แชร์

บทที่ 623

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
รุ่งเช้าวันถัดมา

ลั่วชิงอินยกน้ำชาคำนับแม่สามี ใบหน้างามประดับด้วยความเขินอาย กล่าวด้วยเสียงอ่อนน้อม “ขอท่านแม่โปรดรับชาเจ้าค่ะ”

หลิ่วหรูเยียนมองดูซ่งเยี่ยนโจวคู่สามีภรรยาที่กลมเกลียวกัน บนใบหน้าก็ผุดรอยยิ้มอย่างยากจะปิดบัง นางยกชาขึ้นดื่มด้วยรอยยิ้มระรื่น

“ดี ดียิ่ง ต่อไปพวกเจ้าต้องอยู่กันให้ปรองดอง สามีภรรยาจับมือร่วมทาง ข้าก็วางใจแล้ว”

“สะใภ้ขอบคุณท่านแม่สามีที่ชี้แนะเจ้าค่ะ” ลั่วชิงอินตอบรับอย่างเชื่อฟัง

ซ่งรั่วเจินและพี่น้องทั้งหลายที่ยืนอยู่ด้านข้างเมื่อเห็นภาพพี่ใหญ่และพี่สะใภ้หวานชื่นรื่นรมย์ ก็อดลอบขำไม่ได้ ท่าทีหวานซึ้งเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าการปรากฏตัวของฝานซืออิ๋งไม่ได้มีผลกระทบใดๆ

“ท่านแม่ ลูกได้ยินมาว่าหลังจากส่งแขกเมื่อคืน พวกท่านก็ออกไปข้างนอกด้วย มีเรื่องใดเกิดขึ้นงั้นหรือ?”

ซ่งเยี่ยนโจวเพิ่งทราบข่าวเมื่อเช้าวันนี้เอง รู้เพียงว่าคนในครอบครัวไปสกุลกู้กันมา แต่กลับไม่รู้รายละเอียดใด

ใบหน้าของหลิ่วหรูเยียนฉายความกังวลอยู่บ้าง คราวนี้นางก็ไม่ได้ปิดบังอะไร และเล่าความเป็นมาทุกอย่างออกไป

“น้องรองของเจ้าไปเข้าเฝ้าแล้ว มีแต่ต้องรอให้เขากลับมาก่อนจึงจะรู้ผล”

วันวิวาห์ขอ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 624

    จ้าวจือเต๋อก็เห็นพ้องกัน “ฝ่าบาท เรื่องนี้ล้วนเป็นกลอุบายที่สกุลหลิ่วเป็นผู้วาง ราชครูกู้เป็นผู้บริสุทธิ์จริง อีกทั้งบุตรสาวราชครูกู้ก็ยังเป็นฮูหยินของแม่ทัพซ่ง หลายปีมานี้ทนทุกข์ในสกุลหลิ่วมาก็ไม่น้อย ไม่ง่ายเลยจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”เดิมทีกู้หวยซวี่ก็เป็นขุนนางผู้เป็นเสาหลัก ฮ่องเต้เดิมก็ไม่ได้ต้องการให้เขาลาออก ถ้อยคำของฉู่จวินถิงก็ตรงพระทัยเข้าพอดี จึงกล่าว“ราชครูกู้ เราว่าข้อเสนอของฉู่อ๋องนั้นดีทีเดียว บัดนี้อุทกภัยในเจียงหนานรุนแรง ประชาชนพลัดถิ่นไร้ที่อาศัย”“เงินบรรเทาภัยพิบัติได้ส่งไปแล้ว ทว่าปัญหาของผู้ประสบภัยยังไม่บรรเทา กลับกันผู้ลี้ภัยยิ่งเพิ่มมากขึ้น ครานี้ให้เจ้าและฉู่อ๋องเร่งรุดไปจัดการอุทกภัยที่เจียงหนานด้วยกันก็แล้วกัน” กู้หวยซวี่รู้ดีว่าฉู่จวินถิงกำลังช่วยเขา จึงรีบกล่าว “ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอบพระทัยท่านอ๋องที่เมตตาพ่ะย่ะค่ะ”จ้าวจือเต๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พลอยโล่งใจไปด้วยเปลาะหนึ่ง ก่อนเอ่ยถาม “ฝ่าบาท เช่นนั้นตระกูลใต้เท้าหลิ่วจะจัดการเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ?” “ปลดตำแหน่งขุนนางเขาเสีย!” ฮ่องเต้กล่าวเสียงแข็ง “ส่วนกู้อวิ๋นเวย ประหารชีวิต!”“กระหม่อมรับบัญชา”ได้รับผลลัพธ์เช

