Share

ตอนที่ 19 อร่อยจนแสงออกปาก

last update Last Updated: 2025-05-20 10:18:59

ตอนที่ 19 อร่อยจนแสงออกปาก

หลังจากปิดร้านซ่อมรถ ไป๋จ้าวเหม่ยก็ไล่สองพ่อลูกไปอาบน้ำเหมือนเช่นเคย ส่วนตนเองก็มาจัดการสตูกระต่ายที่เคี่ยวเอาไว้ตั้งแต่บ่าย กระต่ายตัวนี้อาจจะแก่ไปสักหน่อย แต่ก็พอเอามาประทังชีวิตได้ ในยุคที่ยังไม่เจริญอย่างนี้จะเลือกกินก็ไม่ได้หรอก อดตายแน่ ๆ  

ในขณะที่ไป๋จ้าวเหม่ยกำลังเตรียมอาหาร อู๋เหวยก็แอบถามความกับลูกสาวที่บ่ออาบน้ำด้านหลังบ้าน

“ซวนซวนน้าอวบของลูก ยังตีลูกอีกหรือเปล่า เธอแย่งอาหารลูกเหรอ” อู๋เหวยพยายามมองหาร่องรอยจากร่างกายของลูกในตอนที่อาบน้ำให้ลูก แต่ก็ไม่เห็น

“ไม่ค่ะพ่อ น้าเหม่ยดีมาก แล้วพ่อก็ห้ามเรียกว่าน้าอวบแล้ว เพราะทวดสามบอกว่า เราไม่ควรเรียกเธอว่าอ้วนหรืออวบมันไม่ดี”

“อ่าใช่แล้ว พ่อผิดไปแล้ว ต่อไปนี้จะไม่เรียกน้าเหม่ยของลูกว่าอ้วนหรืออวบอีกดีไหมคะ”

“ดีค่ะ พ่อคะ น้าเหม่ยเก็บสมุนไพรมาเยอะแยะเลย เธอบอกว่าเอาไว้ขายแล้วจะซื้อผ้ามาตัดชุดให้กับหนู เธอสอนหนังสือหนูด้วยนะคะ พรุ่งนี้พี่เสี่ยวจุนกับพี่เจินเจินก็จะมาเรียนที่บ้านเราด้วย ถ้าน้าเหม่ยดีกับหนูแบบนี้ตลอดไปก็คงดี”

“อ่านั่นน่ะสิ พ่อว่าเธอจะต้องดีกับเราตลอดไปนั่นแหละ ซวนซวนน่ารักขนาดนี้ เธอจะไม่รักได้อย่างไร” อู๋เหวยเห็นว่าลูกสาวชอบไป๋จ้าวเหม่ยขึ้นมาแล้ว จึงไม่ได้พูดอีก และเขาก็ไม่ใช่คนตาบอด อาหารการกิน เสื้อผ้าของซวนซวนก็ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ เอาเถอะอยู่กันแบบนี้ก็ดี

“มากันแล้ว นั่งเลย ๆ วันนี้มีสตูกระต่าย ผัดผักก๊งฉ่าย[1]  เต้าหู้ขนชุบไข่เสี่ยวถิงทอดกรอบ ยำโอซุ่น[2]ใส่หนังหมู กินกับแผ่นแป้งย่างโรยด้วยงาดำ กำลังร้อน ๆ เลยมาน้าทำให้ซวนซวนนะ” ไป๋จ้าวเหม่ยหยิบแผ่นแป้งมาแหวกกลาง เธอคีบเนื้อกระต่ายใส่เข้าไป ตามด้วยยำโอซุ่น แล้วจึงพับให้แผ่นแป้งประกบกัน ก่อนจะยื่นให้กับเด็กน้อย

“อ้ำ...อร่อยจังเลยค่ะ ทำไมเนื้อกระต่ายมันหวานหอมขนาดนี้คะ ไม่เหนียวด้วย”

“ซวนซวนลูกไม่ควรพูดตอนที่กำลังเคี้ยวอาหารนะ” อู๋เหวยเห็นดวงตาเป็นประกายของลูกสาวก็ยิ้มออกมา ทว่าเมื่อเห็นเธอพูดขณะที่อาหารเต็มปาก ก็พลันขมวดคิ้วขึ้น

“ใช่แล้วหนูไม่ควรพูดตอนเคี้ยวอาหาร เพราะพูดไปกินไป เศษอาหารอาจจะหลุดเข้าหลอดลม เป็นอันตรายถึงตายเชียวละ”

