บทที่ 7 ฉันจะไปดูงานเอง
แม่ของซุนเย่ถึงกับถอนหายใจเมื่อเห็นท่าทีของลูกชาย เธออยากให้เขามีครอบครัวมีภรรยาคอยดูแล ตอนนี้ทุกอย่างก็มีพร้อมแล้วเธอเองก็แก่มากขึ้นทุกวันหากมีหลานตัวน้อย ๆ ก่อนที่เธอจะตายคงจะดี
“คุณป้าคะดูท่าวันนี้พี่ซุนเย่จะอารมณ์ไม่ดีเอาไว้วันหน้าฉันจะมาหาใหม่แล้วกันค่ะ”
“หนูหวางลี่อิงป้าต้องขอโทษด้วยนะที่ซุนเย่เสียมารยาทกับหนู”
“ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้าไม่ต้องคิดมากพี่เขาคงเหนื่อยมาจากงาน ฉันขอตัวนะคะ” หวางลี่อินลูกสาวคนรองของท่านนายพลเธอเพรียบพร้อมทุกอย่างแต่ชายที่เธอปักใจคือซุนเย่ทั้งฐานะครอบครัว และชื่อเสียงหากทั้งสองตระกูลได้เป็นครอบครัวเดียวกัน อำนาจอิทธิพลจะยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลนี้ เขาทั้งรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมคายไม่ว่าจะมองตรงใดก็ไม่มีที่ติแม้แต่น้อย ทำให้สาว ๆ ในมณฑลนี้ต่างพากันหลงใหลเข้าหาเขาจนเขาเกิดความรำคาญ แต่หวางลี่อิงไม่ได้ใส่ใจและยอมแพ้อย่างไรก็ตามเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลเว่ยให้ได้
ฝั่งด้านซุนเย่เขาเข้ามาในห้องกำลังจะถอดเสื้อเนคไทด์ออกจากเสื้อสูทด้วยความอึกอันครั้นนั้นเสียงประตูได้ดังขึ้น
ก๊อก ๆ
“คุณชายผมขอเข้าไปด้านในนะครับมีเรื่องมารายงาน” เสียงของลูกน้องคนสนิทของเขาได้ดังขึ้น ซุนเย่รีบตอบกลับอย่างรวดเร็วและตั้งหน้าตั้งตารอฟังเรื่องที่เขามารายงานหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ดี
“เข้ามาได้” จื่อห้าวลูกน้องที่คอยรับใช้ติดตามเขาไปทุกที่ทำหน้าที่เป็นเลขาประตัวจำได้เข้ามาพร้อมรายงานที่อยู่ในมือ
“ผมจะมารายงานเรื่องโรงแรมที่เราจะไปก่อสร้างที่มณฑลต้าวหมายหยางตอนนี้พื้นที่ได้จัดการกับสิ่งกีดขวางหมดแล้วครับ และกำลังจะเริ่มก่อสร้างตอนนี้คุณเว่ยจิงจื่อพ่อของคุณชายไม่สามารถเดินทางไปที่นั่นได้ ผมคิดว่าผมจะเดินทางไปดูงานที่นั่นคุณชายช่วยอนุมัติด้วยครับ”
“ไปดูงานที่มณฑลต้าวหมายหยางหรือ? อื้ม..ฉันจะเซ็นอนุมัติให้แต่ว่าฉันจะเดินทางไปที่นั่นด้วยในเมื่อคุณพ่อไปไม่ได้ฉันจะไปดูงานเอง หากมีอะไรผิดพลาดฉันจะได้ตัดสินใจได้ เอาแต่รอนายโทรเลขมาคงช้าไม่ได้การ อย่างนั้นอีกสองวันเราจะเดินทาง”
“แล้วโรงแรมที่นี่ละครับใครจะเป็นคนดูแล”
“ที่นี่ไม่มีอะไรให้เป็นห่วงถึงเกิดเรื่องยังมีคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ที่นี่คอยรับมือ นายไปจัดการเรื่องที่อยู่ในระหว่างอยู่ที่นั่นเถอะแล้วอีกสองวันเดินทางกัน”
