Share

บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /1

last update Last Updated: 2025-04-08 23:26:56

บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /1

แม้ว่าเมืองลวี่เฟิงจะเป็นเมืองชายแดน ทว่าเป็นที่ตั้งหอประมูลโอสถสำคัญของอาณจักรอู๋ซาง เจ้าของหอแห่งนี้เป็นคนตำหนักเทพอนันต์ และมักนำโอสถชั้นสูงออกมาทำประมูลอยู่หลายครั้งภายในหนึ่งปี การประมูลโอสถระดับสูงครั้งต่อไปจะมีขึ้นในอีกสามวัน ทำให้เวลานี้ในเมืองลวี่เฟิงจึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ

ลานประลองในวันนี้ถูกจัดขึ้น ณ สนามประลองใหญ่ของฝ่ายใน ซึ่งสามารถจุคนได้มากถึงสองหมื่นคน บนเฉลียงใหญ่ของอัฒจันทร์สองด้าน มีธงของสี่สำนักใหญ่แสดงอยู่ ด้านหนึ่งเว้นไว้สำหรับสำนักกระบี่จันทรา ส่วนเฉลียงอีกด้านตระเตรียมที่นั่งพิเศษไว้เช่นกัน ทว่ากลับไม่มีธงหรือสัญลักษณ์ของสำนักใดแสดงไว้

รวี่เยว่มองสนามประลองอย่างตื่นตาตื่นใจ นางประหม่าจนมือเย็นไปหมด

"จวี๋จื่อ เสี่ยวหลาน ข้าตื่นเต้นมากเลยทำอย่างไรดี"

"สูดหายใจลึกๆ เหมือนกับตอนที่นั่งบำเพ็ญรวี่เยว่ เจ้าชนะแน่นอน เชื่อมั่นในตนเองหน่อย เจ้าทำได้" เสี่ยวหลานที่เกาะอยู่บ่าเล็กส่งเสียงให้กำลังสหายของมัน

"ใช่แล้วรวี่เยว่ อย่างที่ท่านอาจารย์ทั้งสองบอกไว้ ในเด็กรุ่นเดียวกันไม่มีใครเอาชนะเจ้าได้แน่นอน" จวี๋จื่อเอาหัวนุ่มนิ่มของมันถูไถกับมือเล็กของเด็กหญิง

ในขณะที่รวี่เยว่กำลังได้รับการปลอบประโลมจากสหายรักของนาง ปรากฏร่างของเด็กชายอายุประมาณสิบสองหนาว ท่าทางเย่อหยิ่งสวมชุดฝ่ายนอกของสำนักกระบี่จันทรา ยืนกอดอกหัวเราะเยาะรวี่เยว่ที่กำลังตื่นเต้นและพูดคุยกับสัตว์เลี้ยง

"พวกเจ้าดูเด็กคนนี้สิ ท่าทางจะเพี้ยนไปแล้วถึงได้คุยกับแมวเป็นตุเป็นตะ สภาพอย่างนี้โดนซัดทีเดียวก็หมอบลงไปกองกับพื้นแล้วมั้ง หรือบางทีนางอาจเป็นปีศาจแมว ถึงพูดจากับแมวรู้เรื่องจนลืมไม่เจียมตัวไป ฮ่าๆๆ"

ลูกน้องอีกสี่คนที่อยู่ด้านหลังพากันส่งเสียงหัวเราะเยาะไปกับเด็กชายปากร้าย

"ฮ่าๆๆๆ เด็กปีศาจแมวพูดคุยกับแมวรู้เรื่อง"

ชุนอิ่งที่โมโหแทนรวี่เยว่ ทำท่าจะลุกขึ้นสั่งสอนเด็กกลุ่มนี้ แต่ถูกแม่นมชุนดึงไว้ เพราะเห็นว่าคุณหนูของตนไม่สนใจเด็กกลุ่มนี้ด้วยซ้ำ

สิ่งที่ดึงความสนใจของรวี่เยว่คือจุดสีแดงขนาดใหญ่ ซึ่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่บนท้องฟ้า ทิศทางที่มันมุ่งหน้ามาคือที่ตั้งของสำนักกระบี่จันทรา

เพียงชั่วอึดใจต่อมา ตำแหน่งเหนือสนามประลอง ปรากฏร่างของอินทรีสีแดงเพลิงขนาดมหึมาสามตัว ทำหน้าที่ลากเกี้ยวหลังใหญ่ ลมที่เกิดจากการกระพือปีกของพวกมัน รุนแรงจนทำให้ผมเผ้าและเสื้อผ้าของผู้ชมในสนามปลิวไสว

