Share

บทที่ 168

Author: จี้เวยเวย
“นางยังไม่ได้แต่งงานหรือ?”

ความเหลือเชื่อวาบผ่านดวงตาซ่งเยี่ยนโจว

พวกซ่งรั่วเจินสบตากัน หลิ่วหรูเยียนยิ่งเงียบงันไม่เอ่ยวาจา

เหตุใดจึงไม่แต่งงาน พวกเขาคาดเดาในใจ เป็นไปได้มากว่าคงยังไม่ลืมซ่งเยี่ยนโจว

แต่คำพูดนี้...ก่อนหน้านี้พวกเขาคนไหนก็ไม่สะดวกจะเอ่ยออกมา ยิ่งรู้เรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อลั่วชิงอิน

“พี่ใหญ่ ในเมื่อแม่นางลั่วยังไม่แต่งงาน ตอนนี้ท่านก็หย่าแล้ว ไม่อย่างนั้น...”

ความคิดของซ่งจืออวี้เรียบง่ายที่สุดแล้ว ทั้งไม่ได้ห่วงพะวงอะไรมากมาย อย่างไรเสียยามนี้คนทั้งสองล้วนแต่ไร้พันธะ ขอเพียงพวกเขายินดีก็ยังสามารถสานบุพเพได้อีกครั้ง

แต่เขายังพูดไม่จบก็ถูกซ่งเยี่ยนโจวตัดบทเสียก่อน

“อย่าพูดเหลวไหล!”

ซ่งเยี่ยนโจวลดสายตามองล่าง ขนตาทอดเงาจางๆ อำพรางแววตาของเขาเอาไว้ ทำให้มองความรู้สึกของเขาไม่ออก แต่สามารถสัมผัสได้ถึงความอ้างว้าง

“ตอนนี้ข้าอยู่ในสภาพนี้เสียแล้ว ยังจะคู่ควรกับนางอีกได้อย่างไร? อย่าพูดอะไรเหลวไหล จะทำให้นางเสื่อมเสียได้”

ซ่งจืออวี้พยักหน้า เข้าใจความกังวลของซ่งเยี่ยนโจว “พี่ใหญ่วางใจ ข้าแค่พูดที่บ้านเท่านั้น ไม่เอาไปพูดส่งเดชข้างนอกเด็ดขาด”

นี่เพิ่งจะหย่า หากม
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 169

    ซ่งจืออวี้อยากถามมาตลอดว่าในเมื่อฝานซืออิ๋งเป็นคนประเภทนี้ เหตุใดจึงไม่เขียนหนังสือปลดภรรยาไปเสียเลย แต่กลับเลือกการหย่าร้าง?นี่เป็นการไว้หน้าคนพวกนั้นชัดๆ!“ใช่แล้ว” ซ่งรั่วเจินตอบรับ “วันนี้ท่านก็ได้เห็นระดับความหน้าไม่อายของพวกเขาแล้ว”“หากนางออกไปร้องไห้โวยวายข้างนอกว่าตระกูลซ่งทำไม่ดีกับนาง หรือพูดว่าพี่ใหญ่ไปรบสองปี นางดูแลเหย้าเรือน แต่พอพี่ใหญ่กลับมาก็ปลดนางเสียแล้ว พี่ใหญ่ก็จะกลายเป็นคนทรยศไร้หัวใจ”“นับแต่โบราณมา สตรีร้องไห้มักทำให้คนหลงเชื่อได้ง่ายกว่า ถึงตอนนั้นพอพวกเขาโวยวาย คำอธิบายของพี่ใหญ่ก็ยากจะทำให้ใครเชื่อถือ”“แต่สิ่งที่นางได้ไปคือหนังสือหย่า ไม่ใช่หนังสือปลด เรื่องนี้ก็อธิบายง่ายแล้ว”แววตาซ่งรั่วเจินเย็นชาดุจน้ำแข็ง คิดถึงภาพที่ซ่งเยี่ยนโจวในนิยายถูกผู้คนป้ายสีเยาะหยัน สุดท้ายต้องตายอย่างน่าอนาถกรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง นางจะทำให้ฝานซืออิ๋งได้รับผลกรรมของตัวเอง!ชาติก่อนพวกเขาเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่บีบคั้นให้ซ่งเยี่ยนโจวถึงแก่ความตาย ชาตินี้พวกนางก็จะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่บีบคั้นให้ตระกูลฝานพินาศย่อยยับเช่นกัน!ซ่งจืออวี้กลืนน้ำลาย เดิมทียังคิดว่าตระกู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 170

