Share

ตอนที่ 3 หรือว่าเธอไม่ปากร้าย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-05 21:22:33

ตอนที่ 3 หรือว่าเธอไม่ปากร้าย

หลังจากที่อู๋เหวยออกไปแล้ว ไป๋จ้าวเหม่ยก็นอนก่ายหน้าผากมองเพดานสีขาวออกเหลือง บ่งบอกถึงความเก่าแก่ของโรงพยาบาลแห่งนี้ เธอถอนหายใจออกครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้ป่านนี้ร่างกายของเธอจะถูกเผาหรือถูกฝัง ในยุคที่เธอจากมา ประเทศจีนเริ่มรณรงค์ให้มีการเผาศพกันมากขึ้น อาจเพราะพื้นที่มีจำนวนจำกัด แต่ผู้คนก็ยังไม่ยอมรับกันเท่าไรนัก และเธอเองก็ไม่อยากถูกเผาเช่นกัน

“เฮ้อ...เอาเถอะจะเผาหรือฝัง ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับฉันอีกแล้ว ฮื้อ...แต่ฉันอยากกลับบ้าน”

“อยากกลับบ้านก็ต้องทน ใครใช้ให้น้าอ้วนวิ่งเข้าชนรถพ่อล่ะ รู้ไหมว่าพ่อต้องเสียเงินให้ลุงเยี่ยซานเจ้าของรถ เพื่อซ่อมรอยบุบที่ชนเธอน่ะ แล้วจะบอกอะไรให้ เงินเดือนนี้ของพ่อคงถูกหักหมด เธออย่ามาร้องขอเงินเชียวล่ะ เพราะที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเธอน้าอ้วน!” เด็กหญิงตัวน้อยนั่งกอดอก เชิดปลายคางขึ้นสูง ปรายตามองลงมาผ่านปลายจมูก ใบหน้าแสดงความรังเกียจแกมปวดใจออกมา

ไม่รู้ว่าไป๋จ้าวเหม่ยจะตกใจกับเรื่องไหนก่อนดี ระหว่างคำว่าอ้วน หรือระหว่างคำว่า ที่รถบุบเพราะชนเธอ ให้ตายไม่ว่าจะอะไรก็ไม่ดีทั้งนั้น ให้ตายเถอะเธอทะลุมิติมาอยู่ในยุคบ้าอะไรกัน

“นั่นเธอจะไปไหน” ไป๋จ้าวเหม่ยขยับลงจากเตียง อู่ชิงซวนเห็นดังนั้น ก็รีบกระโดดลงจากเตียงบ้าง เธอตั้งท่าจะวิ่งออกนอกห้อง ทว่าคนเจ็บไหนเลยจะสนใจ คำว่าชนจนรถบุบยังสะเทือนใจ จนไม่อาจรับอะไรไหวอีกต่อไปแล้ว

“ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ อย่าสนใจคนที่ทำรถบุบแบบฉันเลย นั่ง ๆ นอน ๆ รอพ่อเธอต่อไปเถอะ”  อู๋ชิงซวนเห็นไป๋จ้าวเหม่ยลากเสาน้ำเกลือ เดินโซเซเหมือนจะล้ม อู๋ชิงซวนรีบวิ่งเข้าไปใช้มือดันต้นขาของคนป่วยเอาไว้ เมื่อเห็นว่ายืนได้อย่างมั่นคงแล้ว ก็ได้ยินเสียงถอนหายใจเล็ก ๆ ออกมา

“ฟู่!”

