อู๋เหวยกลับมาถึงบ้านในเวลาเดิม ทว่าเมื่อเขาจอดรถที่ในบ้าน กลับไม่เห็นเงาร่างเล็ก ๆ ของลูกสาววิ่งเข้ามากอด หลายวันแล้วที่ซวนซวนไม่ได้กอดเขา รอต้อนรับเขากลับบ้าน หรือว่าเขาควรจะชินได้แล้ว แต่ก็ไม่ชินเสียที
“ซวนซวนพ่อกลับมาแล้ว” ครั้นเมื่อเดินเข้าไปถึง เขาก็ได้ยินเสียงท่องหนังสือของลูกสาว และเสียงละมุนที่คอยบอกเวลาที่ซวนซวนท่องผิด คำพูดของไป๋จ้าวเหม่ยไม่มีคำไหนที่จะด่า หรือตำหนิ มีแต่ค่อย ๆ บอกค่อย ๆ สอน
“ไป๋จ้าวเหม่ยรู้หนังสือตั้งแต่เมื่อไรกัน” ชายหนุ่มหยุดฟังอยู่พักใหญ่ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากทางหน้าบ้าน เป็นหลิวชิงฮุยอีกแล้ว และคราวนี้หญิงสาวสองคนที่อยู่หลังบ้านก็ได้ยินเช่นกัน
“พ่อหนูมาแล้ว เอาไว้ท่องต่อกลางคืนก็ได้ ไปหาพ่อหนูเถอะ น้าล้างสมุนไพรอีกแป๊บเดียวเดี๋ยวจะตามออกไป”
“ได้ค่ะ” อู๋ชิงซวนวิ่งออกไปข้างนอก อู๋เหวยได้ยินเสียงฝีเท้า ก็ย่อตัวอ้าแขนออก
ร่างเล็กกระโจนเข้ามากอด พร้อมกับที่คนเป็นพ่ออุ้มขึ้นมา เหวี่ยงหมุนตัวไปมา เขากดจมูกลงจูบที่หน้าผากเล็ก สูดลมหายใจเข้า กลิ่นของลูก อ้อมกอดของลูก เป็นการเพิ่มพลังชีวิตให้เขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ไม่ว่าจะท้อเท่าไร แค่เพียงได้กอดเด็กคนนี้ ความเหนื่อยล้าก็พลันหายไป
“ซวนซวนไม่เจอหลายวัน หนูผอมลงไปอีกแล้ว ไม่ได้กินอาหารเหรอจ๊ะ โธ่เอ๊ยน่าสงสารจัง พี่เหวยคะ ฉันว่าพี่ต้องจัดการภรรยาพี่สักทีแล้ว วันก่อนฉันเอาขนมมาให้ซวนซวน ฉันเห็นสหายไป๋นั่งกินเนื้อสามชั้น ข้าวก็ไม่กิน ซวนซวนได้กินบะหมี่ ฉันต่อว่าออกไป เธอก็ด่าว่าฉันยุ่ง เฮ้อถ้าไม่เห็นว่าลูกสาวพี่ต้องอยู่กับเธอทุกวัน ฉันไม่ทนหรอกค่ะ กลัวแค่สหายไป๋จะตีเด็กน้อยอีก”
หลิวชิงฮุยเล่าเรื่องราวกับเป็นเรื่องใหญ่โต ยิ่งเล่าก็ยิ่งหยุดไม่ได้ สีหน้าของอู๋เหวยก็ยิ่งเขียวคล้ำมากยิ่งขึ้น
“กินเนื้อสามชั้น” หากจำไม่ผิดวันเงินเดือนออก อู๋เหวยซื้อมาสองชิ้น หรือว่ายัยอ้วนนั่นจะแอบกินคนเดียวหมดไปอีกแล้ว ช่างเป็นผีหมูอดอยากต่ำทรามจริง ๆ
“ใช่ค่ะพี่เหวย สหายไป๋กินเล่นเปล่า ๆ ด้วยค่ะ ปกติชาวบ้านอย่างพวกเรา มีเนื้อกินสักชิ้นก็ต้องรอเทศกาล ไหนเลยจะกินได้ทุกวัน บ้านพ่อฉันยังไม่กินแบบนี้” หากจะถามว่าใครรวยที่สุดในหมู่บ้าน ก็ไม่พ้นผู้นำหมู่บ้านหลิวกัง และหากบ้านตระกูลหลิวยังกินเนื้อไม่ได้ บ้านอื่นก็อย่าพูดถึง ยกเว้นบ้านสกุลเจียงที่ทำอาชีพล่าสัตว์ขาย
