“ดอกไม้อยู่ที่ใคร” เสียงของเจ้าสาวดังขึ้นด้วยความลุ้นสุดใจว่าตนได้โยนช่อกุหลาบแต่งงานสีขาวไป ผู้หญิงคนไหนในงานเป็นคนรับได้ เจ้าสาวคนสวยของงานโอบกอดเจ้าบ่าวข้างกายของตน สอดสายสายตามองหา ทุกคนต่างมองหาเช่นเดียวกัน เนตรแพรมองดอกไม้ในมือของตัวเองแล้วส่งยิ้มให้เจ้าสาว
“ยัยเนตรแกได้ดอกไม้ด้วย” ขวัญจิรา อดีตเพื่อนรวมงานของบอกอย่างดีใจที่หญิงสาวรับช่อดอกไม้สีขาวบริสุทธ์ได้
ในจังหวะที่เนตรแพรกำลังจะหันไปตอบเพื่อนสาว พลันสายตาคู่หวานที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกลับเลือนหายไป มีแต่ความกลัว ความกังวล เต็มไปหมด เมื่อพบกับสายตาคู่คมของใครบางคนที่ไม่เคยลืมเขาแม้แต่ครั้งเดียว ก่อนหันไปไปกระซิบบางอย่างกับเพื่อนและเดินออกจากงานไปอย่างรวดเร็ว
“เนตร”
ศรุตร้องเรียกชื่อของคนที่เฝ้าตามหามาตลอดสามปีสุดเสียง ทำเอาคนในงานมองเจ้านายหนุ่มรูปหล่อ ที่กำลังวิ่งตามอดีตพนักงานต้อนรับของโรงแรมด้วยความตื่นตะลึง
“เนตร รอฉันก่อน” คนตัวสูงเห็นร่างเล็กกำลังก้าวขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดให้บริการอยู่หน้าโรงแรมและกำลังหนีเขาไปอีกครั้ง
“โธ่เว้ย”
ณ โรงแรม ธาดากรณ์ หนึ่งในโรงแรมในเครือของธุรกิจ ธาดากิจจากรณ์
“เลิกงานแล้ว ไปหาอะไรกินกันไหม”
เสียงหวานของพนักงานสาวอย่างเนตรแพรเอ่ยชักชวนเพื่อนร่วมงานอีกสองคนไปหาอะไรทานกันหลังเลิกงาน ในจังหวะที่กำลังคว้ากระเป๋าสะพายข้างใบย่อมออกจากล็อกเกอร์ที่ทางโรงแรมได้จัดเตรียมเอาไว้ให้พนักงานได้เก็บของใช้ในระหว่างที่กำลังทำงานตามหน้าที่ของตน
“ไปสิ วันนี้แกไม่ไปทำงานเสริมพิเศษเหมือนทุกครั้งหรือยังไง” หนึ่งในเพื่อนร่วมงานถามสาวเจ้า
“ไม่ไปหรอก วันนี้ว่างว่าจะไปหาอะไรอร่อย ๆ กินซะหน่อย”
เนตรแพร รัตนโยธิน พนักงานต้อนรับสาวสวยวัยยี่สิบสี่ปี เข้ามาทำงานที่นี่ได้เพียงสองปีเท่านั้นตอบกลับเพื่อนร่วมงานด้วยรอยยิ้มและความเป็นกันเอง โดยนิสัยพื้นฐานส่วนตัวของหญิงสาวมักจะเป็นที่รักของคนที่ได้คุยหรือพบเจอ เช่นเดียวกับเพื่อนทั้งสองคนที่ได้รู้จักกันมาเป็นเวลาระยะหนึ่ง นับตั้งแต่เธอมาเป็นนักศึกษาฝึกงานและตัดสินใจทำงานกับทางโรงแรม ธาดากรณ์ หนึ่งในโรงแรมในเครือของธุรกิจ ธาดากิจจากรณ์
“จริงเหรอ คนอย่างแกเนี่ยนะยัยเนตรอยากจะหยุดพัก ไม่ไปทำงานเสริมน่ะ อันที่จริงฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันนะว่าแกทำงานอะไรกันแน่พักนี้น่ะ”
หนึ่งในเพื่อนร่วมงานที่เก็บของเสร็จเรียบร้อยพอดีอย่าง ขวัญนภา หันมาถามด้วยความไม่แน่ใจ เพราะหลายครั้งที่เธอชวนเนตรแพรไปหาอะไรกินตอนเลิกงานเจ้าหล่อนมักจะปฏิเสธทุกครั้ง และเจนจิราเองก็มักจะถามแบบเดิมอยู่บ่อย ๆ ว่าช่วงนี้หญิงสาวทำงานพิเศษอะไรกันแน่ที่บอกพวกเธอไม่ได้
