แชร์

บทที่ 743

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“อะไรนะ? จงใจทำอย่างนั้นหรือ?”

กู้ฮวนเอ๋อร์มีสีหน้าตกตะลึง ดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ "ญาติผู้พี่ ท่านไปรู้อะไรมาใช่หรือไม่? "

เพราะตื่นเต้นเกินไป เสียงของกู้ฮวนเอ๋อร์จึงดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในชั่วพริบตา สายตาของทุกคนที่กำลังรับประทานอาหารต่างหันมาจับจ้องที่นาง

“ขอโทษเจ้าค่ะ ข้า ข้าตื่นเต้นเกินไป”

กู้ฮวนเอ๋อร์มีสีหน้ากระอักกระอ่วน รีบโบกไม้โบกมือ ทว่ากู้ชิงเหยี่ยนและกู้ชิงซิวที่อยู่ข้างๆ ได้ยินอะไรบางอย่าง ทั้งสองจึงสบตากัน สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นกว่าเดิม

หลังจากมื้อเย็นผ่านพ้นไป ซ่งรั่วเจินก็ถูกท่านตาและท่านลุงทั้งสองเรียกเข้าไปในห้องหนังสือตามคาด

กู้ฮวนเอ๋อร์เห็นดังนั้นก็อยากตามเข้าไปด้วย ทว่ากลับถูกไล่ออกมาอย่างไม่ลังเล “เจ้าไปเรียกเยี่ยนโจวกับอี้อันญาติผู้พี่ของเจ้ามาเสีย”

กู้ฮวนเอ๋อร์ “…”

ไม่นานนัก ซ่งเยี่ยนโจวกับซ่งอี้อันก็มาถึงพร้อมกับกู้ชิงฉือ

เมื่อทั้งสามถูกเรียกตัวมา ก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้ว?

“รั่วเจิน เจ้าสงสัยว่าหลิ่วอวิ๋นเวยไม่ได้ถูกไฟคลอกตายใช่หรือไม่ แต่ถูกคนช่วยเหลือไว้?” กู้ชิงซิวตรงเข้าประเด็น

เมื่อคำพูดนี้ถูกเอ่ยออกมา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 744

    “ท่านพ่อ ชิงเจ๋อเป็นพี่น้องที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เดิมทีข้าไม่ควรพูดเช่นนี้ออกมา ทว่ายามนี้สิ่งที่เขาทำล้วนไม่ได้นึกถึงพวกเราเลย”“เดิมทีกู้อวิ๋นเวยก็ไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องที่นางแหกคุก ไม่รู้ว่าสกุลหลิ่วมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ หากนางต้องซ่อนตัวก็ควรไปซ่อนที่สกุลหลิ่ว ทว่านางกลับไม่ได้ไป”“ชิงเจ๋อรู้มานานแล้วว่านางไม่ใช่น้องสาวของพวกเรา ทว่ากลับยังคงดื้อรั้นไม่ฟังผู้ใด”“แม้ว่าเราจะไม่คิดถึงตนเอง ก็ควรต้องคำนึงถึงบุตรหลานของสกุลบ้าง หากถูกพิพากษาว่ามีความผิด ทั้งสกุลจะพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย" กู้ชิงเหยี่ยนกล่าวเสียงหนักแน่นกู้ชิงซิวกำหมัดแน่น ในใจทั้งโกรธทั้งเสียใจ สุดท้ายแล้วพวกเขาคิดง่ายเกินไป!เดิมทีคิดว่าแค่ขับไล่กู้ชิงเจ๋อออกไป สักวันหนึ่งเขาก็จะคิดได้เอง ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะยิ่งเดินยิ่งผิด จนถึงยามนี้ก็ยังไม่สำนึก ก่อหายนะใหญ่หลวง จนพวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะหยุดยั้ง"ท่านพ่อ บัดนี้เราทำได้เพียงตัดแขนเพื่อรักษาชีวิต หยุดการกระทำที่ผิดพลาด ฉวยโอกาสก่อนที่เรื่องจะแดงจัดการปัญหาทั้งหมดเสีย”“มีเพียงหนทางนี้เท่านั้น ที่จะรักษาสกุลของเราไว้ได้! "

