LOGIN
ดวงตะวันส่องแสงสว่างจ้า ความร้อนระอุส่งผลให้ชาวเมืองหวาดหวั่น หลายปีมานี้เกิดอาเพสอันใดก็ไม่ทราบ จึงทำให้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ชาวไร่ชาวนา หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ขายต่างก็เดือดร้อนไปตามๆ กัน แล้งเช่นนี้พืชผลก็ไม่สามารถเติบโตได้ดี รายได้จึงน้อยลง ส่วนผู้ที่ทำอาชีพค้าขายเป็นหลักก็ไม่มีผู้ซื้อจึงขาดทุนไปตามๆ กัน
เจ้าเมืองอ๋องเห็นเช่นนั้นจึงจัดพิธีบวงสรวงฟ้าดินด้วยเครื่องสังเวยมากมาย ทั้งช้าง ม้า วัว ควาย อาหารทั้งคาวหลาน และสุราชั้นดี รวบรวมเหล่าประชาชนแผ่นดินทองที่หน้าพระราชวังไท่หยาง พิธีเริ่มไปประมาณครึ่งชั่วยาม ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี
เมฆดำทะมึนก่อตัวอยู่เหนือแท่นพิธีบวงสรวงสร้างเสียงฮือฮาจากผู้คนใต้หล้า เสียงครึกโครมของท้องฟ้าดังกึกก้องกังวาบไปทั่ว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาได้ทั่วไปแต่ทว่าไม่ใช่กลับแผ่นดินแดนเหนือแห่งนี้
หยวนซีซวนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเบื้องบน จดจ้องมองท้องฟ้าด้วยดวงตาสีหยดหมึกคู่งาม
พลันเกิดแสงประกายดุจดวงดาวอยู่แวบหนึ่ง ก่อนที่บางสิ่งบางอย่างจะตกลงมาจากฟากฟ้า คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันแล้วเพ่งพิจารณาด้วยความฉงนใจ รูปร่างของสิ่งที่ตกลงมาจากเบื้องบนชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
…นั่น…คน…
และบางสิ่งบางอย่างที่ว่านั่นก็พุ่งตรงลงมาหาหยวนซีซวนที่แท่นพิธีบวงสรวง บุรุษอ้าแขนโอบรับตามสัญชาตญาณ เมื่อเห็นชัดเจนว่าสิ่งที่ล่วงลงมาจากฟากฟ้าคือสตรีงดงามนางหนึ่ง ดวงตาของทั้งคู่จดจ้องมองกันแวบหนึ่งก่อนที่สตรีตัวน้อยจะพุ่งเข้าสู่อ้อมกอดของบุรุษ
แรงปะทะทำให้ทั้งคู่ตกลงไปในสระน้ำที่อยู่ด้านหลัง จมลงไปเกือบถึงก้นสระ สตรีตัวน้อยผู้ตื่นตระหนกปล่อยอากาศออกอย่างไร้ประโยชน์ บุรุษผู้มีไหวพริบโอบเอวสตรีนางนั้นสู่อ้อมอกแล้วว่ายดิ่งขึ้นสู่ผิวน้ำ
“เฮืิอก! แค่กๆๆ” สตรีตัวน้อยสำลักน้ำจนหน้าแดงภายในอ้อมกอดแกร่งของบุรุษ
ในขณะที่บุรุษผู้นั้นยังคงโอบกอดตัวนางแล้วพาขึ้นจากน้ำ สัมผัสได้ถึงหยาดเม็ดเปียกชุ่มที่ตกลงมาจากฟากฟ้า เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าเป็นสายฝนที่ค่อยๆ เทกระหน่ำลงมา
…ฝนตกแล้วเหรอ?...
“เทพธิดา ท่านเทพธิดา!!”
“พระเจ้าส่งเทพธิดามาให้! ท่านเทพธิดา!”
