Share

ตอนที่ 3 สามี

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-11 09:58:55

ซินอี๋มองซ้ายมองขวากล่าวออกเสียงกระซิบกระซาบ “คุณหนูจะทำอย่างไรเจ้าคะ สมรสพระทานหย่าไม่ได้นะเจ้าคะ”

            “ข้าไม่ได้บอกว่าข้าจะหย่ากับเขาสักหน่อย” น้ำเสียงนั้นเย็นเยือกจนซินอี๋รู้สึกหนาวไปถึงสันหลัง

            “แล้วคุณหนูจะทำ…”

            ชินอี๋กล่าวยังไม่จบผู้เป็นนายจึงเอ่ยขึ้นก่อน “ข้าอยากหลับสักตื่น เจ้าเดินทางมาเหนื่อยทั้งวันก็ควรพักผ่อน”

            “เจ้าค่ะ” ในเมื่อนางไม่อยากบอก สาวใช้อย่างนางจะทำอะไรได้ ภาวนาก็แต่อย่าให้ผู้เป็นนายคิดทำเรื่องที่ไม่สมควรก็เป็นพอ อย่างไรเรื่องของแม่ทัพหานก็เป็นเพียงข่าวลือ นายหญิงของนางควรเปิดใจให้เขาสักครั้ง อย่างน้อยเขาก็เป็นแม่ทัพผู้กล้าหาญสู้รบจนเอาแผ่นดินของแคว้นตนกลับมาได้

            หลิวหนิงเจียวปิดเปลือกตาลงเบา ๆ ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง หากท่านพ่อของนางไม่บอกว่านางจะได้เป็นพระสนมของฮ่องเต้แคว้นซีเหลียงผู้มีหน้าตาหล่อเหลาแม้จะอายุมากกว่านางถึงยี่สิบห้าปีก็ตาม นางก็คงไม่ตกปากรับคำ ระหว่างการเดินทางไม่คิดว่าฮ่องเต้จะพระราชทานสมรสให้นางกับแม่ทัพอัปลักษณ์ผู้นั้น

ตอนนั้นสงครามระหว่างแคว้นซีเหลียงกับแคว้นเป่ยเอี้ยนกินเวลานานหลายเดือนจึงรู้แพ้รู้ชนะ ชื่อเสียงของแม่ทัพปีศาจแห่งค่ายหวงซานไม่มีใครที่ไม่รู้จัก อีกทั้งข่าวลือเรื่องความโหดร้ายของเขาที่มีต่อสตรี และหน้าตาที่อัปลักษณ์ชวนให้น่ากลัวของเขาทำให้เขายังขาดคู่เรียงเคียงหมอนมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่คิดว่าสตรีที่โชคร้ายคนนั้นกลับเป็นนาง สวรรค์อิจฉานางถึงเพียงนั้นเชียวหรือ

อันมามาออกจากเรือนดอกบัวขาวก็รีบมารายงานฮูหยินผู้เฒ่าทันที

“เป็นอย่างไร” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยถามเสียงเนิบช้า วางถ้วยชาที่ยกขึ้นดื่มลงอย่างเบามือ

“อาละวาดเจ้าค่ะ”

“อืม ปล่อยนางไปก่อน อย่างไรนางก็ขัดพระราชโองการไม่ได้” เช่นเดียวกันกับหลานชายของนาง ถึงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพียงใดก็ทำอะไรไม่ได้ เช่นนั้นฮูหยินผู้เฒ่าจึงรับฟังอย่างสงบและเข้าใจทั้งสองฝ่าย สรุปก็คือทั้งสองไม่เต็มใจที่จะแต่งงาน

ฮูหยินผู้เฒ่าถอนหายใจยาวเหยียดเอ่ยกับอันมามาว่า “เจ้าก็ทำตามหน้าที่ของเจ้า อย่าได้สนใจนาง ที่เหลือคงต้องให้หยางเอ๋อร์จัดการ” อย่างไรทั้งสองก็ต้องแต่งงานกันภายในครึ่งเดือน เช่นนั้นหลิวหนิงเจียวย่อมต้องเชื่อฟังสามี

“เจ้าค่ะ”

อันมามาเดินออกไปแล้ว ลู่ซื่อจึงถามออกไป “ท่านแม่อยากพบนางหรือไม่เจ้าคะ”

