บทที่ 6
อลันและโรสพาลูกชายคนโตของเขามาที่บ้านของท่านรองเพื่อคุยเรื่องแต่งงานระหว่างทั้งสองคน เขานั้นรู้ความจริงหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเฮียเดย์ยอมรับว่าตนเองกับน้องคณินเกินเลยกันไปแล้วส่วนอลิสเธอเสียใจและไม่ขอมา "น้องคณินยังไม่ลงมาเหรอ" ลรินส่ายหน้าไปมา ส่วนท่านรองนั้นโกรธมากที่เด็กทั้งสองคนเกินเลยกัน แต่ท่านรองก็ไม่โวยวายเพราะว่าลริน เธอคุยและเจรจากับสามีตนเองทำให้เขาอารมณ์เย็นลงและนั่งคุยกันอยู่ระหว่างห้องรับแขก "ยังไงเฮียเดย์อยากจะรับผิดชอบน้องไหมหรือว่าไม่เต็มใจ" ท่านรองเอ่ยถามเฮียเดย์ต่อหน้าซึ่งเขาไม่กล้าที่จะมองหน้าท่านรองด้วยซ้ำ "จริงๆ ฉันไม่อยากให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลยนะเว้ย" อลันเองก็เครียดที่ลูกชายของตนเองทำแบบนั้น "แต่เด็กทั้งสองคนเขาก็เกินเลยกันไปแล้ว เราเป็นพ่อเป็นแม่ก็ควรที่จะทำให้มันถูกต้อง" โรสเอ่ยขึ้นและหันมองหน้าทุกคนที่นั่งอยู่ "เฮียเดย์ไปดูน้องไป" เขาพยักหน้าให้กับพ่อของเขาที่เอ่ยให้ลูกชายในขึ้นมาดูน้องคณินบนห้องและลุกขึ้นเดินมาทั้งๆ ที่เขาไม่เต็มใจ เฮียเดย์เองก็รู้สึกแย่ที่เรื่องนี้เกิดขึ้นถ้าเขาย้อนเวลากลับไปได้เขาจะไม่ทำแบบนั้นอย่างแน่นอน "ก๊อกๆๆ" "ฮึ๊ก" หญิงสาวนั่งร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดเนื้อตัวของเธอยังคงบอบช้ำและมีรอยที่พึ่งจะเริ่มเจือจาง เธอโอบกอดเข่าของตนเองนั่งอยู่บนเตียงเมื่อได้ยินเสียงประตูและคิดว่าน่าจะเป็นป๊าหรือหม่ามี๊ของเธอจึงรีบเช็ดน้ำตาแต่เพียงแค่ไม่นานประตูถูกเปิดเข้าไปทันที "เฮียเดย์" ยิ่งมองหน้าของเขาเธอยิ่งเจ็บและตกใจที่เขานั้นเข้าไปในห้องของตนเอง "สะใจมากสินะสาแก่ใจแล้วนี่เธอทำสำเร็จแล้วเธอผูกมัดฉันได้แล้วคณิน หึ! ฉันไม่น่าพลาดให้ผู้หญิงแบบเธอเลย" มือหนาจับเข้าที่ต้นแขนของเธอกระชากแรงเอ่ยว่าให้เธอตะเบ็งเสียงใส่ "ฮึ๊กเกิดอะไรขึ้นคะ" เธอไม่เข้าใจความหมายของเขาอยู่ๆ เขาก็เข้ามาทำร้ายเธอต่อว่าให้กับเธอ "อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสาฉันรู้ว่าแผนการทั้งหมดเป็นของเธอคณินเธอตั้งใจบอกพ่อกับแม่ของเธอ หึ! ใช่สิชีวิตของฉันมันเลือกไม่ได้นี่" มือหนาทั้งสองจับเข้ายังต้นแขนน้องคณินและเขย่า "โอ้ยเจ็บฮื่อๆ" เขาจึงหยุดการกระทำเมื่อเธอร้องคำว่าเจ็บออกมาเสียงดังเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นแรงขึ้น "อย่ามาเสแสร้งเลยฉันรู้ว่าเธอเป็นคนยังไง เธอเตรียมรับความเจ็บปวดไว้ให้ดี