Share

ตอนที่ 4 บ้านหรือรังขยะ

last update Last Updated: 2025-04-05 21:22:51

ตอนที่ 4 บ้านหรือรังขยะ

วันต่อมาไป๋จ้าวเหม่ยก็ได้ออกจากโรงพยาบาลเสียที แน่นอนว่าคนที่ออกจากโรงพยาบาลเป็นไป๋จ้าวเหม่ยคุณครูประถมโรงเรียนซีหู่จากยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ไป๋จ้าวเหม่ยแม่เลี้ยงใจร้าย ที่ตอนนี้ไม่รู้วิญญาณไปอยู่ที่ไหนแล้ว

“นี่ไงรถที่น้าอ้วนวิ่งชน ยังเป็นรอยบุบอยู่เลย เขายังไม่ได้ซ่อมหรือคะพ่อ”

“ลุงเยี่ยซานของลูกบอกว่าบุบแค่นิดเดียวไม่ต้องซ่อม รอเข้าตรวจสภาพประจำปีค่อยทำน่ะ”  ไป๋จ้าวเหม่ยเดินไปที่หน้ารถทรงสี่เหลี่ยม และก็เป็นจริงดังคาด ที่หน้ากระโปรงรถมีรอยยุบหนึ่งรอยอยู่จริง ๆ ไม่รู้ชนตรงไหนของเธอ แขนขาไม่หักแต่รถยุบ พระเจ้า!

ร่างอวบอ้วนเดินคอตกกลับขึ้นไปนั่งบนรถ เธอเลือกนั่งที่ด้านหลัง ไม่ได้สนใจสีหน้าของสองพ่อลูกที่มองกันอย่างตกใจ และคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่คลั่งรักอู๋เหวยจะไม่ยอมไปนั่งหน้า แสดงตัวตนอวดชาวบ้านเมื่อมีโอกาส กลับปล่อยให้เป็นที่นั่งของอู๋ชิงซวนไปได้ แต่ใครสนสีหน้าหมางงของสองพ่อลูกกันเล่า รอยยุบนั้นทำเอาหัวใจหญิงสาวสะเทือนไปทั้งใจแล้วจริง ๆ

อู๋เหวยไม่ได้สนใจสีหน้าหมดอาลัยตายอยากของไป๋จ้าวเหม่ยอีก เขาเดินมาเปิดประตูข้างคนขับ อุ้มลูกสาวขึ้นไป ยกมือขยี้ผมเธอเบา ๆ และปิดประตู วิ่งกลับไปที่นั่งตนเอง

“ทำไมนายถึงได้เอารถเจ้านายมาขับได้ล่ะ เขาใจดีกับนายมากเลยนะ” ไป๋จ้าวเหม่ยคิดว่า เจ้านายของอู๋เหวยใจดีให้ยืมรถมาขับ ยังไงรอยยุบเท่ากำปั้นนั้น เธอต้องหาเงินซ่อมให้เขาดีกว่า

“ฉันต้องซื้อผักกลับเข้าไปด้วย เหล่าซานเห็นว่าเธอออกจากโรงพยาบาลวันนี้ ก็เลยให้ยืมรถไปส่งเธอที่บ้านด้วย บอกไว้ก่อน เธออย่าได้คิดวิ่งเข้าชนรถเหล่าซานอีกแล้วนะ ครั้งนี้ถ้าเธอไม่ตาย ก็ต้องซ่อมรถให้เขา” อะไรคือการที่รถชนแล้วไม่ตาย แต่ต้องซ่อมรถให้เจ้าของรถอีกด้วย เห็นตัวเธอทำมาจากเหล็กหรือยังไง เธอแค่อ้วนโว้ย

ไป๋จ้าวเหม่ยไม่ได้พูดอะไรอีก หญิงสาวสะบัดหน้าที่ไม่ค่อยจะมีคางของตนเองหนีไปอีกทาง อู๋เหวยมองผ่านจากทางกระจกหลัง เห็นท่าทางกระฟัดกระเฟียดก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่สนใจอีก เข้าทางคุณครูสาววิญญาณดวงใหม่ เธอจึงได้มีเวลามองสำรวจสองข้างทาง ยิ่งออกห่างจากตัวอำเภอมากเท่าไร ที่นี่ก็เต็มไปด้วยสวนผัก นาข้าว ขับมาไม่นานก็จอดที่บ้านหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่ง