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะพี่ชิงฮุยเข้าใจผิดแล้ว น้าเหม่ยเขากำลังลดน้ำหนัก เขาเรียกว่าอะไรน้าขี้โต”
“ไม่ใช่ขี้โต เขาเรียกว่าคีโตต่างหาก” ไป๋จ้าวเหม่ยเดินออกมาได้ยิน หัวเข่าก็แทบจะทรุดลงกับพื้น ใครจะกินขี้โตกันล่ะยัยหนูน้อยเอ๊ย
“ใช่ๆ นั่นแหละ แฮ่ ๆ หนูจำไม่ได้” อู๋ชิงซวนซบหน้าลงที่หัวไหล่ของคนเป็นพ่อ เธอโผล่หน้าออกมาแลบลิ้นอีกมือก็เกาท้ายทอยแก้เขิน
“เธอกินเนื้อสามชั้นติดมันเข้าไปจริง ๆ น่ะเหรอ” อู๋เหวยหันมาถามหน้าตึง แต่เดี๋ยวก่อนเขาจะดึงหน้าให้ใครดู มาชักสีหน้าใส่ เธอก็ไม่กลัวหรอกนะ
“ใช่ฉันกินคีโต และทำไอเอฟเพื่อลดน้ำหนัก” ครั้นได้ยินคำตอบหน้าตาเฉยของไป๋จ้าวเหม่ย อู๋เหวยก็สูดลมหายใจเข้าอย่างเต็มแรง ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเห็นใครลดน้ำหนักด้วยการกินหมูเลย
“กินหมูติดมันเพื่อลดน้ำหนัก ไป๋จ้าวเหม่ยเธอคิดจะหลอกซวนซวนก็แล้วไปเถอะ ยังไงคนหน้าด้านอย่างเธอ ก็ถนัดการหลอกเด็กอยู่แล้ว แต่เธอยังคิดจะมาหลอกฉัน บ้านตระกูลไป๋สอนเธอมาเหรอ กินมันเพื่อลดน้ำหนัก ปัญญาอ่อน! เนื้อที่ฉันซื้อมา ฉันต้องการให้เธอทำอาหารให้ลูก ไม่ใช่ให้ผีหมูอดอยากอย่างเธอกิน”
“พี่เหวยใจเย็น ๆ ค่ะ อย่าไปถือสาเธอเลย คนอ้วนก็มักจะกินเยอะแบบนี้ นี่ถ้าไม่รู้ว่าเธอแอบกินเนื้อที่พี่ซื้อไว้ ฉันก็สงสัยนะว่าทำไมเธอถึงอ้วน แต่เห็นแบบนี้แล้ว เฮ้อ...มิน่าซวนซวนของเราถึงได้ผอมจนเห็นกระดูก”
“จะกินเยอะกินน้อย ฉันก็ไม่ได้ไปกินบนหัวเธอ แล้วรู้อะไรไหม นอกจากกินหมูติดมันแล้ว ฉันยังกินอะไรอีกถึงทำให้อ้วนขนาดนี้”
“เธอกินอะไรอีกล่ะสหายไป๋” หลิวชิงฮุยรีบถามออกมา เพราะอยากให้อีกฝ่าย เอ่ยคำพูดเห็นแก่ตัวต่อหน้าอู๋เหวยอีก พี่เหวยจะได้หมดใจหย่าขาดจากเธอสักที สารเลวขนาดนี้ไม่เข้าใจเลยทำไมพี่เหวยไม่หย่า
“ฉันกินพ่อ! เธอเข้าไปยังไงล่ะ นี่เดี๋ยวถ้าไม่อิ่มฉันจะกินแม่! เธอเข้าไปด้วย บางทีอาจจะไปกินญาติพี่น้อง ปู่ย่าตายายเธอให้หมด อย่าเก็บไว้เลยพวกขี้เสือกอะ กิน ๆ มันให้หมดเถอะ”
“ไป๋จ้าวเหม่ย! พี่เหวยคะฉันไม่ยอมนะคะ พี่ต้องจัดการเธอให้ฉัน หยาบคายเกินไปแล้ว ฉันไม่ได้เสือกนะคะพี่เหวย ที่ฉันทำไปเพราะเป็นห่วงลูกสาวพี่”
“อุ๊ย...ขอโทษทีนะ เธอเป็นห่วงในฐานะอะไร เธอน่ะห่วงไม่ได้ แต่ฉันห่วงได้ ฉันเป็นแม่เลี้ยงแต่เธอเป็นอะไร” ความจริงไป๋จ้าวเหม่ยก็โมโหอู๋เหวยด้วยเช่นกัน แต่เธอด่าเขาไม่ถนัดปาก เพราะเธอเอาหมูที่เขาซื้อมากิน ใช้เงินที่เขาให้ไว้มาซื้ออีก รอให้ขายสมุนไพรได้ก่อนเถอะ แม่จะด่ากราดให้หมด แต่ตอนนี้ด่านังดอกบัวขาวก่อนเลย
