ไป๋จ้าวเหม่ยเดินตามสองพ่อลูกกลับเข้ามาในบ้าน เธอเห็นเด็กน้อยนั่งร้องไห้อยู่มุมห้อง โดยมีคนเป็นพ่อกำลังกอดปลอบ ทว่าคำสอนของอู๋เหวยยิ่งฟัง หัวคิ้วของหญิงสาวก็ยิ่งขมวดแน่น
“พ่อรู้ว่าลูกไม่ชอบไป๋จ้าวเหม่ย และจริง ๆ แล้วผู้หญิงคนนั้นนิสัยไม่ดี แต่ลูกก็ไม่ควรจะไปต่อว่าเธอแบบนั้น เพราะนั่นจะทำให้ลูกเหมือนกับเธอ กลายเป็นคนไม่ดีเหมือนเธอ เฮ้อ...พ่อไม่อยากให้ซวนซวนนิสัยเลวร้ายเข้าใจหรือเปล่าครับ”
“แต่เธอพูดเหมือนไม่เคยแย่งของหนูกิน ทั้ง ๆ ที่เธอแย่งทุกอย่าง”
“นั่นเพราะเธอเป็นผีหิวโซ เป็นตัวตะกละยังไงล่ะ เราไม่ใช่คนแบบเดียวกันกับเธอ เราไม่ตะกละและไม่อยากได้ของของคนอื่น” จะสอนลูกดี ๆ ไม่ได้หรือไง ทำไมต้องดึงเธอเข้าไปด่าด้วย ถึงจะรู้ว่าพ่อลูกคู่นั้นด่าร่างเดิม แต่ขอละตอนนี้เธออยู่ในร่างนี้นะ!
ไป๋จ้าวเหม่ยเลิกสนใจพ่อลูกคู่นี้อีก เพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว เธอหยิบกล่องอาหารที่อู๋เหวยเอามา และจากที่หลิวชิงฮุยเอามา แค่นี้กับข้าวก็มีถึงห้าอย่างแล้ว ไม่ต้องทำเพิ่ม เหลือแค่เพียงหุงข้าวเท่านั้น หญิงสาวยกกล่องอาหารเข้าไปในครัว พอดีกับที่มีคนมาซ่อมรถที่หน้าบ้าน อู๋เหวยจึงแยกไปอีกทาง
แต่เมื่อเข้ามาในครัว ไป๋จ้าวเหม่ยก็ต้องเจออุปสรรคอันยิ่งใหญ่ ที่บ้านหลังนี้ไม่มีไฟฟ้า!...ให้ตายเถอะ หญิงสาวชูนิ้วขึ้นไปบนฟ้า อยากจะตะโกนฟักเทวดาดัง ๆ คนอื่นทะลุไปเป็นเมียเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ทะลุไปเป็นกุ้ยเฟย แต่เธอทะลุมาเป็นคนอ้วนไม่พอ เสือกจนอีกต่างหาก ชาติก่อนเธอไปอึไว้หน้าบ้านเทพจันทราหรือยังไงกัน ถึงได้ส่งเธอมาที่นี่
กว่าจะจัดการทุกอย่างเสร็จใบหน้าอวบ ๆ ก็เต็มไปด้วยเขม่าควันไฟ เธอเดินออกมาก็เห็นคนเอาจักรยานมารอซ่อมเต็มไปหมด หญิงสาวรีบเดินออกไปช่วยด้านนอก และเมื่อเดินออกมาก็เห็นซวนซวนกำลังช่วยพ่อของเธอหยิบจับอุปกรณ์อยู่ก่อนแล้ว เนื้อแท้ของเด็กคนนี้ดีมาก ขาดแค่การสั่งสอนและขัดเกลา
“พี่ชายเอารถมาทำอะไรหรือคะ ปะยางหรือเติมลมคะ” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นหางแถวอยู่เลยออกไปนอกรั้วบ้าน ก็รีบก้าวขาเข้าไปหา
“เติมลมน่ะสะใภ้อู๋ ภรรยาฉันเอาแต่ขี่ไม่ดูลมรถเลย นี่ถ้าฉันไม่เห็นก่อนคงรั่วไปแล้ว” พี่ชายหน้าหนวดบ่นภรรยาตนเอง เพราะหลายครั้งแล้วที่ภรรยาของเขาเอาแต่ขี่และไม่รู้จักดูแล ไป๋จ้าวเหม่ยตอบกลับติดตลกไปสองสามคำ เรียกเสียงหัวเราะให้กับกลุ่มลูกค้า และดูเป็นกันเองอย่างมาก
