ตอนที่ 9 อาหารเย็นแสนอร่อย
“อย่ามาล้อเล่นกับข้าเถอะเจ้าค่ะ มาทางไหนจงกลับไปทางนั้น อย่าให้ข้าต้องขับไล่อย่างไร้มารยาท” ไป๋อิงไม่ยอมใจอ่อน ใบหน้าเริ่มบึ้งตึง ห้าวอู่กับเฉิงหงเห็นท่าไม่ดียืมมองทั้งสองอยู่ห่าง ๆ จนเฉิงหงรีบเข้ามาจับมือมารดาของตน
“ท่านแม่ ท่านสอนข้าเสมอให้ข้ามีมารยาทยามนี้ท่านผู้ตรวจการมีน้ำใจนำของมากมายมาให้เพราะเอ็นดูข้า ครานี้ท่านแม่ใจเย็นก่อนนะขอรับ ท่านผู้ตรวจการเสมือนผู้มาเยือนเราเป็นเจ้าของเรือนต้องต้อนรับเป็นอย่างดี ท่านอาหยวนเจี๋ยตอนนี้ดวงอาทิตย์ตกดินแล้ว อยู่กินข้าวเย็นกับพวกเราก่อนนะขอรับท่านแม่ของข้าทำอาหารอร่อยมาก ๆ ครั้งนี้ข้าช่วยพูดให้ท่านแม่ใจอ่อน คราหน้าท่านอาผู้ตรวจการต้องทำตามที่ท่านแม่ต้องการนะขอรับ” เฉิงหงช่างเจรจาทำให้ไป๋อิงสงบสติอารมณ์ แม้นางไม่ชอบขี้หน้าแต่การขับไล่ก็ไม่เป็นเรื่องดีเช่นอย่างที่เฉิงหงกล่าว นางจะทำตนไม่มีมารยาทต่อหน้าบุตรชายไม่ได้
“เอาเช่นเฉิงหงกล่าวก็แล้วกัน แต่ทว่าคราวหน้าหากไม่มีธุระอันใดท่านอย่ามาที่นี่ตามอำเภอใจนะเจ้าคะ ข้าไม่เคยคิดจะเปิดใจให้ผู้ใดลำพังอยู่กับเฉิงหงชีวิตของข้าก็ถูกชาวบ้านดูแคลนมามากพอแล้ว หากท่านเห็นใจโปรดอย่ามาสนใจข้าเลยเจ้าค่ะ สตรียังไม่ออกเรือนมีมากมาย” ไป๋อิงพูดจบเดินเข้าบ้านเพื่อทำอาหารให้ทุกคนได้กิน ผู้ตรวจการจะได้กลับจวนเสียที เมื่อนางเดินเข้าไปด้านในเฉิงหงจับมือของหยวนเจี๋ยพรางเอ่ยเสียงเบา
“ท่านอาข้าชอบท่านนะขอรับแต่ว่าข้าก็เห็นใจท่านแม่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาในแต่ละวันชาวบ้านต่างด่าทอต่อว่าท่านแม่ อีกทั้งยังมีหญิงชราหน้าเหี้ยมโหดนางนั้นคอยมาหาเรื่องรังควานอีก หากท่านอาชอบท่านแม่ข้าจริง ๆ ท่านต้องอดทนและเข้าหาท่านแม่ข้าด้วยความจริงใจ”
“เฉิงหงเจ้าไม่ต้องกังวลข้านะเข้าหามารดาของเจ้าด้วยความจริงใจอยู่แล้ว และข้ารู้ดีเรื่องที่แม่ของเจ้าพบเจอมาต่อจากนี้ข้าจะไม่ให้ผู้ใดมาต่อว่านางได้อีกและข้าไม่ย่อท้อที่จะเข้าหานางหรอกนะ เจ้าชอบของที่ข้านำมาให้หรือไม่ ห้าวอู่ลองสวมใส่อาภรณ์ให้เฉิงหงดูสิว่าพอดีตัวหรือไม่”
“ขอรับนายท่าน” ห้าวอู่รีบวางขนมหยิบอาภรณ์มาสวมใส่กายให้เฉิงหงช่างพอดีตัวเด็กชายพอดี ส่วนหยวนเจี๋ยเข้าจ้องมองตามแผ่นหลังของไป๋อิงในใจครุ่นคิดการเข้าหานาง
