แชร์

ตอนที่ 20 พระชายารอง

ผู้เขียน: WangFei
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-21 03:42:39

องค์หญิงซิ่วอิ่งยกยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า นางหันมามองเมิ่งฉีผู้เป็นพี่ชายเชิงส่งสัญญาณ เมิ่งฉีรีบกล่าวทันที

 “ทูลฮองเฮา ที่น้องสาวกระหม่อมกล่าวมานั้นเป็นความจริงทุกประการ เสด็จพ่อทรงปรารถนาให้น้องหญิง อภิเษกกับพระราชบุตรองค์ใดองค์หนึ่งของฝ่าบาท เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองแคว้นพะยะค่ะ” เมิ่งฉีกล่าว สายตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยันร้ายกาจ

 “เมื่อสักครู่ฝ่าบาท ฮองเฮา ไทเฮาและทุกคนได้ประจักษ์แก่สายตาแล้ว ว่าหม่อมฉันได้ขี่ม้าตัวเดียวกับหานไท่หยาง เสด็จพ่อหม่อมฉันทรงปรารถนาให้หม่อมฉันอภิเษกกับหานไท่หยางเพคะ” ซิ่วอิ่งยกยิ้มมุมปาก นางหันไปเย้ยหยันจางอวิ๋นซีที่ยืนนิ่งทำสิ่งใดไม่ถูก

 “อาหยางของข้ามีชายาเอกอยู่แล้ว การที่องค์หญิงทำเช่นนี้ย่อมไม่เหมาะสม” หานไทเฮาทรงกล่าวพระสุรเสียงนุ่มนวล

 “แต่น้องสาวของข้ามาที่นี่เพื่อการอภิเษก หากพวกท่านทำเช่นนี้ ตามธรรมเนียมแล้วนางไม่สามารถอภิเษกกับบุรุษอื่นได้อีก พวกท่านทำเช่นนี้ เท่ากับพวกท่านไม่ให้เกียรติทางต้าเยว่ของข้า!” เมิ่งฉีแสร้งมีท่าทีเดือดดาล

 “หม่อมฉันขอบังอาจเสนอความเห็นเพคะ” จางเซียวหรูที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆ 

หานอี้เอ่ยแทรกขึ้นมา ทุกคนหันมามองนางเป็นตาเดียว “ตามธรรมเนียมราชวงศ์ ท่านอ๋องสามารถมีพระชายาเอกได้หนึ่ง ชายารองได้สอง ตามศักดิ์แล้วน้องสาวของหม่อมฉันมีสถานะอ่อนด้อยกว่า เมื่อเทียบกับองค์หญิงแคว้นเยว่ที่เป็นราชธิดาฮองเฮา อย่างไรก็สามารถเกื้อหนุนบ้านเมืองได้มากกว่านัก ก็สมควรที่จะเป็นพระชายาเอกมากกว่า...” 

 “หยุดบัดเดี๋ยวนี้!” หานไทเฮาทรงตำหนิจางเซียวหรู อีกฝ่ายที่กล่าวเกินขอบเขตของตนจึงนิ่งสงบปากลง ตอนนี้นางเผลอพูดสิ่งที่ไม่สมควรออกไป ตำแหน่งพระชายาเอกของหานอี้นั้นคงหลุดลอยไปแล้วเป็นแน่

 “เจ้ากล่าววาจาเช่นนี้ เห็นราชวงศ์หานของข้าเป็นสิ่งใดกัน” หานไทเฮาทรงถามจางเซียวหรู

 จางเซียวหรูคุกเข่าลง แสร้งสำนึกผิด “หม่อมฉันมิได้คิดมุ่งร้ายใดเพคะ หม่อมฉันแค่อยากเสนอความคิดเห็นของตนเอง ด้วยศักดิ์สถานะขององค์หญิงแล้ว ก็มีความสามารถเหมาะสมนักหากจะได้อภิเษกเป็นพระชายาเอกของท่านอ๋องได้”

 จางอวิ๋นซีไม่รอใครทั้งสิ้น นางผลุนผลันเดินออกจากลานจัดงานเทศกาลล่าสัตว์ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว หานไท่หยางจะคว้ามือนางเอาไว้แต่ไม่ทันเมื่อนางเดินออกไปด้วยความรวดเร็วยิ่งนัก

 เพลานี้นางเจ็บเกินกว่าจะทนฟังได้ เมื่อรู้ว่ามีหญิงอื่นจ้องจะแย่งสามีของนางเช่นนี้ หากนางยังอยู่ตรงนี้ต่อไป นางคงเก็บอารมณ์เอาไว้ไม่ได้แล้วเผลอตบองค์หญิงซิ่วอิ่งแน่

 หานไท่หยางมองตัวต้นเหตุอย่างซิ่วอิ่งกับเมิ่งฉีด้วยความโกรธ หากไม่เห็นแก่พระพักตร์ของมารดา เขาไม่มีรีรอที่จะสังหารทั้งสองให้ตายตกไปตามกัน!