บอกตรง ๆ อู๋เหวยก็ขยาดฝีปากของไป๋จ้าวเหม่ยเหมือนกัน ดีไม่ดีถ้าด่าเธอมาก ๆ เธอวิ่งไปนอนกลิ้งหน้าบ้านย่าสามอีก เขาไม่ต้องถูกอบรมยกใหญ่เหรอ และอีกอย่างต่อให้เขาและไป๋จ้าวเหม่ยจะทะเลาะกัน ก็ควรปิดประตูทะเลาะกันในบ้าน อย่าให้คนอื่นมาวุ่นวายด้วยเป็นดีที่สุด
“เดี๋ยวผมจะคุยกับอาเหม่ยเอง ชิงฮุยมาเติมลมยางรถใช่ไหม มาสิเดี๋ยวผมเติมให้”
“เติมลมรถ โอ๊ย! หล่อนขี่รถบนดวงจันทร์หรือยังไง ถึงได้ล้อแบนบ่อย ๆ เดือนหนึ่งมาเติมลมไปแล้วยี่สิบห้าวัน ฉันว่าหล่อนให้ผู้นำหลิวไปซื้อสูบลมมาไว้ไม่ดีกว่าเหรอ นี่ขนาดฉันอ้วนแบบนี้ยังไม่ขี่รถล้อแบนเลย นี่สหายหลิวหล่อนปล่อยลมออกเองหรือเปล่าเถอะ”
“ไป๋จ้าวเหม่ย! พี่เหวยคะ”
“เอาละ ๆ อย่าสนใจเลย มา ๆ ผมเติมลมให้” อู๋เหวยส่งลูกสาวให้กับไป๋จ้าวเหม่ย และเดินไปที่เพิงร้านซ่อมรถ หลิวชิงฮุยถลึงตาใส่หญิงสาว จากนั้นก็รีบตามชายหนุ่มไป
ไป๋จ้าวเหม่ยยักไหล่ไม่สนใจ เธออุ้มเด็กน้อยไปที่ประตูรั้ว เปิดออกให้สุด แขวนป้ายเปิดร้านเอาไว้ แน่นอนว่านอกจากตัวหนังสือที่ชาวบ้านส่วนใหญ่อ่านไม่ออกแล้ว ยังมีเครื่องหมายขีดผิด ขีดถูกเอาไว้ด้วย คราวนี้อ่านไม่ออก ก็เข้าใจตรงกัน
“น้าเหม่ยคะ น้าจะกินคนไม่ได้นะ” อู๋ชิงซวนฉวยโอกาสตอนที่ทั้งคู่เดินออกมาที่ประตู กระซิบเตือนแม่เลี้ยงสักคำ
“หืม...กินคน”
“ก็ใช่ไงคะ มันผิดกฎหมายค่ะ น้ากินคีโตเนื้อหมูต่อไปเถอะ อย่าคีโตเนื้อคนเลย นายตำรวจจับแน่ ๆ”
“น้าไปกินเนื้อคนตั้งแต่เมื่อไรกันหืม”
“อ้าวก็ลุงผู้นำหลิว กับป้าสะใภ้หลิวยังไงล่ะคะ ไหนจะคนตระกูลหลิวที่น้าบอกว่าจะไปกิน” อู๋ชิงซวนมองซ้ายมองขวา ขยับริมฝีปากเข้าไปชิดใบหูของหญิงสาว พลางกดเสียงให้เบาลงไปอีก
“อีกอย่างนะคะ ลุงหลิวหัวล้าน หนูได้ยินป้าสะใภ้หลิวชอบด่าว่าเหม็นเขียว ท้องใหญ่ ๆ นั่นมีแต่อึ อี๋สกปรกอย่ากินเลยค่ะ”
“ฮ่า ๆ ๆ โอ๊ยซวนซวนทำไมหนูน่ารักขนาดนี้ โอ๊ย ๆ น้าปวดท้อง” ไป๋จ้าวเหม่ยกดริมฝีปากตนเองลงที่แก้มเล็ก ๆ อย่างมันเขี้ยว ให้ตายเด็กคนนี้มันซื่อจนน่ารัก เธอหลงรักไม่ไหวแล้ว
“เดี๋ยวน้าขายสมุนไพรได้ จะซื้อผ้ามาตัดชุดให้หนูอีก คราวนี้เอาชุดนอน ชุดใส่เล่นด้วยหลาย ๆ ชุดเลย”
