บทที่3.การเผชิญหน้าครั้งแรกกับผู้ชายใจโหด
ไฟในร้านขนมยังไม่ปิด มีแสงรอดออกมาจากด้านในเล็กน้อย และแจ่มจันทร์รู้ดีว่าใครคนนั้นเป็นใคร นางสาวเท้าเดินให้เร็วขึ้น เมื่อมีเวลาแค่น้อยนิด... สำหรับเวลาส่วนตัวระหว่างนางกับใบบัว
“คุณป้า!” ใบบัวอุทานเสียงหลง เธอกำลังยกขนมอบใหม่ออกมาจากหลังร้าน เตรียมจะจัดใส่ตู้โชว์ เพื่อใช้ขายวันพรุ่งนี้
“ยังไม่เสร็จอีกเหรอไงล่ะ?” เสียงของแจ่มจันทร์ไม่ได้แข็งกระด้างเหมือนเคย ใบบัวช้อนสายตาขึ้นมองระหว่างที่หยิบชิ้นขนมวางลงในถาด
“ค่ะ...อบรอบสุดท้ายแล้วล่ะค่ะ...” เธอพยักหน้ารับ ตอบเสียงแผ่วๆ เหนื่อยแทบขาดใจเพราะอ้อยกลับบ้านตามเวลา เมื่อเธอได้รับค่าแรงเท่านั้นสำหรับการว่าจ้าง เธอจึงต้องอยู่โยงทำคนเดียวจนกว่าจะเสร็จ ก็คงจะหลังเที่ยงคืนไปแล้ว
“ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยนะ” นางแสร้งบีบเสียงให้สั่น จิกเล็บกับอุ้งมือจนน้ำตาเล็ด การแสดงแนบเนียนเสียจนใบบัวตื่นตกใจ
“มีอะไรคะ? บอกบัวมาได้เลยค่ะ” หญิงสาววางที่คีบ คลานเข่าเข้าไปใกล้แจ่มจันทร์ ท่านไม่เคยมีน้ำตาให้เธอเห็น คุณนายแจ่มจันทร์เข้มแข็งมาตลอด เพราะฉะนั้นต้องเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ
“บัว...เธอมาอยู่กับฉันนานเท่าไรแล้วล่ะ” หล่อนแสร้งยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา แล้วจึงเอ่ยถามใบบัวเสียงอ่อนเศร้า
“ก็ตั้งแต่พ่อกับแม่เสีย สิบปีกว่าแล้วล่ะค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่ว ความเป็นอยู่ลำบากสุดๆ แต่ก็ยังดีกว่าตัวคนเดียว แล้วกลายเป็นแค่เด็กเร่ร่อน
“นานแล้วสิเนอะ...บัว...ฉันไม่อ้อมล่ะนะ ฉันกำลังเดือดร้อน!...ฉันมีเรื่องทุกข์ใจที่บอกใครไม่ได้เลย แม้แต่ลุงของเธอ” หากนางเป็นนักแสดง นางต้องได้รับรางวัลแน่ๆ เมื่อแจ่มจันทร์ตีบทแตกกระจาย น้ำหูน้ำตาร่วงเหมือนกับลังเศร้าใจสุดๆ
“มีอะไรให้บัวช่วยไหมคะ ถ้าบัวทำได้ บัวเต็มใจ” คนโง่ ยังไงก็เป็นเหยื่อของคนฉลาดวันยังค่ำ ใบบัวไม่ได้โง่ เธอแค่เป็นคนมองโลกในแง่ดี และไม่คิดว่าคนที่เธอนับถือจะใจคอโหดเหี้ยม...คิดจะเอาเธอไปสังเวยซาตาน!