“ยัง ปล่อยให้นางทำใจสักพักเถิด” เป็นใครก็ไม่ชอบการบังคับทั้งนั้น โดยเฉพาะหลานชายของนาง

“เช่นนี้นางจะไม่กำเริบเสิบสานหรือเจ้าคะ”

“เจ้าคิดว่านางทำเช่นนั้นได้หรือ”

ฮูหยินผู้เฒ่าถามเช่นนั้นลู่ซื่อจึงเงียบไป แน่นอนว่าหลิวหนิงเจียวย่อมทำเช่นนั้นไม่ได้

            หลิวหนิงเจียวอยู่ในจวนสกุลหานห้าวันโดยไม่ออกไปพบใคร มีเพียงอันมามาที่เข้ามาอบรมนางเรื่องกฎระเบียบของจวนสกุลหานและสิ่งที่หานตงหยางชอบและไม่ชอบ เพราะนางเคยเป็นคนเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็ก อันมามาจึงรู้เรื่องของแม่ทัพแดนบุรพามากที่สุด คงเป็นเรื่องดีหากหลิวหนิงเจียวรู้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาทั้งหมด แต่หลิวหนิงเจียวยังทำเป็นหูทวนลม ฟังบ้างไม่ฟังบ้างอย่างไม่ใส่ใจ อันมามาก็ทำตามหน้าที่ตนที่ฮูหยินผู้เฒ่าบอกเท่านั้น แต่นางยังรู้สึกหนักใจ สตรีเช่นนี้จะอยู่กับแม่ทัพหานได้อย่างไร

นอกนั้นก็ไม่มีใครมาวุ่นวายกับหลิวหนิงเจียวอีก อีกทั้งข้าวปลาอาหารนางยังกินน้อยคำ จากนั้นก็นอนอยู่บนเตียงเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก ชาตินี้นางใฝ่ฝันที่จะแต่งงานกับบุรุษรูปงาม ไม่คิดว่านอกจากนางจะต้องแต่งงานกับบุรุษที่รูปชั่วแล้วนิสัยยังโหดร้ายทารุณอีก ความฝันของนางที่จะได้อยู่ข้างกายฮ่องเต้สลายไปในชั่วข้ามคืน

            หลิวหนิงเจียวอยู่ในจวนสกุลหานครบสิบวันก็ถึงวันแต่งงานของนางกับแม่ทัพแดนบูรพา นางรู้ว่าเขาเพิ่งกลับมาที่จวนเมื่อคืนและเข้าร่วมพิธีแต่งงานในตอนเช้า พิธีทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น นางรู้สึกได้ว่ามีบุรุษตัวสูงใหญ่อุ้มนางเข้าไปไว้ในห้องหอ แม้จะมีผ้าสีแดงคลุมหน้าแต่นางก็รู้ว่าบุรุษผู้นั้นมีหน้ากากเหล็กสีดำสนิทสวมอยู่ซีกซ้ายของใบหน้า หลิวหนิงเจียวขนลุกซู่อย่างห้ามไม่อยู่ นางรู้สึกกลัวและขยะแขยงขึ้นมาครามครัน

            บุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีวางนางลงบนพื้นจากนั้นก็หันกายเดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้กล่าวคำใดออกมา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติไปเป็นฮูหยินแม่ทัพอัปลักษณ์    ตอนที่ 10 แค่ห่มผ้าให้