เสียงสรรเสริญนั้นทำให้บุรุษกดสายตาลงมองสตรีในอ้อมกอด นางตกลงสู่อ้อมกอดของบุรุษราวกับเป็นสิ่งที่สรวงสวรรค์ส่งมาให้เขา พร้อมกับฝนฟ้าที่ตกลงมา อีกทั้งนางยังอยู่ในชุดที่ดูแปลกตา ทำให้เชื่อได้โดยง่ายว่านางอาจจะเป็นเทพธิดา
รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นที่มุมปากของอ๋องผู้เย็นชาดุจดั่งน้ำแข็ง เกิดความถูกอกถูกในในตัวนางตั้งแต่แรกพบสบตา หัวใจที่เต้นผิดจังหวะและกระแสไฟฟ้าที่แล่นพล่านไปทั่วร่างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อนางสัมผัสร่างกายของตน
บุรุษกดใบหน้าคมคายลงใกล้กับสตรีในอ้อมกอด ก่อนจะประกบริมฝีปากลงบนกลีบปากอวบซีดเซียวและเย็นเฉียบ ดวงตากลมคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจ ยกฝ่ามือขึ้นดันใบหน้าคมคายนั่นออก ทำให้ได้สบตากับบุรุษอีกครั้ง…
และเป็นอีกครั้งที่หัวใจของบุรุษเต้นระรัวเมื่อได้สบตากับนาง… ถ้อยคำของท่านอาจารย์ที่ตนฝึกวิชาด้วยในวัยเยาว์ ทว่าได้ล่วงลับไปแล้วก็ผุดขึ้นมา
‘คู่ครองของเจ้าแปลกไปจากสตรีนางอื่นในแผ่นดิน นางจะตกลงมาจากฟากฟ้าราวกับมาเพื่อพบเจอเจ้า'
อีกทั้งยังประโยคของฮ่องเต้ผู้เป็นบิดา…
‘หากถูกตาต้องใจสตรีนางใดก็ให้จับนางไว้ให้มั่น อย่าให้หลุดมือเพราะชีวิตมนุษย์ช่างแสนสั้น'
ทุกสิ่งทุกอย่างบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าสตรีในอ้อมกอดของตน กลายเป็นผู้ที่ตนมิอาจปล่อยนางไปได้อีกตลอดกาล
สตรีตัวน้อยนั่งขดตัวกระชับผ้าห่มแนบแน่น โดยมีนางกำนัลคอยปรนนิบัติ ร่างบอบบางสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ พลางนึกถึงเหตุการณ์อันน่าตกใจที่เกิดขึ้น
ฝนดาว คือสตรีในยุคปัจจุบัน นางกำลังจะไปเรียนแต่ฝนดันตกลงมาเสียก่อน ขณะที่นางกำลังรอให้ฝนซาก่อนนั้นอาม่าก็พูดอะไรแปลกๆ ก่อนจะดันหลังของนาง จากนั้นฝนดาวก็ตกลงมาที่นี่!!
นางคิดว่าจะตายเสียแล้ว อยู่ดีๆ ก็ลอยอยู่บนฟ้า ดำดิ่งสู่พื้นพสุธา โชคดีที่มีคนรับนางเอาไว้ไม่อย่างนั้นคงไม่มานั่งสั่นระริกอยู่ตรงนี้ คงจะไปอยู่ยมโลกแล้วล่ะ
…นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!...
“ฮัดชิ่ว!”
อีกทั้งเมื่อตกลงมาพวกเขาก็พูดด้วยภาษาที่นางไม่เข้าใจ แต่หลังจากจูบกับผู้ชายคนนั้นฝนดาวกลับฟังรู้เรื่องทุกคำ
“เทพธิดาก็ไม่สบายได้หรือ?”
สตรีตัวน้อยสะดุ้งเฮือกเมื่อบุรุษผู้หนึ่งปรากฏตัวไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียง ดวงหน้าหวานช้อนขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยความระแวดระวัง นางจำได้ว่าบุรุษผู้นี้คือคนที่รับตัวนางเอาไว้ และ... เป็นคนที่ขโมยจูบของนางไป!
