Masuk“ทุกอย่างนี้ฉันทำเพื่อเธอปรางค์” ดอกไม้ดอกหนึ่งถูกยื่นตรงหน้าเธอ เมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ หญิงสาวเอื้อมมืออันสั่นเทามารับดอกไม้ดอกนั้นด้วยหัวใจที่เต็มตื้น น้ำตารินด้วยความดีใจ พลุหลากหลายชนิดถูกจุดขึ้นไปบนท้องฟ้าหลายสิบลูก ส่งผลให้ท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งหมู่ดาวสว่างไสวสวยงาม ทั้งสองแหงนมองพลุลูกหนึ่งที่จุดขึ้นไปท้องฟ้า แตกกระจายเมื่อวิ่งขึ้นสูงเสียดฟ้า พร้อมกับอักษรสีทองที่ปรากฏขึ้นเมื่อพลุนั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“ไม่ว่าฉันจะยืนอยู่ที่พื้นดินหรือบนท้องฟ้า หรือที่ไหนๆ ของโลกใบนี้ เมื่อปรางค์มองขึ้นไปบนท้องฟ้าปรางค์จะเห็นประโยคที่ฉันบอกรักปรางค์ ยามที่ปรางค์ก้มลงมองที่พื้นดิน คำบอกรักของฉันก็จะปรากฏขึ้นเช่นกัน”
ปรางค์รวีโผกอดร่างหนาทันทีที่เขาพูดจบ ไม่ว่าคำบอกรักที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า คำบอกรักที่ติดอยู่ที่กำแพง หรือคำบอกรักที่ออกมาจากปากของเขา มันทำให้หัวใจของเธอแช่มชื่นมีความสุข อิ่มเอมกับคำพูดที่ได้ฟัง ตระการตาประทับใจกับภาพที่ได้เห็น แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เธอรักเขาจนสุดหัวใจ
“เธอรักฉันเหมือนกับที่ฉันรักเธอหรือเปล่า” เขาพูดกระซิบอยู่ที่ข้างใบหู
“รักค่ะ ปรางค์รักคุณเสือ”
รอยยิ้มของเขาปรากฏบนใบหน้าเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ชายหนุ่มดันร่างบางให้ออกห่างเพียงนิด ก่อนจะเคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ จนกระทั่งริมฝีปากของทั้งสองบรรจบกัน จูบที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความนุ่มนวล อ่อนโยนผสานกับความเร่าร้อนที่แล่นผ่านมาจากปลายลิ้นหนา ยามล่วงผ่านเข้ามาหาความละมุนและหอมกรุ่นในช่องปากหวาน จูบครั้งนี้ต่างกับจูบครั้งแรกที่เธอสัมผัสจากเขา มันอ่อนหวานและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ร่างสาวกำลังลอยขึ้นสูงไปบนท้องฟ้า เหมือนใบไม้ที่ผลัดใบจากกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ กระทบกับลมทะเลส่งผลให้ร่างกายของเธอร้อนและหนาวสลับกันไปมา
ปรางค์รวีไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ร่างกายของเธอถูกช้อนอุ้มขึ้นสูง ก่อนที่เขาจะพาร่างของตนเข้าไปภายในบ้านพัก เพราะมัวหลงเพลิดเพลินอยู่กับจุมพิตกระชากวิญญาณ ปรางค์รวีมารู้ตัวอีกครั้ง เมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับเตียงนอน ความเย็นจากที่นอนไม่ได้ทำให้ร่างกายของเธอสั่น แต่เป็นเพราะมือหนาที่อยู่บนเรือนร่างของเธอต่างหากที่เป็นสาเหตุ มือของเขาไม่ต่างกับไฟ สัมผัสตรงจุดใดความร้อนแผ่ซ่านไปตรงจุดนั้น เธอรู้สึกราวกับว่า ตนเองกำลังคืบคลานเข้าหาดวงตะวัน ที่ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความร้อน แผดเผาร่างบางให้ไหม้เป็นจุล