    ปีนั้นเขาอายุเพียงสิบแปดปี ออกรบกับท่านพ่อที่ชายแดนบูรพา ท่านพ่อของเขานำทัพทหารกว่าสิบหมื่นนายออกไปทำศึกกับแคว้นเป่ยเอี้ยน ตอนนั้นหัวหน้าแคว้นเป่ยเอี้ยนคือหลูกัง ท่านพ่อของเขาสู้กับหลูกังจนตัวตายในสนามรบ พอเขาทราบว่าท่านพ่อพลาดท่าให้กับหลูกัง เขาจึงรวบรวมขวัญกล้าที่มีอยู่ทั้งหมด นำกองทัพเข้าโจมตีแม่ทัพหลูอย่างห้าวหาญ แต่ในระหว่างที่เขากำลังควบม้าไล่ล่าแม่ทัพหลูอยู่นั้น หมวกบนศีรษะของเขาก็ตกลงบนพื้น นายกองอาวุโสฝ่ายตรงข้ามฉวยโอกาสจังหวะนั้นใช้ดาบฟันเข้าที่ใบหน้าฝั่งซ้ายของเขาจนเป็นแผลลากยาวตั้งแต่สันจมูกลงมาจนถึงคาง กระนั้นเขาก็เงื้อดาบฟันสะพายแร่งจนร่างทหารนายกองคนนั้นขาดเป็นสองท่อนจากนั้นก็ควบม้าฟาดฟันศัตรูอย่างบ้าคลั่ง จนสามารถตัดศีรษะของแม่ทัพหลูกลับมาได้โดยไม่สนใจความเจ็บปวดบนใบหน้าของตนเลยสักนิด เขาได้รับชัยชนะจากการทำศึกครั้งนั้น และได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพแดนบูรพาแทนท่านพ่อในวัยเพียงสิบแปดปี เพราะแผลที่ใบหน้าของเขาเหวอะหวะน่ากลัวยิ่งตอนที่ไล่ฟันศัตรูเขาจึงได้รับสมญานามว่าแม่ทัพปีศาจแดนบูรพาตั้งแต่วันนั้น แต่ความมั่นใจของเขากลับน้อยลงไปแทบไม่มีเหลือ จนต้องสวมหน้ากากเหล็กไว้ต

  • ทะลุมิติไปเป็นฮูหยินแม่ทัพอัปลักษณ์    ตอนที่ 9 พบหน้า

    สุดท้ายหลิวหนิงเจียวจึงเลือกชุดสีฟ้าอ่อนซึ่งขับผิวขาวของนางให้กระจ่างใสมากขึ้น นางมองทรวดทรงองค์เอวของตนในคันฉ่องอย่างพอใจ คนอะไรตัวเล็กตัวน้อย ทั้งสวยทั้งน่ารัก คนผิวขาวใส่อะไรก็ขึ้นไปหมด “ฮูหยินผัดหน้าแค่นั้นหรือเจ้าคะ” นางทาแป้งเพียงบางเบา แต้มชาดพอให้มีเลือดฝาด ส่วนริมฝีปากก็ทาเพียงขี้ผึ้งบำรุงริมฝีปากสีชมพูอ่อนเท่านั้น “เจ้าเห็นว่าข้าไม่สวยอย่างนั้นรึ” “ไม่ใช่เจ้าค่ะ เพียงแต่ฮูหยินไม่เคยผัดหน้า…” นางรีบโบกมือ “ก็บอกแล้วว่าเรื่องของอดีตลืมมันไปเสีย ต่อไปนี้ข้าจะเป็นคนใหม่” “เจ้าค่ะ” นายหญิงเปลี่ยนกะทันหันเกินไป นางตั้งรับไม่ค่อยทัน นี่ใช่ฮูหยินคนเดิมของนางจริง ๆ หรือ “ฮูหยินเจ้าคะ” “เจ้ามีสิ่งใดอีก” “กลิ่นกายฮูหยินหอมคล้ายขนมเลยเจ้าค่ะ” หลิวหนิงเจียวนิ่งงัน ก่อนจะนึกขึ้นได้ นางเพิ่งกินขนมบ้าบิ่นก่อนเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ จึงพูดบ่ายเบี่ยงออกไปว่า “กลิ่นกายข้าก็เป็นเช่นนี้” พูดจบนางทำไม่รู้ไม่ชี้เดินไปหยิบหนังสือมานั่งอ่านบนเก้าอี้ แม้ไม่คลายสงสัยแต่ซินอี๋ก็ไม่ได้กล่าวออกอีก น