 “อาหยาง เรื่องนี้เจ้าต้องตัดสินใจ มันเกี่ยวพันถึงความสัมพันธ์ของบ้านเมือง แม่ขอให้เจ้าใช้เหตุผลเหนืออารมณ์” หลิวฮองเฮาเกลี้ยกล่อมพระราชบุตรของพระนาง ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างกลับตาลปัตรหมดแล้ว ในเมื่อไม่สามารถยุติปัญหาลงได้ง่ายๆ ก็คงมีเพียงทางเดียวเท่านั้น

 “ในเมื่อบ้านเมืองนั้นเขาส่งลูกสาวมาถึงเพียงนี้ ข้าก็ยินดีจะรับนางเอาไว้...” องค์หญิงซิ่วอิ่งยิ้มตามคำกล่าวของหานไท่หยาง แม้นางจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับคำพูดแปลกๆ นั่นก็ตาม เขาหมายความว่าอย่างไรเรื่องจะรับนางเอาไว้? หรือว่าเขามิได้คิดจะอภิเษกกับนางเป็นพระชายาเอก!

 “ท่านอ๋องทรงกล่าวเช่นนี้ หมายความว่าระหว่างนี้น้องสาวของข้า ก็เป็นเพียงแค่สตรีที่ถูกส่งมาเป็นบรรณาการเช่นนั้นหรือ” เมิ่งฉีถาม 

 หานไท่หยางพยายามระงับอารมณ์โทสะของตนเอง “นางขึ้นม้าตัวเดียวกับข้า สัมผัสเนื้อตัวข้า ข้าไม่เสียแต่มีนางเท่านั้นที่เสียหาย ข้าไม่เกรงกลัวหากพวกท่านจะยกทัพมาโจมตี แต่ในเมื่อทางพวกท่านต้องการให้นางอภิเษกกับข้า ก็ต้องยอมรับข้อเสนอของข้าให้ได้”

 ไฟโทสะของซิ่วอิ่งพลันโหมกระพือในใจรุนแรง “ท่านกำลังบีบคั้นข้ารึ?”

 หานไท่หยางไม่สนใจคำถามของนาง 

 “นับตั้งแต่ข้าแต่งงานกับเสี่ยวซี ข้าก็สัญญากับตนเองเอาไว้ว่าจะมีนางเป็นภรรยาเป็นเพียงผู้เดียว จะไม่มีวันมอบกายใจให้กับสตรีนางอื่น แต่ในเมื่อวันนี้ทางต้าเยว่ต้องการส่งธิดามาอภิเษกกับข้า ก็จำเป็นต้องรับเงื่อนไขของข้าให้ได้” อ๋องหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

 ซิ่วอิ่งถาม “เงื่อนไขใด”

 “ดังที่ข้ากล่าวไปเมื่อครู่ว่าข้ามีชายาเอกอยู่แล้ว และข้าสัญญาว่าจะมีนางเป็นภรรยาเพียงผู้เดียว ในเมื่อท่านต้องการอภิเษกเป็นภรรยาของข้า ท่านก็ต้องรับตำแหน่งพระชายารองให้ได้” หานไท่หยางตอนนี้พลิกกลับมาถือไพ่เหนือกว่าอีกครั้ง ซิ่วอิ่งต้องการแต่งงานกับเขามากเพียงนี้ เขาก็จะทำให้นางได้สมปรารถนาแบบทุกข์ทรมานที่สุด

 ในเมื่อกล้ากระตุกหนวดเสือ กล้าเหยียดหยามชายาของเขา เขาก็จะลงทัณฑ์นางให้ถึงที่สุด!

 ซิ่วอิ่งไม่พอใจ นางทำท่าจะแย้งกลับแต่เมิ่งฉีผู้เป็นพี่ชายห้ามเอาไว้ก่อน เขาหันมาถามหานไท่หยาง “ท่านมีแค่นี้หรือ?”

 “ยัง...ข้ายังมีอีกข้อ...นั่นคือข้าจะอภิเษกกับองค์หญิงหลังครบหนึ่งปีเท่านั้น ระหว่างนี้ท่านสามารถย้ายคนของท่านเข้ามาอยู่ในจวนของข้าได้ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นหน้าที่ของชายาข้า ท่านก็จงเรียนรู้จากนาง”

 หานไท่หยางทำเช่นนี้ ไม่เท่ากับลดเกียรตินางให้จางอวิ๋นซีขยี้ศักดิ์ศรีเล่นหรอกหรือ? ซิ่วอิ่งกำหมัดแน่น จากสถานการณ์ที่นางถือไพ่เหนือกว่า ตอนนี้นางกลับเป็นรองกว่ามาก หานไท่หยางหาญกล้ากว่าที่นางคิดเอาไว้อีก และดูท่าทางจางอวิ๋นซีคงเป็นจุดอ่อนเดียวของเขา ฉะนั้นระหว่างหนึ่งปีที่รอการอภิเษก นางจะหาทางเขี่ยจางอวิ๋นซีให้พ้นออกไปจากเมืองหลวงเอง!

