LOGINปัง!
หลังจากหมีพูห์ปิดประตูเข้าห้องตัวเองไปแล้ว ฉันที่ยังคงยืนสตั้นอยู่ที่เดิม ท่าเดิมไม่ขยับไปไหน ได้แต่กะพริบตาปริบๆ สมองกำลังประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ หันมองดูห้องตัวเองและห้องหมีพูห์ 156 157 เลข 15 คือชั้น 15 อ้าวชั้นเดียวกัน เลข6 เลข7 ต่อกัน โป๊ะเชะ! ฉันยืดตัวขึ้นตรง หันมองซ้ายมองขวา “โอเคไม่มีใคร” จังหวะนี้แหละวิ่งลากกระเป๋าตัวเองสแกนคีย์การ์ดเข้าห้องทันที มือปิดประตูมิดชิด เอาละ ฮึบ 1 2 3 “ยัยโลมาาาาาาาา แกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เป็นไปได้ไง ยังบ๊องเอ้ยยย” เสียงฉันร้องตะโกนอายกับเรื่องที่ไปกล่าวหาหมีพูห์ “อย่าบอกนะคะ พี่ตามโลมามา” “ไม่เชื่อ พี่เป็นโรคจิตใช่ไหม” ภาพจำยังชัดเจนเหมือนเดิมทุกอย่าง~ฮือออออตายๆ แล้วฉันจะสู้หน้าหมีพูห์ยังไง ฉันนั่งลงที่พื้นกุมหัวตัวเองอย่างใช้ความคิด “หรือว่าจะย้ายโรงแรมดี” ไม่ได้สิ โรงแรมนี้คุณป๊าจองให้ ถ้าย้ายคุณป๊าต้องรู้แน่ๆ เฮ้อออ ฉันเดินล้มตัวนอนบนเตียงอย่างใช้ความคิด เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น …. TrTrrrrrrr…. “คุณป๊า” (ถึงห้องหรือยัง) “ถึงแล้วค่ะ” (ฉลามไปรับหรือเปล่า) “เอ่อ…ช่วงนี้ฉลามงานยุ่งนะคะติดงานด้วยเลยให้คนไปรับแทนค่ะ” โกหกคำโตๆ เลยฉัน ขอโทษนะคะคุณป๊า (ถึงว่าละป๊าโทรไปไม่รับสายเลย) จะรับได้ไงล่ะ ก็โลมาเป็นคนเปลี่ยนเบอร์ฉลามในมือถือคุณป๊าเอง “ฉลามบอกว่างานจะเยอะๆ มากๆ ประมาณ 3 วันนี้ คุณป๊าก็ไม่ต้องโทรไปกวนฉลามนะคะ เดียวทางนี้โลมาจะดูเเลฉลามเอง” (โอเค ครับลูก) สำเร็จ “หาวววว โลมาง่วงแล้วค่ะ แค่นี้นะคะคุณป๊า รักคุณป๊านะคะ” (ครับ ดูเเลตัวเองนะลูก รักโลมานะ) เฮ้อออ ฉันถอนหายใจโล่งอกที่คุณป๊าจับไม่ได้ ที่จริง คุณป๊าคิดว่าฉันเจอฉลามแล้ว แต่ไม่ใช่ เพราะฉันยังอยากเที่ยวก่อนจะไปเซอร์ไพรส์ฉลาม คุณป๊ากับฉลามห่วงฉันจะตายไม่เคยปล่อยให้ฉันไปไหนคนเดียว “โลมาแค่อยากมีอิสระบ้าง อยากไปไหนมาไหนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งคุณป๊ากับฉลาม พ้น 3 วันนี้เมื่อไหร่ โลมาจะไปหาฉลามถึงที่เลย” ฉันล้มตัวนอนอย่างเหนื่อยล้า “จริงสิ” ฉันดีดตัวขึ้นจากที่นอนยกยิ้มให้ความคิดอันชาญฉลาดของตัวเอง หึๆ 08.30 น. กริ๊งงงงง กริ๊งงงงงง “อืออออ” มือบางสาวขึ้นหยิบโทรศัพท์เพื่อปิดนาฬิกาปลุก ร่างบางในชุดนอนสีขาวคลุมเข่าลุกขึ้นยืน เดินงัวเงียเข้าไปในห้องน้ำจัดการอาบน้ำเสร็จแต่งตัวด้วยเสื้อกล้ามรัดรูปสีขาวสวมทับด้วยเอี่ยมสีชมพูอ่อน แต่งหน้าโทนสีชมพูให้เข้ากับชุด หยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋า สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวพร้อมจะออกจากห้อง “โตเกียวดิสนีย์แลนด์จ้า โลมาพร้อมแล้วน้า^^” ฮึบ ฟู่~ เสียงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เป่าลมออกมา ฉันเดินจับลูกบิดหน้าประตูค่อยๆ ชะโงกหัวออกไปดูห้องข้างๆ ช้าๆ หาหมีพูห์ “ทางสะดวก แผนหลบหน้า เริ่ม” ฉันค่อยๆ เดินย่องออกมาจากห้องหันหลังเตรียมล็อกประตู “ทำอะไร” “!!!!” คงไม่ใช่หรอกมั้ง ฉันหันหน้าตามเสียงเรียกก้มมองรองเท้า ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น เจ้าพระคู๊ณณณณ ขอให้ไม่ใช่เถอะ โป๊ะเชะ!! “พี่ซี” กรรมลิขิตชัดๆ ฮือออ แผน-ล้ม- ไม่เป็นไรยังมีแผนสองทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ท่องไว้ ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้ไม่ชี้ “จะไปไหน” “ไม่รู้ไม่ชี้ค่ะ” จบ-กัน- แผนที่ฉันอุตส่าห์คิดทั้งคืน “ตั้งสติ ตอบใหม่” หมีพูห์โน้มหน้าลงมามองฉันใกล้ ใช้มือว่างบนหัวฉันแล้วลูบเบาๆ ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก อีกแล้วใจฉันมันจะทะลุออกมาให้ได้ “หืม สรุปน้องจะไปไหน” “โลมาจะไปกินข้าว” มือที่วางอยู่บนหัวเปลี่ยนไปเป็นการจัดทรงหน้าม้าให้ฉันแทน อบอุ่น.... “พี่กำลังจะไปพอดี โลมาไปกินกับพี่นะ” ฉันเผลอจ้องมองสายตาคมตรงหน้าสะท้อนให้เห็นภาพตัวเองอยู่ในนั้น ร่างสูงตรงหน้าค่อยๆ ยิ้มละลายออกมาทีละนิด ความรู้สึกที่หูเริ่มแดงลามไปถึงหน้าใบหน้าเกิดอาการร้อนผ่าวขึ้นมาทันที “บ้าไปแล้ว ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” พึมพำในใจคนเดียว “ว่าไง หืม” เสียงทุ้มเอ่ยถามอีกครั้ง “คะ ค่ะ” ฉันพยักหน้าตอบตกลงไป ตอนนี้เหมือนฉันกำลังเดจาวูเลย รู้ตัวอีกทีฉันอยู่บนรถหมีพูห์เรียบร้อยแล้ว โลมาไม่น่าเผลอเลย “อยากกินอะไร พี่เลี้ยง” หันไปมองพี่แกอย่างฉับพลัน แพ้...