“เอาละซวนซวนเด็กดี หนูรอพ่ออยู่ที่บ้านนะครับ วันนี้ที่โรงอาหารมีปลาเปรี้ยวหวาน ลุงเยี่ยซานของลูก แบ่งปลาให้ตั้งหนึ่งตัวแน่ะ มีต้มไก่อีกด้วย เดี๋ยวตอนเย็นพ่อจะเอากลับมาให้นะ”

“ค่ะ...พ่อตั้งใจทำงานนะคะ หนูจะรอที่บ้าน” อู๋ชิงซวนยืนโบกมือ จนกระทั่งรถยนต์ขับออกไปไกล จึงหมุนตัวเดินกลับเข้ามาในบ้าน เด็กน้อยใช้ลูกกุญแจไขประตูรั้วเข้าไป

ครั้นเมื่อร่างอวบอ้วนก้าวขาผ่านรั้วบ้านเข้ามา หัวเข่าก็แทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น บ้านเล็ก ๆ มีหลังคาต่อออกมาหน้าบ้าน หลบแดดลมฝนได้ ทว่าคราบน้ำมันสีดำ กลิ่นโซ่สนิม กองจักรยานคันเก่าที่รอซ่อมแซมจอดเอาไว้ด้านข้าง มองเลยเข้าไปเป็นบ้านเก่าที่ยังคงเป็นอิฐดินสีเทา!

โครงสร้างยังเป็นแบบโบราณมาก ๆ ให้ตายเถอะ ในยุค 80 ที่เธอเรียนรู้มา มันก็เริ่มพัฒนาแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วไอ้หมู่บ้านเฮงซวยนี่ มันอยู่ส่วนไหนของประเทศจีนกันแน่ ทำไมมันดูชนบทขนาดนี้

“ซวนซวนไหนน้าขอทดสอบความรู้รอบตัวหนูดูหน่อยสิว่าหนูจะมีความรู้มากแค่ไหน”

“ทดสอบอะไร” อู๋ชิงซวนขมวดคิ้วมองอย่างไม่ไว้ใจ

“ง่าย ๆ ที่ที่เราอยู่มีชื่อว่ามณฑลอะไร เมืองอะไร หมู่บ้านชื่อว่าอะไร ถ้าหนูเป็นเด็กฉลาดก็ต้องรู้”

“ไม่เห็นจะยากเลย ต้าหนิ่วก็ยังรู้ พวกเราอยู่ที่มณฑลฉ่านซี เมืองฮั่นจง หมู่บ้านลั่วฉาง” เมืองฮั่นจงให้ตาย มันอยู่ซอกหลืบไหนของแผนที่กันล่ะ ทว่ามณฑลฉ่านซีเป็นมณฑลใหญ่ ไอ้เมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีประวัติเก่าแก่ ก็มักจะถูกดูดกลืนเข้ากับวัฒนธรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย วัฒนธรรมเก่า ๆ จึงเลือนหายไปตามกาลเวลา

เช่นเดียวกับเมืองฮั่นจงยิ่งไร้ความสำคัญ ในยุคปัจจุบันก็ถูกกล่าวถึงผ่าน ๆ สองถึงสามประโยคเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงหมู่บ้านลั่วฉางที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยในชีวิต ให้ตายเถอะเธอกลายเป็นคนตาบอดแล้วจริง ๆ

“ให้ตายหมู่บ้านลั่วฉาง มันห่างจากปักกิ่งแค่ไหนกันล่ะเนี่ย”  ไป๋จ้าวเหม่ยยกมือขึ้นขยี้เส้นผมจนยุ่งเหยิง ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีและลูกติดไม่พอ ยังมาอยู่ซอกหลืบชนบทที่ไร้ตัวตนในสายตาคนทั้งโลกอีกด้วย