 ซิ่วอิ่งยกยิ้มมุมปากตอบ “ย่อมได้เพคะ”

 เรื่องการอภิเษกเจริญสัมพันธไมตรีนั้นเป็นเรื่องกะทันหันอย่างยิ่ง หานฮ่องเต้มิทันได้เตรียมตัวสำหรับเรื่องดังกล่าวที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงทรงหารือกับหลิวฮองเฮาและหานไทเฮาพระราชมารดา ซึ่งพระนางทั้งสองต่างก็ยอมให้มีการอภิเษกระหว่างหานไท่หยางและองค์หญิงซิ่วอิ่ง แต่ติดที่ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นองค์หญิง มีสถานะสูงส่งกว่าจางอวิ๋นซียิ่งนัก การให้นางมาเป็นพระชายารองในอีกหนึ่งปีข้างหน้านี้ อาจทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมา

 แต่ว่าหานฮ่องเต้ทรงเชื่อในพระทัยลึกๆ ว่าหานไท่หยางต้องมีวิธีจัดการเรื่องเช่นนี้แน่นอน ส่วนเรื่องการแต่งงานระหว่างหานอี้กับจางเซียวหรูนั้นจำเป็นต้องเก็บเอาไว้ก่อน เนื่องจากตอนนี้มีเรื่องสำคัญอย่างองค์หญิงซิ่วอิ่งเข้ามาแทนที่

 จางอวิ๋นซีเดินกลับวังอ๋องด้วยตนเอง สีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ทำให้ หยางกูกูไม่กล้าแม้แต่จะทักทายนายหญิงของวังสักคำ หญิงสาวเปิดประตูตำหนักใหญ่ด้วยตนเองอย่างแรงก่อนจะกระแทกปิดลงดังเช่นอารมณ์ร้อนที่คุกรุ่นในใจ

 ขนาดนางรู้ว่ามีหญิงอื่นคิดจับจ้องแย่งสามี นางยังเป็นขนาดนี้เชียวหรือ? นี่นางกำลังหึงหวงเขาอยู่ใช่หรือไม่?

 หยางกูกูเห็นนายหญิงของวังกำลังหัวเสีย จึงลอบถามหรูหรงที่ติดตามพระชายาเอก

 “หรูหรง พระชายาทรงเป็นอันใด” หยางกูกูถามด้วยความสงสัย

 หรูหรงสีหน้าสลดลง นางแจ้งแก่นางกำนัลอาวุโสของวังว่า “เร็วๆ นี้องค์หญิงแห่งแคว้นเยว่กำลังจะอภิเษกเข้ามาเป็นพระชายารอง ท่านอ๋องทรงตอบรับ

แล้วภายในหนึ่งปี จะมีการอภิเษกเกิดขึ้น พระชายาก็ทรงเดินออกจากลานพิธีเลย”

 นางกำนัลอาวุโสเอามือทาบอกด้วยความตกใจ

 “เป็นเช่นนั้นรึ ตายจริง”

 หรูหรงพยักหน้าแทนคำตอบ นางมองไปทางตำหนักใหญ่ของวังด้วยความเป็นห่วงเจ้านายของตนเอง “พระชายาคงไม่พอพระทัยเรื่องนี้ แต่การมีสี่สนมชายาล้วนเป็นเรื่องปกติของบุรุษทั้งสิ้น ได้แต่หวังว่าท่านอ๋องจะไม่พระทัยร้ายกับพระชายา เข้าข้างว่าที่พระชายารองหรอกนะ”

 หยางกูกูหนักใจไม่ต่างกัน กิตติศัพท์องค์หญิงแคว้นเยว่นางเคยได้ยินคนร่ำลือหนาหูนัก ว่าขึ้นชื่อเรื่องเอาแต่ใจที่สุด จากวังอ๋องแห่งนี้ที่เคยอยู่กันอย่างสงบ ท่านอ๋องปักพระทัยรักแต่พระชายาเพียงผู้เดียว ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นสมรภูมิรบแล้วหรือ

 

 หยางเต๋อเฟยกลับมาที่ตำหนักของตนเอง นางตำหนิจางเซียวหรูกับหลี่ฮูหยินยกใหญ่ แทนที่เรื่องทุกอย่างกำลังจะดำเนินไปด้วยดี อีกไม่นานไทเฮาจะได้ประกาศมอบสมรสพระราชทานให้หานอี้กับจางเซียวหรู แต่ทว่าบัดนี้กลับต้องผิดหวัง เพราะคำพูดที่คุณหนูใหญ่สกุลจางกล่าวเอาไว้

 “ต่อให้หานอี้จะเป็นโอรสองค์โปรดของฝ่าบาท แต่ก็ไม่อาจบังคับใจของบุตรชายข้าได้ แทนที่พวกเจ้าจะยืมมือไทเฮา แต่บุตรสาวตัวดีกลับทำแผนการที่วางเอาไว้พังพินาศ!” หยางเต๋อเฟยตำหนิจางเซียวหรูและหลี่ฮูหยินเสียงดัง ทั้งสองแม่ลูกนั่งสงบเสงี่ยมภายในตำหนักใน

 “หม่อมฉันทำไปเพราะความไม่รู้จริงๆ เพคะ แค่เห็นเป็นโอกาสดีที่อาจจะตัดกำลังจางอวิ๋นซีได้...” จางเซียวหรูเอ่ยเสียงอ่อน

