แชร์

บทที่ 4 ได้งานทำแล้ว

ผู้เขียน: sanvittayam
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-21 18:26:46

บทที่ 4

ได้งานทำแล้ว

ฟ้ายังไม่ทันสางกุ้ยหนิงอันที่หลับไปด้วยความอ่อนเพลียตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าสดใส เนื่องจากได้นอนเต็มอิ่ม และวันนี้เธอหวังว่าจะเป็นวันที่ดีของเธอ

เมื่อลุกขึ้นจากเตียง กุ้ยหนิงอันจึงเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย หลังจากออกมาจากห้องน้ำ เธอจึงเลือกเสื้อผ้าที่ดูดีที่สุดสำหรับการสมัครงานในวันนี้ และเตรียมเอกสารส่วนตัวให้พร้อม ก่อนจะลงมาจากห้องเพื่อมาหาป้าจิงซือที่ชั้นล่างของอะพาร์ตเมนต์

อ้าวมาแล้วเหรอ กินอะไรมาหรือยัง วันนี้ป้าทำซาลาเปามากินด้วยกันสิ”

จิงซือเห็นว่ากุ้ยหนิงอันเดินลงมาแล้ว เธอและสามีกำลังทานอาหารเช้ากันอยู่ เพราะสามีของเธอนั้นเป็นยามของที่นี่

นั่นสิ มากินด้วยกันเถิดยายแก่ของลุงทำไว้เยอะเลย เราสองคนกินไม่หมดหรอก”

ลุงหม่าเอ่ยด้วยความเป็นกันเอง เมื่อคืนภรรยาเขาเล่าเรื่องเด็กสาวคนนี้ให้ฟังแล้ว และหวังว่าเธอจะได้งานที่โรงแรมของตระกูลหลัน

กุ้ยหนิงอันรู้สึกเกรงใจ แม้ว่าบ้านเมืองจะเริ่มพัฒนาแล้ว ทว่าเรื่องการอยู่การกินเธอไม่อยากรบกวนทั้งสองคน

มาเถิด เมื่อไหร่ที่ได้งานและได้เงินเดือน อันอันค่อยซื้อขนมมาให้ลุงกับป้าก็แล้วกัน ถ้ายังลังเลไม่แน่ว่าจะไปสายนะ”

เช่นนั้นก็ขอบคุณลุงกับป้ามากนะ ฉันสัญญาเมื่อไหร่ที่เงินเดือนออกฉันจะพาลุงกับป้าไปหาของอร่อยกินกัน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น กุ้ยหนิงอันจึงตอบตกลง จากนั้นจึงนั่งลงและหยิบซาลาเปาขึ้นมาหนึ่งลูก ทันทีกี่กัดเข้าไปความชุ่มฉ่ำของไส้ทะลักเข้ามาในปาก แม้ว่าเธอจะทำอาหารเป็น แต่ซาลาเปาลูกนี้เธอกลับมองว่าอร่อยมาก อร่อยกว่าร้านดังที่เธอเคยกินใจชาติก่อนเสียอีก

อร่อยมากเลยค่ะป้า วันไหนว่างป้าสอนฉันทำหน่อยนะ เมื่อไหร่ที่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านฉันจะได้ทำให้ทุกคนทานเหมือนกัน”

ได้สิ ป้าไม่หวงวิชาหรอก หากครั้งหน้าป้าทำอีกป้าจะให้ตาแก่ของป้าไปตาม”

เมื่อมีคนชอบอาหารที่เธอทำ ใครบ้างจะไม่ดีใจ เธอไม่ได้หวงวิชา คิดว่าต่อไปหากทำอาหารคงจะต้องเรียกเด็กสาวตรงหน้าให้มาดู ไม่แน่ในอนาคตเมื่อกลับบ้านไป นี่อาจจะเป็นอาชีพก็ได้

จากนั้นทั้งสามคนจึงทานอาหารมื้อนี้กันอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับเสียงหัวเราะและพูดคุยกันไม่หยุด