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 745

    เมื่อหวังซื่อเห็นกู้ชิงเจ๋อมีท่าทางเช่นนี้ เพียงรู้สึกผิดหวังอย่างถึงที่สุดพวกเขาแต่งงานกันมาเป็นเวลากว่ายี่สิบปี นางให้กำเนิดบุตรให้เขาและดูแลทุกอย่างในจวน ทว่าสุดท้ายกลับไม่สำคัญเท่ากับคำพูดเพียงประโยคเดียวของหลิ่วอวิ๋นเวยเพียงกลัวว่าหากยามนี้นางประกาศว่าจะไปแจ้งทางการ กู้ชิงเจ๋ออาจจะสังหารนางเพื่อหลิ่วอวิ๋นเวยจริงๆ! ช่างน่าขันอะไรเช่นนี้?“ข้าจะไม่พูด” หวังซื่อเอ่ยปากช้าๆ “แม้ว่าพวกท่านจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ข้าและลูกๆ ยังอยากมีชีวิตอยู่”กู้ชิงเจ๋อได้ยินคำพูดนี้จึงขมวดคิ้วมุ่น เพียงรู้สึกว่าหวังซื่อดูแปลกไปเล็กน้อย ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา จึงกล่าวว่า“เจ้าจงอย่าปล่อยให้ข่าวนี้หลุดออกไป ยามนี้สถานการณ์ของอวิ๋นเวยสุ่มเสี่ยงมากพอแล้ว รอข้าหาจังหวะส่งนางออกจากเมืองหลวงได้ก็พอ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้หรอก”หวังซื่อกลับยิ้มอย่างกะทันหัน กล่าวว่า "นายท่าน ไม่ว่าพวกท่านจะเป็นอย่างไรข้าก็จะไม่ถามถึง แม้จะต้องอยู่ในเรือนตลอดไปก็ไม่เป็นไร"นางรู้จักหลิ่วอวิ๋นเวยมานานขนาดนี้ จะไม่รู้ถึงนิสัยของนางได้อย่างไร?หากตั้งใจจะจากไปจริงๆ ก็คงไม่มาที่นี่ ยามนี้นางเสียโฉมแล้ว หลังออกจากเมืองหลวงไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 746

    กู้ชิงเจ๋อได้เห็นหวังซื่อรับหนังสือหย่าแล้วก็จากไป รู้สึกแปลกใจอย่างสุดระงับ ครู่ต่อมาต้องการไล่ตามไปดู กลับถูกหลิ่วอวิ๋นเวยขวางไว้“พี่สาม ให้นางไปเถอะ พวกเราไม่จำเป็นต้องสนใจนาง!”“รอถึงวันพรุ่งนี้ นางจะต้องร้องไห้ขอร้องท่าน หลังหย่าแล้วยังจะมีชีวิตที่ดีอีกหรือ? บ้านมารดานางก็ไม่มีวันรับนางไว้”“ท่านดีต่อนางมากมาโดยตลอด ครั้งนี้จะต้องสั่งสอนนาง ภายภาคหน้าถึงจะไม่กล้าได้คืบเอาศอกอีก”กู้ชิงเจ๋อพูดอย่างลังเล “ข้าไปดูสักหน่อยเถอะ วันนี้นางแตกต่างจากที่ผ่านมาอยู่บ้าง”“พี่สาม ข้าไม่สบายจริงๆ...” หลิ่วอวิ๋นเวยตัวอ่อนล้มลงไปกู้ชิงเจ๋อเห็นสถานการณ์แล้วก็รีบประคองหลิ่วอวิ๋นเวย ทันใดนั้นไม่ใส่ใจหวังซื่ออีก เอ่ยออกมาอย่างห่วงใย “หลายวันมานี้เจ้าลำบากแล้ว พักผ่อนดีๆ ก่อนเถอะ!”“เจ้าค่ะ” หลิ่วอวิ๋นเวยพยักหน้า ภายในสายตาสะท้อนความลำพองใจหวังซื่อ ยังคิดสู้กับนางรึ?หลังหวังซื่อออกจากลานบ้านแล้ว น้ำตาไหลเปรอะเปื้อนหน้า นึกถึงความทุกข์ที่ได้รับหลายปีที่ผ่านมา คิดเพียงว่าคล้ายเป็นเรื่องน่าขันอย่างหนึ่งเมื่อแรกนางพูดปลอบตนเองอยู่ตลอด กู้ชิงเจ๋อดีต่อน้องสาว นั่นเพราะเขายึดมั่นในคุณธรรมหนัก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 747