บุรุษมีสีหน้านิ่งเฉย ดวงตาคู่นั้นพิจารณานางอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโบกมือไล่บริวารทั้งหมด ภายในห้องนี้จึงเหลือเพียงพวกเขา
“ฉันไม่ใช่เทพธิดานะคะ”
“ไม่ใช่หรือ? คำพูดคำจาของท่านช่างแปลกยิ่งนัก”
หยวนซีซวนขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ แม้คำพูดคำจาของนางจะฟังดูแปลกหู แต่ก็ใช่ว่าจะฟังไม่รู้ความ
“เพราะฉันไม่ใช่คนที่นี่น่ะสิคะ”
“แล้วท่านมาจากไหน?”
“ก็… จากนี้ไปอีกน่าจะหลายร้อยหลายพันปีเลยล่ะค่ะ”
แม้ฝนดาวจะไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่ แต่ดูๆ แล้วไม่ต่างจากซีรีย์จีนโบราณที่นางเคยดูเลย จึงคิดว่าอาจจะยุคสมัยหนึ่งในยุคจีนโบราณ อีกทั้งในหัวของนางยังนึกถึงนิทานที่อาม่าเล่าให้ฟัง แม้นางเติบใหญ่แต่หากมีเวลาว่างอาม่าก็มักจะเล่าให้นางฟังอย่างไม่รู้จักเบื่อ นิทานที่เล่าเรื่องของเทพธิดาซึ่งถูกส่งไปยังโลก
“แล้วเหตุใดท่านจึงตกลงมาจากฟ้า หากไม่ใช่เทพธิดา?”
“ฉันก็ไม่รู้…”
หยวนซีซวนจ้องมองร่างบอบบางนิ่ง นางดูไม่เหมือนคนพูดโกหก ทว่า… จะอธิบายเรื่องที่นางตกลงมาจากฟ้าได้อย่างไร
อีกทั้งยังปรากฏต่อหน้าประชาชน จะประกาศออกไปว่านางไม่ใช่เทพธิดา แล้วจะอ้างเหตุผลอันใดกัน ไหนจะฝนที่ตกลงมาให้ใต้หล้าได้อุดมสมบูรณ์
จะใช่หรือไม่ใช่ ให้ผู้คนเชื่อกันต่อไปก็ไม่เห็นเสียหาย อีกอย่าง… นางก็งดงามไม่ต่างจากเทพธิดาจริงๆ
“อย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องแต่งงานกับข้า”
“คะ? แต่งงานเหรอ!? ฉันไม่แต่ง!”
“การมีตัวตนของเจ้านั้นพิเศษ เจ้าตกลงมาจากฟ้าพร้อมสายฝน ทุกคนคิดว่าเจ้าคือเทพธิดา แม้จะเอ่ยอ้างออกไปว่าไม่ใช่ แต่ผู้คนย่อมเชื่อสิ่งที่ตาเห็น โดยเฉพาะกับเรื่องเหนือธรรมชาติเช่นนี้ มิเช่นนั้นหากฮ่องเต้ทรงรู้เรื่องเข้า เจ้าก็คงต้องไปเป็นสนมของฮ่องเต้คนที่สามร้อยเก้าสิบเก้า”
“สะ สนม ฮ่องเต้ คนที่สามร้อย…!”
“สามร้อยเก้าสิบเก้า”
“…!”
“ข้าไม่รู้ว่าบนสวรรค์นั้นมีชีวิตเป็นอย่างไร แต่ในเมื่อสรวงสวรรค์ส่งเจ้ามาแล้ว เจ้าคงต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตของคนที่นี่ หากไม่แต่งงานกับข้า ก็ต้องไปเป็นสนม ไม่มีทางที่ผู้คนจะปล่อยให้เจ้าเป็นอิสระ”
“คุณด้วยเหรอ…”
ดวงตาคู่หวานช้อนขึ้นมองบุรุษด้วยน้ำตาคลอเบ้า นางพอรู้เรื่องประวัติศาสตร์จีนมาบ้าง อีกทั้งตามซีรีย์จีนโบราณที่นางเคยดู สตรีล้วนแล้วแต่ไร้อำนาจ แม้จะเป็นเทพธิดาหากแต่บางครั้งยังถูกย่ำยีด้วยความโลภของมนุษย์
“ข้าสัญญาว่าจะให้อิสระกับเจ้า ทว่ามีเงื่อนไข”
“…?”