สู้ ๆ นะอันอัน ป้าเอาใจช่วย” ป้าจิงให้กำลังใจ เธอบอกกับหลานสาวว่าช่วยดูงานให้กับกุ้ยหนิงอันด้วย ก่อนจะกล่าวฝากฝังอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่กุ้ยหนิงอันจะผ่านสัมภาษณ์หรือเปล่า

ขอบคุณมากคะป้าจิง ฉันขอตัวเข้าไปสัมภาษณ์งานก่อนนะ”

กุ้ยหนิงอันยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในเพราะมีพนักงานมาแจ้งว่าถึงคิวสัมภาษณ์ของเธอแล้ว เธอหายไปร่วมหนึ่งชั่วโมงก่อนจะเดินกลับออกมาด้วยรอยยิ้ม

จิงซืออยากจะนั่งรอเด็กสาวคนนี้ ห่างไกลบ้านมาทำงานทำให้เธอนึกถึงลูกสาวที่แต่งงานไปอยู่ต่างมณฑล เลยตั้งใจว่าจะรอกุ้ยหนิงอันอยู่ตรงนี้แล้วค่อยกลับอะพาร์ตเมนต์พร้อมกัน

เป็นยังไงบ้างเดินยิ้มเข้ามาแบบนี้แสดงว่าข่าวดีใช่ไหม”

ใช่แล้วค่ะป้า ฝ่ายบุคคลของโรงแรมแจ้งว่าให้ฉันมาเริ่มงานได้เลยในวันพรุ่งนี้ นี่ค่ะทางโรงแรมให้ชุดพนักงานมาแล้ว”

กุ้ยหนิงอันยิ้มร่าเดินเข้ามาอย่างดีใจ ไม่คิดว่าสัมภาษณ์งานแล้วจะได้งานทำทันที ทีนี้เธอไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกแล้วว่าจะหาเงินจากไหนใช้ถ้ายังไม่ได้ทำงาน

ดี ดีแล้ว รีบกลับกันดีกว่า วันนี้เราต้องฉลองกันเสียแล้ว”

จิงซือดีใจไปด้วย เธอเห็นเด็กสาวยิ้มดีใจเธอก็ดีใจตาม ดูท่าแล้วเด็กสาวตรงหน้าคงจะดีใจไม่น้อยที่ได้งานทำ

ดีเลยค่ะป้า อย่างนั้นเราไปเดินตลาดกันก่อนไหม มื้อนี้ฉันเป็นเจ้ามือเอง”

ในเมื่อป้าและสามีของป้าดีกับเธอตั้งแต่วันแรกที่เธอมาที่นี่ ต่อให้มีเงินเหลือเพียงน้อยนิดเองก็อยากจะตอบแทนบุญคุณเช่นกัน

จากนั้นสองสาวต่างวัยต่างก็คล้องแขนกันเดินกลับอะพาร์ตเมนต์ แต่ก่อนกลับนั้นทั้งสองคนแวะซื้ออาหารเพื่อไปทำกินในโอกาสที่กุ้ยหนิงอันได้งานทำ

เมื่อกลับมาถึงกุ้ยหนิงอันเอาของไปเก็บบนห้องก่อนจะลงมาช่วยจิงซือทำอาหาร และเลี้ยงฉลองเล็ก ๆ กันก่อนที่จะแยกย้าย

เช้าวันต่อมา กุ้ยหนิงอันแต่งตัวในเครื่องแบบพนักงานก่อนจะมองกระจกที่ตู้เสื้อผ้า

สู้ ๆ นะอันอัน เริ่มงานวันแรกเธอต้องผ่านไปให้ได้ ในเมื่อชาติก่อนเธออยู่ในไร่เกือบทั้งชีวิต งานแค่นี้จะไปยากอะไร”