‘ข้าคิดเอาไว้บ้างแล้วว่านางต้องเข้าหายากแต่ไม่คิดเลยว่านางจะปิดใจให้ข้าตั้งแต่คราแรก หรือว่านางจำข้าได้จึงปฏิเสธข้าทันที แต่ข้าไม่ยอมแพ้ไม่ว่าอย่างไรข้าจะคว้าหัวใจของนางมาให้ได้ การที่ข้าเป็นบิดาของเฉิงหงบอกออกไปยามนี้นางคงขับไล่ข้า เอาไว้ให้แน่ใจว่านางจำข้าไม่ได้และเมื่อไหร่ที่นางยอมเปิดใจให้ข้า ค่อยบอกความจริงนางคราวนั้นก็แล้วกัน’
ไม่นานนักกลิ่นอาหารคละคลุ้มเต็มออากาศโชยออกมานอกเรือน เฉิงหงนั่งอยู่ที่แคร่หน้าบ้านพร้อมกับห้าวอู่และหยวนเจี๋ย ทั้งสามพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเมื่อไป๋อิงยกอาหารออกมาเห็นเด็กชายยิ้มระรื่นหัวเราะอย่างมีความสุขก็อดคิดไม่ได้หากยามนี้เฉิงหงมีบิดาอยู่ด้วยจะเป็นอย่างไร ก่อนที่นางจะส่ายหน้าไปมาและถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยามนั้นเองหยวนเจี๋ยหันมาเห็นนางพอดีรีบลุกขึ้นไปช่วยนางยกอาหารมาวางไว้ที่แคร่
“แม่นางให้ข้าช่วยนะขอรับ” หยวนเจี๋ยไม่รอให้นางตอบกลับเขายื่นมือไปแตะมือของนางที่ถือสำรับออกมาสองมืออสัมผัสกัน ไป๋อิงสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจและไม่เคยชิน
“แค่นี้ข้าทำเองได้โปรดเอามือของท่านออกไปจากมือของข้าด้วยเจ้าค่ะ แม้ข้าจะเป็นแม่หม้ายลูกติดเป็นชาวบ้านสามัญชนแต่ข้าก็มีศักดิ์ศรีพอไม่อยากเป็นของเล่นของขุนนาง”
“ท่านใจแข็งจริง ๆ ข้าบอกแล้วว่าไม่เคยคิดจะเล่น ๆ กับท่าน ข้าถูกชะตาตั้งแต่คราแรกจะให้ข้าพิสูจน์ด้วยการแต่งท่านเข้าจวนรับเฉิงหงเป็นบุตรย่อมได้”
“บุรุษก็เป็นเช่นนี้ไม่ว่าผู้ใดไม่ต่างกัน คำพูดของท่านข้าไม่เชื่อสักนิด หากอยากช่วยก็เอาไปเลยเจ้าค่ะ” ในเมื่อพูดไม่ฟังไป๋อิงจึงยกสำรับให้หยวนเจี๋ยถือไปที่แคร่ ส่วนนางเข้าไปในเรือนเพื่อเอาของกินที่ยังมีอีกออกมาด้านนอก หยวนเจี๋ยยิ้มกริ่มเมื่อเห็นการตอบสนองของนาง
ทั้งสี่คนนั่งกินอาการเย็นด้วยกันจนถึงยามซวี (20.00) หยวนเจี๋ยร่ำลาเฉิงหงกลับจวน เด็กชายตัวน้อยโบกมือร่ำลาเขาเช่นเดียวกัน ทว่าไป๋อิงกลับพูดขึ้นเมื่อสองเท้าของหยวนเจี๋ยกำลังก้าวออกไป
“ครั้งนี้ข้าต้อนรับท่านเป็นอย่างดีหวังว่าจะไม่มีครั้งหน้าอีกนะเจ้าคะท่านผู้ตรวจการ เพราะการที่ท่านมาปรากฎตัวที่เรือนของข้าจะทำให้ข้าเดือดร้อน ข่าวลือแพร่ไปทั่วหมู่บ้านชีวิตของข้ากำลังจะดีขึ้นขอร้องท่านอย่ามาทำให้ข้าต้องทุกข์ยากไปมากกว่านี้เลย” นางไม่เอ่ยเปล่าแต่ก้มโค้งลงเสมือนอ้อนวอน หยวนเจี๋ยแสยะยิ้มไม่ตอบกลับคำขอของนางพรางหันหน้าเดินจากไปเพราะไม่ว่ายังไงเขาจะไม่ยอมให้นางหลุดมือไปได้อีก
2วันต่อมา