*************
ตอนที่ 26 สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอไป๋จ้าวเหม่ยเปิดถุงกระดาษหยิบชุดที่หลิวชิงฮุยซื้อมาฝากซวนซวน เมื่อตอนเย็นแม่ดอกบัวขาวใต้ตมพยายามจะชวนเด็กน้อยคุยเล่น ทว่าซวนซวนก็ไม่ได้สนใจเท่าที่ควร เธอเอาเวลาไปคัดแยกพุทราจีนที่เก็บมาจากบนเขา พรุ่งนี้พ่อของเธอจะเอาไปขายให้หลิวชิงฮุยเห็นว่าเด็กน้อยไม่สนใจ จึงได้กลับไปอย่างพ่ายแพ้“ซวนซวนหนูมาดูชุดที่พี่ชิงฮุยซื้อมาฝาก สวยดีนะ ว้าวชุดนี้เหมือนชุดกะลาสีเรือเลย”“อะไรคือกะลาสีเรือคะ” เด็กน้อยละสายตาจากแบบฝึกหัดที่กำลังเขียนอยู่ หันมาเอียงคอถามตอนนี้เด็กน้อยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชุดใหม่อีกแล้ว อาจเป็นเพราะแม่เลี้ยงของเธอตัดให้จนครบเจ็ดวัน ไหนจะมีชุดที่เอาไว้ใส่ไปข้างนอก ชุดนอน ชุดใส่เล่น เต็มไปหมด อะไรที่ได้มามากพอก็ทำให้เธอหมดความสนใจ อีกอย่างชุดที่แม่เธอตัดก็สวยกว่าชุดที่วางขายมาก“ก็นี่ยังไงชุดที่มีคอปกข้างหลัง ชอบไหม ว่าไม่ได้หลิวชิงฮุยซื้อของดีมาให้เชียวนะ ผ้านุ่มเชียวใส่สบายตัวเลยละ”“ชอบค่ะ แต่ชอบชุดที่แม่ตัดเย็บให้มากกว่า เหมือนชุดนี้ไง ชุดนอนของหนู พ่อคะพ่อเห็นด้วยหรือเปล่า ชุดนอนที่แม่ทำสวยกว่าอีกเนอะ” อู๋ชิงซวนหมุนตัวหนึ่งรอบ ให้ดูชุดนอนก
ตอนที่ 25 สงสัยไป๋จ้าวเหม่ยพลาดไปแล้ว เธอพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ลืมไปได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เธอมองท้องฟ้าที่สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย“เธอจะให้ฉันเอาสมุนไพรไปขายให้หรือเปล่า แต่เอาไปแบบไม่ตากแห้งมันจะขายได้ไหม ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราเก็บเอาไว้ก่อน อบกับไฟก็แห้งเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”“แบบสดมันก็ขายได้ ฉันไม่แน่ใจว่าราคามันจะดีเหมือนแห้งหรือเปล่าน่ะสิ” บอกตรง ๆ เรื่องราคาของ หรือค่าเงินในยุคนี้เธอไม่ค่อยรู้เลยด้วยซ้ำ ดูอย่างที่ว่าทุกอย่างในยุคนี้ ราคาถูก เต้าหู้ก้อนหนึ่งแค่หนึ่งเหมาเท่านั้น ผ้าสวย ๆ หนึ่งพับแค่หนึ่งหยวน แต่!...มันกลับแพงยิ่งกว่าในยุคของเธอเสียอีก อาจเพราะค่าเงินมันไม่เท่ากันกระมัง“จะดีไม่ดียังไงก็ต้องขายไม่ใช่เหรอ เอาไว้หมดหน้าฝน ฉันจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรพวกนี้ให้เธอเอง ถึงตอนนั้นเธอก็จะได้เงินเท่าเดิมแล้ว”ไป๋จ้าวเหม่ยพยักหน้าแกน ๆ ยังไงก็ต้องทำตามที่อู๋เหวยบอกนั่นแหละ เพราะนี่ก็สองวันแล้ว หากไม่รีบขายสมุนไพรของเธอก็คงจะเหี่ยวหมดราคาแน่ ๆ เห็ดหลินจือเธอสามารถเก็บเอาไว้ขายทีหลังได้ แต่โสมคนกับโสมซานซีและสมุนไพรอื่น ๆ คงต้องขายออกไป รวมทั้งพุทราแห้งด้ว
