Share

บทที่ 5

“คุณมาทำอะไรที่นี่?” วินน์ขมวดคิ้วก่อนจะจ้องไปที่เบนท์ลีย์ที่จอดอยู่ข้างฟิลิป นี่เขาเพิ่งจะออกมาจากรถคันนั้นงั้นเหรอ? นี่มันสามีที่ไม่ได้เรื่องของฉันจริง ๆ งั้นเหรอ? หรือเดี๋ยวนี้บริษัทส่งของเขาส่งอาหารด้วยรถเบนท์ลีย์กันแล้ว?

“ผม…คือผม…” ฟิลิปพูดตะกุกตะกักก่อนจะเหลือบมองไปทางจอร์จที่กำลังยิ้มหน้าบานผ่านกระจก

ชายสูงวัยรีบยื่นมือเข้ามาช่วยก่อนจะพูดขึ้น “พ่อหนุ่มขอบคุณมาก ต้องขอบคุณเธอจริง ๆ ที่ช่วยให้ฉันหาที่นี่เจอ ไว้ให้ตาแก่คนนี้เลี้ยงอาหารเธอสักมื้อเพื่อแสดงความขอบคุณนะ”

ฟิลิปยิ้มก่อนจะพยักหน้าอย่างสุภาพ “ไม่เป็นไรครับท่าน กรุณากลับดี ๆ” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกเป็นนัยว่าให้ชายสูงวัยรีบกลับไปได้แล้ว

จอร์จไม่ได้พูดอะไรอีกยิ้มและพยักหน้าให้กับวินน์ ก่อนจะบอกให้คนขับรถเคลื่อนรถออกไป

วินน์ตัวแข่งทื่อไปด้วยความตกตะลึง นั่นไม่ใช่...นั่นไม่ใช่ประธานของ เอเปก กรุ๊ป ประธานโทมัส หรอกเหรอ? คนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองนี้! และฟิลิปเพิ่งจะนั่งรถคันเดียวกันกับเขามา

“นี่คุณรู้จักจอร์จ โธมัส ด้วยเหรอ?” วินน์หันไปทางฟิลิป รู้สึกประหลาดใจ

ฟิลิปยักไหล่ “ไม่ ไม่รู้จัก ตาแก่นั่นก็แค่หลงทาง ผมแค่ช่วยนำทางให้เขา”

“นี่คุณหมายความว่ายังไงที่เรียกเขาว่า ’ตาแก่’ ชายคนนั้นเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในริเวอร์เดลเลยนะ! นั่นคือประธานของ เอเปก กรุ๊ป เชียวนะ!” วินน์กรอกตาใส่ฟิลิป ชายคนนี้ช่างโง่เสียจริง ยิ่งจ้องมองเขา วินน์ก็ยิ่งรู้สึกราวกับโดนดูถูก เธอจึงทำเพียงแค่พูดขึ้นอย่างเย็นชากับเขา “ฟิลิป อย่าลืมนะว่าคุณพ่อของฉันจะจัดงานคืนสู่เหย้าสุดสัปดาห์นี้ ที่ เวอร์เทียส คอร์ท เตรียมของขวัญมาด้วยล่ะ”

“ผมไม่ได้บอกว่าผมจะไปเสียหน่อย” ฟิลิป ตอบกลับ

“นี่คุณ!” วินน์หมดความอดทน เธอต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนในการโน้มน้าวพ่อของเธอ บอกกับเขาว่า ฟิลิปจะมาขอโทษเขาและเธอก็หวังว่าพ่อของเธอจะไม่ ทำให้เขาลำบากใจจนเกินไป แต่เนี่ยน่ะเหรอท่าทีของฟิลิป ลืมไปซะ! ช่างหัวเขาก็แล้วกัน! เธอคงจะตาบอดไป ถึงได้ไปตกหลุมรักผู้ชายคนนี้

“อยากจะทำอะไรก็เชิญตามสบายเถอะงั้น!” วินน์โกรธจัด ร่างบางหมุนตัวกลับ เธอเดินจากไป

ฟิลิปจ้องเธอที่เดินจากไป เขาเห็นว่าเธอเปลี่ยนชุด ดูเหมือนเธอจะฉีดน้ำหอมและแต่งหน้าด้วย ฟิลิปเกิดความสงสัย เขาเห็นเธอเดินหายเข้าไปในตึกใหญ่หลังนึง

เขานิ่งคิด วินน์บอกว่าเธอจะกลับไปที่ที่ทำงานไม่ใช่เหรอ? เธอมาทำอะไรที่นี่? ที่นี่มันที่ไหนกัน? นี่มันโรงแรมฮิลตันนี่นา!