ฉันแพ้คำนี้“ข้อตกลงของเรา” “ข้อตกลงอะไรคะ?” ร่างสูงขมวดคิ้วเป็นปม บนใบหน้าเผลอแสดงความหงุดหงิดออกมา ใช้มือเสยผมตัวเองก่อนจะหลับตาเหมือนกำลังจะระงับอารมณ์บางอย่างไม่ให้ออกมา “เฮ้อ ลืมแล้วสินะ” เสียงถอนหายใจของเจ้าตัวดังขึ้นก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาจ้องมองด้วยแววตาและใบหน้าที่ผิดหวัง ฉันได้แต่ยืนขมวดคิ้วมึนงง ฉันลืมอะไร “มันไม่สำคัญเลยใช่ไหมว่ะ” ร่างสูงพูดเสียงเบาๆ เหมือนพึมพำกับตัวเอง ซีปล่อยมือที่กุมมือฉันไว้ ขยับตัวถอยห่างฉันก้าวหนึ่ง “ช่างเถอะ ห้องนอนเดินตรงไปเลี้ยวขวาห้องสุดท้าย” น้ำเสียงเรียบนิ่ง รู้สึกรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่แสนจะเย็นเยือก ซีละสายตาจากฉัน นั่งลงดูทีวีเงียบๆ โดยไม่มองมาที่ฉันอีกเลย เป็นอะไรของเขา ฉันหันหลังด้วยความมึนงงเลือกที่จะเดินไปเอาของในห้องนอน “เจอแล้ว อยู่นี่เอง” ฉันเข้าไปในห้องนอนของซี กวาดสายตามองหาของก็เจอของๆ ฉันว่างไว้ข้างโต๊ะที่น่าจะเป็นโต๊ะทำงานของเจ้าตัว ทว่า ขณะที่ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ โต๊ะมากเท่าไร สายตาของฉันดันไปสะดุดเข้ากับรูปหลายๆ แผ่นที่ว่างไว้บนโต้ะ “นี่มัน….” รูปฉัน!!! เป็นรูปที่เราไปเที่
“คือ เมื่อคืนโลมาอยู่ในห้องตัวเองได้ยังไง?” “จำไม่ได้?” ฉันสายหน้าตอบคนตรงหน้า “เธอหลับ” อ่าาา… หลับนี่เอง ถึงว่าละ “ซีก็เลยปลุกโลมาใช่ไหม” ต้องใช่แน่ๆ ฉันต้องเดินขึ้นห้องมาเองต้องใช่แน่ๆ (^~^) “ใช่ ปลุกแล้ว” ว่าแหละ “แต่โลมาไม่ยอมตื่น” “!!!” “เลย… อุ้มมา” “ห๊ะ” (0 [] 0) แม่เจ้า “อะ…อุ้ม” ฉันถามซีอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “อืม (-__-) ” ร่างสูงพยักหน้ายืนยันคำตอบ “ได้ไงอะ โลมายังไม่อนุญาตเลยนะ” “ต้องขอด้วยเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามหน้านิ่ง “ต้องค่ะ!” “แต่เธอหลับ”เออใช่วะ “กะ…ก็… โลมาไม่กวนซีแล้วดีกว่า ฮะๆ” ตอบคนตรงหน้าด้วยแววตาและสีหน้าใสซื่อหันหลังรีบชิ่งไปนั่งรอที่เดิม จะรออยู่ใยในเมื่อเถียงไปเหตุผลก็คือ ฉันหลับ หลับแบบสนิทชนิดที่ว่าเอาหินมาปาใส่ก็ม่ายตื่นเจ้าค่ะ ฮืออออ~น่าอายจริงเลย นั่งรอสักพักร่างสูงนำแซนด์วิชมาวางไว้ตรงหน้า แทบัก!!! ฉันมองแซนด์วิชกับคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามสลับกันไปมา ไม่น่าเชื่อว่าซีจะทำได้น่ากินขนาดนี้ “ซีทำอาหารเป็นด้วยเหรอ”