ตอนที่ 24 ออกตามหากว่าจะปลอบให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ร่างอวบ ๆ ของเธอก็หนาวสั่น เธอรีบล้วงเข้าไปในตะกร้าสมุนไพร หยิบกลักไม้ขีดออกมา รวบเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้ง ๆ ที่ถูกลมปลิวพัดมากระจุกอยู่ในถ้ำ และจุดไฟให้ความอบอุ่น“ซวนซวนหนูใส่เสื้อทับด้วยหรือเปล่าจ๊ะ”“ใส่ค่ะ”“ดีเลย ตอนนี้หนูถอดเสื้อผ้าออกมาก่อน เหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในและเสื้อกล้ามก็พอ เอาออกมาอังไฟให้แห้งก่อน” อู๋ชิงซวนรีบถอดชุดออกมา รวมทั้งถุงเท้ารองเท้าทั้งหมด กางเกงในของเด็กน้อยเป็นทรงสามเหลี่ยม ที่แม่เลี้ยงตัดเย็บให้ และเสื้อกล้ามก็เป็นเสื้อที่ปิดถึงแค่เหนือสะดือ แต่เพราะที่นี่มีเพียงเธอสองคน เด็กหญิงจึงไม่อาย“รอน้าอยู่ตรงนี้แป๊บเดียว น้าจะไปเอากิ่งไม้ ถึงจะเปียกแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย” กำลังจะก้าวขาออกไป ทว่ามือเล็กก็ดึงเอาไว้ก่อน“น้าไปตรงนี้เอง หนูนั่งมองออกไปก็เห็น”“ไม่ใช่น้า” เด็กหญิงทำปากยู่ราวกับเป็ดตัวน้อยแสนงอนอย่างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยหลุดขำออกมา พลางยื่นมือไปบีบปากแหลม ๆ นั่น“เอาละ ๆ แม่ผิดไปแล้ว ต้องโทษที่แม่สมองไม่ดี ทำให้ลืมเสียได้ ซวนซวนน้อยไม่โกรธแม่นะคะลูก”“ไม่โกรธค่ะ แม่รีบไปรีบมานะคะ หนูนั่งผิงไฟตรงนี้ แต่แม่ถอดเส
ตอนที่ 23 ติดถ้ำเปรี้ยง! เสียงสายฟ้าร้องลั่นสั่นสะเทือน สายฝนกระหน่ำลงมาราวกับฟ้าถล่ม หญิงสาวโหนตัวอยู่ที่บนหน้าผา เธอกัดฟันปีนขึ้นไป แต่เพราะน้ำฝนที่สาดลงมาทำให้มือที่เกาะลื่น ร่างอวบร่วงพรืดลงไป มือเล็กรีบจิกเล็บลงที่ซอกหิน จนเล็บหักสิบนิ้วสื่อถึงหัวใจ ทว่าความเจ็บปวดไม่เท่ากับความหวาดกลัว คนตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายอีก และที่สำคัญซวนซวนอยู่คนเดียว! ไม่รู้เด็กคนนั้นจะกลัวแค่ไหน ป่านนี้ไม่ใช่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วเหรอ“ฉันก็ว่าแล้ว โชคดีมันจะมาง่าย ๆ ได้ยังไง ได้โสมได้เห็ด แต่เกือบตกเขา ไม่ได้ฉันจะตายไม่ได้ซวนซวนรออยู่” เธอจะบ่นออกมาไม่ได้ ใบหูแว่วได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อย