พอคิดถึงตรงนี้ก็อดที่จะนึกถึงน้องทั้งสองคนไม่ได้ ไม่รู้ว่าหลังจากที่เธอตายไป ทั้งสองจะมีชีวิตกันอยู่อย่างไร หวังเพียงว่าน้องชายจะไม่ไปล้างแค้นให้ก็แล้วกัน

หญิงสาวสะบัดศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะปรับอารมณ์ จากนั้นจึงเดินลงมาชั้นล่าง หลังจากที่กล่าวทักทายจิงซือและสามีของเธอ ก่อนจะเดินไปทำงานด้วยรอยยิ้ม เนื่องจากโรงแรมและอะพาร์ตเมนต์อยู่ไม่ไกลมากจึงไม่ต้องขึ้นรถโดยสาร

เธอเพิ่งมาเริ่มงานเหรอ” ซีซวนเพิ่งเริ่มงานได้เพียงหนึ่งเดือนกล่าวทักทายเพื่อนใหม่

ใช่แล้ว ฉันเพิ่งเริ่มงานวันนี้ ฉันชื่อหนิงอันหรือจะเรียกอันอันก็ได้นะ เธอกับฉันอายุน่าจะเท่ากัน”

ทันทีที่เห็นคนทักทาย กุ้ยหนิงอันจึงส่งยิ้มไปให้ หญิงสาวตรงหน้า ใบหน้านั้นน่ามองไม่น้อย

ฉันซื่อซีซวน หรือจะเรียกเสี่ยวซวนก็ได้” ซีซวนยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

อืม เช่นนั้นเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ แล้วเสี่ยวซวนพักอยู่ที่ไหนล่ะ”

ฉันพักอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ตระกูลหลัน ฉันไม่ใช่คนปักกิ่ง ฉันเป็นคนเซี่ยงไฮ้”

ใช่แล้วเธอเป็นคนเซี่ยงไฮ้ เธอขอพ่อมาหาประสบการณ์ที่นี่ เธอจึงหางานทำ และอยากมีสหายที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นใครแต่ก็ยังยอมคบหากับเธอ และหวังว่ากุ้ยหนิงอันคงจะเพื่อนกับเธอได้

จริงเหรอ ฉันเองก็พักที่นั่น ต่อไปเราสองคนมาทำงานพร้อมกันและกลับพร้อมกันดีไหม แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าเราควรจะรีบไปทำงานก่อนดีกว่า ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนหักเงินเดือนได้”

นั่นสิ ไม่ดีนะถ้าโดนหักเบี้ยเลี้ยงด้วย”

ซีซวนเห็นด้วยและหัวเราะออกมาเล็กน้อย

จากนั้นทั้งสองคนจึงไปทำหน้าที่ของตนเองอย่างที่ได้รับมอบหมาย เวลาเพียงไม่นานทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนรักกันโดยปริยาย และมีความสนิทกันมากขึ้น

วันเวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงวันรับเงินเดือน แม้ว่ากุ้ยหนิงอันทำงานไม่เต็มเดือน แต่เพราะเธอมีทิปของกลุ่มแม่บ้านจึงทำให้ได้รับส่วนแบ่งไม่น้อยเช่นกัน

เลิกงานแล้วจะไปไหนเหรออันอัน”

ฉันต้องไปส่งเงินกลับบ้านก่อน อีกทั้งวันนี้ฉันตั้งใจจะซื้ออาหารไปเลี้ยงฉลองกับป้าจิงและสามีของป้าจิง สัญญาไว้ตั้งแต่วันที่มาสมัครงานแล้ว”

อย่างนั้นฉันไปกับเธอด้วย จะได้หาซื้ออาหารไปเพิ่มด้วย เธอเพิ่งได้เงินเดือนหารกันดีกว่า”

ไม่ต้องหรอก เธอช่วยออกเงินให้มาหลายมื้อแล้ว”