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 625

    เมื่อฉู่จวินถิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในท้องพระโรงและห้องทรงพระอักษรในวันนี้ออกมาแล้ว คนสกุลซ่งก็ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก“สร้างคุณูปการชดเชยความผิด ถือว่าไร้ปัญหา สกุลหลิ่วและกู้อวิ๋นเวยล้วนได้รับบทลงโทษ นับว่าเยี่ยมทีเดียว” ซ่งเยี่ยนโจวยิ้มพลางกล่าวทุกคนพยักหน้าตามๆ กัน นึกถึงท่าทางยามปกติของคนสกุลหลิ่ว โดยเฉพาะนายท่านหลิ่วที่หมกมุ่นอยู่กับตำแหน่งขุนนาง ทว่าน่าเสียดายที่ตนเองความสามารถไม่พอ หลายปีมานี้จึงไม่เคยได้เลื่อนตำแหน่งเมื่อครั้งซ่งหลินยังอยู่ นายท่านหลิ่วก็มักจะขอให้เขาช่วยเหลือ ซ่งหลินก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือ ทว่าช่วยไม่ได้ที่นายท่านหลิ่วเดิมก็ขุนไม่ขึ้นอยู่แล้ว ลำพังรักษาตำแหน่งเดิมเอาไว้ก็ไม่ง่ายแล้วบัดนี้ถูกปลดจากตำแหน่งขุนนาง ทั้งยังไม่มีความช่วยเหลือจากสกุลซ่งอีกแล้ว อนาคตของสกุลหลิ่วก็เดาได้ไม่ยากแล้วนึกถึงสิ่งที่สกุลหลิ่วกระทำตลอดหลายปีมานี้ มีจุดจบระดับนี้เดิมทีก็เพราะหาเรื่องใส่ตัว ส่วนกู้อวิ๋นเวยที่กล้าขโมยป้ายทองละเว้นโทษตาย แต่เดิมก็เป็นหนทางตายอยู่แล้ว“ขอบพระทัยท่านอ๋องที่แจ้งข่าวนี้แก่พวกเราเพคะ”สีหน้าหลิ่วหรูเยียนประดับยิ้ม แม้ฉู่จวินถิงจะไม่ไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 626

    นางรออยู่ทั้งวัน ก็ไม่เห็นสามีของนางมาช่วยนางเดิมสามีก็เบื่อหน่ายนางเต็มทีอยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่านางมีสกุลหลิ่วกับสกุลซ่งหนุนหลัง จึงครองตำแหน่งซุนฮูหยินอย่างมั่นคงแต่บัดนี้สกุลซ่งสิ้นหวังแล้ว หากสกุลหลิ่วยังจบสิ้นไปอีก แล้วต่อไปนางอยู่บ้านสกุลซุนจะมีความหวังใดหลงเหลือ?นายท่านหลิ่วหน้าตาขมึงทึง ใบหน้าเหี่ยวย่นนั้นเต็มไปด้วยความเสียใจและโกรธแค้น ยิ่งได้ฟังคำพูดจากหลิ่วเฟยเยี่ยน พลันยิ่งบันดาลโทสะมากขึ้นอีก“เพียะ!”นายท่านหลิ่วฟาดฝ่ามือออกไป“ล้วนเป็นเพราะความคิดโง่ๆ ของเจ้า! ถ้าเมื่อวานไม่ไปอาละวาดที่บ้านสกุลซ่ง วันนี้คงไม่เกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ เจ้าพอใจแล้วสินะ?”หลิ่วเฟยเยี่ยนถูกตบจนเกือบหน้ามืด กล่าวด้วยความน้อยใจ “จะมาโทษข้าได้อย่างไรเจ้าคะ เป็นเพราะพี่หญิงมาหาข้า สั่งให้ข้าทำเช่นนี้ต่างหาก”นายหญิงหลิ่วนึกถึงกู้อวิ๋นเวยขึ้นมา จึงรีบกล่าว “ใช่แล้ว ยังมีอวิ๋นเวยอีกคน!แม้ว่าสกุลกู้กับอวิ๋นเวยจะตัดความสัมพันธ์มานานปี แต่หลายปีนี้หากอวิ๋นเวยเกิดเรื่องใด สกุลกู้ก็ไม่เคยนิ่งดูดายแม้ตอนนี้พวกเขาต่างก็รู้ว่าอวิ๋นเฟยไม่ใช่สายเลือดที่แท้จริง แต่ความผูกพันมานานปีใช่ว่าจะขาดกั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 627