“บัว...ฉัน” แจ่มจันทร์รูดตัวลงไปนั่งบนพื้นข้างๆ กับใบบัว เธอจับมือของเด็กสาวไว้ แล้วบีบจนแน่นพร้อมกับปั้นหน้าโศกสลด “ฉันเป็นหนี้เขา จำนวนเงินมันเยอะเสียจนฉันหามาคืนเขาไม่ทัน เลยต้องหาคนไปขัดดอกเอาไว้ก่อน ฉันจะได้มีเวลาหาเงินมาใช้คืนเขาได้ บัวช่วยฉันหน่อยนะ ได้ไหม? นะช่วยฉันหน่อย หากลุงเธอรู้เรื่อง ลุงเธอทิ้งฉันแน่ๆ เงินทุกบาททุกสตางค์ฉันก็เอามาใช้จ่ายในบ้านนั่นแหละ...ของมันแพงขึ้นทุกวัน เงินเดือนทหารยศไม่สูงแบบลุงเธอจะพอใช้หรือไง...ฉันออกมาตากหน้าทำขนมขายก็เพราะต้องการหารายได้อีกทาง แต่มันก็ไม่พอ...จนต้องไปกู้เขามาใช้ ไหนจะยัยผิง ตาพัฒ ค่านู้นนี่อีกจิปาถะ...ฉันคิดจนหัวจะแตกยังหาทางไม่ได้เลย...บัว... นึกว่าทดแทนข้าวแดงแกงร้อนที่ฉันให้เธอกินเธอใช้มาเป็นสิบๆ ปีก็ได้ ช่วยฉันหน่อยนะ ให้ฉันกราบเธอตอนนี้เลยก็ได้นะ... ฉันมาถึงทางตัน มันจนทางแล้วจริงๆ” นางแสร้งเช็ดน้ำหูน้ำตาที่พร้อมใจกันไหลปรี่ เป็นการแสดงที่เด็กใสซื่ออย่างใบบัวไม่มีทางตามทัน
“ให้บัวช่วยป้ายังไงคะ...บัวไม่มีเงิน บัวไม่เอาเงินเดือนก็ได้นะคะ ป้าจะได้ไม่มีรายจ่ายอีก”
แจ่มจันทร์เสก้มหน้า นางแอบเบ้ปาก เงินแค่หยิบมือนั่นไม่ได้ทำให้นางมีเงินเยอะขึ้นหรอก สิ่งที่นางต้องการคือความสาวของใบบัวต่างหากเล่า!
“แค่บัวยอมไปอยู่กับเจ้าหนี้ของป้า เป็นเหมือนตัวประกันให้ป้า ป้าจะได้มีเวลาหาเงิน...โดยที่เขาก็ไม่ต้องกลัวว่าป้าจะเบี้ยว” นางอธิบายเสียงสลดเศร้า “บัวไม่ทำก็ได้นะ มันเป็นความรับผิดชอบของป้าเอง ป้าคงต้องบอกให้ลุงรู้จะได้ช่วยกันหาทาง...แต่...ลุงคงไม่ฟัง”
หากสังเกต ใบบัวจะรู้ว่าแจ่มจันทร์เสแสร้ง นางเปลี่ยนสถานะตัวเองเพื่อร้องขอ คนเช่นนี้ไม่มีความจริงใจ เขาทำเพื่อหวังผลแค่นั้นเอง...
ใบบัวผ่อนลมหายใจช้าๆ ลุงของเธอเป็นคนแข็ง และใบบัวคิดว่าท่านคงเอาแต่โวยวาย และมันยิ่งทำให้แจ่มจันทร์ทุกข์หนัก หลังตรองไปตรองมาหลายตลบ เธอช่วยท่านได้ก็พร้อมและเต็มใจ แค่ไปคอยรับใช้...เหมือนที่เคยทำยามอยู่ในบ้านแจ่มจันทร์ มันก็ไม่น่ายาก...แต่ใบบัวมองโลกสวยเกินไป ความจริงมันโหดร้ายกว่านั้นเยอะ!
“ก็ได้ค่ะคุณป้า” เธอพยักหน้ารับ...
