แชร์

ตอนที่ 24 ออกตามหา

ผู้เขียน: ต้ายวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-20 10:21:03

ตอนที่ 24 ออกตามหา

กว่าจะปลอบให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ร่างอวบ ๆ ของเธอก็หนาวสั่น เธอรีบล้วงเข้าไปในตะกร้าสมุนไพร หยิบกลักไม้ขีดออกมา รวบเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้ง ๆ ที่ถูกลมปลิวพัดมากระจุกอยู่ในถ้ำ และจุดไฟให้ความอบอุ่น

“ซวนซวนหนูใส่เสื้อทับด้วยหรือเปล่าจ๊ะ”

“ใส่ค่ะ”

“ดีเลย ตอนนี้หนูถอดเสื้อผ้าออกมาก่อน เหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในและเสื้อกล้ามก็พอ เอาออกมาอังไฟให้แห้งก่อน” อู๋ชิงซวนรีบถอดชุดออกมา รวมทั้งถุงเท้ารองเท้าทั้งหมด กางเกงในของเด็กน้อยเป็นทรงสามเหลี่ยม ที่แม่เลี้ยงตัดเย็บให้ และเสื้อกล้ามก็เป็นเสื้อที่ปิดถึงแค่เหนือสะดือ แต่เพราะที่นี่มีเพียงเธอสองคน เด็กหญิงจึงไม่อาย

“รอน้าอยู่ตรงนี้แป๊บเดียว น้าจะไปเอากิ่งไม้ ถึงจะเปียกแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย” กำลังจะก้าวขาออกไป ทว่ามือเล็กก็ดึงเอาไว้ก่อน

“น้าไปตรงนี้เอง หนูนั่งมองออกไปก็เห็น”

“ไม่ใช่น้า” เด็กหญิงทำปากยู่ราวกับเป็ดตัวน้อยแสนงอนอย่างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยหลุดขำออกมา พลางยื่นมือไปบีบปากแหลม ๆ นั่น

“เอาละ ๆ แม่ผิดไปแล้ว ต้องโทษที่แม่สมองไม่ดี ทำให้ลืมเสียได้ ซวนซวนน้อยไม่โกรธแม่นะคะลูก”

“ไม่โกรธค่ะ แม่รีบไปรีบมานะคะ หนูนั่งผิงไฟตรงนี้ แต่แม่ถอดเสื้อคลุมออกมาตากไฟก่อนดีไหมคะ”

“อุ๊ยแม่ลืมน่ะ ดีนะที่มีซวนซวนคอยเตือน ขอบคุณนะคะลูกสาวคนสวย”

“อิอิ ต่อไปนี้หนูจะคอยเตือนแม่เอง”  ไป๋จ้าวเหม่ยถอดเสื้อพาดเอาไว้กับกำแพงหินข้างกองไฟ จากนั้นก็รีบวิ่งผ่าฝนออกไปเก็บกิ่งไม้ที่อยู่กับพื้น ได้มาแล้วก็ลากมาตั้งไว้ข้างกองไฟ ดีที่กิ่งไม้พวกนี้เป็นกิ่งไม้แห้ง แต่กระนั้นตากฝนก็เปียกชุ่มไปหมดแล้วเช่นกัน

สายฝนยังคงตกมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ท้องฟ้าก็มืดสนิท คิดว่าป่านนี้คงเข้าสู่ช่วงกลางคืนแล้วกระมัง เด็กน้อยในอ้อมกอดนอนหลับไปแล้ว ดีที่ก่อนจะขึ้นเขาเด็กน้อยเอากล่องข้าวที่เธอห่อให้ไปกินบ้านย่าสามขึ้นมาด้วย เธอจึงให้ซวนซวนกินข้าวไปก่อน ส่วนตนเองก็ทนหิวได้ไม่เป็นอะไร

ไป๋จ้าวเหม่ยคอยเติมไม้ฟืนที่ผิงจนชื้นเข้ากองไฟ ไม้ชื้นถูกไฟย่อมเกิดควัน แต่ดีที่ถ้ำนี้เปิดโล่งข้างหน้า จึงทำให้อากาศถ่ายเท ไม่อย่างนั้นก็ไม่อาจจุดไฟรมควันให้ตนเองตายได้

“ซวนซวน อาเหม่ย” ไป๋จ้าวเหม่ยขยับตัวขึ้น เสียงร้องดังแข่งกับเสียงฝน แต่กระนั้นเธอก็จำได้ว่าเป็นเสียงของอู๋เหวย