“เธอไม่รู้เหรอ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พ่อบอกว่ามันไกลมาก ๆ เลยละ ที่ปักกิ่งมีดาราด้วยนะ ที่นั่นผู้คนใส่ชุดสวย ๆ ทาปากแดง ๆ กลิ่นตัวก็หอมราวกับดอกไม้ พี่ม่ายม่ายได้แต่งงานกับคนที่ปักกิ่ง เพิ่งกลับมาเมื่อเดือนก่อน มีแต่คนอิจฉา เธอเองก็อิจฉาเหมือนกันนี่ ฉันยังได้ยินเลย เธอด่าพี่ม่ายม่ายว่าโสเภณี รอให้แก่ตัวก่อน จะขายเนื้อให้ใครได้”  

อู๋ชิงซวนยิ่งเล่าเรื่องเมืองหลวงปักกิ่งดวงตาก็ยิ่งเป็นประกาย เธอยิ้มออกมา และนึกถึงพี่ม่ายม่ายที่เพิ่งกลับมาสร้างบ้านด้วยอิฐแดงให้กับป้าจินก็ยิ่งน่าอิจฉา ในขณะที่เด็กหญิงยิ้มแย้ม ในใจอยากไปปักกิ่งบ้างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยได้ฟังก็ยิ่งหน้าซีด สุดท้ายอดไม่ไหวจึงยกมือขึ้นห้ามไม่ให้เด็กน้อยพูดอีก

“ซวนซวน! ห้ามพูดจาแบบนี้อีกนะ เราจะด่าคนอื่นว่าโสเภณี ขายเนื้อขายอะไรก็ไม่ได้”

“ฉันไม่ได้ด่าเสียหน่อยเป็นเธอต่างหากที่ด่า ยัยอ้วน” อู๋ชิงซวนถูกดุอย่างไม่ยุติธรรมก็พลันกระทืบเท้าไม่พอใจ คำพูดนี้ไม่ใช่น้าอ้วนนี่หรือไงที่ด่าให้ฟัง ยังมีคำด่าอื่นอีกตั้งเยอะ แต่เธอจำไม่ได้แล้ว

“เอาละเป็นฉันที่เมื่อก่อนไม่ดีเอง แต่ต่อไปนี้ฉันจะไม่ด่าใครอีกแล้ว และที่สำคัญซวนซวนเธอควรเรียกฉันว่าน้าเหม่ย น้าไป๋ หรือแม่”

“ฉันไม่มีวันเรียกเธอว่าแม่!” เด็กน้อยเบ้ปากลง นั่นไงกำลังหลอกล่อให้เธอเรียกว่าแม่ ไม่มีทางเสียหรอก พี่สาวหลิวชิงฮุยบอกว่าคนที่เป็นแม่จะต้องงดงาม และใจดีเหมือนพี่สาวหลิวต่างหาก และยังบอกอีกว่า ระวังน้าไป๋จะแกล้งทำดีให้เธอเรียกแม่ แต่เธอไม่โง่เสียหน่อย

“ถ้าอย่างนั้นก็เรียกน้าไป๋ หรือน้าเหม่ยเลือกเอา อย่าให้ได้ยินว่าเธอเรียกฉันนังอ้วน หรือเรียกฉันว่าเธออีก” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นสีหน้าไม่ยินยอมของเด็กหญิงก็ยกมือขึ้นห้าม

“ฉันรู้ว่าฉันนิสัยไม่ดี แต่เธอก็ไม่ควรเอาอย่างที่ไม่ดีของฉัน หรือว่าเธออยากเป็นคนไม่ดีเหมือนฉันล่ะ อีกหน่อยถ้าเธอนิสัยเสีย พ่อเธอก็จะไม่รักเธอ เหมือนที่พ่อเธอไม่รักฉัน ต้องการแบบนั้นหรือเปล่าล่ะ”

“ไม่นะ ฉันจะไม่เลียนแบบทะ...เอ่อน้าไป๋” เด็กหญิงได้ยินคำว่า พ่อจะไม่รัก เธอก็หวาดกลัวขึ้นมา รีบส่ายหน้าปฏิเสธน้ำตาไหลนอง

“ดีมาก แต่คำว่าฉันก็ควรเปลี่ยนเป็นหนูจะดีกว่า”

ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นท่าทางหวาดกลัวของเด็กหญิงก็ดีใจมาก ในเมื่อรู้จักกลัว ก็ย่อมสอนได้ เธอเดินไปเช็ดน้ำตาให้กับเด็กน้อย และจูงมือเข้ามาในบ้าน ที่บ้านก็เป็นห้องโถงใหญ่ ๆ กั้นห้องนอนเอาไว้หนึ่งห้อง ด้านหลังเป็นครัวโบราณเก่า ๆ หนึ่งอัน ที่สำคัญไม่มีไฟฟ้า