นี่เป็นอีกเหตุผล เพราะเงินที่เธอมีนั้นคงจะหมดไปนานแล้วหากไม่ได้เพื่อนคนนี้ช่วยออกค่าอาหารมื้อเย็นหลายมื้อ แม้ว่ามื้อเที่ยงทางโรงแรมจะมีให้พนักงาน แต่มื้อเช้าและเย็น พนักงานต้องจัดหาเอง

เธอคิดมากเกินไปหรือเปล่าอันอัน เราสองคนเป็นเพื่อนรักกัน ฉันยังคิดเลยว่าเมื่อไหร่มีเวลาบ้างฉันอยากไปเที่ยวบ้านเธอที่ชนบท บรรยากาศน่าจะสบายกว่าในเมืองหลวงเช่นนี้”

นี่คือความใฝ่ฝันอย่างหนึ่ง เธออยากท่องเที่ยวเดินทางไปทั่วทุกพื้นที่ เมื่อไหร่ที่ต้องไปช่วยคุณพ่อทำงาน เธอคงไม่มีเวลาเป็นของตนเองอีกแล้ว

ได้สิ หากมีวันหยุดหลายวันฉันจะพาเธอไปเที่ยวบ้าน ที่นั่นมีพ่อ แม่ และน้องชายฝาแฝดของฉันอยู่ แต่บ้านฉันไม่ได้ร่ำรวยหรอกนะ หากเธอไม่รังเกียจ บ้านฉันยินดีต้อนรับ”

รวยจนสำคัญด้วยเหรอ เราคบกันเป็นเพื่อนสนิท ฉันไม่มองตรงนั้นหรอก เมื่อไหร่มีวันหยุดยาวฉันจะต้องไปเที่ยวบ้านเธอแน่นอน”

สองสาวมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มก่อนจะชวนกันไปจับจ่ายซื้อของ แต่ก่อนจะไปตลาดกุ้ยหนิงอันมองหาไปรษณีย์เพื่อส่งเงินกลับไปบ้านเสียก่อน

ซึ่งในครั้งนี้กุ้ยหนิงอันส่งเงินกลับบ้านถึงยี่สิบหยวน แม้เงินเดือนแม่บ้านเดือนนี้จะได้เพียงสี่สิบหยวน แต่เธอยังมีทิปรวมและค่าเช่าห้องของเธอเพียงห้าหยวนเท่านั้น เหลือไว้ที่ตัวเพียงสิบกว่าหยวนก็พอแล้ว เธอไม่ใช่คนที่จะใช้เงินฟุ่มเฟือย แค่นี้ก็พอใช้ทั้งเดือน เดือนหน้าเธอคงได้มากกว่านี้เพราะทำงานเต็มเดือน

กลับมากันแล้วเหรอ หอบข้าวของอะไรกันมามากมายล่ะนั่น ไม่ใช่ว่าเงินเดือนออกแล้วใช้เงินเรี่ยราดนะ” จิงซือเห็นว่าสองสาวกลับมาแล้วจึงเอ่ยทัก ทว่าเห็นข้าวของในมือก็อดที่จะบ่นไม่ได้

โธ่…ป้าจิง อย่าเพิ่งดุเราสองคนเลยค่ะ วันนี้ฉันส่งเงินกลับบ้านแล้ว และอยากเลี้ยงอาหารลุงกับป้าด้วย เราสองคนเลยหาซื้ออาหารมาทำกินเพื่อฉลองเงินเดือน เดือนแรกของฉันยังไงล่ะคะป้า”

กุ้ยหนิงอันรู้ว่าต้องโดนดุ เพราะลุงกับป้ามักจะเรียกเธอมาทานอาหารด้วยกันบ่อย ๆ และอยากให้เธอประหยัดเก็บเงินส่งครอบครัว ป้าจิงรู้ว่าฐานะทางบ้านของกุ้ยหนิงอันนั้นไม่ดีเท่าไรนัก เลยไม่อยากให้เด็กสาวต้องมาสิ้นเปลือง