อู๋ชิงซวนรีบกลืนแป้งย่างในปากลงไป แล้วจึงเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มแหย ๆ ออกมา

“ขอโทษค่ะ แต่ว่าอาหารของน้าเหม่ยอะไรจนอะไรนะ เอ๋...อ้อ...อร่อยจนแสงออกปากเลยค่ะ”

“แสงอะไรจะออกจากปากกัน” อู๋เหวยทำหน้าสงสัย เด็กหญิงเห็นดังนั้นก็ปิดปากหัวเราะคิกคัก

“น้าเหม่ยบอกว่า ถ้าอร่อยมาก ๆ เราจะพูดว่า อร่อยจนแสงออกปากค่ะ พ่อลองกินดูแสงออกปากหรือเปล่า”

“ได้ ๆ พ่อจะลองกินดู” อู๋เหวยทำตามที่ไป๋จ้าวเหม่ยทำทุกอย่าง และเมื่อกัดเข้าไปคำแรก เขาก็แทบจะอ้าปากร้องว้าวเหมือนที่ลูกสาวทำ ดีที่อ้าขึ้นมาแล้วก็หุบลงไปได้ทัน ไม่อย่างนั้นได้ขายหน้าแน่ ๆ

“แสงออกปากไหมคะพ่อ”

“อ่า...แสงออกปากจริง ๆ ด้วย”

“ฮ่า ๆ อู๋เหวยเวลาที่นายพูดเรื่องไร้สาระ อย่าทำหน้าจริงจังขนาดนี้ได้ไหม ฮ่า ๆ โอ๊ย หน้าตานายตลกเกินไป ฉันหยุดขำไม่ได้” อู๋เหวยเปลี่ยนสีหน้าเป็นเขียวคล้ำไปแล้วตอนนี้

“อันนี้คือแกงอะไรนะ” ความจริงอู๋เหวยได้ยินแล้ว เธอบอกว่าสตูกระต่าย เพียงแต่เขาไม่รู้จักอาหารจานนี้

“อ้อสตูกระต่ายน่ะ จริง ๆ ก็คือเนื้อกระต่ายตุ๋นนั่นแหละ ฉันใส่โปหลัว[3] เพื่อให้เนื้อกระต่ายมันเปื่อยนุ่ม และใส่หงหลัวโป[4]เพื่อเพิ่มความหวาน เติมเหล้าจีนกับหยางชง[5]ลงไป ปรุงรสก็เสร็จแล้ว”

“ฉันเพิ่งรู้ว่าเธอทำกับข้าวเป็นด้วย”

“คนอ้วนมักจะชอบกิน เพราะชอบกินจึงทำกับข้าวอร่อย อาหารของฉันอร่อยใช่ไหมล่ะ”

“ก็พอใช้ได้”

“พอใช้ได้ที่ไหนคะพ่อ แสงออกปากต่างหาก”

“ใช่แล้ว ๆ แสง...เอ่ออร่อยมากๆ  เลยละ” ไป๋จ้าวเหม่ยกลั้นหัวเราะจนหน้าแดง อู๋เหวยนี่ชอบทำสีหน้าจริงจังเวลาพูด

แน่นอนว่าอู๋เหวยย่อมรู้ว่าไป๋จ้าวเหม่ยรอหัวเราะเขา เรื่องอะไรเขาจะต้องพูดให้เธอขำด้วยล่ะ

“เธอไม่กินข้าวจริง ๆ น่ะเหรอ”

“ไม่ละ ฉันงดแป้ง ร่างกายฉันอ้วนเกินไป มันทำอะไรไม่สะดวก ลดสักหน่อยก็คงดี”

“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไปอาบน้ำเข้านอนเถอะ ฉันกับลูกจะเก็บโต๊ะเอง ไม่กินแต่ต้องมานั่งดูคนอื่นกิน ไม่ทรมานตัวเองเกินไปเหรอ”

“ไม่หรอก แต่ยังไงก็เอาตามนั้น ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้วเหมือนกัน ฝันดีล่วงหน้าจ้ะซวนซวน”  ไป๋จ้าวเหม่ยโน้มใบหน้าไปหอมแก้มนุ่ม ๆ ของลูกเลี้ยงก่อนจะเดินหาวเข้าไปในห้อง ตอนแรกก็คิดว่าจะไปอาบน้ำ แต่ที่ไหนได้ เธอล้มตัวลงบนที่นอน ก็หลับไปยันเช้าเลยทีเดียว