“ขอบใจนะบัว ขอบใจ...แต่...ขอร้องล่ะ ห้ามบอกใครนะ!...ป้ากลัวเข้าหูของลุงบัวเข้า...ป้าขอร้องนะอย่าบอกใครเลย ป้าจะบอกกับทุกคนเองว่าบัวไปไหน...ตอนที่กลับมาจะได้บอกตรงกัน”
นางละล่ำละลักพูด ดีใจจนเนื้อเต้น! หากใบบัวเกิดต้องตาฟาบริซเจ้าพ่อหนุ่มคนนั้นขึ้นมา นางคงเกาะใบบัวได้อีกนาน เมื่อหญิงสาวยังสาวและสดใหม่ คนร่ำรวยไม่ขี้เหนียวเรื่องเงินทองหร๊อก! ไอ้หนุ่มนั่นคงมอบเงินติดก้นกระเป๋าให้ใบบัวมาบ้าง เธอได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างๆ พร้อมกับรู้สึกโล่งใจ
“ค่ะ...”
“พรุ่งนี้เลยนะจ๊ะ เราว่างแล้วนี่...เรียนจบม.ปลายแล้วใช่ไหม?”
“ค่ะ” ใบบัวตอบได้เท่านั้นจริงๆ ความหวังที่จะได้เรียนต่อริบหรี่เต็มที
“เอาล่ะ ทำงานไปเถอะ ป้าคงต้องให้ยัยผิงมาช่วยที่ร้านบ้าง คนละไม้คนละมือ ระหว่างที่บัวไม่อยู่”
เสียงแจ่มจันทร์เปรย หากไม่มีใบบัว ร้านขนมก็แทบจะไม่เหลือคนงาน นังอ้อยก็แสนจะกระด้างกระเดื่อง ใช้ทีก็บ่นว่าให้ได้ยินจนร้อนหู...ลูกจ้างดีๆ หายาก...มีใบบัวนี่ละที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงและไม่เคยปริปากบ่น ทำงานตัวเป็นเกลียวตั้งแต่มาจนกลับ หากขาดหล่อนไปคนนางคงวุ่นวายไม่ใช่เล่น
ใบบัวผ่อนลมหายใจรวยริน...เจ้าหนี้ของแจ่มจันทร์เป็นใครเธอก็ไม่ได้ถาม ได้แต่ภาวนาให้เขาเป็นคนใจดี เธอไม่เกี่ยงงานหนัก หากเขาจะใช้เธอทำงานเยี่ยงทาส แค่กลัวสิ่งรอบตัวกับสถานที่ใหม่ๆ มันจะเป็นอย่างไร จะปลอดภัยหรือไม่ก็ไม่รู้
หญิงสาวดับไฟในร้านขนมหลังจากทำงานเสร็จ เธอจูงจักยานก่อนจะปั่นกลับบ้านสุขแสวง ยามกลางคืนที่ดึกสงัด มีแสงไฟสลัวๆ ข้างทางพอให้แสงสว่าง ใบบัวชินเสียแล้วกับความมืดสลัว เธอปฏิบัติตัวเช่นนี้มาหลายปีดีดัก ไม่มีภัยอันตรายเพราะทั้งเนื้อทั้งตัวแทบจะไม่มีของมีค่า
รั้วเหล็กถูกดันให้เปิดเบาๆ มีเสียงครืดคราดดังขึ้นนิดหน่อย เพราะสนิมที่เกาะอยู่ทำให้กลไกต่างๆ ฝืดเคือง แต่ก็เงียบลงไปเมื่อใบบัวเดินผ่านเข้ามาด้านใน เธอจูงจักยานประจำตำแหน่งไปพิงไว้ข้างหลังบ้าน ตักน้ำในตุ่มหลังครัว ล้างมือและล้างเท้า แล้วจึงค่อยๆ เดินทอดน่องไปยังส่วนที่พักของตัวเอง