  • ทะลุมิติไปเป็นฮูหยินแม่ทัพอัปลักษณ์    ตอนที่ 8 เต็มใจ

    “ข้าเต็มใจเป็นภรรยาของท่านแม่ทัพหานเจ้าค่ะ” หลิวหนิงเจียวยืนยันเสียงหนักแน่น สามีหน้าตาอัปลักษณ์แล้วอย่างไร อย่างน้อยใบหน้าอีกซีกหนึ่งของเขาก็ยังอยู่ดีไม่ใช่หรือ บางครั้งรอยแผลเป็นภายใต้หน้ากากนั้นอาจจะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิด ถ้าเขาไม่อยากให้นางเห็นก็เป็นเรื่องของเขา อย่างไรแม่ทัพแดนบูรพาก็เป็นคนเก่งส่วนเรื่องที่ว่าเขาชอบทำร้ายร่างกายของสตรีนั้นนางขอดูอีกครา หากเขากล้าลงไม้ลงมือกับนางจริง มีหรือคนอย่างนลินธาราจะยอมอยู่นิ่งเฉยโดยไม่ทำอะไร ถึงตายนางก็ไม่ยอมให้สามีตบตีนางฝ่ายเดียวหรอก อีกทั้งเขาเป็นถึงท่านแม่ทัพผู้องอาจเกรียงไกรถ้ากล้าทำร้ายสตรีจะไม่อายสุนัขหรืออย่างไร “เช่นนั้นก็ดี ถ้าหยางเอ๋อร์กลับมาเจ้าก็อย่าแสดงว่ารังเกียจเขามากนัก” “เจ้าค่ะท่านย่า” ฮูหยินผู้เฒ่ากับมารดาสามีกลับไปแล้วหลิวหนิงเจียวจึงเตรียมตัวอาบน้ำชำระร่างกาย นางนั่งลงบนเก้าอี้หน้าคันฉ่องบานใหญ่ และแล้วนางก็ต้องตกใจกับใบหน้าตัวเอง สองมือยกขึ้นลูบแก้มตัวเอง พึมพำออกมาเป็นภาษาไทย “เป็นผู้หญิงที่หน้าเล็กมาก แต่ว่าโบกหน้าหนายิ่งกว่าถนนลาดยางในหมู่บ้านเสียอีก” นางเพิ่

  • ทะลุมิติไปเป็นฮูหยินแม่ทัพอัปลักษณ์    ตอนที่ 7 ข้าคิดน้อยเกินไป

    ภายในเรือนดอกเหมยหลังจากบ่าวรับใช้มารายงานว่าหลิวหนิงเจียวฟื้นแล้วฮูหยินผู้เฒ่าก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมาสายหนึ่ง นางกำลังเป็นห่วงหลานชาย อย่างไรเขาก็มีความผิดที่ไม่ยอมเข้าหอในวันแต่งงาน ทั้งภรรยายังคิดฆ่าตัวตายในวันแต่งงานอีก หากหลิวหนิงเจียวไม่ฟื้นเกรงว่าชีวิตของหลานชายคงรักษาไว้ไม่ได้แล้ว “นางไม่น่าทำอย่างนี้เลย ใจเสาะเช่นนี้จะอยู่กับบุตรชายข้าได้กี่วันกันเชียว” ลู่ซื่อเอ่ยออกอย่างเหนื่อยหน่ายใจ แรกเริ่มนางยังดีใจที่ลูกชายจะมีภรรยา แต่ภรรยาที่ไม่เต็มใจแต่งให้บุตรชายซ้ำยังคิดทำลายชีวิตตนเช่นนี้ ดูแล้วคงไม่เหมาะที่จะเป็นฮูหยินของเขาเท่าไรนัก ฮูหยินผู้เฒ่าถอนหายใจอีกครั้ง “เป็นใครก็คงคิดทำเช่นนั้น นางรอดชีวิตมาได้ก็ดีมากแล้ว ชื่อเสียงของหยางเอ๋อร์ก็ใช่ว่าจะดี” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยกับลูกสะใภ้ นางทราบดีว่าผู้คนนอกจวนพูดถึงหลานชายของนางว่าอย่างไรบ้าง “ข้าจะไปเยี่ยมนางสักหน่อย เจ้าจะไปหรือไม่” “ไปเจ้าค่ะ” ถึงแม้ลูกสะใภ้ทำไม่ถูกใจนางแต่เมื่อหลิวหนิงเจียวเข้ามาอยู่ในจวนสกุลหานแล้ว คนผ่านความเป็นความตายมา หากไม่หยิบยื่นไมตรีให้สักหน่อยจะไม่ใจจืดใจดำเกินไปหรือ