“วันนี้ว่างจริง ๆ ไปกันเถอะ ขวัญ เจน” ว่าแล้วก็หันไปชวนเพื่อนร่วมงานทั้งสองคนแล้วเดินออกจากห้องไปโดยที่เลี่ยงไม่ตอบคำถามเรื่องงานพิเศษที่ตนทำ เพราะงานนี้มันเป็นความลับจริง ๆ เธอสัญญาเอาไว้แล้วว่าจะมีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ และห้ามบอกใครเป็นอันขาด
“ไปกินหมูกระทะกัน ฉันเห็นร้านเปิดใหม่ในซอยข้าง ๆ ดูน่าอร่อย” เจนจิราสาวร่างอวบแนะนำเมนูอาหารทางเลือกให้สองสาว ซึ่งทั้งสองคนก็ไม่ได้เลือกอะไรมากมายนัก
“หมูกระทะก็ดีเหมือนกันนะ อยากกินอยู่พอดี” ขวัญนภาบอกพลางเอามือลูบพุงน้อย ๆ ของตนบ่งบอกว่ากำลังหิวเต็มที่เลยทีเดียว
“น้องเนตร เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งกลับ”
ในขณะที่สามสาวเดินพ้นประตูห้องพักของพนักงานได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงเรียกดังขึ้น จึงหันไปตามเสียงอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“คะ มีอะไรหรือเปล่าคะพี่สุ” หญิงสาวเลิกคิ้วเรียวสวยเข้ากับรูปหน้าถามอย่างสงสัยใคร่รู้ว่าสุธีรามีธุระอะไรกับเธอหรือไม่
“โชคดีที่มาทัน พี่มีเรื่องจะคุยกับเนตรหน่อย” สุธีรา บอกเสียงเรียบเฉยใบหน้าดุราวกับตนเป็นครูฝ่ายปกครองอย่างไรอย่างนั้น สีหน้าท่าทางจริงจังเช่นนี้ต้องเป็นเรื่องสำคัญมากเป็นแน่ ทั้งน้ำเสียงและสายตาของผู้จัดการวัยกลางคนที่ถูกส่งไปหาสองสาวทำเอาร้อน ๆ หนาว ๆ ไปตามกันจึงรีบขอตัวกลับกันก่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ส่วนอาหารที่นัดกันเอาไว้คงต้องเป็นวันหลังเสียแล้ว
“งั้นขวัญกับเจนขอตัวกลับก่อนนะคะพี่สุ คุณตุลา” สองสาวยกมือไหว้ผู้จัดการโรงแรมที่มีอายุมากกว่าอย่างสุธีรา ก่อนจะยกมือไหว้อีกครั้งกับคนที่เพิ่งเดินเข้ามาสมทบเมื่อครู่อย่างตุลธรลูกน้องคนสนิทบอสใหญ่ของที่นี่ แล้วสองสาวก็รีบออกจากตรงนี้ด้วยความรวดเร็ว
“พี่สุมีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ ถึงต้องใช้เสียงเข้มแบบนี้ ทำให้ขวัญกับเจนรีบแจ้นกลับบ้านไปอย่างนั้น” หญิงสาวพูดขึ้นยิ้ม ๆ ลับหลังสองสาวที่เพิ่งออกไปไม่นานนี้
“คุณสุครับ หาคนทำความสะอาดห้องพักคุณศรุตได้หรือยังครับ” ตุลธรเอ่ยขึ้นด้วยความรีบร้อนเพราะเจ้านายหนุ่มของเขากำลังจะกลับมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้
“นี่ไงคะคุณตุลา สุจะให้เนตรขึ้นไปทำความสะอาดห้องของคุณศรุต” หันไปบอกทางตุลธรทำเอาคนที่ถูกเอ่ยชื่องวยงงไม่น้อย
“พี่สุจะให้เนตรไปทำอะไรนะคะ” ถามกลับเพื่อความแน่ใจว่าเธอฟังไม่ผิด เพราะก่อนหน้านี้สุธีราส่งข้อความมาบอกเธอว่าไม่ต้องไปทำงานที่ตกลงกันไว้ ให้กลับไปก่อนได้เลย แต่เหตุใดถึงเรียกให้เธออยู่ต่ออย่างทันทีทันใดพร้อมทั้งจะให้ขึ้นไปทำความสะอาดห้องนอนของเจ้านายหนุ่มเสียอีก