    “บ้าจริง เมื่อไหร่จะยอมปล่อยข้าออกไปเสียที!”หลิ่วอวิ๋นเวยเอาเท้าเตะซี่กรงห้องขัง รู้สึกเพียงปลายเท้าตนเองเจ็บจี๊ดขึ้นมาจึงรีบกุมไว้ รู้สึกเจ็บจนพูดไม่ออกครั้นเมื่อนายท่านหลิ่วกับพวกมาถึงและเห็นเหตุการณ์นี้เข้า เดิมทีที่ยังคาดหวังให้หลิ่วอวิ๋นเวยจะช่วยเหลือให้พวกเขาพ้นภัย ที่ไหนได้สภาพของนางย่ำแย่กว่าพวกเขาเสียอีก“อวิ๋นเวย อยู่ดีๆ เจ้าไปขโมยป้ายทองละเว้นโทษตายทำไมกัน เพื่อจะช่วยพวกเราอย่างนั้นรึ?”นายท่านหลิ่วสีหน้ามึนงง คิดไปคิดมาเหตุผลนี้น่าจะพอฟังขึ้น จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวต่อ “ทำไมเจ้าจึงโง่เช่นนี้ ที่เราได้รับเพียงแค่โทษเล็กน้อย ไม่ต้องใช้ถึงป้ายทองหรอกตอนนี้เจ้ากลับเอาตัวเข้าแลกเพียงเพราะเรื่องนี้ ช่างโง่เขลายิ่งนัก!”หลิ่วอวิ๋นเวยเห็นคนสกุลหลิ่วต่างมากันพร้อมหน้า พลันนึกถึงคำพูดราชครูกู้เมื่อวานนี้ จึงกล่าวด้วยความขุ่นเคือง “พวกท่านเปิดโปงชาติกำเนิดของข้าใช่หรือไม่?เดิมทีข้าขโมยป้ายทองก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่เพราะพวกท่าน เอาชาติกำเนิดของข้าไปเที่ยวโพนทะนา พ่อข้าจึงได้ใจร้ายเช่นนี้”คนสกุลหลิ่วฟังแล้วก็รู้สึกเสียใจ ซ้ำยังรู้สึกผิดต่อนาง“อวิ๋นเวย ฟังเจ้าแม่พูดนะ ข้อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 628

    ฉู่จวินถิงเลิกคิ้วขึ้น “ได้ ข้าจะไปกับเจ้า”เมื่อมองชายหนุ่มข้างกาย ซ่งรั่วเจินก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ทั้งสองเดินไปตามถนนเมืองหลวงด้วยกัน“หญิงสาวยังชอบเครื่องประดับที่สุดอยู่ดี พวกเราไปดูร้านเครื่องประดับกันดีหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินคิ้วตาอมยิ้ม โดยรวมสิ่งของพื้นฐานที่หญิงสาวชอบก็ไม่ต่างกันมาก ของประเภทเครื่องประดับมีเยอะเท่าไรก็ไม่พอฉู่จวินถิงเห็นว่ายามที่ตนเองเอื้อนเอ่ย นัยน์ตาใสฉ่ำก็โค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว คล้ายกับพูดคุยได้ เขาจ้องนางด้วยท่าทางสนอกสนใจ รู้สึกเพียงว่าคล้ายกับถูกมอมเมาไม่ว่านางจะพูดอะไร เขาก็อยากบอกว่าดีอวิ๋นหยางมองท่านอ๋องของตัวเองที่ปกติมีนิสัยเยือกเย็นอยู่เสมอ บัดนี้ประเดี๋ยวก็เอาแต่ยิ้ม ในใจก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ“หลังจากที่ท่านอ๋องได้พบคุณหนูซ่ง ก็ไม่เหมือนเดิมโดยสิ้นเชิง”เฉินเซียงยิ้มด้วยใบหน้ายินดี แล้วอดไม่ได้ที่จะพูด “เจ้าก็คิดว่าท่านอ๋องกับคุณหนูของพวกข้าเหมาะสมกันใช่หรือไม่?”อวิ๋นหยางปรายตามองเฉินเซียง พร้อมพยักหน้า “เหมาะสมจริงๆ!”ทั้งสองเดินอยู่ด้านหลังอย่างรู้ใจกัน เว้นระยะห่างจากเจ้านายตัวเองเล็กน้อย มองดูคู่กิ่งทองใบหยกตรงหน้า ในใจรู้สึก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 629