    จวนตระกูลหลินหลังจากพวกหลินจือเยว่กลับมาแล้วก็รู้สึกเหมือนร่างกายจะแยกออกจากกันเป็นส่วนๆ อย่างไรอย่างนั้น โดยเฉพาะฮูหยินผู้เฒ่าหลินเดิมนางก็อายุไม่น้อยแล้ว แม้หลายปีนี้จวนตระกูลหลินจะค่อยๆ เสื่อมโทรมลง แต่นางก็มีชีวิตสุขสบายมาโดยตลอด ไม่เคยต้องตกระกำลำบากถึงเพียงนี้จนกระทั่งได้เข้าไปอยู่ในคุกครั้งนี้ ถูกขังในนั้นหนึ่งวันแล้วยังถูกนำตัวไปสอบสวนก็เสียขวัญจนปล่อยเบาราดตัวเองประกอบกับยังถูกกู้อวิ๋นเวยปาโคลนใส่จนเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว ขณะนี้ทั่วร่างจึงส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งชวนคลื่นเหียน“ท่านแม่ ท่านรีบไปอาบน้ำเถิดเจ้าค่ะ”ฉินซวงซวงถูกโบยจึงเจ็บระบมไปทั้งตัว แต่ก็ยังพยายามพูดแสดงความห่วงใยต่อฮูหยินผู้เฒ่าหลินอย่างเต็มที่เพียะ!ฮูหยินผู้เฒ่าหลินเงื้อมือตบฉาด ในที่สุดก็ไม่สามารถข่มกลั้นความเคียดแค้นทั้งมวลและความโกรธที่ต้องขายหน้าได้อีกต่อไป“ล้วนเป็นเพราะเจ้าที่ทำให้ข้าต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ทำให้จือเยว่สูญเสียตำแหน่งราชการ ตอนนี้เจ้าคงพอใจแล้วสินะ?”“เจ้ามันตัวหายนะชัดๆ หลังจากจือเยว่ตบแต่งเจ้าเข้ามา ที่บ้านก็ไม่เคยได้อยู่อย่างสงบ ตอนนี้ไม่มียศศักดิ์อันใดอีกแล้ว ตระกูลหลินจะใช้ชีวิตต่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 171

    “ความฝันที่ข้าได้ฝันถึง บัดนี้ท่านคงเชื่อแล้วกระมัง?” ฉินซวงซวงเอ่ยถามหลินจือเยว่ชะงักไปเล็กน้อย “หรือเจ้าฝันอีกแล้ว?”ฉินซวงซวงพยักหน้า “ข้าฝันว่าอีกไม่กี่วัน ในพิธีล่าสัตว์ของเหล่าเชื้อพระวงศ์ องค์ชายใหญ่จะตกอยู่ในอันตราย”“ขอเพียงพวกเราเข้าช่วยองค์ชายใหญ่ได้ทันการณ์ ฮ่องเต้ย่อมต้องตอบแทนอย่างงาม ถึงยามนั้นแล้วท่านค่อยทูลขอให้ฮ่องเต้คืนตำแหน่งขุนนางให้กับท่าน ไหนจะยังมีตระกูลเซียวคอยช่วยเหลืออีก จะต้องกลับมายิ่งใหญ่เชิดหน้าชูตาได้แน่!”ได้ฟังเช่นนี้ ดวงตาของหลินจือเยว่ก็ทอประกายแสงขึ้นอีกครั้ง “ที่เจ้าพูดเป็นเรื่องจริงหรือ?”"ข้ามีหรือจะโกหกท่านได้? แต่เดิมข้าคิดว่าฝันนั้นเป็นแผนของซ่งรั่วเจินที่จงใจใช้เล่นงานข้า บัดนี้ข้าเชื่อแล้วว่าคงไม่ข้องเกี่ยวกับนางจริงๆ ทว่าเป็นฟ้าดินที่กำลังช่วยเหลือพวกเราอยู่!”“เรื่องเงินนั้นเป็นเพียงความบังเอิญ ยามที่พวกเราขุดสมบัติโชคร้ายที่พวกเขามาพบเข้า ส่วนฝันนี้ที่จริงเป็นฝันที่เกิดขึ้นยามที่ข้าถูกขังอยู่ในคุกแล้ว”“ยามนั้นเป็นโอกาสที่ดีงามที่สุด จะให้ใครพบเห็นมิได้โดยเด็ดขาด น่าเสียดายที่ข้าถูกกักขังอยู่ในคุกเช่นนี้ ทั้งยังไม่มีโอกาสจะพบหน้าเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 172

