ไป๋จ้าวเหม่ยพลาดไปแล้ว เธอพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ลืมไปได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เธอมองท้องฟ้าที่สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย
“เธอจะให้ฉันเอาสมุนไพรไปขายให้หรือเปล่า แต่เอาไปแบบไม่ตากแห้งมันจะขายได้ไหม ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราเก็บเอาไว้ก่อน อบกับไฟก็แห้งเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“แบบสดมันก็ขายได้ ฉันไม่แน่ใจว่าราคามันจะดีเหมือนแห้งหรือเปล่าน่ะสิ” บอกตรง ๆ เรื่องราคาของ หรือค่าเงินในยุคนี้เธอไม่ค่อยรู้เลยด้วยซ้ำ ดูอย่างที่ว่าทุกอย่างในยุคนี้ ราคาถูก เต้าหู้ก้อนหนึ่งแค่หนึ่งเหมาเท่านั้น ผ้าสวย ๆ หนึ่งพับแค่หนึ่งหยวน แต่!...มันกลับแพงยิ่งกว่าในยุคของเธอเสียอีก อาจเพราะค่าเงินมันไม่เท่ากันกระมัง
“จะดีไม่ดียังไงก็ต้องขายไม่ใช่เหรอ เอาไว้หมดหน้าฝน ฉันจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรพวกนี้ให้เธอเอง ถึงตอนนั้นเธอก็จะได้เงินเท่าเดิมแล้ว”
ไป๋จ้าวเหม่ยพยักหน้าแกน ๆ ยังไงก็ต้องทำตามที่อู๋เหวยบอกนั่นแหละ เพราะนี่ก็สองวันแล้ว หากไม่รีบขายสมุนไพรของเธอก็คงจะเหี่ยวหมดราคาแน่ ๆ เห็ดหลินจือเธอสามารถเก็บเอาไว้ขายทีหลังได้ แต่โสมคนกับโสมซานซีและสมุนไพรอื่น ๆ คงต้องขายออกไป รวมทั้งพุทราแห้งด้วย
ในขณะที่ทั้งสองคนต่างก็เงียบและมองดูสายฝนนอกบ้านอยู่นั้น เจียงจุนก็ถือแบบฝึกหัดเดินออกมา พร้อมทั้งยื่นสมุดไปตรงหน้า สีหน้าก็ดูเหมือนไม่มั่นใจ ไป๋จ้าวเหม่ยรับมาถือเอาไว้
“อาเหม่ยครับผมทำแบบทดสอบเสร็จแล้วครับ”
“เสร็จแล้วเหรอ มีข้อที่ไม่เข้าใจใช่ไหม ไหนมาดูสิ”
“มีจริง ๆ ครับอาเหม่ย ข้อนี้ครับ ผมไม่เข้าใจระหว่างสมการตัวเลขอันนี้ครับ แล้วก็มีการปกครองท้องถิ่นอีกด้วย”
“ได้ถ้าอย่างนั้นอาจะอธิบายเรื่องสมการก่อน ตามอามา” เจียงจุนเดินตามไป๋จ้าวเหม่ยเข้าไปในห้องโถง โดยมีสายตาของอู๋เหวยมองตาม ทั้งสองไปนั่งยังโต๊ะ ที่ไป๋จ้าวเหม่ยจ้างให้เหล่าเถียนช่างไม้ทำขึ้นมาใหม่ เป็นโต๊ะที่เรียกว่าโต๊ะนักเรียน
ถึงแม้บ้านเขาจะหลังไม่ใหญ่ ทว่าก็เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก ไป๋จ้าวเหม่ยคนนี้ ไม่ใช่ไป๋จ้าวเหม่ยคนเดิมแน่ ๆ พลันเมื่อความคิดนี้เกิดขึ้นมา ตัวเขาก็ชาไปทั้งตัว ขายาวก้าวไปที่กองหนังสือของตนเอง
เขารีบเปิดหาภาษาต่างประเทศ คำว่าอีพีหรือ Episode อะไรนั่น มันไม่ได้มีในหนังสือพวกนี้ วันนั้นเมื่อหลายเดือนก่อนเขาจงใจแก้ต่างให้เธอ และเธอก็ไหลตามน้ำ ทว่าในใจลึก ๆ ก็คิดว่าตนเอง อ่านข้าม คำนี้อาจจะมีอยู่จริง ทว่าความจริงก็ตีแสกหน้าเขาเต็ม ๆ Episode ไม่มีอยู่ในหนังสือ เขาเองยังไม่เข้าใจความหมาย แต่ไป๋จ้าวเหม่ยรู้ได้อย่างไร