 “ตอนนี้เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะตัวเจ้า หานไท่หยางอาจได้อำนาจจากการแต่งงานกับซิ่วอิ่ง เมื่อสองแคว้นรวมกันเป็นหนึ่งได้ ต่อให้นางจะมาเป็นพระชายารองแล้วอย่างไร หากอำนาจของนางสามารถค้ำหานไท่หยางให้ครองราชย์สมบัติ แล้วเจ้าคิดรึว่าเจ้าจะมีโอกาสได้เป็นฮองเฮา!” หยางเต๋อเฟยตวาดเสียงดังอีกครั้ง ภายในพระทัยร้อนรุ่มด้วยเพลิงโทสะ

 “แต่คราวนั้น หม่อมฉันเห็นพระนางยิ้มเห็นดีเห็นงามด้วยมิใช่หรือเพคะ” หลี่ฮูหยินนึกไม่พอใจแทนบุตรสาวตนเอง นางโต้แย้งแทน

 “ที่ข้ายิ้มเห็นดีเห็นงามด้วยนั้น เพราะรู้อยู่ว่าอย่างไรไทเฮากับฮองเฮาต้องคัดค้าน แต่นึกไม่ถึงว่าหานไท่หยางจะเสี่ยงรับบุตรสาวศัตรูมาอยู่ข้างกาย หากศัตรูกลายเป็นพันธมิตรขึ้นมา อนาคตพวกเจ้าดับแน่” หยางเต๋อเฟยเอ่ย

 “พระนางเห็นสมควรทำเช่นไรดีเพคะ” หลี่ฮูหยินร้อนใจแทนบุตรสาว นางไม่ทันคาดคิดเท่าหยางเต๋อเฟยจริงๆ แต่หากหานอี้ได้แต่งงานกับองค์หญิงแคว้นเยว่นั่นแทน แล้วบุตรสาวนางเล่า?

 หยางเต๋อเฟยเอามือกุมขมับอย่างเหนื่อยใจ อย่างไรพระนางก็ต้องการอำนาจสกุลจางมาเกื้อหนุนสกุลหยาง และใช้อำนาจบารมีของเจ้ากรมการปกครองอย่างจางเยี่ยนมาช่วยเสริมฐานบารมีของหานอี้ให้แข็งแกร่ง

 “แม้หานไท่หยางจะมีฮองเฮากับไทเฮาคอยหนุนหลัง แต่ก็ปราศจากการสนับสนุนจากขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนักอยู่ดี เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง ถึงเวลาก็ให้บิดาของเจ้าคอยสนับสนุนทุกการตัดสินใจของข้าก็แล้วกัน” หยางเต๋อเฟยกำชับพวกนางทั้งสองแม่ลูกอีกครั้ง

 หยางเต๋อเฟยเดิมทีเป็นบุตรสาวของอดีตเจ้ากรมการปกครองคนก่อนแซ่หยาง ก่อนที่นางจะเข้ามาถวายตัวเป็นพระสนมในฮ่องเต้หานเหวินชิง นางมีนามว่าหยางรั่วอวิ๋น เมื่อครั้นฮ่องเต้ดำรงตำแหน่งรัชทายาทได้รับการสถาปนาราชาภิเษก นางจึงได้รับการคัดเลือกจากบรรดาบุตรสาวของขุนนางชั้นสูงเพื่อมาเป็นสี่พระชายาเอกแห่งวังหลัง และหยางรั่วอวิ๋นคือผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเต๋อเฟย

 บิดาของหยางรั่วอวิ๋นซึ่งเป็นอดีตเจ้ากรมการปกครองมีความสัมพันธ์อันดีกับจางเยี่ยน เจ้ากรมการปกครองคนปัจจุบันมาช้านาน สมัยที่อีกฝ่ายยังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้ากรมการปกครองก่อนจะขึ้นมาแทนที่บิดาของนางเมื่อเกษียณอายุราชการ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างหยางรั่วอวิ๋นและหลี่ฮูหยินมีความแน่นแฟ้นกันมากขึ้น จนนางหมายใจอยากให้จางเซียวหรู บุตรีคนโตของจางเยี่ยนผู้ถือกำเนิดจากฮูหยินรองได้มาเป็นพระชายาเอกของหานอี้ หากมีกำลังเสริมสนับสนุนจากกรมการปกครองของจางเยี่ยน ย่อมทำให้ตำแหน่งรัชทายาทไม่หลุดพ้นหานอี้โอรสของนางอย่างแน่นอน

 “แต่ว่าคนของเราที่ลอบส่งไปสังหารจางอวิ๋นซีกับหานไท่หยาง ล้วนตายสิ้นอย่างไม่มีสาเหตุ เป็นไปได้หรือไม่เพคะว่าจะมีคนลอบนำแผนการนี้ไปบอกแก่ทั้งสองคนนั่น” หลี่ฮูหยินคลางแคลงใจนับตั้งแต่คราที่จางอวิ๋นซีรอดออกมาได้ 

 “คราวที่แล้วเจ้าก็ทำพลาดด้วยการสังหารนางไม่สำเร็จ เจ้าทำพลาดเป็นหนที่สองหานไท่หยางย่อมกัดไม่ปล่อยแน่ เจ้าสองแม่ลูกแสร้งทำเป็นไม่รู้เห็นเรื่องนี้ไปก่อน ข้าจะหาทางจัดการเอง” หยางรั่วอวิ๋นกล่าว จากนั้นทั้งสองแม่ลูกจึงทูลลากลับไป

