Share

บทที่ 442

Author: จี้เวยเวย
ทันใดนั้น ซ่งจืออวี้ก็ลืมตัว ไม่สนแม้สักนิดว่าตนยังยืนอยู่นอกร้าน ปากก็กินไปพร่ำกล่าวชมไป

“น้องหญิงห้า ไก่ทอดนี่เป็นไก่ที่อร่อยที่สุดเท่าที่ข้าเคยกินมาเลย! ไยเจ้าจึงได้เฉลียวฉลาดเยี่ยงนี้ อาหารที่ทำออกมาถึงได้รสเลิศถึงเพียงนี้ได้!”

ซ่งจิ่งเซินเหลือบมองพี่สามที่กินอย่างตะกละตะกลามด้วยสายตารังเกียจ “พี่สาม ท่านกินเสียขนาดนี้ไม่กลัวแขกตกใจเอาหรืออย่างไร เข้าไปกินข้างในเถิด”

ซ่งจืออวี้เองก็รู้ตัวว่าตนมีนิสัยกินมูมมาม พอโดนซ่งจิ่งเซินพูดเช่นนี้อยากจะเถียงกลับ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าของน้องหญิงห้า เขาจึงเกิดรู้สึกกระดากใจขึ้นมาบ้าง

“ก็ได้ ข้าจะเข้าไปกินข้างใน”

แต่แล้วซ่งรั่วเจินกลับยกมือห้าม “ไม่ต้องหรอก พี่สามกินเอร็ดอร่อยถึงเพียงนี้ ผู้อื่นเห็นก็จะได้รู้ว่าอร่อยแน่ๆ พี่สามถือเป็นผู้ช่วยประชาสัมพันธ์เลยทีเดียวล่ะ”

ฟังคำแล้วซ่งจืออวี้ก็ชะงักไป ก่อนจะเพิ่งสังเกตเห็นว่ากลุ่มคนโดยรอบกำลังจ้องมองมายังเขา ในตอนนั้นก็มีคนเดินเข้ามา

“ไก่ทอดนี่ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน แต่ดูเขากินเสียเอร็ดอร่อยเชียว รสชาติเป็นต้องดีมากแน่ ข้าขอซื้อหนึ่งชุด!”

“ข้าก็ขอซื้อไปลองชิมด้วยอีกชุด!”

เมื่อผู้คนได้ซื้อไก่ทอ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1486  

    “ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่สำนักเทียนฉือขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มาตลอด บรรดาแม่ชีแต่ละคนในนั้นล้วนจิตใจดีมีเมตตา ยิ่งซือไท่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง คิดว่าไม่น่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก!” “ข้าเองก็มักจะไปที่นั่นเดือนละครั้ง บัดนี้จู่ ๆ กลับไม่ให้เข้าไปเสียอย่างนั้น จิตใจรู้สึกกระวนกระวายไม่สบายใจเอาเสียเลย” ซ่งรั่วเจินได้ฟังเสียงวิจารณ์และถกเถียงของเหล่าชาวบ้านเรื่อยมาตลอดทาง ก็สัมผัสได้ว่าพวกเขามีความประทับใจต่อสำนักเทียนฉือไม่เลวเลยทีเดียว เห็นได้ชัดเจนเลยว่าทั้งซือไท่รวมถึงแม่ชีแต่ละคน ล้วนมิใช่คนที่เป็นพิษเป็นภัยกับใครอย่างแน่นอน ฉู่จวินถิงมองเห็นความสงสัยของซ่งรั่วเจิน จึงอธิบายมา “จากข้อมูลที่ข้าให้คนไปสืบทราบมา ชาวบ้านในละแวกนี้ล้วนชื่นชมและศรัทธาในสำนักเทียนฉือทั้งสิ้น โดยเฉพาะซือไท่คนที่เพิ่งปลิดชีวิตตนเองไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่ผ่านมาคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ชาวบ้านไปไม่น้อย” “ว่ากันว่านางมีจิตใจดั่งโพธิสัตว์อย่างแท้จริง เมื่อปีที่เกิดทุพภิกขภัย สำนักเทียนฉือเคยรับเลี้ยงดูผู้ประสบภัยไว้จำนวนไม่น้อย เรื่องนี้จึงเป็นเหตุผลให้ชาวบ้านในละแวกนี้เคารพเลื่อมใสพวกเขามากเป็นพิเศ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1485  