"ตัวแทนจากสำนักเพลิงจักรพรรดิมาถึงแล้ว" เสียงประกาศก้องจากคนของสำนักกระบี่จันทราดังขึ้น กลุ่มคนในชุดสีแดงจำนวนห้าคน เหินออกมาจากเกี้ยวและไปหยุดอยู่ที่เฉลียง สำหรับสำนักเพลิงจักรพรรดิ

ในเสี้ยวลมหายใจต่อมาบุรุษสามคน สตรีสองคนขี่กระบี่ด้วยความเร็วสูง จนเห็นเพียงเส้นสายสีเงินวูบผ่าน ร่อนลงบนเฉลียงของสำนักกระบี่สวรรค์ เสียงประกาศว่าตัวแทนจากสำนักกระบี่สวรรค์มาถึงแล้วดังขึ้นเช่นกัน

ทว่าในฉับพลันท้องฟ้าที่เคยสว่างไสวก็มืดครึ้มอย่างไม่มีสาเหตุ มวลอากาศบนท้องฟ้าแหวกออกเป็นช่อง

หญิงสาวสองคนและชายหนุ่มสองคนยืนบนกระบี่ลอยออกมา ตามด้วยหญิงสาวงดงามในชุดสีขาวบริสุทธิ์ และบุรุษหล่อเหลาสง่างามก้าวออกมาเป็นคนสุดท้าย

ฮือ ฮา เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วทั้งสนามประลอง

"นั่นระดับหยวนอิงของสำนักหงสาจันทรา หากข้าเดาไม่ผิด นั่นคงเป็นรองเจ้าสำนักทั้งสองคนเป็นแน่"

"พวกเขาคงมาร่วมงานประมูลโอสถทิพย์ด้วยกระมัง เห็นว่าคราวนี้หอโอสถเทพอนันต์ได้โอสถวิญญาณเทวะมาประมูลนี่"

"ราคากี่ล้านหินวิญญาณกันละเนี่ย"

และในขณะที่ผู้ชมตื่นตากับนักพรตระดับหยวนอิงอยู่นั้น สตรีผู้ที่มาถึงก่อนจากสำนักเพลิงจักรพรรดิ เหยียดปากเอ่ยประชดประชันผู้มาใหม่ทันที

"ชิ กลัวคนไม่รู้ว่าบรรลุระดับหยวนอิงแล้วสินะ ถึงได้เปิดตัวเสียอลังการขนาดนี้ ไป๋เยี่ยนฟาง"

หญิงสาวจากงดงามในชุดสีขาวก้าวไปนั่งยังที่นั่งของตน ปรายมองหญิงสาวในชุดสีแดงก่อนเอ่ยตอบเสียงเบาราวสายลมกระซิบ ทว่าได้ยินกันทั้งลานประลอง

"เจ้าก็อย่าลืมฝึกฝนให้มากขึ้นล่ะ ติดอยู่ที่คอขวดระดับเจี๋ยตันมาสิบกว่าแล้วมิใช่หรือ หั่วหงเหยา หากนานกว่านี้ข้าเกรงว่าเจ้าจะโดนเด็กรุ่นหลังแซงหน้าเอาได้นะ"

คิกๆๆๆ เสียงหัวเราะจากหญิงสาวอีกสองคนของสำนักหงสาจันทราดังขึ้น ประหนึ่งเย้ยหยันหญิงสาวชุดแดง

"เจ้า!!!" หญิงสาวที่ชื่อหั่วหงเหยา ลุกพรวดขึ้นมาจ้องมองอีกฝ่ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

"เหยาเอ๋อร์ นั่งลง อย่าเสียมารยาท" บุรษที่มาด้วยกันส่งเสียงห้ามปราม

และแล้วคนจากสำนักอัสนีเทพก็มาถึง ชายหนุ่มสาม หญิงสาวสอง ขี่หลังอาชาอัสนีร่อนลงมานั่งยังเฉลียงเดียวกับคนจากสำนักกระบี่สวรรค์ พวกเขาทักทายกันตามปกติ ไร้ซึ่งการกระทบกระเทียบเหมือนดังเฉลียงฝั่งตรงข้าม

บนเฉลียงของสำนักกระบี่จันทรา ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐาน ใส่ชุดผ้าไหมสีเทาอ่อนอมม่วงก้าวออกมาเพื่อเตรียมเปิดงาน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   ตอนพิเศษ 2/2 กระต่ายน้อยของข้า