“อู๋เหวยฉันอยู่นี่” เธอตะโกนตอบไปเสียงดัง พร้อมกับหยิบไม้ฟืนขึ้นมาโบกไปมา

อู๋เหวยเห็นแสงไฟ ก็รีบวิ่งเข้ามาหา ครั้นมาถึงก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทว่าความหวาดกลัวก็ทำให้เขาอ้าปากด่าหญิงสาวทันที

“ไป๋จ้าวเหม่ย! เธอปัญญาอ่อนหรือเปล่า จะขึ้นเขาทำไมไม่มาคนเดียว พาลูกฉันมาด้วยทำไม ถ้าซวนซวนเป็นอะไรไป ฉันไม่ปล่อยเธอเอาไว้แน่”

“แล้วตอนนี้ซวนซวนเป็นอะไรหรือเปล่าล่ะ อู๋เหวยอันดับแรกที่นายควรทำ คือการมากอดลูกสาว ไม่ใช่มายืนด่าฉันฉอด ๆ แบบนี้” อู๋เหวยถูกด่ากลับก็พลันได้สติ เขารีบผลักหญิงสาวออก และเดินไปคุกเข่าที่พื้น

“ซวนซวนหนูเป็นอย่างไรบ้างลูก เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” อู๋เหวยมองไปที่หัวเข่าของลูกสาว ครั้นเห็นว่าหัวเข่าเด็กน้อยมีรอยแตกก็โมโหขึ้นมาอีกครั้ง

“นังอ้วนเธอวางแผนจะเอาซวนซวนมาทิ้งในป่าใช่ไหม รอยแผลนี่เธอเป็นคนทำใช่ไหม เธอนี่มันชั่วกว่าที่ฉันคิดเสียอีก เสียแรงที่ฉันคิดว่าเธอดีขึ้นมาแล้ว”

ใช่เขาคงบ้าไปแล้วกระมังที่คิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนเดิม แต่ที่ไหนได้เธอยังเป็นคนเดิม เป็นวิญญาณชั่วสารเลวตัวเดิม

“พ่อคะไม่ใช่นะคะ อย่าว่าแม่ค่ะ”

“แม่?” อู๋เหวยยกมือขึ้นมาตบที่หูตนเอง หรือว่าเขากลัวจนหูฝาดไปแล้ว ซวนซวนเรียกผู้หญิงชั่วคนนี้ว่าแม่เลยเหรอ เขามองมือเล็กที่กำเสื้อเขาเอาไว้ พลางส่ายหน้าไปมา

“ใช่ค่ะแม่ไป๋จ้าวเหม่ย ไม่ได้ทำร้ายหนู และแม่ก็ไม่ได้ให้หนูมาด้วย แต่หนูตามมาเองค่ะ แม่เห็นว่าหนูอยากเก็บพุทราจีนไปขาย จึงได้ยอมให้มาด้วย แล้วแผลนี่ก็เป็นหนูที่วิ่งล้มเอง ไม่ใช่ความผิดแม่นะคะ”

สีหน้าของอู๋เหวยพลันเปลี่ยนไปมา เขาหันไปมองไป๋จ้าวเหม่ยที่ยืนอยู่หน้าถ้ำ แสงไฟกระทบใบหน้าด้านซ้าย เป็นเงาสีดำเลือนรางหลอมรวมเข้ากับสีหน้าเย็นชาของไป๋จ้าวเหม่ย อู๋เหวยพลันขนลุกชัน

“เอ่อ...พ่อเข้าใจผิดเหรอนี่ อ่า...ซวนซวนไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว พ่อตกใจแทบแย่ แล้วนี่เจ็บไหมคะ มาค่ะพ่อเป่าให้ เพี้ยง!”

“เฮอะ!” ไป๋จ้าวเหม่ยแค่นเสียงออกมาหนึ่งคำ ก่อนจะหันหลังมองตรงผ่านความมืดออกไปข้างหน้า ความดีใจที่ได้ยินเสียงชายหนุ่มพลันดับมอด เธอลืมไปได้อย่างไร ไอ้คนปากสุนัข จะมีงาช้างงอกออกมาได้อย่างไร หนาวจนบ้าไปแล้วกระมัง

“พ่อต้องขอโทษแม่นะคะ ทำผิดก็ต้องยอมรับผิด แม่โกรธแล้วเห็นไหม” อู๋เหวยเม้มปากเหลือบมองไปยังหญิงสาวที่หันหลังให้ตนเอง

 เส้นผมของเธอแห้งแล้ว แต่ก็ฟูฟ่อง ทั้งยังมีเศษดินเศษใบไม้ติดเต็มไปหมด ใบหน้าก็เต็มไปด้วยเขม่าดำ ทว่าลูกสาวเขากลับขาวสะอาดเช่นเดิม ดูก็รู้ว่าได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และใช่ก่อนหน้านี้เขาไม่เห็น!