เมื่อคิดได้ ฟิลิปก็รู้สึกโกรธขึ้นมา เขาต้องพยายามอย่างหนักในการทำงานแต่เธอกลับมาที่โรงแรมเนี่ยนะ! ไม่ได้การแล้ว เขาจะต้องตามเธอไป แล้วไปดูว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่

วินน์รู้สึกเครียดมากวันนี้ เรื่องแรกก็เรื่องลูกสาวที่เป็นโรคหัวใจของเธอต้องอาการทรุดลงเพราะอยู่กับคนไม่ได้เรื่องอย่างฟิลิป เรื่องถัดมาเธอเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับฆวน ปาร์กเกอร์ หลังจากที่เธอกลับไปที่บริษัทหนึ่งในโครงการของเธอก็เกิดปัญหาขึ้น

ประธานโครงการไม่ยอมมาตามนัดและยืนยันให้เธอมาคุยกันที่โรงแรมฮิลตัน วินน์อยากที่จะปฏิเสธแต่ลูกค้าก็ใช้โครงการนี้มากดดันเธอ เธอจึงต้องมาที่นี่เพราะโครงการนี้มีมูลค่าหลายล้าน

ขณะนั้นเองโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น “สวัสดีค่ะท่าน ประธานวอร์เรน ฉันมาถึงแล้ว คุณอยู่ที่ไหนคะ?”

“ผมกำลังรอคุณอยู่ที่ร้านอาหารชั้นหก” น้ำเสียงสุขุมของชายหนุ่มลอดผ่านปลายสายมา

“ได้ค่ะ ท่านประธานวอร์เรน ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้” วินน์ยิ้ม

หลังจากวางสาย วินน์ถอนหายใจออกมา ท่าทางของเธอลังเลเล็กน้อย เธอจ้องไปที่ลิฟต์ก่อนจะตัดสินใจขึ้นลิฟต์ไปในที่สุด

เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง ฟิลิปก็ปรากฏตัวขึ้นที่ห้องโถงโรงแรม เขาเห็นวินน์ที่เดินหายเข้าไปในลิฟต์จากไกล ๆ เขารีบวิ่งตามเธอไปแต่แล้วก็ได้ยินเสียงเย็น พูดเยาะเย้ยขัดเขาขึ้นมาเสียก่อน

“ว้าว นี่ไม่ใช่พี่เขยลูกพี่ลูกน้องของฉันที่ทำงานเป็นพนักงานส่งอาหารหรอกเหรอเนี่ย? คุณมาส่งอาหารที่ฮิลตันงั้นเหรอ?”

ฟิลิปหันหน้ากลับไปก็เจอเข้ากับคู่รักหน้าตาดี แต่งกายทันสมัยคู่หนึ่งยืนเอนตัวเข้าหากัน หญิงสาวยืนกอดอก มีสีหน้าท่าทีเย้ยหยัน เธอยืนพิงแขนชายหนุ่มร่างสูง หน้าตาหล่อเหลา

“ลินน์ จอห์นสตัน?” ฟิลิปขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองและเห็นว่าลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้นหก

หญิงสาวเดินเข้ามาหาเขาด้วยท่าทีเยาะเย้ย ก่อนจะหัวเราะขึ้นมา “ช่างบังเอิญจริง ๆ ที่เจอนายที่นี่ ดูเหมือนว่าคุณจะขยายอาณาเขตของนายออกมาเพิ่มนะ”

หญิงสาวคนนี้คือลินน์ จอห์นสตัน ลูกพี่ลูกน้องคนเล็กของวินน์ เธอเป็นแค่นักศึกษามหาลัยปีแรกแต่กลับดูเหมือนหญิงที่โตเต็มวัยแล้ว