เพิงที่ต่อเติมเพิ่มจากพนังครัวออกมา พอให้ใช้ซุกหัวนอนได้ ถูกสร้างขึ้นหยาบๆ กันลม กันฝน กันแดดได้พอควร เธออยู่ในที่พักแห่งนี้มาตั้งแต่คุณลุงไปรับตัวมา อาศัยซุกหัวนอน หญิงสาวกดเปิดพัดลมเครื่องเล็ก เมื่ออากาศรอบตัวระอุร้อน เธอผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวออกไปอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัวผืนบางคลุมหัวไหล่ ขณะที่เปิดประตูห้องออกไปด้านนอก เมื่อห้องน้ำ ห้องท่าถูกสร้างแยกไว้อีกที่ สำหรับคนใช้ทำธุระส่วนตัวรวมถึงเธอด้วย
สายลมเย็นๆ ยามดึกพัดเย็นสบาย ใบบัวรีบสืบเท้าเร็วๆ เธอยังมีอะไรต้องทำอีกหลายอย่าง ต้องรีบเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เพราะพรุ่งนี้เธอจะต้องเปลี่ยนที่นอน ตามที่แจ่มจันทร์ขอร้องไว้
ประตูสังกะสีที่เกือบผุ เนื่องจากน้ำกัดกร่อนจะเป็นสนิม เธอเปิดประตู เอื้อมมือเปิดไฟฟ้า รีบปลดผ้าคลุมตัวแขวนไว้ที่ราวไม้เก่าๆ หันมาปิดประตูลงกลอนให้แน่นหนา แม้จะไม่มีใครอยู่ด้านนอก แต่ก็จำเป็นต้องระวังตัว ผ้าถุงเก่าๆ ถูกถอดออกจากร่างกาย พาดทับไว้ที่ผ้าเช็ดตัวผืนบาง เอื้อมหยิบขันน้ำและตักน้ำเย็นๆ ราดบนร่างกาย หญิงสาวคลี่ยิ้มอ่อนๆ เมื่อความเย็นสดชื่น ช่วยให้คลายความเมื่อยล้า...
แต่...ใบบัวไม่รู้ว่าด้านนอกนั่น! มีใครบางคนย่องออกมาจากเงามืด มันเดินจรดฝีเท้าที่เบากริบ สอดส่ายสายตามองหาช่องที่พอจะมองรอดเข้าไปด้านในห้องน้ำผุๆ พังๆ นั่นให้ได้ มุมปากบางเฉียบกระตุกยิ้ม แสงสว่างจากด้านในส่องรอดออกมา มันจึงเดินไปหยุดและโน้มตัวลงสอดสายตามองด้านใน
ดวงตาของมันถลนปูดโปน เมื่อมองเห็นด้านในชัดๆ เต็มสองตา ใบบัวยืนพริ้มตาหลับอยู่กลางห้องน้ำ เธอกำลังล้างเนื้อตัวด้วยน้ำใสสะอาด ผิวกายเนียนละเอียดขาวผ่อง โนมเนื้อเต่งตึงชวนมอง เต่งเต้าตั้งชูชัน ปลายจะงอยถันสีระเรื่อตั้งเต่ง มีหยดน้ำเกาะพราวไปทั่วร่างกาย ยิ่งสายตาของเขาลดลงต่ำๆ มันแทบจะสะดุดลมหายใจตัวเอง เมื่อความงดงามที่ส่องเห็นนั้น ใบบัวเปรียบเหมือนมักรีผลที่สุกงอม และพึ่งหลุดออกจากขั้ว ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายจนแทบจะไหลริน
พัฒนะกลืนน้ำลายลงคอเอือกๆ เขายืนตัวเกร็ง กดใบหน้าแนบสังกะสีเพื่อให้มองเห็นด้านในให้ชัดถนัดตามากขึ้นกว่าเก่า แต่ตรงจังหวะที่ใบบัวหมุนตัวกลับ เขาจึงเห็นแค่ด้านหลังของเธอ แก้มก้นเต่งๆ อวบๆ เรียวขาเพรียวยาวที่สวยชวนมอง ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกๆ เขานึกปราบปลื้มในใจ ความสวยสดที่เห็นตรงหน้านี่ อีกไม่กี่นาที่เขาจะได้ชื่นชมด้วยสองตา และสองมือ ชายหนุ่มคาดการณ์ล่วงหน้า ค่ำคืนนี้คงเป็นแดนสวรรค์สำหรับเขา เมื่อใบบัวสวยสะคราญเกิดคาด เธอซ่อนความยวนตาไว้ด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ โทรมๆ