“แม่คะหนูทำใบงานเสร็จแล้วค่ะ”
“อาเหม่ยหนูก็เสร็จแล้วเหมือนกันค่ะ”
“เก่งมาก เด็ก ๆ เอามาวางไว้ตรงนี้ เดี๋ยวอธิบายระบบการปกครองให้พี่เสี่ยวจุนเสร็จแล้วจะมาตรวจให้ ตอนนี้ทั้งคู่ไปเอาการ์ดคำศัพท์ออกมาเล่นก่อนค่ะ”
“ได้ค่ะ” ทั้งสองเดินออกไปนั่งตรงหน้าบ้าน ไป๋จ้าวเหม่ยก็นั่งอธิบายหลักการปกครองให้เจียงจุนฟัง
อู๋เหวยได้ฟังแล้วก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก ผู้หญิงคนหนึ่งจะรู้เรื่องการปกครองของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้อย่างถ่องแท้ ทั้งยังมีข้อคิดเห็นที่ไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ อีกด้วย แน่นอนว่าความคิดเห็นของไป๋จ้าวเหม่ยเป็นความคิดเห็นของ ประชาชนที่อยู่ในยุคปัจจุบัน ดังนั้นความรู้กระจ่างจึงต่างกัน
“ซวนซวนจับได้การ์ดอะไรน่ะ ผิงกั่ว[1]เหรอ” เจียงเจินเจินหันด้านรูปภาพออกไปตรงหน้าของอู๋ชิงซวน
“ใช่แล้ว ผิงกั่ว มาฉันจะสะกดคำแล้วนะ”
“ A P P L E แอปเปิล แปลว่า ผิงกั่ว ถูกต้องไหมพี่เจินเจิน”
“ถูกต้องแล้ว ตาฉันจับการ์ดบ้างนะ” เห็นว่าอู๋ชิงซวนท่องครั้งเดียวผ่าน เจียงเจินเจินก็อยากจับบ้าง ครั้นพอหลับตาจับได้ก็ยื่นให้น้องสาวลูกพี่ลูกน้อง
“ผูเถา[2] เอาละฉันขอนึกดูก่อน G R เอ๋แล้วก็อะไรอีกนะ”
“นึกดูดี ๆ สิพี่เจินเจิน หรือให้ฉันใบ้ให้ไหม”
“ไม่ต้อง ๆ ฉันขอนึกก่อน” เจียงเจินเจินยกนิ้วขึ้นเคาะหน้าผากตนเอง ริมฝีปากท่องขมุบขมิบ
อู๋ชิงซวนหัวเราะคิกคัก ตามองคำเฉลยที่อยู่ด้านหลังแผ่นป้าย พลางอ้าปากพะงาบ ๆ คล้ายจะบอกคล้ายจะไม่บอกอยู่อย่างนั้น
“ฉันรู้แล้ว G R A P E เกรฟ ผูเถา”
“ว้าวพี่เจินเจินเก่งมาก ๆ”
อู๋เหวยยืนแอบดูอยู่นานแล้ว นอกจากเขาจะตกใจกับเจียงจุนแล้ว ยังต้องมาตกใจกับสองสาวนี่อีก ทั้งหมดนี่เป็นฝีมือของไป๋จ้าวเหม่ย เธอมีความรู้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร หัวใจชายหนุ่มเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาสลัดความคิดเดินเข้าไปหาเด็กหญิงทั้งสอง ต้องสืบให้รู้ชัดเสียก่อน แล้วค่อยตัดสิน
“เด็ก ๆ กำลังเล่นอะไรกัน น่าสนุกจังเลย ให้พ่อเล่นด้วยได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะพ่อ กติกาง่าย ๆ พ่อหลับตาแล้วหยิบการ์ดมาหนึ่งใบ ยื่นให้หนู แล้วหนูจะหันด้านที่เป็นรูปภาพให้พ่อดู ส่วนคำเฉลยจะอยู่ด้านหลังค่ะ”
“ใช่แล้วอาอู๋ ตอนนี้หนูกับซวนซวนกำลังเล่นทายคำศัพท์ผลไม้ อาเหม่ยยังมีคำศัพท์สิ่งของ คำศัพท์สี และตัวเลขด้วยค่ะ”
“โอ้ว...แล้วเด็ก ๆ ท่องคำศัพท์ได้เยอะหรือยังครับ”
“หนูท่องได้เยอะแล้วค่ะ เพราะว่าหนูเรียนกับแม่มากกว่าพี่เจินเจิน” อู๋ชิงซวนเชิดหน้าอวด ใครใช้ให้เธอมีแม่ที่เก่งกาจขนาดนี้เล่า พี่เจินเจินไม่ได้มีแม่เก่ง ๆ เหมือนเธอก็แย่หน่อย