มืออวบยกขึ้นตบหน้าผากตนเองดังเพียะ! ยุคนี้มันมีไฟฟ้าแล้วไม่ใช่เหรอ เครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีแล้วนี่นา ขนาดจักรยานยังมีแล้วเลย ทำไมบ้านเธอไม่มีไฟฟ้า ไม่มีหม้อหุงข้าว โอ๊ยรู้สึกเหมือนไปเข้าค่ายกับเด็ก ๆ ในโรงเรียนอย่างไรอย่างนั้น แต่เข้าค่ายก็แค่สองวัน ทว่าที่นี่เธอต้องอยู่ตลอดชีวิต

“ซวนซวนบ้านเรามีข้าวสารหรือไม่ ที่บ้านมีอะไรบ้างที่พอจะทำอาหารกินได้น่ะ”

“ไม่รู้สิเธอ” ไป๋จ้าวเหม่ยจ้องตาเด็กน้อยที่หลุดคำว่าเธอออกมา ครั้นซวนซวนเห็นดังนั้นก็สะดุ้งพลางก้าวขาถอยหลังมาสามก้าว

“หนูไม่รู้ค่ะ ของกินน้าไป๋จะเก็บเอาไว้ในหีบไม้ใบใหญ่ ในห้องนอนไม่ใช่หรือ ทำไมน้าไม่ลองไปดูล่ะ”

“หีบไม้ แฮ่ ๆ น้าลืมน่ะ เอาละซวนซวนไปเล่นหน้าบ้านเถอะ น้าจะลองดูว่ามีอะไรทำกินได้บ้าง” อู๋ชิงซวนพยักหน้าและวิ่งออกไปที่หน้าบ้าน

ไป๋จ้าวเหม่ยก็เดินเข้าไปในห้อง หีบใบใหญ่ตั้งเอาไว้ใต้เตียง จะว่าเตียงก็ไม่ใช่มันเป็นแคร่ไม้ไผ่ที่ทำเอาง่าย ๆ ต่างหาก เธอลากหีบออกมา ทว่าไม่รู้ร่างเดิมเอากุญแจไว้ที่ไหน เธอจึงใช้มีดฟันมันจนขาด แต่แล้วดวงตาเรียวก็ต้องเบิกขึ้น เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในหีบ

“จิ๊บ ๆ จิ๊บ ๆ” เวรแล้วไข่ไก่ฟักออกมาเป็นลูกเจี๊ยบเสียแล้ว เฮ้อ!

************************

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย“อู๋ชิงห่าวเจ้าเด็กบ้า พี่บอกให้แต่งตัวยังไงล่ะ เดี๋ยวก็ไปเปิดมูลนิธิของแม่ช้าหรอก”“พี่ซวนซวนพูดมากจริง บ่นเป็นคนแก่ไปได้พี่อายุมากกว่าผมแค่แปดปีเองนะ”“ตั้งแปดปีต่างหากล่ะไอ้เด็กบ้า”“แง้ ๆ พี่ซวนซวนชุดสีชมพูของหนูอยู่ไหนคะ”“อยู่ในตู้ใบเล็กด้านซ้ายมือไงล่ะอีอี นี่เธอหาทุกตู้แล้วแน่นะ”“ห่าวห่าวพี่บอกให้แกไปอาบน้ำ”“พี่คะ หนูหาไม่เจอ” อู๋ชิงซวนยกมือขึ้นตบลงบนหน้าผากของตนเอง ให้ตายเถอะน้องเวรพวกนี้ช่างน่ารำคาญเสียเหลือเกินอู๋ชิงห่าวน้องชายคนแรกที่แม่คลอดเมื่อแปดปีที่แล้ว ก่อนที่น้องชายเธอจะมาเกิด แม่เธอก็เกือบจะตายไปแล้ว จะว่าไปเธอยังรู้สึกผิดอยู่ไม่หาย หากไม่ใช่เพราะเธอชวนแม่ทำนา แม่ก็คงไม่เป็นลม ถึงขั้นเกือบหยุดหายใจอู๋ชิงอีน้องสาวคนต่อมา เกิดห่างจากเธอสิบปี น้องสาวคนนี้หน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตา และก็ชอบแต่งตัวเป็นตุ๊กตาจริง ๆ ด้วย เมื่อก่อนเสื้อผ้าที่พวกเธอใส่จะเป็นแม่ที่ออกแบบให้ ทว่าทุกวันนี้กลายเป็นอู๋ชิงซวนที่ชอบออกแบบชุดให้น้อง ๆ ได้ใส่ ยิ่งน้องถูกชมมากเท่าไร ในฐานะพี่สาว และคนออกแบบ ก็จะดีใจเป็นอย่างมาก“พี่ซวนซวนครับ ดื่มน้ำก่อนครับ พวกเราลงไปข้างล่างกันเถอะ ลุงเ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 52 ในที่สุดน้องก็มาเสียที (จบ)