ไป๋จ้าวเหม่ยยกคิ้วขึ้นก้มหน้าลงมองเด็กน้อย ที่ใช้แขนทั้งสองข้างดันเธอเอาไว้จนแขนสั่น ดูท่าจะใช้แรงทั้งหมดที่มีแล้วกระมัง เธอก้มหน้าลงไปสบตาเข้ากับดวงตาเรียวเล็กของเด็กน้อย เกิดความกระอักกระอ่วนขึ้นมาครู่หนึ่ง แล้วก็เป็นอู๋ชิงซวนที่สะบัดหน้าวิ่งหนีไปกระโดดนอนลงที่โซฟา ยกผ้าขึ้นคลุมปิดหัวตนเองจนมิดชิด

“หึหึ...เด็กน้อยเอ๊ย” ถือว่าเด็กคนนี้ยังไม่เกินเยียวยา ยังคงสอนได้อยู่ เพราะหากชั่วโดยสันดานแล้ว อู๋ชิงซวนก็คงจะไม่ลุกขึ้นมาช่วย แต่จะปล่อยให้ไป๋จ้าวเหม่ยล้มกระแทกพื้นไปเลย โดยที่ไม่สนใจไยดี ทว่าเด็กน้อยไม่ได้ทำเช่นนั้น

ไป๋จ้าวเหม่ยดีใจเป็นอย่างมาก ความจริงเธอรักเด็ก ยิ่งเด็กหน้าตาน่ารักเหมือนซวนซวนแล้ว มันทำให้เกิดความเอ็นดูได้ไม่ยาก เธอเริ่มวางแผนในใจว่าจะอบรมนิสัยเด็กแสบคนนี้ยังไง และที่พฤติกรรมเด็กคนนี้ต่อต้านแม่เลี้ยงอย่างเธอนั้น ก็ไม่ได้แปลกอะไรนัก เพราะเท่าที่เห็นอู๋เหวยปกป้องซวนซวนจากเธอ เหมือนดังจงอางหวงไข่

นั่นก็เพราะร่างเดิมคงเคยทำร้ายร่างกายและจิตใจของเด็กคนนี้อย่างแน่นอน ความจริงเธอแอบเห็นที่ใต้แขนเสื้อ ต้นแขนเล็กมีรอยเขียวช้ำอยู่หลายจุด คงจะถูกหยิก เดาได้ไม่ยากเลยว่าเป็นใครกัน แน่นอนว่าต้องเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายอย่างร่างเดิม

ไป๋จ้าวเหม่ยและอู๋ชิงซวนอยู่ด้วยกันตลอดทั้งบ่าย ด้วยความที่เธอเป็นครูประถม ดังนั้นจึงหลอกถามเรื่องราวต่าง ๆ มาจากปากเด็กน้อยได้ไม่ยาก แม่แท้ ๆ ของอู๋ชิงซวนมีนามว่า จางชิงเหยาและเป็นไข้ทรพิษตายไปตั้งแต่ที่เด็กหญิงอายุได้หนึ่งขวบ ดีที่ไม่ติดซวนซวนด้วยอีกคน ดังนั้นเธอจึงจดจำคนเป็นแม่ไม่ได้เลย และเมื่อครบเจ็ดวัน ที่บ้านสกุลอู๋ก็ทำพิธีส่งดวงวิญญาณของผู้ตายให้ไปสู่ปรโลก

 วันนั้นไป๋จ้าวเหม่ยฉวยโอกาสที่อู๋เหวยเสียใจ วางยาปลุกเซ็กซ์ให้เขาดื่ม หลังจากนั้นเธอก็ได้แต่งมาแทนที่ภรรยาเก่าของเขา เพราะหากอู๋เหวยไม่ยินยอม ร่างเดิมก็จะเอาเรื่องไปแจ้งทางการ ดังนั้นฝ่ายชายจึงไม่มีทางเลือก ติดคุกไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เรื่องใหญ่คือใครจะดูลูกสาว อีกใจก็คิดว่าอย่างไรก็ต้องหาคนมาดูแลอู๋ชิงซวนอยู่ดี อีกอย่างไป๋จ้าวเหม่ยก็เป็นลูกสาวเพื่อนสนิทแม่ของเขา จึงได้ยอมแต่งหญิงสาวเข้ามา ทว่าใครจะคิดว่า ผู้หญิงที่แต่งเข้ามาใหม่ สารเลวยิ่งกว่าเดรัจฉาน!