 จางเซียวหรูลอบมองหยางเต๋อเฟยด้วยความหวาดกลัว ที่แท้การลอบสังหารจางอวิ๋นซีคราวก่อน หยางเต๋อเฟยผู้นี้ก็มีส่วนรู้เห็นด้วยกระนั้นหรือนี่? คิดแล้วให้ขนลุกขนพองยิ่งนัก

 คล้อยเงาของสองแม่ลูกนั่นแล้ว หยางเต๋อเฟยทำท่าครุ่นคิดบางอย่าง นางพึมพำออกมาเบาๆ “ฮองเฮา สงครามระหว่างข้ากับท่านยังไม่จบหรอกนะ”

 หานไท่หยางกลับมาถึงวังอ๋องพร้อมกับหลินกงกง ชายหนุ่มสั่งให้ขันทีคนสนิทจัดตำหนักรับรองให้กับองค์หญิงซิ่วอิ่งเพียงชั่วคราวเท่านั้น ใช่! แค่เพียงชั่วคราว...เพราะในแคว้นหานนี้ไม่มีพื้นที่สำหรับสตรีที่ดูหมิ่นภรรยาของเขา

 ภายในใจของอ๋องหนุ่มเต็มไปด้วยความกังวล หลังจากที่จางอวิ๋นซีผลุนผลันเดินออกมา เขาก็แทบไม่มีกะจิตกะใจจะคิดอ่านสิ่งใด แค่มองผ่านแววตาของนางเขาก็รู้ว่านางผิดหวังและเสียใจมากเพียงใด แต่ทว่าสถานการณ์ในตอนนั้นเป็นเรื่องที่มีบ้านเมืองมาเกี่ยวข้อง เขาไม่อาจนำเรื่องส่วนตัวมาตัดสินร่วมกับเรื่องของการเมืองได้

 จางอวิ๋นซีเดินออกมาพร้อมกับหยางกูกูและข้าวของที่บ่าวไพร่ช่วยกันทยอยขนออกจากตำหนักใหญ่ จุดมุ่งหมายของนางคือตำหนักเงาจันทร์หรือตำหนักหลันเป่าที่อยู่ทางทิศตะวันออกของวังอ๋องนี้ ในเมื่อหานไท่หยางกำลังจะอภิเษกหญิงอื่นมาเป็นพระชายาแทนนาง นางก็ควรย้ายไปอยู่ตำหนักอื่น ไม่มีทาง

ขัดขวางเขากับองค์หญิงแคว้นเยว่นั่นเด็ดขาด

 “เจ้าจะไปที่ใด?” หานไท่หยางถามภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย

 “หม่อมฉันจะย้ายตำหนัก” นางตอบเสียงห้วนๆ หันมามองหยางกูกูเพียงแวบหนึ่งเท่านั้น

 อ๋องหนุ่มกระชากแขนนางกำแน่น เขาเค้นเสียงถามด้วยความไม่พอใจ

 “ใครอนุญาตให้เจ้าย้ายตำหนักกัน” 

 จางอวิ๋นซีรวบรวมแรงทั้งหมดดึงข้อมือของนางออกจากฝ่ามือหนาเพียงครั้งเดียว นางจ้องเขาเขม็ง

 “เรื่องที่ท่านจะรับนางมาเป็นชายารองนั้นเขาลือกันให้ทั่วไปแล้ว ในเมื่อท่านกำลังจะมีภรรยาอีกคน ข้าในฐานะภรรยาเอกก็ควรใจกว้าง สมควรแล้วที่ข้าจะต้องย้ายตำหนัก...” นางมองเขาด้วยความผิดหวังอย่างยิ่ง ชีวิตนางเคยปฏิญาณว่าอยากมีสามีที่รักนางเพียงคนเดียว ไม่เคยคาดคิดว่าจะต้องมีสามีร่วมกับหญิงอื่น

 เพียงได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวังของนาง ใจของเขาก็แทบเหลวเป็นน้ำ ไม่อาจทนฟังนางด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ได้อีกต่อไป แต่อีกใจหนึ่งนั้นการที่นางคิดย้ายตำหนักก็เป็นผลดีเช่นกัน การจะล้วงความลับจากศัตรูคงทำได้ง่ายขึ้น

 “แล้วแต่เจ้า...”