เอาน่ายายแก่ อันอันกับเสี่ยวซวนมีน้ำใจก็อย่าดุทั้งสองคนเลย” สามีป้าจิงซือหันมาขยิบตาให้กับทั้งสองคน บอกเป็นนัยว่าให้รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าลงมา ไม่เช่นนั้นยายแก่ของเขาคงจะบ่นอีกนาน

เช่นนั้นเราสองคนไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ”

เดี๋ยวก่อน ป้าจะถามเราทั้งสองคนว่า ทำไมไม่ย้ายมาอยู่ด้วยกัน จะได้จ่ายค่าห้องคนละครึ่ง จะมาแยกกันเช่าทำไม”

จิงซือมองว่าในเมื่อทั้งสองคนสนิทกันควรจะลดค่าใช้จ่าย อีกทั้งเป็นผู้หญิงด้วยกันห้องก็กว้างขวางน่าจะอยู่ด้วยกันได้

กุ้ยหนิงอันกับซีซวนมองหน้ากันไม่นานก็ยิ้มออกมา ต่างก็คิดว่าจริงด้วย ทำไมเรื่องนี้ทั้งสองคนคิดไม่ได้กันนะ

จริงด้วยอันอัน เราสองคนย้ายมาอยู่ด้วยกัน ทั้งเธอและฉันต่างก็ประหยัดค่าห้องไปครึ่งหนึ่ง”

นั่นสิ เอาเป็นว่าเราสองคนย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะ” กุ้ยหนิงอันเห็นด้วย ก่อนจะหันไปตอบจิงซือเรื่องขอย้ายห้อง

จากนั้นจิงซือจึงทำเรื่องคืนห้องของกุ้ยหนิงอันเพราะทั้งสองตกลงกันแล้วว่าจะย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ห้องของซีซวน

สามีของจิงซือและตัวของจิงซือเองต่างก็มาช่วยเด็กสาวย้ายห้อง เมื่อเสร็จแล้วทั้งหมดจึงลงมาทำอาหารกินกัน เพราะเด็กสาวทั้งสองซื้อของมามากมาย และอยากเลี้ยงฉลองเงินเดือนเดือนแรกให้กับกุ้ยหนิงอัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หัวใจแกร่ง (ยุค 80 )   บทส่งท้าย ครอบครัวที่มีความสุข

    บทส่งท้ายครอบครัวที่มีความสุขจิ้งเจี้ยนซาพาลูก ๆ มาที่เซียงไฮ้ และแวะมาเยี่ยมเยียนซีซวนด้วย ซ่งซีซวนนำลูก ๆ ออกมาต้อนรับเพื่อนสนิทด้วยความคิดถึง พอเจอหน้ากันก็รีบโผกอดอย่างเร็ว“ซวนซวนเป็นยังไงบ้าง” กุ้ยหนิงอันผละออกและเปิดปากถามก่อน“ก็เรื่อย ๆ ตอนนี้งานฉันเริ่มจะเข้าที่เข้าทางแล้ว”ซีซวนก็กลอกตามองบน ตอบคำถามไปอย่างเหนื่อยหน่าย เพราะตั้งแต่แต่งงานมา เธอยังไม่มีเวลาส่วนตัวเลย เนื่องจากถูกนายท่านสามลากไปเรียนรู้งาน พอกลับมาบ้าน ก็ต้องรับมือกับลูก ๆ ตกดึกยังมีสามีที่นอนรออยู่บนเตียงอีก“เธอกับสามีล่ะ” จากนั้นก็ถามกุ้ยหนิงอันกลับไป พร้อมกับเหลือบไปมองสามีของเธอ และเพื่อนสนิทที่กำลังดูแลลูก ๆ อยู่“ก็กำลังปรับตัวกันอยู่ พี่เจี้ยนซาเขาไม่ค่อยถนัดงานบริหาร ฉันเองก็ต้องเรียนรู้ไปกับเขาด้วย” กุ้ยหนิงอันจึงตอบกลับไป เธอเองก็ไม่ต่างจากเพื่อนนัก“พอเธอมา ฉันเลยหาข้ออ้างที่จะหยุดกับอาสามได้”ซีซวนบ่นอุบให้เพื่อนสนิทฟังอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็พรั่งพรูความลำบากที่ถูกนายท่านสามซ่งใช้งานอย่างหนัก โดยมีกุ้ยหนิงอันนั่งฟังไปด้วย หัวเราะไปด้วยส่วนจิ้งเจี้ยนซาและหลันอี้ข่าย ก็รับหน้าที่ดูแลเด็กทั้งสี่ค