“ครับ” จื่อห้าวก้มโค้งลงรับคำสั่งก่อนจะเดินออกไปนอกห้องพร้อมปิดประตูไว้ให้เช่นเดิม
ซุนเย่ถอดเสื้อผ้าพลางครุ่นคิด ที่เขาอยากไปที่นั่นเพราะได้หนีจากการที่คุณแม่หาผู้หญิงมาดูตัว รู้ดีว่าต่อให้เขาห้ามแต่คุณแม่คงไม่ยอมฟังแน่จึงใช้โอกาสนี้หนีไปก่อน ที่เขายังไม่มีภรรยาไม่ใช่เพราะเขาไม่มีแต่เขาไม่เจอคนที่ถูกชะตา ผู้หญิงที่เข้าหาทุกวันนี้ล้วนเข้ามาเพราะผลประโยชน์ทั้งนั้นและหวางลี่อิงก็ไม่ต่างจากผู้หญิงทุกคน เขาจึงไม่อยากสานสัมพันธ์กับเธอเขาหวังว่าจะเจอผู้หญิงที่รักเขาจากใจจริงไม่ใช่ฐานะเงินทอง
รุ่งเช้าวันต่อมา
ที่มณฑลต้าวหมายหยาง
วันนี้หลิวหลิวตื่นแต่เช้าเพื่อทำน้ำซุปเตรียมของสำหรับการขาย เธอตื่นเต้นไม่รู้ว่าหมาล่าของเธอจะขายได้หรือไม่และเธอก็ไม่ลืมป้ามิ่งจูให้มาชิมและเปิดร้านให้เธอ
“กลิ่นน้ำซุปหอมโชยออกไปนอกร้านช่างน่าอร่อยจริง ๆ” เสียงของป้ามิ่งจูดังขึ้น หลิวหลิววางของที่ทำอยู่รีบออกไปต้อนรับทันที
“ป้ามิ่งจูมาแล้วเหรอคะ เชิญด้านนี้เลยค่ะซุปหมาล่าเป็นซุปเผ็ดร้อนร้านของฉันจึงเลือกที่จะเปิดช่วงกลางวันถึงกลางคืน ตอนนี้จึงยังไม่มีลูกค้าฉันจะให้ป้าชิมและติชมให้ฉันหน่อยนะคะว่าคนแถวนี้เขาชื่นชอบรสชาติแบบนี้หรือไม่? แต่ว่าเมื่อวานฉันก็แจกให้ชาวบ้านมาลิ้มลองแม้ทุกคนจะบอกว่าอร่อยแต่ฉันก็ยังอยากได้คำติชมอยู่ดี”
“ได้สิ ไหน ๆ ลองชิมดูสิว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร” หลิวหลิวจัดการตั้งน้ำซุปที่หม้อไฟให้เกิดความร้อน ก่อนจะคีบเนื้อและเติมผักใส่ลงไปในหม้อเมื่อทุกอย่างสุกเธอจึงบอกให้ป้ามิ่งจูได้ลิ้มลอง
“ตอนนี้เนื้อน่าจะสุกแล้วป้าใช้ตะเกียบคีบมาจิ้มที่น้ำจิ้มแล้วค่อยกินนะคะ”
“ได้เลย” ป้ามิ่งจูทำตามที่หลิวหลิวบอกเมื่อเธอนำเข้าปากดวงตาของเธอปริ่มไปด้วยรอยยิ้มทำให้หลิวหลิวดีใจที่อาหารของเธอถูกปาก
“เป็นอย่างไรบ้างคะ”
“นี่มันอร่อยมาก ๆ เลย ฉันไม่เคยกินรสชาติแบบนี้มาก่อนต่อจากนี้คงต้องมาเป็นลูกค้าประจำร้านหมาล่าสกุลไป๋แน่นอน”
“ขอบคุณป้านะคะ ฉันคิดว่าเมื่อเปิดขายไปได้สักพักจะทำน้ำซุปกระดูกหมูเพิ่มจะได้ให้เด็ก ๆ กินได้อย่างนี้จะได้กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายป้าคิดว่าอย่างไรคะ”