อู๋เหวยนั่งเล่นกับเด็ก ๆ อีกครู่ใหญ่ ก็ได้ยินเสียงไป๋จ้าวเหม่ยเรียกเด็ก ๆ ให้กลับเข้าไปในห้องแล้ว ชายหนุ่มยังนั่งอยู่ที่เดิม ทว่าหันตัวไปทางในห้อง เหม่อมองคนทั้งสี่เงียบ ๆ
“วันนี้เจินเจินกับซวนซวน ทำแบบฝึกหัดถูกทั้งคู่เลย เพราะฉะนั้นคะแนนทั้งคู่เสมอกัน ครูจะแจกขนมเท่ากัน และวันพรุ่งนี้พวกเราจะมาเรียนบทใหม่ ศิลปะและวัฒนธรรม” ไป๋จ้าวเหม่ยเดินกลับเข้าไปในห้อง เธอหยิบลูกอมกระต่ายขาวออกมาหนึ่งกำมือ จากนั้นก็แจกให้เด็กทั้งสามเท่า ๆ กัน
“เอาละวันนี้เรียนแค่นี้พอ เด็ก ๆ รอให้ฝนหยุดก่อนแล้วค่อยกลับก็แล้วกัน”
“ผมกับน้องเอาร่มมาครับ อาเหม่ยครับขอบคุณสำหรับวันนี้ ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณค่ะ” สองพี่น้องกล่าวขอบคุณแล้วจึงขอตัวลากลับบ้าน
“อาเหม่ยฉันจะเอาสมุนไพรไปขายให้เธอแล้วนะ อาจจะกลับมาช้าหน่อย จะให้ซื้ออะไรเข้ามาด้วยหรือเปล่า” ไป๋จ้าวเหม่ยมองสายฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย
“วันนี้ไม่ต้องไปหรอก หยุดงานก็ควรพักผ่อนอยู่บ้าน พรุ่งนี้ไปทำงาน นายค่อยเอาไปขายก็ยังไม่สาย นั่นลูกค้ามาซ่อมรถหรือเปล่า นายออกไปดูเถอะ”
อู๋เหวยและไป๋จ้าวเหม่ยมองออกไปข้างนอกบ้านพร้อมกัน ทว่าเมื่อรถจักรยานเข้ามาในบริเวณบ้าน จึงเห็นว่าเป็นใคร ใบหน้าชายหนุ่มพลันกระอักกระอ่วนขึ้นมา เขาเหลือบสายตาไปมองหญิงสาวข้าง ๆ เห็นว่าเธอมีสีหน้าเฉย ๆ ก็พลันห่อเหี่ยวลง
“คนของนายมาแล้วไปสิ”
“ไม่ใช่คนของฉัน เธออย่าได้พูดจามั่วซั่ว คนอื่นมาได้ยินจะไม่ดี อีกอย่างฉันก็มีภรรยาอยู่แล้ว ภรรยาฉันก็เธอไม่ใช่หรือไง” ไป๋จ้าวเหม่ยมองแผ่นหลังของอู๋เหวยที่เดินออกไป ใบหน้าเธอพลันแดงซ่าน
ใช่แล้ว เธอลืมไปแล้วจริง ๆ ว่าร่างกายที่เธอครอบครองอยู่ตอนนี้ เป็นภรรยาของอู๋เหวยจริง ๆ
“พี่เหวยคะ ฉันเอารถมาเติมลมค่ะ” อู๋เหวยมองไปยังล้อรถของหลิวชิงฮุย ลมอ่อนจริง ๆ ดูเหมือนว่าเดี๋ยวนี้ลมล้อรถของเธอ จะไม่ค่อยแบนเท่าไรแล้ว เพราะตั้งแต่ที่ถูกไป๋จ้าวเหม่ยตอกหน้าไปวันนั้น ลมก็ดูแข็งแรงขึ้นเยอะเชียว
“ได้สิ แต่ทำไมไม่รอให้ฝนหยุดก่อนแล้วค่อยมาล่ะ นี่ก็ยังขี่ได้อยู่เลยนะ”
“ฉันว่างน่ะค่ะ อีกอย่างฉันเพิ่งได้ข่าวว่าซวนซวนถูกสหายไป๋พาขึ้นไปหลงบนเขา พี่เหวยคะ...พี่จะใจดีเกินไปแล้วนะคะ ซวนซวนยังเด็กไม่ควรให้ขึ้นไปบนเขา”
“ไม่เป็นอะไรหรอก อาเหม่ยก็อยู่ด้วย อีกอย่างซวนซวนก็ติดแม่เลี้ยงของเธอมาก” คำว่าแม่เลี้ยงที่ออกมาจากปากของอู๋เหวย ทำเอามือเล็กที่กำลังถือถุงกระดาษชะงักค้าง ดวงตาเรียวเบิกขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้า
ทว่าอู๋เหวยกลับแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น!