“เธอมันเป็นนังอ้วนสารเลว ปากร้ายใจดำ พ่อฉันไม่มีวันรักเธอ เพราะเธอชั่วช้ายิ่งกว่าใคร ๆ ทุกคนเกลียดเธอ ฉันเองก็เกลียดเธอ ทำไมเธอไม่ตายไปเลยล่ะ” อู๋ชิงซวนเล่าจบก็ยกนิ้วขึ้นชี้หน้าคนบนเตียง น้ำเสียงเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความแค้นเคือง แต่เดี๋ยวก่อน...เรื่องในอดีตที่ร่างเดิมวางยาพ่อของเด็ก อู๋ชิงซวนรู้ได้อย่างไรกัน ใครเป็นคนบอก

“ทำไมฉันต้องตายด้วยล่ะ”

“เพราะทุกคนเกลียดเธอ และทุกคนก็อยากให้เธอตาย” ไป๋จ้าวเหม่ยกอดอกยกยิ้ม เอียงคอมองเด็กหญิงที่นั่งฝั่งตรงข้าม

“อย่างนั้นฉันยิ่งจะไม่ยอมตาย และจำเอาไว้นะ ฉันไม่จำเป็นต้องตาย เพียงเพราะเธอเกลียดฉัน เด็กน้อยฉันจะบอกอะไรเธอสักอย่าง เธอด่าฉันว่าสารเลว ปากร้าย เธอลองดูตัวเองสิว่า คำพูดของเธอมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉัน ปากฉันร้าย แล้วปากเธอล่ะ ไม่ได้ร้ายอย่างนั้นสิ”

“นั่นเพราะเธอด่าฉันก่อน”

“เอ๋!...แต่วันนี้ฉันยังไม่ได้ด่าเธอสักคำเลยนะ ตลอดเวลาที่ฉันพูด ฉันก็ใช้คำพูดที่ดี ๆ กับเธอนี่ มีคำไหนที่ฉันด่าเธอบ้างหรือยัง” อู๋ชิงซวนเบิกตาขึ้นอย่างตกใจ เด็กหญิงกระโดดลงจากโซฟาและวิ่งหนีออกไปจากห้อง ไม่รู้ว่าเพราะอาย หรือเพราะเถียงไม่ได้กันแน่ เพราะหากเป็นยามปกติ เธอเถียงแม่เลี้ยงอย่างนี้ จะต้องถูกตบปากไปแล้ว

“นี่! ซวนซวนอย่าวิ่งมั่วซั่วสิ โอ๊ยยัยเด็กดื้อเอ๊ย คอยดูนะฉันจะดัดนิสัยเธอยังไง หึ...ขนาดหู่ต้าเด็กโค่งนิสัยร้ายกาจที่ชอบรีดไถเด็กรุ่นน้องในโรงเรียน ฉันก็จัดการมาแล้ว เรื่องของเธอเล็กน้อยกว่าหู่ต้าเยอะ” ไป๋จ้าวเหม่ยแสยะยิ้มออกมา ก่อนจะลากเสาน้ำเกลือเดินออกไปตามหาเด็กหญิง เพราะกลัวว่าเด็กน้อยจะถูกลักพาตัวไปจริง ๆ

“มานั่งทำไมตรงนี้ กลับเข้าห้องกันเถอะ”

“ไม่ต้องมายุ่ง ฉันรู้หรอกเธอตามฉันกลับไป พอฉันยอมเชื่อ เธอก็จะตีฉันอีก หึ! ถ้าอยู่ที่บ้านเธอก็จะขังฉันเอาไว้ในตู้ ฉันไม่ยอมกลับเข้าห้องกับเธอแน่ ฉันจะรอพ่อ” ไป๋จ้าวเหม่ยตกใจกับคำพูดของเด็กหญิงเป็นอย่างมาก

“ขังในตู้?”