    ชั่วขณะทั้งคู่ได้เห็นหนังสือหย่าก็รู้สึกว่ากู้ชิงเจ๋อทำเกินไปแล้ว หลายปีมานี้มารดาเสียสละมากถึงเพียงนั้น กลับต้องพบจุดจบเช่นนี้เพียงแต่ ยามพวกเขาได้เห็นว่ามารดาเขียนชื่อลงไปด้วยก็เข้าใจว่ามารดาตัดสินใจแล้ว“ท่านแม่ ท่านตัดสินใจแล้วจริงหรือ? หากไม่อยาก ตอนนี้ก็ใช่ว่าไม่มีโอกาสเปลี่ยนใจ” กู้หย่วนอันเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้หวังซื่อส่ายหน้า “ข้าไม่มีวันเปลี่ยนใจ พวกเจ้าเองก็ไปกับข้าเถอะ!”พูดไป นางจับมือกู้หย่วนอันและกู้รั่วหลาน สีหน้าจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “แม่ไม่มีวันทำร้ายพวกเจ้า วันนี้พวกเจ้าจากไปพร้อมข้า บ้านท่านยายย่อมไม่มีวันทอดทิ้งพวกเจ้า ข้าเชื่อว่าสกุลกู้เองก็ยอมรับพวกเจ้า”“แต่พ่อของพวกเจ้า...เขาไม่ใช่พ่อที่ดีอย่างแท้จริง หากยังอยู่ที่นี่ต่อไป พวกเจ้าไม่มีวันมีอนาคตที่ดี”“เชื่อแม่ ดีหรือไม่?”เผชิญหน้ากับท่าทางหนักแน่นของมารดา สองพี่น้องสบตากันแวบหนึ่ง พยักหน้ารับคำ “พวกเราล้วนฟังท่านแม่”หลายปีมานี้ พวกเขาได้เห็นมารดาวางแผนเพื่อพวกเขาเยี่ยงไร อีกทั้งยังรู้ว่ามารดาอดทนต่อความอัปยศ บัดนี้เดินมาจนถึงขั้นที่ไม่อาจทนไหวอีก ในฐานะลูกสาวลูกชาย ไฉนเลยพวกเขาจะทนเห็นมารดา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 748

    เพียงแค่หลังดื่มชาไปแล้วหนึ่งถ้วย สติของกู้ชิงเจ๋อก็เริ่มเลือนราง ร่างกายร้อนผ่าวขึ้นมาระลอกหนึ่ง“พี่สาม ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”หลิ่วอวิ๋นเวยเห็นว่ายาออกฤทธิ์แล้ว เดินเข้าไปหยุดข้างกายกู้ชิงเจ๋อ ตั้งใจล้มลงไปสมองกู้ชิงเจ๋อพร่ามัว ได้กลิ่นหอมบนตัวสตรี ความรู้สึกพลุ่งพล่านแล่นขึ้นศีรษะระลอกหนึ่ง โอบหลิ่วอวิ๋นเวยไว้ในอ้อมกอดภายในสายตาหลิ่วอวิ๋นเวยสะท้อนรอยยิ้ม นางก็รู้ว่าไม่มีชายใดสามารถหนีไปจากเงื้อมมือนางพ้น!……เช้าวันต่อมา ราชครูกู้เข้าวังแล้ว ขณะเดียวกันกู้ชิงซิวและกู้ชิงเหยี่ยนก็มุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ที่อยู่ภายนอกของกู้ชิงเจ๋อหลังเมื่อวานใคร่ครวญอยู่นาน พวกเขาก็ตัดสินใจนับตั้งแต่วันนี้ไป พวกเขาจะตัดขาดความสัมพันธ์กับกู้ชิงเจ๋อ ภายภาคหน้าไม่ว่ากู้ชิงเจ๋อทำอันใด ก็ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาอีกทว่า ก่อนหน้านี้พวกเขาเอ่ยเตือนหวังซื่อไปแล้ว ดีที่สุดคือพวกเด็กๆ อย่าได้ถูกดึงมาเกี่ยวข้องพวกเขาเพิ่งมาถึงประตูใหญ่ ก็ได้รับจดหมายหนึ่งฉบับที่ส่งมาจากสกุลหวัง“ภายในเขียนว่าอะไร?” กู้ชิงซิวขมวดคิ้ว เหตุใดสกุลหวังถึงบังเอิญส่งจดหมายมาในเวลานี้?กู้ชิงเหยี่ยนอ่านเนื้อหาแล้ว ท่า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 749