“น้าเหม่ยวันนี้พี่เสี่ยวจุนกับพี่เจินเจินจะมาเรียนหนังสือที่บ้านเราหรือเปล่าคะ”

“ไม่รู้สิ ถ้ามาก็สอนพร้อมกับซวนซวน แต่ถ้าไม่มาน้าก็จะตากสมุนไพรได้เร็วขึ้น” ไป๋จ้าวเหม่ยไม่แน่ใจจริง ๆ เพราะดูท่าทางแล้ว สะใภ้เจียงไม่ค่อยชอบเธอสักเท่าไร หล่อนอาจจะแอบห้ามไม่ให้ลูกชายมาที่นี่ก็ได้

และความคิดของไป๋จ้าวเหม่ยก็ตรงตามนั้นจริง ๆ เพราะหานหว่านแอบไปสั่งลูกชายและลูกสาวตนเองไม่ให้มาที่บ้านสกุลอู๋ ทว่าคำพูดของหลานสะใภ้หรือจะศักดิ์สิทธิ์เท่ากับย่าสาม ในเมื่อผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในบ้านอนุญาตก็ไม่มีใครกล้าขัดอีก สองพี่น้องสกุลเจียงจึงมานั่งอยู่ตรงนี้

“วันนี้ของเสี่ยวจุนอาสะใภ้อู๋จะสอนวิชาสังคม และวิชาคำนวณเพิ่มเติมจากเมื่อวาน ประวัติศาสตร์จีน จะเป็นวันพรุ่งนี้ ส่วนของเจินเจินอาจะสอนพินอินให้ก่อน เริ่มต้นด้วยตัวเลข ซวนซวนหนูสะกดคำเป็นแล้ว วันนี้ก็จะขึ้นแบบฝึกหัดเขียนเติมคำในช่องว่าง”

“ค่ะ/ครับ” เด็กทั้งสามคนตอบรับเสียงดัง ไป๋จ้าวเหม่ยออกโจทย์ให้กับอู๋ชิงซวนก่อนเป็นคนแรก และให้เด็กน้อยแยกไปเขียนอีกมุม

จากนั้นก็สอนพินอินให้เจินเจิน เริ่มต้นด้วยการท่องและเขียนจำนวนตัวเลข เหมือนที่เคยสอนซวนซวน คนสุดท้ายที่มาสอนก็คือเจียงจุน คนนี้ต้องประกบก่อน เพราะเด็กชายจะต้องเข้าสอบในอีกไม่นานแล้ว

ครั้นเมื่อปล่อยให้เด็ก ๆ ไปทำตามคำสั่งกันเองได้แล้ว เธอก็เดินไปตากสมุนไพรของเธอเช่นเดิม แต่ละวันผ่านไปเช่นนี้ จนกระทั่งสมุนไพรที่เก็บมาแห้งดีแล้ว เธอจึงนำเข้าเมืองไปขาย

ในยุคนี้โรงพยาบาลเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญมากกว่า แพทย์แผนจีน แต่ไป๋จ้าวเหม่ยรู้ดีว่า ในยุคของเธอนั้น ใครที่เรียนแพทย์แผนจีนต่างหากที่รวยที่สุด และวันนี้เธอก็เริ่มเข้ามาขายสมุนไพรให้กับโรงแพทย์แผนจีน แทนที่จะเป็นร้านขายยาจีน

“สมุนไพรดี ล้วนเป็นของหายาก แต่ว่าสหาย โรงแพทย์แผนจีน คนไม่ค่อยนิยมเข้ามารักษาแล้ว หากจะให้ผมซื้อในราคาแพง ๆ ผมก็คงไม่อาจซื้อไหว”

“เอาราคาที่สหายจ่ายไหว แล้วฉันอยู่รอดก็พอค่ะ บอกตรง ๆ โสมซานซี โสมตังกุย กับเห็ดหลินจือฉันต้องเสี่ยงปีนขึ้นเขาไปเก็บมาเลยนะคะ อู่เว่ยจื่อก็หายากไม่แพ้กัน”

“ถ้าอย่างนั้นผมให้ราคาสหายเช่นนี้รับไหวไหมครับ โสมซานซีต้นละ 30 หยวน เห็ดหลินจือสามสิบปีต้นละ 50 หยวน ส่วนโสมตังกุย ราคาต้นละ 20 หยวน และอู่เว่ยจื่ออย่างละ 20 หยวน”

“ตกลงค่ะ คราวหน้าฉันหาสมุนไพรมาได้อีก สหายต้องการรับซื้ออีกไหมคะ”