ข่าวลือเรื่องที่ผู้ตรวจการไปข้องเกี่ยวกับไป๋อิงถึงหูของลี่หลินนางไม่พอใจ ร้อนรุ่มในใจนางหวังให้เขาไปจัดการนางไป๋อิงไม่คิดเลยว่าเขาจะหลงเสน่ห์ของนาง ลี่หลินไม่ยอมรีบตื่นแต่เช้าตรู่สั่งให้ท่านแม่ทำอาหารเช้าใส่สำรับนางจะเอาไปให้ผู้ตรวจการที่จวนถามเรื่องที่ให้เขาไปจัดการนางไป๋อิง
ยามเฉิน (07.00)
ลี่หลินมาถึงหน้าจวนพร้อมอาหารที่เจี่ยนอันหนิงทำแจ้งบอกบ่าวรับใช้หน้าเรือน
“ข้าต้อนการพบท่านผู้ตรวจการ ช่วยพาข้าเข้าไปด้านในที”
“คุณหนูลี่หลินนี่เอง เชิญด้านในขอรับ” บ่าวรับใช้จำได้รีบพานางเข้าไปด้านในยามนั้นหยวนเจี๋ยกำลังเดินออกจากเรือนเพื่อไปประจำการอยู่ที่ทำงานเพราะมีงานที่ยังค้างคาจากผู้ตรวจการคนเก่าทิ้งเอาไว้ยังไม่ได้สะสาง เมื่อเห็นลี่หลินเขาชะงักหยุดเดินทันที และยังแสดงความลำบากใจบนใบหน้า
“คุณหนูลี่หลินท่านมาทำอันใดที่จวนของข้าตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้”
“ผู้ตรวจการรีบร้อนจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ โชคดีเหลือเกินที่ข้ามาแต่เช้าไม่เช่นนั้นคงไม่ได้พบท่าน ข้านำอาหารมาให้ท่านเพื่อเป็นการตอบแทนเรื่องที่ท่านไปจัดการเฉินไป๋อิงให้เจ้าค่ะ ข้าได้ยินจากชาวบ้านแล้วว่าท่านไปหานางถึงเรือนเลย ลำบากท่านผู้ตรวจการแล้ว” ลี่หลินยื่นอาหารให้หยวนเจี๋ย เขาลำบากใจที่จะรับเพราะเขาไม่ได้ทำอย่างที่นางกล่าวมา อึกอักใจชั่วหนึ่งยามนั้นเองสายตาของเขาเหลือบไปเห็นไป๋อิงกับเฉิงหงกำลังยกตะกร้าผักเดินผ่านหน้าจวน เขามิได้สนใจลี่หลินอีกต่อไปรีบออกไปช่วยไป๋อิงทันที
“ห้าวอู่เจ้าช่วยรับของจากคุณหนูลี่หลินแทนข้าด้วย ข้ามีเรื่องที่จะต้องไปทำ”
“ขอรับนายท่าน” ลี่หลินงวยงงจ้องมองตามหยวนเจี๋ยจึงได้เห็นว่าสิ่งที่เขาต้องไปทำคืออันใด ดวงตาของนางร้อนผ่าวตัวสั่นเทาด้วยความโมโหกัดริมฝีปากแน่น
“คุณหนูขอรับอาหารนี้ข้าขอรับแทนนายท่านนะขอรับ”
“เอาไปอยากได้ก็เอาไป จิ!” นางโกรธแค้นไป๋อิงมากกว่าเดิมจะไม่ยอมแพ้แม่หม้ายลูกติดเช่นนางหรอกนะ
‘เมื่อคราวก่อนเจ้าก็แย่งคุณชายไปจากข้า 10 ปีให้หลังเจ้าคิดจะแย่งผู้ตรวจการไปจากข้าอีกหรือไม่มีทาง ครั้งนี้ข้าไม่ยอมเจ้าหรอก ข้าจะจัดการเจ้าให้พ้นทางของข้า’ ลี่หลินคิดในใจเดินหนีไม่ให้ไป๋อิงได้