    เมื่อได้ปิ่นมุกมา ซ่งรั่วเจินก็เหลือบมองฉู่จวินถิง “พวกเราไปที่ร้านลั่วเสินอีกดีหรือไม่เพคะ? หม่อมฉันอยากสั่งทำชุดกระโปรงชุดหนึ่งให้องค์หญิงหก เข้าคู่กับปิ่นมุกพอดี”“เจ้าอยากไปไหนล้วนได้ทั้งหมด” ฉู่จวินถิงอมยิ้ม “หากมู่เหยารู้ว่าเจ้าใส่ใจกับวันเกิดของนางเช่นนี้ จะต้องดีใจมากเป็นแน่”ซ่งรั่วเจินเดินออกไปด้านนอก สายตาก็มองไปที่ชั้นวางที่วางผ้าคาดผมสีแดงก่อนหน้านี้โดยไม่รู้ตัว แต่กลับพบว่าผ้าคาดผมที่เคยวางอยู่ตรงนั้นได้หายไปแล้วนัยน์ตาใสฉายแววผิดหวัง เมื่อครู่นางยังคิดอยู่ว่าผ้าคาดผมนี่สวยมากอยู่เลย มิฉะนั้นคงจะซื้อไปด้วยกันแล้วนึกไม่ถึงว่าเวลาเพียงชั่วครู่ ผ้าคาดผมจะถูกคนซื้อไปแล้วร้านลั่วเสินนี่เป็นร้านเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ซ่งรั่วเจินเปิดก่อนหน้านี้ไม่นานไม่เหมือนกับร้านเสื้อผ้าร้านอื่น ร้านลั่วเสินจะขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งหมดเป็นหลักนางคิดว่าอาภรณ์ของยุคโบราณนั้นงดงาม แม้รูปแบบจะซับซ้อน แต่กลับงดงามอย่างประณีต ทว่าด้านจับคู่สีดูขาดหายไปเล็กน้อย จิตวิญญาณก็ขาดไปสักหน่อยเช่นกันด้วยเหตุนี้ นางจึงออกแบบรูปแบบบางอย่าง จ้างช่างปักฝีมือดีกลับมาส่วนหนึ่ง เพิ่งจะเริ่มทำเสื้อผ้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 630

    งานเลี้ยงวันเกิดของฉู่มู่เหยาใกล้จะถึงแล้ว จะต้องรีบจัดเตรียมงานโดยเร็วฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจินภาพวาดเป็นครั้งแรก พบว่าวิธีการวาดภาพของนางไม่เหมือนกับที่เห็นตามปกติทั่วไปแค่นางตวัดปลายพู่กันอย่างสบายเพียงไม่กี่ครั้งก็ปรากฏเรือนร่างอรชรของหญิงสาวได้ กระนั้นยังวาดรายละเอียดอันวิจิตของกระโปรงออกมาได้อีกทุกจุดออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทั้งความยาว ความกว้าง แม้กระทั่งวัสดุที่เลือกใช้ก็เขียนไว้ด้านข้างอย่างชัดเจน ทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเสื้อผ้าของลั่วเซินฟางจึงมีเอกลักษณ์มากเมื่อก่อนรู้แค่ว่านางเก่งเรื่องศาสตร์ลี้ลับ และยังรู้จักทำการค้า ร้านที่นางเปิดกิจการก็เป็นไปได้ดี แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วนางยังมีพรสวรรค์เพียงนี้หญิงสาวเช่นนี้...เมื่อก่อนในเมืองหลวงต้องได้รับฉายาว่าเป็นกุลสตรีตระกูลใหญ่เท่านั้น ช่างเป็นสตรีที่มีพรสวรรค์ที่หาได้ยากเสียจริงหวนนึกถึงชาติที่แล้วเห็นเพียงแค่ซ่งรั่วเจินผู้เศร้าโศก ต่างจากคนตรงหน้านี้...อุปนิสัยช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงซ่งรั่วเจินเลือกผ้าด้วยตนเอง และหารือกับช่างเย็บปักเกี่ยวกับแบบลวดลายปัก แล้วจึงเดินไปด้านหน้าฉู่จวินถิงชายหนุ่มยืนรอนางอยู่ต