“ใช่! ตู้เสื้อผ้าอันเก่าที่บ้านยังไงล่ะ หรือบางทีเธอก็จะขังฉันเอาไว้ในกล่องเครื่องมือของพ่อ แต่ถ้าจะขังอีก อย่าขังฉันในกล่องเลย อุ๊บ!...อันไอ้อออ้องอนอ่างเออออก”(ฉันไม่ขอร้องคนอย่างเธอหรอก)  อู๋ชิงซวนนึกถึงตอนที่ถูกขังในกล่องเครื่องมือแคบ ๆ ก็ตัวสั่นขึ้นมา ยิ่งเธอขอร้อง แม่เลี้ยงก็จะยิ่งชอบใจ และขังเธอนานยิ่งขึ้น ดังนั้นเธอขอร้องไม่ได้

“พูดอะไรของเธอ เอามือออกก่อนสิ ปิดปากพูดใครจะไปรู้เรื่อง” อู๋ชิงซวนไม่ยอมเอามือออก ทั้งยังส่ายหน้าไปมา หญิงสาวเห็นดังนั้นก็ไม่ได้ห้ามทั้งยังถอนหายใจออกมา เธอมองหาที่นั่ง และหย่อนสะโพกใหญ่ ๆ นั่งลงเยื้องๆ  เด็กหญิงแทน

ทว่าภาพที่อู๋เหวยกลับมาจากโรงอาหารก็คือ หนึ่งเด็กผอมแห้ง และหนึ่งหญิงอ้วน นั่งกันอยู่ที่หน้าตึกโรงพยาบาล สีหน้าลูกสาวตัวน้อยบูดบึ้งหันไปถลึงตาใส่เป็นพัก ๆ ส่วนสีหน้าของไป๋จ้าวเหม่ยก็แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น ทำไมยัยอ้วนถึงได้ดูผ่อนคลาย น่าเข้าหาแปลก ๆ

แต่แล้วเขาก็ต้องสะบัดหัวตนเองแรง ๆ เพราะตกใจกับความคิดของตนเอง ผู้หญิงสารเลวอย่างนั้นมีอะไรน่าเข้าหา เธอมันถนัดการเสแสร้ง ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะกำลังเสแสร้งอยู่ก็เป็นไปได้

“พ่อคะ!...พ่อกลับมาแล้ว” อู๋เหวยอ้าแขนออกรับร่างน้อย ๆ ของลูกสาวที่วิ่งเข้ามาหา เขาอุ้มเธอเข้ามาในอ้อมอก ก้มลงจูบที่แก้มซ้าย แก้มขวา วนไปทั่วใบหน้า ไป๋จ้าวเหม่ยยิ้มกว้างมองภาพนั้นเงียบ ๆ ทว่าคนถูกแอบมองก็รู้ตัวแล้ว เขาปรับสีหน้าเป็นเคร่งขรึมจ้องมองเธอกลับมา

“เธอทำอะไรซวนซวน นิสัยชั่วช้าอย่างเธอดีแต่รังแกเด็ก สารเลว!” แหม...พูดจาไม่เกรงใจใบหน้าเทียนเย่าเลยสักนิด ใบหน้าเทพมังกร[1] แต่ปากตัวเงินตัวทอง[2]เสียจริง

“ฉันทำอะไรพูดให้มันดี ๆ นะ ลูกนายสมองกลับไม่ยอมนั่งรอในห้อง อยากจะออกมานั่งตากแดดตากลม ฉันก็อุตส่าห์มานั่งเป็นเพื่อนยังไม่ดีอีก” อู๋เหวยก้มหน้าลงมองลูกสาวในอ้อมอก เขายกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม

“เธอไม่ได้ตีหนูค่ะ แต่หนูไม่อยากอยู่กับเธอ”