    เซียวอ๋องเห็นฉู่จวินถิงและซ่งรั่วเจินเป็นคู่สามีภรรยาที่รักใคร่กลมเกลียว แววตาพลันฉายประกายซับซ้อนขึ้นมา เมื่อก่อนเขามิได้รู้สึกอะไร ทว่าบัดนี้เห็นฉู่อ๋องใช้ชีวิตแต่งงานมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ความรักความผูกพันที่มีให้ซ่งรั่วเจินก็มิได้จืดจาง กลับกันยังยิ่งแนบแน่นเหมือนตังเม ความรู้สึกภายในใจจึงยิ่งซับซ้อน คิดถึงตอนแรกที่ตนเองรีบร้อนแต่งงาน ในขณะที่ฉู่จวินถิงปฏิเสธการแต่งงานครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อตอนนั้นเสด็จพ่อและเสด็จแม่เอาแต่กลัดกลุ้มเป็นกังวลเรื่องการแต่งงานของฉู่จวินถิงไม่หยุด ทว่าฉู่จวินถิงกลับหมกมุ่นอยู่กับการยกทัพทำศึกท่าเดียว ตนเองยังเคยรู้สึกสะใจอยู่บ้าง คิดถึงตอนแรกที่เขารีบร้อนเข้าพิธีอภิเษก ยิ่งเห็นฉู่จวินถิงปฏิเสธการแต่งงานครั้งแล้วครั้งเล่า และเสด็จพ่อเสด็จแม่ก็ทรงกังวลเรื่องพิธีอภิเษกของเขาไม่หยุด ในขณะที่เขาเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการรบทัพจับศึก ในใจยังเคยนึกสะใจอยู่บ้าง ทว่าบัดนี้เรือนชั้นในของเขาวุ่นวายปั่นป่วนจนกลายเป็นสภาพนี้ไปแล้ว ทว่าฉู่จวินถิงในตอนนี้กลับเป็นที่ชื่นชมของทุกคนไม่ขาดปาก จริงดังคำกล่าวที่ว่าสามสิบปีแม่น้ำประจิม สามสิบปีแม่น้ำบูรพา ไม่ถึงตอนสุดท้าย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1484  

    ฉู่จวินถิงพยักหน้า “พวกข้าเองก็คิดเช่นนี้ หากแค่ศพเดียวก็ว่าไปอย่าง บางทีพวกเขาอาจจะไม่ทราบจริง ๆ ก็เป็นไปได้ แต่ศพจำนวนมากเพียงนั้น มิหนำซ้ำปีที่ฝังศพยังต่างกันอีก เห็นได้ชัดว่าไม่ปกติ” “พวกข้าจับตัวซือไท่ที่เป็นผู้นำมาสอบสวน กลับคิดไม่ถึงว่านางจะปลิดชีวิตตนเองก่อนที่พวกข้าจะไปถึง” “แม่ชีคนอื่นหลังจากรู้ว่าซือไท่ปลิดชีวิตตนเองไปแล้ว ก็เหมือนสะเทือนใจอย่างรุนแรง ซือไท่อาวุโสที่บำเพ็ญมานานอีกสองรูปก็ปลิดชีพตนเองไปในคืนเดียวกัน ส่วนคนที่เหลือก็นิ่งเงียบไม่ยอมตอบอะไร” “หลังจากพวกข้าได้หารือกับเสนาบดีศาลต้าหลี่แล้ว ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้จะห้ามใช้แรงกดดันมากเกินไปเด็ดขาด เพื่อเลี่ยงมิให้มีแม่ชีคนใดปลิดชีวิตตนเองอีก” “เพียงแต่ จนถึงตอนนี้ เรื่องนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใด และไม่มีข้อมูลใด ๆ ที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมออกมาด้วย” ซ่งรั่วเจินได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ก็รู้สึกว่ามีลับลมคมในอยู่ทุกจุด “เรื่องนี้ฟังดูแล้วประหลาดยิ่งนัก ว่าตามเหตุผลแล้ว สถานที่บริสุทธิ์อย่างสำนักชีไม่สมควรมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง แต่กลับมีศพของเด็กทารกจำนวนมากถึงเพียงนี้อยู่ด้วยกัน ต

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1483  

    ฉู่จวินถิงดูแลชายแดนมาหลายปี เคยเห็นชาวบ้านที่พลัดถิ่นไร้ที่อยู่มาแล้วนับไม่ถ้วน เพื่อความอยู่รอด ผู้คนมากมายสูญสิ้นศีลธรรมกันไปนานแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรล้วนทำออกมาได้ทั้งสิ้น สวีเหวินเฉิงคนพรรค์นี้ เพราะชีวิตตนเองลำบาก จึงพาลอิจฉาทุกคนที่มีชีวิตสุขสบายกว่าเขา นิสัยเช่นนี้ มองไปอาจดูเกินจริง แต่เอาเข้าจริงแล้วก็มีให้พบบ่อยครั้งนัก ใต้หล้านี้มีคนใจแคบอยู่มาก มิใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำใจยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างของตนเองได้อย่างสงบเยือกเย็น คำว่าพอใจในสิ่งที่ตนเองมี คนที่สามารถทำได้ถึงจุดนี้จริง ๆ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เสียดายก็แต่จวนจิ้งเป่ยโหวมองธาตุแท้ของสวีเหวินเฉิงคนนี้ไม่ออก ถึงได้เกือบโดนเขาทำร้าย“บุญคุณความแค้นของพวกผู้ใหญ่สามารถฝังรากลึกเข้าไปในใจของเขาได้ ในขณะที่เขายังเยาว์วัย เกรงว่ามิใช่เพียงความใจแคบของเขา แต่เป็นเพราะได้รับอิทธิพลมาตลอดทุกช่วงการเติบโต” ซ่งรั่วเจินมองไปยังฮูหยินผู้เฒ่าท่านโหวที่อยู่ไม่ไกล เกรงว่ามิเพียงสวีเหวินเฉิงที่โกรธแค้นนาง แต่พี่หญิงท่านนั้นของนางก็คงจะอิจฉานาง และไม่พอใจนางเช่นกัน หยางอ๋องชะงักไปในทีแรก จากนั้นก็เข้าใจความหมายของนาง แววตาเต็มไป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1482  