    ตอนที่ 52 ในที่สุดน้องก็มาเสียที (จบ)บ้านชานเมืองที่อำเภอเต๋อชิง ยังเต็มไปด้วยไร่นา ชาวบ้านต่างก็ก้มหน้าทำนาอยู่ในที่ของตนเอง เช่นเดียวกับอู๋เหวย ที่บัดนี้ถอดเสื้อใส่กางเกงขายาวทว่าพับขาขึ้นมากลางหน้าแข้ง ชายหนุ่มโน้มตัวหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดินปักต้นกล้าในมืออย่างชำนาญ โดยมีลูกสาวตัวเล็กกำต้นกล้าปักดินอยู่ในแถวข้าง ๆ“พ่อคะ ทำไมของหนูมันเอียงอย่างนี้ล่ะคะ” อู๋ชิงซวนยืดตัวขึ้นมองผลงานของตนเอง ใบหน้าที่เริ่มฉายแววแห่งความสวยเบ้ปากขึ้น จ้องมองต้นกล้าในแปลงนา เหมือนดังงูที่คดเคี้ยวเลี้ยวไม่เป็นเส้นตรงเหมือนของพ่อตนเอง และยิ่งมองไปเห็นปู่ของเธอ ดำนาได้สวยยิ่งกว่าพ่อของเธอ เด็กน้อยก็เกิดอาการฮึดฮัด“คอยดูนะหนูไม่ยอมแพ้หรอก แม่คะ เรามาแข่งกันค่ะ หนูจำได้วิชาที่แม่สอน มีวิชาเกี่ยวกับการทำเกษตรอยู่นี่นา ไม่ทราบว่าอาจารย์ จะสาธิตให้ดูได้หรือเปล่าคะ” นับวันยิ่งคารมคมคายเข้าไปทุกที ไป๋จ้าวเหม่ยส่ายหน้าขำ แต่กระนั้นก็ก้มลงไปพับขากางเกงตนเองขึ้นมา กระชับหมวกใบใหญ่ให้แน่นและเดินลงไปในท้องนา“ได้เลย เดี๋ยวจะได้รู้ว่าปรมาจารย์ชั้นครูเขาทำกันยังไง” ไป๋จ้าวเหม่ยคว้าต้นกล้าได้ก็เดินลุยน้ำมาหาลูกสาว เธอหันไ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 51 จัดการนังจิ้งจอก