“พ่อคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะซวนซวน บังคับให้คนที่ไม่เต็มใจทำ ก็เหมือนบังคับวัวให้เคี้ยวหญ้า ไม่มีประโยชน์” วัวบางตัวได้ยินก็สะดุ้งขึ้น แต่เจ้าหนูน้อยก็ดึงมือตนเองออก พลางกอดอกทำหน้าเข้ม ตกลงลูกสาวเขาแปรพักตร์แล้วใช่ไหม

อู๋เหวยยอมรับว่าตนเองผิด เขาไม่ควรด่วนตัดสินเธอ แต่กระนั้นก็เขินอายเหลือเกิน ทำไมตอนด่ามันสนุกปากยิ่ง แต่ตอนจะขอโทษกลับกระอักกระอ่วนยิ่งกว่า

ไป๋จ้าวเหม่ยมองเห็นอู๋เหวยหมุนตัวมาจากทางหางตา เธอไม่รอให้เขาได้เอ่ยอะไรออกมา เพราะยังไงเธอก็ถูกด่าไปแล้ว จะมาขอโทษมันก็ไม่ได้ทำให้เธอหายโกรธหรอก

“นายเอาร่มมาหรือเปล่า บนเขาอากาศเย็นเราควรรีบลงเขาก่อนที่ซวนซวนจะป่วย”

“เอาร่มมา และเอาเสื้อฟางกันฝนมาฝากเธอด้วย แต่ตอนนี้ทางลงเขาลื่นมาก ฉันเองก็เกือบจะขึ้นมาไม่ไหว เธอกับลูกหิวหรือยัง นี่กินอะไรก่อน ดีนะที่โรงอาหารวันนี้ขายไม่ดี เหล่าซานจึงให้อาหารกลับมามากหน่อย เธอกับลูกกินก่อนฉันคิดว่าพวกเธอคงจะหิว จึงได้ถือมาด้วย”

 อู๋เหวยปลดกระเป๋าสานด้านหลังลงมา หยิบกระบอกน้ำและกล่องอาหารมาเรียงไว้ที่พื้น เอาผ้าจับกล่องไปตั้งไว้ที่กองไฟอุ่นจนน้ำแกงมีกลิ่นหอมโชยออกมา จากนั้นก็ใช้ตะเกียบคีบแผ่นแป้ง ไปย่างอุ่นให้มีความร้อน ก่อนจะกระตือรือร้นเรียกไป๋จ้าวเหม่ยมากินอาหาร

“อาเหม่ยฉันรู้ว่าเธอทำไอเอฟ ไออะไรนั่น แต่ว่าวันนี้งดสักวันเถอะ ดูท่าคืนนี้เราจะต้องอยู่ที่นี่จนกว่าฝนจะหยุดตก ตอนกลางคืนอากาศหนาวอย่างที่เธอบอกจริง ๆ ดังนั้นก็ควรกินให้อิ่มเอาไว้ก่อน”

 ใบหน้าหล่อเหลายิ้มออกมา พลางยื่นแผ่นแป้งไปตรงหน้า ไป๋จ้าวเหม่ยก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน เธอไม่ได้กินอะไรทั้งวันจะไม่หิวได้อย่างไร

อู๋เหวยเห็นหญิงสาวรับแผ่นแป้งไป ก็ดีใจเป็นอย่างมาก ถือว่าเขาขอโทษเธอผ่านการกระทำก็แล้วกันนะ

“ซวนซวนกินเยอะ ๆ นะ ดื่มน้ำแกงไก่นี่ก่อนเร็วเข้า ผัดมะเขือเทศใส่ไข่ที่หนูชอบ มีขาหมูด้วย”

“ขาหมูให้แม่กินค่ะ แม่ต้องกินเนื้อเยอะ ๆ กินแป้งน้อย ๆ”

“วันนี้แม่ไม่กินขาหมูแล้วค่ะ วันนี้แม่อยากกินแป้ง ซวนซวนกินขาหมูเร็วเข้า ร่างกายจะได้อบอุ่น”

“ใช่ ๆ ซวนซวนกินไปเถอะ เดี๋ยวให้แม่เขากินน่องไก่ก็แล้วกัน” ความจริงอาหารที่อู๋เหวยเอามาไม่ได้มีมากมาย เนื้อก็มีเพียงอย่างละหนึ่งถึงสองชิ้นเท่านั้น แต่เวลาหิวแบบนี้ แย่งกันกินแบบนี้ มันกลับอร่อยจนแทบหยุดไม่ได้

“ถึงจะไม่อร่อยเท่าแม่ทำ แต่อาหารมื้อนี้ก็ทำให้แสงออกปากได้เหมือนกัน”