ตอนที่ 16 ข้ารักท่านรุ่งเช้าวันต่อมาจิงหยูลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อเสียงดังเอะอะโวยวายดังกึกก้องในจวน นางรีบสวมเสื้อคุมเดินออกมาดูนอกห้อง ใบหน้าพลันเปลี่ยนสีเมื่อเห็นทหารมากมายจับกุมทุกคนในจวนรวมถึงท่านแม่ของนางยามนี้“เกิดอะไรขึ้นทำไมทหารถึงเต็มจวนเช่นนี้ ท่านอ๋องท่านอ๋องอยู่ที่ใด”“อย่าได้โวยวายและยอมตามพวกเรามาแต่โดยดี ตอนนี้พวกเจ้าคือกบฏจะถูกประหารทันทีเมื่อพาตัวไปถึงคุกหลวง พวกเจ้าค้นให้ทั่วทั้งจวนอย่าให้มีผู้ใดหลงเหลือและหลบหนีไปได้ นี่คือคำสั่งของฮ่องเต้” เสมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน สมองของจิงหยูขาวโพลนขาไม่มีเรี่ยวแรงทรุดลงกับพื้นร่ำไห้อย่างขาดสติ“ไม่จริงข้าไม่เชื่อ ข้าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ข้าไม่ได้ทำ” นางกรีดร้องออกมาด้วยความเสียใจเพราะนางไม่คิดว่าท่านอ๋องจะก่อกบฏเรื่องนี้นางไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ แต่ทว่าทหารไม่ได้ฟังคำพูดของนางแม้แต่น้อยจับกุมทุกคนไปยังคุกหลวง ทุบตีนางกับมารดาตลอดทาง เมื่อสองเท้าเดินมาถึงหน้าวังหลวงนางแทบช็อกเมื่อเห็นหัวของอ๋องฉีถูกเสียบประจานอยู่หน้าวังเพื่อข่มขวัญไม่ให้คนที่คิดก่อกบฏกล้าที่จะลงมือ หากผู้ใดต่อต้านราชวงศ์และคิดจะยึดครองบัลลังก์ต้องเป็นเช่
ตอนที่ 15 จับกบฏเฟยหงยังไม่ได้กลับเรือนนางยังคงยืนคอยจิงหยูอยู่หน้าเรือน ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงเท้านางวิ่งออกมา เฟยหงกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินออกมาปะทะหน้ากับจิงหยู“อะไรกัน!! ทำไมถึงได้รีบร้อนวิ่งออกมาจากเรือนของแม่ทัพเช่นนี้ หรือว่าท่านแม่ทัพไม่ให้ความช่วยเหลือ ข้าบอกเจ้าแล้วหากอยากได้ความช่วยเหลือให้ไปหาเหล่าขุนนางที่มีหน้าที่รับฟังความเดือดร้อนของเจ้ามิใช่แม่ทัพ”“หยุดเสียที ท่านพี่ทำอย่างนี้กับท่านแม่ได้อย่างไร ท่านแม่ของข้าไปทำอันใดให้หากท่านต้องการแก้แค้นที่ข้าแย่งอ๋องฉีมา ท่านก็มาลงที่ข้าสิ”“จิงหยูเจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ข้านะหรือจะโกรธแค้นที่เจ้าแย่งอ๋องฉีไปจากข้า เปล่าเลยข้าดีใจเสียอีกที่เจ้าแต่งไปเป็นพระชายาอ๋องฉีแทนข้า เพราะตอนนี้ข้าได้พบกับคนรักที่ดีความรักที่ดี ส่วนเรื่องของท่านแม่เจ้าข้าไม่ได้ทำอันใดเลย แต่เป็นนางต่างหากที่ทำตัวเอง นางใช้ความรักความไว้ใจที่ท่านพ่อมีให้หักหลังทำร้ายท่านพ่อ แถมยังสวมเขาให้ท่านพ่อพาบุตรไร้สกุลเข้าเรือนและแอบอ้างว่าเป็นบุตรสาวตระกูลหลิวอีก ช่างน่าสมเพชจริง ๆ โชคดีที่ท่านพ่อของข้าตาสว่างและรู้ทันนางเสียก่อน คราแรกข้าก็นึกโกรธเคืองเจ้าที่กล้า
ตอนที่ 14 ไม่มีอารมณ์ฝั่งด้านจิงหยูนางอาบน้ำแต่งกายกำลังเดินทางออกไปหาแม่ทัพเก่อหลางที่เรือนของเขา มีทางการมาขวางทางนางเอาไว้ก่อนเพื่อแจ้งเรื่องที่ท่านแม่ของนางกำลังได้รับโทษอยู่ตอนนี้“ทูลพระชายากระหม่อมนำสารมาจากกรมยุติธรรมเพื่อแจ้งให้พระชายาได้รับทราบพ่ะย่ะค่ะ” จิงหยูคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เมื่อนางเปิดอ่านสารที่นำมาให้ร่างกายของนางสั่นเทา โยนสารนั้นทิ้งทันที“ไม่จริง ข้าไม่เชื่อจะเป็นอย่างนี้ได้ยังไง ข้าคือบุตรสาวคนรองของตระกูลหลิวมิใช่บุตรของชาวบ้านชั่วไป เรื่องนี้ข้าว่าต้องมีอะไรผิดแปลกไปแน่ ๆ หรือว่าจะเป็นเพราะท่านพี่เฟยหงที่แค้นข้า เรื่องที่ข้าแย่งท่านอ๋องฉี ข้าจะต้องไม่ให้ท่านแม่ของข้าถูกลงโทษ ข้าจะไปหาท่านแม่ทัพเพื่อขอความช่วยเหลือ หากท่านอ๋องรู้เรื่องนี้เข้าคงคิดว่าข้าเป็นเพียงคนธรรมดาต้องหย่ากับข้าและทิ้งข้าแน่ ๆ ” จิงหยูคิดในใจก่อนที่จะสั่งให้สารถีรีบพาตนเองไปที่เรือนของท่านแม่ทัพโดยเร็วที่สุดไม่นานก็มาถึงเรือนแม่ทัพจูเก่อหลางนางรีบขอพบเขาทันที โดยมีทหารของเขาพาเข้าไปด้านใน“ท่านแม่ทัพยามนี้พระชายาท่านอ๋องฉีหย่งอี้ขอพบขอรับ” เสียงทหารดังมาจากด้านนอก ตอนนี้เก่อหลา
ตอนที่ 13 หึงหวงเรือนแม่ทัพจูเก่อหลาง“ท่านแม่ทัพคุณหนูตระกูลหลิวมาขอเข้าพบขอรับ” เพียงได้ยินว่าเฟยหงมาหาเขารีบว่างสิ่งที่ทำอยู่ทันที“ให้นางเข้ามา”“ข้ามารบกวนเวลาของท่านหรือไม่ ?”“ไม่สักนิดข้ากำลังคิดถึงเจ้าอยู่พอดี เสมือนสวรรค์รู้ความรู้สึกของข้า”“ข้ามาหาท่านเพราะมีเรื่องจะแจ้งต่างหาก วันนี้ข้าเจอกับท่านอ๋องฉี ท่านเตรียมการรับมือจากอ๋องฉีกับองค์ชายต้าหลงหรือยังเจ้าคะ อีกเพียงไม่กี่วันแล้วที่ทางนั้นจะลงมือแถมอ๋องฉียังบอกกับข้าอีกว่าอีกไม่นานชีวิตของเขาจะเปลี่ยนไปและขอให้ข้ากลับไปเป็นพระชายา” ไม่ทันที่เฟยหงจะเอ่ยจบเลือดในร่างกายของเก่อหลางพลุ่งพล่านเมื่อได้ยินว่าอ๋องฉีจะมาพาตัวเฟยหงกลับ เขาคว้าตัวนางมาแนบชิดกอดแนบแน่นจนนางได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นแรงตึกตัก“ไม่มีทางที่ข้าจะปล่อยให้เจ้าไปกับอ๋องฉี คราก่อนข้ายอมเพราะเจ้าต้องการเช่นนั้นแต่ยามนี้ข้าจะฟังหัวใจตนเองต่อให้ข้าต้องยกทัพทำสงครามกับอ๋องฉีเพื่อแย่งชิงเจ้าข้าก็ยอม” เฟงหงยิ้มระรื่นดีใจที่เก่อหลางรักนางมากเพียงนี้ มือเรียวสองข้างยกขึ้นแตะเข้าที่ใบหน้าของเก่อหลางเงยหน้าจ้องมองด้วยสายตาอิ่มเอมไปด้วยความสุข“ผู้ใดบอกท่านว่าข้าจะกล