“รับ ๆ แต่ขอราคาเดิมนะ ผมไหวที่ราคานี้” ดูท่าหมอหย่วนคนนี้ซื้อจากเธอราคาแพงลิ่วขนาดนี้ เขาคงเอามาขายได้เยอะกว่านี้กระมัง และก็เป็นดังเช่นไป๋จ้าวเหม่ยคิด เพราะราคาของสมุนไพรหายาก สามารถทำราคาได้ดีเป็นห้าเท่า

“ได้ค่ะ” ไป๋จ้าวเหม่ยไม่คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะแหล่งของสมุนไพรก็มีแค่เพียงเธอที่รู้และที่สำคัญ วันนี้เธอก็หาเงินได้มากถึง 1,450 หยวนแล้ว มากกว่าเงินเดือนทั้งปีของอู๋เหวยด้วยซ้ำ

“ขอบคุณสหายมากค่ะ หวังว่าการค้าของเราจะราบรื่นตลอดไปนะคะ”

ไป๋จ้าวเหม่ยรับเงินมาแล้ว ก็จูงมืออู๋ชิงซวนไปที่รถจักรยานที่ยืมย่าสามมาใช้

“ซวนซวนพวกเราไปกินข้าวที่โรงอาหารที่พ่อหนูทำงานกันดีไหม เดี๋ยวตอนกลับค่อยไปซื้อของเข้าบ้าน หนูอยากได้ทีวีไหมจ๊ะ”

“ไม่อยากได้หรอกค่ะ มันแพง”

“โธ่เด็กดี” ยิ่งได้ยินอย่างนี้ ไป๋จ้าวเหม่ยก็ยิ่งอยากจะซื้อให้ แต่เธอต้องหาเงินให้ได้มากกว่านี้เสียก่อน

[1] ผักก๊งฉ่าย หรืออีกชื่อที่คนจีนนิยมเรียกก็คือ ผัดกาดหมอของจีน แต่คนไทยเราเรียกว่าผักงูเขียว

[2] วอซุ่น หรือ ผักโอซุ่น (Wosun) หรือ Celtuce หรือ Stem Lettuce บางคนอาจเรียกว่า ผักสลัดจีน ผักกาดหอมต้น ต้นออส่วน เป็นผักที่ถูกนำเข้ามาจากประเทศจีน เป็นพืชสายพันธุ์ตระกูลเดียวกับผักกาดหอม 

[3]菠萝 [bōluó โปหลัว] สับปะรด

[4]红萝卜 [hóngluóbo หงหลัวโป] แครอท

[5]洋葱 (yángcōng หยางชง) หอมใหญ่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 26  สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอ

    ตอนที่ 26 สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอไป๋จ้าวเหม่ยเปิดถุงกระดาษหยิบชุดที่หลิวชิงฮุยซื้อมาฝากซวนซวน เมื่อตอนเย็นแม่ดอกบัวขาวใต้ตมพยายามจะชวนเด็กน้อยคุยเล่น ทว่าซวนซวนก็ไม่ได้สนใจเท่าที่ควร เธอเอาเวลาไปคัดแยกพุทราจีนที่เก็บมาจากบนเขา พรุ่งนี้พ่อของเธอจะเอาไปขายให้หลิวชิงฮุยเห็นว่าเด็กน้อยไม่สนใจ จึงได้กลับไปอย่างพ่ายแพ้“ซวนซวนหนูมาดูชุดที่พี่ชิงฮุยซื้อมาฝาก สวยดีนะ ว้าวชุดนี้เหมือนชุดกะลาสีเรือเลย”“อะไรคือกะลาสีเรือคะ” เด็กน้อยละสายตาจากแบบฝึกหัดที่กำลังเขียนอยู่ หันมาเอียงคอถามตอนนี้เด็กน้อยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชุดใหม่อีกแล้ว อาจเป็นเพราะแม่เลี้ยงของเธอตัดให้จนครบเจ็ดวัน ไหนจะมีชุดที่เอาไว้ใส่ไปข้างนอก ชุดนอน ชุดใส่เล่น เต็มไปหมด อะไรที่ได้มามากพอก็ทำให้เธอหมดความสนใจ อีกอย่างชุดที่แม่เธอตัดก็สวยกว่าชุดที่วางขายมาก“ก็นี่ยังไงชุดที่มีคอปกข้างหลัง ชอบไหม ว่าไม่ได้หลิวชิงฮุยซื้อของดีมาให้เชียวนะ ผ้านุ่มเชียวใส่สบายตัวเลยละ”“ชอบค่ะ แต่ชอบชุดที่แม่ตัดเย็บให้มากกว่า เหมือนชุดนี้ไง ชุดนอนของหนู พ่อคะพ่อเห็นด้วยหรือเปล่า ชุดนอนที่แม่ทำสวยกว่าอีกเนอะ” อู๋ชิงซวนหมุนตัวหนึ่งรอบ ให้ดูชุดนอนก