“แต่หนูก็ไม่ควรมานั่งตากแดดนะ อากาศมันร้อนถ้าซวนซวนของพ่อไม่สบาย พ่อคงปวดใจแย่ อีกอย่างต่อให้หนูไม่ชอบเธอ ก็ควรเป็นเธอที่ต้องออกมา ไม่ใช่หนูสักหน่อย” เด็กน้อยเอียงคอทำท่าคิด จากนั้นก็ยิ้มกว้างออกมา

“จริงด้วยค่ะ พ่อเก่งที่สุดเลย” ไป๋จ้าวเหม่ยหลับตา ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า ถึงว่าซวนซวนถึงได้มีความคิดป่วย ๆ ก็เพราะพ่อมันป่วย จึงได้สอนตรรกะป่วยๆ ให้ลูกอย่างไรล่ะ คนพ่อคงเกินเยียวยาแล้ว สอนไม่ได้แล้ว แต่เด็กน้อยยังไงก็ต้องสอน ไม่อย่างนั้น โตไปเป็นปัญหาของสังคมแน่ ๆ

************************

[1]龙 lóng (หลง) มังกร

[2]圆鼻巨蜥

yuán bí jù xī

เยวียน ปี๋ จวี้ ซี

ตัวเงินตัวทอง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย“อู๋ชิงห่าวเจ้าเด็กบ้า พี่บอกให้แต่งตัวยังไงล่ะ เดี๋ยวก็ไปเปิดมูลนิธิของแม่ช้าหรอก”“พี่ซวนซวนพูดมากจริง บ่นเป็นคนแก่ไปได้พี่อายุมากกว่าผมแค่แปดปีเองนะ”“ตั้งแปดปีต่างหากล่ะไอ้เด็กบ้า”“แง้ ๆ พี่ซวนซวนชุดสีชมพูของหนูอยู่ไหนคะ”“อยู่ในตู้ใบเล็กด้านซ้ายมือไงล่ะอีอี นี่เธอหาทุกตู้แล้วแน่นะ”“ห่าวห่าวพี่บอกให้แกไปอาบน้ำ”“พี่คะ หนูหาไม่เจอ” อู๋ชิงซวนยกมือขึ้นตบลงบนหน้าผากของตนเอง ให้ตายเถอะน้องเวรพวกนี้ช่างน่ารำคาญเสียเหลือเกินอู๋ชิงห่าวน้องชายคนแรกที่แม่คลอดเมื่อแปดปีที่แล้ว ก่อนที่น้องชายเธอจะมาเกิด แม่เธอก็เกือบจะตายไปแล้ว จะว่าไปเธอยังรู้สึกผิดอยู่ไม่หาย หากไม่ใช่เพราะเธอชวนแม่ทำนา แม่ก็คงไม่เป็นลม ถึงขั้นเกือบหยุดหายใจอู๋ชิงอีน้องสาวคนต่อมา เกิดห่างจากเธอสิบปี น้องสาวคนนี้หน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตา และก็ชอบแต่งตัวเป็นตุ๊กตาจริง ๆ ด้วย เมื่อก่อนเสื้อผ้าที่พวกเธอใส่จะเป็นแม่ที่ออกแบบให้ ทว่าทุกวันนี้กลายเป็นอู๋ชิงซวนที่ชอบออกแบบชุดให้น้อง ๆ ได้ใส่ ยิ่งน้องถูกชมมากเท่าไร ในฐานะพี่สาว และคนออกแบบ ก็จะดีใจเป็นอย่างมาก“พี่ซวนซวนครับ ดื่มน้ำก่อนครับ พวกเราลงไปข้างล่างกันเถอะ ลุงเ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 52 ในที่สุดน้องก็มาเสียที (จบ)