    ณ จวนสกุลฝานนายท่านฝานเมื่อได้ยินว่าฝานซืออิ๋งถูกขับไล่ออกจากสกุลซ่ง สีหน้าก็พลันแปรเปลี่ยน“ดูสิว่าเจ้าไปทำงามหน้าอะไรไว้! เดิมซ่งเยี่ยนโจวก็เจ็บกายสาหัสแล้ว กำลังต้องการการดูแลใกล้ชิดจากเจ้า เจ้าก็ควรเอาใจใส่ดูแลเขา คว้าใจเขาให้อยู่หมัด”“แต่เจ้ากลับดื้อดึงอยากจะกลับบ้านตนให้ได้ บุรุษคนใดจะทานทนได้?”“ตอนนี้เป็นอย่างไร ถูกขับไล่จนต้องหอบหนังสือหย่าร้างออกมา อับอายขายขี้หน้าสกุลฝานของเราจนสิ้น!”แม้จะกล่าวว่าเป็นการหย่าร้างสองฝ่ายมิใช่การขับไล่ภรรยาออก ทว่าสกุลฝานแต่ไหนแต่ไรก็เทียบสกุลซ่งไม่ติดคราแรกที่การแต่งงานถูกกำหนดขึ้น ก็ทำเอาผู้คนต่างพากันอิจฉาตาร้อนแม้ซ่งเยี่ยนโจวจะกลายเป็นคนพิการ ทว่าก็เฉกเช่นที่อูฐยังคงใหญ่กว่าม้า สกุลซ่งยังคงเป็นสกุลใหญ่มีหน้ามีตา จึงนับได้ว่าเป็นการแต่งงานที่ดีบัดนี้ถูกหย่าขาด เกรงว่าคนที่พากันอิจฉาในตอนแรกคงพากันหัวร่องอหายเป็นแน่แท้!“ท่านพ่อ เรื่องนี้โทษข้าได้ที่ไหน! หากไม่ใช่เพราะต้องช่วยเซี่ยงหรงใช้หนี้พนัน ข้าคงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้”“เดิมทีข้าก็ไม่ได้อยากลงนามหนังสือหย่าร้าง แต่เป็นท่านแม่ที่บอกให้ข้าลงนาม บัดนี้พวกท่านล้วนโทษแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 173

    สองวันนี้เจ้าก็หลบซ่อนอยู่แต่ในเรือนไปก่อนแล้วกัน ยามนี้ข้าจะให้คนไปกระจายข่าว เอาให้คนเขารู้กันไปทั่วบ้านทั่วเมือง!””เพียงไม่กี่วันหรอก สกุลซ่งจะต้องมาขอร้องพวกเรา นอกจากเจ้าจะใช้หนี้พนันได้แล้ว จะเรียกเงินสักก้อนก็ไม่นับว่าเกินไป!”เมื่อฝานซืออิ๋งนึกไปถึงว่าสกุลซ่งจะต้องมารับนางกลับไป จิตใจก็พลันสดใสขึ้นมาทันควัน“ท่านแม่ช่างเก่งยิ่งนัก”เฉียนชิวเซียงโบกมือ “เจ้ารีบไปแต่งตัว เปลี่ยนอาภรณ์ให้สะอาสะอ้าน หน้าตาแต่งให้ซูบซีดเหนื่อยล้าสักหน่อย”“ประเดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปพบเหล่าฮูหยินทั้งหลาย ถึงยามนั้นก็บีบน้ำตาร้องไห้เสียหน่อย ทำตามจังหวะที่ข้าส่งให้ก็พอ เข้าใจหรือไม่?”เฉียนชิวเซียงรู้จักฮูหยินทรงอิทธิพลในเมืองหลวงอยู่ไม่น้อย อาศัยวาทศิลป์ช่างจำนรรจาและกมลสันดานใจกล้าลอยหน้าลอยตาของนาง จึงใกล้ชิดสนิทสนมกับพวกนางได้อย่างมีสุขตราบใดที่ยามนั้นเจ้าเสแสร้งน่าเวทนา พวกนางย่อมต้องสงสารเห็นใจ ชนิดที่ว่าแม้แต่สกุลซ่งก็ทำอะไรมไม่ได้! “ลูกเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!”ฝานซืออิ๋งดีใจยิ่งนัก รีบกลับไปยังห้องเพื่อผัดแป้งแต่งตัว เลือกเอาเสื้อผ้าที่ตนชอบออกมาจากสัมภาระที่ตนนำกลับมาด้วย สวมใส่เข้ากายอย่า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 174