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 25 สงสัย

    ตอนที่ 25 สงสัยไป๋จ้าวเหม่ยพลาดไปแล้ว เธอพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ลืมไปได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เธอมองท้องฟ้าที่สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย“เธอจะให้ฉันเอาสมุนไพรไปขายให้หรือเปล่า แต่เอาไปแบบไม่ตากแห้งมันจะขายได้ไหม ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราเก็บเอาไว้ก่อน อบกับไฟก็แห้งเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”“แบบสดมันก็ขายได้ ฉันไม่แน่ใจว่าราคามันจะดีเหมือนแห้งหรือเปล่าน่ะสิ” บอกตรง ๆ เรื่องราคาของ หรือค่าเงินในยุคนี้เธอไม่ค่อยรู้เลยด้วยซ้ำ ดูอย่างที่ว่าทุกอย่างในยุคนี้ ราคาถูก เต้าหู้ก้อนหนึ่งแค่หนึ่งเหมาเท่านั้น ผ้าสวย ๆ หนึ่งพับแค่หนึ่งหยวน แต่!...มันกลับแพงยิ่งกว่าในยุคของเธอเสียอีก อาจเพราะค่าเงินมันไม่เท่ากันกระมัง“จะดีไม่ดียังไงก็ต้องขายไม่ใช่เหรอ เอาไว้หมดหน้าฝน ฉันจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรพวกนี้ให้เธอเอง ถึงตอนนั้นเธอก็จะได้เงินเท่าเดิมแล้ว”ไป๋จ้าวเหม่ยพยักหน้าแกน ๆ ยังไงก็ต้องทำตามที่อู๋เหวยบอกนั่นแหละ เพราะนี่ก็สองวันแล้ว หากไม่รีบขายสมุนไพรของเธอก็คงจะเหี่ยวหมดราคาแน่ ๆ เห็ดหลินจือเธอสามารถเก็บเอาไว้ขายทีหลังได้ แต่โสมคนกับโสมซานซีและสมุนไพรอื่น ๆ คงต้องขายออกไป รวมทั้งพุทราแห้งด้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 24 ออกตามหา

    ตอนที่ 24 ออกตามหากว่าจะปลอบให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ร่างอวบ ๆ ของเธอก็หนาวสั่น เธอรีบล้วงเข้าไปในตะกร้าสมุนไพร หยิบกลักไม้ขีดออกมา รวบเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้ง ๆ ที่ถูกลมปลิวพัดมากระจุกอยู่ในถ้ำ และจุดไฟให้ความอบอุ่น“ซวนซวนหนูใส่เสื้อทับด้วยหรือเปล่าจ๊ะ”“ใส่ค่ะ”“ดีเลย ตอนนี้หนูถอดเสื้อผ้าออกมาก่อน เหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในและเสื้อกล้ามก็พอ เอาออกมาอังไฟให้แห้งก่อน” อู๋ชิงซวนรีบถอดชุดออกมา รวมทั้งถุงเท้ารองเท้าทั้งหมด กางเกงในของเด็กน้อยเป็นทรงสามเหลี่ยม ที่แม่เลี้ยงตัดเย็บให้ และเสื้อกล้ามก็เป็นเสื้อที่ปิดถึงแค่เหนือสะดือ แต่เพราะที่นี่มีเพียงเธอสองคน เด็กหญิงจึงไม่อาย“รอน้าอยู่ตรงนี้แป๊บเดียว น้าจะไปเอากิ่งไม้ ถึงจะเปียกแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย” กำลังจะก้าวขาออกไป ทว่ามือเล็กก็ดึงเอาไว้ก่อน“น้าไปตรงนี้เอง หนูนั่งมองออกไปก็เห็น”“ไม่ใช่น้า” เด็กหญิงทำปากยู่ราวกับเป็ดตัวน้อยแสนงอนอย่างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยหลุดขำออกมา พลางยื่นมือไปบีบปากแหลม ๆ นั่น“เอาละ ๆ แม่ผิดไปแล้ว ต้องโทษที่แม่สมองไม่ดี ทำให้ลืมเสียได้ ซวนซวนน้อยไม่โกรธแม่นะคะลูก”“ไม่โกรธค่ะ แม่รีบไปรีบมานะคะ หนูนั่งผิงไฟตรงนี้ แต่แม่ถอดเส