“คืออย่างนี้นะคะน้องเนตร แม่บ้านประจำที่เคยให้ทำความสะอาดห้องของคุณศรุตเกิดป่วยกะทันหันและยังหาคนทำไม่ได้ พี่เลยต้องขอร้องให้น้องเนตรขึ้นไปทำความสะอาดให้หน่อยน่ะ” คนตรงหน้าอธิบายหญิงสาวด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร
“อีกอย่างที่ไม่ให้พนักงานคนอื่นขึ้นไปทำแทนแม่บ้านประจำเพราะต้องรักษาความเป็นส่วนตัวและต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ เท่าที่ดูพวกผมก็มองไม่เห็นใครแล้วนะครับนอกจากคุณเนตร คุณเนตรช่วยพวกผมหน่อยเถอะครับ” ตุลธรเอ่ยเสริมหลังจากที่ผู้จัดการวัยกลางคนพูดจบ
ร่างสูงสง่าลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนกระชับเสื้อสูทของตนเล็กน้อย เดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวใหญ่ออกมาหาคนตัวเล็ก แถมยังยื่นใบหน้าหล่อเหลาของตนจนเกือบชิดกับปลายจมูกโด่ง จนทำให้เจ้าของใบหน้าสวยหวานอย่างเนตรแพรต้องถอยหนีด้วยความตกใจ ทำเอามุมปากของเขาถึงกับยกยิ้มอย่างร้ายกาจก่อนเดินไปนั่งบนโซฟาหนังสีดำที่อยู่ไม่ห่างนัก “นั่งสิ” ทันทีที่ชายหนุ่มหย่อนกายนั่ง ก็เชื้อเชิญหญิงสาวนั่งที่ฝั่งตรงข้ามของตน “คุณศรุตมีธุระอะไรจะคุยกับดิฉันหรือคะ” คนตัวเล็กนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามเรียบร้อยแล้วจึงเอ่ยถามคำถามเดิมกับเจ้านายหนุ่มอีกครั้ง “ฉันอยากรู้ว่าเธอเข้าไปทำงานในกาสิโนใต้ดินของฉันได้ยังไง” เอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าเสียงเข้มแววตาดุดันจ้องมองร่างเล็กอย่างไม่วางตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอเสียอย่างนั้น “เอ่อ…” เกิดอาการอึกอักชั่วขณะเมื่อได้ยินเสียงเข้มที่ทำเอาเธอขนลุกเกรียว “ตอบ! ใครเป็นคนพาเธอเข้าไปทำงานที่นั่น” คนตัวเล็กลังเลไม่อยากจะตอบกลับไปเพราะเกรงว่าคำตอบของเธอจะพลอยทำให้คนที่คอยช่วยเหลือเธอเดือดร้อนไปด้วย “ไม่มีค่ะ ดิฉันแอบเข้าไปทำที่นั่นเอง”
“แต่บังเอิญฉันขึ้นมาก่อนแล้วผู้หญิงคนนั้นออกจากห้องไม่ทันใช่ไหม”“ผมไม่แน่ใจครับในตอนแรก จนผมขึ้นมาดูความเรียบร้อยก็เห็นคุณเนตรแพรกำลังออกจากห้องด้วยความลุกลี้ลุกลนในสภาพแต่งตัวไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่น่ะครับ”“อืม” เจ้านายหนุ่มพยักหน้าพร้อมทั้งขานรับในลำคอเบา ๆ“แล้วจะให้พวกผมทำยังไงกับคุณเนตรแพรดีครับ” ทินกรถามขึ้น เพราะถ้าหากมีการสืบหาข้อมูลแล้วเจ้านายของเขาต้องจัดการและกระทำการบางอย่างเป็นแน่“เดี๋ยวฉันจะสั่งทีหลัง พวกแกไปทำงานของตัวเองเถอะ”“ครับนาย” สองเสียงเข้มขานรับพร้อมกันแล้วออกจากห้องทำงานใหญ่ไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้เจ้านายหนุ่มนั่งนิ่งอย่างใช้ความคิดอยู่ภายในห้องเพียงผู้เดียว“เธอต้องมาเป็นผู้หญิงของฉันเนตรแพร”ในวันทำงานปกติของมนุษย์เงินเดือนที่ต้องจัดการหน้าที่ของตัวเอง เช่นเดียวกับเนตรแพรที่ยังคงแข็งขันกับการทำงานในแต่ละวันอย่างไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ริมฝีปากบางกระจับได้รูปสวยรอยยิ้มหวานล้ำถูกส่งให้เหล่าผู้คนที่เข้ามาพักหรือสอบถามเรื่องต่าง ๆ ซ