ริมฝีปากหนายังคงครอบครองกลีบปากนุ่มไม่ยอมผละจาก ความนุ่มราวกับปุยไหมที่เบาไร้น้ำหนัก ความหอมที่เปรียบเสมือนดอกไม้ยามเช้าแรกแย้ม ความหวานเปรียบเสมือนน้ำหวานจากรวงผึ้งทุกสัมผัสและรสชาติที่วิตโตริโอได้รับ รัญจวนอารมณ์เหลือคณาจนเขาไม่อยากจะถอยห่างปากนุ่มนี้เลย
ในขณะที่ปากของทั้งคู่แนบสนิท มือใหญ่ก็เริ่มทำงานอย่างเชี่ยวชาญ ปลดเสื้อผ้าอาภรณ์ของเธอออกทีละชิ้น โดยเจ้าตัวไม่มีทีท่าขัดขืนเพราะปรางค์รวีกำลังหลงอยู่ในมนต์ดำฤษณา เธอไม่สามารถตะเกียกตะกายสู่โลกความเป็นจริงได้ หลงอยู่ในอ้อมกอดและสัมผัสของเสือร้าย
เมื่อเสื้อของเธอชิ้นแรกหลุดออกไปจากร่างกาย ริมฝีปากของเขาเลื่อนต่ำลงมาทักทายเนินอกขาวที่ซ่อนตัวอยู่ในบราเซียร์สีดำลายลูกไม้ เขาขบกัดผิวเนื้อบริเวณนั้นเป็นรอยจ้ำเล็กน้อยคล้ายกับตีตราเป็นเจ้าของ เพียงไม่กี่วินาทีเสื้อในลายเซ็กซี่ก็หลุดออกจากบ่าเนียนสวย ก่อนจะถูกโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี
มือแข็งแรงประคองทรวงอกอวบใหญ่เต็มฝ่ามือ ที่ถูกบีบเคล้นเบาๆ หยอกเย้ายอดถันด้วยปลายนิ้วเพื่อเป็นการชิมลาง ทำให้เสียงครางเล็กๆ ดังผ่านปากสาว เสียงที่ว่านี้เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออุ้งปากร้อนราวกับไฟดูดกลืนยอดถันสีชมพอย่างกระหาย ราวกับว่าสิ่งที่ครอบครอง คือขนมหวานชนิดใหม่ที่ตนเพิ่งเคยลิ้มลอง
“คุณเสือ...อืม...คุณเสือ”
ร่างบางเริ่มบิดเร้าส่ายสะบัดอยู่บนที่นอน ความเสียวกระสันกระจายไปทุกพื้นที่ในร่าง เมื่อปากได้รูปของวิตโตริโอสลับดูดกลืนยอดปทุมทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียม โดยมีมือใหญ่เคล้นคลึงไปด้วย สาวร่างบางที่ไม่เคยผ่านสมรภูมิพิศวาสมาก่อน ถึงกับครางไม่หยุดปาก
“คุณเสือ...คุณเสือ” เธอร้องครางเสียงแผ่ว ความร้อนลามเลียไปทั่วร่าง เพลิงอารมณ์ถูกปลุกขึ้นมาด้วยอุ้งปากและปลายลิ้นที่ทำงานอย่างหนักตรงปทุมมาลย์
ส่วนมือแข็งแรงเริ่มปลดกระโปรงให้หลุดออกจากร่างกายสาวตามด้วยชั้นในสีดำ ร่างกายขาวผ่องราวกับสีของน้ำนม ต้องกับแสงของนีออนที่อยู่บนเพดาน ทำให้วิตโตริโอชายผู้มารักถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ เรือนร่างของเธอสวยงามมาก สีแดงเรื่อจากความเขินอายถูกแต่งแต้มไปทั่วเรือนกายสาว ขับกับผิวขาวดั่งน้ำนมสด ทรวงอกคู่อวบโดดเด่นอยู่ตรงหน้าโดยมียอดถันสีชมพูสดกระเพื่อมไหวล่อสายตาของเขาอยู่ ความนุ่มจากเนื้อกายสาวที่เขาได้ลูบไล้ มันเหมือนกับว่าเขากำลังจับผิวของเด็กที่ทั้งหอมและนุ่มจรุงใจยิ่งนัก