เธอทำชีวิตของฉันก่อน" น้องคณินเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาพูดจบเขาผลักเธอจนล้มหงายลงไปที่เตียงและเขาก็เปิดประตูออกไป "ฮึ๊กทำไมเฮียถึงใจร้ายกับคณินแบบนี้" หยดน้ำตาไหลรินด้วยความเจ็บปวดถูกต่อว่าซ้ำแล้วซ้ำอีกทั้งๆ ที่เธอเป็นคนถูกเขากระทำแต่ต้องกลายเป็นคนผิด คณินไม่กล้าที่จะออกจากห้องเพราะกลัวพ่อจะเห็นเนื้อตัวของตนเองต่อให้เธอใส่เสื้อผ้าปกปิด แต่ที่คอของเธอนั้นยังเป็นรอยเนื้อตัวของเธอยังคงฟกช้ำจากการกระทำของคนใจร้าย จนเวลาผ่านไปในถึงช่วงตอนเย็นคนเป็นแม่นั้นเอาข้าวต้มเข้ามาให้ในห้องนอน "คณินลูก" วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่เป็นวันหยุดส่วนวันพรุ่งนี้เธอต้องไปมหาวิทยาลัยพยายามรักษาตนเองให้หายโดยการทายาและประคบร้อน ลรินเอ่ยเรียกชื่อของลูกสาวใช้มือเปิดสวิตช์ไฟจนสว่างเธอเห็นลูกสาวของเธอนั้นนั่งอยู่มุมของห้อง โดยการที่นั่งกอดเข่าร้องไห้ใบหน้าของคณินนั้นทรุดโทรมดูเหมือนคนที่ไร้เรี่ยวแรง เมื่อเห็นลูกสาวของตนเองเป็นแบบนั้นเธอยิ่งรู้สึกเจ็บได้เพียงแค่โอบกอดลูก "อย่าเป็นแบบนี้สิลูกหม่ามี๊เจ็บยิ่งกว่าหนูอีกนะ" ลรินเธอไม่ได้มีลูกสาวคนเดียวแต่น้องคณินนั้นเป็นพี่สาวคนโตส่วนลูกชายฝาแฝดทั้งสองกำลังศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ "หม่ามี๊" น้องคณินร้องไห้จนไม่มีเสียงเอ่ยเรียกผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงแหบๆ เธอโอบกอดแม่ของเธอและร้องไห้ "ครินลูกแม่ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วนะลูกของแม่จะสมหวังและมีความสุข" ลรินเธอรู้ดีว่าลูกสาวของเธอนั้นหลงรักเฮียเดย์ตั้งแต่ตอนเด็กๆ และในวันนี้เขาก็จัดการทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ลูกสาวของเขาได้อยู่กับคนที่เธอแอบรักและคิดว่าลูกสาวต้องมีความสุขอย่างแน่นอน "หมายความว่ายังไงคะมีความสุข" ทั้งสองคนผละออกจากกัน เธอจับจ้องมองหน้าของผู้เป็นแม่และเอ่ยถาม "วันนี้ครอบครัวของเฮียเดย์มาคุยเรื่องแต่งงานและงานแต่งจะเกิดขึ้นภายในสิ้นเดือนนี้" "คุณแม่บอกกับทุกคนเหรอคะ" "ใช่จ้ะป๊าก็รู้ความจริงหมดแล้วคณินไม่ต้องกลัวนะลูกอะไรที่มันเกิดขึ้นแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป ไม่มีใครโกรธลูกสาวของแม่ขอแค่ลูกสาวของแม่เป็นคนดีก็พอ" "ป๊าไม่โกรธคณินเหรอคะหม่ามี๊" จริงๆ ท่านรองก็โกรธลูกสาวแต่เขาไม่อยากโวยวายและอีกอย่างลรินก็สั่งห้ามไว้กลัวว่าหัวใจของลูกสาวนั้นจะบอบช้ำจนเกินในเมื่อเรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นผู้เป็นแม่กับผู้เป็นพ่อก็อยากให้ลูกสาวสมหวังและมีความสุข "หม่ามี๊ทำแบบนี้คือการบังคับเฮียเดย์รับผิดชอบหนูนะ" เธอส่ายหน้าไปมาไม่อยากให้ผู้เป็นแม่นั้นทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอผูกมัดเขา "สบายใจได้เฮียเดย์เป็นคนดี เขาจะรักลูกสาวของหม่ามี๊และดูแลลูกสาวของหม่ามี๊" ความเป็นจริงแล้วเขาเกลียดเธอมากด้วยซ้ำ "เอาเป็นว่าลูกสาวของหม่ามี๊เลิกร้องไห้ได้แล้วนะชีวิตต้องเดินต่อไปข้างหน้าอีกอย่าง พรุ่งนี้ลูกสาวของหม่ามี๊มีสอบอย่าทำให้หม่ามี๊ผิดหวังนะ" "หนูรักหม่ามี้นะคะ"บทที่ 14 เฮียเดย์หนีน้องคณินออกมาจากห้องหอโดยที่ไม่ให้คนอื่นเห็นออกมาทางหลังบ้าน หลังจากที่อลิสน้องสาวของเขาโทรมาว่าอยู่โรงพยาบาลเฮียเดย์เป็นห่วงน้องมากจึงรีบตรงมาที่โรงพยาบาลทันที"อลิส ทำไมที่หน้าเคาน์เตอร์ไม่มีชื่อ" เมื่อเขาถึงโรงพยาบาลสิ่งแรกที่เขาตรงไปคือหน้าเคาน์เตอร์ถามชื่อจริงน้องสาวว่าอยู่ห้องไหนแต่เขาได้คำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีชื่อนี้อยู่ในโรงพยาบาลจึงกดโทรหาน้องสาว"อลิสอยู่ข้างบนค่ะบนสุด""หมายความว่ายังไงบนสุดดาดฟ้าอย่างนั้นเหรอ""ฮื่อๆอลิสไม่อยากอยู่แล้ว" "อย่านะอลิซ อย่า" เขาหันหน้าไปทางประตูหนีไฟและรีบวิ่งทันทีไม่วางสายจากน้องสาวด้วยพยายามห้ามน้องสาวของตนเองกลัวว่า เธอนั้นจะทำในสิ่งที่ไม่ดีถ้ามัวขึ้นลิฟต์ก็คงไปไม่ทันอย่างแน่นอนเขาใช้กำลังที่มีออกวิ่งขึ้นบันไดหลายชั้นจนเริ่มเหนื่อยแต่ก็ยังไม่ถึงดาดฟ้า "แฮกๆอลิสได้ยินเฮียไหม""ฮื่อๆ" ทางปลายสายมีเพียงแต่เสียงสะอื้น และเขาพยายามวิ่งขึ้นบันไดให้เร็วที่สุดจนกระทั่งถึงประตูดาดฟ้าเขาออกแรงผลักจนสุดตัว "อลิส" ด้านบนลมแรงมากท้องฟ้าเต็มไปด้
บทที่ 13ตัดมาในวันแต่งงานครอบครัวของทั้งคู่ไม่คิดจะให้ทั้งสองคนหมั้นกันเพราะว่าทั้งสองคนไม่ได้รักกันอีกอย่างกลัวว่าจะเลิกกันก่อนจึงตัดสินใจให้ทั้งสองคนนั้นแต่งงานกันแล้วหวังว่าทั้งสองคนจะรักกันจริงๆ เขาไม่เป็นห่วงแค่เรื่องของคณินแต่เขาเป็นห่วงทั้งเรื่องเฮียเดย์อีกอย่างครอบครัวของเฮียเดย์ก็กลัวว่าเฮียเดย์และน้องอลิสจะรู้สึกดีต่อกันไปมากกว่านี้จึงรีบให้มีงานแต่งเกิดขึ้นเร็วที่สุดจนกระทั่งวันนี้เดินทางมาถึง "ลูกสาวของหม่ามี๊สวยที่สุดเลยลูก" ในห้องแต่งตัวถึงแม้ว่าจะเป็นชุดแต่งงานราคาหลักพันแต่เมื่อเธอสวมใส่ชุดแต่งงานนั้นเหมือนกับราคาหลักล้านทั้งสวยและสง่า เธอถูกแม่ของเธอหมุนตัวไปมาเพื่อดูความสวยของลูกสาวตนเองมือหนาทั้งสองข้างจับใบหน้าของลูกสาวและหอมแก้มซ้ายขวาชื่นชมในความสวยของลูก"ขอบคุณนะคะ""จำไว้นะลูกความรักคือสิ่งสวยงาม หม่ามี๊รักหนูนะ" "หนูก็รักหม่ามี้ค่ะ""ไปกันได้แล้วครับลูกสาวของป๊า" ท่านรองเดินมาหาลูกสาวและยกแขนขึ้นเพื่อให้ลูกสาวนั้นโอบกอดเดินออกไปด้านนอก ในวันแต่งงานของพี่สาวน้องชายฝาแฝดนั้นไม่ได้กลับมาร่วมงานแต่งของพี่