อีกด้านของศรุตที่สายตาคมกำลังจดจ่อกับตัวอักษรบนกระดาษที่เขาได้สั่งลูกน้องคนสนิทไปสืบหาประวัติของคนที่เขาต้องการมาจนครบ ไม่ว่าจะเรื่องครอบครัว เรื่องงาน หรือแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัว ประวัติต่าง ๆ ของเนตรแพรถูกกระจายออกจนเต็มโต๊ะ"ชื่อเนตรแพรเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งมองลูกน้องคนสนิททั้งสองของตน"ครับนาย ผู้หญิงคนนี้ชื่อเนตรแพร รัตนโยธิน อายุยี่สิบสี่ปี ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรมเราครับ" ทินกรบอกประวัติของเนตรแพรให้เจ้านายรับทราบคร่าว ๆ ทั้งที่คนเป็นนายรับรู้อยู่แล้ว แต่เขาต้องสรุปอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าหาข้อมูลมาครบถ้วนสมบูรณ์ไม่มีขาดตกบกพร่อง"ที่ให้ไปหามาแค่นี้เหรอ?" คิ้วคมเข้มเลิกขึ้นอย่างสงสัย ก่อนถามขึ้นเพราะประวัติการทำงานมันน้อยเหลือเกิน เธอจะเป็นแค่พนักงานต้อนรับของโรงแรมเขาอย่างเดียวได้อย่างไร ในเมื่อคืนก่อนยังเห็นไปทำงานที่กาสิโนใต้ดินของเขาอยู่เลย"เอ่อ...ยังมีอีกครับ" ทินกรตอบกลับอย่างอึกอัก"มีก็พูดมา พวกแกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบคนอ้ำอึ้ง" วางกระดาษลงบนโต๊ะก่อนจะกอดอกหลังพิงพนักเก้าอี้ทำงานมองลูกน้องทั้งสองคนที่ยืนอยู่หน้า
วันนี้เป็นวันหยุดของเนตรแพรแทนที่จะได้พักผ่อนจากการทำงานที่เหนื่อยล้ามาตลอดสัปดาห์แต่เปล่าเลย หญิงสาวแทบจะไม่ได้หยุดพักหายใจแม้แต่น้อย ต้องมานั่งเก็บของที่จำเป็นเตรียมย้ายออกจากบ้านที่เธออยู่มาเกือบยี่สิบปี บัดนี้ถูกขายให้กับคนอื่น ทุกอย่างเป็นฝีมือพี่ชายของเธอทั้งสิ้น ข้าวของในบ้านก็ไม่มีราคาค่างวดอะไรมากมายขนาดนั้น ส่วนมากจะมีของสำคัญเพียงไม่กี่ชิ้นของบิดามารดาถูกทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้นส่วนข้าวของของนพดลก็ไม่ค่อยมีอะไร เมื่อวานเนตรแพรบังเอิญเจอพี่ชายของตัวเองที่กาสิโนใต้ดินผิดกฎหมายของศรุต และถามเรื่องขายบ้านหลังนี้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่และทุกอย่างที่พี่ชายสารภาพบอก ทำเอาเธอโกรธจนทำอะไรไม่ถูก ที่บ้านถูกขายเพราะจะเอาเงินไปเล่นการพนันและอยู่กับคนรักที่หัวสูงคนนั้นแล้วทิ้งน้องอย่างเธอให้ตกระกำลำบากแบบนี้ ตอนนี้เธอนั้นมืดแปดด้านไม่รู้ว่าจะหาทางออกอย่างไร ออกจากบ้านนี้แล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหน"เนตร เนตร! แกเป็นอะไรไปนั่งนิ่งเชียว" กชพรรณที่มาช่วยเนตรแพรเก็บของตั้งแต่เช้ามองเพื่อนที่นั่งนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาร่วมนาทีจึงต้องเรียกชื่อเสียงดังราวกับเรียกสติของคนตรงหน้าใ