เขาจูบเธออีกครั้งอย่างนุ่มนวล ก่อนจะเพิ่มความเร่าร้อนทีละน้อย เขาผละริมฝีปากออกเล็กน้อย ลิ้นหนาไม่เกี่ยวรัดและแรกเร้าเหมือนครั้งก่อน หากแต่ทักทายอย่างหวามไหวด้วยการระรัวปลายลิ้นของเขากับปลายลิ้นของเธอ โดยที่ริมฝีปากของเขาและเธอไม่สัมผัสกัน มันเป็นความแปลกใหม่ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน ความเสียวซ่านยามที่เขาระรัวลิ้นนั้น มันซาบซ่านเข้าไปถึงทรวงยิ่งนัก มือใหญ่ลากไล้ไปตามหน้าท้องแบนราบ ไล้วนบริเวณท้องน้อยเพื่อให้ท้องไส้ภายในร่างกายของเธอปั่นป่วน ร้อนวูบวาบราวกับจับไข้ ก่อให้เกิดพายุหมุนลูกใหญ่หมุนตัวด้วยความเร็วสูงอยู่ภายในช่องท้อง
Chapter 70“เกี๊ยะ คุณพ่อคุณแม่ของพี่วิโต คุณลุงลิปโป้ และก็คุณฟรานโก้ เป็นเพื่อนของพี่วิโต” กมลเนตรแนะนำตัวบุคคลที่เดินทางมาพร้อมกับตัวเอง โดยที่เธอไม่รู้ว่า ภัทรารู้จักทุกคนที่กมลเนตรแนะนำตัว แต่เธอก็ทำนิ่งเฉย ทำราวกับว่าเพิ่งรู้จักกัน“เชิญด้านในค่ะ” ภัทราเชื้อเชิญบุคคลทั้งหมดเข้าไปภายในศาลา หลังจากที่ทำความเคารพตามมารยาทเสร็จ“ปรางค์” กมลเนตรเรียกชื่อของเพื่อนรัก ปรางค์รวีเงยหน้ามองผู้พูด เมื่อเห็นว่าเป็นกมลเนตรเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมานาน หญิงสาวโผกอดร่างของกมลเนตรแน่น ร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น น้ำตาแห่งความเสียใจที่มารดาจากไป ความรู้สึกผิดที่หลงรักผู้ชายคนเดียวกับเพื่อน และอีกมากมายที่อัดแน่นอยู่ในสมองน้อยๆ ของหญิงสาวหัวใจช้ำ“ปรางค์เป็นไงบ้าง”“แม่ แม่ไม่อยู่แล้ว แม่จากปรางค์ไปแล้ว ต่อไปนี้ปรางค์จะอยู่ยังไง” ความอ้างว้างเกาะกินหัวใจของปรางค์รวี เธอไม่รู้ว่าจะยืนจุดไหนบนโลกใบนี้ ความสูญเสียที่ได้รับ มันมากพอที่จะทำลายความเข้มแข็งที่พยายามก่อสร้างมันขึ้นมาได้ทั้งหมดในคราวเดียว“ปรางค์ยังมีตา มีเกี๊ยะนะ” กมลเนตรปลอบเพื่อน“ปรางค์ยังมีผมด้วย ผมจะอยู่ข้างๆ ปรางค์นะ” ศาสตราพูดเสริ
Chapter 69“เกี๊ยะอยู่ที่นี่ดีกว่าค่ะ เกี๊ยะจะได้ดูแลปรางค์ด้วย บอกตรงๆ ว่าเป็นห่วง ไม่อยากละสายตาเลยค่ะ”“งั้นผมอยู่ด้วยดีกว่า มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน ผมนอนที่ห้องข้างนอกเอง”“ตามใจคุณศาสตราเถอะคะ ตอนนี้เกี๊ยะคิดอะไรไม่ออกจริงๆ”ภัทราเหนื่อยทั้งกายและจิตใจ ทุกข์ใจเป็นอย่างมากที่เห็นเพื่อนเป็นเช่นนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้มากกว่าปลอบโยนในขณะที่เธอเดินลงมานั่งอยู่ในห้องรับแขกเสียงโทรศัพท์มือถือของภัทราดังขึ้นหลายครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะกดรับสาย เสียงเนือยๆ คล้ายกับอ่อนล้าของภัทรา ทำให้บุคคลที่โทรศัพท์มาหาจับความผิดปกติได้“หวัดดีตา” ภัทราทักปลายสาย“ทำไมทำเสียงแบบนั้นล่ะ เป็นอะไรหรือเปล่าเกี๊ยะ” กมลเนตรคิดถึงเพื่อนสาวคนสนิททั้งสองคนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เธอโทรศัพท์ไปหาปรางค์รวีหลายสิบครั้ง หากแต่ไม่ประสบความสำเร็จเลยสักครั้ง เธอจึงตัดสินใจโทรศัพท์มาหาภัทราแทน“ตา แม่ของปรางค์เสียแล้วนะ เสียเมื่อวานนี้เอง ปรางค์ดูแย่มากเลย แย่จนเกี๊ยะใจไม่ดีเลย...ฮือ” ภัทราพูดทั้งน้ำตา กมลเนตรอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ แม้ว่าจะเป็นสัจธรรมของชีวิตก็ตาม แล้วรู้ดีว่าปรางค์