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 23 ติดถ้ำ

    ตอนที่ 23 ติดถ้ำเปรี้ยง! เสียงสายฟ้าร้องลั่นสั่นสะเทือน สายฝนกระหน่ำลงมาราวกับฟ้าถล่ม หญิงสาวโหนตัวอยู่ที่บนหน้าผา เธอกัดฟันปีนขึ้นไป แต่เพราะน้ำฝนที่สาดลงมาทำให้มือที่เกาะลื่น ร่างอวบร่วงพรืดลงไป มือเล็กรีบจิกเล็บลงที่ซอกหิน จนเล็บหักสิบนิ้วสื่อถึงหัวใจ ทว่าความเจ็บปวดไม่เท่ากับความหวาดกลัว คนตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายอีก และที่สำคัญซวนซวนอยู่คนเดียว! ไม่รู้เด็กคนนั้นจะกลัวแค่ไหน ป่านนี้ไม่ใช่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วเหรอ“ฉันก็ว่าแล้ว โชคดีมันจะมาง่าย ๆ ได้ยังไง ได้โสมได้เห็ด แต่เกือบตกเขา ไม่ได้ฉันจะตายไม่ได้ซวนซวนรออยู่” เธอจะบ่นออกมาไม่ได้ ใบหูแว่วได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อย ถึงจะรู้ว่าตอนนี้คงเป็นจิตใจเธอที่ปรุงแต่งไปเอง แต่กระนั้นพอได้คิดว่าเจ้าตัวเล็กนั่นกำลังร้องไห้ เธอก็ยิ่งจิกเล็บเข้าไปในซอกหิน กัดฟันปีนป่ายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ดีที่ครั้งนี้เธอเลือกลงเขาด้านที่มีหน้าผาบังลม หากลงที่เดิมเธอคงตกตายไปแล้วไป๋จ้าวเหม่ยรีบวิ่งไปแกะเชือกที่มัดกับต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็วิ่งไปหาอู๋ชิงซวนที่ถ้ำหิน ริมฝีปากก็ตะโกนร้องบอกว่า “ซวนซวนน้ามาแล้ว” ไปตลอดทางทางด้านอู๋ชิงซวนหลังจากที่ฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวย

    ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวยวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน สองหญิงสาวเดินออกมาส่งชายหนุ่มคนเดียวของบ้านเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ทว่าหลายวันมานี้อู๋เหวยมักจะอิดออดไม่ยอมรีบขี่รถออกไปเร็วเหมือนเดิม เช่นเดียวกับตอนนี้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ไป๋จ้าวเหม่ยเข้าโรงพยาบาลก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม่กับน้องของเธอไม่ได้มาขอเงินอีก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้ส่งเงินไปเช่นกัน แปลกเหลือเกิน มีแต่ความแปลกเต็มไปหมด“ซวนซวนพ่อไปทำงานแล้วนะ”“ค่ะ...พ่อขี่รถดี ๆ นะคะ อย่าหักโหมนะหนูกับน้าเป็นห่วง” อู๋ชิงซวนเอ่ยถ้อยคำห่วงใยให้กับพ่อตนเอง หากเป็นเมื่อก่อนเธอก็อยากตามไปด้วย ทว่าเดี๋ยวนี้ เธออยากอยู่เรียนหนังสือ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากน้าเหม่ยมากกว่า“ขอบคุณครับ ซวนซวนเป็นเด็กดีอย่าดื้ออย่าซน เชื่อฟังน้าเหม่ยของลูกให้มาก ๆ นะ” สายตาอู๋เหวยเหลือบไปมองคนที่ยืนหมุนคอกระดูกลั่นดังกร๊อบ ๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้น ไม่ใช่เพราะเธอออกกำลังกายแปลก ๆ นั่นหรือไงและใช่ไป๋จ้าวเหม่ยยังคงออกกำลังกายท่าแปลก ๆ ของเธอทุกวันเหมือนเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าคนอ้วนอย่างเธอจะล้มเลิกกลางคัน แต่สามเดือนที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ไป๋จ้าวเหม่ยเอาจริง ทั้งอ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ

    ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรออู๋เหวยเอาข้าวของที่ไป๋จ้าวเหม่ยซื้อมาใส่ตะกร้าหน้ารถตัวเอง ที่ใส่ไม่หมดก็ห้อยเอาไว้ เขามองข้าวของที่เต็มรถ ก็พอจะรู้ว่าเธอหมดไปหลายหยวน ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวได้เงินมาจากการขายสมุนไพร เพราะหลายวันที่ผ่านมา เขาก็เห็นแล้วว่าเธอวุ่นวายอยู่กับสมุนไพรเหล่านั้น แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะขายได้ราคาดีเพียงใด“ซวนซวนหนูมาซ้อนท้ายพ่อดีไหมคะ น้าเหม่ยของลูกจะได้ไม่หนัก”“พ่อคะ!...หนูตัวไม่หนักเสียหน่อยจริงไหมคะน้าเหม่ย”“จริงจ้ะ ซวนซวนของพวกเราหุ่นดีขนาดนี้จะหนักได้ยังไง หนูมาซ้อนท้ายน้าเหมือนเดิมดีกว่า พ่อหนูถือของเต็มรถแล้ว” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นว่าอู๋เหวยรับหน้าที่ขนของแล้ว ดังนั้นเธอจึงรับหน้าที่บรรทุกคนไปเอง ทว่ายังไม่ทันที่เด็กหญิงจะได้ตอบ เสียงรีบร้อนของคนบางคนก็ตะโกนออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก“ซวนซวนหนูอยากมาซ้อนรถของพี่ชิงฮุยหรือเปล่าจ๊ะ ป้าพี่ส่งจดหมายมาจากเซี่ยงไฮ้ มีเรื่องสนุก ๆ เยอะเลย พี่เล่าให้ฟังดีไหมจ๊ะ” หลิวชิงฮุยเห็นทั้งสามกำลังจะไปอยู่แล้ว เธอก็รีบจูงรถจักรยานตามมา ในใจนึกโมโหตั้งแต่ที่กินอาหารข้างในแล้ว มีเพียงแค่เธอที่ชวนคุย พี่เห

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 20 เงินก้อนแรก

    ตอนที่ 20 เงินก้อนแรกไป๋จ้าวเหม่ยพาอู๋ชิงซวนแวะซื้อของที่ต้องการตามร้านต่าง ๆ ธัญพืชและข้าวสารที่อู๋เหวยซื้อไปคราวก่อนยังเหลือเยอะไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม จริง ๆ เนื้อหมูเธอไปซื้อกับย่าสามเป็นประจำ แต่วันนี้ออกมาข้างนอกแล้ว เธอก็คิดว่าต้องซื้อเนื้อสามชั้นไปคืนไอ้ขี้เก๊กนั่นเสียหน่อย ต่อไปนี้จะได้มาบ่นไม่ได้แล้ว ว่าเธอแอบกินหมู!“น้าเหม่ยยังจะซื้ออะไรอีกคะ นี่มันก็เยอะมากแล้วเสียดายเงินออกค่ะ”“ไม่เป็นไรพวกเราไม่ได้ซื้อบ่อย ๆ และไม่ต้องเสียดาย เงินนี้น้าหามาได้ ไม่ใช่เงินพ่อหนูจ้ะ”“หนูรู้ค่ะว่าน้าขายสมุนไพรได้ แต่หนูก็เสียดายอยู่ดี” อู๋ชิงซวนปวดใจเป็นอย่างมาก เธอต้องเตือนน้าเหม่ยสักหน่อย ว่าไม่ควรใช้เงินมากเกินไป มีเงินควรต้องเก็บสิ“ซวนซวนเราไปร้านขนมกัน ดูสิมีขนมแบบใหม่ ๆ มาลงด้วย พวกเราไปซื้อกัน เดี๋ยววันนี้น้าจะซื้อลูกอมห่อใหญ่กลับไปด้วย เอาไว้ไปเป็นรางวัลให้กับนักเรียนสามคนแรกของน้าดีไหม”ความจริงแล้วเธอไม่อยากเป็นแม่ค้าขายสมุนไพรหรอก เธออยากเป็นครู แต่เพราะในยุคนี้ไป๋อ้วนไม่มีวุฒิการศึกษา ดังนั้นเธอจึงสมัครเป็นครูไม่ได้ และก็ไม่อาจเปิดโรงเรียนสอนหนังสือได้เช่นกัน หากทะลุไปยุคโบรา