บทที่ 12เขาเหวี่ยงเธอลงที่เตียงโดยที่นอนหงายราบลงไปและหลังจากนั้น เขาจึงรีบขึ้นคร่อมตัวของเธอทันทีมือหนากระชากชุดบางขาดหลุดลุยจนเผยให้เห็นบราด้านใน ใบหน้าของเขามีแต่ความโกรธความเกลียดต่อผู้หญิงคนนี้ในวันนี้ขอตั้งใจให้เธอโกรธและยกเลิกงานแต่ง แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะว่าเธอรู้ทันและที่โกรธไปมากกว่านั้นคณินเอ่ยถึงอลิสผู้หญิงที่เขารัก"อย่านะคะ""ปากร้องอย่าแต่ตัววิ่งแจ้นมาถึงนี่""ไม่ใช่แบบนั้น โอ้ยยย" เขาไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้พูดและโต้ตอบเขาใบหน้าของเขานั้นซุกไซ้ลงไปกัดที่ยอดอกสีชมพูของเธอและออกแรงกัดจึงทำให้เธอร้องโอดโอยออกมา มือหนากุมขยำและเค้นเนินนูนทั้งสองข้างจนแทบจะแหลกคามือ เขาแทรกตัวลงไประหว่างกางขาของเธอและชันขาของเธอขึ้น"ปล่อยนะ""เป็นเพราะเธอเป็นเพราะเธอคณินเรื่องทุกอย่างมันเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอทำให้ครอบครัวของฉันต้องทะเลาะกัน ฉันจะทำให้เธอเจ็บยิ่งกว่าฉัน"เขาไม่ฟังในสิ่งที่เธอพูดไม่สนใจในความเจ็บปวดของเธอเลยสักนิด เสื้อผ้าของเธอขาดหลุดลุยและกองลงไปอยู่กับพื้นเขาเชยชมร่างกายของเธอแรงๆ "โอ้ยเจ็บ" หลังจาก
บทที่ 11 "อลิสเกลียดเฮียที่สุด" อลิสไม่ว่าพ่อของเธอแล้วไม่โกรธพ่อของเธอ แต่เธอนั้นโยนความเกลียดให้กับพี่ชายตัวเองเพราะว่าเธอไม่สมหวังเธอผิดหวังกับความรักจึงทำให้เธอพาล"โถ่เว้ย!! คณินเธอมันตัววุ่นวาย" คำพูดของน้องสาวที่ร้องไห้ฟูมฟายตะคอกใส่เขาว่าเกลียดนั้นผุดขึ้นมาในขณะที่เขานั่งดื่มเหล้าหนักจนใบหน้าของเขาแดงก่ำ"เฮียเดย์คะรับเพิ่มไหมคะ" บาร์นี้เป็นของเฮียเดย์และเป็นธุรกิจส่วนตัวแต่ก็เป็นสมบัติของอลันที่ซื้อให้ลูกชายบริหาร พนักงานเดินเข้ามาหาและเอ่ยถามเขา"เอามาสิ" "อย่างนั้นสักครู่นะคะ" "เดี๋ยว"ในขณะที่พีอาร์คนนี้กำลังเดินหันหลังเพื่อที่จะไปเอาไวน์มาให้กับเขาอีก แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อเฮียเดย์เอ๋ยเรียกเธอหันกลับมามองเขาและฉีกยิ้มโปรยเสน่ห์ผ่านแววตา"มีอะไรเหรอคะ" "ฉันมีอะไรให้เธอทำคืนนี้เธอไม่ต้องทำงานเธอมากับฉัน"เธอรีบวางถาดน้ำลงที่โต๊ะและขยับเข้ามากอดแขนของเฮียเดย์ทำท่าทีเหมือนจะเอาใบหน้าซบแต่ถูกเขาสะบัดออก"ยังไม่ใช่ตอนนี้เดินตามฉันมานี่" เขาเดินนำหน้า พีอาร์คนนี้ขึ้นไปชั้น 2 ตรงไปที่ห้องทำงานของต