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หัวใจแกร่ง (ยุค 80 )   บทที่ 73 ช่วยกันทำงาน

    บทที่ 73ช่วยกันทำงานหลังจากที่นายท่านจิ้งเริ่มวางมือ งานของจิ้งเจี้ยนซาก็มากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้แผนงานของเขานั้นแทบไม่มีเวลาที่จะได้อยู่กับภรรยา กุ้ยหนิงอันก็มาช่วยงานสามีเช่นกัน ในฐานะผู้ช่วย“สวัสดีครับคุณชายจิ้ง”นายท่านไช่ คู่ค้าของธุรกิจตระกูลจิ้ง ตั้งแต่รุ่นพ่อที่มีนัดกับจิ้งเจี้ยนซาในวันนี้มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อชายหนุ่มที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็กเดินเข้ามา เขาก็ลุกขึ้นและเอ่ยทักทาย“สวัสดีครับท่าน” จิ้งเจี้ยนซาก็คุ้นเคยกับชายวัยกลางคนตรงหน้าไม่น้อย เนื่องจากนายท่านไช่นั้นเป็นรุ่นน้องของพ่อเขาอีกที“ไม่เจอกันเสียนาน งานแต่งงานต้องขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไป”นายท่านไช่เอ่ยขอโทษ เพราะงานแต่งงานของจิ้งเจี้ยนซานั้นเขาไม่ได้ไปร่วม เนื่องจากมีงานด่วนที่ต่างประเทศ ทำได้เพียงส่งของขวัญไปแสดงความยินดีเท่านั้น“ไม่เป็นไรเลยครับ ผมเข้าใจว่าท่านไปต่างประเทศ” ซึ่งจิ้งเจี้ยนซาก็เข้าใจ“ยังไงก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะ” นายท่านไช่จึงแสดงความยินดีด้วยอีกครั้ง“ขอบคุณครับ นี่กุ้ยหนิงอัน ภรรยาของผมครับ” จิ้งเจี้ยนซาตอบรับ และแนะนำภรรยาที่มาด้วยกันให้ผู้ใหญ่รู้จัก“สวัสดีค่ะนายท่านไช่” กุ้ยหนิงอันค้อมก

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หัวใจแกร่ง (ยุค 80 )   บทที่ 72 ค่าสินสอดที่ถูกกล่าวขาน 