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 19 อร่อยจนแสงออกปาก

    ตอนที่ 19 อร่อยจนแสงออกปากหลังจากปิดร้านซ่อมรถ ไป๋จ้าวเหม่ยก็ไล่สองพ่อลูกไปอาบน้ำเหมือนเช่นเคย ส่วนตนเองก็มาจัดการสตูกระต่ายที่เคี่ยวเอาไว้ตั้งแต่บ่าย กระต่ายตัวนี้อาจจะแก่ไปสักหน่อย แต่ก็พอเอามาประทังชีวิตได้ ในยุคที่ยังไม่เจริญอย่างนี้จะเลือกกินก็ไม่ได้หรอก อดตายแน่ ๆ ในขณะที่ไป๋จ้าวเหม่ยกำลังเตรียมอาหาร อู๋เหวยก็แอบถามความกับลูกสาวที่บ่ออาบน้ำด้านหลังบ้าน“ซวนซวนน้าอวบของลูก ยังตีลูกอีกหรือเปล่า เธอแย่งอาหารลูกเหรอ” อู๋เหวยพยายามมองหาร่องรอยจากร่างกายของลูกในตอนที่อาบน้ำให้ลูก แต่ก็ไม่เห็น“ไม่ค่ะพ่อ น้าเหม่ยดีมาก แล้วพ่อก็ห้ามเรียกว่าน้าอวบแล้ว เพราะทวดสามบอกว่า เราไม่ควรเรียกเธอว่าอ้วนหรืออวบมันไม่ดี”“อ่าใช่แล้ว พ่อผิดไปแล้ว ต่อไปนี้จะไม่เรียกน้าเหม่ยของลูกว่าอ้วนหรืออวบอีกดีไหมคะ”“ดีค่ะ พ่อคะ น้าเหม่ยเก็บสมุนไพรมาเยอะแยะเลย เธอบอกว่าเอาไว้ขายแล้วจะซื้อผ้ามาตัดชุดให้กับหนู เธอสอนหนังสือหนูด้วยนะคะ พรุ่งนี้พี่เสี่ยวจุนกับพี่เจินเจินก็จะมาเรียนที่บ้านเราด้วย ถ้าน้าเหม่ยดีกับหนูแบบนี้ตลอดไปก็คงดี”“อ่านั่นน่ะสิ พ่อว่าเธอจะต้องดีกับเราตลอดไปนั่นแหละ ซวนซวนน่ารักขนาดนี้ เธอจะไม่ร

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 18 เหตุผลที่อ้วน

    ตอนที่ 18 เหตุผลที่อ้วนอู๋เหวยกลับมาถึงบ้านในเวลาเดิม ทว่าเมื่อเขาจอดรถที่ในบ้าน กลับไม่เห็นเงาร่างเล็ก ๆ ของลูกสาววิ่งเข้ามากอด หลายวันแล้วที่ซวนซวนไม่ได้กอดเขา รอต้อนรับเขากลับบ้าน หรือว่าเขาควรจะชินได้แล้ว แต่ก็ไม่ชินเสียที“ซวนซวนพ่อกลับมาแล้ว” ครั้นเมื่อเดินเข้าไปถึง เขาก็ได้ยินเสียงท่องหนังสือของลูกสาว และเสียงละมุนที่คอยบอกเวลาที่ซวนซวนท่องผิด คำพูดของไป๋จ้าวเหม่ยไม่มีคำไหนที่จะด่า หรือตำหนิ มีแต่ค่อย ๆ บอกค่อย ๆ สอน“ไป๋จ้าวเหม่ยรู้หนังสือตั้งแต่เมื่อไรกัน” ชายหนุ่มหยุดฟังอยู่พักใหญ่ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากทางหน้าบ้าน เป็นหลิวชิงฮุยอีกแล้ว และคราวนี้หญิงสาวสองคนที่อยู่หลังบ้านก็ได้ยินเช่นกัน“พ่อหนูมาแล้ว เอาไว้ท่องต่อกลางคืนก็ได้ ไปหาพ่อหนูเถอะ น้าล้างสมุนไพรอีกแป๊บเดียวเดี๋ยวจะตามออกไป”“ได้ค่ะ” อู๋ชิงซวนวิ่งออกไปข้างนอก อู๋เหวยได้ยินเสียงฝีเท้า ก็ย่อตัวอ้าแขนออกร่างเล็กกระโจนเข้ามากอด พร้อมกับที่คนเป็นพ่ออุ้มขึ้นมา เหวี่ยงหมุนตัวไปมา เขากดจมูกลงจูบที่หน้าผากเล็ก สูดลมหายใจเข้า กลิ่นของลูก อ้อมกอดของลูก เป็นการเพิ่มพลังชีวิตให้เขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ไม่ว่าจะท้อ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status