“ดีเลย ครอบครัวที่มีเด็ก ๆ จะได้เข้ามาอุดหนุนโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีอาหารที่ลูก ๆ กินได้หรือไม่ ป้าดีใจนะที่หนูชิงฮวาคิดค้นหาหนทางหาเงินเลี้ยงดูตัวเองกับน้อง ๆ ขอให้กิจการของหนูเจริญเติบโตค้าขายดีนะ นี่คือของที่ป้านำมาเป็นของขวัญวันเปิดร้าน” ป้ามิ่งจูพูดพลางหยิบป้ายที่เป็นคำอวยพรสำหรับการเปิดร้านให้แก่หลิวหลิวเธอรีบรับของจากผู้ใหญ่ไม่ลืมที่จะขอบคุณ
“ขอบคุณป้ามิ่งจูนะคะที่ยังอุตสาห์มีของติดไม้ติดมือมา ถ้าวันหน้าป้ามาอุดหนุนฉัน ฉันจะเพิ่มเนื้อให้เป็นพิเศษเลย”
“ไม่ล่ะ ของซื้อของขายเดี๋ยวไม่ได้กำไรกันพอดีไปทำอย่างอื่นเถอะนะ ป้าจะนั่งกินต่อไม่ต้องเป็นห่วง”
“ค่ะ” หลิวหลิวเดินถือป้ายแผ่นเล็กที่ป้ามิ่งจูเอามาให้ไปติดไว้ที่หน้าร้านก่อนจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมของต่อ เธอขายเป็นชุดเหมือนสมัยใหม่แต่ราคาจะถูกกว่ามาก ๆ เธอยังกังวลว่าวันนี้จะได้ขายมั้ยหากเธอทำออกมาแล้วขายไม่ได้ภายในสามวัน เธอคงจะหาทำอย่างอื่นต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ตื่นเช้ามากินข้าวและขนมที่หลิวหลิวเตรียมไว้ให้ทั้งสองเริ่มเจริญอาหารไม่อดอยากเหมือนเมื่อก่อนแถมอาหารที่พี่สาวทำให้ช่างอร่อยจริง ๆ หากอยู่กับป้าในตอนนี้คงได้กินเพียงก้อนแป้งแข็ง ๆ และน้ำซุปที่กินเหลือจากคุณป้ากับลูกของเธอ
“พี่ชิงฮวาทำกับข้าวได้อร่อยมาก ๆ ชิงเทียนว่ามั้ย"
“นั่นสิ! อย่างนี้ร้านของเราต้องขายดีแน่ ๆ เลยรีบกินแล้วไปช่วยงานพี่ชิงฮวากัน”
“วันนี้น้องของพี่ขยันจริง ๆ อย่างนั้นกินให้เยอะ ๆ นะ แล้วไปป่าวประกาศเรียกเชิญชวนลูกค้าเข้าร้านถ้าวันนี้ขายดีพี่จะเอาขนมหวานให้เป็นสิ่งตอบแทน” หลิวหลิวเดินเข้ามาได้ยินน้อง ๆ พูดใจของเธอชื่นบานเอ็นดูเด็ก ๆ ทั้งสอง
“ต่อให้พี่ไม่มีขนมหวานพวกเราก็ทำให้อยู่แล้ว” ชิงเทียนพูดขึ้น
“หรือว่าเราไม่เอาขนมหวาน”
“เอาสิคะ ..ถ้าชิงเทียนไม่เอาแต่หนูเอาพี่ชิงฮวาอย่าลืมเตรียมไว้ให้ด้วยนะคะวันนี้หนูจะตั้งใจทำงานเต็มที่” ชิงหนีว์รีบพูดขึ้นทันทีกลัวว่าพี่สาวจะเปลี่ยนใจ หลิวหลิวหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะยื่นมือไปขยี้หัวของชิงหนี่ว์
“พี่เตรียมไว้แล้ว อย่างนั้นวันนี้ตั้งใจทำงานด้วยนะคนงานตัวน้อยของพี่” เด็กทั้งสองยิ้มกว้างก่อนจะตั้งใจกินของที่อยู่ตรงหน้าต่อจะได้รีบไปทำงานที่พี่สาวมอบหมายให้