“มาค่ะเดี๋ยวฉันเติมให้เอง เดี๋ยวใครจะเติมลมแยกมาตรงนี้เลยนะคะ” ไป๋จ้าวเหม่ยตะโกนเสร็จ ก็เดินไปหยิบสูบลมจากชั้น ทว่ายามที่เดินกลับมานั้น ก็ถูกสายตาดุดันมองห้ามเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยว ๆ นี่เธอกำลังจะทำอะไรจ้าวเหม่ย อย่ามาสร้างปัญหาให้ฉันดีกว่า”
“หุบปากแล้วไปซ่อมรถของนายต่อเถอะ” ไม่ใช่ว่าไป๋จ้าวเหม่ยอยากเอาอกเอาใจผู้ชายคนนี้ แต่เธอเป็นพวกที่อยู่ว่างไม่ได้ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็เกิดที่บ้านเด็กกำพร้า อะไรบ้างที่บ้านเด็กกำพร้าไม่สอนพวกเธอ ซ่อมรถจักรยานนับเป็นอะไรได้ ง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย
อู๋เหวยส่งสายตาคาดโทษไปให้ แต่เมื่อเห็นไป๋จ้าวเหม่ยทั้งเติมลม ทั้งปะยางได้อย่างชำนาญ เขาก็วางใจ แต่ในความวางใจยังมีความสงสัยปะปนอยู่ด้วย ทั้งสามคนช่วยกันทำงานคนละไม้คนละมือจนกระทั่งเวลาล่วงผ่านไปถึงสองทุ่ม
ลูกค้าที่มาซ่อมรถจึงได้หมดลง คนที่พักอยู่ในกองพันที่สิบเอ็ดหมดไปตั้งแต่หกโมงครึ่งแล้ว เพราะค่ายทหารมีกฎห้ามเข้าออกหลังหนึ่งทุ่ม คนที่เหลือก็จะเป็นชาวบ้านในหมู่บ้าน ปิดร้านเสร็จทั้งสามก็แยกย้ายไปอาบน้ำ แล้วจึงมานั่งกินข้าวด้วยกัน
“ทำไมข้าวดิบ เธอไม่ได้ใส่น้ำลงไปหรือยังไง” อู๋เหวยกระแทกตะเกียบลงในชามข้าว หลังจากตักเข้าปากไปได้เพียงแค่คำเดียว ใบหน้าหล่อเหลาเสียอารมณ์เป็นอย่างมาก ทั้งเหนื่อยทั้งหิวดันมาเจอข้าวแข็งจนเกือบดิบอีก
“ก็แค่แข็งไปหน่อยไม่ถึงกับดิบ กิน ๆ ไปเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะหุงให้นิ่มกว่านี้ แต่อู๋เหวยถามหน่อยฉันเห็นบางบ้านก็มีไฟฟ้าแล้วนี่ ทำไมบ้านเราไม่มี”
“หึ! ไป๋จ้าวเหม่ยเธอยังมีหน้ามาถามอีกนะ ว่าทำไมถึงไม่มี” จะบอกว่าบ้านหลังนี้ไม่มีไฟฟ้าก็ไม่ได้ เพราะหญิงสาวเดินสำรวจทั้งหมดแล้ว เห็นว่ามีสายไฟต่อเข้ามาอยู่ หรือว่าจะถูกตัดไฟไปแล้ว
“หรือว่าฉันไม่ควรถาม” เธอย่นคิ้วขึ้น สีหน้าแสดงความสงสัย แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่แดงก่ำ มือที่กำตะเกียบจนหักเป็นสองท่อน เธอก็พลันใบหน้าซีดลง ไม่ใช่ว่าอีกเดี๋ยวอีตานั่นจะมาหักคอเธอหรอกนะ