Chapter 68ภัทราเดินมาที่หน้าประตูรั้วบ้าน และเดินไปเดินมาอย่างกังวลใจ สดศรีออกไปตลาดที่หน้าปากซอยร่วมสองชั่วโมงแล้ว ยังไม่กลับมา เธอคิดไปในทางที่ดีว่า สดศรีอาจจะแวะคุยกับคนรู้จัก แต่ก็ไม่น่าจะนานเป็นชั่วโมง เพราะซื้อของสดมาด้วย หากไม่รีบนำกลับมาแช่ตู้เย็น เนื้อสัตว์อาจจะมีกลิ่นก็เป็นได้ ที่สำคัญที่สุด สดศรีไปซื้อของในตลาดที่อยู่หน้าปากซอยไม่เคยเกินหนึ่งชั่วโมง รีบไปรีบกลับด้วยซ้ำไป“ออกไปตามดีกว่า” ภัทราพูดกับตัวเอง คิดว่าอยู่อย่างนี้ความไม่สบายใจคงไม่หาย เธอจึงก้าวเท้าเดินไปยังหน้าปากซอยบ้านที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อไปตามหาสดศรีอีกประมาณยี่สิบเมตรก่อนจะถึงหน้าปากซอย ภัทรามองเห็นคนกลุ่มหนึ่งมุงดูบางอย่าง โดยมีรถของมูลนิธิชื่อดังจอดอยู่ใกล้ๆ ทำให้ภัทราเกิดความอยากรู้อยากเห็น เดินแทรกไทยมุงเข้าดู ดวงตาคมหวานมองดูหน่วยอาสาสมัครกำลังช่วยชีวิตประสบอุบัติเหตุ ซึ่งเธอไม่รู้ว่าเป็นหญิงหรือชาย เพราะร่างสูงใหญ่ของหน่วยอาสาอีกคนบังจนมิด“ใครเป็นอะไรเหรอคะคุณลุง” ภัทราเอ่ยถามชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างเธอ“คนโดนรถเชี่ยวน่ะ โดนไม่แรงหรอกนะ แต่ว่าหัวของแกไปกระแทกกับขอบปูนทางเดิน ก็เลยน็อกไม่ได้สติ ไม่
Chapter 67“ขอโทษนะคะคุณเสก เผอิญว่าฉันเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่ ไม่มีน้อง คุณจึงไม่ใช่พี่ชายของฉัน ไม่ต้องมาเรียกแทนตัวเองว่าพี่เลย ฟังแล้วจะอ้วก”“อะไรจะอ้วกแล้ว ยังไม่ทันทำอะไรเลยแค่จูบไม่กี่นาทีเอง ท้องแล้วเหรอ” รังสรรค์ทำเสียงทะเล้นใส่“นี่อย่ามาทำปากดีนะ ถ้าจะโทรมากวนฉัน ฉันจะวางสายแล้วนะ” เขาพูดเรื่องจูบแรกของเธอในวันนั้น ยิ่งทำให้ใบหน้างามแดงซ่าน ตั้งท่าจะวางสายเพื่อเป็นการตัดบท แก้ขวยเขิน“ผมคิดถึงคุณนะ” คราวนี้น้ำเสียงจริงจัง คนที่ได้ฟังถึงกับยิ้มไม่หุบ ตัวแทบลอย ทำท่ากรี๊ดแต่ไม่มีเสียง“...”“คุณคิดถึงผมหรือเปล่า” เขาถามเมื่อปลายสายเงียบไป“โทรมาแค่นี้เนี่ยนะ เปลืองเงินแย่” เธอเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามเขา จะตอบไปได้ยังไงว่าคิดถึง อายแย่เลย“ไม่เปลืองหรอก โทรมาหาคนที่เรารักเปลืองแค่ไหนผมก็ยอม” เขายังคงหยอดคำหวานต่อไป“ใครคนรักของคุณ พูดให้ดีๆ นะ”“ก็ใครล่ะที่ผมคุยอยู่ด้วย ก็คนนั้นแหละ ว่าแต่คุณอยู่ที่ไหนเนี่ย” ถ้าใครมาเห็นเธอตอนนี้ คงต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าบ้า เพราะเธอกระโดดโลดเต้น ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว“กำลังจะเดินไปบ้านปรางค์” เธอตอบ“แล้วคุณปรางค์เป็นยังไงบ้าง” รังสรร