บทที่ 35 ซีรี่ย์จบอย่างบริบูรณ์2 เดือนต่อมาหลิวหลิวได้แต่งงานกับซุนเย่ร้านของเธอถูกย้ายเข้าไปอยู่ในโรงแรมตามที่แม่ของซุนพูดเอาไว้ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวอย่างไม่คาดคิดมาก่อน เธอพาน้อง ๆ ย้ายกลับไปอยู่บ้านหลังเดิมที่เป็นสมบัติของสกุลไป๋ เธอได้ดีไม่ลืมคนที่เคยช่วยเหลืออย่างป้ามิ่งจู เธอเปิดมิตินำของใช้มากมายและช่วยกันตกแต่งร้านใหม่ให้แก่ป้ามิ่งจูเป็นการตอบแทนส่วนเหมยอิ๋งตอนนี้เธอได้หางานทำเป็นสาวโรงงานเย็บผ้าจากคนที่ไม่เคยทำงานชีวิตสุขสบายแต่เมื่อไม่มีใครให้พึ่งพาเธอจำเป็นต้องหาเงินใช้เอง ตอนนี้เธอเริ่มคิดได้ว่าสิ่งที่ผ่านมาเธอกับครอบครัวทำผิดกับชิงฮวามากแค่ไหน แต่ก็ไม่กล้าโผล่หน้ามาขอโทษเธอด้วยซ้ำ เพราะเธออายจนไม่กล้าที่จะมาพบเจอลมหนาวเริ่มพัดมากระทบกายหลิวหลิวยืนมองออกไปนอกหน้าต่างในใจคิดถึงชีวิตที่ผ่านมา จู่ ๆ ก็ถูกสองแขนโอบกอดมาจากด้านหลัง“ยืนคิดอะไรอยู่เหรอ?”“แค่คิดว่านี่ใช่ความจริงหรือความฝันนะคะ”"ทำไมคิดแบบนั้นล่ะครับ”“ใครจะคิดล่ะคะว่าวันหนึ่งฉันที่เคยถูกขับไล่ออกจากบ้านหลังนี้จะได้กลับเข้ามาอยู่ที่นี่ และใครจะไปคิดว่าฉันจะได้แต่งงานกับคนที่ร่ำรวยเช่นคุณมันเหมือนความฝันเลยละค
บทที่ 34 แต่งงานกับผมนะหลิวหลิวเปิดดูเห็นโฉนดที่ดินของสกุลไป๋เธอทั้งดีใจและซาบซึ้งหัวใจเหลือเกินไม่คิดว่าคนคนหนึ่งจะทำเพื่อเธอได้ขนาดนี้ ตอนนี้เธอไม่อยากจะปิดกั้นความรู้สึกแล้วรีบเอ่ยถามจื่อห้าวอย่างเร่งรีบ"ตอนนี้ซุนเย่อยู่ไหน พาฉันไปหาเขาได้มั้ย""ตอนนี้ซุนเย่อยู่โรงแรมเราไปพร้อมกันเถอะนะ" แม่ของซุนเย่ดีใจที่เธอยอมเชื่อและจะไปพบกับลูกชายของเธอ ทั้งสามนั่งรถยนต์ไปที่โรงแรมทันที ใจของหลิวหลิวร้อนรุ่มไปหมดทำไมเขาต้องยอมเจ็บตัวเพื่อเธอขนาดนี้ที่ทำเพราะอยากจะลบสิ่งที่เขาย่ำยีเธออย่างนั้นสินะ ช่างไม่ห่วงตัวเองเอาเสียเลยไม่นานรถยนต์ก็มาถึงโรงแรมจื่อห้าวนำรถไปจอดทำให้หลิวหลิวได้เดินตามหลังแม่ของซุนเย่ที่ห้องพัก เมื่อมาถึงหลิวหลิวได้ก้าวเท้าเข้ามาในห้องเห็นซุนเย่นอนอยู่บนเตียงนอนบนหัวถูกโพกด้วยผ้าสีขาวใบหน้าและร่างกายเขียวช้ำไปหมด"เขาได้รับบาดเจ็บขนาดนี้เลยเหรอคะ""ใช่แล้ว เขาเป็นคนเก็บอาการแม้จะเจ็บปวดแค่ไหนก็ไม่ยอมแสดงออกจนจัดการคนพวกนั้นเสร็จเขาได้สลบล้มลงกับพื้น จนจื่อห้าวต้องหามกลับโรงแรม ซุนเย่เป็นคนอวดดีไม่ยอมให้จื่อห้าวกับลูกน้องจัดการคนเลวพวกนั้น เขาขอลงมือจัดการเองจนเป็นอย่างที่