“ก็น้าไม่ยอมจ่ายค่าไฟ เงินเดือนพ่อหลังจากที่คุณลุงเยี่ยให้คูปองสำหรับซื้อของในร้านของรัฐมาแล้ว น้าก็เอาไปหมด ถ้าอยากมีไฟฟ้าน้าก็ไปจ่ายค่าไฟเสียสิ”
“อ่า...สงสัยฉันลืมไปจ่ายน่ะ”
“หึ...ลืมมาหลายเดือน สมองเธอเสื่อมไปแล้วกระมัง” ไป๋จ้าวเหม่ยอยากจะร้องไห้ ทำไมเธอต้องมาถูกด่าแทนเจ้าของร่างเดิมด้วย ริมฝีปากอวบเบะคว่ำลง
อู๋เหวยเห็นดังนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก ทำไมผู้หญิงคนนี้ไม่ด่ากลับ ทำไมทำเหมือนจะร้องไห้ เขาพลันหุบปากลง และหันมาเปลี่ยนตะเกียบที่หัก และกินข้าวไปเงียบ ๆ เมื่อกินเสร็จ ก็เห็นไป๋จ้าวเหม่ยเก็บโต๊ะอาหารเองคนเดียว ช่างแปลกเกินไปแล้ว แต่ก่อนจะได้คิดดี ๆ เด็กน้อยก็อ้าปากหาวแล้ว เขาจึงสลัดความคิดทิ้งไป และอุ้มลูกสาวเข้าห้องนอน
ไป๋จ้าวเหม่ยล้างถ้วยชามกลับเข้ามาก็เห็นสองพ่อลูกนอนกอดกันหลับไปที่เตียงไม้ในห้องโถงแล้ว เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ แสดงว่าเตียงในห้องก็เป็นของเธอคนเดียวแล้วสิ เฮ้อ...ดีที่ไม่ต้องนอนกับไอ้หล่อหน้ามังกร นิสัยกิ้งกือนั่น
เสียงไก่ข้างบ้านขันปลุกให้ร่างอวบอ้วนตื่นขึ้นมาจากที่นอน ครั้นเมื่อเธอเดินออกมา ก็เห็นว่าสองพ่อลูกยังนอนหลับกันอยู่ เธอจึงรีบเดินไปล้างหน้า และเข้าครัวต้มข้าวต้มง่าย ๆ เอาไว้ให้ทั้งคู่ก่อน
“เธอกำลังทำอะไรอยู่” อู๋เหวยได้กลิ่นหอมลอยออกมาจากห้องครัว ก็เดินตามเข้าไปดู ครั้นเห็นแผ่นหลังอ้วน ๆ กำลังสาละวนอยู่หน้าเตาไฟจึงเอ่ยถาม
“อ้าวตื่นแล้วเหรอ นายไปล้างหน้าล้างตาก่อน ฉันขอผัดผักบุ้งอีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว นายกินก่อนไปทำงานนะ” อู๋เหวยขมวดคิ้วมองแผ่นหลังของหญิงสาวที่หันกลับไปผัดผักในกระทะของเธอต่อไป
ปกติก่อนเขาจะไปทำงาน ก็ต้องตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าไว้ให้ลูกสาวเสียก่อน ทว่าวันนี้เขากลับตื่นไม่ทัน อู๋เหวยเดินเหม่อลอยไปล้างหน้าล้างตา เสร็จแล้วก็ปลุกลูกสาวมานั่งกินอาหารเช้าด้วยกัน ก่อนจะเดินไปคว้าจักรยานจูงออกไปหน้าบ้าน โดยมีลูกสาวเดินตามไปส่ง ทว่าไป๋จ้าวเหม่ยไม่ได้ตามออกมาด้วย
“ซวนซวนพ่อไปทำงานก่อนนะครับ ลูกอยู่บ้านอย่าออกไปเล่นน้ำที่แม่น้ำล่ะ หรือถ้าหนูเบื่อก็ไปเล่นกับเสี่ยวมี่ในหมู่บ้านก็แล้วกัน”
“ได้ค่ะ แต่วันนี้หนูกับน้าอ้วนนัดกันทำคอกไก่กันค่ะ”
“คอกไก่?”