    บทที่ 72ค่าสินสอดที่ถูกกล่าวขาน จิ้งเจี้ยนซาพาครอบครัวภรรยา และลูก ๆ เดินทางมาที่ปักกิ่ง เพื่อจัดเตรียมงานแต่งงานของเขาที่นี่ ถ้าว่ากันตามความจริงแล้ว ก็ไม่เชิงว่ามาจัดเตรียมงานเท่าไรนัก เพราะคนที่จัดการเรื่องนี้ และอาสาทำเองทุกอย่างคือนายท่านจิ้งที่เดินทางมาจัดเตรียมงานก่อนพวกเขาเสียอีกครอบครัวกุ้ยได้เชิญคนในหมู่บ้านที่มีความสัมพันธ์อันดีมาด้วย แต่เว้นแต่บ้านใหญ่ ที่ตอนนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว และคนที่ถูกเชิญก็จะตามมาเมื่อใกล้ถึงวันงาน โดยมีบ้านสามกุ้ยเป็นคนพามานั่นเองพอจิ้งเจี้ยนซา และคนบ้านกุ้ยมาถึงปักกิ่งก็เข้าพักที่คฤหาสน์ของตระกูลจิ้งกันวันแรกถือเป็นการพักผ่อน และทำตัวให้ชินในเมืองหลวง ซึ่งคนบ้านกุ้ยก็ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แล้วแต่วันที่สองนั้นกุ้ยหนิงอันก็ถูกสามีลากมาลองชุดแต่งงานที่ห้องเสื้อแห่งหนึ่ง หญิงสาวก็ให้ความร่วมมือด้วยความเต็มใจ“ชุดนี้เป็นยังไงบ้างคะ” เธอลองชุดออกมาให้สามีดูเป็นชุดที่ห้า ซึ่งเขาก็ดูพอใจกับทุกชุด เพียงแต่แค่เขาเห็นส่วนไหนที่วาบหวิวเพียงนิดเดียว ก็แสดงความไม่พอใจออกมาทันที“ชุดนี้ดีครับ” จิ้งเจี้ยนซาพยักหน้าพอใจเมื่อเห็นภรรยาในชุดแต่งงาน เขาอยากใ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หัวใจแกร่ง (ยุค 80 )   บทที่ 71 งานมงคลของซ่งซีซวน

    บทที่ 71 งานมงคลของซ่งซีซวนหลังจากที่กุ้ยจื่อหลงจัดการปัญหากับบ้านใหญ่แล้ว คนบ้านกุ้ยก็มาทุ่มเทให้กับสวนผลไม้ โดยมีจิ้งเจี้ยนซาคอยช่วยเหลือทุกอย่าง เนื่องจากเขาลาออกจากราชการแล้วจึงมีเวลาช่วยงานภรรยากุ้ยหนิงอันเองก็ช่วยสามีทำงานเช่นกัน เพราะตอนนี้นายท่านจิ้งนั้นได้เริ่มวางมือให้ลูกชายไปช่วยดูแลธุรกิจให้แล้ว ทำให้สองสามีภรรยาไม่ค่อยมีเวลาว่างกันเลยจนใกล้วันที่เป็นงานแต่งงานของซ่งซีซวนและหลันอี้ข่ายแล้ว บ้านกุ้ยจึงขนกันไปที่เซียงไฮ้ เพื่อร่วมงานแต่งงานของทั้งสองคนในส่วนงานแต่งงานของกุ้ยหนิงอันและจิ้งเจี้ยนซานั้น ตกลงกันไม่ได้ เพราะนายท่านจิ้งก็อยากจะจัดงานที่ปักกิ่งด้วย จึงทำให้จะมีงานแต่งงานถึงสองที่ด้วยกัน งานแต่งงานของซีซวนในครั้งนี้ จิ้งเจี้ยนซาก็ถือโอกาสมาแจกการ์ดงานแต่งงานของเขาด้วยเช่นกันงานแต่งงานของซ่งซีซวนรอบบ่ายจัดขึ้นที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนายหญิงหลันที่เป็นคนจัดเตรียมทุกอย่าง ทำให้งานออกมาอลังการเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ทางเข้างานก็รับรู้ได้ถึงความหรูหรา ส่วนตอนเช้าได้ทำพิธียกน้ำชาตามธรรมเนียมเรียบร้อยแล้วกุ้ยหนิงอันนั้นถือว่าเป็นญาติทางซีซวน จึงมีคนมาพาเธอและลูก ๆ ไ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หัวใจแกร่ง (ยุค 80 )   บทที่ 70 รบเร้าอยากแต่งงาน