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 631

    “ข้ารู้สึกว่าอวิ๋นฮูหยินปฏิบัติต่ออวิ๋นเฉิงเจ๋อดียิ่งนัก ไม่ใช่ลูกในไส้ของนางสักหน่อย หรือเป็นลูกชายในไส้จริงๆ?”เพียงแต่หากเป็นเช่นนี้ แม้อวิ๋นเฉิงเจ๋อไม่ต้องตบแต่งกับอวิ๋นซีหว่าน แต่มิใช่ทำให้อวิ๋นเนี่ยนชูเสียเวลาหรอกหรือ? หากไม่มีตระกูลอวิ๋นและตระกูลจาง นางก็เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง เกรงว่าจะแต่งเข้าตระกูลดีๆไม่ได้”ทุกคนต่างจุ๊ปากสะท้อนใจ เรื่องนี้อวิ๋นฮูหยินช่างไร้คุณธรรมยิ่งนัก แต่การที่อวิ๋นฮูหยินกระทำเช่นนี้ เรียกได้ว่าทำร้ายคนอื่นก็ทำร้ายถูกตัวเองด้วยในสายตาของหลายคนคือ ได้ไม่คุ้มเสียเพราะหลังจากหย่าร้างก็มิใช่ภรรยาของข้าราชการแล้ว ทั้งไม่มีความช่วยเหลือจากครอบครัวมารดาอีก นางก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว“มารดาของเจ้าปกป้องแต่ญาติผู้พี่ของเจ้าเท่านั้น และไม่คำนึกถึงเจ้าเลยแม้แต่น้อย ได้ยินมาว่าเพราะนางไม่มีลูกชาย จึงเลี้ยงญาติผู้พี่ของเจ้าดั่งลูกชายแท้ๆ?”อู๋เมี่ยวเสวียนหัวเราะเยาะ “ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่ามาชิงกับข้า มันไม่เป็นผลดีกับเจ้าหรอก”“นี่เป็นเรื่องของครอบครัวข้า เจ้าไม่มีสิทธิที่จะเอามาพูด วันนี้เจ้าอย่าคิดจะชิงกับข้า!”“ท่านอ๋อง เนี่ยนชูเพคะ”ซ่งรั่วเจินอยู่ข

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 994

    ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซ่งรั่วเจิน ไหวพริบบ่งบอกว่ามีปัญหาซ่งรั่วเจินส่ายหน้าเบาๆ “เพียงแต่ได้ยินจงเฟยพูดเรื่องบูชาเซียนโบตั๋นจึงรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช่เซียนโบตั๋นที่หม่อมฉันรู้จักหรือไม่”นางเคยได้ยินเรื่องเซียนโบตั๋นมาก่อน เป็นสิ่งที่สตรีบูชาจริง เซียนบุปผา มีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพียงแต่ภายในนี้กลับมีเคล็ดลับบางอย่าง ทำให้คนเสพติดอย่างง่ายดาย สุดท้ายลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเป็นคนฝีมือโหดเหี้ยม ก็สามารถใช้ของสิ่งนี้แลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ น่ากลัวอย่างมากจงเฟยมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ตนเองเก็บไว้บูชาเองก็พอ ทว่านางกลับนำมามอบให้ฮองเฮา แปลกเกินไปแล้วกระมัง“พูดให้ฟังเถอะ”ฉู่จวินถิงกลับไม่รีบร้อนจากไป เอียงหูฟัง รอฟังคำพูดของว่าที่ฮูหยินอย่างอารมณ์ดีแท้จริงแล้ว ไม่ว่าเจินเอ๋อร์พูดอะไร เขาล้วนอยากฟัง“หม่อมฉันเคยเห็นเซียนโบตั๋นมาก่อน ทำให้สตรีงดงามอ่อนเยาว์ผ่านการบูชาอาหาร หากจริงใจมากเพียงพอ ยังสามารถใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาได้ ผลลัพธ์ดีมากนัก”“เพียงแต่จะทำให้สตรีลุ่มหลง กลายเป็นรีบร้อนอยากได้ผลลัพธ์ จากนั้นยากจะถอนตัวขึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 993

    วังหลังวันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮายังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลบัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 992

    “บัดนี้ข้าและองค์หญิงเพียงแต่มีปัญหากันเล็กน้อยเท่านั้น รอข้าไปอธิบายให้ชัดเจน ทั้งหมดย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสิ่นหวยอันพูดอย่างมีเหตุผล ชนิดที่ว่าหน้าตายังเผยแววลำพองใจ “เจ้าคิดดูให้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก่อเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมา ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”“ส่วนข้า ก็แค่ถูกโบย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างว่องไว หรือเจ้าไม่เข้าใจความหมายกันเล่า?”“ตกลงเจ้าจะพูดอะไร?” เสิ่นจวินเจ๋อหรี่ตาลง สังเกตเห็นปัญหาแล้ว เสิ่นหวยอันมั่นใจในตนเองเกินไป“เหตุที่องค์หญิงทำเช่นนี้ ก็เพราะหึงหวงเท่านั้น” เสิ่นหวยอันหัวเราะเบาๆ ลูบแต่งผมและพูด “องค์หญิงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อข้า เพียงแต่เห็นซ่งปี้อวิ๋นอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด เข้าใจผิดคิดว่าข้าและนางมีความสัมพันธ์กัน นี่ถึงเป็นเช่นนี้”“ระหว่างสตรีย่อมหนีไม่พ้นความหึงหวง นี่คือเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพียงแต่องค์หญิงอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง นี่ถึงโบยข้า”“หากไม่รัก นางก็คงไม่โมโหถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เสิ่นจวินเจ๋อชะงักไปในทันใด ครู่ต่อมาคิดว่าสายตาของฉู่มู่เหยาไม่น่าจะแย่ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ลองคิดดูแล้วเขาก็เริ่มไม่มั่นใจเพราะเสิ่นหวยอันมั่นใจในตน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 991

    ได้ยินคำพูดของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมความแปลกใจ มากที่สุดคือต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดตกลงเป็นเพราะอะไร?เพราะเหตุใดหลายปีมานี้ ทั้งๆ ที่นางแสดงความชอบของตนออกมาไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ทว่าญาติผู้พี่กลับหลบเลี่ยงนางมาโดยตลอด นางต้องการคำตอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับทั้งๆ ที่ดีต่อนางถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่ภายในใจมีนางมาโดยตลอด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยปากพูดเสียงขมปร่า นี่ถึงพูดความคิดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจตลอดหลายปีมานี้ออกมา...อวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินทั้งหมดนี้ สายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ ยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถึงขั้นยังมีเรื่องที่นางไม่รู้มากถึงเพียงนี้“ดังนั้น...พวกเราไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ?”อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด นี่คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้ หลายปีมานี้ญาติผู้พี่ก็ไม่เคยพูดมาก่อนอวิ๋นเฉิงเจ๋อพยักหน้า “ปีนั้นข้าถูกทิ้งไว้ที่ประตูเรือนด้านหลัง หากไม่ใช่ท่านแม่ใจดีรับเลี้ยงข้า ข้าคงตายไปตั้งนานแล้ว...”หลายปีมานี้เขาเคยคิดอยู่หลายค่ำคืน บิดามารดาแท้ๆ ของเขาเป็นใคร เหตุใดต้องทิ้งเขา บางครั้งก็เกลี้ยกล่อมตนเอง คิดถึงปัญหาเหล่านี้ไปล้วนไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status