    ตอนที่ 51 จัดการนังจิ้งจอกไป๋จ้าวเหม่ยรีบก้าวขาจนกลายเป็นวิ่งขึ้นไปชั้นสองของบ้าน ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มพลันบึ้งตึง เธอถลกแขนเสื้อขึ้น เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ ยิ่งเข้าใกล้หัวใจก็ยิ่งเต้นตึกตัก ๆ มากขึ้นตึ้ง! เสียงของหนักกระแทกกับพื้น จากนั้นก็เป็นเสียงร้องโอ๊ยตามมา ปลายเท้าที่ก้าวออกไปพลันชะงักลง เปลี่ยนเป็นเดินเร็วเข้าไปแทน ยิ่งเข้าใกล้ ก็ยิ่งได้ยินเสียงร้องดังมากขึ้น“พี่เหวย! เพราะอะไร ทำไมพี่ทำกับฉันแบบนี้ พี่ก็รู้ว่าฉันรักพี่มากแค่ไหน นังอ้วนนั่นสารเลวเพียงใด พี่ลืมไปแล้วเหรอ มันตบตีซวนซวน ทั้งยังวางยาพี่ ทำไมพี่ถึงได้ดีกับมันถึงเพียงนี้”“ต่อให้เธอจะตีซวนซวน นั่นก็เป็นสิทธิ์ที่เธอมี หลิวชิงฮุยเธอลืมไปแล้วหรือว่า เหม่ยเหม่ยเป็นเมียฉัน และเป็นแม่ของซวนซวน!”“พี่เหวย มันเอายาอะไรให้พี่กิน พี่ถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ แล้วฉันล่ะ ฉันทำเพื่อพี่มากมายขนาดไหน ควักหัวใจออกมาดูบ้าง ฉันสู้อีชั่วนั่นไม่ได้ตรงไหน!”“ต่อให้เธอจะทำอะไรให้ฉันมากแค่ไหน ฉันก็ไม่มีวันมองเธอ หลิวชิงฮุยฉันบอกแล้วว่า ฉันไม่รังเกียจที่จะต่อยปากเธอ หากเธอยังกล้าด่าเมียรักของฉันคอยดูว่า ฟันหน้าเธอยังจะมีอยู่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 50  ขึ้นบ้านใหม่

    ตอนที่ 50 ขึ้นบ้านใหม่ไป๋จ้าวเหม่ยหัวเราะอย่างไร้เสียง เธอยืนไว้อาลัยให้กับหลิวชิงฮุยหนึ่งรอบ ก่อนจะเดินกลับไปในบ้าน จากตอนแรกที่คิดว่าสามีซื่อ ๆ ของเธอคงจะปฏิเสธนางจิ้งจอกน้อยนั่นไม่เป็น แต่ที่ไหนได้ นอกจากปฏิเสธอย่างเด็ดขาดแล้ว อู๋เหวยยังขู่ต่อยปากเธออีกด้วย ให้ตายต่อยผู้หญิงนี่นะ แต่เอาจริงผู้หญิงอย่างนั้นก็สมควรถูกต่อย“แม่จะไปหาพ่อไม่ใช่เหรอคะ ทำไมกลับมาเร็วจัง” อู๋ชิงซวนเงยหน้าจากกล่องไม้เจาะรูกล่องใหญ่ ข้างในเต็มไปด้วยไก่ นอกจากไอ้ไก่ลี้จงกับลี้ถิงแล้ว มันยังขยายลูกเต้าสารพัดลี้อีกหนึ่งคอก แน่นอนว่าทุกตัวมีชื่อทั้งหมด ไป๋จ้าวเหม่ยไม่เข้าใจลูกสาวจริง ๆ เธอจะตั้งชื่อลูกไก่เพื่อ!“แม่คะไหนบอกจะไปหาพ่อไง ทำไมกลับมาเร็วจังคะ” ซวนซวนและเจินเจินต่างก็ช่วยกันเก็บของ อีกไม่กี่วันพวกเธอก็จะย้ายบ้านแล้ว อู๋ชิงซวนชอบบ้านหลังใหม่มาก ๆ เธอชอบตรงที่ห้องส่วนตัวของเธอเป็นสีชมพู และแม่บอกว่าจะวาดรูปบนผนังห้องให้กับเธอ แม่วาดรูปแปลกและสวยมาก เธอชอบที่สุด“ไม่ต้องไปแล้วละ เรื่องบางเรื่องก็สมควรเป็นพ่อของหนูที่ต้องจัดการให้ชัดเจน ฮ่า ๆ” จะต่อยปากแตกเหรอ ฮ่า ๆ เธอชอบจริง ๆเด็กน้อยสองคนเห็นแม่ตนเอ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 49 อยู่ผิดที่สิบปีก็ไม่รวย