“ฮ่า ๆ ใช่ ๆ แสงออกมาเลยทีเดียว”

“พ่อก็แสงออกปากด้วย”  อาหารทั้งหมดถูกสามพ่อแม่ลูกกวาดลงท้องไปจนเกลี้ยง อู๋เหวยถอดเสื้อกันหนาวตัวหนาของตนเองออกคลุมตัวลูกสาว

“ผมจะออกไปหาเศษไม้มาเพิ่มอีก”

“ไม่ต้องหรอกแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว” อู๋ชิงซวนกินอิ่ม ได้ใส่เสื้อหนา ๆ ร่างกายทั้งอุ่น ทั้งง่วง ไม่นานก็หลับลงไปในอ้อมกอดของไป๋จ้าวเหม่ยอีกครั้ง

“เธอขยับมาตรงนี้สิ เข้ามาอยู่ด้านในลมไม่พัดเข้ามา อุ่นกว่าตรงนั้น”

“อื้มก็ดี” ไป๋จ้าวเหม่ยขยับเข้ามานั่งพิงผนังหิน กอดเด็กน้อยหลับตาลงไป

เสียงกิ่งไม้ชื้นถูกเผาไหม้ดังเปรี๊ยะ ๆ ด้านนอกฝนยังคงตกลงมาไม่หยุด ทว่าก็เบากว่าตอนแรกบ้างแล้ว สายลมบนเขาพัดโชยเข้ามาจนเส้นผมชายหนุ่มปลิวไสว เขาหัวสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

“นายเข้ามานั่งเบียด ๆ กันตรงนี้เถอะ ตรงนั้นลมมันพัดโดน นายจะไม่หนาวหรือไง”

“เธออยากให้ฉันนั่งใกล้ ๆ เหรอ” ดวงตาอู๋เหวยกระจ่างใส ไป๋จ้าวเหม่ยนิ่วหน้าลง

“อย่าเข้าใจผิดล่ะ ฉันไม่ได้อยากจะอ่อยนายเหมือนที่นายคิดหรอกนะ ฉันก็แค่ไม่อยากให้นายหนาวตายตรงนี้”

“อ้อ...อย่างนี้นี่เอง” อู๋เหวยยกยิ้มโง่งมออกมา เขาขยับไปนั่งข้าง ๆ หญิงสาว ความอบอุ่นสายหนึ่งพลันวูบเข้ามา

หัวไหล่ของทั้งคู่เสียดสีกันเบา ๆ ทว่าต่างก็ไม่ได้พูดคุยกันแม้แต่คำเดียว นั่งฟังเสียงของสายฝนที่ตกลงมานอกถ้ำ เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ และเสียงกรนเบา ๆ ของหญิงสาวข้าง ๆ

อู๋เหวยรั้งศีรษะของเธออิงที่หัวไหล่ของเขา ครั้นเห็นเธอไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมา ก็ยกยิ้มขึ้นจาง ๆ จนแทบจะมองไม่เห็น เขาเบนสายตาไปมองด้านนอก ในใจพลันคิดไปว่า ตอนนี้มันช่างดีเหลือเกิน หัวใจเขาสงบเหลือเกิน มีความอบอุ่นเหมือนดังครอบครัวคนอื่นบ้างแล้ว

‘ชิงเหยา หากเป็นเธอ เธอจะดูแลซวนซวนได้ดีเหมือนกับจ้าวเหม่ยหรือเปล่านะ’

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 26  สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอ

    ตอนที่ 26 สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอไป๋จ้าวเหม่ยเปิดถุงกระดาษหยิบชุดที่หลิวชิงฮุยซื้อมาฝากซวนซวน เมื่อตอนเย็นแม่ดอกบัวขาวใต้ตมพยายามจะชวนเด็กน้อยคุยเล่น ทว่าซวนซวนก็ไม่ได้สนใจเท่าที่ควร เธอเอาเวลาไปคัดแยกพุทราจีนที่เก็บมาจากบนเขา พรุ่งนี้พ่อของเธอจะเอาไปขายให้หลิวชิงฮุยเห็นว่าเด็กน้อยไม่สนใจ จึงได้กลับไปอย่างพ่ายแพ้“ซวนซวนหนูมาดูชุดที่พี่ชิงฮุยซื้อมาฝาก สวยดีนะ ว้าวชุดนี้เหมือนชุดกะลาสีเรือเลย”“อะไรคือกะลาสีเรือคะ” เด็กน้อยละสายตาจากแบบฝึกหัดที่กำลังเขียนอยู่ หันมาเอียงคอถามตอนนี้เด็กน้อยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชุดใหม่อีกแล้ว อาจเป็นเพราะแม่เลี้ยงของเธอตัดให้จนครบเจ็ดวัน ไหนจะมีชุดที่เอาไว้ใส่ไปข้างนอก ชุดนอน ชุดใส่เล่น เต็มไปหมด อะไรที่ได้มามากพอก็ทำให้เธอหมดความสนใจ อีกอย่างชุดที่แม่เธอตัดก็สวยกว่าชุดที่วางขายมาก“ก็นี่ยังไงชุดที่มีคอปกข้างหลัง ชอบไหม ว่าไม่ได้หลิวชิงฮุยซื้อของดีมาให้เชียวนะ ผ้านุ่มเชียวใส่สบายตัวเลยละ”“ชอบค่ะ แต่ชอบชุดที่แม่ตัดเย็บให้มากกว่า เหมือนชุดนี้ไง ชุดนอนของหนู พ่อคะพ่อเห็นด้วยหรือเปล่า ชุดนอนที่แม่ทำสวยกว่าอีกเนอะ” อู๋ชิงซวนหมุนตัวหนึ่งรอบ ให้ดูชุดนอนก