ถึงจะรู้ว่าตอนนี้คงเป็นจิตใจเธอที่ปรุงแต่งไปเอง แต่กระนั้นพอได้คิดว่าเจ้าตัวเล็กนั่นกำลังร้องไห้ เธอก็ยิ่งจิกเล็บเข้าไปในซอกหิน กัดฟันปีนป่ายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ดีที่ครั้งนี้เธอเลือกลงเขาด้านที่มีหน้าผาบังลม หากลงที่เดิมเธอคงตกตายไปแล้วไป๋จ้าวเหม่ยรีบวิ่งไปแกะเชือกที่มัดกับต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็วิ่งไปหาอู๋ชิงซวนที่ถ้ำหิน ริมฝีปากก็ตะโกนร้องบอกว่า “ซวนซวนน้ามาแล้ว” ไปตลอดทางทางด้านอู๋ชิงซวนหลังจากที่ฝ
ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวยวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน สองหญิงสาวเดินออกมาส่งชายหนุ่มคนเดียวของบ้านเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ทว่าหลายวันมานี้อู๋เหวยมักจะอิดออดไม่ยอมรีบขี่รถออกไปเร็วเหมือนเดิม เช่นเดียวกับตอนนี้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ไป๋จ้าวเหม่ยเข้าโรงพยาบาลก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม่กับน้องของเธอไม่ได้มาขอเงินอีก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้ส่งเงินไปเช่นกัน แปลกเหลือเกิน มีแต่ความแปลกเต็มไปหมด“ซวนซวนพ่อไปทำงานแล้วนะ”“ค่ะ...พ่อขี่รถดี ๆ นะคะ อย่าหักโหมนะหนูกับน้าเป็นห่วง” อู๋ชิงซวนเอ่ยถ้อยคำห่วงใยให้กับพ่อตนเอง หากเป็นเมื่อก่อนเธอก็อยากตามไปด้วย ทว่าเดี๋ยวนี้ เธออยากอยู่เรียนหนังสือ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากน้าเหม่ยมากกว่า“ขอบคุณครับ ซวนซวนเป็นเด็กดีอย่าดื้ออย่าซน เชื่อฟังน้าเหม่ยของลูกให้มาก ๆ นะ” สายตาอู๋เหวยเหลือบไปมองคนที่ยืนหมุนคอกระดูกลั่นดังกร๊อบ ๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้น ไม่ใช่เพราะเธอออกกำลังกายแปลก ๆ นั่นหรือไงและใช่ไป๋จ้าวเหม่ยยังคงออกกำลังกายท่าแปลก ๆ ของเธอทุกวันเหมือนเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าคนอ้วนอย่างเธอจะล้มเลิกกลางคัน แต่สามเดือนที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ไป๋จ้าวเหม่ยเอาจริง ทั้งอ
ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรออู๋เหวยเอาข้าวของที่ไป๋จ้าวเหม่ยซื้อมาใส่ตะกร้าหน้ารถตัวเอง ที่ใส่ไม่หมดก็ห้อยเอาไว้ เขามองข้าวของที่เต็มรถ ก็พอจะรู้ว่าเธอหมดไปหลายหยวน ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวได้เงินมาจากการขายสมุนไพร เพราะหลายวันที่ผ่านมา เขาก็เห็นแล้วว่าเธอวุ่นวายอยู่กับสมุนไพรเหล่านั้น แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะขายได้ราคาดีเพียงใด“ซวนซวนหนูมาซ้อนท้ายพ่อดีไหมคะ น้าเหม่ยของลูกจะได้ไม่หนัก”“พ่อคะ!...หนูตัวไม่หนักเสียหน่อยจริงไหมคะน้าเหม่ย”“จริงจ้ะ ซวนซวนของพวกเราหุ่นดีขนาดนี้จะหนักได้ยังไง หนูมาซ้อนท้ายน้าเหมือนเดิมดีกว่า พ่อหนูถือของเต็มรถแล้ว” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นว่าอู๋เหวยรับหน้าที่ขนของแล้ว ดังนั้นเธอจึงรับหน้าที่บรรทุกคนไปเอง ทว่ายังไม่ทันที่เด็กหญิงจะได้ตอบ เสียงรีบร้อนของคนบางคนก็ตะโกนออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก“ซวนซวนหนูอยากมาซ้อนรถของพี่ชิงฮุยหรือเปล่าจ๊ะ ป้าพี่ส่งจดหมายมาจากเซี่ยงไฮ้ มีเรื่องสนุก ๆ เยอะเลย พี่เล่าให้ฟังดีไหมจ๊ะ” หลิวชิงฮุยเห็นทั้งสามกำลังจะไปอยู่แล้ว เธอก็รีบจูงรถจักรยานตามมา ในใจนึกโมโหตั้งแต่ที่กินอาหารข้างในแล้ว มีเพียงแค่เธอที่ชวนคุย พี่เห
ตอนที่ 20 เงินก้อนแรกไป๋จ้าวเหม่ยพาอู๋ชิงซวนแวะซื้อของที่ต้องการตามร้านต่าง ๆ ธัญพืชและข้าวสารที่อู๋เหวยซื้อไปคราวก่อนยังเหลือเยอะไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม จริง ๆ เนื้อหมูเธอไปซื้อกับย่าสามเป็นประจำ แต่วันนี้ออกมาข้างนอกแล้ว เธอก็คิดว่าต้องซื้อเนื้อสามชั้นไปคืนไอ้ขี้เก๊กนั่นเสียหน่อย ต่อไปนี้จะได้มาบ่นไม่ได้แล้ว ว่าเธอแอบกินหมู!“น้าเหม่ยยังจะซื้ออะไรอีกคะ นี่มันก็เยอะมากแล้วเสียดายเงินออกค่ะ”“ไม่เป็นไรพวกเราไม่ได้ซื้อบ่อย ๆ และไม่ต้องเสียดาย เงินนี้น้าหามาได้ ไม่ใช่เงินพ่อหนูจ้ะ”“หนูรู้ค่ะว่าน้าขายสมุนไพรได้ แต่หนูก็เสียดายอยู่ดี” อู๋ชิงซวนปวดใจเป็นอย่างมาก เธอต้องเตือนน้าเหม่ยสักหน่อย ว่าไม่ควรใช้เงินมากเกินไป มีเงินควรต้องเก็บสิ“ซวนซวนเราไปร้านขนมกัน ดูสิมีขนมแบบใหม่ ๆ มาลงด้วย พวกเราไปซื้อกัน เดี๋ยววันนี้น้าจะซื้อลูกอมห่อใหญ่กลับไปด้วย เอาไว้ไปเป็นรางวัลให้กับนักเรียนสามคนแรกของน้าดีไหม”ความจริงแล้วเธอไม่อยากเป็นแม่ค้าขายสมุนไพรหรอก เธออยากเป็นครู แต่เพราะในยุคนี้ไป๋อ้วนไม่มีวุฒิการศึกษา ดังนั้นเธอจึงสมัครเป็นครูไม่ได้ และก็ไม่อาจเปิดโรงเรียนสอนหนังสือได้เช่นกัน หากทะลุไปยุคโบรา