    ตอนที่ 52 ในที่สุดน้องก็มาเสียที (จบ)บ้านชานเมืองที่อำเภอเต๋อชิง ยังเต็มไปด้วยไร่นา ชาวบ้านต่างก็ก้มหน้าทำนาอยู่ในที่ของตนเอง เช่นเดียวกับอู๋เหวย ที่บัดนี้ถอดเสื้อใส่กางเกงขายาวทว่าพับขาขึ้นมากลางหน้าแข้ง ชายหนุ่มโน้มตัวหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดินปักต้นกล้าในมืออย่างชำนาญ โดยมีลูกสาวตัวเล็กกำต้นกล้าปักดินอยู่ในแถวข้าง ๆ“พ่อคะ ทำไมของหนูมันเอียงอย่างนี้ล่ะคะ” อู๋ชิงซวนยืดตัวขึ้นมองผลงานของตนเอง ใบหน้าที่เริ่มฉายแววแห่งความสวยเบ้ปากขึ้น จ้องมองต้นกล้าในแปลงนา เหมือนดังงูที่คดเคี้ยวเลี้ยวไม่เป็นเส้นตรงเหมือนของพ่อตนเอง และยิ่งมองไปเห็นปู่ของเธอ ดำนาได้สวยยิ่งกว่าพ่อของเธอ เด็กน้อยก็เกิดอาการฮึดฮัด“คอยดูนะหนูไม่ยอมแพ้หรอก แม่คะ เรามาแข่งกันค่ะ หนูจำได้วิชาที่แม่สอน มีวิชาเกี่ยวกับการทำเกษตรอยู่นี่นา ไม่ทราบว่าอาจารย์ จะสาธิตให้ดูได้หรือเปล่าคะ” นับวันยิ่งคารมคมคายเข้าไปทุกที ไป๋จ้าวเหม่ยส่ายหน้าขำ แต่กระนั้นก็ก้มลงไปพับขากางเกงตนเองขึ้นมา กระชับหมวกใบใหญ่ให้แน่นและเดินลงไปในท้องนา“ได้เลย เดี๋ยวจะได้รู้ว่าปรมาจารย์ชั้นครูเขาทำกันยังไง” ไป๋จ้าวเหม่ยคว้าต้นกล้าได้ก็เดินลุยน้ำมาหาลูกสาว เธอหันไ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 51 จัดการนังจิ้งจอก

    ตอนที่ 51 จัดการนังจิ้งจอกไป๋จ้าวเหม่ยรีบก้าวขาจนกลายเป็นวิ่งขึ้นไปชั้นสองของบ้าน ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มพลันบึ้งตึง เธอถลกแขนเสื้อขึ้น เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ ยิ่งเข้าใกล้หัวใจก็ยิ่งเต้นตึกตัก ๆ มากขึ้นตึ้ง! เสียงของหนักกระแทกกับพื้น จากนั้นก็เป็นเสียงร้องโอ๊ยตามมา ปลายเท้าที่ก้าวออกไปพลันชะงักลง เปลี่ยนเป็นเดินเร็วเข้าไปแทน ยิ่งเข้าใกล้ ก็ยิ่งได้ยินเสียงร้องดังมากขึ้น“พี่เหวย! เพราะอะไร ทำไมพี่ทำกับฉันแบบนี้ พี่ก็รู้ว่าฉันรักพี่มากแค่ไหน นังอ้วนนั่นสารเลวเพียงใด พี่ลืมไปแล้วเหรอ มันตบตีซวนซวน ทั้งยังวางยาพี่ ทำไมพี่ถึงได้ดีกับมันถึงเพียงนี้”“ต่อให้เธอจะตีซวนซวน นั่นก็เป็นสิทธิ์ที่เธอมี หลิวชิงฮุยเธอลืมไปแล้วหรือว่า เหม่ยเหม่ยเป็นเมียฉัน และเป็นแม่ของซวนซวน!”“พี่เหวย มันเอายาอะไรให้พี่กิน พี่ถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ แล้วฉันล่ะ ฉันทำเพื่อพี่มากมายขนาดไหน ควักหัวใจออกมาดูบ้าง ฉันสู้อีชั่วนั่นไม่ได้ตรงไหน!”“ต่อให้เธอจะทำอะไรให้ฉันมากแค่ไหน ฉันก็ไม่มีวันมองเธอ หลิวชิงฮุยฉันบอกแล้วว่า ฉันไม่รังเกียจที่จะต่อยปากเธอ หากเธอยังกล้าด่าเมียรักของฉันคอยดูว่า ฟันหน้าเธอยังจะมีอยู่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 50  ขึ้นบ้านใหม่