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 25 สงสัย

    ตอนที่ 25 สงสัยไป๋จ้าวเหม่ยพลาดไปแล้ว เธอพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ลืมไปได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เธอมองท้องฟ้าที่สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย“เธอจะให้ฉันเอาสมุนไพรไปขายให้หรือเปล่า แต่เอาไปแบบไม่ตากแห้งมันจะขายได้ไหม ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราเก็บเอาไว้ก่อน อบกับไฟก็แห้งเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”“แบบสดมันก็ขายได้ ฉันไม่แน่ใจว่าราคามันจะดีเหมือนแห้งหรือเปล่าน่ะสิ” บอกตรง ๆ เรื่องราคาของ หรือค่าเงินในยุคนี้เธอไม่ค่อยรู้เลยด้วยซ้ำ ดูอย่างที่ว่าทุกอย่างในยุคนี้ ราคาถูก เต้าหู้ก้อนหนึ่งแค่หนึ่งเหมาเท่านั้น ผ้าสวย ๆ หนึ่งพับแค่หนึ่งหยวน แต่!...มันกลับแพงยิ่งกว่าในยุคของเธอเสียอีก อาจเพราะค่าเงินมันไม่เท่ากันกระมัง“จะดีไม่ดียังไงก็ต้องขายไม่ใช่เหรอ เอาไว้หมดหน้าฝน ฉันจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรพวกนี้ให้เธอเอง ถึงตอนนั้นเธอก็จะได้เงินเท่าเดิมแล้ว”ไป๋จ้าวเหม่ยพยักหน้าแกน ๆ ยังไงก็ต้องทำตามที่อู๋เหวยบอกนั่นแหละ เพราะนี่ก็สองวันแล้ว หากไม่รีบขายสมุนไพรของเธอก็คงจะเหี่ยวหมดราคาแน่ ๆ เห็ดหลินจือเธอสามารถเก็บเอาไว้ขายทีหลังได้ แต่โสมคนกับโสมซานซีและสมุนไพรอื่น ๆ คงต้องขายออกไป รวมทั้งพุทราแห้งด้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 24 ออกตามหา

    ตอนที่ 24 ออกตามหากว่าจะปลอบให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ร่างอวบ ๆ ของเธอก็หนาวสั่น เธอรีบล้วงเข้าไปในตะกร้าสมุนไพร หยิบกลักไม้ขีดออกมา รวบเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้ง ๆ ที่ถูกลมปลิวพัดมากระจุกอยู่ในถ้ำ และจุดไฟให้ความอบอุ่น“ซวนซวนหนูใส่เสื้อทับด้วยหรือเปล่าจ๊ะ”“ใส่ค่ะ”“ดีเลย ตอนนี้หนูถอดเสื้อผ้าออกมาก่อน เหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในและเสื้อกล้ามก็พอ เอาออกมาอังไฟให้แห้งก่อน” อู๋ชิงซวนรีบถอดชุดออกมา รวมทั้งถุงเท้ารองเท้าทั้งหมด กางเกงในของเด็กน้อยเป็นทรงสามเหลี่ยม ที่แม่เลี้ยงตัดเย็บให้ และเสื้อกล้ามก็เป็นเสื้อที่ปิดถึงแค่เหนือสะดือ แต่เพราะที่นี่มีเพียงเธอสองคน เด็กหญิงจึงไม่อาย“รอน้าอยู่ตรงนี้แป๊บเดียว น้าจะไปเอากิ่งไม้ ถึงจะเปียกแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย” กำลังจะก้าวขาออกไป ทว่ามือเล็กก็ดึงเอาไว้ก่อน“น้าไปตรงนี้เอง หนูนั่งมองออกไปก็เห็น”“ไม่ใช่น้า” เด็กหญิงทำปากยู่ราวกับเป็ดตัวน้อยแสนงอนอย่างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยหลุดขำออกมา พลางยื่นมือไปบีบปากแหลม ๆ นั่น“เอาละ ๆ แม่ผิดไปแล้ว ต้องโทษที่แม่สมองไม่ดี ทำให้ลืมเสียได้ ซวนซวนน้อยไม่โกรธแม่นะคะลูก”“ไม่โกรธค่ะ แม่รีบไปรีบมานะคะ หนูนั่งผิงไฟตรงนี้ แต่แม่ถอดเส