    บทที่ 70 รบเร้าอยากแต่งงานหลังจากงานศพของแม่เฒ่ากุ้ยผ่านพ้นไป กุ้ยจื่อหลงแม้จะมีเศร้าใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นทุกข์ตรม แต่ว่าพอเสร็จสิ้นงานศพ พี่ใหญ่ หรือลุงใหญ่กุ้ยก็มาคุยกับเขา คือเรื่องที่อีกฝ่ายนั้นใช้เงินไปจนหมดกับการจัดงานแล้ว ไหนจะหลานชายที่ถูกจับตัวไปอีก ทางนั้นต้องการให้เขาบอกกับลูกเขย ใช้เส้นสายพาหลานชายออกมา“พ่อเป็นอะไรไปคะ” กุ้ยหนิงอันเดินผ่านไปแล้วเห็นพ่อนั่งคิดอะไรอยู่จึงเดินเข้าไปถามไถ่“อันอัน”“มีอะไรหรือเปล่าคะ?” กุ้ยหนิงอันเห็นสีหน้าของคนเป็นพ่อก็รู้สึกไม่ดี เพราะพ่อกุ้ยเหมือนมีเรื่องเครียดอะไรที่เธอไม่รู้“ลุงใหญ่ของลูกขอให้ช่วยลูกชายเขาที่ติดคุกอยู่ตอนนี้”แต่เมื่อกุ้ยจื่อหลงเอ่ยออกมา กุ้ยหนิงอันกลับมีสีหน้าที่เอือมระอา ขนาดตงเฉิงทำเรื่องร้ายแรง จนทำให้ย่ากุ้ยต้องตายไป บ้านใหญ่ยังถือหางอยากจะช่วยเขาอีก เธอไม่แปลกใจเลยที่ลูกชายของลุงใหญ่จะเติบโตมาแบบนี้“เราช่วยไม่ได้หรอกนะคะพ่อ เขาทำผิด ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีเอง” และแน่นอนว่าเธอต้องปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือเรื่องนี้“พ่อว่าจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับงานศพของย่า อันอันคิดเห็นยังไงลูก”กุ้ยจื่อหลงก็ไม่ได้ค

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่หัวใจแกร่ง (ยุค 80 )   บทที่ 69 ตัดสินใจลาออก 

    บทที่ 69 ตัดสินใจลาออก หลังจากผ่านเรื่องราวร้าย ๆ ในที่สุดก็ถึงวันที่ซีซวนขึ้นรับตำแหน่งแทนนายท่านซ่ง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นส่วนหรือกรรมการต่างก็เห็นด้วย เพราะรู้ดีว่าซีซวนนั้นเป็นสะใภ้รองของตระกูลหลัน และยังมีตระกูลหยางรวมถึงเธอยังเป็นเพื่อนรักกับสะใภ้เพียงหนึ่งเดียวของตระกูลจิ้งอีกด้วยวันนี้ภายในงานจึงมีแขกมากมายมาร่วมยินดี ทว่าสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจไม่ใช่เพราะซีซวนขึ้นรับตำแหน่งแทนบิดา แต่เป็นคนที่ซีซวนเอ่ยขึ้นเพื่อให้รักษาการในตำแหน่งนี้แทนเธอมากกว่า“วันนี้ต้องขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงาน วันนี้ฉันจะขอแจ้งรายชื่อรองผู้นำ ซึ่งนั่นก็คือซ่งโหมวช่าย หรือก็คืออาสามของฉันเอง”นายท่านสามซ่งได้แต่นิ่งค้างเมื่อตำแหน่งรองผู้นำตระกูลตกลงมาบนหัว ก่อนจะมองหน้าพี่ชายและหลานสาวด้วยคำถามทันทีที่เห็นพี่ชายพยักหน้าให้ เขาจึงเดินมาหาหลานสาวบนเวที“เพราะอะไรซีซวน”“เพราะอาไม่เคยคิดร้ายฉันและคุณพ่อยังไงล่ะคะ อีกทั้งตัวฉันเองอายุยังน้อย ยังต้องศึกษาอีกหลายเรื่อง เมื่อคุณพ่อวางมืออาสามจึงเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดแล้ว อีกทั้งเราคือครอบครัวเดียวกันค่ะ”ต่อให้ที่ผ่านมาเธอใช้ความรู้คำว่าครอบครัวต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status