บทที่ 33 สะสางหลิวหลิวได้ยินเสียงเอะโวยวายเสียงดังคล้ายคนกำลังมีเรื่องกันเธอออกมาจากผ้าห่มมาชะเง้อดูอยู่หน้าต่างเห็นว่าตอนนี้ซุนเย่กำลังสู้อยู่กับกลุ่มต้าหลง เธอทั้งตกใจและตกตะลึงคน ๆ เดียวสู้กับคนนับสิบให้นอนกองกับพื้นได้ทั้ง ๆ ที่ตัวเองได้รับบาดเจ็บไม่มากแต่มองเห็นเพื่อนของต้าหลงบาดเจ็บระนาว เธอรู้แล้วว่าตอนนี้เขาปกป้องเธอมากขนาดไหนแต่เมื่อนึกย้อนในสิ่งที่เขาโกหกเธอไม่สามารถเอาความดีครั้งนี้ของเขามาลบแก้คำโกหกและเรื่องที่เขาย่ำยีเธอได้เลยรุ่งเช้าวันต่อมาต้าหลงถูกตำรวจจับเพราะเขาเล่นยาและมียาให้ครอบครอง อีกทั้งจื่อห้าวจัดฉากเรื่องที่บาดเจ็บว่าคนพวกนี้ขัดแย้งกันเรื่องผลประโยชน์ตอนนี้ตำรวจทั้งสถานีเป็นคนของซุนเย่หมดแล้วไม่ยากในการจัดการและยังนำกำลังเข้าไปตรวจค้นที่กบดานของต้าหลงพบซิ่นเจี่ยวกับเหมยอิ๋งอยู่ที่นั่น ซิ่นเจี่ยวถูกตั้งข้อหายึดของคนอื่นไปครอบครองและใช้สมบัติที่ไม่ใช่ของตัวเองจนหมด ก่อนที่จะทำสัญญาจำนำโฉนดที่ดินบ้านสกุลไป๋ เขาได้ทำหนังสือสัญญาและลงนามทำให้เธอไม่อาจจะดิ้นหนีได้ ตอนนี้เหมยอิ๋งเคว้งคว้างไปหมด ไม่ว่าพี่ชายหรือแม่ถูกทางการจับตัวไปจนหมดทุกคน"ไม่จริง เรื่องนี้ต้อ
บทที่ 32 ที่ระบายอารมณ์ช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่มจื่อห้าวกำลังยืนดื่มอยูกับคนอื่น ๆ เห็นคุณชายเดินมาใบหน้าเคร่งเครียดเขารีบวางแก้วไวน์ไว้ที่โต๊ะและเข้าไปถามทันที"คุณชายทำไมมีสีหน้าเช่นนั้นครับ หรือว่ายังไม่ได้ปรับความเข้าใจกับคุณชิงฮวา ""เรื่องปรับความเข้าใจนะฉันทำแล้วแต่มันเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดก่อนนะสิ แต่ว่าตอนนี้มีเรื่องที่จะต้องทำเร่งด่วนเอารถออกฉันจะไปโรงพยาบาล""เกิดอะไรขึ้นกับลูกหรือว่ารู้สึกไม่สบาย"แม่ของซุนเย่ที่กำลังจะเดินกลับห้องพักได้ยินเสียงลูกชายรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง"คุณแม่ครับผมทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ เอาไว้ผมกลับมาจากหาหมอจะเล่าให้ฟังนะครับ คุณแม่ขึ้นไปพักผ่อนเถอะครับกว่าจะกลับมา เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะเล่าทุกอย่างให้คุณแม่ได้รับรู้" เธอทำได้เพียงพยักหน้ารับรู้เพราะว่าตอนนี้น้ำเสียงทั้งแววตาของซุนเย่จริงจังอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน"อย่างนั้นลูกก็รีบไปโรงพยาบาลเถอะ"จื่อห้าวไม่รอช้ารีบทำตามที่คุณชายต้องการ ตอนนี้ทั้งสองได้ไปหาหมอโรงพยาบาบที่ใกล้ที่สุด ซุนเย่แจ้งหมอเรื่องที่เขาต้องการตรวจ แต่ทว่าตอนนี้ห้องตรวจเลือดได้ปิดการทำการ ทำได้เพียงนำเลือดของเขาเอาไว้และตรวจกว่าผล