    ตอนที่ 50 ขึ้นบ้านใหม่ไป๋จ้าวเหม่ยหัวเราะอย่างไร้เสียง เธอยืนไว้อาลัยให้กับหลิวชิงฮุยหนึ่งรอบ ก่อนจะเดินกลับไปในบ้าน จากตอนแรกที่คิดว่าสามีซื่อ ๆ ของเธอคงจะปฏิเสธนางจิ้งจอกน้อยนั่นไม่เป็น แต่ที่ไหนได้ นอกจากปฏิเสธอย่างเด็ดขาดแล้ว อู๋เหวยยังขู่ต่อยปากเธออีกด้วย ให้ตายต่อยผู้หญิงนี่นะ แต่เอาจริงผู้หญิงอย่างนั้นก็สมควรถูกต่อย“แม่จะไปหาพ่อไม่ใช่เหรอคะ ทำไมกลับมาเร็วจัง” อู๋ชิงซวนเงยหน้าจากกล่องไม้เจาะรูกล่องใหญ่ ข้างในเต็มไปด้วยไก่ นอกจากไอ้ไก่ลี้จงกับลี้ถิงแล้ว มันยังขยายลูกเต้าสารพัดลี้อีกหนึ่งคอก แน่นอนว่าทุกตัวมีชื่อทั้งหมด ไป๋จ้าวเหม่ยไม่เข้าใจลูกสาวจริง ๆ เธอจะตั้งชื่อลูกไก่เพื่อ!“แม่คะไหนบอกจะไปหาพ่อไง ทำไมกลับมาเร็วจังคะ” ซวนซวนและเจินเจินต่างก็ช่วยกันเก็บของ อีกไม่กี่วันพวกเธอก็จะย้ายบ้านแล้ว อู๋ชิงซวนชอบบ้านหลังใหม่มาก ๆ เธอชอบตรงที่ห้องส่วนตัวของเธอเป็นสีชมพู และแม่บอกว่าจะวาดรูปบนผนังห้องให้กับเธอ แม่วาดรูปแปลกและสวยมาก เธอชอบที่สุด“ไม่ต้องไปแล้วละ เรื่องบางเรื่องก็สมควรเป็นพ่อของหนูที่ต้องจัดการให้ชัดเจน ฮ่า ๆ” จะต่อยปากแตกเหรอ ฮ่า ๆ เธอชอบจริง ๆเด็กน้อยสองคนเห็นแม่ตนเอ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 49 อยู่ผิดที่สิบปีก็ไม่รวย