“ลินนี่ คนนี้ใครกัน?” หนุ่มหล่อข้างกายลินน์ส่งสายตาให้เธอก่อนจะถามขึ้นมา

ลินน์ขำออกมาในทันที “พี่เขยลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง ฉันไม่เคยบอกนายมาก่อนเหรอ? คนที่ธุรกิจล้มละลายแล้วก็ต้องทำงานเป็นคนส่งของเพื่อหาเลี้ยงตัวเองไง เขาถึงขั้นยืมเงินฉันสองสามหมื่น แล้วก็ยังไม่จ่ายคืนฉันด้วยซ้ำ”

ลินน์ดูถูกฟิลิปมาตลอด เพราะเขามันก็แค่ขยะ! เธอรู้สึกมาตลอดว่ากบน่าเกลียดอย่างเขาไม่เหมาะสมกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ ในขณะที่ชายหนุ่มแต่งงานกับพี่ลูกพี่ลูกน้องของเธอแต่ก็เหมือนกับว่าเขาแต่งงานเข้ามาในตระกูลของเธอมากกว่า ช่างน่าไม่อายเสียจริง!

“ฮ่าฮ่า นี่น่ะเหรอพี่เขยลูกพี่ลูกน้องของเธอ ที่เธอเคยพูดถึง?” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเสียงดัง

ฟิลิปรู้สึกรำคาญ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพี่เขยลูกพี่ลูกน้องของวินน์ เธอพยายามที่จะทำอะไรกันแน่ถึงได้ลากเอาคนนอกมา ดูถูกเหยียดหยามเขาด้วย?”

“ฉันจะคืนเงินให้เธอ แต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องที่ต้องทำ อย่างนั้นคงจะอยู่คุยกับพวกเธอสองคนไม่ได้”ฟิลิปฝืนยิ้มออกมา

ถึงอย่างไรลินน์ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของวินน์ ในฐานะคนที่อายุมากกว่า ฟิลิปรู้สึกว่าเขาต้องมีความอดทนมากกว่านี้ ถ้าเธอรู้ว่าตอนนี้เขาเป็นทายาทของกลุ่มธุรกิจทางการเงินที่ใหญ่ที่สุด เขาสงสัยว่าเธอจะมีสีได้อย่างไรในตอนนี้แล้วเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

มนุษย์ก็มักจะมองคนแค่จากภายนอกและโง่เขลากันทั้งนั้น

“คืนเงินฉันงั้นเหรอ? ฉันไม่หวังหรอกนะ แค่เงินจากการเป็นคนส่งของมันจะพอสำหรับค่ารักษาพยาบาลของมิล่าด้วยงั้นเหรอ?” ลินน์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงถากถาง พี่เขยลูกพี่ลูกน้องของเธอไม่ได้เรื่องสักนิด! และยัยตัวดีนั่นก็ไม่หควรจะเกิดมาด้วยซ้ำ! ลินน์ไม่ได้ชอบฟิลิปมากนัก ดังนั้นเธอจึงรู้สึกแบบเดียวกันกับลูกสาวเขา

เมื่อฟิลิปได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชา

“ลินน์ จอห์นสตัน ยังไงซะฉันก็ยังเป็นพี่เขยลูกพี่ลูกน้องของเธอ ไม่คิดว่าเธอพูดมามันหยาบคายไปหน่อยเหรอ?”

“เหอะ!” ลินน์พ่นลมหายใจออกมาทางจมูก “ฉันไม่เคยคิดว่านายเป็นพี่เขยลูกพี่ลูกน้องของฉันเสียหน่อย นายก็แค่คนที่มาเกาะลูกพี่ลูกน้องของฉันและแต่งงานเข้ามาในตระกูลของเรา ไม่มีอะไรมากกว่านั้น” หน้าไม่อาย! เขาคิดว่าเขาเป็นใครกันถึงจะเอาสถานะของเขามากดดันเธอ?