    เมื่อถึงเวลามื้อกลางวัน ซ่งรั่วเจินก็ได้พบกับหลิ่วเฟยเยี่ยนนับแต่นักต้มตุ๋นที่ว่าเป็นผู้มีวิชาถูกเปิดโปง แม้ว่าสกุลหลิ่วจะยืนยันว่าพวกเขาก็ถูกหลอกเช่นกัน แต่ก็ยังถูกผู้คนมากมายสงสัยอย่างไรก็เป็นคนเชิญเขามาเอง จะบอกว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็ยากที่พวกเขาจะทำใจเชื่อได้ลง และต้นสายปลายเหตุผู้ริเริ่มของเรื่องนี้ ผู้ที่เชิญนักต้มตุ๋นมาเองอย่างหลิ่วเฟยเยี่ยนย่อมตกเป็นเป้าโจมตีเป็นธรรมดา ไม่เพียงถูกสกุลหลิ่วต่อว่า กระทั่งการใช้ชีวิตในสกุลซุนก็ไม่ได้สบายนัก“รั่วเจิน ข้าไม่ได้อยากตำหนิเจ้า ถึงแม้เจ้าจะถอนหมั้นแล้ว ก็ไม่ควรยุแยงให้พี่ชายกับพี่สะใภ้หย่ากัน!”หลิ่วเฟยเยี่ยนพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างอ่อนโยน “เจ้ากับพี่ชายก็โตกันแล้ว เดิมทีพี่ชายรองกับพี่ชายสามของเจ้าก็ควรจะแต่งงานไปตั้งนานแล้ว”“ทว่าพวกเจ้ากลับเลือกจะรอบิดากับพี่ใหญ่กลับมาจากสนามรบ ดูสิว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้เจ้ากับอี้อันก็ต่างถอนหมั้นกันหมด ทั้งบ้านมีเพียงเยี่ยนโจวที่เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว ทว่าสุดท้ายก็ยังมาจบที่หย่าร้าง”“เรื่องที่จ้าวซูหว่านกับฉินเซี่ยงเหิงไร้แม่สื่อแม่ชักนำสมรส แอบอยู่กินกันลับๆ ล่อๆ กระทั่งลูกก็ยังมีแล้ว คงลือก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 175

    “ฝานฮูหยินเล่าว่าตั้งแต่รั่วเจินถอนหมั้นไป นิสัยใจคอก็เปลี่ยนไปมาก ทำครอบครัววุ่นวายไร้ความสงบสุข ทั้งยังจองล้างจองผลาญซืออิ๋ง ยุให้รําตําให้รั่วไปทั่ว…”นางพร่ำพูดไปก็ลังเลไป “ดังนั้นเยี่ยนโจวจึงได้หย่าร้างกับซืออิ๋ง”หลิ่วหรูเยียนยิ่งฟังก็ยิ่งโกรธ “คนสกุลนี้ช่างไร้ยางอายเสียจริง เมื่อก่อนบุกมาร้องห่มร้องไห้อ้อนวอนขอให้ช่วยใช้หนี้พนันฝานเซี่ยงหรงไปก็หลายครา”“ช่วยไปหลายครั้งแล้วยังพอว่า บัดนี้กลับราวหลุมดำไร้ก้นก็มิปาน คิดใช้สกุลซ่งของเราเป็นถุงเงินพวกเขาเสียแล้ว พอไม่ให้เข้าหน่อยท่าทีก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ราวกับอะไรที่ผิดพลั้งก็ล้วนเป็นเพราะพวกเรา!”“พี่หญิง ข้าได้ยินมาว่าฝานเซี่ยงหรงติดการพนันอย่างหนัก ติดหนี้คนเขาไว้ไม่น้อย หรือจะเป็นท่านที่คอยช่วยเขาใช้คืนมาโดยตลอด?”หลิ่วเฟยเยี่ยนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ก่อนหน้านี้นางก็เคยได้ยินมาบ้าง ทั้งยังแอบหัวเราะเยาะที่พี่สาวตนนับญาติกับคนพรรค์นั้นเข้าแล้ว ก็จะมีแต่ปัญหาเข้ามาไม่รู้จบกระทั่งได้ยินเรื่องนี้เข้า จึงพลันกระวนกระวายขึ้นมาหรือสกุลฝานจะได้ผลประโยชน์จากสกุลซ่งไปไม่น้อย?“ตอนนี้เจ้ายังคิดว่าพวกเขาเป็นญาติที่ดีอยู่หรื