หญิงสาววางขัน เธอคว้าผ้าเช็ดตัวแห้งๆ มาเช็ดถูตามตัวเพื่อไล่คราบน้ำ ตลบผ้าถุงผืนเดิมคลุมตัว และเปิดประตูออกมาภายนอก โดยไม่รู้ว่ากำลังมีคนหน้ามืดยืนรออยู่อย่างรุ่มร้อน
“อ้าย...ไอ อ่อยอะ!” ใบบัวขัดขืนตัวไว้ เธอพยายามส่งเสียงร้องแต่มันฟังอู้อี้เต็มทน เมื่อถูกปิดด้วยมือใหญ่หยาบ ดวงตาเธอเบิกโพลง พยายามมองหาทางหนี เมื่อให้คนที่กำลังคุกคามเธอคือผู้ชาย! เธอได้กลิ่นเอียนๆ ลอยมาเข้าจมูก กลิ่นเหงื่อเค็มๆ ที่ทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยา เธอหวาดกลัวแล้วก็ขยะแขยง
“อย่าดิ้นสิบัว ฉันเอง” พัฒนะกระซิบเสียงแหบต่ำ เขาแข็งไม่หมดทั้งตัว เมื่อเรือนกายอรชรส่ายเสียดสี
“อ่อยอัวอะอุนอัด!” เธอพยายามส่งเสียงอีก
“บัวต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ดิ้นไม่ร้อง...ฉันถึงจะปล่อย” พัฒนะถามย้ำ เขาเกร็งตัวและลากใบบัวตรงไปยังที่พักของเธอ
“อุนอะอำอะไออัว...อ่าอะ” หญิงสาวยังดิ้นเหมือนเดิม ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งด้วย เมื่อชายหนุ่มด้านหลังส่อเจตนาร้าย เธอรู้สึกถึงภัยอันตราย เป็นความเลวร้ายที่เธอไม่อยากเจอ เพราะปฏิกิริยาของชายหนุ่มบางอย่างบ่งบอกแบบนั้น บางสิ่งที่แข็งร้อนเสียดสีอยู่ที่โคนขาอ่อนของเธอ เธอกลัว! แล้วก็รังเกียจ...
“อย่าดิ้นสิบัว ฉันกำลังสอนให้เธอรู้จักความลับ...ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย แล้วเธอจะชอบ”
“ไอ่! อ่อย!” เธอดิ้นอีกครั้ง มือเรียวตะปบปมผ้าถุงแล้วออกแรงดิ้นรนแรงๆ ซ้ำอีกครั้ง
ตุ๊บ! พัฒนะตัดสินใจทุบมือลงบนแผ่นท้องราบเรียบ ใบบัวตัวงอ เธอเจ็บจุก แต่ก็ได้จังหวะพอดี... เมื่อเธองอตัวลงชายหนุ่มจึงคลายแรงที่จับ ส้นเท้าใต้รองเท้าแตะ จึงยกขึ้นถีบผลุง ตรงจุดกึ่งกลางร่างกายของคนที่ไม่ประสงค์ดี ชายหนุ่มทรุดฮวบ เมื่อฝ่าเท้าน้อยๆ นั่นแตะโดนกล่องดวงใจทั้งยวง มันกำลังเปล่งบวมเพราะความกำหนัด จึงโดนฝ่าเท้าถีบกระแทกอัดเข้าไปเต็มที่ จนหน้าเขียวหน้าเหลือง ทรุดฮวบลงไปนอนคราง ร้องโอดโอย...