“พี่เหวย”
“เสร็จแล้วสามเหมาครับ” ความจริงจะไม่เก็บเงินก็ได้ ทว่าอู๋เหวยไม่อยากให้หลิวชิงฮุยเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างหาของมาให้เขาอีก แค่นี้คนที่หมู่บ้านก็พูดกันเกินเลยแล้ว
เช่นเดียวกับอาหารที่ก่อนหน้านี้เธอทำมาให้เขาช่วยชิม เพราะจะเปิดร้านอาหาร จนตอนนี้ก็ยังไม่เห็นจะเปิด คงหลอกเขาเหมือนที่ไป๋จ้าวเหม่ยว่านั่นแหละ
“พี่เหวยฉันไปอยู่บ้านป้าที่เซี่ยงไฮ้มาหนึ่งเดือน พี่ไม่คิดถึงฉันบ้างเหรอ” อู๋เหวยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เขายกที่สูบลมเข้าไปเก็บด้านใน
หลิวชิงฮุยเม้มปากน้ำตาคลอ แต่แล้วเธอก็รีบสะบัดศีรษะ และยิ้มออกมาอย่างขื่นขม
“ฉันซื้อชุดมาฝากซวนซวน เป็นชุดแบบใหม่ขายดีในห้างเสวียนเสวียนเลยนะคะ...นี่ค่ะ” ถุงกระดาษถูกยื่นไปตรงหน้า อู๋เหวยเห็นว่ายังไงหญิงสาวก็มีน้ำใจซื้อมาแล้ว จึงรับเอาไว้
“ขอบคุณเธอมาก แต่คราวหลังอย่าได้สิ้นเปลืองอีกเลย อาเหม่ยตัดชุดให้ซวนซวนเต็มตู้ ใส่ไม่ทันอยู่แล้ว”
หลิวชิงฮุยแทบจะหลั่งเลือดออกมาอยู่แล้ว เธอไม่อยู่บ้านแค่เดือนเดียว ที่นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมพี่เหวยของเธอถึงได้เปลี่ยนไป คำก็อาเหม่ย สองคำก็อาเหม่ย
“ฉันขอไปหาซวนซวนหน่อยค่ะ คิดถึงแกเหลือเกิน”
“ครับ เข้าไปสิ” ในเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าคิดถึงลูกสาวเขา แล้วเขาจะห้ามได้อย่างไร เลยตามเลยก็แล้วกัน อยากรู้เหมือนกันว่าไหน้ำส้มของอาเหม่ยจะหกหรือเปล่า
[1]苹果 (píngguǒ) ผิงกั่ว แปลว่า แอปเปิล
[2]葡萄 (pútáo) ผูเถา แปลว่า องุ่น
ตอนที่ 26 สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอไป๋จ้าวเหม่ยเปิดถุงกระดาษหยิบชุดที่หลิวชิงฮุยซื้อมาฝากซวนซวน เมื่อตอนเย็นแม่ดอกบัวขาวใต้ตมพยายามจะชวนเด็กน้อยคุยเล่น ทว่าซวนซวนก็ไม่ได้สนใจเท่าที่ควร เธอเอาเวลาไปคัดแยกพุทราจีนที่เก็บมาจากบนเขา พรุ่งนี้พ่อของเธอจะเอาไปขายให้หลิวชิงฮุยเห็นว่าเด็กน้อยไม่สนใจ จึงได้กลับไปอย่างพ่ายแพ้“ซวนซวนหนูมาดูชุดที่พี่ชิงฮุยซื้อมาฝาก สวยดีนะ ว้าวชุดนี้เหมือนชุดกะลาสีเรือเลย”“อะไรคือกะลาสีเรือคะ” เด็กน้อยละสายตาจากแบบฝึกหัดที่กำลังเขียนอยู่ หันมาเอียงคอถามตอนนี้เด็กน้อยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชุดใหม่อีกแล้ว อาจเป็นเพราะแม่เลี้ยงของเธอตัดให้จนครบเจ็ดวัน ไหนจะมีชุดที่เอาไว้ใส่ไปข้างนอก ชุดนอน ชุดใส่เล่น เต็มไปหมด อะไรที่ได้มามากพอก็ทำให้เธอหมดความสนใจ อีกอย่างชุดที่แม่เธอตัดก็สวยกว่าชุดที่วางขายมาก“ก็นี่ยังไงชุดที่มีคอปกข้างหลัง ชอบไหม ว่าไม่ได้หลิวชิงฮุยซื้อของดีมาให้เชียวนะ ผ้านุ่มเชียวใส่สบายตัวเลยละ”“ชอบค่ะ แต่ชอบชุดที่แม่ตัดเย็บให้มากกว่า เหมือนชุดนี้ไง ชุดนอนของหนู พ่อคะพ่อเห็นด้วยหรือเปล่า ชุดนอนที่แม่ทำสวยกว่าอีกเนอะ” อู๋ชิงซวนหมุนตัวหนึ่งรอบ ให้ดูชุดนอนก