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 176

    “พี่หญิง ข้าได้ยินว่าพี่เขยกับเซียงอ๋องมีสายสัมพันธ์อันดีต่อกันมานาน ท่านช่วยเป็นคนกลางพูดสร้างความสมานฉันท์ให้พวกเราดีหรือไม่?”ภายในสายตาหลิ่วเฟยเยี่ยนเจือความร้อนใจยิ่งยวด อีกเป้าหมายหนึ่งที่นางมาที่นี่ในวันนี้ก็คือเรื่องนี้แล้ว“พี่เขยของเจ้ากับเซียงอ๋องรู้จักกันในราชสำนักเพียงเท่านั้น มิได้พบกันเป็นการส่วนตัวมากมายอะไร” “ยิ่งไปกว่านั้น บัดนี้เขาไม่อยู่ ข้ากับเซียงอ๋องและพระชายาเซียงอ๋องก็ไม่เคยติดต่อกัน เช่นนี้แล้วจะสามารถช่วยอะไรได้?”หลิ่วหรูเยียนเผยสีหน้าเอือมระอา ท่าทีแม้มีใจแต่ก็ไร้กำลัง“พี่หญิง ท่านไม่สามารถนั่งนิ่งดูดายได้นะ ท่านเห็นฮั่นเฟยเติบโตมา หากจวนเซียงอ๋องตัดสินใจกล่าวโทษลงมา พวกเราจะแบกรับไหวได้อย่างไร?”หลิ่วเฟยเยี่ยนมีสีหน้าร้อนใจ จวนเซียงอ๋องฐานะสูงศักดิ์ ซื่อจื่อน้อยยังเป็นลูกคนเดียวของเซียงอ๋องและพระชายาเซียงอ๋องอีกด้วยคนทั้งเมืองหลวงต่างรู้กันอย่างถ้วนทั่ว เซียงอ๋องและพระชายาเซียงอ๋องรักกันหวานซึ้ง ปีนั้นเพื่อให้ได้อยู่ร่วมกับพระชายาเซียงอ๋อง เซียงอ๋องปฏิเสธสมรสพระราชทานจากอดีตฮ่องเต้ นำพาให้อดีตฮ่องเต้กริ้วหนักเซียงอ๋องกลับยึดมั่นในพระชายาเซียงอ๋

Pinakabagong kabanata

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 994

    ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซ่งรั่วเจิน ไหวพริบบ่งบอกว่ามีปัญหาซ่งรั่วเจินส่ายหน้าเบาๆ “เพียงแต่ได้ยินจงเฟยพูดเรื่องบูชาเซียนโบตั๋นจึงรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช่เซียนโบตั๋นที่หม่อมฉันรู้จักหรือไม่”นางเคยได้ยินเรื่องเซียนโบตั๋นมาก่อน เป็นสิ่งที่สตรีบูชาจริง เซียนบุปผา มีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพียงแต่ภายในนี้กลับมีเคล็ดลับบางอย่าง ทำให้คนเสพติดอย่างง่ายดาย สุดท้ายลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเป็นคนฝีมือโหดเหี้ยม ก็สามารถใช้ของสิ่งนี้แลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ น่ากลัวอย่างมากจงเฟยมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ตนเองเก็บไว้บูชาเองก็พอ ทว่านางกลับนำมามอบให้ฮองเฮา แปลกเกินไปแล้วกระมัง“พูดให้ฟังเถอะ”ฉู่จวินถิงกลับไม่รีบร้อนจากไป เอียงหูฟัง รอฟังคำพูดของว่าที่ฮูหยินอย่างอารมณ์ดีแท้จริงแล้ว ไม่ว่าเจินเอ๋อร์พูดอะไร เขาล้วนอยากฟัง“หม่อมฉันเคยเห็นเซียนโบตั๋นมาก่อน ทำให้สตรีงดงามอ่อนเยาว์ผ่านการบูชาอาหาร หากจริงใจมากเพียงพอ ยังสามารถใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาได้ ผลลัพธ์ดีมากนัก”“เพียงแต่จะทำให้สตรีลุ่มหลง กลายเป็นรีบร้อนอยากได้ผลลัพธ์ จากนั้นยากจะถอนตัวขึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 993

    วังหลังวันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮายังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลบัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 992

    “บัดนี้ข้าและองค์หญิงเพียงแต่มีปัญหากันเล็กน้อยเท่านั้น รอข้าไปอธิบายให้ชัดเจน ทั้งหมดย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสิ่นหวยอันพูดอย่างมีเหตุผล ชนิดที่ว่าหน้าตายังเผยแววลำพองใจ “เจ้าคิดดูให้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก่อเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมา ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”“ส่วนข้า ก็แค่ถูกโบย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างว่องไว หรือเจ้าไม่เข้าใจความหมายกันเล่า?”“ตกลงเจ้าจะพูดอะไร?” เสิ่นจวินเจ๋อหรี่ตาลง สังเกตเห็นปัญหาแล้ว เสิ่นหวยอันมั่นใจในตนเองเกินไป“เหตุที่องค์หญิงทำเช่นนี้ ก็เพราะหึงหวงเท่านั้น” เสิ่นหวยอันหัวเราะเบาๆ ลูบแต่งผมและพูด “องค์หญิงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อข้า เพียงแต่เห็นซ่งปี้อวิ๋นอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด เข้าใจผิดคิดว่าข้าและนางมีความสัมพันธ์กัน นี่ถึงเป็นเช่นนี้”“ระหว่างสตรีย่อมหนีไม่พ้นความหึงหวง นี่คือเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพียงแต่องค์หญิงอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง นี่ถึงโบยข้า”“หากไม่รัก นางก็คงไม่โมโหถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เสิ่นจวินเจ๋อชะงักไปในทันใด ครู่ต่อมาคิดว่าสายตาของฉู่มู่เหยาไม่น่าจะแย่ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ลองคิดดูแล้วเขาก็เริ่มไม่มั่นใจเพราะเสิ่นหวยอันมั่นใจในตน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 991

    ได้ยินคำพูดของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมความแปลกใจ มากที่สุดคือต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดตกลงเป็นเพราะอะไร?เพราะเหตุใดหลายปีมานี้ ทั้งๆ ที่นางแสดงความชอบของตนออกมาไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ทว่าญาติผู้พี่กลับหลบเลี่ยงนางมาโดยตลอด นางต้องการคำตอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับทั้งๆ ที่ดีต่อนางถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่ภายในใจมีนางมาโดยตลอด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยปากพูดเสียงขมปร่า นี่ถึงพูดความคิดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจตลอดหลายปีมานี้ออกมา...อวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินทั้งหมดนี้ สายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ ยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถึงขั้นยังมีเรื่องที่นางไม่รู้มากถึงเพียงนี้“ดังนั้น...พวกเราไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ?”อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด นี่คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้ หลายปีมานี้ญาติผู้พี่ก็ไม่เคยพูดมาก่อนอวิ๋นเฉิงเจ๋อพยักหน้า “ปีนั้นข้าถูกทิ้งไว้ที่ประตูเรือนด้านหลัง หากไม่ใช่ท่านแม่ใจดีรับเลี้ยงข้า ข้าคงตายไปตั้งนานแล้ว...”หลายปีมานี้เขาเคยคิดอยู่หลายค่ำคืน บิดามารดาแท้ๆ ของเขาเป็นใคร เหตุใดต้องทิ้งเขา บางครั้งก็เกลี้ยกล่อมตนเอง คิดถึงปัญหาเหล่านี้ไปล้วนไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status