    กู้ชิงเจ๋อรู้สึกเพียงสมองขาวโพลน คิดแล้วก็ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดเขาจึงนอนเตียงเดียวกับหลิ่วอวิ๋นเวยเขาพยายามย้อนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน จำได้เพียงว่าตอนนั้นเขาอยากรอให้หลิ่วอวิ๋นเวยหลับก่อนค่อยไปหาหวังซื่อ แต่ใครคิดเล่าว่าดื่มชาไปหนึ่งถ้วย เขาก็จำอันใดไม่ได้อีกหลิ่วอวิ๋นเวยแสร้งตื่นขึ้นมา ได้เห็นสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริดของกู้ชิงเจ๋อ นางตกใจก่อนเป็นอย่างแรก ต่อมาเผยสีหน้าเขินอาย“พี่สาม เมื่อคืนท่าน...”กู้ชิงเจ๋อไม่คุ้นชินกับท่าทางเช่นนี้ของหลิ่วอวิ๋นเวย พวกเขาเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เห็นอวิ๋นเวยเป็นน้องสาวมาโดยตลอดต่อให้ตอนนี้รู้ว่านางไม่ใช่น้องสาวของตน แต่ความรู้สึกหลายปีนี้เป็นของจริง โดยเฉพาะได้เห็นท่าทางน่าสงสารของอวิ๋นเวย ตั้งแต่เริ่มจนจบเขาก็ไม่อาจหักใจไม่ใยดีนางได้ดังนั้นหลังได้เห็นอวิ๋นเวยที่โดดเดี่ยวน่าสงสารมาขอความช่วยเหลือ เขาจึงยังรับนางเข้าจวนแต่ตอนนี้พวกเขากลายเป็นอะไรแล้ว?หลิ่วอวิ๋นเวยเห็นกู้ชิงเจ๋อยังตกใจและงุนงง ท่าทางสะท้อนความเสียใจ กลับไม่รู้สึกแปลกใจ แต่นางเชื่อว่าระหว่างชายหญิงไม่มีความสัมพันธ์ฉันเพื่อนบริสุทธิ์เช่นนั้นตั้งแต่แรกทั้งๆ ที่รู้ว่าน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 750

    กู้ชิงเจ๋อเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แต่ไหนแต่ไรมาเขาดีต่ออวิ๋นเวยเพราะเป็นหน้าที่ของพี่ชายพี่ใหญ่พี่รองเย็นชาเกินไป น้องสาวล่วงเกินบิดามารดา บิดามารดาไม่สนใจก็ช่างเถอะ แต่พวกเขาพี่น้อง น้องสาวไม่ได้ทำผิดต่อพวกเขา หรือไม่สามารถใจกว้างต่อน้องสาวได้?ทว่าบัดนี้ เขาและอวิ๋นเวยทำเรื่องพรรค์นี้ ภายภาคหน้าไม่สามารถพูดว่าระหว่างพวกเขาไม่มีอะไรได้อีกย้อนนึกถึงเมื่อแรกหวังซื่อพูดกับเขาว่าอย่าใกล้ชิดอวิ๋นเวยเกินไปนัก จนเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่เหนือกว่าพี่น้อง เขายังตอบโต้อย่างมีเหตุผลได้ แต่บัดนี้เขายังมีหน้าอะไรพูดเช่นนี้อีก?หลิ่วอวิ๋นเวยเห็นกู้ชิงเจ๋อถึงขั้นไม่คิดรับผิดชอบ สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์“พี่สาม เหตุใดท่านทำกับข้าเช่นนี้? ข้า...หลายปีมานี้ข้าบริสุทธิ์ผุดผ่องมาโดยตลอด!”พูดจบ หลิ่วอวิ๋นเวยก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นใต้ผ้าห่มกู้ชิงเจ๋อที่เตรียมจากไปได้ยินเสียงร้องไห้ของหลิ่วอวิ๋นเวย ไม่อาจเมินข้ามได้ ทำได้เพียงเข้าไปปลอบ“อวิ๋นเวย เจ้าอย่าเพิ่งร้อง มีเรื่องใดก็พูดกันดีๆ เจ้าอย่าซ่อนตัวใต้ผ้าห่มอีกเลย”ยามกู้ชิงเหยี่ยนและกู้ชิงซิวมาถึงคฤหาสน์ที่อยู่ภายนอกของกู้ชิงเจ๋อ บ่าวรับใช้ก็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 751