บทที่ 31 เจ็บปวดทั้งกายและจิตใจสายตาคู่งามจ้องมองใบหน้าของเขาพร้อมสะท้อนความเจ็บปวดด้านในให้อีกฝ่ายได้รับรู้ซุนเย่ไม่อยากจะเสียเธอไปในเมื่อตอนนี้ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรเธอคงไม่เชื่อง่ายๆ แต่ว่าวันนี้อย่างไรเขาจะต้องพูดกับเธอให้รู้เรื่อง จึงอุ้มเธอไปที่ห้องเพื่ออธิบายให้เธอได้รู้“ปล่อยนะ ปล่อยฉันลงไป”“ไม่เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องผมไม่อยากปล่อยคุณไปทั้ง ๆ ที่เรายังไม่เข้าใจกัน” ซุนเย่รีบอุ้มชิงฮวาไปที่ห้องของตัวเองเมื่อมาถึงห้องเขารีบล็อกประตูและพาเธอไปที่โซฟาวางเธอลงอย่างเบามือ“พาฉันมาที่นี่ทำไมเรามีอะไรจะคุยกับอีกปล่อยฉันจะกลับไปน้อง ๆ ” ซุนเย่นั่งลงคุกเข่าต่อหน้าเธอสองมือยื่นไปจับมือของหลิวหลิวไว้แน่น เงยหน้ามองเธอพร้อมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ผมไม่อยากจะโกหกคุณเลยไม่ว่าจะเรื่องครอบครัวของผมหรือว่าจะเป็นการที่ผมเข้าหาคุณ ผมมีเหตุผลบางอย่างและเรื่องผมกับหวางลี่อิงไม่ใช่เรื่องจริง”“ไม่อยากโกหกแต่คุณทำมันไปแล้วหยุดพูดเถอะค่ะ ฉันไม่อยากฟังช่วยปล่อยฉันออกไปเสียที” หลิวหลิวเบือนหน้าหนีไม่อยากจะเห็นหน้าเขากลัวใจตัวเองที่ไม่เข้มแข็งพอจะใจอ่อนยอมให้อภัยเขาอีก แต่ทว่าจู่ร่างกายขชองซุนเย่เ
บทที่ 30 รู้ความจริงหลิวหลิวเปิดร้านปกติและวันนี้เธอขายหมดเร็วกว่าทุกวันเพราะลงของน้อย เมื่อเธอเก็บของเสร็จออกมารอรับน้อง ๆ คิดว่าวันนี้จะพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวเล่นที่ห้างสักวันตั้งแต่ทะลุมิติเธอไม่เคยได้ไปไหนเลยนอกจากตลาด แต่ทว่าสายตาของเธอกลับเหลียวไปเห็นสองแม่ลูกกำลังเดินมุ่งหน้ามาที่นี่‘มาทำไมกันนะ หรือว่าจะมาหาเรื่องเอาสิครั้งนี้ฉันไม่ยอมหรอกนะ’ หลิวหลิวคิดในใจยืนกอดอกพร้อมปะทะกับทั้งสองแม่ลูก“มาที่นี่ทำไมอีก”“เอ่อ..ชิงฮวาป้าผิดไปแล้วให้อภัยป้าเถอะนะเรื่องที่ผ่านมาป้าสำนึกผิดแล้ว เรามาดีกันเถอะนะ” หลิวหลิวคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความงงงวยจู่ ๆ ทำไมซิ่นเจี่ยวถึงได้มาพูดดีกับเธอแบบนี้แถมยังทำหน้าตาเศร้าหมองแบบนี้ เธอมีแผนอะไรอีกเลย“นี่มันเรื่องอะไรกัน ป้ามีแผนอะไรอีกคิดว่ามาบีบน้ำตาอ้อนวอนพูดดีด้วยแล้วฉันจะใจอ่อนเหมือนเมื่อก่อนเหรอคะ ฉันไม่มีทางยอมป้าอีกแล้วค่ะ มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยค่ะฉันไม่ต้อนรับ” หลิวหลิวขับไล่เสียงแข็งซิ่นเจี่ยวไม่มีที่จะไปจริง ๆ หากไม่ได้อยู่ที่นี่คืนนี้เธอคงไม่มีที่ซุกหัวนอน เธอจะทำทุกอย่างให้หลิวหลิวยอมให้อภัยเธอคุกเข่าลงต่อหน้าหลิวหลิวทำให้ทั้งหลิวหลิวกับเห