“วันนี้เนตรไม่ได้ใส่สร้อยข้อมือเหรอจ๊ะ” ถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะสาวน้อยจอมขยันมักจะสวมสร้อยข้อมือกับสร้อยที่มีจี้แบบเดียวกันเสมอ“ไม่ได้ใส่ค่ะ พอดีไม่รู้ว่าเนตรไปทำหล่นหายที่ไหนก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” เนตรแพรลูบข้อมือข้างที่เคยมีสร้อยเส้นสวยเบา ๆ“น่าเสียดายแย่เลย หายไปราคาตั้งหลายบาทนะ”“ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ เดี๋ยวเนตรเก็บเงินซื้อใหม่ก็ได้ เพราะว่าทั้งสร้อยคอและสร้อยข้อมือเนตรเก็บเงินซื้อให้ตัวเองเป็นของขวัญวันเกิดน่ะค่ะ” เธอไม่ได้ร่ำรวยที่จะซื้อข้าวของเครื่องประดับราคาแพง ๆ ได้บ่อย ๆ แต่ที่ซื้อเพราะชอบและยังเป็นเงินจากน้ำพักน้ำแรงจากการทำงานของตนด้วย“อ๋อ ๆ จ้า พี่ขอให้หาเจอเร็ว ๆ นะ”“ขอบคุณค่ะ เนตรขอจัดของต่อก่อนนะคะ” หญิงสาวตอบกลับยิ้มๆ ในจังหวะที่เนตรแพรกำลังจะไปทำหน้าที่ของตน อยู่ ๆ ลูกน้องคนสนิทอีกคนของศรุตวิ่งเข้ามาหาสุธีราอย่างรวดเร็วทำให้เนตรแพรตกใจไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมาที่นี่ในวันนี้"คุณสุครับ เจ้านายเรียกพบครับ""มีเรื่องอะไรหรือเปล่า" สุธีรานิ่วหน้าถามด้วยความสงสัย"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่รู้สึกว่าวันนี้เจ้านายอารมณ์ด
เนตรแพรถามด้วยความตกใจเพราะเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา กชพรรณเพื่อนสนิทของเธอไปรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน“บัวรู้แล้วกันน่ะ เลิกงานแล้วเดี๋ยวบัวไปหาที่บ้านนะ”“เย็นนี้ไม่ได้หรอกบัว เนตรมีงานอื่นที่ต้องไปทำอีกที่น่ะ พรุ่งนี้วันหยุด เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้ได้ไหม” หญิงสาวต่อรองเสียงอ่อน“ได้ ๆ พรุ่งนี้ก็ได้ แต่เนตรห้ามเครียดนะ”“ขอบคุณนะบัว ไว้เจอกันพรุ่งนี้ เนตรขอตัวไปทำงานก่อน ไม่อยากโดนดุน่ะ” ตอบกลับคนปลายสายติดตลกเล็กน้อยก่อนวางสายแล้วจัดการทำตามหน้าที่ของตนจนกระทั่งเลิกงานก็รีบออกมาเตรียมตัวก่อนเริ่มงานที่เป็นความลับในตอนค่ำ ซึ่งงานนี้มีเพียงสุธีราคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเธอเข้าไปทำงานที่นี่ด้วยร่างสูงใหญ่นอนคว่ำหน้าอยู่อีกฟากของเตียงกว้างกวาดแขนไปยังอีกด้านของเตียงกลับพบแต่ความว่างเปล่าไร้คนนอนเคียงข้าง จึงหันหน้ามามองเพื่อความแน่ใจว่าคนที่มอบความสุขจนล้นอกไม่อยู่แล้ว ว่าแต่เธอคนนั้นออกไปตั้งแต่เมื่อไรกัน ไม่นานจึงสะบัดศีรษะไล่ความมึนงงเล็กน้อย ก่อนจะตะปบผ้าห่มสีขาวผืนหนาที่ปกคลุมกายออกอย่างไร้เยื่อใยแล้วลุกตรงดิ่งเข้าห้