  • ทะลุมิติไปเป็นฮูหยินแม่ทัพอัปลักษณ์    ตอนที่ 6 ไม่ได้ฝันไป

    ตอนนี้จิตใจของนลินธาราไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แม่บอกว่ายายคงอยู่ได้ไม่เกินพรุ่งนี้เธอยิ่งใจคอไม่ดี ถึงยายจะป่วยมานานแต่เธอก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้หากยายจะจากไปตอนนี้ เธอหวนคิดถึงคำพูดของยายเมื่อปีที่แล้วอีกครั้ง‘ยามได๋นลินสิพาผู้บ่าวมาแนะนำยายจักเทือ ยายอยากเห็นหน่าหลานเขย ชาตินี่ยายสิได้เห็นบ่อ” (ตอนไหนนลินจะพาแฟนมาแนะนำยายสักที ยายอยากเห็นหน้าหลานเขย ชาตินี้ยายจะได้เห็นไหม) ผู้เป็นยายพูดเสียงเนือย ๆ จะให้เป็นคนหรือเป็นพญานาคก็ได้ทั้งนั้น ขอเพียงหลานสาวเป็นฝั่งเป็นฝาก่อนที่เธอจะเสียชีวิตตอนนั้นนลินธาราพูดอย่างหยอกเย้ายายว่า ‘เป็นหยังยายสิบ่อเห็น ยายแข็งแฮงกะด้อ หนูหัวกะอายุยี่สิบสี่ปีนึง ยังมีเวลาเลือกอีกโดน หนูยังหาครูสอนภาษาจีนหล่อ ๆ บ่อพ่อเลย’ (ทำไมยายจะไม่เห็น ยายแข็งแรงจะตาย หนูเพิ่งจะอายุยี่สิบสี่ปีเอง ยังมีเวลาเลือกอีกนาน หนูยังหาครูสอนภาษาจีนหล่อ ๆ ไม่ได้เลย) ว่าพลางก้มลงกอดยายที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ยายของเธอทำเพียงกอดตอบ เพราะขืนรบเร้าต่อไป หลานสาวก็ไม่ยอมมีแฟนสักที ถึงตอนนั้นตายตาไม่หลับก็คงต้องยอมแล้ว รถยนต์คันสีแดงเลือดนกขับออกมาจากโรงเรียนอย่างช้า ๆ เพราะฝนตกต

  • ทะลุมิติไปเป็นฮูหยินแม่ทัพอัปลักษณ์    ตอนที่ 5 สายเลือดพญานาค

    ประเทศไทยปีพุทธศักราชสองพันห้าร้อยหกสิบแปด ณ หมู่บ้านนาทราย ซึ่งตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำโขงทางจังหวัดหนองคาย นลินธาราลูกสาวเพียงคนเดียวของช่อผกากับสาคเรศ เธอเป็นลูกครึ่ง ครึ่งหนึ่งเป็นคนอีกครึ่งหนึ่งเป็นพญานาค พ่อของเธอที่จำแลงกายเป็นมนุษย์ลักลอบได้เสียกับแม่จนเกิดเป็นเธอขึ้นมา เมื่อวานเป็นวันหยุดเธอกับพ่อลงไปยังเมืองบาดาลที่อยู่บริเวณสะดือแม่น้ำโขเพื่อเยี่ยมท่านปู่กับท่านย่า ยังเที่ยวไม่หนำใจก็ต้องขึ้นมายังโลกมนุษย์เพื่อทำงานตามเดิม นลินธาราเรียนจบด้านศิลปศาสตร์เอกภาษาจีน พอเรียนจบเธอก็กลับมาทำงานใกล้บ้าน เป็นอาจารย์สอนภาษาจีนอยู่ที่โรงเรียนนารีริมโขงวิทยา“แม่ อย่าลืมเอาขนมบ้าบิ่นไปกินนำเด้อ” (แม่อย่าลืมเอาขนมบ้าบิ่นไปกินด้วยนะ) นลินธาราบอกแม่หลังจากแต่งตัวเสร็จ เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน เมื่อเช้าเธอลุกขึ้นมาทำอาหารและขนมใส่บาตรแต่เช้า“บ่อให่พ่อไปส่งอิหลีติ” (ไม่ให้พ่อไปส่งจริง ๆ เหรอ) สาคเรศเอ่ยถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใย“บ่อต้องดอกจ้า เดี๋ยวหนูขับรถไปเอง พ่อกับแม่ไปหายายอยู่โรงบาลโลด” (ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูขับรถไปเอง พ่อกับแม่ไปหายายที่โรงพยาบาลเถอะค่ะ) ยายของเธ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status