“ใช่ค่ะ ไข่ที่น้าอ้วนแอบเอาไว้ในหีบ มันฟักออกมาเป็นลูกเจี๊ยบ น้าอ้วนบอกให้หนูเลี้ยงได้ แต่หนูต้องดูแลให้อาหารมันเอง”
“อ้อ...ถ้าอย่างนั้นหนูก็ช่วยเธอทำคอกไก่ก็แล้วกัน พ่อไปทำงานก่อนแล้วครับ” อู๋เหวยก้มลงหอมแก้มลูกสาว และปั่นจักรยานออกไป สีหน้าสงสัยเป็นอย่างมาก มิน่าเมื่อเช้าเขาได้ยินเสียงลูกเจี๊ยบ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นของไป๋จ้าวเหม่ย
************************
ตอนที่ 26 สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอไป๋จ้าวเหม่ยเปิดถุงกระดาษหยิบชุดที่หลิวชิงฮุยซื้อมาฝากซวนซวน เมื่อตอนเย็นแม่ดอกบัวขาวใต้ตมพยายามจะชวนเด็กน้อยคุยเล่น ทว่าซวนซวนก็ไม่ได้สนใจเท่าที่ควร เธอเอาเวลาไปคัดแยกพุทราจีนที่เก็บมาจากบนเขา พรุ่งนี้พ่อของเธอจะเอาไปขายให้หลิวชิงฮุยเห็นว่าเด็กน้อยไม่สนใจ จึงได้กลับไปอย่างพ่ายแพ้“ซวนซวนหนูมาดูชุดที่พี่ชิงฮุยซื้อมาฝาก สวยดีนะ ว้าวชุดนี้เหมือนชุดกะลาสีเรือเลย”“อะไรคือกะลาสีเรือคะ” เด็กน้อยละสายตาจากแบบฝึกหัดที่กำลังเขียนอยู่ หันมาเอียงคอถามตอนนี้เด็กน้อยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชุดใหม่อีกแล้ว อาจเป็นเพราะแม่เลี้ยงของเธอตัดให้จนครบเจ็ดวัน ไหนจะมีชุดที่เอาไว้ใส่ไปข้างนอก ชุดนอน ชุดใส่เล่น เต็มไปหมด อะไรที่ได้มามากพอก็ทำให้เธอหมดความสนใจ อีกอย่างชุดที่แม่เธอตัดก็สวยกว่าชุดที่วางขายมาก“ก็นี่ยังไงชุดที่มีคอปกข้างหลัง ชอบไหม ว่าไม่ได้หลิวชิงฮุยซื้อของดีมาให้เชียวนะ ผ้านุ่มเชียวใส่สบายตัวเลยละ”“ชอบค่ะ แต่ชอบชุดที่แม่ตัดเย็บให้มากกว่า เหมือนชุดนี้ไง ชุดนอนของหนู พ่อคะพ่อเห็นด้วยหรือเปล่า ชุดนอนที่แม่ทำสวยกว่าอีกเนอะ” อู๋ชิงซวนหมุนตัวหนึ่งรอบ ให้ดูชุดนอนก
ตอนที่ 25 สงสัยไป๋จ้าวเหม่ยพลาดไปแล้ว เธอพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ลืมไปได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เธอมองท้องฟ้าที่สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย“เธอจะให้ฉันเอาสมุนไพรไปขายให้หรือเปล่า แต่เอาไปแบบไม่ตากแห้งมันจะขายได้ไหม ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราเก็บเอาไว้ก่อน อบกับไฟก็แห้งเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”“แบบสดมันก็ขายได้ ฉันไม่แน่ใจว่าราคามันจะดีเหมือนแห้งหรือเปล่าน่ะสิ” บอกตรง ๆ เรื่องราคาของ หรือค่าเงินในยุคนี้เธอไม่ค่อยรู้เลยด้วยซ้ำ ดูอย่างที่ว่าทุกอย่างในยุคนี้ ราคาถูก เต้าหู้ก้อนหนึ่งแค่หนึ่งเหมาเท่านั้น ผ้าสวย ๆ หนึ่งพับแค่หนึ่งหยวน แต่!...มันกลับแพงยิ่งกว่าในยุคของเธอเสียอีก อาจเพราะค่าเงินมันไม่เท่ากันกระมัง“จะดีไม่ดียังไงก็ต้องขายไม่ใช่เหรอ เอาไว้หมดหน้าฝน ฉันจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรพวกนี้ให้เธอเอง ถึงตอนนั้นเธอก็จะได้เงินเท่าเดิมแล้ว”ไป๋จ้าวเหม่ยพยักหน้าแกน ๆ ยังไงก็ต้องทำตามที่อู๋เหวยบอกนั่นแหละ เพราะนี่ก็สองวันแล้ว หากไม่รีบขายสมุนไพรของเธอก็คงจะเหี่ยวหมดราคาแน่ ๆ เห็ดหลินจือเธอสามารถเก็บเอาไว้ขายทีหลังได้ แต่โสมคนกับโสมซานซีและสมุนไพรอื่น ๆ คงต้องขายออกไป รวมทั้งพุทราแห้งด้ว