 สามวันถัดมา

 คนขององค์หญิงซิ่วอิ่งค่อยๆ ทยอยขนสัมภาระของผู้เป็นนายตนเองเข้ามาในวังอ๋องอย่างครึกครื้น ตำหนักที่หานไท่หยางจัดให้นางอยู่นั้นเป็นตำหนักที่ไม่ใหญ่มาก แต่มีความร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจนัก แม้จะอดเสียหน้าไม่ได้ที่ตำหนักนี้นั้นเล็กกว่าตำหนักเงาจันทร์หรือตำหนักหลันเป่าของจางอวิ๋นซี

 องค์หญิงคนงามในชุดอาภรณ์สีแดงสดเยื้องพระบาทลงจากเกี้ยวของตนเอง นางยืนอย่างสง่างามหน้าวังอ๋องท่ามกลางการต้อนรับจากบ่าวไพร่ในวังของหานไท่หยางจำนวนมาก นางยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจยิ่ง

 “ถวายพระพรองค์หญิง ขอทรงพระเจริญพันๆ ปีเพคะ” หยางกูกูกล่าวในฐานะนางกำนัลอาวุโสของวังอ๋อง

 “เจ้าเป็นกูกูใหญ่ของวังรึ?” นางถามด้วยแววตาเย้ยหยัน

 “เพคะ” หยางกูกูก้มหน้าตอบอย่างเจียมตน ท่าทางองค์หญิงสูงศักดิ์ผู้นี้คงจะทำให้วังอ๋องต้องปั่นป่วนเป็นแน่

 องค์หญิงซิ่วอิ่งยิ้มอย่างพึงพอใจ “นับตั้งแต่บัดนี้ไป เจ้ามารับใช้ข้าก็แล้วกัน”

 หยางกูกูร้อนรนกล่าว “ไม่ได้เพคะ หม่อมฉันเป็นนางกำนัลถวายการรับใช้พระชายาเอก องค์หญิงมาในฐานะแขกทำเช่นนี้ไม่เหมาะสม”

 “อีกไม่นานข้าก็จะเป็นนายหญิงอีกคนของวังนี้ ในฐานะพระชายารองเจ้าก็ถือว่าต้องรับใช้ข้าด้วยเช่นกัน มีอันใดที่เจ้าจะขัดข้าได้” ซิ่วอิ่งเอ่ยอย่างอวดดี ไหนๆ จางอวิ๋นซีก็เป็นพระชายาเอกแล้ว ในเมื่อจัดการเจ้านายไม่ได้ก็ขอมาจัดการคนรับใช้ของอีกฝ่ายแทนเถิด

 “มีสิ” เสียงทรงอำนาจของจางอวิ๋นซีดังขึ้นมาแต่ไกล นางเดินมาพร้อมกับหรูหรงและหลินกงกง ยืนหยุดต่อหน้าองค์หญิงซิ่วอิ่งพร้อมรอยยิ้มท้าทายทรงอำนาจ “ในฐานะพระชายาเอก ข้าคือนายหญิงของวังนี้ ด้วยตำแหน่งของข้าสามารถขัดเจ้าได้แน่นอน”

 ซิ่วอิ่งผินหน้าไปทางอื่นอย่างไม่พอใจ นางเบ้ปากนิดๆ ใส่จาง อวิ๋นซี หรูหรงและหลินกงกงลอบมองกิริยาขององค์หญิงผู้นี้อย่างไม่พอใจ พวกเขาไม่แน่ใจนักว่าพระชายาจะกำราบความร้ายกาจขององค์หญิงผู้นี้ได้หรือไม่

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต (ตอนที่ 1 - ปัจจุบัน)   ตอนที่ 24 โบยพระชายา

    สมรสพระราชทานระหว่างจางเซียวหรูและหานอี้ ถูกประกาศไว้ทั่วเมืองอย่างยิ่งใหญ่ด้วยฝีมือของหยางเต๋อเฟย ไม่แพ้คราวที่จางอวิ๋นซีแต่งงานกับหานไท่หยางเลยสักนิด เป็นที่โจษจันกันทั่ววังหลวงว่าในอนาคตนี้ อ๋องใหญ่หานอี้อาจได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาทเป็นแน่ด้วยอุปนิสัยของหานอี้ที่เข้าถึงได้ง่าย มีจิตใจโอบอ้อมอารี คอยช่วยเหลือประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยาก และจางเซียวหรูที่เป็นถึงบัณฑิตหญิงอันดับหนึ่งของแคว้นหาน ย่อมเหมาะสมยิ่งนักราวกับกิ่งทองใบหยก ข่าวดีนี้ทำให้มีเหล่าเสนาบดีน้อยใหญ่มากมายต่างมาผูกสัมพันธ์กับสกุลจางให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเหล่าบรรดาคุณหนูทั้งหลายที่เคยตราหน้าจางเซียวหรูว่าเป็นบุตรีฮูหยินรอง บัดนี้พวกนางต่างมานอบน้อมต่อจางเซียวหรูทั้งสิ้นข้าวของเงินทองถูกนำมาเป็นของกำนัลล่วงหน้าในงานแต่งงาน ทรัพย์สินสมรสของหานอี้ถูกทยอยส่งมาเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย อีกทั้งยังมีเครื่องประดับเพชรนิลจินดามากมายที่ถูกส่งมาจากหยางรั่วอวิ๋นหรือ หยางเต๋อเฟย“เครื่องประดับพวกนี้งดงามนักเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านย่าว่าอย่างไรเจ้าคะ” ไท่ฮูหยินที่เป็นย่าก็ร่วมยินดีที่หลานสาว

  • ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต (ตอนที่ 1 - ปัจจุบัน)   ตอนที่ 23 ป่านอกเมือง

    จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานเทศกาลล่าสัตว์เมื่อวันก่อน ทำให้ หยางเต๋อเฟยกังวลพระทัยอยู่หลายวัน เนื่องจากการมีองค์หญิงแคว้นเยว่เข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะพระชายารองของหานไท่หยาง อาจส่งผลให้อำนาจของหานอี้บุตรชายของนางลดลง ดังนั้นวันนี้พระนางจึงเดินทางไปเข้าเฝ้าไทเฮา เพื่อทวงสัญญาเรื่องสมรสพระราชทานระหว่างหานอี้กับจางเซียวหรูแต่ทว่าจังหวะที่กำลังเข้าเฝ้าอยู่นั้น องค์หญิงซิ่วอิ่งก็เดินทางเข้าวังมาถวายพระพรฮองเฮาและไทเฮาตามธรรมเนียมพอดี ทำให้พระนางต้องยืนรอให้อีกฝ่ายออกไปให้พ้นหูพ้นตาเสียก่อน จึงริเริ่มแผนการสมรสพระราชทานเมื่อคล้อยหลังองค์หญิงซิ่วอิ่งแล้ว หยางรั่วอวิ๋นหรือหยางเต๋อเฟยจึงไปเข้าเฝ้าไทเฮาที่ตำหนักคังเฉวียนทันที นางทวงถามสัญญาเรื่องสมรสพระราชทานจากไทเฮา“ดูเจ้าจะรีบร้อนเสียจริง เรื่องการแต่งงานของหลานข้า หานอี้” ไทเฮาทรงจิบชาอย่างเกษมสำราญ มิได้ทุกข์ร้อนดังเช่นหยางเต๋อเฟย“แต่เสด็จแม่เคยให้สัญญากับข้าเอาไว้ แล้วว่าจะประกาศเรื่องสมรสพระราชทานในวันเทศกาลล่าสัตว์ ทรงลืมแล้วหรือเพคะ” หยางเต๋อเฟยกล่าวอย่างร้อนใจ

  • ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต (ตอนที่ 1 - ปัจจุบัน)   ตอนที่ 22 คิดถึงภรรยา

    ภายในใจของจางอวิ๋นซีในตอนนี้ ไม่ต่างกับไฟร้อนที่สุมทรวง นางไม่เข้าใจว่าอาการเหล่านี้คือสิ่งใด หากเป็นที่โลกปัจจุบันของนาง คงเป็นเพราะธาตุทั้งห้าในร่างกายกำลังแปรปรวนเป็นแน่หญิงสาวรีบเดินจ้ำอ้าวเข้ามาในตำหนัก ปิดประตูไม่ต้อนรับผู้ใดทั้งสิ้น แม้กระทั่งหรูหรงและหยางกูกูก็ยังยืนรอแค่นอกห้อง“ทำไมข้าต้องรู้สึกโกรธที่เจ้าอยู่กับคนอื่นด้วยนะ” นางเอามือกุมหน้าอกที่กำลังร้อนรุ่มด้วยเหตุผลบางอย่าง จะว่านางประจำเดือนมาหรือไม่ก็คงไม่ใช่“หรูหรง หยางกูกู เข้ามาหาข้าที” ข้ารับใช้ทั้งสองรีบเดินเข้ามาเมื่ออีกฝ่ายมีรับสั่งเรียก“เพคะ พระชายา” หรูหรงเดินเข้ามา“หรูหรง เจ้าไปตลาดสด ซื้อสมองหมูกับไส้หมูมาให้ข้าที ส่วน หยางกูกู ท่านไปที่โรงครัว เตรียมมีดสั้นกับตะเกียบมาให้ข้าด้วย” นางสั่งยืดยาวหรูหรงและหยางกูกูมองหน้ากันอย่างงุนงง ของทั้งสองอย่างนั้นพระชายาของพวกนางจะเอามาทำสิ่งใดกันแน่“พระชายาจะเอาของพวกนั้นมาทำสิ่งใดเพคะ” หยางกูกูถามด้วยความอยากรู้

  • ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต (ตอนที่ 1 - ปัจจุบัน)   ตอนที่ 21 ลงโทษ

    องค์หญิงซิ่วอิ่ง นอกจากจะมีพฤติกรรมถือดี ยโสโอหังแล้วนั้น ยังแสดงความไม่เคารพต่อจางอวิ๋นซีผู้เป็นพระชายาเอกแห่งวังอ๋องอย่างชัดเจน“เป็นแค่พระชายาเอกต่ำศักดิ์ มีสิทธิ์อันใดหรือมาสั่งข้า” ซิ่วอิ่งกล่าววาจาดูถูกดูแคลนอย่างชัดเจน นางยืนกอดอกไม่แสดงความเคารพต่ออีกฝ่ายเลยสักนิดจางอวิ๋นซียกยิ้ม “เจ้าอยู่ที่นี่ก็มิใช่แขกบ้านแขกเมืองอีกต่อไป ในเมื่ออีกหนึ่งปีต่อจากนี้เจ้าก็ต้องแต่งเข้ามาเป็นพระชายารองให้สามีข้า หน้าที่ในการอบรมสั่งสอนเจ้าให้รู้ถึงกฎธรรมเนียมของวัง ย่อมเป็นหน้าที่ข้า ดังนั้นข้าจะทำเช่นใดกับเจ้าก็ย่อมได้”“แต่เดิมทีหน้าที่อบรมขนบธรรมเนียมเป็นหน้าที่ของกูกูใหญ่ ไม่ใช่หน้าที่ของพระชายาเอก” ซิ่วอิ่งแย้งทันควัน หยางกูกูลอบยกยิ้มส่งเสริมพระชายาเอกของนาง“เป็นดั่งที่พระชายาเอกทรงกล่าวเพคะ หน้าที่ในการอบรมสั่งสอนองค์หญิง ย่อมเป็นหน้าที่ของพระนาง จะเป็นหน้าที่ของข้าก็ย่อมได้ แต่ในเมื่อพระชายาเอกทรงปรารถนาจะสั่งสอนองค์หญิงด้วยตนเอง หม่อมฉันก็ไม่อาจขัดพระประสงค์ได้” หยางกูกูกล่าวเสริม นางนับถือจ

  • ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต (ตอนที่ 1 - ปัจจุบัน)   ตอนที่ 20 พระชายารอง

    องค์หญิงซิ่วอิ่งยกยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า นางหันมามองเมิ่งฉีผู้เป็นพี่ชายเชิงส่งสัญญาณ เมิ่งฉีรีบกล่าวทันที“ทูลฮองเฮา ที่น้องสาวกระหม่อมกล่าวมานั้นเป็นความจริงทุกประการ เสด็จพ่อทรงปรารถนาให้น้องหญิง อภิเษกกับพระราชบุตรองค์ใดองค์หนึ่งของฝ่าบาท เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองแคว้นพะยะค่ะ” เมิ่งฉีกล่าว สายตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยันร้ายกาจ“เมื่อสักครู่ฝ่าบาท ฮองเฮา ไทเฮาและทุกคนได้ประจักษ์แก่สายตาแล้ว ว่าหม่อมฉันได้ขี่ม้าตัวเดียวกับหานไท่หยาง เสด็จพ่อหม่อมฉันทรงปรารถนาให้หม่อมฉันอภิเษกกับหานไท่หยางเพคะ” ซิ่วอิ่งยกยิ้มมุมปาก นางหันไปเย้ยหยันจางอวิ๋นซีที่ยืนนิ่งทำสิ่งใดไม่ถูก“อาหยางของข้ามีชายาเอกอยู่แล้ว การที่องค์หญิงทำเช่นนี้ย่อมไม่เหมาะสม” หานไทเฮาทรงกล่าวพระสุรเสียงนุ่มนวล“แต่น้องสาวของข้ามาที่นี่เพื่อการอภิเษก หากพวกท่านทำเช่นนี้ ตามธรรมเนียมแล้วนางไม่สามารถอภิเษกกับบุรุษอื่นได้อีก พวกท่านทำเช่นนี้ เท่ากับพวกท่านไม่ให้เกียรติทางต้าเยว่ของข้า!” เมิ่งฉีแสร้งมีท่าทีเดือดดาล“ห

  • ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต (ตอนที่ 1 - ปัจจุบัน)   ตอนที่ 19

    จางอวิ๋นซีควบม้านำหานอ๋องไท่หยางผู้เป็นสามี จนกระทั่งมาถึงบริเวณสนามประลองใจกลางป่า ซึ่งมีธงสีแดงโบกพลิ้วไสวอยู่ ธงสีแดงที่โบกพลิ้วอยู่นี้เป็นสัญลักษณ์ของจุดรวมพล หลังจากเสร็จสิ้นการประลองก่อนหมดเวลาเพียงหนึ่งเค่อทุกคนจะต้องมารวมตัวกันที่นี่ทางด้านหลังของหานไท่หยางก็ยังมีองค์หญิงซิ่วอิ่งตามติดมาเช่นกัน อีกฝ่ายยังคงควบม้าตามสามีของนางไม่ลดละ หน้าไม่อายยิ่ง!“นึกว่าจะตามท่านอ๋องไม่ทันเสียแล้ว” นางยกสายบังเหียนขึ้นสูงบังคับให้ม้าหยุด พลางส่งยิ้มหวานให้หานไท่หยางอย่างออดอ่อยเต็มที่“ตามข้ามาทำไม” ชายหนุ่มถามอีกฝ่ายตรงๆ อย่างไม่ไว้หน้านาง ทำเอาองค์หญิงแคว้นเยว่หน้าชาไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่เคยมีบุรุษใดถามคำถามนางเช่นนี้มาก่อน อีกทั้งรูปโฉมอันงดงามของนางก็ยากจะมีชายใดปฏิเสธ แต่หานไท่หยางเป็นคนแรกที่กล้าทำเช่นนี้กับนาง“อะ เอ่อ คือ...” นางเอ่ยตะกุกตะกัก “หม่อมฉัน ปรารถนาจะร่วมล่าสัตว์กับท่านอ๋องนะเพคะ”หานไท่หยางเบื่อหน่ายท่าทีขององค์หญิงผู้นี้นัก “ถ้าเช่นนั้นองค์หญิงก็ดูแลตนเอง เพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status