จึก จึก “ซี ตื่นได้แล้ว” โลมาใช้นิ้วชี้จิ้มตรงไหลผมเรียกให้ผมตื่น “ขบวนเสร็จแล้ว?” ผมผละจากไหลน้อง เลิกคิ้วเชิงถามคนตัวเล็กตรงหน้า “อืม เสร็จแล้ว” “ป่ะ” โลมาลุกขึ้นยืนพร้อมกับยืนมือมารอผม หึ เป็นเด็กที่รักษาสัญญาดีนี่ ผมเอื้อมมือจับมือโลมาแล้วลุกขึ้นตามร่างบาง “ไปดูการแสดงไฟ Celebration Street กันต่อค่ะ” “ห๊ะ” what!! ยังไม่จบอีกเหรอวะ “เนี่ยยังมีอีกเยอะเลยนะ ไหนจะม้าหมุน ปราสาทตอนกลางคืนก็สวยมากๆ เลย… บลาๆ” และน้องก็ไปอย่างที่พูดจริงๆ ครับ จนตอนนี้ 4 ทุ่มสวนสนุกปิด ผมถึงลากโลมาออกมาได้ “สนุกมากๆ เลยอ่ะ ตอนกลางคืนคือสวยมาก”น้องที่นั่งอยู่บนรถหันมายิ้มให้ผม จนผมอดยิ้มตามไม่ได้ “ดีแล้ว” ผมยกมือขึ้นลูบหัวโลมาอย่างเอ็นดู แล้วหันมาขับรถต่อ “โลมาอยากกินอะไรอีกไหม พี่จะได้แวะซื้อให้ก่อนเข้าโรงแรม” “....” เงียบ~ “โลม….” ผมหันมองคนนั่งข้างๆ “ZzzzzZzzzz” หลับ (-_-) ยัยเด็กน้อย ผมจอดรถข้างทางเอื้อมมือไปหยิบเสื้อกันหนาวของตัวเองด้านหลังมาห่มให้โลมา แล้วหันไปขับรถต่อ โรงแรม
“อยากเป็นคนของโลมา” ผมเงยหน้ามองใบหน้าแดงๆ ของโลมา ใช้มือข้างหนึ่งลูบหัวน้องเบาๆ “ได้ไหมครับ” ถามลองเชิงคนตัวเล็กตรงหน้าเผื่อได้คำตอบที่ต้องการ “คือโลมา….” พรึบ! “หึ ล้อเล่นน่ะ” ผละตัวออกจากคนตัวเล็กใช้นิ้วชี้เคาะหัวโลมาเบาๆ “โลมาตกใจหมด เล่นอะไรก็ไม่รู้” คนตัวเล็กถอนลมหายใจออกมาอย่างโหล่งอกมองผมแบบดุๆ ยัยแมวน้อย “นี่พี่ทำให้แมวตื่นเหรอ หืมมม” ผมดึงจมูกน้องเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว “อืออออ ซี มันเจ็บน่าาา >” น้องจับจมูกตัวเองมองผมแก้มป่องๆ อ่า…..จะทำให้ผมหลงถึงไหน “ยังจะยิ้มอีก ไม่คุยด้วยแล้ว ดูของต่อดีกว่า” ผมมองโลมาเลือกของอย่าตั้งใจทำเป็นไม่สนใจผม ถามว่าทำไมผมถึงไม่รอคำตอบจากโลมา ทำไมถึงบอกว่าล้อเล่น ที่จริงผมไม่ได้ล้อเล่นหรอกครับ ผมพูดจริง แต่เพราะเห็นสีหน้าและสายตาที่ดูสับสนของน้องแล้ว บอกเลยว่าผมกลัวคำตอบของน้อง กลัวน้องจะปฏิเสธผม น้องพึ่งรู้จักผมแค่ 2 วัน แต่สำหรับผมรู้จักน้องมา 3 ปี ใช่ครับ ผมเคยเจอโลมามาก่อน ผมชอบน้องตั้งแต่แรกเห็น แต่ตอนนั้นน้องยังเด็กเกินไปสำหรับผม ผมเลยทำได้แค่เฝ