“ทำหน้าที่ภรรยา ปรนนิบัติข้า ให้กำเนิดบุตร นอกจากนั้นหากไม่เกินขอบเขต เจ้าจะทำอะไรก็ได้ อยากได้สิ่งใดข้าก็จะหามาให้”
“ทำหน้าที่ภรรยาหรือ?”
“หรือบนสวรรค์เจ้ามีคู่ครองแล้ว?”
“ไม่มี แล้วก็ฉันไม่ได้มาจากสวรรค์”
“เอาเถิด จะมาจากไหนก็ตาม หากเจ้าไร้คู่ครองก็ถือว่าดี เช่นนั้นถือว่าเจ้าตกลง ข้าจะส่งคนมาสอนเรื่องที่เจ้าควรรู้”
“ฉะ ฉันไม่แต่ง อย่างไรก็ไม่แต่ง ไม่ว่าจะกับฮ่องเต้อะไรนั่นหรือกับคุณก็ตาม!”
“เช่นนั้นเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป...”
หนิงอวี้เฟยนิ่งงัน นางเองยังคงสับสนมากนัก นางกำลังจะไปเรียนแต่กลับล่วงจากฟ้ามาอยู่ที่นี่เสียได้ ยามนี้นางทั้งหวาดหวั่นและหวาดกลัวเหลือเกิน ที่นี่มีแต่สิ่งที่ไม่รู้จักและไม่คุ้นเคยมากเกินไป
ตอนพิเศษ 4ทุกอย่างก็เพื่อเจ้าตัวน้อยหลังจากวันนั้นนางก็เริ่มตระหนักได้ถึงความรับผิดชอบ นางจะทำตัวเป็นเด็กเช่นนี้ต่อไปไม่ได้“ท่านพี่ ข้าคิดว่าไม่จำเป็นต้องอยู่กับข้าตลอดทุกวันแล้วเจ้าค่ะ” หนิงอวี้เฟยเอ่ยเสียงอ่อนโยน ทว่าหนักแน่น “บ้านเมืองต้องสงบสุข ชาวบ้านต้องมีรอยยิ้ม เมืองต้องน่าอยู่เพื่อให้ลูกของเราเติบโตในโลกที่ดีที่สุด หากท่านพี่มัวแต่กังวลเรื่องข้า แล้วสิ่งเหล่านั้นเล่า… ใครจะดูแล?”หนิงอวี้เฟยมองเขาด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความห่วงใยและเลื่อมใส ทว่าใบหน้าของหยวนซีซวนกลับขมวดคิ้ว มองนางด้วยความลังเล ราวกับไม่อยากปล่อยมือจากนางได้ก่อนหน้านี้นางติดตนแจ ทว่าคราวนี้กลับผลักไส เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ อารมณ์คนตั้งครรภ์ช่างแปรปรวนเหลือเกิน“ข้าเคยสัญญาว่าจะดูแลเจ้า แล้วจะให้ข้าละทิ้งเจ้าไปทำงานหรือ?”“ไม่ใช่ละทิ้ง ข้ายังอยู่ตรงนี้เสมอ เพียงแค่เจ้าต้องดูแลทั้งเมือง ไม่ใช่เพียงข้า… ลูกของเราต้องการอนาคตที่ดี ท่านพี่&r
ตอนพิเศษ 3เมื่อหนิงอวี้เฟยไร้เหตุผลไม่กี่วันต่อมา...บรรยากาศในเรือนหลักอบอวลไปด้วยความอบอุ่น เมื่อราชวงศ์หนิงส่งของขวัญมาให้ทันทีที่รู้ข่าวตั้งครรภ์ หนิงเสี่ยวอวี้ตื่นเต้นเสียจนติดหนิงอวี้เฟยแจ ไม่ยอมไปที่ใดไกล ก่อนจะประกาศเสียงดังให้ทุกคนได้ยิน“โตไป ข้าจะดูแลน้อง แล้วก็จะปกป้องท่านพี่เฟยด้วย!”ทุกคนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้กับความไร้เดียงสาของเด็กน้อย หนิงเหยาเฉิน หนิงเหยาเหวิน และหนิงเหยาหลินต่างมาอยู่เป็นเพื่อน คอยดูแลและพูดคุยเล่นให้นางคลายเครียด ท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลาย“ท่านพี่เฉิน ท่านพี่เหวิน ท่านพี่หลิน น้องข้าไม่ได้ดื้อไปหรือ?” หนิงอวี้เฟยเอ่ย พลางมองหนิงเสี่ยวอวี้ที่กำลังปีนขึ้นมานั่งข้างนาง“เสี่ยวอวี้แค่รักเจ้า…” หนิงเหยาเฉินหัวเราะเบาๆ “ดูเถิด จ้องเจ้าเขม็งเช่นนี้ เสี่ยวอวี้จะยอมไปที่ไหนเล่า!”“แน่นอนขอรับ!” หนิงเสี่ยวอวี้ยืนยันเสียงดัง ก่อนยกกำปั
ตอนพิเศษ 2เรามีลูกแล้วนะ“พระชายาตั้งครรภ์ขอรับ”ราวกับห้วงเวลาหยุดหมุนไปชั่วขณะ ดวงตาของหยวนซีซวนเบิกกว้าง จ้องมองหมอหลวงราวกับต้องการให้ทวนคำอีกครั้ง ความตกใจแล่นวาบผ่านร่าง ทว่าทันทีที่คำพูดนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความจริง ความรู้สึกสุขใจมหาศาลก็ไหลทะลักเข้ามาแทนที่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาค่อยๆ ปรากฏขึ้น แม้เขาจะเป็นผู้สงบนิ่งเสมอ ทว่าในเวลานี้…มิอาจห้ามความปลื้มปิติที่ซัดเข้ามาได้อีกต่อไป!ทว่าคนที่ยินดีรองจากหยวนซีซวนและตั้งสติได้ก่อนเห็นจะเป็นเหล่าบริวารที่เฝ้ารอทายาทของคนทั้งคู่“หมอหลวง! พระชายาต้องดูแลเช่นไรบ้างในช่วงตั้งครรภ์? ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งใดเป็นพิเศษหรือไม่เจ้าคะ?”“เรื่องอาหารล่ะเจ้าคะ? มีสิ่งใดที่ต้องเน้นเป็นพิเศษเพื่อบำรุงทั้งพระชายาและเด็กน้อย?”“อาการแพ้ท้องจะเป็นหนักหรือไม่? พระชายาจะรู้สึกไม่สบายไปอีกนานเท่าใดขอรับ?”“พระชายาออกเดินเที่ยวงานเทศกาลทุกปี ปีนี้ยังสามารถทำเ
ตอนพิเศษ 1เมื่อหนิงอวี้เฟย กลายเป็นเด็กน้อยไปเสียแล้วงานเทศกาลคึกคักไปด้วยเสียงหัวเราะและกลิ่นหอมของอาหาร หนิงอวี้เฟยใช้เวลาสนุกสนานกับสาวใช้และองครักษ์บางส่วนที่หยวนซีซวนส่งมาคุ้มกันนาง นอกจากเขาไม่ว่างมาเป็นเพื่อน นางเดินเล่นไปตามแผงขายของ ลิ้มรสขนมถั่วหวานและถังหูลู่ด้วยท่าทีร่าเริง ทว่าในจังหวะที่มัวแต่หัวเราะเพลิดเพลิน นางกลับสะดุดอะไรบางอย่างจนล้มลง!ขนมในมือกระเด็นหลุดออกจากมือ บางส่วนตกพื้น บางส่วนเปื้อนดิน เพ่ยเพ่ยรีบเข้ามาพยุงนางขึ้น ทว่าแทนที่นางจะเอ่ยคำใดออกมา นางกลับนิ่งไป ดวงตาจับจ้องขนมในมืออย่างไม่วางตา มุมปากของนางเริ่มขยับคว่ำลง ก่อนเสียงร้องไห้จะดังขึ้นทันที“ฮือ!!!”น้ำตาไหลรินลงมาจนทุกคนรอบข้างชะงัก บริวารทั้งบุรุษและสตรีต่างตกใจ รีบเข้ามาดูอาการของนางคิดว่านางต้องบาดเจ็บหนัก ทว่าหลังตรวจดูพบว่ามีเพียงแผลถลอกที่หลังมือเท่านั้น…“พระชายา! ท่านเจ็บตรงไหนหรือเจ้าคะ!?”“เหตุใดท่านร้องไห้เช่นนี้เจ้าคะ!?&rdq