    ตอนพิเศษ 2/2 กระต่ายน้อยของข้า ราวกับสวรรค์เป็นใจ จึงได้ดลบันดาลให้ค่ำคืนนั้น ท้องนภาสีหมึกพร่างพราวไปด้วยหมู่มวลดารา คล้ายช่วยสนับสนุนให้กลยุทธ์มัดใจสาวประสบผลสำเร็จ อวี้เหวินอิงเอ๋อร์ดวงตาทอประกายระยับ งดงามมิต่างจากดวงดาวบนท้องฟ้า ร่างบางแย้มยิ้มจนตาโค้ง ขณะมานั่งเล่นที่หัวเรือหลังกินมื้อเย็นเสร็จ “องค์ชายใหญ่ ขอบคุณท่านมากนะ ข้ามีความสุขมากเลย ท่านใจดีมากจริงๆ ไม่ได้หน้ายู่เลยสักนิดเดียว” “…” หวงฝู่ฮ่าวอวี่มุมปากกระตุก ‘หน้ายู่อะไรกันอีกกระต่ายน้อยจอมซน’ แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้อ้าปากถาม กระต่ายน้อยจอมซนพลันขยับมือ ปลดหยกสีม่วงเข้มประจำตัวของนาง มอบให้ชายหนุ่มแทนคำขอบคุณเสียก่อน “นี่คือหยกอินทนิลของข้า ข้าขอมอบให้ท่านแทนคำขอบคุณนะหวงฝู่ฮ่าวอวี่ อีกไม่กี่วันข้าก็ต้องกลับภูผาหยินซานแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มีโอกาสมาเมืองหลวงอีก ข้าต้องคิดถึงท่านมากแน่ๆเลย ฮึก อยู่ที่นู่นไม่มีใครเล่นกับข้าเลย ฮึก ท่านเป็นสหายคนแรกที่ยอมไปเที่ยวกับข้า ฮึก” เสียงของอวี้เหวินอิงเอ๋อร์สั่นเครือเจือสะอื้น ขอบตารื้นน้ำ เด็กสาวดูบอบบางราวตุ๊กตากระเบื้อง ที่หากไม่ระวังก็อาจแตกสลายได้ทุกเมื่อ ร

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   ตอนพิเศษ 2/1 กระต่ายน้อยของข้า

    ตอนพิเศษ 2/1 กระต่ายน้อยของข้า เมื่อเอ่ยนามองค์หญิงห้า อวี้เหวินอิงเอ๋อร์ขึ้นมา สิ่งที่ทุกคน ณ ตำหนักเทวาอนธการนึกถึงคือ หน้าตาน่ารักพริ้มเพราราวกระต่ายน้อย นิสัยสดใสร่าเริง ขี้เล่น ดื้อรั้นซุกซน ตามประสาองค์หญิงองค์เล็ก และ… “องค์ชายสามพะย่ะค่ะ รีบแอบเร็วเข้า องค์หญิงห้าหิ้วกล่องใส่อาหารเดินขึ้นบันไดหอตำรามาแล้วพะย่ะค่ะ!” เสียงองครักษ์ส่วนตัวของอวี้เหวินเจาเจวี๋ยดังขึ้นเตือนนายของและศิษย์คนอื่นๆไปในตัว หากไม่อยากเป็นหนูทดลองสูตรยาพิศดารขององค์หญิงห้่า อย่าได้เสี่ยงรับอาหารหรือยาบำรุงร่างกายที่นางปรุงขึ้นเด็ดขาด! บรรดาศิษย์ฝ่ายในที่กำลังรวมตัวแลกเปลี่ยนความรู้กันอยู่ในหอตำรา หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า เรือนต้นสนแดง ต่างรีบแยกย้ายกันไปคนละทิศทาง ดูราวผึ้งแตกรังก็มิปาน! เหลือเพียงผู้อาวุโสสองที่เพิ่งเดินเข้าไปหยิบม้วนตำรายังส่วนในของเรือนต้นสนแดง อวี้เหวินอิงเอ๋อร์ก้าวมาหยุดอยู่หน้าประตูทางเข้า หน้าตาบูดบึ้งอมลมแก้มป่องอย่างขัดใจ นางอุตส่าห์ลุกขึ้นมาทำขนมอบตั้งแต่เช้า ตั้งใจเอามาแบ่งศิษย์คนอื่นๆ ให้ลองชิมกันดูเสียหน่อย แต่เมื่อไม่เห็นเงาใครสักคนร่างบางจึงหมุนตัวเตรียมจากไป ทว่าเผ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   ตอนพิเศษ 1/2 เมื่อมหาเทพอยากเลี้ยงเด็ก