    ตอนที่ 49 อยู่ผิดที่สิบปีก็ไม่รวยอยู่ผิดที่สิบปีก็ไม่รวย ทว่าเมื่อวันที่ไป๋จ้าวเหม่ยก้าวเข้ามาในชีวิตของอู๋เหวย เขาก็รู้สึกว่า ไม่ใช่อยู่ผิดที่ แต่อยู่ผิดคนมากกว่า เพราะตั้งแต่วันแรกที่ไป๋จ้าวเหม่ยข้ามมิติเข้ามาในโลกของเขา ชีวิตเขาและลูกสาวก็เริ่มที่จะเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับวันนี้ ครอบครัวสกุลอู๋ กำลังยืนมองบ้านหลังขนาดกลางที่ตั้งอยู่หลังตลาด ตัวบ้านสีขาว มีบริเวณด้านข้างกว้างขวาง“ซวนซวนหนูเข้าไปดูสิ ชอบหรือเปล่า” ซื้อบ้านก็ต้องตามใจผู้อยู่ หากลูกสาวเธอชอบ บ้านหลังนี้ก็ถือว่าผ่านแล้วอู๋เหวยเหลือบไปมองหน้าเยี่ยซานที่ยืนล้วงกระเป๋าทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ ก็ถลึงตาใส่ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าบ้านหลังนี้ เป็นบ้านที่เมื่อสามเดือนก่อนสหายเคยมาเสนอให้เขา ก็ที่บอกว่าเจ้าของต้องการขายเพื่อย้ายไปอยู่กับลูกที่ต่างประเทศ ผ่านมาสาม สี่เดือนแล้ว ยังขายไม่ได้อีกเหรอ น่ากลัวว่าเหล่าซานนี่แหละที่ซื้อเก็บเอาไว้“นายบอกฉันมาตามตรงเหล่าซาน นายซื้อเก็บไว้แล้วเอามาขายให้ฉันใช่ไหม”“ฉันเป็นนักธุรกิจนะ ก็ต้องซื้อไว้เก็งกำไรบ้าง นายไม่ต้องห่วง ราคาบ้านฉันเพิ่มขึ้นจากเดิมแน่”“เหล่าซาน นายทำเพื่อฉันมากเกินไปแล้ว ก่อนที่น

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 48 ประธานอู๋กับคุณครูไป๋

    ตอนที่ 48 ประธานอู๋กับคุณครูไป๋ไป๋จ้าวเหม่ยยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ ชุดเดรสสีขาวลายดอกเดซีสีแดงขับเน้นให้หญิงสาวดูขาวราวกับหยกชั้นดี ยิ่งชุดที่เธอใส่เป็นชุดที่เธอเพิ่งจะออกแบบเอง โดยนำแฟชั่นสมัยใหม่ มาผสมผสานกับแฟชั่นในยุคนี้ ก็ยิ่งทำให้เธอดูโดดเด่นยิ่งกว่าใคร“ผมชักจะไม่แน่ใจแล้วว่า ผมควรปล่อยคุณออกจากบ้าน หรือจะขังคุณเอาไว้ในกรงเหมือนเสี่ยวจง กับเสี่ยวถิงดี”“นี่อาเหวยคุณเอาฉันไปเปรียบกับไก่เลยเหรอ” หญิงสาวหมุนตัวมาถลึงตาใส่ ทว่ามีหรือที่คนหน้าบึ้งจะสนใจ เขาเบะปากพลางมองไปทางอื่น“อาเหวยฉันไม่สวยเหรอคะ ทำไมคุณไม่มองฉันเลยล่ะ นี่ฉันเสียความมั่นใจนะ อุตส่าห์ตัดเย็บชุดด้วยตัวเอง” น้ำเสียงที่แฝงแววเสียใจดังขึ้นมาเบา ๆ ไป๋จ้าวเหม่ยเดินไปทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะกระจก ยิ่งจ้องมองตนเองก็ยิ่งไม่มั่นใจ เพราะหากเป็นเหมือนทุกที ไม่ว่าเธอจะใส่เสื้อผ้าชุดไหน อู๋เหวยก็มักจะเอ่ยปากชมเธอทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับไม่มีแม้แต่คำเดียว!“เหม่ยเหม่ยคุณสวยมาก สวยจนผมกลัว เหม่ยเหม่ยผมมีอะไรดีบ้าง ผมมีสิ่งใดคู่ควรกับคุณบ้าง วันนี้คุณเป็นคุณครูโรงเรียนดัง เป็นคนมีความรู้ มีหน้ามีตา เป็นคุณครูไป๋ที่ต่อไปก็จะเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status