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 23 ติดถ้ำ

    ตอนที่ 23 ติดถ้ำเปรี้ยง! เสียงสายฟ้าร้องลั่นสั่นสะเทือน สายฝนกระหน่ำลงมาราวกับฟ้าถล่ม หญิงสาวโหนตัวอยู่ที่บนหน้าผา เธอกัดฟันปีนขึ้นไป แต่เพราะน้ำฝนที่สาดลงมาทำให้มือที่เกาะลื่น ร่างอวบร่วงพรืดลงไป มือเล็กรีบจิกเล็บลงที่ซอกหิน จนเล็บหักสิบนิ้วสื่อถึงหัวใจ ทว่าความเจ็บปวดไม่เท่ากับความหวาดกลัว คนตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายอีก และที่สำคัญซวนซวนอยู่คนเดียว! ไม่รู้เด็กคนนั้นจะกลัวแค่ไหน ป่านนี้ไม่ใช่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วเหรอ“ฉันก็ว่าแล้ว โชคดีมันจะมาง่าย ๆ ได้ยังไง ได้โสมได้เห็ด แต่เกือบตกเขา ไม่ได้ฉันจะตายไม่ได้ซวนซวนรออยู่” เธอจะบ่นออกมาไม่ได้ ใบหูแว่วได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อย ถึงจะรู้ว่าตอนนี้คงเป็นจิตใจเธอที่ปรุงแต่งไปเอง แต่กระนั้นพอได้คิดว่าเจ้าตัวเล็กนั่นกำลังร้องไห้ เธอก็ยิ่งจิกเล็บเข้าไปในซอกหิน กัดฟันปีนป่ายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ดีที่ครั้งนี้เธอเลือกลงเขาด้านที่มีหน้าผาบังลม หากลงที่เดิมเธอคงตกตายไปแล้วไป๋จ้าวเหม่ยรีบวิ่งไปแกะเชือกที่มัดกับต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็วิ่งไปหาอู๋ชิงซวนที่ถ้ำหิน ริมฝีปากก็ตะโกนร้องบอกว่า “ซวนซวนน้ามาแล้ว” ไปตลอดทางทางด้านอู๋ชิงซวนหลังจากที่ฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวย

    ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวยวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน สองหญิงสาวเดินออกมาส่งชายหนุ่มคนเดียวของบ้านเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ทว่าหลายวันมานี้อู๋เหวยมักจะอิดออดไม่ยอมรีบขี่รถออกไปเร็วเหมือนเดิม เช่นเดียวกับตอนนี้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ไป๋จ้าวเหม่ยเข้าโรงพยาบาลก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม่กับน้องของเธอไม่ได้มาขอเงินอีก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้ส่งเงินไปเช่นกัน แปลกเหลือเกิน มีแต่ความแปลกเต็มไปหมด“ซวนซวนพ่อไปทำงานแล้วนะ”“ค่ะ...พ่อขี่รถดี ๆ นะคะ อย่าหักโหมนะหนูกับน้าเป็นห่วง” อู๋ชิงซวนเอ่ยถ้อยคำห่วงใยให้กับพ่อตนเอง หากเป็นเมื่อก่อนเธอก็อยากตามไปด้วย ทว่าเดี๋ยวนี้ เธออยากอยู่เรียนหนังสือ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากน้าเหม่ยมากกว่า“ขอบคุณครับ ซวนซวนเป็นเด็กดีอย่าดื้ออย่าซน เชื่อฟังน้าเหม่ยของลูกให้มาก ๆ นะ” สายตาอู๋เหวยเหลือบไปมองคนที่ยืนหมุนคอกระดูกลั่นดังกร๊อบ ๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้น ไม่ใช่เพราะเธอออกกำลังกายแปลก ๆ นั่นหรือไงและใช่ไป๋จ้าวเหม่ยยังคงออกกำลังกายท่าแปลก ๆ ของเธอทุกวันเหมือนเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าคนอ้วนอย่างเธอจะล้มเลิกกลางคัน แต่สามเดือนที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ไป๋จ้าวเหม่ยเอาจริง ทั้งอ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ

    ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรออู๋เหวยเอาข้าวของที่ไป๋จ้าวเหม่ยซื้อมาใส่ตะกร้าหน้ารถตัวเอง ที่ใส่ไม่หมดก็ห้อยเอาไว้ เขามองข้าวของที่เต็มรถ ก็พอจะรู้ว่าเธอหมดไปหลายหยวน ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวได้เงินมาจากการขายสมุนไพร เพราะหลายวันที่ผ่านมา เขาก็เห็นแล้วว่าเธอวุ่นวายอยู่กับสมุนไพรเหล่านั้น แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะขายได้ราคาดีเพียงใด“ซวนซวนหนูมาซ้อนท้ายพ่อดีไหมคะ น้าเหม่ยของลูกจะได้ไม่หนัก”“พ่อคะ!...หนูตัวไม่หนักเสียหน่อยจริงไหมคะน้าเหม่ย”“จริงจ้ะ ซวนซวนของพวกเราหุ่นดีขนาดนี้จะหนักได้ยังไง หนูมาซ้อนท้ายน้าเหมือนเดิมดีกว่า พ่อหนูถือของเต็มรถแล้ว” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นว่าอู๋เหวยรับหน้าที่ขนของแล้ว ดังนั้นเธอจึงรับหน้าที่บรรทุกคนไปเอง ทว่ายังไม่ทันที่เด็กหญิงจะได้ตอบ เสียงรีบร้อนของคนบางคนก็ตะโกนออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก“ซวนซวนหนูอยากมาซ้อนรถของพี่ชิงฮุยหรือเปล่าจ๊ะ ป้าพี่ส่งจดหมายมาจากเซี่ยงไฮ้ มีเรื่องสนุก ๆ เยอะเลย พี่เล่าให้ฟังดีไหมจ๊ะ” หลิวชิงฮุยเห็นทั้งสามกำลังจะไปอยู่แล้ว เธอก็รีบจูงรถจักรยานตามมา ในใจนึกโมโหตั้งแต่ที่กินอาหารข้างในแล้ว มีเพียงแค่เธอที่ชวนคุย พี่เห

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 20 เงินก้อนแรก

    ตอนที่ 20 เงินก้อนแรกไป๋จ้าวเหม่ยพาอู๋ชิงซวนแวะซื้อของที่ต้องการตามร้านต่าง ๆ ธัญพืชและข้าวสารที่อู๋เหวยซื้อไปคราวก่อนยังเหลือเยอะไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม จริง ๆ เนื้อหมูเธอไปซื้อกับย่าสามเป็นประจำ แต่วันนี้ออกมาข้างนอกแล้ว เธอก็คิดว่าต้องซื้อเนื้อสามชั้นไปคืนไอ้ขี้เก๊กนั่นเสียหน่อย ต่อไปนี้จะได้มาบ่นไม่ได้แล้ว ว่าเธอแอบกินหมู!“น้าเหม่ยยังจะซื้ออะไรอีกคะ นี่มันก็เยอะมากแล้วเสียดายเงินออกค่ะ”“ไม่เป็นไรพวกเราไม่ได้ซื้อบ่อย ๆ และไม่ต้องเสียดาย เงินนี้น้าหามาได้ ไม่ใช่เงินพ่อหนูจ้ะ”“หนูรู้ค่ะว่าน้าขายสมุนไพรได้ แต่หนูก็เสียดายอยู่ดี” อู๋ชิงซวนปวดใจเป็นอย่างมาก เธอต้องเตือนน้าเหม่ยสักหน่อย ว่าไม่ควรใช้เงินมากเกินไป มีเงินควรต้องเก็บสิ“ซวนซวนเราไปร้านขนมกัน ดูสิมีขนมแบบใหม่ ๆ มาลงด้วย พวกเราไปซื้อกัน เดี๋ยววันนี้น้าจะซื้อลูกอมห่อใหญ่กลับไปด้วย เอาไว้ไปเป็นรางวัลให้กับนักเรียนสามคนแรกของน้าดีไหม”ความจริงแล้วเธอไม่อยากเป็นแม่ค้าขายสมุนไพรหรอก เธออยากเป็นครู แต่เพราะในยุคนี้ไป๋อ้วนไม่มีวุฒิการศึกษา ดังนั้นเธอจึงสมัครเป็นครูไม่ได้ และก็ไม่อาจเปิดโรงเรียนสอนหนังสือได้เช่นกัน หากทะลุไปยุคโบรา