Chapter 66วันรุ่งขึ้นปรางค์รวีเดินทางไปทำงานตามปกติ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะเดินออกไปจากรั้วบ้าน รถเบนซ์ป้ายแดงก็แล่นมาจอดเทียบข้างรั้วบ้าน ปรางค์รวีมองรถคันดังกล่าวด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ก้าวเท้าเดินไปทางริมฟุตบาทเพื่อเดินไปยังหน้าปากซอยบ้าน ทว่าเธอเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องระงับเท้ายืนตัวตรง เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของโรเจอร์ก้าวลงมายืนข้างตัวรถ“สวัสดีครับคุณพลิสซิลล่า” ปรางค์รวีมองผู้พูดอย่างตกใจ เธอไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่ คำถามหลายคำถามมีมากมาย โรเจอร์รู้จักบ้านของเธอได้อย่างไร ในเมื่อเพิ่งรู้จักกันเมื่อวานนี้ แล้วเธอก็ไม่ได้บอกที่อยู่ให้เขารับรู้ด้วย และอีกคำถามหนึ่งคือ เขามาที่นี่เพื่อจุดประสงค์ใด“สวัสดีค่ะคุณโรเจอร์” เธอตอบรับเพื่อไม่ให้เสียมารยาท“สำหรับคนสวยของผมครับ” โรเจอร์ไม่ได้มามือเปล่า เขาหอบดอกไม้ช่องามช่อใหญ่มาด้วย ก่อนจะยื่นช่อดอกไม้ให้ปรางค์รวีตามที่ตั้งใจไว้ เธอเอื้อมมือมารับอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้“ผมขอไปส่งคุณพลิสซิลล่าที่ทำงานนะครับ” โรเจอร์บอกจุดประสงค์ที่เขาเดินทางมาที่นี่“อย่าลำบากเลยค่ะ พอดีพลิสซิลล่าต้องไปทำธุระให้แม่ก่อนไปทำงานค่ะ”
Chapter 65วิตโตริโอมีอาการไม่ต่างกัน แว่นสีชาเข้มอันใหญ่ปกปิดดวงตาเหม่อลอย หัวใจของเขายังคงอยู่เมืองไทยอยู่กับปรางค์รวี ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดคำว่ารัก แต่มันเป็นเพียงคำลวง ตอนนี้คำว่ารักที่เขามอบให้เธอนั้น เป็นความรักมาจากความรู้สึกที่แท้จริง ความรู้สึกที่นอนสงบนิ่งอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ความรักของเขามาพร้อมกับคำว่าสายเกินไปอเล็สซานโดรหวังเพียงว่าสิ่งที่ทิพย์ธาราทำนั้น เป็นวิธีที่ดีที่สุด ทิพย์ธาราบอกตนว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น สำหรับเขานั้นคิดตรงกันข้าม ยิ่งเวลาผ่านไป หัวใจเจ็บช้ำของวิตโตริโอและปรางค์รวี ยิ่งถูกหนอนแห่งความรักกัดเซาะให้ยิ่งลึกลงเข้าไปอีก ไม่อาจสลัดหลุดได้ ดวงตาของลูกชายบ่งบอกได้ว่า ดวงตาคู่นี้จะไม่มองหญิงใดอีก นอกจากปรางค์รวีโรเจอร์มองหญิงสาวที่เหมือนรักแรกพบของเขาไม่วางตา เป็นเพราะพรหมลิขิตหรือความบังเอิญไม่อาจทราบได้ วันนี้เขามีนัดคุยธุรกิจกับศาสตรา เจ้าของโกดังสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเรือเดินสินค้าภายในประเทศและนอกประเทศกว่ายี่สิบลำ โรเจอร์มีบริษัทเดินเรือหลายบริษัทอยู่ในใจ แต่เขาเลือกบริษัทของศาสตราในการขนสินค้าทางเรือข้ามประเทศ และโกดังสิน