ตอนที่ 25 สงสัยไป๋จ้าวเหม่ยพลาดไปแล้ว เธอพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ลืมไปได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เธอมองท้องฟ้าที่สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย“เธอจะให้ฉันเอาสมุนไพรไปขายให้หรือเปล่า แต่เอาไปแบบไม่ตากแห้งมันจะขายได้ไหม ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราเก็บเอาไว้ก่อน อบกับไฟก็แห้งเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”“แบบสดมันก็ขายได้ ฉันไม่แน่ใจว่าราคามันจะดีเหมือนแห้งหรือเปล่าน่ะสิ” บอกตรง ๆ เรื่องราคาของ หรือค่าเงินในยุคนี้เธอไม่ค่อยรู้เลยด้วยซ้ำ ดูอย่างที่ว่าทุกอย่างในยุคนี้ ราคาถูก เต้าหู้ก้อนหนึ่งแค่หนึ่งเหมาเท่านั้น ผ้าสวย ๆ หนึ่งพับแค่หนึ่งหยวน แต่!...มันกลับแพงยิ่งกว่าในยุคของเธอเสียอีก อาจเพราะค่าเงินมันไม่เท่ากันกระมัง“จะดีไม่ดียังไงก็ต้องขายไม่ใช่เหรอ เอาไว้หมดหน้าฝน ฉันจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรพวกนี้ให้เธอเอง ถึงตอนนั้นเธอก็จะได้เงินเท่าเดิมแล้ว”ไป๋จ้าวเหม่ยพยักหน้าแกน ๆ ยังไงก็ต้องทำตามที่อู๋เหวยบอกนั่นแหละ เพราะนี่ก็สองวันแล้ว หากไม่รีบขายสมุนไพรของเธอก็คงจะเหี่ยวหมดราคาแน่ ๆ เห็ดหลินจือเธอสามารถเก็บเอาไว้ขายทีหลังได้ แต่โสมคนกับโสมซานซีและสมุนไพรอื่น ๆ คงต้องขายออกไป รวมทั้งพุทราแห้งด้ว
ตอนที่ 24 ออกตามหากว่าจะปลอบให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ร่างอวบ ๆ ของเธอก็หนาวสั่น เธอรีบล้วงเข้าไปในตะกร้าสมุนไพร หยิบกลักไม้ขีดออกมา รวบเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้ง ๆ ที่ถูกลมปลิวพัดมากระจุกอยู่ในถ้ำ และจุดไฟให้ความอบอุ่น“ซวนซวนหนูใส่เสื้อทับด้วยหรือเปล่าจ๊ะ”“ใส่ค่ะ”“ดีเลย ตอนนี้หนูถอดเสื้อผ้าออกมาก่อน เหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในและเสื้อกล้ามก็พอ เอาออกมาอังไฟให้แห้งก่อน” อู๋ชิงซวนรีบถอดชุดออกมา รวมทั้งถุงเท้ารองเท้าทั้งหมด กางเกงในของเด็กน้อยเป็นทรงสามเหลี่ยม ที่แม่เลี้ยงตัดเย็บให้ และเสื้อกล้ามก็เป็นเสื้อที่ปิดถึงแค่เหนือสะดือ แต่เพราะที่นี่มีเพียงเธอสองคน เด็กหญิงจึงไม่อาย“รอน้าอยู่ตรงนี้แป๊บเดียว น้าจะไปเอากิ่งไม้ ถึงจะเปียกแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย” กำลังจะก้าวขาออกไป ทว่ามือเล็กก็ดึงเอาไว้ก่อน“น้าไปตรงนี้เอง หนูนั่งมองออกไปก็เห็น”“ไม่ใช่น้า” เด็กหญิงทำปากยู่ราวกับเป็ดตัวน้อยแสนงอนอย่างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยหลุดขำออกมา พลางยื่นมือไปบีบปากแหลม ๆ นั่น“เอาละ ๆ แม่ผิดไปแล้ว ต้องโทษที่แม่สมองไม่ดี ทำให้ลืมเสียได้ ซวนซวนน้อยไม่โกรธแม่นะคะลูก”“ไม่โกรธค่ะ แม่รีบไปรีบมานะคะ หนูนั่งผิงไฟตรงนี้ แต่แม่ถอดเส