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 19 อร่อยจนแสงออกปาก

    ตอนที่ 19 อร่อยจนแสงออกปากหลังจากปิดร้านซ่อมรถ ไป๋จ้าวเหม่ยก็ไล่สองพ่อลูกไปอาบน้ำเหมือนเช่นเคย ส่วนตนเองก็มาจัดการสตูกระต่ายที่เคี่ยวเอาไว้ตั้งแต่บ่าย กระต่ายตัวนี้อาจจะแก่ไปสักหน่อย แต่ก็พอเอามาประทังชีวิตได้ ในยุคที่ยังไม่เจริญอย่างนี้จะเลือกกินก็ไม่ได้หรอก อดตายแน่ ๆ ในขณะที่ไป๋จ้าวเหม่ยกำลังเตรียมอาหาร อู๋เหวยก็แอบถามความกับลูกสาวที่บ่ออาบน้ำด้านหลังบ้าน“ซวนซวนน้าอวบของลูก ยังตีลูกอีกหรือเปล่า เธอแย่งอาหารลูกเหรอ” อู๋เหวยพยายามมองหาร่องรอยจากร่างกายของลูกในตอนที่อาบน้ำให้ลูก แต่ก็ไม่เห็น“ไม่ค่ะพ่อ น้าเหม่ยดีมาก แล้วพ่อก็ห้ามเรียกว่าน้าอวบแล้ว เพราะทวดสามบอกว่า เราไม่ควรเรียกเธอว่าอ้วนหรืออวบมันไม่ดี”“อ่าใช่แล้ว พ่อผิดไปแล้ว ต่อไปนี้จะไม่เรียกน้าเหม่ยของลูกว่าอ้วนหรืออวบอีกดีไหมคะ”“ดีค่ะ พ่อคะ น้าเหม่ยเก็บสมุนไพรมาเยอะแยะเลย เธอบอกว่าเอาไว้ขายแล้วจะซื้อผ้ามาตัดชุดให้กับหนู เธอสอนหนังสือหนูด้วยนะคะ พรุ่งนี้พี่เสี่ยวจุนกับพี่เจินเจินก็จะมาเรียนที่บ้านเราด้วย ถ้าน้าเหม่ยดีกับหนูแบบนี้ตลอดไปก็คงดี”“อ่านั่นน่ะสิ พ่อว่าเธอจะต้องดีกับเราตลอดไปนั่นแหละ ซวนซวนน่ารักขนาดนี้ เธอจะไม่ร

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 18 เหตุผลที่อ้วน

    ตอนที่ 18 เหตุผลที่อ้วนอู๋เหวยกลับมาถึงบ้านในเวลาเดิม ทว่าเมื่อเขาจอดรถที่ในบ้าน กลับไม่เห็นเงาร่างเล็ก ๆ ของลูกสาววิ่งเข้ามากอด หลายวันแล้วที่ซวนซวนไม่ได้กอดเขา รอต้อนรับเขากลับบ้าน หรือว่าเขาควรจะชินได้แล้ว แต่ก็ไม่ชินเสียที“ซวนซวนพ่อกลับมาแล้ว” ครั้นเมื่อเดินเข้าไปถึง เขาก็ได้ยินเสียงท่องหนังสือของลูกสาว และเสียงละมุนที่คอยบอกเวลาที่ซวนซวนท่องผิด คำพูดของไป๋จ้าวเหม่ยไม่มีคำไหนที่จะด่า หรือตำหนิ มีแต่ค่อย ๆ บอกค่อย ๆ สอน“ไป๋จ้าวเหม่ยรู้หนังสือตั้งแต่เมื่อไรกัน” ชายหนุ่มหยุดฟังอยู่พักใหญ่ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากทางหน้าบ้าน เป็นหลิวชิงฮุยอีกแล้ว และคราวนี้หญิงสาวสองคนที่อยู่หลังบ้านก็ได้ยินเช่นกัน“พ่อหนูมาแล้ว เอาไว้ท่องต่อกลางคืนก็ได้ ไปหาพ่อหนูเถอะ น้าล้างสมุนไพรอีกแป๊บเดียวเดี๋ยวจะตามออกไป”“ได้ค่ะ” อู๋ชิงซวนวิ่งออกไปข้างนอก อู๋เหวยได้ยินเสียงฝีเท้า ก็ย่อตัวอ้าแขนออกร่างเล็กกระโจนเข้ามากอด พร้อมกับที่คนเป็นพ่ออุ้มขึ้นมา เหวี่ยงหมุนตัวไปมา เขากดจมูกลงจูบที่หน้าผากเล็ก สูดลมหายใจเข้า กลิ่นของลูก อ้อมกอดของลูก เป็นการเพิ่มพลังชีวิตให้เขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ไม่ว่าจะท้อ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status