    ฮูหยินผู้เฒ่าท่านโหวตัวสั่นเล็กน้อย ความจริงไม่อยากเชื่อเลยว่าความหวังดีของตนเองในตอนแรกจะถูกบิดเบือนจนกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ “ตอนแรกที่ข้าเกลี้ยกล่อมพี่หญิงไปเช่นนั้น ก็เป็นเพราะตัวเจ้ายังเยาว์วัยนัก และในครรภ์ของนางยังมีทารกอีกคน” “หากหย่ากันจริง เด็กก็ต้องถูกทิ้งให้อยู่กับฝ่ายชาย ความจริงพี่หญิงเองก็อาวรณ์พวกเจ้า ฉะนั้นข้าถึงได้เกลี้ยกล่อมนางว่าหากมิใช่เพราะมีปัญหาที่ความประพฤติ ก็ยังพอฝืนอยู่ต่อได้ ไม่จำเป็นต้องให้เรื่องมันบานปลายถึงขั้นหย่าร้าง!”“หลายปีมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างบิดาและมารดาของเจ้าก็มิได้มีปัญหานัก แต่เป็นเพราะครอบครัวตกต่ำขาดแคลนเงินทอง ทางข้าเองก็ช่วยเหลือจุนเจืออยู่ตลอด เพื่อให้พวกเจ้าได้มีชีวิตที่ดีขึ้นมาสักหน่อย” “พี่หญิงบอกว่าเจ้าจะเข้าเมืองหลวงมาเข้าร่วมการสอบเคอจวี่ ข้าก็ให้เจ้ามาพำนักที่จวน ช่วยเจ้าเตรียมตัวในเรื่องต่าง ๆ มิหนำซ้ำยังเชิญท่านอาจารย์ผู้มีฝีมือมาชี้แนะวิชาให้เจ้าด้วย เหตุใดเจ้าจึงไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ถึงเพียงนี้!” ทว่า แม้เผชิญหน้ากับถ้อยคำอธิบายของฮูหยินผู้เฒ่าท่านโหว สวีเหวินเฉิงกลับไม่เชื่อแท้แต่น้อย “เจ้าเลิกแสร้งทำตัวเป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1481  

    “เจ้าไม่เคยทำอะไรสักอย่าง แล้วยังจะกล้าพูดออกมาอีกว่าจะสืบทอดทรัพย์สินสมบัติทั้งหมดของจวนโหวพวกข้า?” ฮูหยินผู้เฒ่าท่านโหวโกรธจนตัวสั่น “แต่ไหนแต่ไรมา ข้าล้วนคิดว่าเจ้าคือเด็กกตัญญูคนหนึ่ง ไหนเลยจะคิดว่าเจ้าจะมีนิสัยโฉดชั่วเหมือนหมาป่าเยี่ยงนี้!”“ข้าก็แค่พูดอวดไปเท่านั้น!” สวีเหวินเฉิงรวบรวมสติ รีบอธิบายทันที “ท่านน้า ความจริงช่วงนี้ข้าถูกแม่นางคนหนึ่งทำให้หลงหัวปักหัวปำ ข้าเพียงกลัวว่าหากนางรู้ว่าข้ามีชาติกำเนิดในครอบครัวธรรมดาแล้วนางจะทิ้งข้า ถึงได้จงใจปั้นเรื่องขึ้นมาเป็นข้ออ้าง” “คำพูดพวกนี้ก็แค่คำพูดสวยหรู พูดให้ฟังมีอรรถรส เหตุใดพวกท่านจึงเข้าใจข้าผิดไปได้ถึงเพียงนี้?” ได้ยินเช่นนั้น โหวผู้เฒ่ากลับดึงสีหน้า เอ่ยอย่างเยือกเย็นว่า “เจ้าลองมองซากศพร่างนี้ให้ดี เจ้าพอจะคุ้นตาบ้างหรือไม่?”“ศพอะไร?” เสี้ยวพริบตาที่สวีเหวินเฉิงมองเห็นซากศพที่ห่างออกไปไม่ไกล แววตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกรุนแรง เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร? ตอนแรกเขาจัดการเรื่องอย่างมิดชิดเป็นความลับ ว่าตามเหตุผลแล้วไม่ว่าอย่างไรก็ไม่น่าจะถูกพบเจอ อีกอย่างนักพรตเต๋าเฒ่าคนนั้นยังบอกชัดเจนว่า วิธีนี้ล้ำลึกแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status