ตอนที่ 23 ติดถ้ำเปรี้ยง! เสียงสายฟ้าร้องลั่นสั่นสะเทือน สายฝนกระหน่ำลงมาราวกับฟ้าถล่ม หญิงสาวโหนตัวอยู่ที่บนหน้าผา เธอกัดฟันปีนขึ้นไป แต่เพราะน้ำฝนที่สาดลงมาทำให้มือที่เกาะลื่น ร่างอวบร่วงพรืดลงไป มือเล็กรีบจิกเล็บลงที่ซอกหิน จนเล็บหักสิบนิ้วสื่อถึงหัวใจ ทว่าความเจ็บปวดไม่เท่ากับความหวาดกลัว คนตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายอีก และที่สำคัญซวนซวนอยู่คนเดียว! ไม่รู้เด็กคนนั้นจะกลัวแค่ไหน ป่านนี้ไม่ใช่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วเหรอ“ฉันก็ว่าแล้ว โชคดีมันจะมาง่าย ๆ ได้ยังไง ได้โสมได้เห็ด แต่เกือบตกเขา ไม่ได้ฉันจะตายไม่ได้ซวนซวนรออยู่” เธอจะบ่นออกมาไม่ได้ ใบหูแว่วได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อย ถึงจะรู้ว่าตอนนี้คงเป็นจิตใจเธอที่ปรุงแต่งไปเอง แต่กระนั้นพอได้คิดว่าเจ้าตัวเล็กนั่นกำลังร้องไห้ เธอก็ยิ่งจิกเล็บเข้าไปในซอกหิน กัดฟันปีนป่ายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ดีที่ครั้งนี้เธอเลือกลงเขาด้านที่มีหน้าผาบังลม หากลงที่เดิมเธอคงตกตายไปแล้วไป๋จ้าวเหม่ยรีบวิ่งไปแกะเชือกที่มัดกับต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็วิ่งไปหาอู๋ชิงซวนที่ถ้ำหิน ริมฝีปากก็ตะโกนร้องบอกว่า “ซวนซวนน้ามาแล้ว” ไปตลอดทางทางด้านอู๋ชิงซวนหลังจากที่ฝ
ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวยวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน สองหญิงสาวเดินออกมาส่งชายหนุ่มคนเดียวของบ้านเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ทว่าหลายวันมานี้อู๋เหวยมักจะอิดออดไม่ยอมรีบขี่รถออกไปเร็วเหมือนเดิม เช่นเดียวกับตอนนี้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ไป๋จ้าวเหม่ยเข้าโรงพยาบาลก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม่กับน้องของเธอไม่ได้มาขอเงินอีก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้ส่งเงินไปเช่นกัน แปลกเหลือเกิน มีแต่ความแปลกเต็มไปหมด“ซวนซวนพ่อไปทำงานแล้วนะ”“ค่ะ...พ่อขี่รถดี ๆ นะคะ อย่าหักโหมนะหนูกับน้าเป็นห่วง” อู๋ชิงซวนเอ่ยถ้อยคำห่วงใยให้กับพ่อตนเอง หากเป็นเมื่อก่อนเธอก็อยากตามไปด้วย ทว่าเดี๋ยวนี้ เธออยากอยู่เรียนหนังสือ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากน้าเหม่ยมากกว่า“ขอบคุณครับ ซวนซวนเป็นเด็กดีอย่าดื้ออย่าซน เชื่อฟังน้าเหม่ยของลูกให้มาก ๆ นะ” สายตาอู๋เหวยเหลือบไปมองคนที่ยืนหมุนคอกระดูกลั่นดังกร๊อบ ๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้น ไม่ใช่เพราะเธอออกกำลังกายแปลก ๆ นั่นหรือไงและใช่ไป๋จ้าวเหม่ยยังคงออกกำลังกายท่าแปลก ๆ ของเธอทุกวันเหมือนเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าคนอ้วนอย่างเธอจะล้มเลิกกลางคัน แต่สามเดือนที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ไป๋จ้าวเหม่ยเอาจริง ทั้งอ
ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรออู๋เหวยเอาข้าวของที่ไป๋จ้าวเหม่ยซื้อมาใส่ตะกร้าหน้ารถตัวเอง ที่ใส่ไม่หมดก็ห้อยเอาไว้ เขามองข้าวของที่เต็มรถ ก็พอจะรู้ว่าเธอหมดไปหลายหยวน ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวได้เงินมาจากการขายสมุนไพร เพราะหลายวันที่ผ่านมา เขาก็เห็นแล้วว่าเธอวุ่นวายอยู่กับสมุนไพรเหล่านั้น แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะขายได้ราคาดีเพียงใด“ซวนซวนหนูมาซ้อนท้ายพ่อดีไหมคะ น้าเหม่ยของลูกจะได้ไม่หนัก”“พ่อคะ!...หนูตัวไม่หนักเสียหน่อยจริงไหมคะน้าเหม่ย”“จริงจ้ะ ซวนซวนของพวกเราหุ่นดีขนาดนี้จะหนักได้ยังไง หนูมาซ้อนท้ายน้าเหมือนเดิมดีกว่า พ่อหนูถือของเต็มรถแล้ว” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นว่าอู๋เหวยรับหน้าที่ขนของแล้ว ดังนั้นเธอจึงรับหน้าที่บรรทุกคนไปเอง ทว่ายังไม่ทันที่เด็กหญิงจะได้ตอบ เสียงรีบร้อนของคนบางคนก็ตะโกนออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก“ซวนซวนหนูอยากมาซ้อนรถของพี่ชิงฮุยหรือเปล่าจ๊ะ ป้าพี่ส่งจดหมายมาจากเซี่ยงไฮ้ มีเรื่องสนุก ๆ เยอะเลย พี่เล่าให้ฟังดีไหมจ๊ะ” หลิวชิงฮุยเห็นทั้งสามกำลังจะไปอยู่แล้ว เธอก็รีบจูงรถจักรยานตามมา ในใจนึกโมโหตั้งแต่ที่กินอาหารข้างในแล้ว มีเพียงแค่เธอที่ชวนคุย พี่เห
ตอนที่ 20 เงินก้อนแรกไป๋จ้าวเหม่ยพาอู๋ชิงซวนแวะซื้อของที่ต้องการตามร้านต่าง ๆ ธัญพืชและข้าวสารที่อู๋เหวยซื้อไปคราวก่อนยังเหลือเยอะไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม จริง ๆ เนื้อหมูเธอไปซื้อกับย่าสามเป็นประจำ แต่วันนี้ออกมาข้างนอกแล้ว เธอก็คิดว่าต้องซื้อเนื้อสามชั้นไปคืนไอ้ขี้เก๊กนั่นเสียหน่อย ต่อไปนี้จะได้มาบ่นไม่ได้แล้ว ว่าเธอแอบกินหมู!“น้าเหม่ยยังจะซื้ออะไรอีกคะ นี่มันก็เยอะมากแล้วเสียดายเงินออกค่ะ”“ไม่เป็นไรพวกเราไม่ได้ซื้อบ่อย ๆ และไม่ต้องเสียดาย เงินนี้น้าหามาได้ ไม่ใช่เงินพ่อหนูจ้ะ”“หนูรู้ค่ะว่าน้าขายสมุนไพรได้ แต่หนูก็เสียดายอยู่ดี” อู๋ชิงซวนปวดใจเป็นอย่างมาก เธอต้องเตือนน้าเหม่ยสักหน่อย ว่าไม่ควรใช้เงินมากเกินไป มีเงินควรต้องเก็บสิ“ซวนซวนเราไปร้านขนมกัน ดูสิมีขนมแบบใหม่ ๆ มาลงด้วย พวกเราไปซื้อกัน เดี๋ยววันนี้น้าจะซื้อลูกอมห่อใหญ่กลับไปด้วย เอาไว้ไปเป็นรางวัลให้กับนักเรียนสามคนแรกของน้าดีไหม”ความจริงแล้วเธอไม่อยากเป็นแม่ค้าขายสมุนไพรหรอก เธออยากเป็นครู แต่เพราะในยุคนี้ไป๋อ้วนไม่มีวุฒิการศึกษา ดังนั้นเธอจึงสมัครเป็นครูไม่ได้ และก็ไม่อาจเปิดโรงเรียนสอนหนังสือได้เช่นกัน หากทะลุไปยุคโบรา