บทที่ 10 เธอเริ่มคิดในสิ่งที่เพื่อนของตัวเองนั้นพูดถึงเขากับน้องสาวของเขาทั้งสองคนไม่ใช่พี่น้องที่แท้จริงหรือว่าเป็นไปได้ที่ทั้งสองคนจะรักกันและนี่ก็เป็นความรู้สึกที่เธอไม่สบายใจ เธอผุดลุกผุดนั่งอยู่ที่ริมขอบสระน้ำที่บ้านของตัวเองจนกระทั่งผู้เป็นแม่นั้นเดินเข้าไปเมื่อยืนดูลูกอยู่สักพักใหญ่"มีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่าคณินลูก" เธอหันกลับมามองแม่ของเธอและรีบเข้ามาโอบกอด"หม่ามี๊คะคือไม่รู้ว่าสิ่งที่คณินอยากจะถามมันจะดูน่าเกลียดเกินไปไหม" แม่ของเธอนั้นจับไหล่ของเธอดึงออกจากตัวเองและใช้มือหนาลูบเข้ายังหัวของลูกสาวเบาๆเธอฉีกยิ้มให้ลูกของเธออย่างอ่อนโยน"มีอะไรคุยกับหม่ามี๊ได้ทุกเรื่องพูดมาเถอะมีเรื่องไม่สบายใจอะไรหม่ามี้จะได้ช่วย""เฮียเดย์กับอลิสไม่ใช่พี่น้องที่แท้จริงใช่ไหมคะ" ลรินคิ้วก็หมดเข้าหากันทันที เธอเริ่มคิดว่าลูกสาวของตัวเองนั้นจะรู้อะไรมาแต่ก็พยักหน้าให้กับลูกและเอ่ยถามต่อ"ใช่เฮียเดย์ คือเด็กที่เขาเก็บมาเลี้ยงจากสนามบินสวีเดน""หม่ามี๊คะเเล้วเป็นไปได้ไหมที่เฮียเดย์กับอลิสเขาจะ..""เป็นไปไม่ได้หรอกน้องคณินคิดมากเกินไปแล้วลูกทั้งสองคนเป็นพี่น้องกันถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดในสายเ
บทที่ 9"จะแต่งงานอยู่แล้วยังจะไปกับผู้ชายคนอื่นเธอนี่มัน...""มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะเฮีย""มันจะไม่ใช่แบบนั้นได้ยังไงถ้าฉันไม่วนกลับไปเธอก็คงไปไหนต่อไหนกันแล้วหรือไม่ก็พากันเข้าโรงแรมแถวนี้ก็ได้" เธอโกรธที่เขาพูดดูถูกตัวเองยกมือข้างขวาจะตบหน้าของเขา แต่หยุดชะงักและเอามือลงถ้าเธออารมณ์ร้อนและวู่วามทำร้าย เขาก็คงยิ่งทำให้เขาเกลียดเธอมากกว่าเดิมเธอจึงใช้แต่ความเงียบ"ทำไมพูดแค่นี้รับไม่ได้" ในแววตาและสีหน้าของเขาที่จ้องมองเธอนั้นมี แต่ความไม่พอใจไม่ว่าทำอะไรเธอก็ดูผิดทุกอย่างในสายตาของเขา"ครืด!!" ในขณะที่เขากำลังขับรถออกด้วยความเร็ว เขารีบชะลอรถ เมื่อสายเข้าหน้าจอขนาดสี่เหลี่ยมที่ติดอยู่ที่รถนั้นโชว์เป็นเบอร์ของหม่ามี๊เขา "ฮัลโหลครับ""ตอนนี้อยู่กับน้องคณินใช่ไหมเฮียเดย์""ครับ" "พาน้องมาทานข้าวที่บ้านนะวันนี้หม่ามี๊ทำกับข้าวหลายอย่างเลย" "คณินไม่สะดวกครับหม่ามี๊ พอดีว่าน้องจะต้องไปติวหนังสือกับเพื่อน" คณินเธออยากไปแต่ถูกเขาปฏิเสธแทน"มี๊ขอคุยกับน้องหน่อยได้ไหม""บอกกับหม่ามี๊ไปสิว่าไปติวหนังสือ" เขาจับต้นแขนของเธอดึงเข้าไปหาเขาแล้วกระซิบเข้าที่ข้างหูบังคับให้คณินพูดโกหกแม่ของเขา"ค่