ตอนที่ 24 ออกตามหากว่าจะปลอบให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ร่างอวบ ๆ ของเธอก็หนาวสั่น เธอรีบล้วงเข้าไปในตะกร้าสมุนไพร หยิบกลักไม้ขีดออกมา รวบเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้ง ๆ ที่ถูกลมปลิวพัดมากระจุกอยู่ในถ้ำ และจุดไฟให้ความอบอุ่น“ซวนซวนหนูใส่เสื้อทับด้วยหรือเปล่าจ๊ะ”“ใส่ค่ะ”“ดีเลย ตอนนี้หนูถอดเสื้อผ้าออกมาก่อน เหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในและเสื้อกล้ามก็พอ เอาออกมาอังไฟให้แห้งก่อน” อู๋ชิงซวนรีบถอดชุดออกมา รวมทั้งถุงเท้ารองเท้าทั้งหมด กางเกงในของเด็กน้อยเป็นทรงสามเหลี่ยม ที่แม่เลี้ยงตัดเย็บให้ และเสื้อกล้ามก็เป็นเสื้อที่ปิดถึงแค่เหนือสะดือ แต่เพราะที่นี่มีเพียงเธอสองคน เด็กหญิงจึงไม่อาย“รอน้าอยู่ตรงนี้แป๊บเดียว น้าจะไปเอากิ่งไม้ ถึงจะเปียกแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย” กำลังจะก้าวขาออกไป ทว่ามือเล็กก็ดึงเอาไว้ก่อน“น้าไปตรงนี้เอง หนูนั่งมองออกไปก็เห็น”“ไม่ใช่น้า” เด็กหญิงทำปากยู่ราวกับเป็ดตัวน้อยแสนงอนอย่างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยหลุดขำออกมา พลางยื่นมือไปบีบปากแหลม ๆ นั่น“เอาละ ๆ แม่ผิดไปแล้ว ต้องโทษที่แม่สมองไม่ดี ทำให้ลืมเสียได้ ซวนซวนน้อยไม่โกรธแม่นะคะลูก”“ไม่โกรธค่ะ แม่รีบไปรีบมานะคะ หนูนั่งผิงไฟตรงนี้ แต่แม่ถอดเส
ตอนที่ 23 ติดถ้ำเปรี้ยง! เสียงสายฟ้าร้องลั่นสั่นสะเทือน สายฝนกระหน่ำลงมาราวกับฟ้าถล่ม หญิงสาวโหนตัวอยู่ที่บนหน้าผา เธอกัดฟันปีนขึ้นไป แต่เพราะน้ำฝนที่สาดลงมาทำให้มือที่เกาะลื่น ร่างอวบร่วงพรืดลงไป มือเล็กรีบจิกเล็บลงที่ซอกหิน จนเล็บหักสิบนิ้วสื่อถึงหัวใจ ทว่าความเจ็บปวดไม่เท่ากับความหวาดกลัว คนตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายอีก และที่สำคัญซวนซวนอยู่คนเดียว! ไม่รู้เด็กคนนั้นจะกลัวแค่ไหน ป่านนี้ไม่ใช่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วเหรอ“ฉันก็ว่าแล้ว โชคดีมันจะมาง่าย ๆ ได้ยังไง ได้โสมได้เห็ด แต่เกือบตกเขา ไม่ได้ฉันจะตายไม่ได้ซวนซวนรออยู่” เธอจะบ่นออกมาไม่ได้ ใบหูแว่วได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อย ถึงจะรู้ว่าตอนนี้คงเป็นจิตใจเธอที่ปรุงแต่งไปเอง แต่กระนั้นพอได้คิดว่าเจ้าตัวเล็กนั่นกำลังร้องไห้ เธอก็ยิ่งจิกเล็บเข้าไปในซอกหิน กัดฟันปีนป่ายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ดีที่ครั้งนี้เธอเลือกลงเขาด้านที่มีหน้าผาบังลม หากลงที่เดิมเธอคงตกตายไปแล้วไป๋จ้าวเหม่ยรีบวิ่งไปแกะเชือกที่มัดกับต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็วิ่งไปหาอู๋ชิงซวนที่ถ้ำหิน ริมฝีปากก็ตะโกนร้องบอกว่า “ซวนซวนน้ามาแล้ว” ไปตลอดทางทางด้านอู๋ชิงซวนหลังจากที่ฝ
ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวยวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน สองหญิงสาวเดินออกมาส่งชายหนุ่มคนเดียวของบ้านเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ทว่าหลายวันมานี้อู๋เหวยมักจะอิดออดไม่ยอมรีบขี่รถออกไปเร็วเหมือนเดิม เช่นเดียวกับตอนนี้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ไป๋จ้าวเหม่ยเข้าโรงพยาบาลก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม่กับน้องของเธอไม่ได้มาขอเงินอีก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้ส่งเงินไปเช่นกัน แปลกเหลือเกิน มีแต่ความแปลกเต็มไปหมด“ซวนซวนพ่อไปทำงานแล้วนะ”“ค่ะ...พ่อขี่รถดี ๆ นะคะ อย่าหักโหมนะหนูกับน้าเป็นห่วง” อู๋ชิงซวนเอ่ยถ้อยคำห่วงใยให้กับพ่อตนเอง หากเป็นเมื่อก่อนเธอก็อยากตามไปด้วย ทว่าเดี๋ยวนี้ เธออยากอยู่เรียนหนังสือ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากน้าเหม่ยมากกว่า“ขอบคุณครับ ซวนซวนเป็นเด็กดีอย่าดื้ออย่าซน เชื่อฟังน้าเหม่ยของลูกให้มาก ๆ นะ” สายตาอู๋เหวยเหลือบไปมองคนที่ยืนหมุนคอกระดูกลั่นดังกร๊อบ ๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้น ไม่ใช่เพราะเธอออกกำลังกายแปลก ๆ นั่นหรือไงและใช่ไป๋จ้าวเหม่ยยังคงออกกำลังกายท่าแปลก ๆ ของเธอทุกวันเหมือนเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าคนอ้วนอย่างเธอจะล้มเลิกกลางคัน แต่สามเดือนที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ไป๋จ้าวเหม่ยเอาจริง ทั้งอ
ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรออู๋เหวยเอาข้าวของที่ไป๋จ้าวเหม่ยซื้อมาใส่ตะกร้าหน้ารถตัวเอง ที่ใส่ไม่หมดก็ห้อยเอาไว้ เขามองข้าวของที่เต็มรถ ก็พอจะรู้ว่าเธอหมดไปหลายหยวน ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวได้เงินมาจากการขายสมุนไพร เพราะหลายวันที่ผ่านมา เขาก็เห็นแล้วว่าเธอวุ่นวายอยู่กับสมุนไพรเหล่านั้น แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะขายได้ราคาดีเพียงใด“ซวนซวนหนูมาซ้อนท้ายพ่อดีไหมคะ น้าเหม่ยของลูกจะได้ไม่หนัก”“พ่อคะ!...หนูตัวไม่หนักเสียหน่อยจริงไหมคะน้าเหม่ย”“จริงจ้ะ ซวนซวนของพวกเราหุ่นดีขนาดนี้จะหนักได้ยังไง หนูมาซ้อนท้ายน้าเหมือนเดิมดีกว่า พ่อหนูถือของเต็มรถแล้ว” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นว่าอู๋เหวยรับหน้าที่ขนของแล้ว ดังนั้นเธอจึงรับหน้าที่บรรทุกคนไปเอง ทว่ายังไม่ทันที่เด็กหญิงจะได้ตอบ เสียงรีบร้อนของคนบางคนก็ตะโกนออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก“ซวนซวนหนูอยากมาซ้อนรถของพี่ชิงฮุยหรือเปล่าจ๊ะ ป้าพี่ส่งจดหมายมาจากเซี่ยงไฮ้ มีเรื่องสนุก ๆ เยอะเลย พี่เล่าให้ฟังดีไหมจ๊ะ” หลิวชิงฮุยเห็นทั้งสามกำลังจะไปอยู่แล้ว เธอก็รีบจูงรถจักรยานตามมา ในใจนึกโมโหตั้งแต่ที่กินอาหารข้างในแล้ว มีเพียงแค่เธอที่ชวนคุย พี่เห