“โอ้ย! อีบ้า...ถีบหาห่าอะไรว่ะ”
เขาตะโกนด่าตามหลัง เมื่อใบบัวกระเสือกกระสนดิ้นหนีไปจนได้ เธอวิ่งตุปัดตุเป๋ เปิดประตูห้องพักตัวเองและรีบลงกลอนมือไม้สั่น รูดตัวลงไปนั่งที่พื้น ยกสองมือขึ้นกอดตัวเองแน่นๆ ฟันในปากกระทบกันดังกึกๆ เพราะหวาดกลัวสุดขีด น้ำตาร้อนๆ ไหลรินอาบหน้า ไม่คิดว่าคนที่เคยเห็นหน้าค่าตาทุกวันจะปองร้ายเธอขนาดนี้
ปังๆ “บัว อีบัวเปิดประตูนะโว้ย ไม่อย่างนั้นกูจะพังเข้าไป” เป็นเพราะโกรธจนหน้ามืด พัฒนะจึงพยายามโขยกเขยกมาจนถึงประตูห้องพักของใบบัว เขาแนบหน้ากับบานประตูไม้อัด ส่งเสียงคำราม ข่มขู่ให้คนด้านในรู้
“คุณพัฒกลับไปเถอะค่ะ บัวกลัว” เธอตอบเสียงสั่น ยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น
“มึงจะกลัวอะไรว่ะ แปบเดียวเดี๋ยวก็สนุกสุดๆ” ผู้ชายที่เคยเป็นสุภาพบุรุษในสายตาเธอปลิวหายไปจากสายตาหมดสิ้น เวลานี้พัฒนะกลายเป็นผู้ชายกักขฬะอีกคนที่เธอไม่รู้จัก...และไม่คิดว่าเขาจะเป็นได้เท่านี้
“กลับไปเถอะค่ะ หรือคุณอยากให้คุณลุงรู้ ท่านอยู่บ้านนะคะวันนี้และอาจจะบังเอิญได้ยินเสียงของคุณ” หญิงสาวตอบกลับเสียงสั่น เธอหวังว่าสิ่งที่พูดไปจะใกล้เคียงความจริง จริงอยู่ว่าวันนี้ลุงประพจน์กลับมานอนที่บ้านแต่ท่านอาจจะหลับลึกจนไม่ได้ยินอะไรเลยก็ได้ เธอแค่ขู่ชายหนุ่มให้เขารู้สึกหวาดกลัว
บทที่21.ตอนพิเศษ...ของใบบัวเป็นความสำเร็จที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับใบบัว...เกือบสี่ปีที่เธอภาคเพียร โดยมีฟาบริชเป็นคนคอยให้กำลังใจ เธอต้องเรียนหนักกว่าคนอื่นๆ เมื่อเธอต้องเริ่มต้นที่ภาษา แต่ไม่เคยทำให้คนสู้ชีวิตอย่างใบบัวท้อถอย...การเรียนเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของเธอ มันอยู่ในความคิดของใบบัวตลอดเวลา แม้จะมองดูริบหรี่เหลือแสน... ไม่มีอะไรสายไปหากเราขยันและอดทน...และหลังความเพียรพยายาม นั่นคือการประสบความสำเร็จ!! ฟาบริชยืนยิ้ม ในอ้อมแขนของเขามีเด็กชายอายุสามปีกว่าๆ เด็กชายฟาฮาน สายใยระหว่างเขากับใบบัว แม่บรรณการแสนสวย เด็กสาวนัยน์ตาเศร้าสลดเมื่อแรกเห็น...วันนี้หล่อนกลายเป็นภรรยาของเขา เป็นผู้หญิงที่ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามานั่งอยู่ในหัวใจ ไม่เคยมีเสียงต่อว่า มีแต่ความอดทนและจำยอม เขาแพ้หล่อน...แพ้ความดีของหล่อนอย่างหมดรูป ไม่เคยคิดฝันว่าตัวเองจะมี ‘ครอบครัว’ ไม่เคยคิดฝัน ว่าตัวเองจะพบเจอกับคำว่า...ความรัก...
ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม เคลื่อนฝ่ามือขยับเคล้นคลึงเนินอกอวบอัด บีบบี้ขยี้ขยำด้วยความเมามัน ลากไล้ปลายนิ้วชี้กรีดตามผิวกายเรียบลื่น ตามผิวเนียนชื้นเหงื่อ ดูดซึมความหอมหวานของทรวงงาม ในขณะที่ร่างกายก็เสียดสีไม่หยุด...เสียงลมหายใจหอบโยนดังกึกก้อง เดเนียลไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน เขาร้อนเป็นไฟ ปานน้ำเดือดคลั่กๆ บนเตา เขาอยากมอบรสรักหวานหอม ให้พิทีเซียได้รู้จัก อยากแนบสนิทกับเธอทุกสัดส่วน จนตัวเองยังรู้สึกตระหนก“แค่เธอคนเดียวเท่านั้นพิชชี่” ชายหนุ่มกระซิบเสียงแหบปร่า หญิงสาวอ้าปากพะงาบๆ เธอไม่ได้ตอบ เพราะกำลังหัวหมุนกับความรัญจวน จนเผลอครางกระเส่าเสียงแห้งๆ ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเสียดเสียว ที่แผ่ซ่านไปตามผิวกาย เธอหรี่ตามองเดเนียล แววตาของพิทีเซียฉ่ำพราวเต็มไปด้วยไอปรารถนา“อย่าทำแบบนี้” แม้จะรู้ว่าไม่มีทางหยุดยั้งเขาได้ แต่พิทีเซียก็ยังพยายามเดเนียลตอบเสียงปร่า “อย่าห้ามฉันเลย...เธอก็รู้นี่ว่าเราควรเป็นแบบนี้ในสักวันหนึ่ง ไม่ใช่วันนี้... ก็ต้องเป็นพรุ่งนี้”อารมณ์หนุ่มกำล
“ปากเสีย!” หญิงสาวแก้เก้อให้ตัวเอง เธอบ่นว่าเขาเบาๆ แล้วจึงรีบลุกขึ้นเพื่อเดินหนี “อ้าว! ยังไม่ตอบ จะรีบไปไหนอีกล่ะ” เดเนียลยิ้มเต็มหน้า เขาตะโกนตามหลัง แล้วจึงเดินตาม “ถามบ้าๆ นี่เวลาเท่าไรแล้ว? ฉันก็ต้องไปทำงานสิ” พิทีเซียตอบ เธอไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ เธอกลัวตัวเองจะเพลี่ยงพล้ำ “เหรอออ...นึกว่ากลัว” ชายหนุ่มหยอด เขาสนุกทุกนาที นึกดีใจที่เจ้านายจับโยนมาหาหญิงสาว ที่สำคัญมันคงถึงเวลาของตัวเองแล้วสินะ... ถึงเวลามีความสุขอย่างแท้จริง กับคนที่ถูกใจ “ทำไมฉันต้องกลัวนายด้วยเหอะ!” มีเสียงเถียงกลับ มุมปากอิ่มเต็มมีรอยยิ้มนิดๆ...เธอมีคู่ปรับฝีมือทัดเทียมกัน จนทำให้มี
บทที่20.บรรณาการแสนหวานพิทิเซียชี้มือไปที่โทรศัพท์ประจำห้อง...มีรายการอาหารพร้อมกับร้านเจ้าประจำที่เธอฝากท้องด้วย เธอไม่มีเวลาจะมาทำกับข้าวกับปลา ไม่มีความเป็นกุลสัตรี เป็นผู้หญิงแกร่งที่ทำงานเป็นหลัก ไม่นิยมอยู่หน้าเตาไฟเดเนียลก็ยังอมลิ้นเหมือนเดิม เขาไม่ได้ตอบ และหญิงสาวก็รีบชิ่งหนี เมื่อมันอันตรายกับตัวเอง เกินกว่าที่จะอยู่ใกล้ๆ หากเขาบ้าเลือดขึ้นมาอีก เธออาจจะเสียมากกว่าจูบ!!หญิงสาวใช้เวลาส่วนตัวในห้องที่ล็อกประตูแน่นหนา เธออาบน้ำและใส่เสื้อผ้าให้รัดกุมกว่าเก่า ไม่เปิดโอกาสให้เดเนียลได้มีโอกาสมองฟรีๆ เหมือนเมื่อเช้าเด็ดขาด...กางเกงวอร์ม เสื้อแขนยาว...