    ตอนที่ 49 อยู่ผิดที่สิบปีก็ไม่รวยอยู่ผิดที่สิบปีก็ไม่รวย ทว่าเมื่อวันที่ไป๋จ้าวเหม่ยก้าวเข้ามาในชีวิตของอู๋เหวย เขาก็รู้สึกว่า ไม่ใช่อยู่ผิดที่ แต่อยู่ผิดคนมากกว่า เพราะตั้งแต่วันแรกที่ไป๋จ้าวเหม่ยข้ามมิติเข้ามาในโลกของเขา ชีวิตเขาและลูกสาวก็เริ่มที่จะเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับวันนี้ ครอบครัวสกุลอู๋ กำลังยืนมองบ้านหลังขนาดกลางที่ตั้งอยู่หลังตลาด ตัวบ้านสีขาว มีบริเวณด้านข้างกว้างขวาง“ซวนซวนหนูเข้าไปดูสิ ชอบหรือเปล่า” ซื้อบ้านก็ต้องตามใจผู้อยู่ หากลูกสาวเธอชอบ บ้านหลังนี้ก็ถือว่าผ่านแล้วอู๋เหวยเหลือบไปมองหน้าเยี่ยซานที่ยืนล้วงกระเป๋าทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ ก็ถลึงตาใส่ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าบ้านหลังนี้ เป็นบ้านที่เมื่อสามเดือนก่อนสหายเคยมาเสนอให้เขา ก็ที่บอกว่าเจ้าของต้องการขายเพื่อย้ายไปอยู่กับลูกที่ต่างประเทศ ผ่านมาสาม สี่เดือนแล้ว ยังขายไม่ได้อีกเหรอ น่ากลัวว่าเหล่าซานนี่แหละที่ซื้อเก็บเอาไว้“นายบอกฉันมาตามตรงเหล่าซาน นายซื้อเก็บไว้แล้วเอามาขายให้ฉันใช่ไหม”“ฉันเป็นนักธุรกิจนะ ก็ต้องซื้อไว้เก็งกำไรบ้าง นายไม่ต้องห่วง ราคาบ้านฉันเพิ่มขึ้นจากเดิมแน่”“เหล่าซาน นายทำเพื่อฉันมากเกินไปแล้ว ก่อนที่น

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 48 ประธานอู๋กับคุณครูไป๋

    ตอนที่ 48 ประธานอู๋กับคุณครูไป๋ไป๋จ้าวเหม่ยยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ ชุดเดรสสีขาวลายดอกเดซีสีแดงขับเน้นให้หญิงสาวดูขาวราวกับหยกชั้นดี ยิ่งชุดที่เธอใส่เป็นชุดที่เธอเพิ่งจะออกแบบเอง โดยนำแฟชั่นสมัยใหม่ มาผสมผสานกับแฟชั่นในยุคนี้ ก็ยิ่งทำให้เธอดูโดดเด่นยิ่งกว่าใคร“ผมชักจะไม่แน่ใจแล้วว่า ผมควรปล่อยคุณออกจากบ้าน หรือจะขังคุณเอาไว้ในกรงเหมือนเสี่ยวจง กับเสี่ยวถิงดี”“นี่อาเหวยคุณเอาฉันไปเปรียบกับไก่เลยเหรอ” หญิงสาวหมุนตัวมาถลึงตาใส่ ทว่ามีหรือที่คนหน้าบึ้งจะสนใจ เขาเบะปากพลางมองไปทางอื่น“อาเหวยฉันไม่สวยเหรอคะ ทำไมคุณไม่มองฉันเลยล่ะ นี่ฉันเสียความมั่นใจนะ อุตส่าห์ตัดเย็บชุดด้วยตัวเอง” น้ำเสียงที่แฝงแววเสียใจดังขึ้นมาเบา ๆ ไป๋จ้าวเหม่ยเดินไปทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะกระจก ยิ่งจ้องมองตนเองก็ยิ่งไม่มั่นใจ เพราะหากเป็นเหมือนทุกที ไม่ว่าเธอจะใส่เสื้อผ้าชุดไหน อู๋เหวยก็มักจะเอ่ยปากชมเธอทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับไม่มีแม้แต่คำเดียว!“เหม่ยเหม่ยคุณสวยมาก สวยจนผมกลัว เหม่ยเหม่ยผมมีอะไรดีบ้าง ผมมีสิ่งใดคู่ควรกับคุณบ้าง วันนี้คุณเป็นคุณครูโรงเรียนดัง เป็นคนมีความรู้ มีหน้ามีตา เป็นคุณครูไป๋ที่ต่อไปก็จะเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status