….TrrrrTrrrrrr… “ฮ... ฮะโหล ฮัลโหล”เสียงแกจะสั่นทำไมเนี่ย (อยู่ไหน!!) “!!!” ปลายสายตะคอกให้ฟังลักษณะของอารมณ์หรืออาจจับได้ว่าเป็น “…. ฉลามว่าอะไรนะ” ภายในใจฉันเต้นเร็ว ๆ นี้ควบคุมเสียงให้เป็นปกติที่สุด (อย่ากล่าวหากูไม่รู้นะว่าไปทำอะไรมา) อึ้งใจว่าร้ายแตกสลายแขนขาร่วงเมื่อทราบปลายสายพูดคำในเสียงฉลามต้องโกรธมากอาจจะสามารถพูดออกมาได้เพราะว่าฉันจะดื้อหรือเกเรไม่พูดถึงฉลามอย่างมากก็ไม่เคยพูดถึงอย่างชัดเจนถึงความสำคัญเลย “ฉะฉลามฮึก” ฉันไม่รู้จักอย่างเป็นทางการ กลอนน้ำตาที่คลอไม่ให้ไหลรินออกมา (เสียงร้องต้นฉบับวะ เห๊ยยย!!! โลมาพี่อีกครั้งคุยกับลูกน้องอยู่) อา อ้าวววคุณพระ!!! อีแม่นั้นเก็บน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมาทัน “กลิ่นของโลมาตกใจหมดเลย” “พี่ขอโทษสำหรับลูกน้องมันทำงานพลาดนะลูกน้องมันทำงานพลาดอย่างนึงเลยตั้งใจไป” เพราะไม่ได้อกไปทีคิดว่าจะจับได้ในส่วน “ไม่ได้ว่าโลมาส่วน” ฉันย้ำอีกครั้งในเรื่องของสิ่งนี้ (ไม่ครับๆ สำหรับลูกน้องมันมาขัดพี่ตอนโทรหาโลมาพอดีพี่ข่าวคราวครับ) บางออยังไม่ค่อยจะพูดถึงจ
“ฉันไม่ใช่เด็กซะหน่อย” ฉันเดินบ่นออกจากร้านโดยที่ไม่รอซี มันน่าหงุดหงิดจริงๆ “ไอหมีพูห์บ้า” “ว่าใคร” หันไปมองเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาข้างๆ จะตามมาทำไมก็ไม่รู้ “ว่าหมีพูห์” หมีพูห์ไม่ได้ชื่อซีซะหน่อย “พี่สินะ” รู้ตัวเองด้วย ฉันหันหน้าหนีไม่ตอบคำถามคนตรงหน้า หมับ ~ ซีจับมือฉันแล้วลากฉันไปที่รถ “โลมาไปเองได้”ฉันยังยืนยันคำตอบเดิม ร่างสูงไม่ตอบแต่เปิดประตูรถเลิกคิ้วเชิงบอกให้ฉันนั่งในรถ รู้จักโลมาน้อยไปแล้ว ฉันยกมือขึ้นชี้ตรงปากตัวเองเพื่อย้ำคนตรงหน้า “โลมา-ไม่-ไป” พรึ่บ! “เห๊ยพี่” ฉันร้องออกมารีบเอามือคว้าคอคนตรงหน้ากันตก เมื่อคนตัวโตอุ้มฉันเหนือพื้นแล้ววางไว้ในรถอย่างเบามือ พร้อมกับคำพูดที่ไม่ดีกับใจฉันเอาซะเลย “อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นจะไม่จบอยู่แค่อุ้ม” “ค......คิดว่ากลัว” สู้สิโลมาอย่ายอม “หรือจะลองครับ”น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยออกมา ซีโน้มตัวเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฉันรีบเอามือดันคนที่ตัวโตกว่าให้ขยับออกห่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ขยับเลยสักนิด ตัวหนักเป็นบ้า “>ยอมแล้วๆ โลม