ตอนที่ 12 กลับมาเป็นพระยาของข้าเถอะนะรุ่งเช้าวันต่อมาอ๋องฉีเดินทางตั้งแต่เช้าสั่งสาวใช้ให้บอกว่าเขามีเรื่องที่จะต้องไปสะสางให้นางพักผ่อนเต็มที่ จิงหยูลืมตาขึ้นมาได้ยินจากปากของสาวใช้ นางยิ้มกว้างออกมาวันนี้นางจะไปหาท่านแม่ทัพที่เรือนของเขา“ในเมื่อข้าพูดจาดี ๆ กับท่านแล้วไม่ได้ผลข้าคงต้องใช้เสน่ห์ที่ข้ามีโปรยให้ท่านหลงใหลเสียแล้ว ไม่ว่าบุรุษใดเพียงแก้อาภรณ์ต่อหน้าร้อยทั้งร้อยคงไม่มีทางหนีพ้นเป็นแน่” นางอารมณ์ดีรีบลุกขึ้นลงแช่น้ำในอ่างที่สาวใช้ในจวนเตรียมไว้ให้ พร้อมโรยด้วยดอกไม้นานาพรรณให้กลิ่นกายมีความหอมฝั่งด้านอ๋องฉี เขาเดินทางกลับจากแม่น้ำขุยอันหลังจากที่พูดคุยหารือกับองค์ชายต้าหลงเสร็จสิ้นจึงเดินทางกลับ ระหว่างทางเห็นเฟยหงกำลังเดินในตลาดพร้อมกับมู่เอ๋อ เขารีบใช้เท้ากระแทกม้าพร้อมดึงเชือกให้ม้าหยุดเคลื่อนไหว ตั้งแต่ที่นางหย่ากับเขานี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบเจอนางคิดถึงคำพูดของจิงหยูนึกโมโหขึ้นมาทันที“ดูสิอยู่ที่จวนกับข้าเหมือนดอกไม้ไร้การรดน้ำเหี่ยวแห้งไร้อารมณ์ แต่นี่หย่ากับข้าไปได้ไม่เท่าไหร่ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มแถมยังดูเหมือนว่านางดูดีมากกว่าเดิมอีกด้วย หรือว่านางมีควา
ตอนที่ 11 ข้าเต็มใจให้เจ้าหลอก“นี่ก็ยามสองแล้ว ข้าต้องกลับเรือนท่านปล่อยข้าไปพร้อมกับมู่เอ๋อเถิด” “เจ้าไม่ไว้ใจข้าหรือเฟยหง”“จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไรล่ะ ท่านนะไม่เคยทำอะไรให้ข้าเสียใจอยู่แล้วแต่ว่าท่านเมามายแล้วนะเจ้าคะ”“ข้าไม่ได้เมาสุราแต่ตอนนี้ข้าเมาจากมากกว่า” เขากระซิบข้างหูก่อนจะจับมือของนางเดินไปที่ที่เขามักจะไปอยู่บ่อย ๆ ครั้นเมื่อคิดถึงนางเป็นสถานที่ทั้งสองเคยไปกันบ่อย ๆ ถนนโล่งไร้ผู้คนมีเพียงเสียงฝีเท้าของทั้งสองที่กำลังเดินไปที่สวนหลังหมู่บ้าน ที่นั่นมีแสงสว่างไสวงดงาม นานมากแล้วที่เฟยหงไม่ได้มาเยือน เมื่อมาถึงดวงตาของนางเป็นประกายรอยยิ้มเริ่มปรากฏบนใบหน้า ลมยามราตรีพัดโบกไปมาเย็นสบาย“นานแล้วสินะที่ไม่ได้มาที่นี่ ที่นี่ยังคงงดงามเสมอข้าคิดว่าท่านจะลืมมันไปแล้วเสียอีก”“ข้าจะลืมได้อย่างไรกัน ที่นี่คือที่ที่เราสองคนมักจะมาบ่อย ๆ และหลังจากที่เจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องฉีข้ามักจะมาที่นี่ร่ำสุรายามที่คิดถึงเจ้า เฟยหงไม่ว่าจะนานเท่าไหร่หัวใจของข้ายังมีเพียงเจ้าเสมอ เจ้าทำเสน่ห์ใส่ข้าหรืออย่างไรกัน”“ข้านะหรือทำเช่นนั้น? แต่ก็ไม่แน่นะเจ้าคะข้าเป็นสตรีดอกบัวขาวหลอกลวงทุกคน ตอนนี้อาจจ