ตอนที่ 19 อร่อยจนแสงออกปากหลังจากปิดร้านซ่อมรถ ไป๋จ้าวเหม่ยก็ไล่สองพ่อลูกไปอาบน้ำเหมือนเช่นเคย ส่วนตนเองก็มาจัดการสตูกระต่ายที่เคี่ยวเอาไว้ตั้งแต่บ่าย กระต่ายตัวนี้อาจจะแก่ไปสักหน่อย แต่ก็พอเอามาประทังชีวิตได้ ในยุคที่ยังไม่เจริญอย่างนี้จะเลือกกินก็ไม่ได้หรอก อดตายแน่ ๆ ในขณะที่ไป๋จ้าวเหม่ยกำลังเตรียมอาหาร อู๋เหวยก็แอบถามความกับลูกสาวที่บ่ออาบน้ำด้านหลังบ้าน“ซวนซวนน้าอวบของลูก ยังตีลูกอีกหรือเปล่า เธอแย่งอาหารลูกเหรอ” อู๋เหวยพยายามมองหาร่องรอยจากร่างกายของลูกในตอนที่อาบน้ำให้ลูก แต่ก็ไม่เห็น“ไม่ค่ะพ่อ น้าเหม่ยดีมาก แล้วพ่อก็ห้ามเรียกว่าน้าอวบแล้ว เพราะทวดสามบอกว่า เราไม่ควรเรียกเธอว่าอ้วนหรืออวบมันไม่ดี”“อ่าใช่แล้ว พ่อผิดไปแล้ว ต่อไปนี้จะไม่เรียกน้าเหม่ยของลูกว่าอ้วนหรืออวบอีกดีไหมคะ”“ดีค่ะ พ่อคะ น้าเหม่ยเก็บสมุนไพรมาเยอะแยะเลย เธอบอกว่าเอาไว้ขายแล้วจะซื้อผ้ามาตัดชุดให้กับหนู เธอสอนหนังสือหนูด้วยนะคะ พรุ่งนี้พี่เสี่ยวจุนกับพี่เจินเจินก็จะมาเรียนที่บ้านเราด้วย ถ้าน้าเหม่ยดีกับหนูแบบนี้ตลอดไปก็คงดี”“อ่านั่นน่ะสิ พ่อว่าเธอจะต้องดีกับเราตลอดไปนั่นแหละ ซวนซวนน่ารักขนาดนี้ เธอจะไม่ร
ตอนที่ 18 เหตุผลที่อ้วนอู๋เหวยกลับมาถึงบ้านในเวลาเดิม ทว่าเมื่อเขาจอดรถที่ในบ้าน กลับไม่เห็นเงาร่างเล็ก ๆ ของลูกสาววิ่งเข้ามากอด หลายวันแล้วที่ซวนซวนไม่ได้กอดเขา รอต้อนรับเขากลับบ้าน หรือว่าเขาควรจะชินได้แล้ว แต่ก็ไม่ชินเสียที“ซวนซวนพ่อกลับมาแล้ว” ครั้นเมื่อเดินเข้าไปถึง เขาก็ได้ยินเสียงท่องหนังสือของลูกสาว และเสียงละมุนที่คอยบอกเวลาที่ซวนซวนท่องผิด คำพูดของไป๋จ้าวเหม่ยไม่มีคำไหนที่จะด่า หรือตำหนิ มีแต่ค่อย ๆ บอกค่อย ๆ สอน“ไป๋จ้าวเหม่ยรู้หนังสือตั้งแต่เมื่อไรกัน” ชายหนุ่มหยุดฟังอยู่พักใหญ่ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากทางหน้าบ้าน เป็นหลิวชิงฮุยอีกแล้ว และคราวนี้หญิงสาวสองคนที่อยู่หลังบ้านก็ได้ยินเช่นกัน“พ่อหนูมาแล้ว เอาไว้ท่องต่อกลางคืนก็ได้ ไปหาพ่อหนูเถอะ น้าล้างสมุนไพรอีกแป๊บเดียวเดี๋ยวจะตามออกไป”“ได้ค่ะ” อู๋ชิงซวนวิ่งออกไปข้างนอก อู๋เหวยได้ยินเสียงฝีเท้า ก็ย่อตัวอ้าแขนออกร่างเล็กกระโจนเข้ามากอด พร้อมกับที่คนเป็นพ่ออุ้มขึ้นมา เหวี่ยงหมุนตัวไปมา เขากดจมูกลงจูบที่หน้าผากเล็ก สูดลมหายใจเข้า กลิ่นของลูก อ้อมกอดของลูก เป็นการเพิ่มพลังชีวิตให้เขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ไม่ว่าจะท้อ