“ว้าว เขาเป็นเขยที่แต่งเข้าบ้านงั้นเหรอ?” แฟนหนุ่มของลินน์หัวเราะขึ้นมา น้ำเสียงประหลาดใจ ชายคนนี้ต้องไม่เอาไหนขนาดไหนกันนะถึงได้ยอมเสียศักดิ์ศรีตัวเองขนาดนี้

ลินน์โบกมือของเธอก่อนจะดึงแขนแฟนหนุ่ม และพูดขึ้น “ลืมมันไปซะเถอะ ไปกันฮิวจ์ ต้องยืนอยู่ใกล้กับคนแบบนี้ทำเอาอากาศเป็นพิษและเหม็นเน่าไปหมด”

ดวงตาของฟิลิปเข้มขึ้น เขากำมือแน่นในขณะที่มองลินน์เดินฉับ ๆ ออกไปกับแฟนหนุ่มของเธอ ทั้งสองยังคงพูดคุยกันระหว่างเดินไป

“พี่เขยลูกพี่ลูกน้องของเธอไร้ค่าสิ้นดี”

“เขาไม่ใช่พี่เขยลูกพี่ลูกน้องของฉัน ถ้านายยังพูดแบบนั้นอยู่อีกละก็ ฉันจะเลิกคุยกับนาย”

ฟิลิปสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อสงบสติอารมณ์ เขาไม่ควรจะให้เด็กเหลือขออย่างพวกเขามากวนใจเขาได้ เขาจึงหันหลังกลับแล้ววิ่งไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นหก

ฟิลิปมองไปรอบ ๆ จนเจอเข้ากับเงาสะท้อนของวินน์ผ่านกระจก ด้านในของร้านอาหารเวิสเทิร์น

บ้าเอ๊ย!

สิ่งที่ทำให้เขาโมโหคือร่างของชายหนุ่มหัวล้านมันแผลบ ลงพุงที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอ เอื้อมมือมาเพื่อจะจับแขนของวินน์ สีหน้าของเขาน่าขยะแขยง

ไอ้บ้าเอ๊ย! เดี๋ยวก่อนนะ เรื่องนี้มันจะไปต่อยังไง นี่มันไม่ใช่ภาพที่น่าดูเลยสักนิด

ฟิลิปโกรธจัด! เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะกดโทรออกหาวินน์

ด้านในร้านอาหาร วินน์ใช้ไหวพริบปฏิเสธน้ำใจของผู้จัดการวอร์เรนหลายต่อหลายครั้ง แต่เขากลับไม่ยอมแพ้เสียที เขาพยายามแม้กระทั่งจะจับมือเธอ!

ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น นี่เป็นโอกาสที่เธอจะได้พักหายใจบ้าง

“ขอโทษนะคะผู้จัดการวอร์เรน แต่ฉันต้องรับสายนี้” วินน์พูดขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินออกไปนอกร้าน

ดวงตาคู่เล็กของผู้จัดการวอร์เรน จ้องสำรวจไปที่หุ่นด้านหลังของวินน์ เขาไม่สามารถหยุดตัวเองได้ เขาคิดกับตัวเองว่าคืนนี้เขาต้องได้ลงโทษหญิงสาวทรงเสน่ห์คนนี้แน่นอน!

“ฮัลโหลฟิลิป มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?” วินน์ยืนอยู่ด้านนอกร้านอาหาร

“ผมอยู่ด้านหน้าคุณ”

วินน์เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วและพบเข้ากับฟิลิป ที่ยืนจ้องเธออย่างเย็นชา เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เขามาทำอะไรที่นี่?

“นี่คุณตามชั้นมาเหรอ?” วินน์เดินเข้าไปหาเข้า สีหน้าไม่เป็นมิตร พร้อมถามเสียงเย็น เธอเพิ่งจะบังเอิญเจอกับเขาที่ด้านล่าง และตอนนี้เขาก็มาอยู่ที่ประตูทางเข้าร้านอาหารนี่ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาสะกดรอยตามเธอมาจะเพราะอะไรได้อีก? ทำได้ดีหนิ ฟิลิป คุณมีงานใหม่ทำในเวลาว่างด้วยการเป็นไอ้โรคจิตแอบสะกดรอยตามคนอื่นงั้นเหรอ?