แทนชุดนอนสุดหวิว ที่นิยมใส่ก่อนนอน วันนี้พิทีเซียงด เพราะมันไม่ปลอดภัยหากมีเดเนียลอยู่ในห้องหับลับตาคนด้วยเมื่อเปิดประตูห้องนอนออกมา เธอได้กลิ่นหอมๆ ของอาหารมื้อเย็น และกลิ่นนั้นเหมือนกำลังกวักมือเรียกหญิงสาวสูดกลิ่น ไล่ดมตามกลิ่นมา จมูกพะเยิบพะยาบ...จนกระทั่งถึงส่วนครัว...ที่หยากไย่น่าจะเกาะ เพราะเธอไม่เคยเฉียดเข้าใกล้ นอกจากเข้ามาหาน้ำเย็นๆ ดื่มแก้กระหายพิทีเ
บทที่19.พรหมลิขิตเปิดตาฉับ! ดวงตาสบกันจังๆ เขามองต่ำลงมาที่หว่างอกของพิทีเซีย เป็นความสะเพร่าของตัวเองที่โน้มตัวลงใกล้ขนาดนี้ จนเดเนียลมองเพลินไปสิ กับหน้าอกหน้าใจของตัวเองที่แทบจะใส่พานถวายผิวแก้มของพิทีเซียขึ้นสีจัด เธอมองเห็นสายตาวาววับของเดเนียลนั้นจับจ้องอยู่ที่ใด...เธอยืดตัวขึ้น หมุนตัวเดินหนี โดยไม่พูดอะไรอีกเลยปัง!เสียงประตูห้องถูกกระแทกแรงๆ มันปิดงับลงและปิดกันสายตาร้อนแรงของเดเนียลเช่นกัน...“โอ้ย! อยากจะบ้า...ฉันจะต้องทนอยู่ร่วมห้องกับผู้ชายอันตรายแบบนั้นเหรอ?”พิทีเซียกระแทกเสียงพูด มือเธอทุบพวงมาลัยรถยนต์ แทนการกระแทกหน้าเดเนียล ผู้ชายอันตรายที่หล่อล่ำ พอๆ กับกัปตันอเมริกา พระเอกขวัญใจของมวลมหาประชาชนจากทั่วโลก...เดเนียลแพ้คริส อีแวนส์แค่ความดัง นอกนั้นนะเหรอ...พอสูสีกันเชียวแหละ และเธอแพ้ทางเขา เธอควรทำยังไงดี...ควรจะตั้งรับยังไง? ที่จะทำให้ตัวเองปลอดภัยจากภัยคุกคาม ที่มาในรูปร่างของผู้ชายสุดหล่อ...ใบหน้าของพิทีเซียยังคงบึ้งตึง แม้จะถึงเวลาทำงาน...เธอนั่งเหม่อ เมื่อในหัวต
บทที่18.พิเศษ...เดเนียลบอดี้การ์ดหัวใจตายด้าน...“ว้าย! อย่าเข้ามานะ ฉันไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลย...ห้ามนายขยับเข้ามา...อย่างเด็ดขาด!!”เดเนียลกรอกตาขึ้นๆ ลงๆ เขาหรือจะสนเสียงร้องห้าม เมื่อหน้าที่ครั้งนี้ของเขาคือการดูแลอารักขา พิทีเซียอย่างใกล้ชิด ในฐานะบอดี้การ์ดส่วนตัวของหล่อน บอดี้การ์ดที่ถูกอัปเปหิมา...เมื่อฟาบริชเจ้านายไม่ต้องการส่วนเกินชายหนุ่มเดินอาดๆ ไปหาหล่อนอย่างหน้าทน แก้วหูของเขาก็แทบจะแตก!! เพราะเสียงร้องกรี๊ดๆ ของน้องสาวเจ้านาย พิทีเซีย ดีคอร์เนอร์ ไม้เบื่อไม้เมาของเขา ยัยผู้หญิงเรื่องมากสุดพยศ“กรี๊ดดดดดด!!”เจ้าหล่อนกรี๊ดเสียงดังคับห้อง ดวงตาคมเฉี่ยวมองเขาตาลุกโพลง เมื่อเห็นดังนั้น... เดเนียลจึงตัดสินใจกระโจนเข้าใส่...พอถึงตัวหล่อนได้...ก็รีบเอามืออุดปากหล่อนเสียเลย…“เงียบ!” เสียงเหี้ยมและแสนจะดุดัน จากผู้ชายหน้าตาคุ้นๆแต่คิดหรือว่าพิทีเซียจะสิ้นฤทธิ์ง่ายๆ เขี้ยวคมๆ ของหล่อนก็งับลงมาบนฝ่ามือของเขาอย่างไร้ความปราณี ฟันคมๆ นั่นขย้ำลงมา