    พวกกู้ชิงเหยี่ยนเพิ่งเหยียบเข้าลานบ้านได้สองก้าวก็ได้ยินเสียงกู้ชิงเจ๋อปลอบโยนกู้อวิ๋นเวย“อวิ๋นเวย มีเรื่องใดก็พูดกันดีๆ เจ้าอย่าซ่อนตัวใต้ผ้าห่มอีกเลย ดีหรือไม่?”เพียงได้ยินเสียงนี้ก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล เสียงแหบพร่าหลายส่วน กลับคล้ายกำลังปลอบโยนคนรัก มิใช่พี่น้องทั้งคู่สบตากันแวบหนึ่ง พังประตูเข้าไป หลังพวกเขาได้เห็นฉากเบื้องหน้าแล้ว ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงได้เห็นกู้ชิงเจ๋อสวมเพียงชุดซับใน ชนิดที่ว่ายังไม่ได้มัดให้ดี บนคอยังปรากฏรอยแดงคลุมเครืออีกด้วยหลิ่วอวิ๋นเวยได้ยินเสียงดังขึ้นอย่างกะทันหันก็ตกตะลึงพรึงเพริด จากนั้นโผล่ศีรษะออกมาพวกกู้ชิงเหยี่ยนทั้งสองคนสามารถมองผ่านลำคอของนางและรู้ได้ว่านางไม่ได้สวมเสื้อผ้า สองคนนี้ทำอันใดภายในห้อง ไม่ต้องพูดก็รู้ได้“กู้ชิงเจ๋อ เจ้าเหลวไหลจริงๆ! เหตุใดถึงทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ออกมาได้?”กู้ชิงเหยี่ยนเหวี่ยงหมัดเปี่ยมโทสะเข้าไปโดยตรง เหตุใดเขาถึงมีน้องชายโง่เขลาเช่นนี้!“สตรีบนโลกนี้ตายไปหมดแล้วหรือ? ต่อให้เจ้าอยากรับอนุ ก็สมควรรับอนุที่ดี!”“เพื่อภรรยาที่ถูกขับไล่คนหนึ่ง เพื่อนักโทษคนหนึ่ง ถึงขั้นหย่าร้างกับหวังซื่อ ข้าว่าเจ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 994

    ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซ่งรั่วเจิน ไหวพริบบ่งบอกว่ามีปัญหาซ่งรั่วเจินส่ายหน้าเบาๆ “เพียงแต่ได้ยินจงเฟยพูดเรื่องบูชาเซียนโบตั๋นจึงรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช่เซียนโบตั๋นที่หม่อมฉันรู้จักหรือไม่”นางเคยได้ยินเรื่องเซียนโบตั๋นมาก่อน เป็นสิ่งที่สตรีบูชาจริง เซียนบุปผา มีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพียงแต่ภายในนี้กลับมีเคล็ดลับบางอย่าง ทำให้คนเสพติดอย่างง่ายดาย สุดท้ายลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเป็นคนฝีมือโหดเหี้ยม ก็สามารถใช้ของสิ่งนี้แลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ น่ากลัวอย่างมากจงเฟยมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ตนเองเก็บไว้บูชาเองก็พอ ทว่านางกลับนำมามอบให้ฮองเฮา แปลกเกินไปแล้วกระมัง“พูดให้ฟังเถอะ”ฉู่จวินถิงกลับไม่รีบร้อนจากไป เอียงหูฟัง รอฟังคำพูดของว่าที่ฮูหยินอย่างอารมณ์ดีแท้จริงแล้ว ไม่ว่าเจินเอ๋อร์พูดอะไร เขาล้วนอยากฟัง“หม่อมฉันเคยเห็นเซียนโบตั๋นมาก่อน ทำให้สตรีงดงามอ่อนเยาว์ผ่านการบูชาอาหาร หากจริงใจมากเพียงพอ ยังสามารถใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาได้ ผลลัพธ์ดีมากนัก”“เพียงแต่จะทำให้สตรีลุ่มหลง กลายเป็นรีบร้อนอยากได้ผลลัพธ์ จากนั้นยากจะถอนตัวขึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 993

    วังหลังวันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮายังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลบัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 992

    “บัดนี้ข้าและองค์หญิงเพียงแต่มีปัญหากันเล็กน้อยเท่านั้น รอข้าไปอธิบายให้ชัดเจน ทั้งหมดย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสิ่นหวยอันพูดอย่างมีเหตุผล ชนิดที่ว่าหน้าตายังเผยแววลำพองใจ “เจ้าคิดดูให้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก่อเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมา ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”“ส่วนข้า ก็แค่ถูกโบย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างว่องไว หรือเจ้าไม่เข้าใจความหมายกันเล่า?”“ตกลงเจ้าจะพูดอะไร?” เสิ่นจวินเจ๋อหรี่ตาลง สังเกตเห็นปัญหาแล้ว เสิ่นหวยอันมั่นใจในตนเองเกินไป“เหตุที่องค์หญิงทำเช่นนี้ ก็เพราะหึงหวงเท่านั้น” เสิ่นหวยอันหัวเราะเบาๆ ลูบแต่งผมและพูด “องค์หญิงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อข้า เพียงแต่เห็นซ่งปี้อวิ๋นอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด เข้าใจผิดคิดว่าข้าและนางมีความสัมพันธ์กัน นี่ถึงเป็นเช่นนี้”“ระหว่างสตรีย่อมหนีไม่พ้นความหึงหวง นี่คือเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพียงแต่องค์หญิงอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง นี่ถึงโบยข้า”“หากไม่รัก นางก็คงไม่โมโหถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เสิ่นจวินเจ๋อชะงักไปในทันใด ครู่ต่อมาคิดว่าสายตาของฉู่มู่เหยาไม่น่าจะแย่ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ลองคิดดูแล้วเขาก็เริ่มไม่มั่นใจเพราะเสิ่นหวยอันมั่นใจในตน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 991

    ได้ยินคำพูดของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมความแปลกใจ มากที่สุดคือต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดตกลงเป็นเพราะอะไร?เพราะเหตุใดหลายปีมานี้ ทั้งๆ ที่นางแสดงความชอบของตนออกมาไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ทว่าญาติผู้พี่กลับหลบเลี่ยงนางมาโดยตลอด นางต้องการคำตอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับทั้งๆ ที่ดีต่อนางถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่ภายในใจมีนางมาโดยตลอด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยปากพูดเสียงขมปร่า นี่ถึงพูดความคิดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจตลอดหลายปีมานี้ออกมา...อวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินทั้งหมดนี้ สายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ ยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถึงขั้นยังมีเรื่องที่นางไม่รู้มากถึงเพียงนี้“ดังนั้น...พวกเราไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ?”อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด นี่คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้ หลายปีมานี้ญาติผู้พี่ก็ไม่เคยพูดมาก่อนอวิ๋นเฉิงเจ๋อพยักหน้า “ปีนั้นข้าถูกทิ้งไว้ที่ประตูเรือนด้านหลัง หากไม่ใช่ท่านแม่ใจดีรับเลี้ยงข้า ข้าคงตายไปตั้งนานแล้ว...”หลายปีมานี้เขาเคยคิดอยู่หลายค่ำคืน บิดามารดาแท้ๆ ของเขาเป็นใคร เหตุใดต้องทิ้งเขา บางครั้งก็เกลี้ยกล่อมตนเอง คิดถึงปัญหาเหล่านี้ไปล้วนไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status