ฟิลิปหัวเราะ “ ผมไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอกที่จะมาตามคุณ ก็แค่บังเอิญผ่านมาเท่านั้นแหละ” ก่อนที่จะหันไปมองร่างอ้วนลงพุงที่นั่งอยู่ด้านในร้านอาหาร และถามขึ้น “ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? เขาสำคัญกว่ามิล่าอย่างนั้นเหรอ? คุณถึงได้ออกมาแล้วมาเจอกับเจ้าอ้วนนั่นแทนที่จะอยู่ที่โรงพยาบาล คุณนี่เหลือเชื่อจริงๆเลยนะ”

วินน์รู้สึกรำคาญน้ำเสียงเยาะเย้ยของฟิลิป แต่ถึงกระนั้นเธอก็อธิบายให้เขาฟัง “เขาเป็นคู่หูทางธุรกิจของฉัน เรามาที่นี่เพื่อเจรจาธุรกิจกัน”

“เจรจาธุรกิจอย่างนั้นเหรอ? ผมเห็นนะว่าเขาพยายามจีบคุณ นี่มันการเจรจาทางธุรกิจหรือออกเดทกันแน่?” ฟิลิปตั้งคำถามกับเธอ

สีหน้าของวินน์เข้มขึ้น เธอกอดอกก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง “ฟิลิป คลาร์ค คุณพยามจะพูดอะไรกันแน่? คุณสงสัยว่าฉันมีชู้อย่างนั้นเหรอ? ฉันทำงานตัวเป็นเกลียวทุกวันเพื่อที่จะนำเงินมารักษามิล่า แต่คุณล่ะ? การที่ทำงานส่งของทุกวันของคุณมันจะทำให้คุณมีอนาคตที่ดีไหม? ฉันขอให้คุณไปขอโทษพ่อแม่ของฉัน คุณทำแล้วหรือยัง? คุณมันก็แค่คนขี้ขลาดคนนึง!”

ในขณะที่พูดความโกรธของวินน์ก็พุ่งพล่านขึ้นเรื่อย ๆ น้ำตาเอ่อล้นที่ดวงตาของเธอ เธอหันหลังกลับและสะอื้นออกมา “ช่างมันเถอะ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาเล่าให้คุณฟังทุกสิ่งทุกอย่าง คืนนี้ฉันจะไม่กลับบ้าน”

เธอจะไม่กลับงั้นเหรอ? ฟิลิปตกตะลึงจนพูดไม่ออก นี่เธอหมายความว่าเธอจะนอนนอกบ้านคืนนี้งั้นเหรอ? กับเจ้าอ้วนนั่น?

“แล้วถ้าผมสามารถช่วยคุณได้ล่ะ?” ฟิลิปถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของวินน์ ฟิลิปก็เดาออกได้อย่างง่ายดายว่าการเจรจานี้ไม่ง่ายเลย คู่ค้าทางทำธุรกิจของเธอต้องข่มขู่เธออยู่แน่ และนั่นทำให้เขารู้สึกผิดเมื่อตระหนักขึ้นได้ว่าเขาทำท่าทีไม่เหมาะสมออกไปก่อนหน้านี้

“คุณจะช่วยอะไรฉันได้? คุณเอาเงินหนึ่งล้านดอลล่าร์มาให้ฉันได้ตอนนี้เลยไหมล่ะ? วินน์หัวเราะออกมา น้ำเสียงของเธอเย็นชา เธอไม่เคยคิดจะหวังพึ่งฟิลิป ให้ช่วยเหลือเธออะไรเลย

“ก็แค่เงินหนึ่งล้านดอลลาร์ผมสามารถ…” ฟิลิปพูด เขามีเงินแล้วตอนนี้ แค่ประโยคเดียวจากเขา เขาก็สามารถซื้อบริษัทของวินน์ได้แล้ว กับอีแค่เงินหนึ่งล้านดอลลาร์ สำหรับโครงนี้น่ะเหรอ? ของกล้วย ๆ!

“ฟิลิป พอเถอะ ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณมากังวลกับปัญหาของฉัน” วินน์ตอบอย่างเย็นชาก่อนหมุนตัวกลับแล้วเดินเข้าไปในร้านอาหาร

ไม่อยากให้ผมต้องเป็นกังวลอย่างนั้นเหรอ? แต่คุณเป็นภรรยาของผมนะ!

ฟิลิปยังคงยืนจ้องวินน์ เขายิ้มออกมาอย่างขมขื่นก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status