    ตอนพิเศษ 1/2 เมื่อมหาเทพอยากเลี้ยงเด็ก “กร๊ากกกก ฮ่าๆๆ ชิงหลง เอ้ย ชิงหลง ในที่สุดเจ้าก็มีวันนี้เหมือนกัน” เสียงหัวเราะเย้ยหยันด้วยความชอบใจของมหาเทพหวงหลงดังขึ้น การได้เห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนเพราะทำสิ่งใดไม่ถูกของสหายรักคือความบันเทิงอย่างหนึ่ง ทว่าคำกล่าวที่ว่า ความสุขนั้นมักสั้นเสมอคือสัจจะธรรมอันแท้จริง ในขณะที่กำลังเงยหน้าระเบิดเสียงหัวเราะโดยมีฮั่วฮ่าวหยางนั่งอยู่บนตัก ความอุ่นวาบเปียกชื้นพลันเกิดขึ้น มหาเทพหวงหลงชะงักค้างหลุบตาร่างเล็กบนตักด้วยสายตาเหลือเชื่อ เจ้าตัวน้อยเงยหน้ามองมหาเทพหวงหลง ที่จู่ๆก็หยุดหัวเราะในบัดดลด้วยแววตาใสซื่อกลับมา “คิกๆๆ เอิ๊กๆๆ” เจ้าก้อนแป้งขาวผ่องอวบอัด ระเบิดเสียงหัวเราะชอบใจเลียนแบบบ้าง เผยให้เห็นฟันน้ำนมด้านหน้าสี่ซี่ น่ารักน่าเอ็นดูราวกระต่ายอ้วนตัวน้อย สีหน้ารื่นเริงของมหาเทพหวงหลงก่อนหน้านี้ แปรเปลี่ยนเป็นเหยเกจนดูไม่ได้แทน “อ๊าาาา หยางเอ๋อร์เจ้าจะฉี่ทำไมไม่บอกข้า เมียจ๋าาาา มาเอาหยางเอ๋อร์ไปเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ที” “กร๊ากกกก ฮ่าๆๆๆๆๆ” คราวนี้เป็นมหาเทวีเฟิ่งหนี่ว์ที่ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น “…” มหาเทพทั้งสอง หัวเราะทีหลังดังกว่าเ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   ตอนพิเศษ 1/1 เมื่อมหาเทพอยากเลี้ยงเด็ก

    ตอนพิเศษ 1/1 เมื่อมหาเทพอยากเลี้ยงเด็ก ผ่านมาสามเดือนแล้วหลังรวี่เยว่คลอดแฝดมังกรหงส์ มหาเทพทั้งสามคล้ายได้ของเล่นชิ้นใหม่ พวกเขาต่างรอเวลาให้ฮั่วเฮ่อฉีออกไปข้างนอก หรือนอนหลับสนิท จากนั้นถึงจะแอบทอดเงาออกมาเชยชมเจ้าตัวน้อยทั้งสอง หากคืนไหนองค์ไท่จื่อจู๋จี๋กับภรรยานานหน่อย มหาเทพทั้งสามจะขัดใจมาก เพราะคืนนั้นพวกเขามิอาจปรากฏกายออกมาเยี่ยมหลานศิษย์ทั้งสองได้ แต่ก็มีบางครั้งเช่นกัน ที่มหาเทพหวงหลงคิดถึงหลานจนขี้เกียจรอ เขาเลยส่งเมฆนิทราออกมาจากแดนปราณ สะกดจิตฮั่วเฮ่อฉีจนหลับกลางอากาศก็มี บางครั้งชายหนุ่มนั่งกินข้าวเย็นอยู่ดีๆ หัวทิ่มคาโต๊ะก็เกิดขึ้นมาแล้ว ธรรมดาเสียที่ไหนท่านอาจารย์ของรวี่เยว่! คราแรกรวี่เยว่เองก็ตกใจไม่น้อย ทว่าเมื่อทราบความจริง นางถึงกับหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ ท่านอาจารย์ของนางก็มีมุมแสบสันเอาแต่ใจกับเขาเป็นด้วย รวี่เยว่เลยต้องเฉไฉยกข้ออ้างมาบอกสวามีว่า "น้องคิดว่าวันนี้ท่านพี่คงเหนื่อยเกินไปเลยหลับกลางอากาศเจ้าค่ะ" จะให้บอกความจริงว่าโดนมหาเทพเล่นกลก็ไม่ได้เสียด้วย เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ “มหาเทพวางยาองค์ไท่จื่อเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ เหตุผลเพียงเพราะคิ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 69/2 ครอบครัวที่สมบูรณ์