บทที่ 45คืนนี้อีกรอบหนิงอวี้เฟยยังคงอาบน้ำเงียบๆ ในสายน้ำเย็นชื่น ทว่าอยู่ดีๆ ร่างของหยวนซีซวนก้าวเข้ามาใกล้ นางยังไม่ทันรู้ตัวมือแข็งแกร่งของเขาก็โอบรอบเอวนางจากด้านหลัง“ท่านพี่!!” สตรีตัวน้อยร้องออกมาด้วยความตกใจ ดวงตาเบิกกว้างเมื่อสัมผัสถึงอ้อมแขนที่แนบชิด ร่างของเขาไม่ได้เคลื่อนไหวใดต่อไป เพียงกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น“เจ้าคิดหรือยัง?” บุรุษเอ่ยพลางกดใบหน้าเข้าที่ลำคอของนาง แล้วใช้จมูกไล้ที่ผิวกายเบาๆ กลิ่นหอมหวานทำให้หยวนซีซวนแอบกัดฟันกรอด“คิดอะไรเจ้าคะ?” นางขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย“เรื่องลูกของเรา” เขากระซิบเบาๆ พลางจูบลงบนเรือนผมนางอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความออดอ้อน “เจ้าอยากมีกี่คน สามคน ห้าคน หรือสักเจ็ดคนดี?”“ขะ ข้ายังไม่ได้คิด...”“เช่นนั้นก็คิดเสีย”“ให้เวลาข้าอีกนิดเถิดเจ้าค่ะ”“ยังใ
บทที่ 43ไม่ตายไม่แยกจาก“เฮ้อ เจ้าระแวงเกินไปแล้ว เมื่อคืนก็ทั้งคืน ข้าจะไปกล้ารังแกเจ้าต่อได้อย่างไร มาๆ ข้าพาเจ้าไปอาบน้ำดีกว่า”“กรี๊ด! ปล่อยข้านะ ปล่อยข้า! ท่านพี่!”หยวนซีซวนโอบอุ้มสตรีตัวน้อยขึ้นสู่อ้อมแขน แล้วพาเดินไปที่ห้องน้ำที่สาวใช้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วระหว่างที่นางหลับ เมื่อมาถึงก็ค่อยๆ วางนางลงในอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็ช่วยนางอาบน้ำอย่างจริงจัง ทำเอาหนิงอวี้เฟยรู้สึกประหลาดใจยิ่งนักเขาไม่เพียงแต่ไม่รังแกนางในน้ำ ยังช่วยอาบน้ำชำระกายอย่างดี บีบนวดตัวนางเพื่อคลายความเมื่อยล้าให้อีกต่างหาก จนนางวางใจอาจจะเพราะบุรุษรู้สึกผิดที่เมื่อคืนนี้เคี่ยวกรำนางหนักเกินไปก็เป็นได้หลังจากอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จ ทั้งสองก็นั่งกินข้าวอยู่ในห้อง อาหารมากหน้าหลายตาถูกวางเรียงเต็มโต๊ะ ผลัดกันตักให้ ผลัดกันป้อนอย่างหวานชื่น เมื่อกินอิ่มสาวใช้ก็เข้ามาเก็บสำรับหมับ!หยวนซีซวนโอบกอดนางทันทีที่สาวใช้ออกไป ร่างของบุรุษแนบชิดเข้า