ตอนที่ 19 อร่อยจนแสงออกปากหลังจากปิดร้านซ่อมรถ ไป๋จ้าวเหม่ยก็ไล่สองพ่อลูกไปอาบน้ำเหมือนเช่นเคย ส่วนตนเองก็มาจัดการสตูกระต่ายที่เคี่ยวเอาไว้ตั้งแต่บ่าย กระต่ายตัวนี้อาจจะแก่ไปสักหน่อย แต่ก็พอเอามาประทังชีวิตได้ ในยุคที่ยังไม่เจริญอย่างนี้จะเลือกกินก็ไม่ได้หรอก อดตายแน่ ๆ ในขณะที่ไป๋จ้าวเหม่ยกำลังเตรียมอาหาร อู๋เหวยก็แอบถามความกับลูกสาวที่บ่ออาบน้ำด้านหลังบ้าน“ซวนซวนน้าอวบของลูก ยังตีลูกอีกหรือเปล่า เธอแย่งอาหารลูกเหรอ” อู๋เหวยพยายามมองหาร่องรอยจากร่างกายของลูกในตอนที่อาบน้ำให้ลูก แต่ก็ไม่เห็น“ไม่ค่ะพ่อ น้าเหม่ยดีมาก แล้วพ่อก็ห้ามเรียกว่าน้าอวบแล้ว เพราะทวดสามบอกว่า เราไม่ควรเรียกเธอว่าอ้วนหรืออวบมันไม่ดี”“อ่าใช่แล้ว พ่อผิดไปแล้ว ต่อไปนี้จะไม่เรียกน้าเหม่ยของลูกว่าอ้วนหรืออวบอีกดีไหมคะ”“ดีค่ะ พ่อคะ น้าเหม่ยเก็บสมุนไพรมาเยอะแยะเลย เธอบอกว่าเอาไว้ขายแล้วจะซื้อผ้ามาตัดชุดให้กับหนู เธอสอนหนังสือหนูด้วยนะคะ พรุ่งนี้พี่เสี่ยวจุนกับพี่เจินเจินก็จะมาเรียนที่บ้านเราด้วย ถ้าน้าเหม่ยดีกับหนูแบบนี้ตลอดไปก็คงดี”“อ่านั่นน่ะสิ พ่อว่าเธอจะต้องดีกับเราตลอดไปนั่นแหละ ซวนซวนน่ารักขนาดนี้ เธอจะไม่ร
ตอนที่ 18 เหตุผลที่อ้วนอู๋เหวยกลับมาถึงบ้านในเวลาเดิม ทว่าเมื่อเขาจอดรถที่ในบ้าน กลับไม่เห็นเงาร่างเล็ก ๆ ของลูกสาววิ่งเข้ามากอด หลายวันแล้วที่ซวนซวนไม่ได้กอดเขา รอต้อนรับเขากลับบ้าน หรือว่าเขาควรจะชินได้แล้ว แต่ก็ไม่ชินเสียที“ซวนซวนพ่อกลับมาแล้ว” ครั้นเมื่อเดินเข้าไปถึง เขาก็ได้ยินเสียงท่องหนังสือของลูกสาว และเสียงละมุนที่คอยบอกเวลาที่ซวนซวนท่องผิด คำพูดของไป๋จ้าวเหม่ยไม่มีคำไหนที่จะด่า หรือตำหนิ มีแต่ค่อย ๆ บอกค่อย ๆ สอน“ไป๋จ้าวเหม่ยรู้หนังสือตั้งแต่เมื่อไรกัน” ชายหนุ่มหยุดฟังอยู่พักใหญ่ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากทางหน้าบ้าน เป็นหลิวชิงฮุยอีกแล้ว และคราวนี้หญิงสาวสองคนที่อยู่หลังบ้านก็ได้ยินเช่นกัน“พ่อหนูมาแล้ว เอาไว้ท่องต่อกลางคืนก็ได้ ไปหาพ่อหนูเถอะ น้าล้างสมุนไพรอีกแป๊บเดียวเดี๋ยวจะตามออกไป”“ได้ค่ะ” อู๋ชิงซวนวิ่งออกไปข้างนอก อู๋เหวยได้ยินเสียงฝีเท้า ก็ย่อตัวอ้าแขนออกร่างเล็กกระโจนเข้ามากอด พร้อมกับที่คนเป็นพ่ออุ้มขึ้นมา เหวี่ยงหมุนตัวไปมา เขากดจมูกลงจูบที่หน้าผากเล็ก สูดลมหายใจเข้า กลิ่นของลูก อ้อมกอดของลูก เป็นการเพิ่มพลังชีวิตให้เขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ไม่ว่าจะท้อ