผู้ตรวจการให้ชินเสีย ที่นี่อากาศดีกว่าทุกหมู่บ้านที่ข้าเดินทางมาอยู่อย่างที่เจ้ากล่าวมาจริง ๆ ”“ข้าน้อยไม่เข้าใจท่านผู้ตรวจการเลยการที่ท่านเดินทางไปประจำการอยู่หลายหมู่บ้านในแคว้นนี้เพื่อสิ่งใดกันขอรับ แทนที่จะเลือกรับราชการเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ตามนายท่านป่านนี้ชีิวิตของท่านคงสุขสบายกว่านี้”“เพราะใจของข้ามีสิ่งหนึ่งที่ยังค้างคาอยู่ ความรู้สึกผิดละอายใจของข้า ทำให้ข้าเดินทางไปทุกหมู่บ้านเพื่อสะสางความค้างคาใจ