    บทที่ 69/2 ครอบครัวที่สมบูรณ์ “เสด็จแม่โตแล้ว ไม่ดื้อแล้ว ไม่โดนเสด็จพ่อหวดก้นแน่นอนเพคะเสด็จลุง” เสียงเล็กของฮั่วเยว่ฉีดังขึ้น ร่างเล็กเอื้อมไปกุมมือผู้เป็นลุงเพื่อขอให้เขาอุ้ม ร่างสูงโน้มตัวช้อนเจ้าตัวน้อยขึ้นมา หอมแก้มป่องขาวกลมไปฟอดใหญ่ ฟ้อดดด “จริงรึ?” ฮั่วเยว่ฉีหยักหน้าหงึกๆ “เช่นนั้น ลุงเชื่อเจ้าก็ได้” เช้าวันนี้ ตำหนักหย่งเทียนครึกครื้นเป็นพิเศษ บรรดาแขกเหรื่อคนสำคัญ ที่มาร่วมงานวันเกิดธิดาเทพรวี่เยว่ ต่างหอบหิ้วของฝากมากมายมาให้เจ้าของวันเกิด หวงฝู่ฮ่าวอวี่ที่สมรสกับอวี้เหวินอิงเอ๋อร์ไปเมื่อห้าปีก่อน อุ้มโอรสองค์โตวัยสามหนาวเดินตามชายารัก ที่เลิกล้มความคิดเรื่องการเป็นนักปรุงโอสถ แต่หันมาเอาดีทางด้านค้าขายผ้าและเครื่องประดับแทน องค์หญิงจอมซนเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ รูปแบบเครื่องประดับและลายผ้าที่นางออกแบบ จึงงดงามแปลกตาไม่เหมือนใคร เป็นที่นิยมชมชอบของสตรีในเมืองหลวงและเมืองใหญ่หลายเมือง “รวี่เยว่ สุขสันต์วันเกิดนะ พวกเราขอให้เจ้ามีแต่ความสุขในทุกๆวัน” ทักทายเจ้าของวันเกิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตรงไปทำความเคารพองค์ราชาอวี้เหวินเหิง และเชื้อพระวงศ์ของตำหนัก

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 69/1 ครอบครัวที่สมบูรณ์

    บทที่ 69/1 ครอบครัวที่สมบูรณ์ เสียงกรีดร้องเบ่งคลอดของรวี่เยว่ที่ดังขึ้นเป็นระยะ บีบรัดหัวใจของฮั่วเฮ่อฉีจนปวดร้าว เขาสงสารชายาจับใจ “หม่าลั่ว ทำไมนานนักล่ะ ทำไมรวี่เยว่ยังไม่คลอดอีก” ร่างสูงมือเย็นเฉียบจากความประหม่าระคนหวาดกลัว สติเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมากขึ้นเรื่อยๆ สุดหล่อเย่หมิงต้องมาพาร่างสูง ที่เดินไปเดินมาจนทำเขาเวียนหัวไปนั่งลง ก่อนยื่นชาให้ดื่มเพื่อสงบสติอารมณ์ “องค์ไท่จื่อ ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็คลอด อย่าวิตกจนเกินเหตุไป” หนึ่งชั่วยามต่อมา อูแว้ๆๆๆๆ ฮั่วเฮ่อฉีที่นั่งกระสับกระส่าย หายใจไม่คล่องอยู่หน้าห้องคลอด ลุกพรวดทันทีเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้อง “เป็นองค์ชายน้อยเพคะ” เสียงชุนอิ่งดังมาจากห้องคลอด “ลูกชาย ข้าได้ลูกชาย หม่าลั่ว ท่านเย่หมิง อี้หรง ได้ยินหรือไม่ ข้าได้ลูกชาย ฮ่าๆๆๆ” ครึ่งเค่อต่อมา แว้ๆๆ อุแว้ๆๆๆๆ “เป็นองค์หญิงน้อยเพคะ” คราวนี้เป็นเสียงของจวี๋จื่อ เสียงเฮดังขึ้นหน้าห้องอีกครั้ง ฮั่วเฮ่อฉีกระโดดกอดเย่หมิงและหม่าลั่ว ทั้งสามหัวเราะร่าเสียงดัง “ลูกสาว ข้าได้ลูกสาวอีกคน ฮ่าๆๆ ดี ดียิ่ง หม่าลั่วช่วยแจกรางวัลให้ทุกคนในตำหนัก เปิดโรงทานในเมืองหล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status